คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #11 : I'm sick (Rewrite)
ความรู้สึกนี้นี่มันอะไรกัน? เหมือนโทรล์สักเจ็ดตัวกำลังเต้นระบำบนศีรษะยังไงยังงั้น นี่คงไม่ใช่ผลข้างเคียงจากการเข้าสู่ร่างเดิมอีกต่อไปแล้ว มันทำให้ผมหงุดหงิดเล็กน้อยว่าทำไมศาสตราจารย์สเนปถึงทนปวดหัวจะเป็นจะตายแต่ไม่ยอมบอกผมว่าเขาไม่สบาย
'นอกจากหัวงู แล้วยังจะหัวรั้นอีก'
"หายปวดหัวแล้วหรือยัง?"
"ไม่เป็นไรครับ ผมยังไหว" ตอนนี้รู้สึกพะอืดพะอมจนไม่อยากยัดอะไรเข้ากระเพาะอีกแล้ว ส่วนไอ้ที่ลงท้องไปเมื่อวานก็กลัวเหลือเกินว่ามันจะย้อนกลับขึ้นมา
"ต้องกินให้หมดนะ พอตเตอร์" ผมรับถ้วยอาหาร ค่อยๆตักเข้าปากทีละคำ กินไม่ถึงครึ่งถ้วยก็รู้สึกเบื่ออาหาร
โกโก้ร้อนให้สบายท้อง ร่างกายอบอุ่นขึ้นแต่มันจะไปสำคัญอะไรในเมื่ออุณหภูมิในร่างกายอยู่สูงกว่ามาตรฐานมนุษย์ปรกติ ไข้หวัดกำลังเล่นงานผมทีละเล็กทีละน้อยและดันโชคร้ายคืนร่างเดิมแล้วด้วย
'คนดวงซวย2017'
‘เขาจะไปไหน’
สเนปเดินออกไปจากห้องแล้วกลับมาพร้อมกับกะละมังใบเล็กและผ้าขนหนูหนึ่งผืน
"ดื่มอีกพอตเตอร์ กินขนมปังนั่นด้วย ร่างกายต้องการสารอาหารเพื่อซ่อมแซมร่างกาย"
"ผมอิ่มแล้ว"
"อย่าดื้อสิ เธอเป็นคนขอมาอยู่กับฉันเอง อยู่ในความดูแล เธอไม่อยากกลับไปนอนที่หอคอยกริฟฟินดอร์ เพราะฉะนั้นต้องทำตามที่ฉันบอก"
"ครับ ศาสตราจารย์"
ผมถูกบังคับกิน จนไม่สามารถขยับได้แล้ว... รู้สึกแน่นท้องไปหมด
"ถอดเสื้อสิ" คราวนี้ไม่ได้มีน้ำเสียงแข็งกร้าวหรือจงใจให้เป็นการออกคำสั่งแต่งอย่างใด สเนปยิ้มมุมปากเหมือนจะตลกที่ผมไม่มีแรงจะทำอะไรเลย..รวมถึงการถอดเสื้อผ้าด้วยตัวเอง
“ค..ครับ” ผมทำตามเพราะตอนนี้ผมหมดแรงโต้เถียงแล้วในตอนนี้
สเนปเลื่อนกะละมังกับผ้าขนหนูเตรียมเช็ดตัวให้ผม แค่จะถอดเสื้อยังยากเลย แล้วไม่ต้องพูดถึงเรื่องซ้อมควิดิชอีกครั้ง
ผมคงเป็นลมตั้งแต่ก้าวออกจากเตียงแล้ว
เขาค่อยๆเช็ดตัวให้ผมโดยเริ่มจากแขน ไล่ไปตามลำตัว ไม่รู้ว่าเพราะอุณหภูมิร่างกายของผมที่สูงขึ้นหรือว่าน้ำในกาละมังพลาสติกมันเย็นกันแน่ บางทีควรจะใช้มือจุ่มเพื่อวัดระดับความเย็นก่อนที่จะมาเช็ดตัวให้ใครนะ
เขาดูอ่อนโยน ต่างจากสเนปคนเดิมที่ทุกคนเคยรู้จัก หน้าของเขาอยู่ห่างกันแค่คืบเดียวตอนที่เขาเช็ดตัวแถวๆต้นคอผม ผมกำลังคิดว่าเขาเคยทำแบบนี้กับใครบ้างหรือเปล่า
‘เขาคือศาสตราจารย์นะ ผมจะคิดแบบนั้นไม่ได้! มันก้าวก่ายเรื่องส่วนตัวจนเกินไป’
"เธอหน้าแดงขึ้นนะ"
"เป็นเพราะพิษไข้น่ะครับ"
"แน่ใจนะ? พิษไข้นี่ทำให้หายใจไม่ทั่วท้องกับใจเต้นแรงด้วยหรือเปล่านะ?" เขายิ้ม
‘อะไรของเขาเนี่ย จะมาไม้ไหนอีก’
‘หรือเขาจะรู้ว่าผมคิดอะไรอยู่?’
"พักผ่อนซะ พอตเตอร์ วันนี้กับพรุ่งนี้ไม่ต้องไป เดี๋ยวชั้นจะไปเอายามาให้" แล้วสเนปก็เดินออกจากห้องไปอีกรอบ แล้วกลับมาพร้อมกับถ้วยยาเล็กๆ ยามีสีส้มอมเหลือง ดูน่ากินแต่ก็ขมนิดๆ ผมรีบดื่มน้ำตามเพื่อไม่ให้รู้สึกถึงรสขม
ผมนอนหลับแทบจะทันทีที่ล้มตัวลงนอน
ไม่รู้ว่านานเท่าไหร่ที่ผมหลับไป แต่ผมก็ตื่นเพราะเสียงพูดคุยจากห้องข้างๆ สเนปกับพ่อทูนหัวของผมกำลังคุยกันอยู่ บางทีผมควรจะออกไปห้ามมวยก่อนที่จะมีทั้งสองฝ่ายหยิบไม้กายสิทธิ์ร่ายคำแช่ง
"แต่ฉันเป็นพ่อทูนหัวของแฮร์รี่ยังไงฉันก็ต้องได้พบเขา!"
"นายจะเข้าเยี่ยมพอตเตอร์ได้ก็ต่อเมื่อฉันอยู่ด้วย และต้องเป็นเวลาที่กำหนดเท่านั้น ถ้านายทำตามไม่ได้นายก็หมดสิทธิ์ แบล็ก"
"งั้นก็ได้" เสียงฝีเท้าเดินเข้าใกล้ประตูขึ้น
"ฉันยังไม่ได้อนุญาต มารยาทมีบ้างมั้ย? นี่นักเรียนของฉัน ห้องของฉัน กฎของฉัน!" เสียงสเนปเริ่มแข็งขึ้น
"แล้วยังไง ตอนนี้นายก็อยู่ด้วยแล้วไง"
ผมเปิดประตูออกไปซิเรียสกับสเนปก็หยุดเถียงกันทันที
"ผมตื่นขึ้นมากินยาแล้วก็จะกลับเข้าไปนอนต่อ" ผมเดินไปที่ถ้วยยาที่สเนปจัดไว้ให้เรียบร้อยแล้วมันวางอยู่บนกองหนังสือไม่ไกลจากที่สองคนนั้นยืนอยู่
"เธอสบายดีใช่มั้ยแฮร์รี่" ซีเรียสเดินเข้ามาคุยกับผม
"ถ้าสบายดี พอตเตอร์คงไม่กินยาหรอก แบล็ก"
"หยุดกัดฉันสักทีได้ไหม สเนป" ซีเรียสหันหน้าไปดุคนข้างๆ
"รู้สึกดีขึ้นแล้วครับ ไม่เป็นไรหรอกซิเรียส ศาสตราจารย์สเนปคอยดูแลผมอยู่แล้ว"
ตอนนี้คนที่รู้สึกเหมือนได้ชัยชนะคือเสนป ไม่ว่าผมจะพูดอะไรกับซิเรียสก็ตาม มันต้องทำร้ายความรู้สึกของเขาให้มากที่สุด..เหมือนที่เขาทำกับผม
ผมยิ้มแหย แล้วกลับไปนอนที่เตียงตามเดิม ไม่อยากเจอหน้าซิเรียสอีกเลย ความทรงจำที่เขากับผมจูบกันวันนั้นมันกลับขึ้นมาอีกครั้ง..เลวร้ายจนไม่อยากให้อภัย
“ออกไปจากห้องฉันเลยนะ! แบล็ค”
“ถ้าไม่ออกแล้วนายจะทำอะไรฉัน ไอ้ก้อนเมือก! จะมัดฉันแล้วตัมกับต้นแอสโฟเดลหรือไง”
“แม้แต่ลูกทูนหัวยังไม่อยากคุยด้วย ควรพิจารณาตัวเองแล้วนะ! อยากให้ฉันพูดเลยว่าข่าวลือของนายกับพอตเตอร์มีอะไรบ้าง! แล้วรู้อะไรไหมว่าลูกทูนหัวที่แกรักนักหนาขอร้องมาอยู่กับฉัน แทนที่จะกลับไปเจอหน้าแกรู้ไว้ด้วย!”
ไม่ต้องออกไปยืนดูเด็กโข่งทะเลาะกันก็ว่าว่าใครแพ้ ใครชนะ ฝ่ายไหนเป็นฝ่ายทีมีแต้มต่อ และฝ่ายที่ต้องยอมถอย สเนปถือไพ่เหนือกว่าเห็นๆ เขาไม่ใช่คนโง่ที่จะสังเกตคนจากภายนอกไม่ออก แค่ผมใช้คำที่คุยกับซิเรียส เขาสามารถรู้แทบจะทันทีว่ามีเรื่องบางอย่างที่ผิดปรกติเกิดขึ้นระหว่างเราสองคน
ซีเรียสกับสเนปเถียงกันสักพัก ตั้งแต่เรื่องผมยันเรื่องสมัยเรียน เรื่องที่พ่อผมและเพื่อนๆสร้างวีรกรรมไว้มากมายขณะที่กำลังเรียนอยู่ในรั้วฮอกวอตส์แห่งนี้ ไม่เข้าใจว่าทำไมสองคนนี้โกรธอะไรกันขนาดนั้น นานโขอยู่ทีเดียวที่ทั้งคู่กัดกันไปมา แล้วเสียงปิดประตูก็ดังขึ้น ซีเรียสกลับห้องไปแล้ว
สเนปเปิดประตูเข้ามาพร้อมกับ หมอน แล้วก็ผ้าห่ม
"สายตาที่พ่อทูนหัวมองเธอมันไม่ใช่แบบพ่อลูกเลยนะ" อารมณ์ที่พูดมาจากช่วงเมื่อกี้แน่นอน แล้วผมกับสเนปก็กลับเข้าสู่ความเงียบ
“เขาทำเรื่องที่ผมไม่สามารถให้อภัยได้” ใบหน้าผมเรียบเฉย ขณะที่ภาพเหตุการณ์วันนั้นยังวนซ้ำไปซ้ำมาในหัว
“ก็พอจะดูออกอยู่..ได้ยินข่าวลือมาแล้วด้วย ฉันบอกศาสตราจารย์ใหญ่กับพ่อทูนหัวของเธอแล้วว่าเราอยู่ในสถานะปรกติ”
"ศาสตราจารย์ทำอะไรครับ"ผมพลิกตัวหันไปถาม
"นอนดูแลเธอไง อยากให้นอนเตียงเดียวกันก็ได้นะ" สเนปยิ้มมุมปากอีกแล้ว เขาโยนหมอนกับผ้าห่มไว้บนโซฟา แล้วยืนเปลี่ยนเสื้อ
"นอนซะ พักผ่อนพรุ่งนี้อีกวัน แล้วค่อยว่ากันอีกที" สเนปล้มตัวลงนอนแล้วห่มผ้า หันหน้ามาทางผม แล้วใช้คาถาดับไฟ
"เซเวอรัส.."
"หืม"
"ขอบคุณที่ดูแลผมนะครับ" ผมพูดเสียงอ่อนเพราะเริ่มง่วงนอนเนื่องจากฤทธิ์ยา
อ่านฟิคกันก่อนเรียนและเวลาว่างเพื่อเป็นขวัญและกำลังใจในการใช้ชีวิตดีกว่าค่ะ ไรต์เตอร์กำลังปั่นฟิคเพื่อผู้อ่านทุกคนอยู่เน้อ
ความคิดเห็น