ืเนเน่กะฮารุกะ
ของเนเน่
ผู้เข้าชมรวม
87
ผู้เข้าชมเดือนนี้
4
ผู้เข้าชมรวม
ข้อมูลเบื้องต้น
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ชีวิตมันว่างเปล่า มันไม่มีอะไรดีๆเลยหรือยังไงนะ
อิสระที่เหมือนจะมี แต่มันก็เป็นแค่เพียงของปลอม สุดท้ายทุกคนก็แค่นกที่ถูกขังในกรงที่ชื่อว่าโลกนั่นแหละ
ไม่มีใครเข้าใจฉันสักคน ฉันแค่มีความฝัน อยากทำในสิ่งที่ฝัน แค่นั้นมันผิดนักหรือไง
แต่อย่างน้อยก็มีคนนึง คนที่ฉันชื่นชม
อิสระที่มองเห็นได้ด้วยตา
นานาเสะ ฮารุกะ
อาจจะเป็นชื่อที่ดูเหมือนผู้หญิง แต่นี่มันก็คาแรคเตอร์ของอนิมะเรื่องนี้นี่แหละ ตัวละครหลักๆล้วนมีชื่อแปร่งๆเหมือนเหมาะจะเป็นของผู้หญิงเสียมากกว่า แต่มันก็ไม่ได้กระทบอะไรกับคาแรคเตอร์ที่ฉันชอบหรอกนะ ที่กระทบก็น่าจะมีแค่เรื่องที่ฮารุกะไม่ใช่คน เป็นการ์ตูนในโลกสองดีนี่แหละ
ชีวิตที่ผ่านมาช่างอ่อนล้า สิ่งที่ไขว่คว้าก็ไร้ซึ่งตัวตน ความหวังคือตัวเองเท่านั้น ที่จะสร้างมันขึ้นมาให้ได้ด้วยมือของตัวเอง
.
.
.
หลังจากที่เนเน่ สาวน้อยอายุสิบแปดปีได้จบจากชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย เธอก็ได้รับรางวัลจากตัวเอง โดยการไปเที่ยวประเทศญี่ปุ่นเป็นเวลาสิบวัน ตอนแรกเธอไม่ได้คิดจะไปคนเดียว แต่จะมีเพื่อนไปด้วยอีกสองสามคน แต่เหมือนฟ้าจะกลั่นแกล้งที่ทำให้สามคนนั้นไปไม่ได้ด้วยเหตุผลเดียวกัน
“ขอโทษนะเนเน่ เราต้องไปเที่ยวกับครอบครัว คงไปญี่ปุ่นกับเนเน่ไม่ได้แล้ว”
ทำไมต้องตอนนี้ด้วยวะ
เด็กสาวบ่นในใจขณะเดินทอดน่องไปยังจุดขึ้นเครื่อง เหลือเวลาราวสิบห้านาทีเครื่องบินก็จะทำการออกตัวแล้ว เธอเข้าไปในเครื่องบินได้ทันเวลาที่ผู้โดยริสารคนอื่นๆกำลังต่อแถวกันพอดี
เนเน่เข้าไปนั่งตรงที่นั่งตามตำแหน่งในตั๋วเครื่องบิน เธอหยิบโทรศัพท์ที่เพิ่งได้มาสดๆร้อนๆซึ่งเป็นของรางวัลจากพ่อแม่ขึ้นนั่งฟังเพลงฆ่าเวลา เสียงเพลงที่ดังอยู่ในโสตประสาทของเธอคนเดียวเท่านั้นก็ได้กล่อมเธอจนเผลอเคลิ้มหลับไป
เด็กสาวรู้สึกตัวอีกทีก็เมื่อมีคนมาสะกิดจากทางข้างๆ
อ๋อ คงจะเป็นคนที่นั่งข้างในละมั้ง
เธอขยับลุกออกมาจากที่นั่งของเธอในสภาพงัวเงีย สมองของเธอตอนนี้เบลอเกินกว่าจะมองใบหน้าของผู้มาใหม่ เมื่อคนๆนั้นเข้าไปนั่งเสร็จเธอก็นั่งลงและหลับต่อแบบไม่สนใจใยดีคำแนะนำของแอร์โฮสเตสเลย เมื่อเครื่องลอยเหนืออากาสมาได้สักพัก กลิ่นอาหารอันแสนคุ้นเคยก็ลอยมาแตะจมูกของเด็กสาว
ในที่สุดก็ได้กินสักที
ร่างกายที่หิวโหยมาเป็นเวลานานเนื่องจากไม่ได้ทานข้าวเช้าตอบรับกับกลิ่นอาหารทันทีที่พี่สาวแอร์โฮสเตสเอามันออกมา ที่เธอไม่ได้กินข้าวเช้าก็เพราะเหตุผลเดียว
ถ้าต้องกินอาหารมื้อละสามร้อยในสนามบินสู้อดเสียยังดีกว่า
ไม่ใช่เพราะขี้งกหรอก แต่เพราะเธอจะเก็บตังไปเหมาของออฟฟิเชียลฮารุกะต่างหาก!
เมื่อตาสว่างรับอาหารเต็มที่แล้ว ดวงตาของเธอก็เบี่ยงไปมองทางหน้าต่างซึ่งมีชายหนุ่มอีกคนคั่นไว้
มองไม่เห็นอะไรเลย
หัวทุยๆของคนข้างๆเธอหันหน้าไปบังกระจกเสียเกือบมิด ราวกับกำลังส่องดาวอยู่อย่างนั้น
“รับอะไรดีคะ”
เสียงของแอร์โฮสเตสทำให้เธอต้องหันไปหา แต่คนที่นั่งข้างๆเธอหันมาเร็วกว่าจนหน้าของทั้งสองเกือบจะชนกัน
เฮ้ย!
เด็กสาวอุทานในใจเมื่อได้เห็นหน้าตาของเพื่อนร่วมทาง
นี่มันอภิมหาหล่อ หล่อโลกลืมเลยนี่หว่า
“น้องคะรับอะไรดีคะ มีพะแนงหมู กับ ไก่ย่าง”
พี่สาวแอร์โฮสเตสเรียกถามเธออีกครั้ง
“เอาไก่ย่างค่ะ” เด็กสาวตอบ ก่อนจะแอบชำเลืองมองคนหล่อที่นั่งเป็นอาหารตาอยู่ข้างๆ
เมื่อถึงคิวของชายหนุ่มคนนั้น เขาก็สั่งอาหารเป็นภาษาอังกฤษด้วยสำเนียงแปร่งๆพิกลของคนญี่ปุ่น
เชเด้ด คนญี่ปุ่นด้วย หล่อด้วย ลั้ลล้า
เด็กสาวคิดในใจ แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ ขอแค่แอบมองเป็นอาหารตาก็ละกันนะ
_
_
_
เวลาผ่านไปไม่เท่าไหร่ การใช้ชีวิตบนฟ้าก็จบลง เนเน่ออกจากสนามบินเพื่อเดินทางไปยังที่พัก การมาเที่ยวครั้งนี้ไม่เหมือนครั้งก่อนๆ เธอจะมาใช้ชีวิตร่วมกับครอบครัวที่เป็นโฮส เพื่อที่จะได้สัมผัสกับวิถีชีวิตของประเทศที่เธอชื่นชอบ
เหมือนหมอนั่นตามเรามาเลยแฮะ
เด็กสาวคิดในใจ เพราะตั้งแต่ออกจากสนามบินมาจนถึงตอนนี้ เขากับเธอก็นั่งอยู่ในรถคันเดียวกันตลอดไม่ว่าจะเปลี่ยนไปแล้วกี่คัน ทางไปที่พักของเธอนั้นต้องนั่งรถไฟฟ้า ต่อรถเมล์อีกสองสาย เธอจึงคิดเหตุผลอื่นไม่ออกว่าทำไมเขาถึงยังอยู่ตรงนี้
หน้าตาของหนุ่มหล่อนั้นเพอร์เฟค แต่ที่ยิ่งไปกว่านั้น ทั้งทรงผม ท่าทาง การแต่งตัว ราวกับเป็นนานาเสะฮารุกะที่เธอชอบยังไงอย่างนั้น แต่อย่างไรก็ตาม ที่เธฮชอบเป็นเพราะคาแรคเตอร์ นิสัย ซึ่งดูตอนนี้ยังไงหมอนั่นก็คงจะไม่เหมือนหรอก
รถเมล์จอดเทียบป้ายหน้าร้านสะดวกซื้อ เดินไปอีกราวห้าสิบเมตรก็จะถึงที่พักของเธอแล้ว จากข้อมูลที่หามา ครอบครัวที่เธออยู่ด้วยอาศัยในอพาร์ทเม้นขนาดกลาง ดูสะอาดสะอ้าน จัดแต่งสไตล์ญี่ปุ่นแบบทั่วๆไป ห้องที่เธออยู่เป็นห้องริมตึก ขนาดสองห้องนอนหนึ่งห้องน้ำ ครอบครัวนี้มีแค่คุณแม่กับลูกชายวัยแปดขวบ ห้องขนาดนี้อาจจะใหญ่ไปด้วยซ้ำหากไม่รับเป็นโฮส
ชายหนุ่มคนนั้นเดินตามเธอมาจนถึงหน้าอพาร์ทเม้น เธฮไม่รู้จะทำอย่างไร จึงหยุดเดินหน้าร้านหนังสือข้างหน้า
อ่าว แม่งไม่ได้เดินตามเรามานี่หว่า
เขาเดินทอดน่องผ่านเธอไปหน้าตาเฉย เด็กสาวถอนหายใจเฮือกใหญ่ทิ้งระยะห่างจนชายหนุ่มเดินไปลับตา ก่อนจะเดินไปยังอพาร์ทเม้นที่เธออยู่
ทันทีที่ถึงที่เธอเดินไปถึงหน้าห้อง สายตาอันเฉียบคม(ในเรื่องฮารุกะ)ก็มองเห็นป้ายชื่อสกุลที่อยู่ห้องข้างๆ
‘นานาเสะ’
เช้ด
เช้ดดด
เช้ดดดด
จะว่าไป บรรยากาศของที่นี่มันคุ้นๆ อย่างกับหลุดออกมาจากเรื่องฟรียังไงอย่างนั้น สงสัยที่นี่คงจะเป็นแบบที่คนวาดเอาไปเขียนแหงๆ แถมห้องๆนั้นดันมีคนนามสกุลนานาเสะด้วย
ไม่มีอะไรโชคดีไปกว่านี้อีกแล้วโว้ยย
เด็กสาวคิดในใจ ก่อนจะเคาะประตูเรียกเจ้าของบ้านออกมาพบ
“สวัสดีจ้ะหนูเนเน่ เชิญเข้ามาข้างในเลยจ้ะ”
เจ้าของบ้านที่เนเน่คาดว่าน่าจะมีบุคลิกเหมือนสาววัยกลางคน แต่เปล่าเลย หน้าเธอสวยราวกับสาวอายุยี่สิบต้นๆ ไม่น่าเชื่อว่าลูกชายของเธอจะอายุแปดขวบแล้ว ในประวัติเธอชื่อยามาดะ ซาวาโกะ ทำอาชีพเป็นไกด์กับที่ปรึกษาด้านการเงิน สามีของเธอเสียไปแล้วตั้งแต่เมื่อห้าปีก่อน
“มาซามิจิ ออกมาหาแขกหน่อยสิจ้ะลูก”
เมื่อผู้เป็นแม่เอ่ย เสียงวิ่งก็ดังมาจากทางห้องด้านหลังของเด็กสาวมาหยุดอยู่ข้างๆ
“สวัสดีครับพี่สาว ผมชื่อมาซามิจิ ยินดีที่ได้รู้จักครับ”
หนูน้อยมาซามิจิหน้าตาน่ารัก ตัวอวบนิดๆทำให้แก้มของเจ้าหนูกลมจนหน้าหยิก ท่าทางของเด็กคนนี้น่าจะคุ้นเคยกับการได้เจอกับคนแปลกหน้าอย่างดี เธอคุยหยอกล้อกับเด็กน้อยพอเป็นพิธีก่อนที่คุณซาวาโกะจะแนะนำห้องต่างๆ
เนเน่เข้าไปพักในห้องของเธอที่เจ้าของบ้านจัดไว้ให้ เธอนั่งอ่านหนังสือแนวสยองๆแบบที่เธอชอบ จนเวลาผ่านไปถึงเย็น เสียงหวานๆของคุณซาวาโกะก็เรียกให้เธอไปทานข้าวเย็น
คุณซาวาโกะบอกว่า ทุกๆเย็นจะมีคนหนุ่มข้างห้องมาทานข้าวด้วยทุกวัน เนื่องจากเขาเป็นหลานชายของเธอ และพ่อแม่ของเขาไม่อยู่แล้ว เธอจึงอุปการะเขาเอาไว้
ทันทีที่เนเน่เปิดประตูห้องทานข้าวเย็น เธอก็พบกับคนที่ไม่น่าจะมาอยู่ตรงนี้ได้
หมอนั่นมันคนที่เครื่องบินนี่
“หนูเนเน่มาพอดีเลย นี่หลานชายของฉันที่อาศัยอยู่ห้องข้างๆ เขาชื่อนานาเสะ ฮารุกะ ทำความรู้จักกันไว้นะจ๊ะ”
“สวัสดีครับ คุณเนเน่” ชายหนุ่มเอ่ยมาพร้อมกับรอยยิ้มนิดๆ ซึ่งไม่ได้ทำให้หน้าที่ดูเรียบๆของเขาหายเรียบสักเท่าไหร่
จะเหมือนฮารุกะไปไหนเนี่ย
เธอคิดในใจก่อนจะเอ่ยคำทักทายกลับและโค้งตัวน้อยๆ
“สวัสดีค่ะ เนเน่ค่ะ” การสนทนากับคนญี่ปุ่นทุกคนราบรื่น ก็เพราะเธอพูดได้ยังไงหละ
สิ่งมีชีวิตสี่คนบนโต๊ะอาหารทานอาหารกันอย่างเงียบๆ จนคุณซาดาโกะพูดถึงเรื่องในอดีตของหลานชายของเธอ
“เมื่อก่อนตอนสมัยฮารุกะคุงยังเป็นนักเรียนนี่นะ เขาเป็นนักกีฬาว่ายน้ำด้วยหล่ะ เพื่อนๆในทีมของฮารุกะคุงหน่ะ ชื่อเป็นผู้หญิงเหมือนกันเกือบทั้งทีมเลย เว้นมาโคะจังไว้คนเดียวนี่แหละ”
หา?
“นี่หนูเนเน่รู้มั้ย เจ้าฮารุกะเนี่ย วันๆเอาแต่กินปลาซาบะ”
ห๊าาาา?
อะไรคาแรคเตอร์หลักแม่งจะตรงกันขนาดนี้วะ
ผลงานอื่นๆ ของ ผักต้มสุก ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ ผักต้มสุก
ความคิดเห็น