ตกเป็นข่าว

เนื้อเรื่อง

หลังจากนายสิทธิกร บุญฉิม นักธุรกิจหนุ่มในวงการพระเครื่อง ออกมาเปิดเผยตัวว่าเป็นผู้มีพระคุณของซูเปอร์สตาร์ชื่อดังขวัญใจวัยรุ่น ค่าย อาร์เอส โปรโมชั่น "ฟิล์ม รัฐภูมิ" จนเกิดกระแสข่าว "ทอล์ก ออฟ เดอะ ทาวน์" และนักธุรกิจหนุ่มได้ออกมา "แฉรายวัน" อย่างต่อเนื่องว่านักร้อง ชื่อดัง เป็นคนโกหกและอกตัญญู นั้น

ความคืบหน้าล่าสุดในเรื่องดังกล่าว เมื่อวันที่ 19 เมษายน นายสิทธิกร บุญฉิม ได้เปิดแถลงข่าวกับสื่อมวลชน ถึงความสัมพันธ์กับนักร้องชื่อดัง ฟิล์ม รัฐภูมิ โตคงทรัพย์ พร้อมกับนำหลักฐานที่เป็นทั้งรูปถ่าย เอกสาร และสลิปบัตรเครดิต มายืนยันให้กับสื่อมวลชนได้ดู

พร้อมกับกล่าวว่า รู้จักกับฟิล์มด้วยความบังเอิญ ในงานคอนเสิร์ตที่จัดขึ้นใน จ. ระยอง ส่วนความสัมพันธ์ที่มีต่อฟิล์มนั้น ยืนยันว่าเป็นแค่พี่น้องกันเท่านั้น ส่วนเรื่องที่มีหนังสือพิมพ์บางฉบับเขียนไปถึงเรื่องใต้สะดือ ไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด และครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่ออกมาพูด เนื่องจากข่าวดังกล่าวสร้างความเสียหายกับตนเป็นอย่างมาก เพราะตนทำงานในระดับแนวหน้า ผู้หลักผู้ใหญ่หลายคนก็รู้จัก จึงอยากให้ฟิล์มออกมายอมรับความจริง ซึ่งตนก็เสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และรู้ว่าการแถลงข่าวในครั้งนี้จะส่งผลกระทบกระเทือนต่อตัวฟิล์ม แต่ก็ต้องทำ เนื่องจากรับไม่ได้ที่ฟิล์มหาว่าตนแอบอ้าง

ส่วนความช่วยเหลือที่มีต่อฟิล์มนั้น นายสิทธิกร ได้ยกตัวอย่างเรื่องบ้าน หลังที่พ่อแม่ฟิล์ม อาศัยอยู่ในปัจจุบัน ที่เคยถูกขายทอดตลาด แต่ตนประมูลให้เป็นของขวัญแก่ฟิล์ม เนื่องจากเห็นว่าฟิล์มเป็นลูกกตัญญู และเชื่อมั่นว่าวันหนึ่งเด็กคนนี้จะก้าวหน้า เพราะโดยเนื้อแท้เป็นคนดี คงไม่ลืมบุญคุณ จึงทำเอกสารมอบให้ นอกจากนี้ ตนยังเคยทำบัตรเครดิตซึ่งเป็นบัตรเสริมให้ฟิล์ม เนื่องจากเห็นว่าฟิล์มเดินทางไปต่างประเทศบ่อย

ต่อข้อสงสัยว่า ทำไมต้องให้ความเมตตา กับน้องขนาดนี้ นายสิทธิกร เผยว่า ฟิล์มเคยพูดกับตนว่าไม่รู้จะอยู่ในวงการนี้ได้นานแค่ไหน เพราะมันไม่แน่นอน เขาอยากสะสมเงินให้มากที่สุด ตนจึงให้ความช่วยเหลือในเรื่องรายจ่าย แต่คนที่ตนช่วยเหลือไม่ใช่แค่ฟิล์มคนเดียว มีคนเป็นร้อยที่เคยช่วย ทั้งสร้างโรงเรียน วัด ทั้งจังหวัดที่บ้านเกิด เพราะตนมองไปในอนาคตว่าอย่างน้อยวันหนึ่งหากเดือดร้อน คนที่ช่วยเหลือไว้จะสำนึกและตอบแทนบุญคุณ

"เสียความรู้สึกมากที่ฟิล์มให้สัมภาษณ์ผ่านสื่อว่า ไม่รู้จัก ไม่เคยได้รับความช่วยเหลือ และการที่ผมออกมาในครั้งนี้ไม่ได้ต้องการจะฆ่าฟิล์ม แต่พ่อแม่ยังตีลูกได้ ผมเป็นพี่ก็ขอตบสักฉาดคงไม่น่าเกลียด อยากให้เขาโด่งดัง และเจริญ แต่อย่าให้ติดนิสัยนี้ไปเลย" นายสิทธิกรกล่าว และว่า จะฟ้องฟิล์มหรือไม่ขอเก็บเอาไปคิดอีกที

หลังจากการแถลงข่าวเสร็จสิ้นลง ผู้สื่อข่าวได้พยายามติดต่อสอบถามข้อเท็จจริงไปยัง "ฟิล์ม รัฐภูมิ" แต่ทางผู้จัดการส่วนตัวได้ตอบปฏิเสธการให้สัมภาษณ์ พร้อมระบุว่าฟิล์มติดถ่ายละครอยู่ อ.แปดริ้ว จ.ฉะเชิงเทรา อย่างไรก็ตาม เรื่องที่เกิดขึ้น ทางผู้บริหารบริษัท อาร์เอส โปรโมชั่น จำกัด โดยนายสุรชัย เชษฐโชติศักดิ์ หรือ "เฮียฮ้อ" จะเป็นผู้ชี้แจงเรื่องทั้งหมดต่อสื่อมวลชนอีกครั้ง