GOBLIN AND HIS GROOM
เมื่อความปรารถนาอันแรงกล้าในช่วงสุดท้ายของลมหายใจแห่งชีวิตของมนุษย์ได้ถูกจุดประกายขึ้นมา เขาผู้นั้นจะได้รับของขวัญแสนพิเศษจากพระเจ้า แต่ก็เป็นการลงโทษที่แสนเจ็บปวดอยู่เช่นกัน
เขา คือ ก็อบลิน...
ในยุคโชซอน เขา ชายหนุ่มผู้ซึ่งเป็นนักดนตรีที่เก่งที่สุดในแผ่นดิน ได้ทุ่มเทชีวิตให้กับการเล่นดนตรีอย่างหนัก และด้วยรูปลักษณ์และท่วงท่าที่งดงามยามสัมผัสเครื่องดนตรี ทำให้หญิงสาวทุกคนที่ได้เห็นและสดับรับฟังเพลงของเขา ตกหลุมรักและละเมอเพ้อถึงเขาไม่หยุดหย่อน
พระราชาได้เรียกเขาให้ไปบรรเลงดนตรีในงานเลี้ยงของวังหลวงหลายต่อหลายครั้ง ซึ่งเป็นที่พอพระทัยของพระองค์เป็นอย่างมาก แต่ด้วยความที่เขาสามารถกุมหัวใจหญิงสาวทั่วอาณาจักรได้ จึงเป็นความจริงที่ว่า พระมเหสีก็ได้มอบหัวใจให้นักดนตรีหนุ่มแห่งยุคไปเช่นเดียวกัน
นักดนตรีหนุ่มที่ได้มอบความรักอันบริสุทธิ์ให้กับพระมเหสีกลับมีชะตาชีวิตตอนจบที่แสนเศร้า เมื่อพระราชาทรงรู้เรื่องเข้า และด้วยความจงรักภักดีครั้งสุดท้ายเขาจึงขอบรรเลงเพลงต่อหน้าพระพักตร์พระราชาและพระมเหสี
ดาบเล่มงามด้ามสลักลายมังกร แทงทะลุร่างกายของชายหนุ่มบริเวณหัวใจ เพื่อเป็นเครื่องหมายว่า เขาได้แย่งหัวใจขององค์ราชันไป
โน้ตเพลงสุดท้ายจบลงพร้อมกับร่างที่แน่นิ่งไป ไร้ลมหายใจ
...
ใช่ เขาได้พบพระเจ้าที่แสนจะเมตตาในมนุษย์อย่างเขา
“ชเว จุนฮง เจ้าจะสลายไปเมื่อเจ้าพบกับคนที่สามารถดึงดาบออกไปจากตัวเจ้าได้” นั่นคือคำสั่งสุดท้ายที่เขาได้ยิน ก่อนทุกอย่างจะดับวูบ
.. ใช่ เขากลายเป็นก็อบลิน
- 1995 -
เด็กผู้ชายคนหนึ่งที่เกิดมาพร้อมกับการช่วยเหลือของก็อบลิน เขาเติบโตมาพร้อมกับการที่ต้องมองเห็นวิญญาณ ได้ยินคำพูดจากเหล่าวิญญาณ ความไม่ถูกต้องของความสัมพันธ์ระหว่างเขากับก็อบลิน
‘ เจ้าบ่าวของก็อบลินอย่างนั้นหรอ ’
‘บ้าหน่า เขาเนี่ยนะ’
‘เป็นไปได้ยังไง’
เขาไม่คิดว่ามันจะเป็นเรื่องจริงไปได้เลย ตำนานก็อบลินมันก็แค่นิทานหลอกเด็กไม่ใช่หรือไง? แต่ตอนนี้ ตอนที่เขาอายุ 25 ปี เขากลับไม่คิดว่ามันเป็นแค่นิทานหลอกเด็กแล้วเนี่ยสิ
- 2020 -
คิมคิบอม .. เขาเป็นนายแบบหนุ่มไฟแรง เรียกได้ว่ากำลังรุ่งสุดๆ ในยุคนี้ นอกจากงานนายแบบเขายังเป็นดีเจ สุดเท่ เพราะความชอบส่วนตัวเรื่องดนตรี อีกทั้งยังอยากลองทำอะไรใหม่ๆในชีวิต เขานึกถึงบทสนทนาที่เคยคุยกับเด็กหนุ่มคนหนึ่ง
“ฮยองรับงานเลยสิ โอกาสแบบนี้ไม่ใช่จะมีง่ายๆนะ ผมพนันได้เลยว่าฮยองจะเป็นดีเจที่งานล้นมือเชียวหละ”
เขายังจำน้ำเสียงการพูด และรอยยิ้มแบบเด็กๆได้อยู่เลย จะว่าไปก็อดคิดถึงไม่ได้แฮะ
เขารู้ข้อมูลเกี่ยวกับเด็กคนนี้น้อยมาก รู้ว่าชื่อ ชเวจุนฮง รู้ว่าอายุอ่อนกว่าเขา และเราชอบเจอกันโดยบังเอิญอยู่เรื่อยไป
อย่างเช่นวันนี้....
พนักงานในบาร์แห่งนี้นำ เทียนหอม มาจุดสร้างบรรยากาศในหลายๆจุด รวมทั้งบนโต๊ะวางอุปกรณ์เครื่องเสียงทั้งหลายของเขา แต่เขากลับไม่ต้องการมัน เขาเป่าเทียนให้ดับวูบไป
เทียนดับไปเหลือเพียงควันกลิ่นกุหลาบ พลันสายตาของเขาก็สบประสานกับใครคนหนึ่งที่แสนคุ้นเคย ที่มักจะเจอกันโดยบังเอิญ
“ชเวจุนฮง นายมาได้ไง”
“เหมือนว่าจะเป็นฮยองสินะที่เรียกผมมา” เขาพึมพำ
“อะไรนะ”
“อ๋อ บังเอิญผมได้รับบัตรเชิญหนะ บังเอิญจังครับที่ฮยองเป็นดีเจที่นี่พอดี” เขาพูด พร้อมกับหยิบแก้วไวน์ที่บริกรเดินมาเสิร์ฟ
“นายอายุเท่าไหร่ ดื่มแอลกอฮอล์ได้แล้วหรอ” ผมถามเขา เพราะหน้าเขามันดูเด็กมากต่างหาก
“อย่าสนใจเรื่องอายุผมเลย ผมอายุเกินยี่สิบแล้วกัน” เขาตอบผมอย่างส่งๆก่อนจะหันไปควงแก้วไวน์ในมือเล่น
“ตามสบายแล้วกัน”
ผมหยุดบทสนทนาไว้แค่นั้น ก่อนจะหันกลับมาสนใจงานตรงหน้าต่อ
เครื่องเล่นเพลงยังทำงานของมันต่อไปได้อย่างดี ผมก็สนุกกับมัน ผมเห็นหลายคนโยกตัวไปพร้อมกับเสียงดนตรีที่ผมสร้างขึ้น รวมถึงเด็กหนุ่มข้างๆผมด้วย ผมอดจะยิ้มเอ็นดูเด็กคนนี้ไม่ได้ ดูไร้เดียงสา แต่ในบางมุมก็ดูผ่านโลกมาเยอะเหลือเกิน
ในชั่วขณะหนึ่ง ผมกลับคิดว่า บางทีเขาอาจจะเป็นก็อบลิน และความรู้สึกบางอย่างก็บอกผมว่าผมคิดถูกแล้ว...
...“บุคคลใดที่สามารถมองเห็นดาบบนร่างเจ้า บุคคลนั้นจะสามารถช่วยเจ้าให้ไปสู่สุขคติ”
“และดาบนั้นจะปรากฏแก่บุคคลผู้นั้นก็ต่อเมื่อเขาเริ่มสงสัยในตัวตนของเจ้า”…
เสียงดนตรีภายในบาร์แห่งนี้ยังคงดังต่อไปท่ามกลางอากาศที่หนาวเหน็บภายนอก ราตรีค่อยๆคืบคลานผ่านพ้นไป
เขาตื่นขึ้นมาในห้องนอนของตนเอง พร้อมกับหยิบโทรศัพท์มือถือข้างเตียงมาดู มันกลายเป็นนิสัยไปแล้วที่ตื่นมาจะต้องทำแบบนั้น คนในยุคนี้เสพติดโซเชี่ยลเน็ตเวิร์คมากเกินไป เขาก็เป็นหนึ่งในนั้นเหมือนกัน
แจ้งเตือนการโพสรูปภาพของใครคนหนึ่งที่เขาติดตามอยู่ปรากฏหลาบนหน้าจอสมาร์ทโฟนเครื่องสวย เขากดเข้าไปดู และพบวามันเป็นวิดีโอสั้นๆในงานเมื่อคืน มีคำอธิบายใต้รูปว่า
‘ บางที ผมก็ไปที่ๆ คิบอมอยู่แหละ ฮะฮ่า ’
ในวิดีโอปรากฏหน้าของชเวจุนฮงที่แอบถ่ายเขา ท่าทางสนุกสนานของคนในวิดีโอทำให้เขายิ้มออกมาไม่ยาก เขาเริ่มจะสนใจในตัวเด็กคนนี้แล้วสิ
เขาลองตั้งสมมติฐานในหลายๆอย่าง หลังจากได้เจอ ชเวจุนฮง รวมทั้งสมมติฐานที่เขาคิดเมื่อวาน เขาไม่ได้เมาอย่างแน่นอน อีกทั้งเวลาที่เขาอยู่กับจุนฮง เหล่าวิญญาณทั้งหลายก็ดูจะไม่กล้าเข้ามาวุ่นวายกับชีวิตเขามากนัก
‘เขาคือ ก็อบลิน’
‘ใช่แล้วนายคิดถูกแล้ว’
‘นายคือเจ้าบ่าวของก็อบลิน’
พอเขาออกมาข้างนอก เขาก็ได้ยินเสียงกระซิบกระซาบของพวกผีไม่ขาดสาย แต่มีเสียงหนึ่งที่แปลกออกไป
‘เป่าเทียนสิ แล้วเจ้าจะรู้’
เขาหันซ้าย หันขวา แต่ก็ไม่พบใคร เหมือนเสียงนั้นก้องอยู่ในหัวเสียมากกว่า เขาใช้แอพจุดเทียนใน
โทรศัพท์มือถือ และลองทำตามคำสั่งของเสียงนั้น
ฟู่วว..
ร่างสูงที่คุ้นเคยปรากฏขึ้นตรงหน้าเขา ในชุดเสื้อเชิ้ตตัวบางที่ดูไม่เข้ากับสภาพอากาศติดลบแบบนี้
“เฮ้อ ฮยองจะเรียกผมมาก็ช่วยดูสถานการณ์ว่าผมกำลังทำอะไรอยู่หน่อย ไม่ได้หรือไง ข้างนอกนี่มันหนาวนะ” จุนฮงกอดตัวเอง พร้อมกับทำหน้าไม่พอใจคนตรงหน้า
“นายเป็นใคร ก็อบลินจริงๆหรอ เหอะ ไม่อยากเชื่อเลยแฮะ” เขาทำหน้าเหมือนไม่มีอะไรจะเสียอีกแล้ว ก่อนจะถอดเสื้อโค้ทตัวนอกออกแล้วห่มให้คนที่กำลังกอดตัวเอง
“ขอบคุณครับ แล้วฮยองเป็นใคร ผมไม่เคยเจอใครที่เรียกผมออกมาได้แบบนี้มาก่อน อย่าบอกนะว่า ฮยองเป็นเจ้าบ่าวของก็อบลิน” เด็กหนุ่มพูดอย่างทีเล่นทีจริง
“ถ้าใช่จะเป็นอะไร ใครๆก็บอกฉันแบบนี้”
“ถ้าใช่ก็ดึงดาบที่ปักอยู่บนตัวผมสิ” เด็กหนุ่มจ้องหน้านายแบบหนุ่ม ไม่มีแววตาขี้เล่นอีกต่อไป
มือเรียวลูบด้ามดาบ ไล้ไปตามรอยสลักรูปมังกร..สวยงาม แต่ก็สัมผัสได้ถึงอดีตที่แสนเศร้า
‘ใช่ เขาสัมผัสมันได้’ เรื่องบ้าๆนี่เป็นเรื่องจริง
เขาขยับเข้าไปใกล้เด็กหนุ่มตัวขาวมากขึ้น โดยที่มือก็ยังไม่ละไปจากด้ามดาบ กระซิบอย่างแผ่วเบาให้ได้ยินกันเพียงสองคน
“ฉันจะไม่ดึงดาบออก”
“ฉันรู้สึกสนใจในตัวนายซะแล้วสิ ก็อบลินที่รัก”
“ขอทำหน้าที่เจ้าบ่าวของก็อบลินก่อนก็แล้วกันนะ”
“แต่งงานกันเถอะ”
“แค่นายกับฉัน”
“คิมคิบอม และ ชเวจุนฮง”
____ FIN____
สวัสดีค่ะ ขอทอล์กเล็กๆนะคะ คือโมเม้นต์เขามา แล้วพอดีช่วงนี้เราอินจากก็อบลินอยู่ เราเลยแต่งวันช็อตเรื่องนี้ขึ้นมาค่ะ เรือเราจะไม่มีวันจม ถ้าเรือเราจมไรท์คนนี้จะจมไปพร้อมกับเรือเองค่ะ 55555 พูดคุยกันได้ค่ะ ฝากฟิคคู่นี้ไว้ในอ้อมอกอ้อมใจด้วยนะคะ คอมเม้นต์เล็กๆน้อยๆคุยกันได้ค่ะ ฝากด้วยนะคะ
Twitter @xT_rek
Cr: IG : officialbyzelofilm_
caption translate fron twitter @ONLYBAP_TH