ลำดับตอนที่ #16
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #16 : Witnesses (Rewrite)
"นี่พวกเธอยังจะหน้าด้านจ้องหน้าฉันอีกหรือไง? ฉันจะหักคะแนนบ้านให้หมดเลย เดี๋ยวเถอะ!"
ศาสตราจารย์สเนปนั่งคร่อมโต๊ะยาวของกริฟฟินดอร์ หันหน้าปะทะเข้ากับผู้รู้เห็นเหตุการณ์ทั้งหมด ซึ่งทั้งหมดนั้นคือสมาชิกของบ้านกริฟฟินดอร์ตั้งแต่นักเรียนจนถึงศาสตราจารย์ใหญ่ หน้าตาเอาจริงจังเอาเรื่อง นิสัยเขาล่ะ ไม่ค่อยชอบให้ใครเข้ามายุ่ง โดยเฉพาะเรื่องส่วนตัว
เพื่อนร่วมบ้านผมนั่งคอตกกันระนาว คงจะมีแค่เฟร็ดกับจอร์จเท่านั้นแหละที่ไม่ค่อยจะรู้สึกรู้สาอะไร ยังพูดคุยกันได้หน้าตาเฉย ผมอ่านปากสองคนนั้นได้ความอยู่บางส่วน 'ฉันว่าสเนปโกรธมาก' และ 'ศาสตราจารย์มักกอนนากัลคงไม่ยอมเรื่องนี้แน่'
รอน เชมัส โทมัส และเนวิลล์คือกลุ่มที่พูดเพ่งเล็งเป็นพิเศษเนื่องจากศาสตราจารย์สเนปไม่ค่อยถูกกับนักเรียนชายบ้านกริฟฟินดอร์อยู่แล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งนักเรียนชายที่รวมตัวกันเป็นกลุ่มใหญ่ เรื่องนี้คงทำให้นึกถึงสมัยเป็นนักเรียนสลิธีรีน กลุ่มพ่อผมเองนั่นแหละที่เป็นพวกอันธพาลคอยแกล้งสเนปไม่เว้นแต่ละวัน
ศาสตราจารย์สามคน ดัมเบิลดอร์ มักกอนนากัล และซิเรียส ยืนเว้นระยะห่างจากการได้ยินพอสมควร อย่าว่าแต่ได้ยินเสียงเลย สามคนนั้นยืนหันหลังให้ นั่นหมายถึงผมไม่สามารถแอบอ่านปากด้วยเช่นกัน
หลังจากการแข่งขันควิดดิชประจำปีจบลง นักเรียนกระจัดกระจายไปตามส่วนต่างๆของโรงเรียน คงอยู่หอนอนกันนั่นแหละ ไม่งั้นจะมีนักเรียนประหลาดใจมากกว่านี้อีกว่าทำไมศาสตราจารย์วิชาปรุงยาใจแคบที่ยอมรับแต่นักเรียนประจำบ้านตัวเอง จะมานั่งที่นั่งยาวของโต๊ะบ้านกริฟฟินดอร์ไม่ใช่การนั่งพูดคุยธรรมดา หน้าตาและท่าทางของสเนปไม่พอใจและพร้อมจะมีเรื่องทะเลาะวิวาทได้ทุกเมื่อ...โดยเฉพาะคู่อริตั้งแต่สมัยเรียน เช่น ซิเรียส
"ฉันไม่ได้ยินที่พวกเขาพูดเลย แฮร์รี่" รอนชะโงกหน้าเข้ามากระซิบ
"ไม่จำเป็นต้องรู้ทุกเรื่องก็ได้ วีสลี่ย์" เสียงพูดพร้อมกับเจ้าตัวที่นั่งลอยหน้าลอยตาไม่สนใจคำพูดของตัวเองเมื่อครู่ มีการเสยผมที่ปรกหน้าเหมือนจะทดสอบความอดทนผมด้วย
"หนูไม่เกี่ยวนะคะ ศาสตราจารย์" จินนี่บ่นอุบอิบ
"ที่นั่งอยู่ตรงนี้ก็วีสลี่ย์ตั้งครึ่งนึงเชียวนะ หรือเธอจะปฏิเสธ มิสวีสลี่ย์?" สเนปเลิกคิ้วขึ้น
ผมคงต้องเป็นคนกลางห้ามคนพวกนี้ก่อนที่จะเกิดสงครามฮอกวอตส์ขึ้น ให้ตายสิ อายุตั้งเท่าไหร่กันแล้ว ทำตัวเหมือนเด็กๆไปได้ สเนปเหมือนเด็กที่ไม่เคยยอมแพ้...เขาไม่ยอมแน่ๆถ้าไม่เข้าตาจนหรือไม่ใช่ความผิดของเขาเอง
"ขอร้องล่ะ เซเวอรัส พวกเขาก็เพื่อนผมนะ ยังไงซะ คุณต้องให้เกียรติคนเหล่านี้ด้วย เปิดใจเสียบ้าง อย่าพูดกับพวกเขาแบบนั้นอีก"
ได้ผล เขาพยักหน้ายอมรับ ไม่ว่าจะเต็มใจหรือไม่ก็ตาม ถ้าเขาจะเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตผมในอนาคต เขาต้องเข้ากับกลุ่มเพื่อนผมให้ได้ ไม่จำเป็นต้องสนิทสนมขนาดนั้น แต่ควรทำตามมารยาทต่างหาก
ทุกคนจ้องผมเอาเป็นเอาตายเมื่อผมเรียกสเนปด้วยชื่อตัว มีไม่กี่คนเท่านั้นที่สามารถพูดกับเขาแบบนี้ได้
เวลาผ่านไปไม่กี่นาที เหมือนสเนปเพิ่งนึกวางแผนอะไรอยู่ ร่างสูงรั้งตัวผมให้แนบกับใบหน้าตัวเอง กระซิบว่าหลังจากคุยธุระกับทุกคนแล้วเขาจะพาผมไปร้านอาหารย่านมักเกิ้ลด้วยกัน ที่เคยพูดถึงไว้เมื่อนานมาแล้ว สุดยอด! เดทแรกของผมเริ่มต้นด้วยการหนีเรื่องซุบซิบของคนในฮอกวอตส์ไปเที่ยวกันสองคน เหมือนยืนยันว่าเรื่องที่กำลังจะแพร่กระจายในเร็วๆนี้คิอความจริง
สายตาอาฆาตถูกส่งตรงมาจากซิเรียสที่ยืนมือไพ่หลังอยู่ สามคนนั้นคุยกันเสร็จแล้วตั้งแต่ตอนไหนไม่ทราบ ศาสตราจารย์ใหญ่ยืนนึกคำพูดเพื่อสรุปให้พยานทุกคนฟัง
"ฉันกับศาสตราจารย์มักกอนนากัลคิดว่าการให้คะแนนรายงานและการสอบวิขาปรุงยาของแฮร์รี่ พอตเตอร์อาจไม่ใช่เรื่องที่โปร่งใส ดังนั้นศาสตราจารย์มักกอนนากัลจึงอยากตรวจงานและให้คะแนนแฮร์รี่ด้วยตัวเองเป็นกรณีพิเศษ...เข้าใจไหมเซเวอรัส?"
"ครับ ศาสตราจารย์"
สเนปพยักหน้า
"ฉันอยากให้คนที่รู้เห็นเหตุการณ์ทุกคนเก็บเรื่องในวันนี้ไว้เป็นความลับ ห้ามบอกใคร แม้แต่ผีประจำบ้านของตัวเอง ผีในโรงเรียนนั่นแหละที่ทำให้ข่าวสารกระจายได้เร็วขึ้น ถ้าเกิดเหตุความสัมพันธ์เชิงชู้สาว ฉันจะให้แฮร์รี่กลับมานอนที่หอคอยกริฟฟินดอร์ทันที...เหนือสิ่งอื่นใดเพื่อเป็นการสร้างความสัมพันธ์อันดีในอนาคต ฉันอยากให้เธอสองคนจับมือกัน"
"อยากให้ผมจับมือกับสเนปหรอครับ?"
เพื่ออะไรกัน? พวกเขาก็รู้อยู่ว่าเมื่อกี้เกิดอะไรขึ้น เรื่องจับมือสเนปต่อหน้าคนที่รู้เรื่องราวอยู่แล้ว กลายเป็นเรื่องเล็กน้อยในทันที
'เฟร็ดกับจอร์จไปเอาธงสีรุ้งมาจากไหนนะ?'
"ไม่ใช่เธอ แฮร์รี่...เพื่อความสบายใจของทุกฝ่าย ฉันอยากให้ซิเรียสกับเซเวอรัสจับมือกัน คิดเสียว่าเธอทั้งคู่ต่างรักและห่วงใยคนๆเดียวกันและไม่อยากทำให้ความบาดหมางระหว่างเธอสองคนส่งผลให้แฮร์รี่รู้สึกไม่สบายใจ"
ใจผมอยากเห็นภาพนี้จริงๆ คู่อริกำลังจะสงบศึกกันแล้ว หวังว่ามันจะนานพอนะ สักหนึ่งวันหรือสองวันก็ยังดี ให้ผมได้เอาสมองไปคิดเรื่องการวางแผนชีวิตหลังจากเรียนจบก็ได้ แต่ไม่ควรเป็นคนกลางคอยประสานรอยร้าวของตาลุงเอาแต่ใจสองคน
"ฉันควรจะเรียกนายว่าพ่อหรือเปล่า แบล็ก?"
"เดี๋ยวเถอะ ไอ้ก้อนเมือก"
"ฉันไปล่ะ เรื่องของเราไม่มีอะไรต้องคุยอะไรกันแล้ว คุณพ่อ"
สเนปเน้นคำว่า"คุณพ่อ"เพื่อย้ำเตือนสถานะของซิเรียส
นี่เราจบบทสนทนากันอย่างเป็นทางการหรือศาสตราจารย์สเนปตัดบทด้วยตัวของตัวเองกันแน่? ผมยังไม่ค่อยรู้เรื่องอะไรเลย ศาสตราจารย์ดัมเบิลดอร์ก็อ้ำๆอึ้งๆกับลูกศิษย์ที่มีอารมณ์แปรปรวนฉับพลันแบบนี้ เสียงตะโกนไล่หลังของซิเรียสดังขึ้น เขายังยืนอยู่ที่เดิม แต่ผมกับสเนปนี่สิ เดินจนเกือบจะออกของห้องโถงกลางอยู่แล้ว
"จะพาลูกทูนหัวของฉันไปไหน ก้อนเมือก?!"
"ไปเดท ฉันมั่นใจว่าฉันทำหน้าที่ของพ่อได้ดีมากกว่านายด้วยซ้ำ แบล็ก แล้วฉันอายุสี่สิบแล้ว ไม่จำเป็นต้องรายงานนายทุกเรื่องด้วย คุณพ่อ!!"
END
*มีเรื่องสั้นต่อ ด้านล่าง*
-We are moving on (อ่านหลังจากจบเรื่องนี้)
-โฆษณาแบบไม่เนียน-
Talking Body (Justin B. X Niall Horan) หนึ่งในฟิคที่เราเขียนเองค่า ตอนนี้รวมเล่มแล้วว ใครสนใจ เข้าไปอ่านกันก่อนได้นะคะ <3
ฟิคเรื่องอื่นๆ
Writer's talk
ไชโย โห่สามทีค่ะ ฟิคจบแล้วอย่าลืมไปอ่านตอนพิเศษที่แนบไว้ให้ด้านบนนะคะ รับรองว่าไม่ผิดหวังแน่นอน ไรต์เตอร์ต้องขอลาจากกับแฟนฟิคชั่นเรื่องนี้แล้วค่ะ ติดตามชีวิตคนเขียนได้ที่ทวิตเตอร์เลยนะคะ~
Twitter: @NathanWong1998
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น