บทนำ
ในความมืดมิดที่แม้กระทั่งหงายฝ่ามือขึ้นมาเพ่งมองก็ยังไม่เห็นนิ้วทั้งห้า แว่วเสียงไก่ขันไม่ไกลนัก บ่งบอกได้ว่าเป็นเวลารุ่งสางแล้ว
ผิงฟางปวดร้าวไปทั่วทั่งร่าง เมื่อไม่อาจฝืนความเจ็บปวดและหนาวเหน็บได้ ร่างบอบบางจึงตะแคงตัวลงนอนคุคคู้ มือที่ผ่ายผอมจนเหลือแต่หนังหุ้มกระดูกพยายามงอเข้ามากอดให้ความอบอุ่นแก่ตนเอง
ทว่าลมหนาวที่กรูเข้ามาตามช่องหน้าต่างของอารามร้างแห่งนี้ ยิ่งทำให้ทั่วทั้งร่างของนางสั่นสะท้าน ปลายมือปลายเท้าที่ปราศจากรองเท้าห่อหุ้มนั้นเย็นเฉียบ มีเพียงน้ำตาที่ยังคงอุ่นร้อนไหลรินอาบแก้มตอบเต็มไปด้วยรอยแผลเป็นจากไฟไหม้
ตอนนี้เองที่ผิงฟางตระหนักได้ว่าที่แท้ตนก็เป็นเพียง ‘สตรีอัปลักษณ์’ แถมยัง ‘ตาบอด’ ผู้หนึ่ง
ร่างในอาภรณ์ขาดวิ่นถูกอากาศที่หนาวเหน็บเคี่ยวกรำจนลมหายใจติดขัด ผิงฟางเริ่มควบคุมสติของตนไหวไม่อยู่ ภาพต่างๆ ปรากฏขึ้นในหัวดูคล้ายจริงคล้ายไม่จริงราวกับนางกำลังฝันไป
นับแต่วัยเยาว์ จากเด็กน้อยผิวขาวผ่องใบหน้ากลมชวนเอ็นดู นางเติบโตขึ้นเป็นดรุณีน้อยที่งดงามเย่อหยิ่ง แม้มารดาของนางจะตายไปนานแล้ว บิดาเองก็แต่งฮูหยินใหม่และพาอนุเข้าบ้านอีกหลายคน แต่นางก็ยังคงเป็นบุตรีหัวแก้วหัวแหวนของบิดา
นางถูกเลี้ยงดูมาอย่างตามใจ มีอำนาจในจวนเป็นรองก็แต่บิดา แม้แต่ฮูหยินใหญ่ มารดาเลี้ยงที่แต่งเข้ามาเกือบสิบปีแล้วก็ยังมิอาจซื้อใจคนในจวนได้ สิทธิ์ขาดในเรือนหลังของจวนจึงตกอยู่แก่ผิงฝางเพียงผู้เดียว
กระทั่งดรุณีน้อยเติบโตเป็นสาวงามสะพรั่งในวัยที่พร้อมออกเรือน ผิงฟางในเวลานั้นก็เกิดต้องตาต้องใจบุรุษอันดับหนึ่ง
เขาผู้เป็นถึง ‘รัชทายาทแห่งแผ่นดิน’
เล่ห์เหลี่ยมต่างๆ จึงถูกนำมาใช้เพื่อพิชิตใจบุรุษแห่งยุค จนสามารถกลายมาเป็น ‘ว่าที่พระชายา’ ได้สำเร็จ
แต่แล้ว…
เรื่องราวก็เริ่มแปรเปลี่ยน เมื่อสตรีที่เก่งกล้าทั้งยังงดงามอีกผู้หนึ่งปรากฏตัวขึ้น สตรีที่แม้แต่บุตรสาวเสนาบดีกรมโยธาอย่างนางก็มิอาจเทียบเคียงได้
เมื่อว่าที่สามีเริ่มมีใจเป็นอื่น ผิงฟางย่อมมิอาจนิ่งเฉยได้อีกต่อไป ความร้ายกาจที่เก็บงำไว้เริ่มเผยออกมาให้เห็น กระทั่งนางทำเรื่องที่ร้ายแรงที่สุด จนส่งผลให้ตนต้องตกอยู่ในสภาพเช่นนี้
สภาพที่มิอาจย้อนคืนไปดังเดิม…
ลมหายใจที่รวยริน ยังมิวายสะกดก้อนสะอื้นที่ตีตื้นขึ้นมาให้กลืนหายไปในลำคอ
ความผิดหวังเศร้าเสียใจ ชาตินี้คงมิอาจชดเชยได้อีกแล้ว…
หากย้อนเวลากลับไปได้ นางจะไม่มีวันสนใจบุรุษผู้นั้น
สองตาก็จะไม่แล!
น้ำตาหยดแล้วหยดเล่าพรั่งพรูออกจากสองตาที่มืดบอด เวลาผ่านไป… กระทั่งแสงแดดยามสายส่องเข้ามาในบานหน้าต่างที่แตกหัก ยามนั้นจึงคงเหลือไว้เพียงรอยแห้งกรังบนใบหน้า… ของร่างที่ปราศจากลมหายใจ
—————————
สวัสดีค่ะ ฝากนิยาย ‘แดดดี้ที่ไม่ได้แปลว่าพ่อ’ เรื่องนี้ด้วยนะคะ
บอกเลอ พระเอกกร้าวใจมากเด้อ
แต่งไปคืออยากจับพระเอกฟัดวันละหลายรอบมากๆ ค่ะ
นามปากกาเรื่องนี้ หว่านอิง คนเดียวกับ เพียงออ นะคะ^^