Penalty บทลงโทษแห่งรัก Lodae - Penalty บทลงโทษแห่งรัก Lodae นิยาย Penalty บทลงโทษแห่งรัก Lodae : Dek-D.com - Writer

    Penalty บทลงโทษแห่งรัก Lodae

    จองแดฮยอนเป็นตำรวจ ส่วนชเวจุนฮงเป็นโจร ความรักของพวกเขาจะเป็นอย่างไร?

    ผู้เข้าชมรวม

    419

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    1

    ผู้เข้าชมรวม


    419

    ความคิดเห็น


    2

    คนติดตาม


    4
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  5 ธ.ค. 57 / 12:24 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น
    จองแดฮยอนไม่ได้ทำอะไรผิดเพียงแต่เขารักคนที่ทำผิดเท่านั้นทำไมเขาจะต้องพลอยถูกลงโทษไปด้วยหละ เพียงเพราะรักคนที่ชื่อชเวจุนฮงอย่างนั้นหรอ?
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

      Penalty

                      เสียงหัวเราะใสๆสองเสียงดังมาจากสนามหญ้าหลังบ้าน บรรยากาศอบอวลไปด้วยความรักอันหอมหวาน รอยยิ้มแสนสวยของทั้งคู่ถูกส่งมอบให้แก่กัน ช่างเป็นภาพที่น่าประทับใจของ จอง แดฮยอน และ ชเว  จุนฮง

                      เวลานี้เขามีความสุขเสียยิ่งกว่าอะไร การที่ได้อยู่กับคนรักแบบนี้ทำให้ไม่อยากคิดถึงความทุกข์ใดๆที่จะผ่านเข้ามาในชีวิต

                      “นี่จุนฮง นายจะอยู่กับฉันตลอดไปมั้ย” เสียงนุ่มเอ่ยขึ้นทั้งที่นอนตักอีกคนอยู่

                      “ทำไมพี่พูดอย่างนั้นหละครับ ผมจะหนีไปไหนได้” เสียงของคนที่เด็กกว่าเอ่ยขึ้นพร้อมลูบหัวคนที่นอนตัก

                      “ฉันก็แค่สงสัยไง นี่นายรู้มั้ยพี่มีข่าวดีจะบอกนายนะ พี่สอบเป็นตำรวจได้” เจ้าของเสียงลุกขึ้นมาจ้องหน้าเด็กหนุ่มด้วยสายตาดีใจพลางส่งยิ้มหน้าแมวให้

                      “จริงหรอครับ ดีใจด้วยนะครับ พี่จะต้องเป็นตำรวจที่ดีแน่ๆ” เด็กหนุ่มพูดตอบกลับไปด้วยสายตาที่หม่นลงเล็กน้อย แต่ก็ไม่ทันที่อีกคนจะได้สังเกต  มือของคนเป็นน้องจับไปที่มือบางเบาๆ

                      “งั้นเราไปเลี้ยงฉลองกันดีมั้ย” แดฮยอนยืนขึ้นก่อนแล้วค่อยดึงมือขาวๆของอีกคนลุกขึ้นยืนตาม

                      ถึงแม้จะได้ชื่อว่าเป็นน้องแต่ก็มีส่วนสูงที่มากกว่าแดฮยอนอยู่มากทีเดียว เสื้อยืดสีขาวที่สวมทับในด้วยกางเกงยีนส์สีซีดกับผมสีเทาควันบุหรี่ส่งให้เด็กหนุ่มร่างสูงดูหล่อเหลาเอาการ

                      “ครับ ผมจะเลี้ยงพี่เอง” เด็กหนุ่มที่ตอนนั้นอายุเพียงยี่สิบปีเอ่ยขึ้น

                      พี่แดฮยอน ผมขอโทษนะครับคิดในใจพลางส่งยิ้มออกไปและดึงมือเล็กของอีกคนขึ้นมากุมไว้และพาออกไปตามใจอีกคน

                      Lamborghini huracan สีขาวแล่นออกจากบ้านของแดฮยอนอย่างรวดเร็วพร้อมกับหัวใจสองดวงที่ตอนนี้กำลังจะเผชิญกับเรื่องที่คาดไม่ถึง

       

       

                      หลังจากที่ทั้งสองคนได้เลี้ยงฉลองกันด้วยเค้กต่างๆมากมาย รวมไปถึงชีสเค้กของโปรดของแดฮยอนทั้งคู่ก็เดินเที่ยวกันอีกเล็กน้อย

                      “พี่แดฮยอนอยากได้อะไรมั้ยครับ” เสียงของจุนฮงดังขึ้นขณะที่พวกเขากำลังเดินเล่นกันอยู่แถวร้านขายเครื่องประดับ

                      “ไม่นะ จุนฮงอยากได้อะไรอย่างนั้นหรอ” เอ่ยพร้อมหันมามองเด็กหนุ่มข้างตัว

                      “ผมไม่อยากได้หรอกครับแต่ผมอยากให้พี่มากกว่า” พูดจบพร้อมยิ้มหวานจนเห็นลักยิ้มส่งให้ และจูงมือคนตัวเล็กกว่าให้เดินตามเข้าไปในร้านเครื่องประดับ และเลือกดูแหวน

                      แหวนสีเงินเกลี้ยงถูกนำออกมาวางให้คนทั้งคู่ลองสวมใส่

                      “พี่ชอบมั้ยครับ” ร่างสูงหันมาถามคนข้างๆพร้อมกับลองสวมให้อีกคน

                      “ชอบสิ ชอบมากๆเลยด้วย” คนตัวเล็กกว่าหันไปยิ้มให้อีกคนอย่างน่ารัก พร้อมลูบไปบนแหวนเงินเกลี้ยงเบาๆ

                      “ผมดีใจนะที่พี่ชอบ ขอแบบนี้สองวงครับ” หลังจากจ่ายเงินแล้วเขาก็มุ่งหน้ากลับบ้านกันทันที

                      “พี่ครับ คืนนี้ผมขอค้างบ้านพี่นะ” เด็กหนุ่มพูดพลางช่วยอีกคนถือของเข้ามาในบ้าน

                      “ได้สิ ปกติก็ค้างอยู่แล้วหนิ” ร่างบางพูดพลางส่งยิ้มขบขันไปให้

                      แดฮยอนหยิบผ้าเช็ดตัวแล้วเข้าไปอาบน้ำก่อนทำให้จุนฮงมีเวลานั่งคิดอะไรเงียบๆคนเดียวสักพัก

                      เขาหยิบกล่องใส่แหวนของตัวเองออกมา นิ้วเรียวไล้ไปตามวงแล้วสวมลงไปที่นิ้วนางข้างซ้าย น้ำตาพาลจะไหลเมื่อคิดถึงคืนนี้จะเป็นคืนสุดท้ายที่เขาจะได้อยู่กับแดฮยอน เพราะงานของเขากับแดฮยอนมันช่างขัดกันเกินไป เขาไม่โกรธแดฮยอนแต่มันก็เป็นหน้าที่ของเขา เขาเลือกไม่ได้

                      ร่างบางออกมาจากห้องน้ำพร้อมกับชุดนมสีขาวตัวโคร่งและกางเกงนอนน่ารักขายาว ทำไมจุนฮงต้องเดินเข้าไปดึงแก้มเล่นเหมือนเด็ก

      “น่ารักจัง” พูดพลางกอดเอวบางๆนั่นหลวมๆแล้วแอบหอมแก้มนิ่มๆนั่นไปหนึ่งที

      จุนฮง ไอบ้า ตัวยังไม่ได้อาบน้ำแล้วมาหอมเค้า ไปอาบน้ำเลยไอหมาน้อยพยายามจะดิ้นออกจากอ้อมกอดของอีกคนแต่ก็สู้แรงยักษ์ไม่ได้เลยได้แต่ยืนนิ่งๆให้อีกคนกอดไว้โดยดี

      “ขออยู่แบบนี้อีกสักพักนะ” พูดเสียงอ้อนๆแล้วกอดร่างบางอยู่สักพักหนึ่งแล้วจึงปล่อยให้เป็นอิสระ จากนั้นก็เดินเข้าห้องน้ำไป

       

      หลังจากที่ร่างสูงอาบน้ำเสร็จก็เห็นคนเป็นพี่นั่งขัดสมาธิดูทีวีอยู่บนเตียง เขายิ้มและเดินไปนั่งดูข้างๆ  ทั้งสองเงียบไม่มีใครพูดอะไรออกมาจนกระทั่งร่างบางปิดทีวีแล้วหันมาหาคนตัวสูงกว่า

      จุ๊บ

      ริมฝีปากของร่างบางแตะเบาๆที่ริมฝีปากสีอมชมพูได้รูปของร่างสูง เป็นสัมผัสที่ไม่มีการรุกล้ำใดๆ มีแต่ความสุขและความอบอุ่นปนความน่ารักเล็กๆ

      “อยากได้อีก” ร่างสูงงอแงเมื่ออีกคนถอนริมฝีปากออกพร้อมล้มตัวลงนอน

      “นอนได้แล้วครับจุนฮง” เสียงอู้อี้ดังมาจากใต้ผ้าห่ม และคงไม่ต้องเดาว่าคนใต้ผ้าห่มนั้นกำลังหน้าแดงเพราะความเขินนั่นแน่ๆ

      ร่างสูงก้มตัวลงไปหอมแก้มใสๆของอีกคนแล้วล้มตัวลงนอนข้างๆกัน ไร้คำพูดใดๆจากทั้งคู่ที่ตอนนี้หันหน้าเข้าหากัน

      “ผมรักพี่แดฮยอนนะครับ ไม่ว่าจะเป็นตอนนี้หรือในอนาคตขอให้พี่จำไว้ว่าผมก็รักพี่แดฮยอนมากที่สุด” และในท้ายที่สุดก็เป็นจุนฮงที่เอ่ยขึ้นมาก่อน

      “อืม ฉันก็รักนายนะ รักมากๆด้วย” ร่างเล็กหัวเราะคิกคักพร้อมบีบจมูกร่างสูงเบาๆ

      “นอนกันเถอะ” ร่างเล็กเอ่ยพร้อมปิดไฟที่หัวเตียง  และซุกหาอ้อมกอดอันอบอุ่นของอีกคน อ้อมกอดที่ไม่ว่าเมื่อไรมันก็อบอุ่นสำหรับเขา

      คืนนี้คงจะเป็นคืนที่เจ็บปวดของจุนฮง มันเป็นความเจ็บปวดที่สามารถฆ่าคนได้เลยทีเดียวเมื่อคิดถึงสิ่งที่มันกำลังจะตามมาหลังจากผ่านพ้นคืนนี้

      การที่คนที่ยังรักกันอยู่ต้องจากกันและทำเหมือนเป็นคนไม่รู้จักและกลายมาเป็นศัตรูนั้นจะเจ็บปวดเพียงใดทั้งสองคนกำลังจะได้เรียนรู้อีกรสชาติหนึ่งของความรัก ที่ไม่ได้สวยหรูเหมือนในนิยาย หรือหวานหอมเหมือนน้ำหวานที่พวกเขาชอบกิน แต่มันอาจจะเป็นกาแฟที่ขมจนกินไม่ได้เลยก็เป็นได้

       

      ร่างสูงสัมผัสได้ถึงการหลับสนิทของคนในอ้อมกอด เขาอยากจะกอดแดฮยอนให้มากกว่านี้ อยากจะซึมซับจดจำทุกความรู้สึก ทุกสัมผัสที่มีกับแดฮยอน ความทรงจำทุกอย่างที่มีด้วยกัน เขาต้องการจะเก็บมันไว้ทั้งหมดก่อนที่เขาจะไป

      เขาบรรจงจูบที่หน้าผากของร่างในอ้อมกอด และจูบแผ่วเบาที่ริมฝีบอกอิ่มนั่นก่อนจะค่อยๆขยับออกมาและห่มผ้าให้คนในอ้อมกอด ร่างบางหลับอย่างสนิทจนไม่รู้ว่ากำลังจะมีคนหนีไป

      และโพสอิทก็ถูกแปะไว้ที่หัวเตียงพร้อมกับลายมือสวยที่ติดจะสั่นเล็กๆเขียนว่า

      ผมรักพี่แดฮยอนนะครับ ขอบคุณสำหรับทุกอย่าง อย่าตามหาผม ถ้าถึงเวลาเราก็คงได้เจอกัน แต่ตอนนั้นมันอาจจะเป็นช่วงเวลาที่ยากลำบาก พี่ต้องเข้มแข็งนะ เพราะยังไงผู้ร้ายอย่างผมกับคนดีอย่างพี่ก็คงไม่มีทางไปกันได้ ยิ้มเข้าไว้นะครับรัก  ชเว จุนฮง

       

       

      หัวสีคาราเมลของจองแดฮยอนกำลังถูกยีให้ยุ่งเพราะงานที่ทำมาสามวันยังไม่สามารถปิดคดีได้ ความจริงไม่ใช่สามวันสิ ต้องบอกว่าห้าปีต่างหาก แต่ที่มันเป็นสามวันี่ก็เพราะเขาได้เบาะแสที่สำคัญที่จะนำตัวไปหาคนร้ายได้

      “รุ่นพี่แดฮยอนครับ พักสักหน่อยเถอะครับ พี่ไม่ได้นอนมาสามวันแล้วนะครับ ข้าวก็ไม่ค่อยได้กิน เดี๋ยวไปสบายไปจะแย่นะครับ” จงออบรุ่นน้องที่ร่วมทำคดีเดียวกับเขาเอ่ยเตือนเมื่อเห็นเขานั่งหาวพลางมองเอกสารในมือ

      “ไม่เป็นไรหรอก ฉันอยากให้คดีนี้มันจบเร็วๆหนะ เราใกล้จะเข้าไปถึงหัวหน้ามันแล้ว” ร่างบางยังคงอ่านเอกสารในมือพลางจิบกาแฟแก้วที่เท่าไรไม่รู้ไปอีกอึกใหญ่

      จงออบจึงได้แต่พยักหน้าแล้วกลับไปทำงานต่อ

      แดฮยอนไม่แน่ใจว่าเขาอยากปิดคดีนี้เร็วๆหรือเขาอยากจะเจอหัวหน้าแก๊งค์มาเฟียกลุ่มนี้กันแน่ เขาคนนั้นที่เคยมอบความทรงจำดีๆไว้ให้พร้อมๆกับความทรงจำที่แสนเศร้าและเลวร้าย เขาผ่านช่วงเวลานั้นมาอย่างยากลำบาก เมื่อนึกย้อนกลับไปน้ำตาก็พาลจะไหลอยู่ตลอดเวลา คนคนนั้นช่างทำกับเขาได้ลงคอ ทั้งที่สัญญากันไว้แล้วแท้ๆ

       

      ร่างสูงในชุดสูทสีดำเสื้อเชิ้ตข้างในเป็นลายตามแฟชั่นละหูกระต่ายสีเหลืองอ่อนพร้อมกับผมบลอนด์ทองที่เริ่มยาวระต้นคอกับจิวหูสีดำนั้นดูรับกับเครื่องหน้าของชายผู้เป็นใหญ่ที่สุดในที่แห่งนี้ ถึงแม้จะอายุค่อนข้างน้อยแต่ก็ถือได้ว่าเขาเก่งมากทีเดียวที่สามารถปกครองลูกน้องเป็นร้อยให้อยู่ใต้อำนาจของเขาได้

      “คุณเจลโล่ครับ งานใกล้จะเริ่มแล้วครับ เชิญข้างในดีกว่า” มือขวาของเจลโล่หรือชเวจุนฮงกระซิบบอกกับคนเป็นเจ้านาย 

      ร่างสูงพยักหน้าและเดินแจกยิ้มทักทายสาวๆและหัวหน้าแก๊งค์คนอื่นๆไปตลอดทางจนถึงเวทีใหญ่ที่ถูกจัดไว้อย่างสวยงาม

      “สวัสดีครับ ผมยินดีเป็นอย่างมากที่พันธมิตรของเรามากันอย่างครบถ้วน ผมคิดว่าการประชุมของเราพรุ่งนี้คงจะราบรื่นไปได้ด้วยไร้พวกแมลงหวี่แมลงวันนะครับ ส่วนคืนนี้ก็ขอให้ทุกท่านสนุกกับงานเลี้ยงกันอย่างเต็มที่ ก่อนจะได้เริ่มงานใหญ่กันจริงๆ ขอบคุณครับ” พูดจบก็ได้รับเสียงปรบมือจากทุกคน ชายหนุ่มเดินลงมาและร่วมสนุกับแขกเหรื่อในงานเล็กน้อยก่อนจะขอตัวออกมาข้างนอก

                      Ferrari GTE สีดำ พุ่งตัวออกสู่ถนนด้วยความรวดเร็ว เพราะเขาเบื่องานเลี้ยงเต็มที และงานของเขาที่พรุ่งนี้ต้องจัดการให้สำเร็จลุล่วง  การค้าอาวุธให้ผู้รับซื้อรายใหญ่จากฝรั่งยุโรปทำให้พวกเขาและพันธมิตรต้องทำงานกันอย่างหนักและงานนี้ต้องไม่มีคำว่าพลาด พวกตำรวจนั่นต้องไม่มีวันจับตัวเขาได้

                      ทันทีที่เขาได้ยินว่าแดฮยอนทำคดีนี้เขาถึงกับอึ้งไปสักพัก มันคงถึงเวลาที่พวกเขาต้องเจอกันแล้วหละ แต่ก็นะถ้ามันเป็นโชคชะตาอะไรหละจะมาห้ามได้

                      เมื่อห้าปีก่อนเขารู้ตัวว่าตัวเองต้องเป็นผู้สืบทอดต่อจากพ่อผู้สูงศักดิ์ของเขา เขาเลยต้องหนีออกมาจากแดฮยอนทั้งที่ยังรักกันอยู่มากมาย เพราะแดฮยอนเลือกที่จะเป็นตำรวจและเขาเลือกที่จะเป็นคนร้าย

      เป็นโชคชะตาที่ตลกชะมัด

      นี่คือข้อสรุปที่เขาคิดได้ แต่หน้าที่ย่อมมาก่อนความรัก ข้อนั้นเขารู้ดีและตอนนี้เขากำลังทำหน้าที่นั้นอยู่ ร่างสูงเหยียบคันเร่งพุ่งตรงเข้าไปในสนามแข่งรถที่ไร้ผู้คน รถหรูขับวนไปตามเส้นทาง อย่างรวดเร็วและคล่องแคล่ว นี่เป็นหนทางเดียวที่จะสยบจิตใจที่วุ่นวายของเขาได้

      ชายหนุ่มใช้เวลานานกว่าชั่วโมงในสนามแข่งรถนั้นก่อนที่จะพุ่งรถตรงกับบ้านเพื่อผ่อนคลายความตรึงเครียดทั้งหมด

       

      “จุนฮง แกแน่ใจว่าจะทำไหว” เสียงของผู้เป็นพ่อดังขึ้นเมื่อเขานั่งลงที่โซฟาที่มีพ่อกับแม่นั่งรออยู่ก่อนแล้ว

      “โถ่ พ่อนี่มันระดับไหนแล้ว อย่าห่วงไปเลยน่า” ร่างสูงพูดพร้อมกับลุกขึ้นจากโซฟา เดินไปกอดคนเป็นพ่อและแม่และพูดถ้อยคำอันไม่เป็นมงคลออกมา

      “หรือถ้าไม่ไหวอย่างน้อยก็ถูกจับแต่ถ้าอย่างมากแค่ตาย หึหึ” ร่างสูงพูดพลางสะบัดเสื้อสูทพาดไหล่แล้วเดินหันหลังขึ้นบ้านไป

      คิดหรอว่าเขาชอบไองานที่ทำอยู่นี่มากนัก เปล่าเขาเกลียดและกลัวมันยิ่งกว่าอะไร มันเป็นสิ่งที่ทำให้เขากับ    แดฮยอนต้องกลายเป็นศัตรูกัน มันทำลายความสุขทั้งชีวิตของเขาไปจนหมดสิ้น แต่ในเมื่อมันเป็นหน้าที่เขาก็ยินดีที่จะทำ ถึงแม้จะรู้ว่าจุดจบของคนเลวอย่างเขามันเป็นเช่นไร เขาก็จะยอมรับการพิพากษาจากสวรรค์อย่างจำนน

      “นายแน่ใจนะว่ามันนัดส่งอาวุธกันที่นี่หนะ” แดฮยอนถามลูกน้องคนสนิท

      “สายข่าวของเรารายงานมาว่ามันนัดส่งอาวุธกันที่นี่ตอนเที่ยงคืนนี้ และมันเป็นโอกาสที่เราจะรวบตัวพวกมันนะครับ” จงออบรายงานพร้อมออกความเห็น

      “อืม ถ้างั้นเรากลับไปวางแผนกันก่อนเราคงต้องใช้กำลังเสริมเยอะเลยหละ แล้วทำเรื่องนี้ให้เงียบที่สุดนะเข้าใจมั้ย” ออกเสียงสั่งพร้อมเบือนหน้าจากท่าเรือขนส่งสินค้าที่ตอนนี้เริ่มมีคนของแก๊งค์ซามินที่เจลโล่ควบคุมอยู่มาเดินตรวจตราความเรียบร้อยและเฝ้าเวรยาม

       

      “ครับงั้นเอาตามนี้นะครับ ผมจะเข้าไปสังเกตการก่อนแล้วถ้ามีสัญญาณปืนจากผมกำลังเสริมก็เข้าไปล้อมได้เลย” หลังจากหัวหน้าสูงสุดของงานนี้พูดขึ้นทุกคนก็พยักหน้าเข้าใจและแยกย้ายกันไปเตรียมความพร้อมของตัวเอง

      จุนฮง การเจอกันที่ยากลำบากกำลังจะมาถึงแล้วสินะ นายเลือกเองนะ แล้วเจอกันไอคนใจร้ายคิดในใจพลางเดินไปเตรียมตัวเหมือนคนอื่นๆบ้าง

       

      “อีกกี่นาที” ชายหนุ่มร่างสูงในชุดเสื้อกล้ามสีดำคุมทับด้วยเสื้อแจ็คเก็ทหนังสีดำและสีผมบลอนด์ทองที่ออกจะติดสีเทามาเล็กน้อยเอ่ยถามคนที่เข้ามาในห้องของตน

      “อีกสิบห้านาทีครับนาย เราควรไปกันได้แล้วนะครับ” ลูกน้องคนสนิทเอ่ยตอบ

      “เคลียร์ทางเรียบร้อยแล้วใช่มั้ย ไอพวกตำรวจนั้นนายตรวจสอบหรือยังว่าพวกมันไม่รู้” ร่างสูงยังคงนั่งมองรูปถ่ายบนโต๊ะโดยไม่เงยหน้าถามคนที่ยืนอยู่หน้าโต๊ะทำงานของตัวเอง

      “ครับ ถนนสายนั้นเงียบกริบ ไม่มีวี่แววของพวกตำรวจ แต่มีด่านก่อนที่จะไปถึงทางแยกเข้าถนนเส้นนั้น แต่คุณไม่ต้องห่วงนะครับ ผมสั่งให้คนไปจัดการเรียบร้อยแล้วและตอนนี้ทางสะดวก” มือขวาของเขารายงานการทำงานอย่างคล่องแคล่วและทำงานได้อย่างดีเยี่ยม

      “ดีมากยองแจ” ชายหนุ่มลุกขึ้นยืนเต็มความสูงก่อนจะก้าวเดินออกนอกห้องไปโดยที่วางรูปภาพเก่าๆที่เคยถ่ายกับใครบางคนไว้บนโต๊ะอย่างไม่ไยดี

       

      รถ Jaguar C-X6 สีขาวแล่นออกไปบนถนนที่โล่งผิดปกติ เพราะอย่างที่ยองแจบอกเขาเคลียร์ทางสำหรับงานนี้เรียบร้อยแล้วซึ่งมันไม่ใช่เรื่องยากสำหรับเขาที่จะทำแบบนี้

      รถคันหรูถูกแล่นมาจอดรอที่ท่าเรือแห่งหนึ่งที่ซึ่งเป็นที่นัดหมาย และไม่นานรถตู้สีดำคันหนึ่งก็ขับมาจอดเทียบด้านข้าง ร่างสองร่างลงมาจากรถคันหรูสีขาวและชายฉกรรจ์อีกประมาณห้าคนก็ลงมาจากรถตู้คันดำพร้อมกับลังไม้ขนาดใหญ่อีกห้ากล่อง

      แดฮยอนที่กำลังแอบมองดูอยู่เห็นเจลโล่เดินไปรอบๆกล่องนั้นและเปิดเช็คดูภายในกล่อง  ใบหน้าที่คุ้นเคยที่ไม่ได้เห็นกันมานานห้าปีทำให้เขาอยากจะวิ่งเข้าไปกอดไว้ด้วยความคิดถึง แต่หน้าที่การงานและสิ่งผิดกฎหมายที่อีกคนนั้นทำทำให้เขาไม่สามารถทำได้อย่างที่ต้องการ เขาเฝ้ามองการกระทำต่างๆอย่างเงียบๆจนกระทั่งมีรถหรูอีกคันเข้ามาและคงจะเป็นผู้ซื้อรายใหญ่ เพราะเห็นว่าจุนฮงเข้าไปพูดคุยกับเขาอย่างสนิทสนมและมีการส่งมอบ เขาอาศัยจังหวะที่จุนฮงและผู้ซื้อรายใหญ่คนนั้นพูดคุยกันและกำลังขนอาวุธ เขาก็ยิงปืนขึ้นฟ้าทำให้มีกำลังตำรวจนับร้อยเข้ามารอบคนร้ายกลุ่มนี้เอาไว้

      ร่างบางผมสีคาราเมลเดินเข้าไปใจกลางวงล้อมพร้อมจ่อปืนไปที่อดีตคนรัก

      “ไงจุนฮง ไม่ใช่สิ เจลโล่” ร่างบางยิ้มมุมปากเล็กน้อย แต่เป็นยิ้มที่ช่างหม่นหมองเหลือเกินในยามที่มองไปยังอดีตคนรัก

      “สวัสดีครับ คุณตำรวจ”เจลโล่ยกมือขึ้นเหนือหัวพลางส่งยิ้มกวนๆไปให้คนที่เรียกชื่อเขา

      “สบายดีนะครับ ไม่เจอกันนานคุณดูซูบไปนะแดฮยอน” ร่างสูงเปลี่ยนจากสีหน้ากวนๆไปเป็นยิ้มบางๆให้อดีตคนรักแทน มันเป็นความรู้สึกในใจของเขาจริงๆ เขาคิดถึงคนตรงหน้าเหลือเกินตั้งแต่วันที่เขาจากมา

      “หึ ไม่ต้องทำมาพูดดี ยอมมอบตัวซะ” ร่างบางไม่ยอมโอนอ่อนตามคำทักทายของจุนฮงแต่กลับทำเหมือนคนไม่รู้จักกัน

      “ใจร้ายจังนะครับ แต่เอาเถอะถ้าคุณอยากลืมเรื่องเมื่อห้าปีก่อนมากนักก็เชิญเลยแต่ว่าแหวนที่นิ้วคุณสวยดีนะครับ แบบเดียวกับผมเลย” ร่างสูงยังพูดกวนโมโหไม่หยุด พลางเอื้อมมือขึ้นไปลูบแหวนแบบเดียวกันที่ห้อยอยู่ที่คอขาวของเขา

      “คุณคิดถึงผมบ้างมั้ยครับ” ร่างสูงยังเอ่ยไม่หยุดพร้อมกับสืบเท้าก้าวเข้ามาหาแดฮยอน โดยที่ไม่เกรงกลัวปืนในมือ

      “ถอยไป เลิกพูดอะไรบ้าๆได้แล้ว ยอมมอบตัวซะ!” เสียงกดไกปืนดังกริ๊กเป็นสัญญาณว่าร่างบางนั้นเอาจริง แต่จุนฮงก็ทำใจไว้แล้วว่าคนบาปยังไงมันก็ต้องได้รับผลของการทำบาป จะมากจะน้อยมันก็ขึ้นอยู่กับผู้พิพากษาซึ่งอาจจะเป็นคนตรงหน้าเขาตอนนี้ก็ได้

      เขายอมรับผิดทุกอย่าง ความทุกข์ในเวลาที่ผ่านมามันมากเกินไป เขาเหนื่อยเหลือเกิน เขากำลังจะหยุดทุกอย่างเพื่อกลับไปหาแดฮยอน ยอมให้ตัวเองได้รับผลของสิ่งเลวร้ายที่ตัวเองได้ทำลงไป

      “แดฮยอน ผมยังรักคุณนะ” ทันทีที่ร่างสูงพูดจบกระสุนนัดแรกก็ฝังเข้าที่ขาของคนพูดด้วยฝีมือของอดีตคนรัก

      “ฉะ ฉันบอกให้หยุดพูดไง!” น้ำเสียงสั่นๆ กับมือสองข้างที่แทบจะรับน้ำหนักของปืนไว้ไม่ไหว

      “ถ้า ฮึก นะ นายไม่หยุด ฮึก ฉันจะยิงนาย” เสียงที่เจือสะอื้นของแดฮยอนดังขึ้นมันช่างเป็นเสียงที่น่าสงสารและเจือไปด้วยความเจ็บปวด

      “ผมยอมรับผิดทุกอย่าง ขอแค่คุณอย่าเกลียดผม” ร่างสูงที่ทรุดลงไปกับพื้นเอ่ยขึ้นอย่างยากลำบาก เพราะความเจ็บปวดที่บาดแผลถูกยิงและบาดแผลภายในใจ

      “ฉันบอกให้ ยะ หยุด ไง หูหนวกรึไง!” ตะโกนออกไปพร้อมกับมือที่ตกลงข้างตัวของแดฮยอน

      ในจังหวะนั้นมีพวกผู้ร้ายยิงสวนกับไปหาตำรวจเมื่อเห็นว่าเจ้านายของมันโดนยิง ทำให้เหตุการณ์ชุลมุนวุ่นวายกันไปใหญ่ ร่างสูงถูกยิงเข้าที่แขนอีกข้าง ก่อนที่เหตุการณ์ทั้งหมดจะถูกควบคุมได้โดยเหล่าตำรวจฝีมือดีทั้งหลายที่ถูกฝึกมาเป็นอย่างดี

      เมื่อคนร้ายถูกควบคุมตัวทั้งหมด แดฮยอนก็ไม่รีรอที่จะพุ่งเข้าไปหาร่างสูงที่ทรุดอยู่ตรงหน้าและเข้าไปประคองร่างที่โชกไปด้วยเลือดของอีกคน

      “เรียกรถพยาบาล เร็วสิ เร็วเข้า!” ตะโกนสั่งลูกน้องเสียงดังอย่างคุมสติไม่อยู่

      “จุนฮง จุนฮง อึก เค้าขอโทษ นะ นายต้อง ฮึก ไม่เป็นไรนะ รถพยาบาลมาแล้ว ไปโรงพยาบาลกัน” ร่างบางพยายามควบคุมไม่ให้เสียงตัวเองสั่นไปมากกว่านี้ และกอดร่างคนรักไว้ในอ้อมกอด

      “มันก็ถูก อึก แล้วนี่ หึ คนทำผิดก็ต้อง อึก ได้รับ ทะ โทษ ของมัน” ร่างสูงพูดออกมาอย่างยากลำบาก เสื้อสูตเปื้อนไปด้วยคราบเลือดสีแดงดูน่ากลัว

      “ถ้านายเป็นอะไรไป ฉันหนะ ฉันจะเกลียดตัวเอง ฉัน ฮึก จะไม่ให้นายตายเด็ดขาด ” ร่างบางยังคงกุมมือของร่างสูงที่ตอนนี้ถูกหามขึ้นรถโรงพยาบาลเรียบร้อยแล้ว

      ถึงจะพยายามปฏิเสธเพียงใดว่าเขาไม่ได้รักคนใจร้ายคนนี้แล้วแต่ใจมักไม่เคยเชื่อฟัง มันยังคงบอกอยู่เสมอว่าเขารักจุนฮงมากเพียงใด จอนที่เขาลั่นไกปืนใส่จุนฮงนั้นเขาแค่อยากให้อีกคนกลัว เขาอยากให้อีกคนไม่ต้องพูดคำหวานที่ฟังแล้วมันปวดใจสิ้นดี  แต่เขากลับทนไม่ได้ที่ต้องเห็นจุนฮงเป็นแบบนี้ เหมือนลมหายใจของเขากระตุกวูบเมื่อมองเห็นใบหน้าขาวที่ตอนนี้ขาวซีดจากการเสียเลือดมากกว่าเดิม และดวงตาที่หลับพริ้ม เขาจะอยู่อย่างไรถ้าคนตรงหน้าต้องจากไปด้วยฝีมือเขา คิดพลางน้ำตาที่กลั้นไว้ก็ไหลลงมาเป็นสายพร้อมเสียงสะอื้นที่ไม่สามารถเก็บไว้ได้อีกต่อไป

       

       

      “ตอนนี้คนไข้ปลอดภัยแล้วครับ ดีที่กระสุนไม่โดนจุดสำคัญ ถึงแม้จะเสียเลือดไปมากแต่ถ้าให้เลือดอีกสักวันสองวันก็คงดีขึ้น” หลังจากการผ่าตัดผ่านไปนานในความรู้สึกของแดฮยอน คุณหมอก็ออกมาบอกอาการและการผ่าตัดที่เป็นไปด้วยความเรียบร้อย

      “ขอบคุณมากนะครับหมอ แล้วผมจะเข้าไปหาเขาได้ตอนไหนครับ” ร่างสูงถามด้วยน้ำเสียงรีบร้อน

      “ตอนนี้คงต้องรอดูอาการที่ห้องไอซียูสักพักนะครับ คาดว่าตอนเย็นคุณน่าจะเข้าไปเยี่ยมได้ หมอขอตัวนะครับ” พูดจบคุณหมอก็เดินจากไป ทิ้งแดฮยอนให้มองเข้าไปในห้องไอซียูที่มีร่างสูงนอนหลับอยู่

      คดีนี้ถือเป็นคดีที่ทำให้จอง แดฮยอนเสียงพลังไปทั้งพลังกายพลังใจ และเกือบเสียคนที่รักที่สุดไป แต่เมื่อคิดถึงคำที่จุนฮงพูดมันก็เป็นเรื่องที่ถูกต้องที่คนทำผิดย่อมต้องได้รับการลงโทษอย่างสาสม แต่เท่านี้มันก็เพียงพอแล้วสำหรับจุนฮง เขาไม่ต้องการให้จุนฮงได้รับโทษไปมากกว่านี้อีก ถึงแม้จุนฮงจะต้องไปอยู่ในคุกแต่เขาก็ยังรู้สึกดีกว่าที่จะให้อีกคนมาเจ็บตัวแบบนี้  แต่ว่าตอนนี้เขาคงทำได้เพียงเฝ้ารอให้อีกคนตื่นมามองหน้าเขาสักหน่อยก็ยังดี

       

      แสงสีขาวที่ส่องสว่างไปทั่วห้องทำให้ร่างสูงลืมตาตื่นขึ้นมา เปลือกตาบางค่อยๆลืมขึ้นและปิดลงอีกครั้งเพื่อปรับให้สายตาชินกับแสงสว่าง เขารู้สึกลำคอแห้งผากและเจ็บระบมไปทั่วร่างกาย

      “มีใครอยู่มั้ย” เสียงแหบแผ่วๆเปล่งขึ้นทำให้คนที่นอนฟุบไปกับเตียงคนไข้ลุกขึ้นมามองคนที่ตื่นก่อนแล้ว

      “จุนฮง ฉันอยู่นี้” ร่างบางตอบพลางลูบมือหนา

      “ขอน้ำหน่อย” เสียงแหบพูดเบาๆ พลางะลุกขยับตัวแต่ก็ทำไม่ได้เมื่อความเจ็บปวดแล่นไปทั่วร่างทันทีที่เขาขยับตัว

      “นี่นอนเฉยๆเถอะ ฉันดีใจนะที่นายฟื้นขึ้นมามองหน้ากัน แต่ช่วยอย่าขยับมากได้ไหม นายถูกยิงทั้งที่ขาและแขนมันลำบากนะ” หลอดดูดน้ำถูกจ่อเข้าที่บางสีชมพูที่ตอนนี้ซีดไปมากและตามมาด้วยเสียงบ่นคนไข้ตามมาเป็นชุด

      “อื้อ” ร่างสูงตอบรับพลางนอนลงไปอีกครั้ง

      “เจ็บ” ร่างสูงเอ่ยขึ้นอย่างอ้อนๆ พลางส่งสายตาเหมือนหมาน้อยไปให้คนเฝ้าไข้

      “ก็สมน้ำหน้า ใครใช้ให้นายพูดแบบนั้นหละ ถ้านายไม่พูดนายก็จะได้เข้าคุกไปอย่างสบายๆ ไม่ต้องมาเจ็บตัวแบบนี้หรอก” แดฮยอนยังคงพูดต่อไปหยุด

      “ก็ผมอยากอยู่กับพี่แบบนี้นี่นา ผมยอมเจ็บก็เพื่อพี่เชียวนะ พี่ควรดีใจสิ” หลังจากที่ถูกบ่นก็เลยเถียงออกมาบ้าง

      “ปากดีไปเถอะ” ร่างบางเดินมานั่งข้างเตียงพลางมองคนเจ็บด้วยสายตาหมั่นไส้ที่อีกคนตื่นมาก็ทำปากดีเลยทีเดียว

      “แต่พี่ยังไม่ได้ตอบผมเลยนะ พี่ยังรักผมมั้ย คิดถึงผมรึเปล่า” ร่างสูงนอนมองคนที่นั่งอยู่ข้างเตียงแล้วเอ่ยถามขึ้นอีกครั้ง

      “รักสิ คิดถึงมากด้วย นายมันใจร้ายที่สุด บ้าที่สุดนายทำให้ฉันร้องไห้จะเป็นจะตายนายรู้มั้ย กว่าฉันจะผ่านช่วงนั้นมาได้มันยากมากแค่ไหน” ร่างบางเอื้อมมือไปจับมือของคนบนเตียง

      “แต่ตอนนี้นายอยู่ตรงนี้ฉันก็ไม่เป็นไรแล้วหละ” พร้อมส่งยิ้มไปให้และกระชับมือให้แน่นขึ้น

      “ผมขอโทษนะ ต่อไปนี้ผมจะไม่ทิ้งพี่ไปไหน จะทำตัวเป็นเด็กดีของพี่ แล้วนี่ผมหลับไปกี่วันอ่ะ” ชายหนุ่มยิ้มพร้อมกับเอ่ยถามออกไปเพราะคิดว่าตัวเองคงหลับไปนานแน่ๆ

      “สองวัน เมื่อวานเย็นพ่อแม่นายก็มาเยี่ยมนะ พวกเขาไปให้ปากคำกับตำรวจอยู่หนะ นายต้องทำใจหน่อยนะเรื่องนี้ ” แดฮยอนพูดพลางมองออกไปนอกหน้าตา

      ร่างสูงพยักหน้าพร้อมกับหลับตาเพื่อจะพักผ่อนอีกครั้ง เพราะอาการที่ยังหนักอยู่ทำให้บทสนทนาสั้นๆเพียงแค่นี้ส่งผลให้เขารู้สึกเหนื่อย

      ร่างสูงหลับไปพร้อมกับความสุขที่กลับมาหาเขาอีกครั้ง

       

      “ได้ออกมาสูดอากาศข้างนอกเป็นไงบ้าง” หลังจากผ่านไปสี่วันร่างจุนฮงก็สามารถนั่งรถเข็นออกมาสูดอากาศข้างนอกห้องได้ และคนที่ตามมาด้วยก็คงจะเป็นใครไม่ได้นอกจากแดฮยอนที่สี่วันมานี้คอยป้อนน้ำป้อนอาหารเฝ้าไข้ไม่ห่าง

      “ก็ดีครับ สบายดี” ร่างสูงพูดพลางเงยหน้าไปตอบคนที่เข็นรถให้ตัวเอง

      “หลังจากนี้นายคงต้องเหนื่อยหน่อยนะ ในคุกหนะไม่สบายเหมือนโรงพยาบาลหรอกนะ แต่ฉันจะพยายามไปเยี่ยมนายก็แล้วกัน” ร่างบางพูดพลางนั่งลงด้านหน้ารถเข็นของโรงพยาบาล

      สายตาสองคู่จ้องมองกันเงียบๆก่อนที่ร่างสูงจะโน้มตัวลงไปจูบคนรักที่ดูแลเขาอย่างดีมาตลอด

      สัมผัสแผ่วเบาที่คุ้นเคยทำให้รู้สึกถึงความอบอุ่น และหอมหวาน แต่สัมผัสนั้นก็อยู่ได้ไม่นานเมื่อเสียงปืนดังขึ้น

      ปัง!’

      ร่างสูงที่ตอนนี้เสื้อชุดคนไข้เปื้อนไปด้วยเลือดของตัวเองถอนจูบออกจากปากของคนรัก มองและส่งยิ้มให้คนที่รักเป็นครั้งสุดท้าย

      “ผมขอโทษที่รักษาสัญญาว่าจะอยู่กับพี่ตลอดไปไม่ได้ ผมรักพี่นะครับ ผมจะไปเป็นดวงดาวคอยมองพี่อยู่บนนั้น รักษาตัวด้วยนะครับ” ลมหายใจที่สะดุดบ่งบอกว่าเวลาของเขาเหลืออีกไม่นาน

      ปัง!’

      กระสุนอีกนัดถูกส่งมาใกล้จุดตาย และร่างสูงก็ล้มพับลงไป ล้มหายใจที่ถูกพรากไปจากคนที่รักทำให้แดฮยอนทำอะไรไม่ถูก ทุกอย่างมันเกิดขึ้นเร็วเกินไป

      ไม่สิ จุนฮงยังคงอยู่กับเขา ไม่เขาไม่ให้จุนฮงไปนะ  น้ำตาไหลพลางตะโกนร้องให้คนช่วย และเสียงเรียกชื่อคนรักก็ดังก้องไปทั่วสถานที่พร้อมกับเสียงสะอื้นไห้ ในการจากไปของ ชเว จุนฮง

      ตำรวจกับคนร้ายยังไงมันก็อยู่คู่กันไม่ได้หรอกครับจริงมั้ย คนผิดยังไงมันก็เป็นคนผิด คนบาปยังไงมันก็ยังเป็นคนบาป ผมจะเฝ้ามองพี่จากที่ไกลๆนะครับแดฮยอน หวังว่าเราคงจะได้เจอกันอีก...รัก ... ชเว  จุนฮง

                                      อีกคนจากไปทิ้งอีกคนให้อยู่อย่างทรมานกับความทรงจำที่แสนมีความสุขกับกลิ่นของความรักที่ยังอบอวลอยู่ทุกสถานที่ของคนทั้งสอง  นี่หรือความรักที่ผู้คนโหยหา นี่หรือสิ่งที่เรียกว่าความรัก ช่างน่าผิดหวังสิ้นดี ถ้าอย่างนั้นแล้วผู้คนยังจะโหยหาความรักไปทำไมกันเล่า ในเมื่อที่ใดมีรักที่นั่นมีทุกข์ นั่นก็เพราะมนุษย์ไม่รู้จักเข็ดหลาบหนะสิ ความทุกข์มักจะมาพร้อมกับความสุขเสมอ หากยังต้องการความสุขก็ต้องทนกับความทุกข์ที่มาคู่กันให้ได้

      และนั่นคือ  “กฎแห่งธรรมชาติ” ที่ไม่ว่าใครก็ฝืนไม่ได้

       

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×