ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic EXO] Play Boy's GAME (Chanyeol x Baekhyun) | END.

    ลำดับตอนที่ #12 : CHAPTER 11

    • อัปเดตล่าสุด 10 ธ.ค. 55


     CHAPTER  11
    10.12.12

     

     

     

     

    ...กรุณาฝากข้อความไว้หลังเสียงสัญญาณค่ะ........ปิ๊บ!’

     

    ปาร์คชานยอลไม่เคยรำคาญเสียงผู้หญิงคนไหนเท่านี้มาก่อนเลย  หลังจากที่เขาฟังหล่อนพูดประโยคเดิมซ้ำมากว่าสามสิบรอบเห็นจะได้

     

    วันนี้บยอนแบคฮยอนไม่มาโรงเรียน...

     

    เขารู้สึกไม่สบายใจที่คนแข็งแรงอย่างแบคฮยอนจะหยุดเรียนแบบนี้  อีกทั้งสังหรณ์แปลกๆเมื่อวานนี้อีก...

     

    ชายหนุ่มพยายามโทรติดต่ออีกคนมาตั้งแต่เช้า  แต่ก็เจอแต่เสียงผู้หญิงน่ารำคาญนั่นตลอด

     

    ไอ้ครั้นจะให้เขาไปเยี่ยมที่บ้านมันก็กะไรอยู่....

     

    คิดเรื่อยเปื่อยได้ไม่นานเสียงโทรศัพท์ของเขาก็แผดเสียงร้องเสียลั่น  ชายหนุ่มรีบกดรับทันที

     

    “ครับ?”

     

    (อ..ชานยอล  นี่พี่เองนะ...)เสียงหวานที่เอ่ยกลับมาเรียกให้ชานยอลต้องถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่

     

    “ว่าไงครับพี่ลู่หาน”ชานยอลเอ่ยถามเสียงอ่อนโยน

     

    (เอ่อ....คือ...เย็นนี้ว่างมั๊ย?)

     

    “ว่างครับ....”

     

    (เรามาซ้อมบทละครกันมั๊ย?  ค...คือพี่แค่รู้สึกว่าไม่อยากให้มันพังน่ะ!)เสียงหวานที่ละล่ำละลักรีบแก้ตัวเรียกรอยยิ้มบางๆจากชานยอลด้วยความเอ็นดูได้เป็นอย่างดี

     

    “ได้สิครับ...ที่ไหนล่ะ”

     

    (เอาเป็นบ้านนายได้มั๊ย?)คำขอของปลายสายเรียกให้เขาชะงักไปชั่วครู่แต่สุดท้ายเขาก็ตอบตกลงไป

     

    ชานยอลตกลงที่จะไปรับลู่หานที่หน้าโรงเรียน  วันนี้เขาเอารถมาคงจะสะดวกพอดูเชียวล่ะ

     

    ชานยอลไม่ได้รังเกลียดที่จะมีคนไปบ้านเขา...ความจริงก็ไม่ใช่บ้านหรอก  แต่เขาออกมาอยู่คอนโดได้สักพักแล้ว  ก็เพราะเขาทะเลาะกับพ่อเรื่องคู่หมั้นนั่นแหละ  ตอนนี้ที่คอนโดเลยมีเขาอาศัยอยู่แค่คนเดียว

    ส่วนห้องเขาคงจะรกตามสไตล์ชายโสด...

     

    ไม่สิ...

     

    ตอนนี้ดูเหมือนว่าเขาจะไม่โสดสินะ...

     

    เพราะพี่ลู่หานเพิ่งจะตกลงโอเคกับเขาไปเมื่อวานนี้เอง...

     

    หวังว่าเรื่องอะไรๆมันจะเป็นไปด้วยดีนะ...

     

    .

     

    .

     

    .

     

    .

     

    .

     

    แบคฮยอนมองเห็นแต่ความมืดมิด...

     

    ไอเย็นที่กระทบตามผิวกายเรียกให้ความกลัวเข้าเกาะกุมหัวใจของเขาอย่างช้าๆ  เขาพยายามมองไปรอบๆตัว  แต่ก็พบเพียงความมืดมิด

     

    ทันใดนั้นด้านหน้าเขาก็มีดวงไฟเล็กๆดวงหนึ่งลอยอยู่  มือเรียวเอื้อมมือไปพยายามจะแตะมัน  แต่มันก็ลอยหนีเขาไป  ขาเรียววิ่งตามดวงไปดวงนั้นไปจนใกล้ถึงทางออก  แสงสว่างที่สอดส่องมาให้ความรู้สึกอบอุ่นและปลอดภัย...

     

    ความรู้สึกที่เขาคุ้นเคย

     

    ชานยอลกำลังยืนอยู่ที่ประตูนั้น  มือหนาของชายหนุ่มยื่นออกมาด้านหน้า  แบคฮยอนเอื้อมมือจะคว้ามือของอีกคนเอาไว้  แต่เมื่อมือของเขาสัมผัสโดนมือของอีกคน  ร่างของชานยอลก็วาบหายไป...

     

    เขากรีดร้อง...แต่ไร้เสียง  ร่างของเขาร่วงหล่งลงไปในความมืดอย่างรวดเร็ว...

     

    ก่อนที่เขาจะสะดุ้งตื่นขึ้นมาในที่สุด

     

    “ฮึก...”มือเรียวยกขึ้นสัมผัสเบาๆที่ข้างแก้มของตัวเอง  สัมผัสเปียกๆทำให้เขาประหลาดใจ

     

    น้ำตา...

     

    เขาร้องไห้?

     

    “พี่แบคฮยอน?!”เสียงทุ้มเอ่ยขึ้นด้วยความตกใจ  ก่อนจะรีบวิ่งเข้าไปหาร่างบางที่นั่งนิ่งอยู่บนเตียง

     

    “เป็นอะไรครับพี่?! เจ็บตรงไหนรึเปล่า?”จงอินเอ่ยถามอย่างลุกลี้ลุกลน

     

    หลังจากเลิกเรียนเขาก็รีบบึ่งมาบ้านแบคฮยอนทันที  เขาเป็นห่วงไม่รู้ว่าผ่านไปวันหนึ่งแบคฮยอนจะฟื้นหรือยัง  แต่พอเขามาถึงเขากลับเห็นคนตัวเล็กกำลังร้องไห้ด้วยใบหน้าเหม่อลอย

     

    “พี่แบคฮยอน...”จงอินลดเสียงให้เบาลงก่อนจะทิ้งตัวนั่งลงบนเตียงข้างๆแบคฮยอน

     

    “จงอิน...”เสียงหวานเอ่ยเรียกชื่ออีกคนเบาๆ

     

    “จงอิน...ฮึก...”ยังไม่ทันที่จงอินจะได้ขานรับ  คนตัวเล็กก็โผเข้ากอดผู้มาใหม่ทันที  คิมจงอินมือไม้สั่น  เขาไม่รู้ว่าเขาควรจะทำอย่างไรกับสถานการณ์นี้ดี  จงอินเอื้อมมือขึ้นมาลูบเรือนผมนุ่มของอีกคนเบาๆเป็นการปลอบใจ

     

    “ไม่เป็นไรครับ...ผมอยู่นี่...อยู่ข้างๆพี่นี่แหละครับ...”เสียงทุ้มที่เอ่ยปลอบอย่างอ่อนโยนดูจะได้ผลดีทีเดียว  เพราะฝ่ามือเล็กที่กำเสื้อด้านหลังของเขาแน่นค่อยๆคลายออกเล็กน้อย

     

    “ฮึก...จงอิน...ฉันกลัว...”เสียงหวานเอ่ยเบาๆ  คิมจงอินตัดสินใจโอบกอดร่างบางของอีกคนแน่นหวังให้ความอบอุ่นของเขาช่วยปลอบประโลมอีกคนให้คลายจากความหวาดกลัว

     

    “...พี่ไม่ต้องกลัวนะ...ผมอยู่ข้างๆพี่เสมอ...ผมสัญญาเลย!”เด็กหนุ่มพยายามให้กำลังใจอีกคน

     

    แบคฮยอนค่อยๆผละออกจากอีกคน  ซึ่งจงอินก็ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี  มือบางปาดน้ำตาออกอย่างลวกๆก่อนจะส่งยิ้มที่ตัวเองคิดว่าสดใสที่สุดไปให้อีกคน

     

    เขาไม่อยากให้ใครมาเป็นห่วงทั้งนั้นแหละ

     

    “อ...เออใช่...ผมซื้อสตรอเบอรรี่ชีสเค้กของโปรดพี่มาให้ด้วยล่ะ  กินเลยมั๊ยครับ”คิมจงอินเอ่ยถามรอยยิ้มกว้างถูกส่งไปให้คนที่นั่งอยู่บนเตียง

     

    “อื้อ”แบคฮยอนรับคำก่อนจะค่อยๆขยับตัวช้าๆ  ความเจ็บปวดบริเวณหน้าท้องของเขาไม่ใช่เล่นๆเลย

     

    “พี่อย่าเพิ่งขยับตัว...เดี๋ยวผมจัดให้เอง”พูดจบคิมจงอินก็จัดการตั้งโต๊ะเฉพาะกิจขึ้นมาให้อีกคนอย่างว่องไว

     

    “นายเอาหนังสือเรียนมาทำโต๊ะเนี่ยนะ?”แบคฮยอนเอ่ยถามขำๆก่อนจะหันหน้าไปมองอีกคนด้วยความสงสัย

     

    “แน่นอน! กินไปได้ความรู้ด้วยนะครับ!”คิมจงอินเอ่ยตอบ  ก่อนจะยีงฟันอย่างหน้าหมั่นไส้

     

    “กวนตีน!”เสียงหวานเอ่ยก่อนจะยกมือขึ้นไปโบกหัวอีกคนดังเบ๊ะ

     

    “โห่พี่  ล้อเล่นแค่นี้ทำเป็นซีเรียส อ่ะ...ได้แล้ว  มีนมสตรอเบอร์รี่ด้วยนะครับ”จงอินเลื่อนเค้กและแก้วนมให้อีกคน

     

    “ขอบคุณนะ...”แบคฮยอนเอ่ยขอบคุณก่อนจะตักเค้กเข้าปากอย่างเอร็ดอร่อย

     

    “ไม่เป็นไรครับ...แค่ของกินเอง...”

     

    “ไม่ใช่เรี่องนี้...หมายถึงเรื่องที่นายช่วยฉันเมื่อวานต่างหาก...ขอบคุณมากนะคิมจงอิน”แบคฮยอนเอ่ยขอบคุณจากใจ  ใบหน้าสวยที่ถึงแม้ตอนนี้จะฟกช้ำไปหน่อยแต่รอยยิ้มที่ปรากฏขึ้นมาในสายตาของคิมจงอินแล้วมันก็ยังคิดว่ามันสวยงามที่สุดอยู่ดี

     

    “อ...เอ่อ...ไม่เป็นไรครับ”คิมจงอินเกาท้ายทอยด้วยความเก้อเขิน

     

    ดวงตาคมจับจ้องไปที่ร่างบางตรงหน้า  ทุกอากับกริยาของแบคฮยอนอยู่ในสายของเขาทั้งหมด...

     

    แบคฮยอนคือดวงอาทิตย์ของเขา...รอยยิ้มสดใสที่ช่วยเยียวยาจิตใจของเขาเสมอ...

     

    เขารักบยอนแบคฮยอน...

     

    .

     

    .

     

    .

     

    .

     

    .

     

    แบคฮยอนเดินหน้ามึนๆมาโรงเรียน  มือเรียวลูบหน้าท้องเป็นระยะระยะ  อาการปวดบริเวณหน้าท้องของเขาดีขึ้นมากหลังจากที่นอนพักอยู่บ้านหนึ่งวันเต็มๆ  แต่มันก็ยังเจ็บอยู่ดี

     

    ไอ้ที่ท้องเนี่ยไม่ใช่ปัญหาหรอก...

     

    ปัญหาน่ะมันอยู่ที่...

     

    “อ้าวแบคฮยอนหวัดดี...โห  ไปต่อยกับใครมาน่ะ”

     

    “ไปแย่งแฟนใครเค้ามาล่ะมุมปากถึงได้เหวอะแบบนั้นน่ะ”

     

    แผลที่มุมปากนี่ต่างหากเล่า!!!

     

    หมดหล่อเลยขอบอก!

     

    ไอ้โล้นนั่น  อย่าให้เจออีกนะพ่อจะจับยัดคอห่านเลยคอยดู!!!

     

    “โอ๊ย!”เสียงหวานอุทานออกมาเบาๆ  เมื่อเขาเผลอขบเขี้ยวเคี้ยวฟันแรงไปหน่อยมันเลยร้าวไปทั่วปากเชียวล่ะ

     

    “...โอ้โห...มีขับไปรับไปส่งด้วยว่ะ”

     

    “...แฟนกันก็แบบนี้...พวกแกก็อกหักกันไปละกัน...”

     

    เสียงจ้อกแจ้กจอแจของเหล่านักเรียนที่กำลังจะเดินเข้าโรงเรียน  เรียกให้แบคฮยอนต้องหันไปให้ความสนใจ

     

    รถยนต์คันหรูที่เขาคุ้นเคยวิ่งปราดเข้ามาในโรงเรียน...

     

    ชานยอล...

     

    กับพี่ลู่หาน........?

     

    แบคฮยอนได้แต่มองตามรถที่เคลื่อนผ่านเขาไปราวกับภาพสโลว์  ริมฝีปากของเขาแห้งผาก  แบคฮยอนรู้สึกเหมือนว่าเขาจะลืมหายใจไปครู่หนึ่ง...

     

    “...เดี๋ยวนี้ไอ้ชานยอลนะ  ไปไหนมาไหนก็ไปแต่กับพี่ลู่หาน...เป็นแฟนกันก็เงี้ย...”

     

    แฟน?

     

    ชานยอลกับพี่ลู่หานเป็นแฟนกัน?

     

    “เฮ้นาย!”แบคฮยอนตะโกนเรียกเจ้าของประโยคเมื่อครู่ไว้

     

    “ใครเป็นแฟนกับใครนะ?”เสียงหวานเอ่ยถาม

     

    “ชานยอลเป็นแฟนกับพี่ลู่หานไง...”นักเรียนคนนั้นตอบก่อนจะเกาหัวงงแล้วเดินจากไป

     

    เป็นแฟนงั้นเหรอ?!?!?!

     

    ชานยอลกับพี่ลู่หานเป็นแฟนกัน...

     

     

     

     

     

     

    เหรอ?

     

    ปึ้ง!

     

    ขาเรียวเตะเข้าที่ประตูล็อกเกอร์นักกีฬาดังโครมอย่างไม่คิดจะกลัวความผิด

     

    “ชานยอล...”

     

    ปึ้ง!

     

    เตะซ้ำที่เดิม

     

    “เป็นแฟน...”

     

    ปึ้ง!

     

    ยังไม่ยุบ

     

    “กับพี่ลู่หาน...”

     

    ปึ้ง!

     

    ยังไม่สะใจ

     

    “งั้นเหรอ!?!?!?!?

     

    ปึ้ง!

     

    โครม!

     

    ประตูตู้ล็อกเกอร์ไม่สามารถต้านทางแรงโทสะของยอนแบคฮยอนได้  มันเลยจบชีวิตลงด้วยการหลุดทะลุเข้าไปอยู่ด้านในตามแรงเมื่อครู่

     

    แบคฮยอนยืนหอบหายใจ...การใช้แรงมากๆทั้งๆที่ยังไม่หายดีมันทำให้เขาเหนื่อย...

     

    ไอ้เสาไฟฟ้างี่เง่า!!!!

     

    ตอนนี้เขากำลังอยู่ในสถาณะอะไรนะ

     

    ถูกฟันแล้วทิ้ง?

     

    เฮอะ!

     

    "ฉันไม่มีอะไรจะเสียแล้วนี่! คอยดูเถอะความรักโง่ๆของแกน่ะฉันจะทำลายมันเองไอ้เสาไฟฟ้าหน้าเอ๋อ!"

     

    ตึง!

     

    แบคฮยอนแหกปากออกมาสุดเสียงก่อนหมัดหนักๆของเขาจะซัดเข้าไปที่ประตูล้อกเกอร์อีกตู้ที่ยังสมบูรณ์อยู่เสียจนมันยุบ

     

    มือเรียวควักเงินออกมาจำนวนหนึ่งยัดเข้าไปในล็อเกอร์ที่พังแล้วเอาปากกาเขียนที่ข้างประตูล็อกเกอร์ว่า

     

    ผมขอโทษที่ทำล็อกเกอร์พังนะครับ  มีปัญหาอะไรติดต่อที่ปาร์คชานยอลห้อง 2-A ครับ

     

    “หมดตูดแน่ไอ้เอ๋อ!”แบคฮยอนกระแทกเสียงก่อนจะเดินตึงตังจากไปทันที

     

    ต้องขอบคุณที่โรงเรียนเขามันไม่มีกล้องวงจรปิด  เขาถึงได้มีที่ระบายอารมณ์แบบนี้

     

     

     

     

    ตึง!

     

    แบคฮยอนโยนกระเป๋าเป้ของตัวเองลงบนโต๊ะนักเรียนอย่างแรงโดยไม่สนใจเลยว่าเพื่อนร่วมห้องจะตกใจแค่ไหน

     

    ร่างบางกระแทกก้นนั่งลงบนเก้าอี้ด้วยความหงุดหงิด  แบคฮยอนตวัดขาเรียวขึ้นมาวางพาดไว้บนโต๊ะนักเรียนด้วยมาดมาเฟีย  เรียกสายตางุนงงจากเพื่อนทั้งห้องได้เป็นอย่างดี

     

    “มองอะไร?”แบคฮยอนเอ่ยถามเสียงเขียว  เรียกเอาเหล่าเพื่อนๆผู้อยากรู้อยากเห็นรีบหันหน้าหนีกันแทบไม่ทัน

     

    ครืดดดดดด

     

    เสียงเปิดประตูห้องเรียนเรียกความสนใจจากคนทั้งห้องได้เป็นอย่างดี

     

    ชานยอลเดินเข้ามาในห้องด้วยใบหน้าสบายๆ  เหมือนที่เขามักจะทำในทุกๆวัน

     

    “ไปไหนมาวะชานยอล...ส่งแม่ทูลหัวมาเหรอ  ฮิ้ววววว”และแล้วเพื่อนทั้งห้องก็พากันโห่แซวกันอย่างมันปาก  ชานยอลเกาท้ายทอยเบาๆ  โดนแซวทั้งห้องแบบนี้เขาก็เขินนะ

     

    ปึ้ง!

     

    เสียงกระแทกที่ดังลั่นห้องเรียกให้จลาจลโห่แซวต้องชะงักลง  ทุกสายตาพากันจับจ้องไปยังจุดกำเนิดเสียงทันที

     

    แบคฮยอนเปลี่ยนขาที่วางอยู่บนโต๊ะ  แขนบางยกขึ้นกอดอกด้วยใบหน้าเรียบเฉย  ดวงตาคู่สวยเบือนมาสบกับดวงตาของชานยอลแค่เพียงชั่วครู่เท่านั้น  ก่อนที่เจ้าของมันจะสะบัดหน้าหันหนีไปอีกทางอย่างแรงเสียจนชานยอลกลัวว่าคอบางๆนั่นจะหักเอา

     

    “เป็นอะไรหน้าบูดแต่เช้า?”เสียงทุ้มเอ่ยขึ้นทันทีที่เขาเดินมานั่งลงประจำโต๊ะเรียนของตัวเอง  ซึ่งมันก็คือข้างๆกับแบคฮยอนนั่นแหละ

     

    “เสือก”แบคฮยอนหันมาด่าเขานิ่งๆก่อนจะหันกลับไปสนใจเหล่านกเหล่ากาข้างนอกนั่นแทน

     

    “เอ้า...อะไรวะ?”ชานยอลได้แต่เกาหัวด้วยความงงงวยกับปฏิกิริยาของอีกคน

     

     

     

     

    วันนี้ทั้งวันแบคฮยอนก็ยังคงเมินชานยอลอย่างแข็งขัน  เขารู้สึกว่าเห็นหน้าไอ้เอ๋อนั่นทีไรอยากจะวิ่งเข้าไปเตะเหมือนประตูล็อกเกอร์ทุกที

     

    เฮอะ!

     

    “โอเคดีขึ้นนะ...ต่อไปก็ฉากของชานยอลกับแบคฮยอน...พวกนายยังไม่เคยลองเลยสินะ...ขึ้นมาเร็วเข้า”มินซอกผู้กำกับตัวกลมที่วันนี้ดูจะอารมณ์ดีเป็นพิเศษเอ่ยเรียกนักแสดงด้วยใบหน้าร่าเริง

     

    แบคฮยอนที่ได้ยินชื่อตัวเองแทบจะเอาหัวพุ่งชนกำแพงไปซะเดี๋ยวนั้นเลย...

     

    ต้องเล่น บทนั้นกับปาร์คชานยอลน่ะเหรอ?

     

    ขอตายดีกว่า!!!!

     

    “ขึ้นมาเร็วๆสิ...”เขาได้ยินเสียงทุ้มของคนที่เขาเหม็นหน้าที่สุดตอนนี้เอ่ยขึ้น  เรียกให้แบคฮยอนยิ่งอยากจะเดินหนีเข้าไปใหญ่

     

    “เอาล่ะฉาก9แอคชั่น!

     

    สิ้นเสียงของผู้กำกับเหมือนวิญญาณหน้ากากแก้วจะเข้าสิงปาร์คชานยอล  ร่างสูงค่อยๆก้าวเข้ามาใกล้ร่างบางของอีกคนเรื่อยๆ

     

    “ธีราเน่...ข้า...จะได้แต่งงานกับองค์หญิงซาเรสตร้าแล้วจริงๆ!  ข้าต้องขอบคุณเจ้าธีราเน่!”เสียงทุ้มกังวาลนั้นเอ่ยออกมาอย่างดีใจ  ก่อนแขนแกร่งจะคว้าตัวอีกคนเข้าไปกอด

     

    “ค...คาลอส...ได้โปรดปล่อยข้าเถิด...”เสียงหวานเอ่ยแผ่วเบา  มือบางค่อยๆดันแผ่นอกกว้างขออีกคนออกจากตัว

     

    “...ข้า...ดีใจกับท่านด้วย...”เสียงหวานสั่นเครือ  ร่างบางหันหน้าหนีอีกคนเพื่อซ่อนใบหน้าแสนเศร้าของตนเอง

     

    “ธีราเน่...เจ้าเป็นอะไรรึเปล่า”เสียงทุ้มเอ่ยถามด้วยความเป็นห่วง  มือหนาก็คว้าข้อมือบางไว้ก่อนที่เจ้าของมันจะหนีไป

     

    “ข้า...ดีใจกับท่านด้วยจริงๆ...ข้าต้องไปแล้วคาลอส...”เสียงหวานนั้นยิ่งสั่น  มือบางบิดออกจากการกอบกุมก่อนจะวิ่งออกไปทันที

     

    “ธีราเน่!”เสียงทุ้มตะโกนไล่หลังอีกคนไป  ดวงตาคมคู่นั้นฉายแววอาลัยอย่างชัดเจน

     

    “คัทททททททท!!!  เยี่ยมมากกกกก!”มินซอกสั่งคัทก่อนจะโยนบทละครในมือขึ้นฟ้าแล้วหมุนตัวสามรอบด้วยความปลื้มใจ

     

    “ถ้าวันจริงพวกนายเล่นได้แบบนี้นะ  เยี่ยม!  เอาล่ะงั้นฉากต่อไปขอดูฉากของมิดไนท์หน่อย...อ้อแล้วก็พรุ่งนี้เตรียมตัวมาให้ดีนะเราจะลองสวมชุดจริงกัน...แบคฮยอน  อยู่ก่อน...มาคุยกับฉันหลังจากปล่อยแล้วนะ...”หันมาสั่งกับนักแสดงเรียนร้อย  เจ้าตัวก็หันกลับไปสั่งอย่างอื่นต่อ

     

    “นายก็เล่นเก่งนะเนี่ย”เสียงยียวนที่ดังขึ้นที่ด้านหลังเรียกให้แบคฮยอนตะวัดสายตาไปมองเล้กน้อยก่อนจะหน้าหนีแล้วเดินจากมา

     

    “เดี๋ยว”มือหนาคว้าข้อมือบางเอาไว้  ก่อนจะดึงให้อีกคนเข้ามาใกล้ตน  มืออีกข้างที่ว่างอยู่เลื่อนขึ้นมาจับคางมนให้หันหน้ามาสบกับเขา

     

    “ไปโดนอะไรมา”ชานยอลเอ่ยถามด้วยความสงสัย  คิ้วเข้มขมวดเข้าหากัน

     

    “เรื่องของฉัน”แบคฮยอนปัดมือของชานยอลออก

     

    “นายเป็นอะไรทำไมต้องหงุดหงิด...ฉันถามดีๆนะว่าแผลที่หน้าเนี่ยไปโดนอะไรมา”แบคฮยอนถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ด้วยความรำคาญ  ร่างบางหมุนตัวมายืนประจันหน้ากับอีกคนก่อนจะเอ่ยตอบประโยคคำถามเมื่อครู่

     

    “ไม่มีอะไร  ฉันแค่เกือบจะโดนลูกน้องไอ้มินโฮเพื่อนนายมันข่มขืนพอฉันดิ้นมันเลยอัดฉันแต่ตอนนี้ไม่เป็นอะไรแล้วเพราะคิมจงอินมาช่วยไว้  พอใจรึยัง?”พูดจบก็สะบัดมือออกด้วยความรำคาญ

     

    “ทำไมต้องประชดประชันด้วยบยอนแบคฮยอน...แล้วเรื่องใหญ่ขนาดนี้ทำไมไม่โทรมาบอก”ชานยอลเอ่ยถาม

     

    “ฉัน...”

     

    “พี่แบคฮยอน!”ยังไม่ทันที่แบคฮยอนจะได้ตอบอีกฝ่าย  เสียงเรียนกจากรุ่นน้องข้างบ้านก็ดังขึ้นเสียก่อน

     

    “ขอตัวล่ะ”แบคฮยอนเอ่ยห้วนๆก่อนจะเดินเข้าไปหาจงอินทันที

     

    ชานยอลขยี้หัวตัวเองอย่างหัวเสีย...

     

    เขาไม่เข้าใจว่าทำไมแบคฮยอนต้องประชดประชันเขาแบบนั้นด้วย...

     

     

     

    มือบางกำแน่นจนเล็บจิกลงไปที่ฝ่ามือขาว  ดวงตากลมโตจับจ้องภาพเบื้องหน้าด้วยความสับสนและไม่พอใจ...อยากจะเอ่ยถามให้เข้าใจแต่ก็ไม่กล้า...

     

    เขาจึงได้แต่ปั้นหน้าใสซื่อแล้วเดินเข้าไปทักตามปรกติเท่านั้น

     

    “ชานยอล...”เสียงหวานที่เอ่ยขึ้นเรียกให้ชานยอลที่กำลังหัวเสียต้องหันมาให้ความสนใจ

     

    “ครับ”ชานยอลขานรับอย่างสุภาพก่อนจะยิ้มบางๆให้ลู่หาน

     

    “ฉันอยากซ้อมบทต่ออีกหน่อยน่ะ...”ใบหน้าหวานก้มลงเล็กน้อยอย่างกระดากอาย

     

    “ได้สิครับ...”ชานยอลเอ่ยตอบก่อนที่ทั้งคู่จะเริ่มซ้อมบทของตนทันที

     

     

     

     

     

     

    เฮอะ!

     

    ตุบ!

     

    แบคฮยอนเผลอเตะเก้าอี้ตัวหนึ่งจนคว่ำโดยไม่รู้ตัว  ทำเอาเขารีบจับไว้แทบไม่ทัน

     

    “มาทำเป็นห่วงเป็นใย...เฮอะ!  นายนี่มันตอแหลได้โล่จริงๆ”พูดแล้วก็เบะปากออกอย่างไม่พอใจเมื่อเห็นภาพชานยอลและลู่หานกำลังต่อบทกันอย่างสนุกสนาน

     

    “เรียกผมมีอะไรรึเปล่าครับพี่มินซอก”หลังจากที่เลิกแล้ว  แบคฮยอนก็เดินไปหาผู้กำกับ  เอ่ยถามเรื่องที่ถูกเรียกพบทันที

     

    “พรุ่งนี้นายเอาถุงน่องมาด้วย...”

     

    “ครับ?”แบคฮยอนเอ่ยถามซ้ำอีกครั้งอย่างไม่เชื่อหู

     

    “...พรุ่ง-นี้-เอา-ถุง-น่อง-มา-ด้วย ชัดยัง?”มินซอกเอ่ยทวนประโยคช้าๆชัดๆทีละคำ

     

    “อ...เอามาทำไมครับ?”

     

    “ไม่งั้นก็ไปแว๊กซ์ขนหน้าแข้งมาให้เตียน...เลือกเอา!

     

    “อ...ครับ”แบคฮยอนได้แต่เกาหัวงงๆ  มือบางแอบถลกดูขนหน้าแข้งตัวเอง

     

    ก็แทบไม่เห็น...

     

    “เอามาทำไม”แบคฮยอนตัดสินใจเลิกคิดแล้วก็เตรียมกลับบ้าน  มือบางคว้าเอากระเป๋าเป้ของตัวเองขึ้นมาสะพายไว้บนบ่าก่อนจะสาวเท้าเดินออกไปทันที

     

     

     

     

    ชานยอลยืนรออยู่หน้าโรงเรียนด้วยหลากหลายอารมณ์  เขาอยากจะเดินไปส่งแบคฮยอนและคุยกันให้รู้เรื่องถึงพฤติกรรมแปลกๆและเหตุการณ์รุนแรงของแบคฮยอน  ไม่นานนัก  ร่างบางที่คุ้นเคยก็เดินออกมาจากโรงเรียน

     

    “แบคฮยอน...”ชานยอลเอ่ยเรียกอีกคนเอาไว้  มือหนาก็เลื่อนไปคว้าข้อมือบางของอีกคนเพื่อกันไม่ให้หนีอีกด้วย

     

    “ชานยอล...”แบคฮยอนดูประหลาดใจเล็กน้อย  มือบางก็พยายามบิดออกจากการกอบกุมของเขา

     

    “เรามีเรื่องต้องคุยกัน...เดี๋ยวฉันไปส่ง...”

     

    “ชานยอล...”ยังไม่ทันที่จะได้เอ่ยจบประโยคดี  เสียงหวานของคนที่ได้ชื่อว่าแฟนก็เอ่ยเรียกเสียก่อน  ดวงตากลมโตของลู่หานจ้องมองมายังมือหนาที่กำลังกอบกุมข้อมือบางขออีกคนไว้ไม่วางตา

     

    ชานยอลรีบปล่อยข้อมืออีกคนให้เป็นอิสระทันที

     

    “เย็นนี้ไปกินไอติมกันมั๊ย...ร้านนั้นเพิ่งเปิดใหม่เลยนะ...”เสียงหวานเอ่ยอย่างร่าเริงก่อนจะเดินมาจับแขนแกร่งของชานยอลเบาๆ

     

    ดวงตาของลู่หานบังเอิญเบือนไปสบกับดวงตาสวยของแบคฮยอนพอดี  ทำเอาแบคฮยอนหลบสายตาแปลกๆของลู่หานแทบไม่ทัน  ขาเรียวพาร่างของตัวเองเดินออกไปจากจุดนั้นทันที  ชานยอลทำท่าเหมือนจะรั้งไว้  แต่เขาก็ต้องชะงักเมื่อนึกได้ว่าตอนนี้ลู่หานอยู่ข้างๆเขา...

     

    ไว้คราวหน้าเขาต้องคุยกับแบคฮยอนให้รู้เรื่อง...

     

    .

     

    .

     

    .

     

    .

     

    .

     

    แบคฮยอนนั่งจ้องไอ้เจ้าถุงน่องสีเนื้อที่เขาเอามา  ไม่ใช่ของเขาแน่นอน!  เขายืมของสาวใช้ในบ้านมาต่างหาก

     

    “มาแล้วทุกคน!!!!”นั่งรอกันอยู่ได้ไม่นานผู้กำกับตัวกลมก็กลับมาพร้อมกับลังเสื้อผ้าขนาดใหญ่สามสี่ลัง  และแน่นอนมินซอกไม่ได้แบกเอง

     

    “เอาล่ะไปลองใส่กันเดี๋ยวนี้  ต้องแก้อะไรจะได้ทัน”มินซองสั่งหลังจากที่เขาแจกจ่ายเสื้อผ้าของแต่ละคนเรียบร้อยแล้ว

     

    “เฮ้ออออ”แบคฮยอนถอนหายใจออกมาอย่างปลงๆ  ก่อนมือบางจะเริ่มปลดซิปกางเกงของตัวเอง

     

    หมับ!

     

    แต่ก่อนจะได้ปลดก็มีมือหนาของใครสักคนมาจับเอาไว้เสียก่อน

     

    “จะทำอะไร?”เสียงทุ้มเอ่ยถามฉายแววจริงจัง

     

    “เปลี่ยนชุด”แบคฮยอนตอบหน้าตายก่อนจะพยายามสะบัดมือนั้นออก

     

    “ไปเปลี่ยนในห้องน้ำ”ชานยอลพยักเพยิดไปทางห้องน้ำของโรงยิมที่มีคนยืนต่อคิวมากมาย

     

    “คนเยอะ...ปล่อย”แบคฮยอนเถียง

     

    “ไม่...ไปเปลี่ยนในห้องน้ำ”ชานยอลเอ่ยเสียงเบารอดไรฟัน

     

    “ไม่”แบคฮยอนตอบเสียงห้วน  ดวงตาของทั้งสองคนจ้องกันอย่างไม่มีใครยอมใคร

     

    “จะไปเปลี่ยนเองดีๆ...หรือต้องให้ฉันลากนายเข้าห้องน้ำไปเปลี่ยนให้”ชานยอลขู่

     

    “ทำได้ก็ลองดูสิ...ปล่อย”แบคฮยอนกระชากมือออกจากมือของอีกคน

     

    “ทำได้แน่...แต่คิดเอาละกันว่าถ้าเพื่อนๆเห็นฉันลากนายเข้าห้องน้ำจะเกิดอะไรขึ้น?”

     

    “...แฟนนายก็จะของขึ้นน่ะสิ...”แบคฮยอนเอ่ยก่อนจะพยักเพยิดไปทางด้านหลังของชานยอล

     

    ลู่หานกำลังยืนมองเขาด้วยใบหน้าไม่สบอารมณ์...

     

    แบคฮยอนสะบัดตัวออกจากชานยอลได้ในที่สุด  เจ้าตัวเดินไปต่อคิวเข้าห้องน้พทันที

     

     

    “อะไรวะเนี่ย?!”แบคฮยอนสบถเบาๆหลังจากที่คลี่ชุดออกมาดู

     

    เขารู้แล้วว่าทำไมมินซอกถึงให้เอาถุงน่องมา!

     

    เพราะชุดของเขามันเป็นเดรสสั้นโชว์ถึงต้นขาน่ะสิ!

     

    แบคฮยอนแทบจะกรีดร้องแล้ววิ่งออกไปตีมินซอกจริงๆ

     

    แต่เสียงทุบประตูโวยวายขอเข้าห้องน้ำจากคนด้านนอกก็ทำให้เขาต้องรีบกลั้นใจแล้วจัดการสวมมันอย่างรวดเร็วทันที

     

     

     

     

     

     

    ฝากไว้ก่อนนะพี่มินซอก!!!!!!!








    TBC.
    TALK. ตอนสิบเอ็ดมาแล้วค่าาาาาาา  *โบกไม้โบกมือ  ตอนแรกเพชรว่าจะเอามาลงวันอาทิตย์แต่พอดีหนีเที่ยวมาเพิ่งกลับนี่แหละค่ะ 55555555555555555  ขอบคุณทุกคนที่ติดตามนะคะ  อาทิตย์หน้าอาจจะไม่ได้อัพนะ  เพราะเพชรจะไปวุ่นวายกับโปรเจ็คค่ะ

    เป็นโปรเจ็ครวม SF ชานแบคค่ะ  มีทั้งหมดแปดเรื่องจากแปดนักเขียน  น่าจะวางขายในงานตลาดฟิควันที่ 26 มค. 2556 นะคะ  ยังไงถ้าเห็นก็อย่าลืมติดตามผลงานของนักเขียนทั้งแปดคนด้วยนะคะ  ส่วนใครเขียนบ้างอันนี้ต้องสืบหาเอาเองล่ะค่ะ  เพชรไม่บอกหรอก  ><

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×