ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    (END)We Found Each Other (Severus Snape X Harry Potter)

    ลำดับตอนที่ #12 : The Guest (Rewrite)

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 3.44K
      149
      4 ต.ค. 60


         ขณะที่ศาสตราจารย์สเนปกำลังง่วนอยู่กับการตรวจรายงาน ผมที่กำลังนั่งคางเกยอยู่บนโต๊ะทำงานเดียวกันนั้น นิ้วชี้ทั้งสองข้างเขี่ยเข็มทิศเวทมนต์สลับฝั่งซ้ายขวา มันน่าเบื่อเกินไปสำหรับวันที่ไม่มีเรียนแบบนี้ แว่นตาของผมหล่นมาอยู่ที่ปลายจมูกสักพักใหญ่ ยิ่งเวลาผ่านไปยิ่งทำให้รู้สึกง่วงนอนมากขึ้นเรื่อยๆ อยู่ที่นี่มีเวลาว่างกว่าที่คิดไว้เยอะ เหมือนว่าคนตรงหน้าก็ยังจะไม่สนใจผมเสียด้วยสิ อุตส่าห์นั่งกวนสมาธิแบบนี้ยังจะมีอารมณ์ทำงานได้หน้าตาเฉยอีก


         ผมเปลี่ยนท่าทางเป็นการนอนขวางเก้าอี้ต่อหน้าศาสตราจารย์ที่เคร่งเรื่องระเบียบและมารยาท พยายามท้าทายอำนาจมืดให้ได้มากที่สุด อยากโดนดุสักประโยคเพื่อทำลายความเงียบคงจะรู้สึกดีกว่านั่งเป็นใบ้อยู่แบบนี้


         ศาสตราจารย์ยังคงตรวจรายงานด้วยใบหน้าเรียบเฉย เขากำลังอ่านทุกตัวอักษร ไม่ว่าลายมือจะแย่ขนาดไหน แต่ไม่ว่าอย่างไรคะแนนที่ออกมามักจะไม่ค่อยสวยงามนักสำหรับนักเรียนบ้านอื่นที่ไม่ใช่สลิธีรีน และตัวผมเองก็ไม่ใช่ข้อยกเว้น คะแนนที่เขียนโดยปลายขนนกนั้นเป็นมารฐานเดียวกันทั้งบ้าน


         เข็มทิศเวทมนต์จากภาพยนตร์ดังของมักเกิ้ล ชี้ไปในทิศทางตามที่ใจของผู้ถือปรารถนา ไม่รู้ว่าเรื่องจริงหรือเรื่องหลอกลวงกันแน่เพราะมันกำลังชี้ไปในทิศทางที่บิสกิตตั้งอยู่ด้านขวามือของเซเวอรัส สเนป... 


         ในส่วนลึกของจิตใจมีนางฟ้าและซาตานกำลังต่อสู้กันอยู่ ถ้าหยิบบิสกิตนั้นก็จะพิสูจน์ได้ว่าของเล่นชิ้นนี้กำลังบอกความจริงอยู่หรือเปล่า? แต่นางฟ้าผู้มีจิตใจดีและเปี่ยมไปด้วยคุณธรรมกำลังกระซิบข้างหูผมว่าไม่ควรทำเช่นนั้น มันสัยมารยาทและอาจถูกลงโทษด้วยการตัดนิ้วออกสักข้อหรือตัดข้อมืออกทั้งสองข้าง


         สายตาผมจ้องเขม็งไปที่นัยน์ตาสีนิลคู่นั้น เสี้ยววินาทีหนึ่งตอนเราสบตากัน เขาเองตัวพิงพนักพิงของเก้าอี้ เหยียดแขนจนสุดเพื่อผ่อนคลายจากการนั่งท่าเดิมเป็นเวลานาน เขาหยิบแว่นตาที่วางอยู่ไม่ไกลขึ้นมาสวม ตอนนี้เหมือนผมกำลังรบกวนพ่ออยู่ มากกว่าการเรียกร้องความสนใจจากใครที่คิดว่าเขาใส่ใจเรามากที่สุด


    “จะมองอีกนานไหม?” 


    ในที่สุดผมกลายเป็นจุดสนใจของเขาเสียที


    “มองอะไรหรอครับ?”


    ‘เยสสสสสสส!!! เขาวางขนนกลงแล้ว!!!’


         มือผอมๆหยิบบิสกิตขึ้นมากินเยาะเย้ย สเนปเลิกคิ้วขึ้นเพราะรู้สิ่งที่ผมตัองการ ชายคนนี้รู้ว่าขนมข้างตัวเขาป็นสิ่งที่มีค่ามากในตอนนี้ เพราะในห้องทำงานไม่มีอะไรที่สามารถกินได้เลย


         ขนมชิ้นหนึ่งลอยขึ้นมาจนถึงบริเวณปากของผม สิ่งที่ทำโดยสัญชาติญาณก็คือการอ้าปากรับมันเข้าไป นี่คือเวทย์มนต์เพราะมือขวาของเขาสัมผัสไม้กายสิทธ์อยู่ ถ้าพักเรื่องงานมาทำกิจกรรมอะไรที่กระชับความสัมพันธ์บ้างก็ดี ถึงอย่างไรก็ต้องอยู่กันสองคนอยู่แล้ว คงจะกระอักกระอ่วนแย่ถ้าต่างฝ่ายต่างสนใจแต่เรื่องของตัวเอง


    “ขอดูหน่อยได้ไหม?” มือใหญ่ข้างซ้านยื่นมาตรงหน้าผม เขาคงหมายถึงเข็มทิศของเล่นที่ผมกำลังถืออยู่ ตาคู่นั้นกระตุกเล็กน้อยเพราะรู้อยู่แก่ใจว่าผมได้รับของเล่นชิ้นนี้มากจากใคร


    “หวงผมหรอครับ?” อยากได้ยินคำตอบอะไรที่ชื่นใจในเวลาแบบนี้บ้าง แต่เขาเป็นศาสตราจารย์ ยากที่จะสนใจใครแบบลำเอียงได้


    “นิดหน่อย แต่ถึงอย่างนั้น เขาก็ยังเป็นพ่อทูนหัวของเธออยู่ดี” 


    ‘พูดสิ พูดสิ่งที่ผมอยากได้ยินหน่อย เซเวอรัส’


         เขามองมันอย่างพิจารณา เข็มทิศชี้ไม่ถูกทิศถูกทางจนเขาคิดว่ามันคงใช้การไม่ได้และไร้ประโยชน์สิ้นดี มันชี้ไปทางเจ้าเด็กใส่แว่นที่นั่งอยู่ตรงหน้า ไม่ว่าจะเอียงหรือหันตัวไปทางทิศไหน ปลายเข็มมักจะหันไปเสมอ 


    “ม...มีอะไรหรอครับศาสตราจารย์?”


    “เข็มทิศนี้เสียนะรู้ไหม ทิศเหนือมันอยู่ข้างหลังฉัน แต่มันดันชี้ไปทางเธอ แบล็กซื้อของไม่มีคุณภาพแบบนี้ให้เธอได้ยังไง?”


    ‘เข็มทิศที่จะชี้ไปทางสิ่งที่ปรารถนา และเมื่อศาสตราจารย์สเนปถือมันกลับชี้มาทางผม เคราเมอร์ลิน นี่คือสุดยอดที่สุดตั้งแต่อยู่ด้วยกันมา’ 


       ผมลุกขึ้นพยายามสะกดอารมณ์ดีใจจนเนื้อเต้นแทบไม่อยู่แกล้งเดินไปเกาะที่พนักพิงเก้าอี้ ยืนค้ำศีรษะเขาอยู่ขณะที่ของเล่นในมือผอมเรียวนั้น ขณะนี้ปลายเข็มหันตามผมไปทุกทิศทางและกลับมาอยู่ที่ทิศเหนือแบบที่สเนปคาดหวังไว้ เขาควรจะรู้ได้แล้วว่าสิ่งของในมือนั้น ไม่ใช่อะไรที่ธรรมดา 


         เมื่อพลิกดูด้านข้างมีคำโฆษณาอยู่เล็กน้อยเขียนประกอบไว้ตัวไม่ใหญ่มาก ทำให้ชายวัยกลางคนคนหนึ่งต้องเหยียดแขนออกเล็กน้อยเพราะปัญหาสายตายาวแบบผู้วิเศษทั่วไปเมื่ออายุมากขึ้น


    ‘จงแสดงสิ่งที่ข้าปรารถนา’


    “อะแฮ่ม”


         เสียงเคลียร์ลำคอไล่อาการเขินอาย มีการแอบยิ้มเล็กน้อยจนผมเกือบจะสังเกตไม่เห็น ใครจะเคยเห็นศาสตราจารย์วิชาปรุงยาเขินและแอบยิ้มแบบนี้บ้างล่ะ หมดล่ะอยากยืมกล้องของคอลิน เจ้าเด็กปีหกเสียจริง อย่างน้อยก็บันทึกภาพนี้ให้เป็นประวัติศาสตร์ครั้งยิ่งใหญ่ของโรงเรียนฮอกวอตน์สักหน่อยเถอะ คุณรู้ไหมว่าถ้าผมได้รูปยิ้มของเขาเมื่อกี้ผมจะเอาไปติดให้ทั่วปราสาทตั้งแต่หอนอนของทุกบ้าน ทางเดิน กำแพงของทุกห้องเรียน (ยกเว้นห้องของซิเรียสนะ ตอนนี้ยังไม่ค่อยอยากเจอเขาสักเท่าไหร่) และรูปถ่ายใบนั้นจะกระจายไปทั่วที่อยู่ของผู้วิเศษในอังกฤษด้วยซ้ำ


        ขนนกอยู่ในมือเขาอีกครั้งทำท่าเหมือนจะตรวจรายงานนักเรียนที่ค้างอยู่ให้เสร็จ และทำเหมือนก่อนหน้านี้ไม่มีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้น ทำไมเขาถึงไม่ยอมรับมาตรงๆนะว่าตัวเองกำลังเขินอยู่?


         มาเสียงฝีเท้ากำลังตรงมาที่ห้อง เป็นการก้าวขาที่ช้าและมั่นคง จังหวะในการเดินสม่ำเสมอไม่รีบร้อนเหมือนมีธุระ แต่ถ้าไม่มีธุระก็คงไม่มาหาเสนปในเวลาส่วนตัวแบบนี้หรอกถ้าไม่ใช่เรื่องจำเป็น เราทั้งคู่ได้ยินเสียงฝีเท้านั่นเหมือนกัน มันหยุดลงที่หน้าประตูเฉยๆ ใครก็ตามที่อยู่หลังบานประตูนั้นคงทำใจนานพอสมควร(ถ้าเป็นคนที่ไม่ชอบเซเวอรัสน่ะนะ)


    “พ่อทูนหัวเธอน่ะ” 


         เสียงหัวเราะหลุดออกมาจากลำคอ เขาใช้เวทมนต์อะไรถึงรู้ว่าข้างนอกนั่นคือซิเรียส แบล็ก พ่อมดเก่งๆจะมีความสามารถพิเศษแบบนี้หรอ?


    “อยากจะเป็นคนอื่นหรือนักเรียนมาส่งงานก็ได้นะครับ”


    “แบล็ก จะยืนอยู่หน้าประตูถึงค่ำเลยหรือเปล่า?”


         เสียงประโยคเมื่อสักครู่ดังมากพอที่จะส่งข้อความให้คนที่ยืนหน้าห้องได้ยิน มีเสียงถอนหายใจยาวหนึ่งครั้งก่อนที่คนที่ถูกคาดการณ์ไว้จะเปิดประตูเข้ามา ซิเรียสดูโทรมลงเล็กน้อยแต่ด้วยการแต่งกายที่ดีจึงไม่ได้ดูเด่นชัดขนาดนั้น


    “เอ่อ..พอดีผ่านมาแถวนี้”


    ‘ทักษะการแก้ตัวไม่ได้เรื่อง’


    “มีธุระอะไรก็ว่ามา”


    เสนปแกล้งทำเหมือนตัวเองกำลังยุ่ง ทั้งที่ก่อนหน้านี้ยังเล่นกับผมไม่สนใจงานอยู่เลย


    “ฉ...ฉัน ฉัน...” 


    เขาคงจะพูดไม่ออกเมื่อผมยืนเกาะเก้าอี้ขณะที่สเนปทำงานอยู่แบบนี้ คนสมัยนี้เรียกว่าอะไรนะ?


    ‘ภาพบาดตาใช่ไหม?’


         แขกที่มาเยือนมองไปรอบๆห้องและแกล้งไม่สนใจลูกชายทูนหัวกับเพื่อนร่วมชั้นปีที่กำลังกระหนุงกระหนิงกันอยู่บริเวณโต๊ะทำงาน สายตานั้นมองมาทางเข็มทิศที่ซื้อให้เป็นของขวัญขณะนั้นที่ผมกำลังชื่อชอบและจินตนาการถึงโลกของผู้วิเศษที่มีโจรสลัด


    “ที่จริงฉันมีอะไรจะพูดเยอะแยะแต่พอเอาเข้าจริงก็ไม่กล้าเหมือนกัน ฉันเอาจดหมายให้เธอ่านดีกว่า แฮร์รี่...”


    ‘จดหมายจากซิเรียส’




    TBC.


    Writer's talk

       สวัสดีอีกครั้งจ้าท่านผู้อ่านทุกท่าน การรีไรต์ฟิคของไรเตอร์ผู้นี้ก็ดำเนินเรื่องมาถึงตอนที่สิบสองแล้ว เหลืออีกแค่สี่ตอนเท่านั้นก็จะจบเรื่อง ขอย้ำอีกครั้งว่าอย่าลืมอ่านฟิคสั้นที่แนบไว้ให้ที่ข้อมูลเบื้องต้นของเรื่องนี้นะคะ ขอบพระคุณทุกวิวและคอมเมนต์ที่ให้การสนับสนุนมาโดยตลอดจ้า



     










     

     

     

     







    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×