Bridget Jones's Diary
Pairing:Mark Darcy x Daniel Cleaver
Length:Drabble
Rating:-
Deal w/:ติน
"นอนซมยังกะลูกหมาโดนทิ้งเลยนะ คลีฟเวอร์" คนพูดยิ้มเชิงเยาะเย้ย เขานั่งลงบนปลายเตียงขนาดหกฟุต โดยมีเพื่อนสนิทนอนขดตัวภายใต้ผ้าห่มหนา
มันต้องเป็นที่นอนที่บรรจุความทะนงตัวและผ้าห่มที่ยัดความดื้อรั้นแทนใยสังเคราะห์แน่ๆ เพราะเพื่อนชายคนนี้ก็หายหน้าไปเฉยๆ ไม่มีใบลางาน หรือแจ้งข่าวคราวเลยเกือบสัปดาห์
'ดาเนียล คลีฟเวอร์' นอนเปลื้องท่อนบนโดยมีเครื่องปรับอากาศเป็นตัวควบคุมอุณหภูมิ ถ้าหนุ่มหัวหยิกนี่ไม่โง่บรมก็ต้องบ้าระห่ำสุดๆ เพราะเครื่องปรับอากาศของห้องนี้ถูกตั้งไว้ที่ 25 องศาเซลเซียส แขกที่เข้ามาโดยไม่ได้รับเชิญลุกขึ้นไปปรับอุณหภูมิให้ด้วยความหวังดี ก่อนที่เจ้าของห้องจะนอนแข็งตายอย่างโดดเดี่ยว...หรือนอนแข็งตายโดยมีมาร์ค ดาร์ซี่ย์เป็นผู้รู้เห็นเหตุการณ์
"ก็ไม่ได้ขอให้ใครมาดูแลสักหน่อย ฉันไม่ใช่ลูกหมาโดนทิ้งนะเว้ย แบบนี้เขาเรียกเสือสิ้นลายต่างหาก" เสียงแหบนั้นพยายามตอบกลับ
"มันจะกลายเป็นเสือสิ้นใจแทนน่ะสิ นายเล่นแช่แข็งตัวเองขนาดนี้ คิดว่าร่างกายตัวเองเคยชินกับอุณหภูมิที่ขั้วโลกใต้หรอ พี่หมีขาว" มาร์คกระฟัดกระเฟียดเล็กน้อย คนที่ควรสำนักผิดดันพูดออกมาแบบนั้น ด้วยอายุและกำลังวังชาขนาดนี้ ชายหนุ่มสามารถโยนเพื่อนสนิทปากดีคนนี้ออกนอกหน้าต่างได้สบายๆ
แม้นั่นจะเป็นเพียงอารมณ์ชั่ววูบแค่เสี้ยววินาที แต่บอกได้เลยว่ามันยังคอยกัดกินอารมณ์ขันทีละเล็กทีละน้อย เขาเริ่มต้นการสั่งสอนด้วยการกระตุกผ้าห่มลงมากองที่พื้นห้องนอนอย่างรุนแรง ไร้ความเมตตาทั้งปวง
ดาร์ซีย์เกือบกระตุกชายกางเกงของคนป่วยไปด้วย ดังนั้นดาเนียลจึงพยายามอย่างมากที่จะจับขอบกางเกงไว้
'พญามังกรควรจะอยู่ในถ้ำ ไม่ใช่แสดงอาการอ่อนปวกเปียกให้ใครได้เห็น'
และใช้มือขวากุม'พญามังกร'ที่อยู่หว่างขา
กระปุกยาถูกโยนมาจากคนที่จู่โจมถึงห้องนอน มันลอยกลางอากาศไม่นานเพราะเจตนาไม่ใช่ให้คนปลายทางรับง่ายเหมือนโยนของตามปรกติ แต่เป้าหมายคือศีรษะของไอ้คนป่วยปากดีเนี่ยแหละ เสียดายที่เจ้าตัวดันความรู้สึกเร็ว จึงตอบสนองด้วยการยกแขนขึ้นมาป้องกันได้ทันเวลา
'ปุก'
กระปุกยาลดไข้สังหาร หล่นลงบนที่นอนนิ่มๆด้านซ้ายของดาเนียล จนต้องยกมือขึ้นๆสองข้างเป็นสัญลักษณ์ของการยอมแพ้
มาร์คแกล้งทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นกับพฤติกรรมเมื่อสักครู่ เขาโยนขวดน้ำพลาสติกที่มีน้ำ 600 มล.ไปทางเดิมอีกครั้ง แต่ครั้งนี้แกล้งโยนให้เฉียดลำตัวเพื่อเป็นการเตือนครั้งสุดท้าย
"เฮ้! ฉันป่วยอยู่นะ มาร์ค นายคิดจะเดินดุ่มๆเข้ามาปาข้าวของใส่ฉันไม่ได้นะ ฉันสามารถฟ้องร้องนายในข้อหาบุรุก ข้อหาหมิ่นประมาท แล้วก็ข้อหากระทำอนาจารด้วย น..นายจงใจจะดึงกางเกงฉันไปด้วยใช่ไหม ตอนที่ดึงผ้าห่มน่ะ!"
"ไปปากดีในศาลนู่น นี่นายจะฟ้องร้องคนที่เป็นทนายความจริงหรอ แดน อย่าโง่น่า ผู้พิพากษาไม่ติดสินเรื่องเพื่อนบุกเข้าห้องมากระชากผ้าห่มเพื่อนด้วยกันหรอก คำให้การไม่มีน้ำหนัก พยานก็ไม่มี หลักฐานพิสูจน์ไม่ได้ว่าฉันทำผิดจริง...ยอมแพ้เถอะ แดน นายทำตามที่ฉันสั่งดีกว่า เริ่มด้วยการนั่งนิ่งๆ"
เสียงตึงตังยังคงดังอย่างต่อเนื่อง จะจัดการกับเพื่อนปากแบบนี่ได้อย่างไร จะให้ทะเลาะวิวาทกับคนร่างกายอ่อนแอก็ใช่เรื่อง ห้องนี้รกมากเหมือนว่าเจ้าของจะไม่ไปไหนมาห้าวันเห็นจะได้ มีกล่องอาหารสำเร็จรูปที่กินแล้วกองพะเนินเป็นภูเขา แต่สิ่งที่ขัดกันคือเสื้อผ้า...ไม่มีเสื้อผ้าสักชิ้นบริเวณที่ที่มันควรอยู่เช่น บริเวณรอบเตียง พนักพิงของเก้าอี้ ตระกร้าผ้า นี่จะไม่ใส่แม้กระทั่งกางเกงในเลยหรอ?
ดาเนียลกินยาแก้ไข้สองเม็ดแล้วทิ้งตัวลงที่นอนตามเดิม ปวดหัวจนแทบระเบิด แต่ยังหน้าระรื่นเพราะในที่สุดก็มีคนมาหาเขาตอนป่วยเสียที รู้สึกร้อนๆหนาวๆเหมือนกำลังกระโดดไปมาสองฝั่งระหว่างขั้วโลกกับนรก...หรือจะเป็นนรกภายในใจ
มาร์คเดินเข้าห้องน้ำหยิบขันกับผ้าเช็ดตัวผืนเล็กในห้องน้ำ สูทที่เคยใส่ถูกถอดออกเหลือแค่เสื้อเชิร์ตสีขาว เขาไม่ได้ตั้งใจจะทำให้ใครหวั่นไหวหรอก แต่เพื่อดูแลดาเนียลได้สะดวกขึ้น ถ้าไอ้เจ้าเพื่อนคนนี้สบายดีเขาจะเอาน้ำประปานี้ผสมกับน้ำแข็งแล้วสาดให้เปียกกันไปข้าง แต่ดูหน้าของดาเนียลสิ...แดงยังกับตูดลิง
"อายุยี่สิบห้า ทำตัวเป็นเด็กเจ็ดขวบ แล้วสาวอกอึ๋มที่เดินจนหัวบันไดไม่แห้งหายไปไหนหมดแล้วล่ะ?" นั่นคือประโยคประชดประชันที่เป็นมิตรที่สุดเท่าที่ทนายหนุ่มคนนี้จะคิดได้ เขาไม่ใช่พวกที่จะพลั้งปากพูดคำหยาบออกไป เว้นแต่บางสถานการณ์ที่โมโหจริงๆ
"แต่ฉันรู้ว่านายจะต้องมาหาแน่ๆเพราะว่านายรั- แค่ก เป็นห่วงฉันกว่าใครๆ"
มีการเปลี่ยนแปลงประโยคเล็กน้อย ไม่รู้ว่าคนฟังจะได้ยินหรือเปล่า มันเหมือนคำต้องห้ามที่พูดออกไปให้การเพื่อนสนิทฟังไม่ได้...โดยเฉพาะถ้าคนๆนั้นเป็นผู้ชาย
คงได้แต่ภาวนาให้อาการไข้ดีขึ้นหลังจากเช็ดตัวและกินยาแล้ว อีกประมาณสามถึงสี่ชั่วโมงจะต้องให้กินยาอีกรอบ เพื่อความต่อเนื่อง ปล่อยให้คนป่วยนอนบนเตียงต่อไปขณะที่ชายผู้เป็นห่วงเป็นใยเพื่อนสนิทอย่างสุดซึ้ง ทำท่าเดินออกจากห้องนอนโดยมีสายตาอ้อนวอนมองไม่คลาดสายตา
"จะไปไหนล่ะ? จะทิ้งฉันเหมือนคนอื่นๆน่ะหรอ มาร์ค?" ดาเนียลเค้นเสียงตัวเองให้ออกมามากที่สุด เพื่อนสนิทที่เหลือเพียงคนเดียวจะก้าวออกจากห้องนี้แล้วไม่กลับมาเหมือนคนอื่นๆน่ะหรอ? ต้องเป็นเพราะคำพูดที่ไม่ค่อยเข้าหูใครแน่ๆ มาร์คถึงไม่คิดจะบอกลาสักคำ
"ฉันรักนายนะ มาร์ค...อยู่ด้วยกันก่อนสิ ฉันมีนายแค่คนเดีย-"
"พร่ำเพ้ออะไรของนาย ฉันจะไปต้มบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปมาให้ต่างหาก ไข้ขึ้นจนสมองเพี้ยนไปแล้วหรอ แดน?" ถ้าสังเกตจริงๆจะพบว่ามุมปากของคนพูดนั้นยกขึ้นเล็กน้อย ถึงคลีฟเวอร์จะปากหมา ปากดี ปากพาซวยเกือบตลอดเวลาแต่ประโยคนั้นฟังดูเข้าทีเหมือนกัน
"อ้าว...ไม่ได้จะทิ้งฉันหรอกหรอ?" ใบหน้าของคนป่วยแดงมากยิ่งขึ้นเพราะความเขินอาย
"เปล่า"
"แล้วบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปมันมีสารอาหารหรอ? ฉันป่วยอยู่นะ ไอ้คนไม่มีจิตใจ"
'มาร์ค ดาร์ซีย์'เกิดอารมณ์หงุดหงิดอีกครั้งภายในสิบนาที รู้แบบนี้ปล่อยให้นอนตายในห้องแช่แข็งเสียก็ดี ได้คืบจะเอาศอกจริงๆ บางทีน่าจะแกล้งเดินออกจากห้องโดยไม่เอ่ยอะไรดีกว่า เผื่อจะได้ยินคำพูดที่ฟังแล้วระรื่นหูขึ้นบ้าง ไม่ก็ได้ฟังจนจบประโยค
'ฉันรักนายนะ มาร์ค...อยู่ด้วยกันก่อนสิ ฉันมีนายแค่คนเดียวนะ..'
นึกขึ้นได้ล่ะชื่นใจจริงๆ
ข้อความที่โพสจะต้องไม่น้อยกว่า {{min_t_comment}} ตัวอักษรและไม่เกิน {{max_t_comment}} ตัวอักษร
กรอกชื่อด้วยนะ
_________
กรอกข้อมูลในช่องต่อไปนี้ไม่ครบ
หรือข้อมูลผิดพลาดครับ :
_____________________________
ช่วยกรอกอีกครั้งนะครับ
กรุณากรอกรหัสความปลอดภัย
มันดีงามอะ เป็นฟิคตลกที่เราหลุดขำออกมา อ่านแล้วอยากจ้างอีสองคนนี้ไปเล่นสามช่า55555 แต่เดินเรื่องเร็วไปหน่อยนะ เหมือนรวบๆอะ แต่โดยรวมทำออกมาดีมากนะ เราชอบบบบบ ไว้มาดีลกันใหม่ยยย เยิ้ปเยิ้ป
sean.