ช็อกโกแลตได้มาจากไหน!

ข้อมูลเบื้องต้น

     ช็อกโกแลตคือขนมและเบเกอรี่ยอดนิยมของคนอเมริกันที่บริโภคกันมากกว่าประเทศอื่นๆ ช็อกโกแลตได้มาจากต้นคาเคา(cacao)หรือที่เรียกติกปากว่าโกโก้(cocoa)ซึ่งเติบโตในเขตร้อนและสามารถสูงได้ถึง 40 ฟุตต้นโกโก้จะให้ฝักซึ่งมีสีตั้งแต่เหลืองส้มไปจนถึงแดงเรื่อ รูปร่างคล้ายแตงกวา เมื่อสุกจึงเก็บมาแกะฝักออก ภายในจะมีเมล็ดรูปทรงยาวรีแบบเม็ดอัลมอนด์อยู่ยี่สิบห้าถึงห้าสิบเมล็ด เมื่อนำมาคั่วและบดก็จะได้ช็อคโกแลตดิบ ซึ่งเมื่อผสมกับวานิลลา นม น้ำตาล และส่วนผสมอื่นๆ ก็จะได้ช็อคโกแลตหลายรูปแบบที่เรารู้จัก
    ชนเผ่าแอซเต็กและมายารู้จักกินช็อกโกแลตมานานหลายศตวรรษแล้ว รวมทั้งใช้เมล็ดของมันต่างเงินตราด้วย ตอนที่โคลัมบัสกับคอร์เท็ซมาทวีปอเมริกา พวกเขาได้นำฝักโกโก้กลับไปที่สเปน ซึ่งได้เก็บเรื่องนี้เป็นความลับอย่างเข้มงวดไว้ทำเครื่องดื่มๆกันเองนานกว่าร้อยปี อย่างไรก็ตาม ภายหลังชาวฝรั่งเศษและอังกฤศก็ไปได้มันมาแล้วเติมน้ำตาลกับนมลงไปจนได้รสชาติดีเยี่ยม แต่มีราคาแพงจนคนรวยเท่านั้นที่มีโอกาสได้กิน จนกระทั่งกลางศตวรรษที่ 19 ช็อกโกแลตจึงแพร่หลายไปทั่วโลก

เนื้อเรื่อง

ช็อกโกแลตคือขนมและเบเกอรี่ยอดนิยมของคนอเมริกันที่บริโภคกันมากกว่าประเทศอื่นๆ ช็อกโกแลตได้มาจากต้นคาเคา(cacao)หรือที่เรียกติกปากว่าโกโก้(cocoa)ซึ่งเติบโตในเขตร้อนและสามารถสูงได้ถึง 40 ฟุตต้นโกโก้จะให้ฝักซึ่งมีสีตั้งแต่เหลืองส้มไปจนถึงแดงเรื่อ รูปร่างคล้ายแตงกวา เมื่อสุกจึงเก็บมาแกะฝักออก ภายในจะมีเมล็ดรูปทรงยาวรีแบบเม็ดอัลมอนด์อยู่ยี่สิบห้าถึงห้าสิบเมล็ด เมื่อนำมาคั่วและบดก็จะได้ช็อคโกแลตดิบ ซึ่งเมื่อผสมกับวานิลลา นม น้ำตาล และส่วนผสมอื่นๆ ก็จะได้ช็อคโกแลตหลายรูปแบบที่เรารู้จัก
    ชนเผ่าแอซเต็กและมายารู้จักกินช็อกโกแลตมานานหลายศตวรรษแล้ว รวมทั้งใช้เมล็ดของมันต่างเงินตราด้วย ตอนที่โคลัมบัสกับคอร์เท็ซมาทวีปอเมริกา พวกเขาได้นำฝักโกโก้กลับไปที่สเปน ซึ่งได้เก็บเรื่องนี้เป็นความลับอย่างเข้มงวดไว้ทำเครื่องดื่มๆกันเองนานกว่าร้อยปี อย่างไรก็ตาม ภายหลังชาวฝรั่งเศษและอังกฤศก็ไปได้มันมาแล้วเติมน้ำตาลกับนมลงไปจนได้รสชาติดีเยี่ยม แต่มีราคาแพงจนคนรวยเท่านั้นที่มีโอกาสได้กิน จนกระทั่งกลางศตวรรษที่ 19 ช็อกโกแลตจึงแพร่หลายไปทั่วโลก