ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ร้ายกลายรัก

    ลำดับตอนที่ #3 : ผมชื่อ รชตะ

    • อัปเดตล่าสุด 10 เม.ย. 55


     กรี๊ด อยากจะบ้าวันนี้มันซวยอะไรกันเนี่ย นอกจากจะไปทะเลาะกับอีตาผู้พันบ้านั่น เธอยังเผลอซุ่มซ่ามเดินตกขอบถนน ขาเคล็ดอีกต่างหาก ก้มลงมองนาฬิกาที่ข้อมือแล้วถอนใจโล่งอก อย่างน้อยก็ยังมีเวลาให้เธอได้พัก ก่อนลุยงานต่อ เสียงโทรศัพท์ที่ดังขึ้นและชื่อที่ปรากฏอยู่บนหน้าจอ ทำให้เธอต้องรีบคว้ามารับ 
    "ค่ะ พี่ อันอยู่หน้าสตูแล้วค่ะ ค่ะ จะรีบทำให้เลยค่ะ" 
    มีอะไรแย่กว่านี้อีกมั้ยวันนี้ ลูกค้ามาถึงเร็วกว่าเวลาที่นัด มันจะเร็วไปมั้ยยะ นัดตอนหกโมงเย็น โผล่มาตอนบ่ายสามโมงครึ่งเนี่ยนะ
    ร่างบางสาวเท้าวิ่งเข้าบริษัท ทันทีที่ถึงโต๊ะทำงาน หญิงสาวรีบเปิดเครื่องเพื่อปั่นงานทันที โดยไม่สนใจคำทักทายของเพื่อนร่วมงาน
    "อัน วันนี้ไปหาอะไรกระแทกปากมั้ย"
    อันดามันมองเพื่อนชายที่เอ่ยปากชวนแล้วถอนหายใจ เดือนนี้เธอไปหาอะไรกระแทกปากกับมันหลายครั้งจนกระเป๋าเริ่มจะฟีบแล้ว จึงเริ่มชั่งใจว่าจะไปดีไม่ดี และเหมือนเพื่อนชายจะรู้ว่าเธอคิดอะไรอยู่ ชิงพูดก่อนที่เธอจะอ้าปากว่าไม่ "ฉันเลี้ยง เพิ่งได้ค่าตัวมา"
    อันดามันยิ้ม เพื่อนร่วมงานเธอคนนี้ นอกจากมีงานประจำแล้ว ยังมีรับงานพิเศษเป็นนายแบบอีกด้วย เออน่าอิจฉาจริงๆคนที่เกิดมามีรูปเป็นทรัพย์ เธอพยักหน้ารับเป็นเชิงว่าตกลง ร่างสูงจึงเดินถอยไปที่โต๊ะทำงานตััวเอง

    บรรยากาศหลังเลิกงานในวันศุกร์ คึกคักสมกับเป็นค่ำคืนสุดสัปดาห์ ร้านรวงในถนนสายนี้เต็มไปด้วยผู้คนหลากหลายเชื้อชาติ แต่ส่วนมากจะค่อนไปทางชาวตางชาติมากกว่าคนในประเทศ จนบางครั้งเธอยังอดคิดไม่ได้ว่า นี่มันประเทศไทยหรือว่าประเทศอะไรกันแน่ หาคนไทยน้อยเหลือเกิน "แก จะเลือกร้านไหนเนี่ย" เพื่อนชายร่างโย่งเอ่ยปากถามเมื่อเห็นว่าเธอเดินมาจนสุดถนนแล้วยังไม่หยุดที่ร้านใด
    อันดามันยักคิ้วเป็นเชิงบอกเดินมาเถอะ อย่าเรื่องมาก

    ร้านที่เธอมาประจำวันนี้เต็มไปด้วยผู้คนหน้าตาแปลกๆ ปกติแล้วคนที่มานั่งร้านนี้มักเป็นลูกค้าประจำเสียส่วนมาก ทำให้เธอคุ้นหน้าพอสมควร แต่วันนี้รู้สึกเหมือนจะมีแต่คนแปลกหน้า 
    "พี่เจ๋ง ทำไมวันนี้คนแปลกหน้าเยอะจัง"
    อันดามันถามการ์ดหน้าประตูที่สนิทสนมกันดี ชายหนุ่มหน้าเข้มสมกับตำแหน่งยิ้มรับคำถาม
    "ใช่เลยน้อง วันนี้รู้สึกว่าจะมีวันเกิดใครซักคนในกลุ่มนั้นแหล่ะ มาจัดที่นี่ แต่ว่าไม่ปิดนะ เข้าได้ แต่ต้องนั่งข้างบนเท่านั้น"
    หญิงสาวมองหน้าการ์ดก่อนเอ่ยถามเป็นเชิงกวนๆ 
    "ในเมื่อไม่ปิด อันก็มีสิทธิ์นั่งตรงไหนก็ได้นี่พี่เจ๋ง ทำไมต้องให้ไปนั่งข้างบนอะ" 
    "ก็มันมีแต่ผู้ชายไง จะไปนั่งในดงผู้ชายทำไม อันตราย"
    อันดามันยิ้มสวยให้การ์ด ก็เพราะอย่างนี้ไง เธอถึงเลือกที่นั่งดื่มที่ร้านนี้ร้านเดียว  ใครต่อใครก็บอกว่า สถานที่ท่องเที่ยวในยามวิกาลอันตราย หาความจริงใจจากใครไม่ได้ เธอก็ว่าจริง แต่ร้านนี้เธอนั่งมาตั้งแต่สมัยเรียนมหาวิทยาลัย จนรู้จักกับพนักงานทุกคน บางทีเธอยังไปช่วยเขาเสิร์ฟเลย จนทุกคนกลายเป็นเหมือนเพื่อน และบางทีพวกเขาก็ช่วยเธอให้พ้นจากภัยอันตรายยามค่ำคืนด้วย
     
    หญิงสาวเดินเข้าร้านโดยที่ไม่ต้องโชว์บัตรประชาชน และประทับตราแต่อย่างใด รัชตะเดินมากอดคอสาวร่างเล็กก่อนก้มลงกระซิบที่ข้างหู "ร้านประจำเหรอวะ มีโชว์เทพเดินเข้าได้เลยช่องพิเศษ แหม่ ตัวจริงนี่หว่า"
    ร่างบางยักคิ้วให้ เป็นเชิงว่าแน่นอน ตลอดทางเดินเข้าร้านเธอถูกทักทายโดยเด็กเสิร์ฟตลอดทาง โดยที่เพื่อนชายยังคงไม่ปล่อยแขนออกจากต้นคอ เด็กเสิร์ฟหน้าคุ้นเดินมาถามว่าจะนั่งที่ไหน

    "วันนี้พี่เจ๋งบอกให้นั่งข้างบน เพราะข้างล่างมีแต่ผู้ชายไม่น่าไว้ใจ" 
    "ฉันก็ผู้ชาย แกเห็นฉันเป็นตุ๊ดเหรอยะ" ร่างสูงใหญ่ของรชตะเอนมากระซิบข้างหูหญิงสาว
    อันดามันหัวเราะกิ๊กกับท่าทางกระตุ้งกระติ้งของเพื่อนตัวยักษ์ 

    "ข้างบนโต๊ะประจำเต็มแล้วนะ นั่งข้างล่างมั้ย ข้างในไม่ค่อยมีคน เพราะส่วนมากเขานั่งข้างนอกกัน ส่วนใหญ่ที่นั่งข้างในเป็นพวกผู้ใหญ่"
    อันดามันหันหน้ายกคิ้วเป็นเชิงถามความเห็นเพื่อนชายว่าเอาอย่างไร ใบหน้าแกร่งที่อยู่ใกล้ใบหน้าเนียนสวยแค่คืบเผลอตัวมองเพื่อนสาวตาเชื่อม เมื่อคนตรงหน้าไม่ยอมตอบคำถามร่างบางจึงกระทุ้งข้อศอกเป็นการกระตุ้น 
    "เอาไงวะ นั่งไหน ฉันไม่ใช่ยายวิกกี้แฟนแกนะ มามองตาปรอย เดี๋ยวปั๊ดเหนี่ยว" 
    รชตะแอบถอนหายใจโล่งอก ที่หญิงสาวคิดไปอีกทาง เขาไม่อยากให้ความสัมพันธ์นี้ต้องเปลี่ยนไปหากเธอรู้ความในใจของเขา
    นึกย้อนไปถึงวันแรกที่เข้ามาทำงาน เขายังจำรอยยิ้มของเธอได้เป็นอย่างดี อากาศขมุกขมัวในยามเช้าเนื่องจากฝนตก กับไมตรีของคนแปลกหน้า
    "เข้ามาหลบฝนในร่มฉันก่อนมั้ย" 
    เสียงที่ดังขึ้นข้างๆทำให้ชายหนุ่มร่างใหญ่ หันมามองจุดเกิดเสียง ผู้หญิงตัวบางเรียกได้ว่าบางมากกำลังยืนส่งยิ้มใต้ร่มคันใหญ่
    "ไม่เป็นไร ผมตัวใหญ่อาจทำให้คุณเปียก"
    "เอาเถอะน่า เข้ามาเถอะ ฉันตัวเล็กคุณตัวใหญ่ คุณถือแล้วกันถ้าคุณเกรงใจ" เธอยิ้มเจ้าเล่ห์ และแล้วมิตรภาพก็เกิดขึ้นท่ามกลางสายฝน นอกจากนั้นเขายังรู้ว่าเธอเป็น พนักงานบริษัท เดียวกันอีกด้วย เขาเลยมีเธอเป็นเพื่อนสนิทตั้งแต่นั้นมา เวลาผ่านไปโดยไม่ทันสังเกตตัวเอง ความประทับใจก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เธอเป็นที่ปรึกษาในฐานะที่เธออยู่มาตั้งแต่ตั้งบริษัท ว่าเขาควรทำตัวอย่างไรกับคนไหน เธอเป็นนักศึกษาที่เพิ่งเรียนจบ และถูกดึงตัวมาทำงานที่นี่ เพราะว่ารู้จักหุ้นส่วนคนหนึ่งเป็นการส่วนตัว ส่วนเขาบังเอิญถ่ายแบบกับบริษัทที่เธอทำงานอยู่ จึงถูกชักชวนมาทำงานโดยเจ้าของบริษัท ยิ่งรู้จักยิ่งประทับใจ ภายใต้ท่าทางแรงๆของเธอมีความอ่อนโยนซ่อนอยู่ในตัวมากกว่าที่คิด บริษัทนี้เป็นเอเจนซี่โฆษณาขนาดเล็กที่รับทำงานแต่ละอย่าง จากบริษัทมหาชนทั้งนั้น จึงไม่ต้องสืบว่างานจะเยอะขนาดไหน และเธอนอกจากจะเป็นกราฟฟิกดีไซน์แล้ว ยังพ่วงตำแหน่งการเงิน กับเลขาส่วนตัวของหุ้นส่วนฝ่ายการเงินอีกด้วย
    บางทีถ้าเธอสามารถจัดตารางงานตัวเองได้ ยังกระโดดไปช่วยอินทีเรีย ออกแบบตกแต่งห้องที่ใช้ในงานถ่่ายอีกด้วย ไม่น่าเชื่อว่าเธอจะสามารถทำหลายๆอย่างในเวลาใกล้ๆกันได้ จากความประทับใจกลายเป็นความความรู้สึกที่ลึกซึ้งกว่านั้น เหมือนทุกอย่างจะไปได้สวย แต่แล้วกฎของบริษัทที่ไม่เคยรู้มาก่อน ก็ทำให้เขาต้องหยุด 'ห้ามคนในบริษัทคบกัน' เสียงของนายใหญ่ที่ชวนเขามาทำงานเอ่ยขึ้นขณะที่มีเลี้ยงสังสรรค์ ความรู้สึกที่ต้องปกปิดทำให้เขาต้องหันไปพึ่งให้เพื่อนสาวชาวเกาหลี ที่รู้จักกันมาตั้งแต่เด็กและอาศัยอยู่ต่างประเทศเป็นส่วนมาก สมอ้างเป็นแฟนให้ทุกคนไม่สงสัย และเนื่องจากเขาไม่ข้องแวะกับสาวคนไหน เลิกงาน ไปออกกำลังกาย แล้วก็กลับบ้าน ทำให้ทุกคนคิดว่าเขาเป็นคนดี รักเดียวใจเดียว โดยไม่มีใครทันสังเกตว่าชายหนุ่มรู้สึกอย่างไรกับเพื่อนสาวร่วมที่ทำงาน
    แต่วันนี้ความลับที่เพียรปกปิดคนรอบข้าง กลับถูกชายหนุ่มหน้าคมอีกคนมองออก พันตรี กัมปนาท สุริยะ บังเอิญให้ต้องมางานเลี้ยงวันเกิดของเพื่อนที่กรม ทั้งที่ตอนแรกชายหนุ่มเสนอให้เป็นที่อื่น เพราะไม่เคยมาที่นี่ แต่ตอนนี้อยากจะขอบคุณเพื่อนเหลือเกิน ที่ทำให้เขามาเจอยายสาวทรงผมแปลกคนนี้อีกครั้ง เขาเห็นตั้งแต่เธอเดินเข้ามาโดยไม่ต้องตรวจบัตร ประทับตรา และลงท้ายด้วยแขนที่กอดคอเธออย่างถือสนิท และที่มันน่าเคืองคือเธอไม่ว่าซักคำซ้ำยังยิ้มให้อีกต่างหาก มันน่านักทีกับเขาละซัดซะลงไปกองกับพื้น ชายหนุ่มรู้สึกขัดใจอย่างบอกไม่ถูกกับภาพที่เห็น โดยที่ตัวเองก็ไม่รู้สาเหตุ!!







































    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×