Fic snsd : Please Interested in me! [Yuri] - Fic snsd : Please Interested in me! [Yuri] นิยาย Fic snsd : Please Interested in me! [Yuri] : Dek-D.com - Writer

    Fic snsd : Please Interested in me! [Yuri]

    --The End--

    ผู้เข้าชมรวม

    3,775

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    1

    ผู้เข้าชมรวม


    3.77K

    ความคิดเห็น


    41

    คนติดตาม


    8
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  1 ธ.ค. 54 / 23:51 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น


    +Please interested in me!

     

    คิม แทยอน

    จะก้มหน้ากดมันไปถึงเมื่อไหร่! สนใจแทบ้างสิ!


     

     ฮวัง ทิฟฟานี่

    ห๊ะ!? เมื่อกี้แทว่าอะไรนะ


    เรื่องใหม่(อีกแล้ว-*-)

    กว่าจะคิดชื่อเรื่องได้ไม่ใช่เรื่องง่ายประกอบกับไม่เก่งอังกฤษต้องพึ่งปู่เกิ้ล
    ทำให้ไม่มั่นใจเท่าไหร่ว่าถูกมั้ย?(เพราะปู่เกิ้ลท่านแก่แล้ว= =;)

    ยังไงก็ฝากไว้ในอ้อมใจรีดเดอร์ด้วยค่ะ><

    เป็ดลิง:ไรเตอร์ไม่รู้จะพิมพ์เสียงบีบียังไง เอาเป็นว่าเสียง ติ๊ง! คือเสียงบีบีแล้วกัน 555+




    MusicPlaylist
    Music Playlist at MixPod.com
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ




                 “ฟานี่อา~แทเบื่อจัง ออกไปเที่ยวข้างนอกกันร่างเล็กเอ่ยขึ้นออดอ้อนแฟนสาวหลังจากกดรีโมทเปลี่ยนช่องโทรทัศน์ไปมาจนเบื่อ เขยิบไปใกล้ร่างบางกอดแขนซบหน้าแน่นทำตัวเหมือนลูกแมวตัวน้อยๆ เวลาอ้อนเจ้าของ ผลปรากฏว่า...

                     

       

      ....เงียบกริบ....

                     

       

      มีเพียงเสียง....

          
                     ติ๊ง!


                  ฮวัง ทิฟฟานี่ก้มหน้ากดโทรศัพท์รุ่นใหม่ล่าสุดที่กำลังฮอตฮิตในเวลานี้ หลุดหัวเราะเล็กน้อยเมื่อได้อ่านข้อความตลกๆ ที่มีเพื่อนส่งมาให้ โดยไม่รู้ตัวเลยว่าร่างเล็กที่นั่งอยู่ด้านข้างถอนหายใจหน่ายเป็นรอบที่เท่าไหร่...

                  คิม แทยอนพยายามทำใจเย็นสูดหายใจเข้าออกช้าๆ สงบสติอารมณ์รอให้ทิฟฟานี่เอ่ยพูดอะไรออกมาบ้างแต่สุดท้ายเสียงที่ได้ยินก็มีเพียง...

       

                      ติ๊ง!

       

                  ไอ้โทรศัพท์เวรนี่จะดังไปถึงเมื่อไหร่กัน!        

                      แทยอนกัดริมฝีปากแน่นด้วยความหมั่นไส้ เลื่อนใบหน้าไปใกล้หูของทิฟฟานี่ก่อนจะตะโกนเรียกชื่ออีกฝ่ายเสียงดังด้วยความเคือง

                     “ฟานี่!!”

                     “ว้าย!? มีอะไรเนี่ยแทแท!ทำไมต้องตะโกนใส่หูฟานี่ด้วย ฟานี่ตกใจหมดเลยทิฟฟานี่สะดุ้งน้อยๆ หลุดร้องเสียงหลงหันหน้ามามองแทยอนด้วยใบหน้าหงุดหงิดน้อยๆ

                     “พูดธรรมดาแล้วฟานี่ได้ยินมั้ยหล่ะ มัวแต่สนใจไอ้กล่องพลาสติกนั่นอยู่ได้เอ่ยจบก็อมแก้มป่อง กอดอกเชิ่ดหน้า ที่ทำตัวเป็นเด็กๆ แบบนี้ก็ไม่ได้ต้องการอะไรมากไปกว่าความสนใจจากแฟนสาว...

                      แต่ก่อนก็สนใจใส่ใจกันดีหรอก แต่ทันทีที่ซื้อโทรศัพท์แบล็คเบอร์รี่เครื่องนี้มา เจ้าหล่อนก็เริ่มสนใจมันมากกว่าคนที่อยู่ข้างๆ จนเธออดน้อยใจเสียไม่ได้ ความคิดในแง่ดีบอกกับเธอว่าอีกไม่นานเดี๋ยวก็เลิกเห่อแล้วก็กลับมาสนใจใส่ใจกันอย่างเก่า...

       

                      แต่นี่มันผ่านมาสามเดือนกว่าแล้วนะ!

                 

                 นอกจากจะไม่เลิกเห่อแล้วยังดูติดมันหนึบมากกว่าเดิมด้วยซ้ำ!

                     อยากจะรู้จริงว่าไอ้กล่องพลาสติกนั่นมันมีอะไรดี!

                     

                     “แทแทอา~ฟานี่ขอโทษ ฟานี่ไม่ได้ยินอ่ะทิฟฟานี่กอดแขนแทยอนอีกมือก็ยกขึ้นจิ้มแก้มนิ่มของแทยอน ร่างเล็กเผยยิ้มกว้างออกมาเมื่อในที่สุดความพยายามของเธอก็ประสบผลสำเร็จแต่ทันทีที่หันหน้ากลับมามองทิฟฟานี่เธอก็แทบอยากจะไปช่วยวิดน้ำที่ไทย

                     

      ขนาดง้อฉันยังไม่ยอมปล่อยมือวางโทรศัพท์อีกหรอเนี่ย!

       

                      ติ๊ง!


                     “เย้~!แทแทหันหน้ามาแล้วแสดงว่าหายงอนฟานี่แล้วนะ จุ๊บ!”ทิฟฟานี่เอ่ยเสียงร่าเริงพร้อมส่งยิ้มตาปิดที่แทยอนชอบไปให้ก่อนจะยื่นหน้าไปใกล้แล้วหอมแก้มเข้าฟอดใหญ่...

                     

      มันก็หน้าดีใจอยู่หรอกที่แฟนหอมแก้ม...

                      แต่พอหอมแก้มเสร็จก็หันไปนั่งก้มหน้ากดโทรศัพท์เหมือนเดิมนี่มันหมายความว่ายังไงกัน?

                     

      พยายามข่มใจให้เย็นทั้งๆ ที่แทบจะระเบิดเพราะไม่อยากให้เรื่องราวบานปลายไปกันใหญ่เลยทนเงียบตลอดมา พูดคุยด้วยกันดีๆ ก็น่าจะเข้าใจ ตลอดสามเดือนกว่าที่ผ่านมาเธอไม่เคยบอกทิฟฟานี่ออกไปตรงๆ เพราะคิดว่าอีกเดี๋ยวก็เลิกกดเลิกเห่อไปเอง มาจนตอนนี้มันก็เริ่มไม่ไหวแล้วเหมือนกัน...


                     คงต้องพูดออกไปให้รู้เรื่อง...


                     “ฟา...

                     “ไปเที่ยวกันแทแท ฟานี่รู้นะว่าแทเบื่อในที่สุดทิฟฟานี่ก็วางโทรศัพท์ลงข้างตัวแล้วหันมาส่งยิ้มเอ่ยชวนแทยอนที่กำลังจะเอ่ยพูดเรื่องสำคัญแต่ก็โดนขัดไปซะก่อน

                      ความดีใจที่ได้เห็นทิฟฟานี่วางโทรศัพท์แล้วหันมาสนใจทำให้แทยอนลืมเรื่องที่กำลังจะพูดไปซะสนิท...

                     “Let’s Go!”

                     

      โดยไม่รู้เลยว่าเธอจะต้องกลับมานั่งปวดหัวกับไอ้กล่องพลาสติกนั่นอีก...

       


                    "ฟานี่อยากดูเรื่องอะไรอ่ะแทยอนเอ่ยถามทิฟฟานี่ที่ยืนอยู่ด้านหลังขณะไล่สายตาดูโปรแกรมหนังและรอบฉาย หากแต่เสียงที่ตอบกลับมาก็ยังคงเป็นเสียง...

       

                      ติ๊ง!

       

                      แทยอนถอนหายใจยาวก่อนจะหันกลับมามองทิฟฟานี่ที่กำลังก้มหน้ากดโทรศัพท์อย่างเคยด้วยสายตาเซ็งๆ เจ้าหลอนก็ยังคงไม่รู้ถึงรังสีอำมหิตที่แทยอนส่งให้อย่างเคย


                      หนึ่ง...สอง...สาม...สี่...ใจเย็นแทยอน...ใจเย็น...

       
                     แทยอนนับเลขในใจด้วยความข่มอารมณ์ หลับตาสูดหายใจลึกๆ เธอรู้ดีว่า ณ ตรงนี้ไม่ใช่ที่สมควรที่จะหาเรื่องทะเลาะกัน เก็บไว้ไปเคลียร์ที่บ้านก็ไม่สาย...

                     “ฟานี่...เอ่ยเสียงเรียบ

                     “หือ? ว่าไงแทแททิฟฟานี่ขานรับในลำคอโดยไม่ละสายตาขึ้นมามองหน้าแทยอน

       

                  ขนาดขานรับยังไม่ยอมเงยหน้าขึ้นมาจากโทรศัพท์เลย...

                  แล้วแบบนี้จะไม่ให้ฉันน้อยใจได้ยังไง...

       

                 จะดูเรื่องอะไรแทยอนแสร้งทำเป็นไม่เห็นทั้งๆ ที่ในใจอยากจะคว้าโทรศัพท์ในมือทิฟฟานี่ขึ้นมาเขวี้ยงหัวคนผลิต(พาลได้อีก- -;)

                     “อ่า...แล้วแต่เลย แทแทอยากดูอะไรฟานี่ก็อยากดูด้วยทั้งนั้นแหละทิฟฟานี่เอ่ยเร็วๆ พร้อมเงยหน้าขึ้นมาฉีกยิ้มกว้างให้แทยอนก่อนจะกลับไปก้มหน้ากดโทรศัพท์ต่อ  ส่วนแทยอนก็ทำได้เพียงแค่หงุดหงิดในใจก่อนจะพยายามไม่คิดเพราะมันจะพาลทำให้อารมณ์เสียซะเปล่าๆ

                      ถึงทิฟฟานี่จะเป็นคนพูดว่าตามใจแทยอนยังไงแต่สุดท้ายแทยอนก็ต้องเลือกหนังที่คิดว่าทิฟฟานี่ดูได้และน่าจะชอบมัน...


                 Pirate of the Caribbeanแล้วกัน...เรื่องโปรดของฟานี่

                      ขณะที่แทยอนกำลังจะหมุนตัวกลับพลันสายตาก็สะดุดเข้ากับรายการหนังอีกเรื่อง...

                 Insidiousอ่า...อยากดูเรื่องนี้จัง แต่ฟานี่ก็คงไม่ชอบเพราะมันเป็นหนังผี...


                 แทยอนส่ายหน้าตัดใจ...ตัดสินใจว่าไว้ค่อยซื้อแผ่นไปดูที่บ้านเอาเพราะยังไงทิฟฟานี่ก็ไม่มีวันยอมเข้าโรงหนังไปดูหนังผีเรื่องนี้กับเธอเป็นแน่...

                     

                      ติ๊ง!

       

                  รู้สึกเกลียดเสียงนี้จัง...

                 แทยอนหันมามองทิฟฟานี่ที่ยังคงยืนก้มหน้าหัวเราะคิกคักกับโทรศัพท์ในมือ สร้างความหมั่นไส้ปนน้อยใจให้แทยอน

                 ‘อ่า...แล้วแต่เลย แทแทอยากดูอะไรฟานี่ก็อยากดูด้วยทั้งนั้นแหละ

                  หึ!ขนาดเวลาเงยหน้าขึ้นมาดูโปรแกรมหนังยังไม่มี         

                  ตามใจงั้นหรอ...ฉันอยากดูเรื่องอะไรเธอก็อยากดูด้วย

                  น่าขำสิ้นดี!      

                 อืม...ตามใจ...ตามใจ...งั้นหรอ?

                      แทยอนเหลือมองทิฟฟานี่ก่อนจะแสยะยิ้มชั่วร้าย...

                      ได้เวลาเอาคืนแล้วหล่ะ!

       

                     โชคเข้าข้างเธอไม่น้อยเมื่อทิฟฟานี่มัวแต่สนใจโทรศัพท์ในมือจนไม่แม้แต่จะถามว่าสรุปแล้วเธอซื้อตั๋วหนังเรื่องอะไรมาแม้แต่ตอนเดินเข้าโรงหนังทิฟฟานี่ยังไม่ทันสังเกตโปสเตอร์หนังที่อยู่หน้าโรงฉาย ในเวลานี้เธอพึ่งจะเห็นประโยชน์ของไอ้กล่องพลาสติกส่งเสียงนั่นได้

       

                  หึ!ขอบคุณที่ช่วยให้แผนของฉันดำเนินไปได้ด้วยดี!

       

      เมื่อเข้ามาในโรงหนังแล้วทิฟฟานี่ก็จำเป็นต้องวางมือจากโทรศัพท์ เรียกรอยยิ้ม(โรคจิต)จากแทยอนได้ไม่น้อย...

      ทิฟฟานี่หยิบป๊อปคอร์นเข้าปากโดยไม่รู้อิโหน่อิเหน่จ้องมองจอฉายภาพยนตร์ที่กำลังฉายตัวอย่างหนังเรื่องที่กำลังเข้าโรงและใกล้จะเข้าโรง โดยไม่รู้เลยว่า...


                       อีกไม่กี่นาทีข้างหน้าจะต้องเจอกับอะไร...


                      “อ่า...แทแท...ฟานี่ถามอะไรหน่อยสิ...ไม่โกรธฟานี่นะทิฟฟานี่เคลื่อนหน้าไปใกล้หูของแทยอนกระซิบพอให้ได้ยินกันสองคนเมื่อความสงสัยเริ่มก่อกวนจิตใจ...

      ถามอะไรล่ะ

      แทแทพาฟานี่มาดูหนังเรื่องอะไรหรอ...คือ...ตอนเข้าโรงฟานี่ก็มัวแต่จัดการโทรศัพท์ในมือจนไม่ทันได้สนใจโปสเตอร์หน้าโรงอ่า...ทิฟฟานี่อธิบายขึ้นมาก่อนเพราะกลัวว่าแทยอนจะโกรธที่เธอมัวแต่สนใจโทรศัพท์ในมือ(โกรธเรียบร้อยแล้วล่ะหมี- -)

      อ๊ะ!หนังมาพอดีเลย ดูเอาแล้วกันฟานี่ เรื่องนี้แทอยากดูม้ากกกกมากกกกกก เห็นฟานี่บอกว่าแทอยากดูอะไรฟานี่ก็อยากดูด้วย แทก็เลือกเรื่องนี้ตามใจอยากประโยคหลังแทยอนเอ่ยเสียงเย็นพร้อมๆ กับที่เสียงเริ่มหนังดังขึ้นส่งผลให้ทิฟฟานี่ขนลุกเกรียวเบียดตัวไปใกล้แทยอนทันที

      นะ...นี่แทแทลากฟานี่มาดูหนังผีเนี่ยนะ!แทแทก็รู้อ่าว่าฟานี่กลัวผีกอดแขนแทยอนแน่นด้วยความกลัว

      ก็ฟานี่บอกว่าตามใจแทอ่า...ไม่เป็นไรหรอกฟานี่ กลัวก็ปิดตาเอาแทยอนเอ่ยยิ้มเจ้าเล่ห์ มองทิฟฟานี่ที่ทำหน้ากลัวสุดชีวิตทั้งๆ ที่หนังพึ่งจะเริ่ม...

      ว้าย!”เมื่อถึงฉากที่ผีปรากฏตัวทิฟฟานี่ก็หลุดร้องสะดุ้งสุดตัวเลื่อนตัวไปซบหน้ากับไหล่ของแทยอน เรียกยิ้มกว้างจากแทยอน

       

      แบบนี้แหละที่ต้องการ!

       

      แทแทอ่า ฟานี่ไม่ไหวแล้ว...ฟานี่กลัวอ่ะ แทแทจะดูก็ดูไปก็ได้ฟานี่ขอออกไปรอข้างนอกนะทิฟฟานี่เงยหน้าขึ้นมาเอ่ยเสียงอ้อนแทยอน ใบหน้าซีดเผือดราวกับเจอผีตัวเป็นๆ

      ตั้งนานกว่าหนังจะจบฟานี่จะทำอะไร

      เล่นโทรศัพท์ก็ได้...

      คำตอบของทิฟฟานี่สร้างความขุ่นเคืองให้แทยอนไม่น้อย อุตส่าห์คิดแผนให้ทิฟฟานี่ซบได้แล้วแถมยังเป็นการวางมือจากโทรศัพท์อีก ใครจะยอมให้โอกาสหลุดลอยกัน ร่างเล็กจ้องทิฟฟานี่เขม่นก่อนจะคว้ามือทิฟฟานี่มากุมไว้

      อยู่ตรงนี้แหละ ไมอยากดูก็นอนซะ

      จบคำของแทยอน ทิฟฟานี่ก็ซบไหล่แทยอนหลับตาปี๋ แทยอนระบายยิ้มน้อยๆ ก่อนจะยกมือขึ้นลูบหัวปลอบประโลมทิฟฟานี่

      ไม่ต้องกลัวนะคะคนดี...แทอยู่ตรงนี้ จะดูแลฟานี่เอง...หลับนะคะ

      ไม่รู้เพราะอะไรเพียงแค่น้ำเสียงนุ่มของแทยอนที่ใช้พูดกับเธอ แค่นี้ก็ทำให้เธอหายกลัวได้เป็นปลิดทิ้งก่อนจะปล่อยตัวให้สบายแล้วค่อยๆ ผล็อยหลับไป...

      แทยอนเผลอยิ้มขณะเหลือบมองทิฟฟานี่ที่ผล็อยหลับไปแล้วโดยไม่รู้ตัว...

      ในเวลานี้...เธออยากให้หนังเรื่องนี้ฉายให้นานที่สุด...

       

      หนังสนุกมั้ยแทแท ขอโทษนะที่ฟานี่ไม่กล้าพอจะดูเป็นเพื่อนทิฟฟานี่เอ่ยเสียงหงอยหลังจากเดินออกมาจากโรงหนัง

      ไม่ต้องดูเป็นเพื่อนแทหรอก แค่อยู่ข้างๆ เป็นแฟนก็พอแล้วแทยอนเอ่ยกรุ่มกริ่มมองทิฟฟานี่ที่หน้าขึ้นสีแดงเรื่อ ไม่มีอะไรบนโลกนี้สนุกไปกว่าการแกล้งคนด้านข้างอีกแล้ว...

      แก้มสีชมพูนั่นมันน่าหอมซักฟอดชะมัด...

      ริมฝีปากนั่นก็น่าสัมผัสไม่น้อยไปกว่ากัน...

      อยากจะรู้จริงๆ ว่าจะหวานได้เท่ารอยยิ้มของเธอมั้ย...

      สาบานสิว่าตอนนี้ฉันไม่ได้คิดอะไรอกุศลอยู่!

       



                    “ไอศกรีมที่สั่งได้แล้วค่ะพนักงานเอ่ยเสียงหวานขณะวางถ้วยไอศกรีมไว้บนโต๊ะอย่างเบามือ เมื่อทำหน้าที่ของตัวเสร็จเรียบร้อยแล้วก็เดินไปอีกทางปล่อยให้แทยอนนั่งหน้าบึ้งกับคนตรงหน้า...

       

                      ที่กำลังก้มหน้ากดโทรศัพท์อีกแล้ว!

       

                     “ฟานี่...ไอศกรีมมาแล้วนะ เดี๋ยวก็ละลายหมดหรอกแทยอนเอ่ยเสียงเรียบ ก่อนหน้านี้ยังดีๆ อยู่เลย ชีวิตจะห่างจากโทรศัพท์ซักวันไม่ได้เลยหรือไงนะ...

       

                     แค่ซักวันก็ยังดี...

       

                     “จ้าๆฟานี่เงยหน้าขึ้นมาส่งยิ้มตาปิดให้แทยอนก่อนจะตักไอศกรีมเข้าปากแต่ก็ไม่วายใช้มือซ้ายจับโทรศัพท์ไว้

                     

                  ขณะตอนกินยังไม่วายเล่นโทรศัพท์ไปด้วย...

                  อะไรมันจะขนาดนั้น!

       

      สุดท้ายแทยอนก็ทนไม่ไหว หันไปมองรอบข้างเมื่อเห็นว่าคนภายในร้านมีไม่มากนักจึงเริ่มเอ่ยปากตำหนิทิฟฟานี่ที่ไม่ได้รู้เรื่องรู้ราวว่าอะไรควรไม่ควร

      จะกดไปถึงเมื่อไหร่ฟานี่ ถ้ามากับแทแล้วมัวแต่สนใจโทรศัพท์แบบนี้ทีหลังให้แทมาคนเดียวก็ได้นะเพราะมันไม่ได้ต่างไปจากมาคนเดียวเลย

                      คำพูดของแทยอนทำให้ทิฟฟานี่ชะงักค้างไปเงยหน้าขึ้นมามองแทยอนที่ตีสีหน้าเรียบเฉยด้วยใบหน้าสำนึกผิด

                     “แทแทอ่า~ฟานี่ขอโทษ ก็สิก้าน่ะสิ...บอกว่าอยู่บ้านคนเดียวเหงาไม่มีเพื่อนคุย ฟานี่เลยคุยด้วยเป็นเพื่อน...ทิฟฟานี่เอ่ยด้วยใบหน้าเศร้าจนแทยอนใจอ่อนยวบ จะโกรธก็โกรธไม่ลง...

                     “งั้นช่างมันเหอะ รีบกินดีกว่า เดี๋ยวจะละลายซะก่อน

      แทยอนเอ่ยตัดบทแล้วก้มหน้าก้มตากินไอศกรีมในถ้วย ก่นด่าตัวเองที่ไม่เคยใจแข็งพอ เหตุผลที่ทิฟฟานี่ว่ามามันก็น่าให้อภัยอยู่ แต่ถ้าคิดถึงเวลาสามเดือนที่ทิฟฟานี่มัวแต่สนใจโทรศัพท์มา เหตุผลนั้นก็ดูไม่ได้ช่วยให้แทยอนรู้สึกดีขึ้น ได้แต่หวังว่าซักวันนึงทิฟฟานี่จะเลิกสนใจแต่โทรศัพท์ในมือแล้วหันมาสนใจเธอที่อยู่ข้างๆ บ้าง...

      เมื่อจัดการไอศกรีมในถ้วยของตัวเองหมดแทยอนก็นั่งหายใจทิ้งรอทิฟฟานี่ที่กินช้ากว่าปกติสองเท่าด้วยความเหนื่อยหน่าย จะไม่ให้ช้าได้ไงเล่นห้านาทีกินไอศกรีมในถ้วยคำนึงแล้วหันไปสนใจโทรศัพท์ในมือต่อ แบบนี้มีหวังห้างฯปิดล่ะมั้งเธอถึงจะได้ออกจากร้านไอศกรีม(เว่อร์เกิน)

       

      เวลาผ่านไปราวสิบนาทีที่แทยอนรอให้ทิฟฟานี่กินไอศกรีมหมด อีกฝ่ายก็ดูเหมือนว่าจะไม่รู้ตัวเลยว่าแทยอนกินเสร็จไปชาติเศษแล้ว ก็มัวแต่กดโทรศัพท์ไม่เงยหน้าขึ้นมามองรอบข้างแบบนั้นจะไปรู้เรื่องรู้ราวได้ยังไง...

       

                     “อ๊ะ ทำไมแทแทกินเร็วจัง รอฟานี่แป๊บนึงนะ จะรีบกินเดี๋ยวนี้แหละ

       

                      ในที่สุดทิฟฟานี่ที่รู้สึกว่ามีใครมองอยู่ก็เงยหน้าขึ้นมามองแล้วก็เห็นว่าแทยอนกำลังตีสีหน้าเรียบนั่งมองเธออยู่ เมื่อไล่สายตาลงมาก็พบถ้วยไอศกรีมของแทยอนนั้นว่างเปล่าจึงรีบจัดการไอศกรีมในถ้วยของตนให้หมดโดยเร็วเพราะเธอรู้ดีว่าแทยอนเกลียดการรอคอยแค่ไหน...

       

                     “อ๊า~อร่อยจัง

       

                     ทิฟฟานี่ที่ยอมวางโทรศัพท์ไว้บนโต๊ะ(ซักที) เอ่ยเสียงร่าเริงพร้อมยิ้มอันเป็นเอกลักษณ์ประจำตัวทันทีที่จัดการไอศกรีมส่วนของตนเสร็จ แทยอนที่มองทิฟฟานี่อยู่หลุดขำออกมา

                     “ฮ่าๆๆๆๆ

                      “หือ?”

                      “ฮ่าๆๆ

                     “แทแทอ่า!ขำอะไร!ขำฟานี่ป่ะเนี่ย บอกมาเลยนะว่าขำอะไรทิฟฟานี่ทำแก้มป่องมองแทยอนด้วยสายตาขัดใจที่ตัวเองไม่รู้เรื่องอะไรเลย

       

                     “ยัยบ๊อง

       

      แทยอนที่หยุดขำได้ในที่สุดเอ่ยเสียงขันก่อนจะยืนขึ้นโน้มตัวไปใกล้ทิฟฟานี่ ยกนิ้วขึ้นปาดไอศกรีมที่เลอะมุมปากของทิฟฟานี่ด้วยรอยยิ้มเอ็นดู

                     “กินเลอะเป็นเด็กๆ ไปได้

                     “!!!”

                     “อืม... รสสตอร์เบอร์รี่นี่ก็อร่อยดีแหะ

                      แทยอนที่เลียไอศกรีมที่เช็ดมาจากมุมปากของทิฟฟานี่เอ่ยกับตัวเองแต่ตั้งใจให้ทิฟฟานี่ได้ยิน ด้วยระยะห่างระหว่างใบหน้าเพียงแค่คืบถ้าไม่ได้ยินก็คงเป็นเรื่องแปลก คำพูดกับการกระทำเช่นนั้นทำให้ทิฟฟานี่ได้แต่ก้มหน้าหงุดไม่กล้าสบตาแทยอน แก้มเนียนนั้นขึ้นสีจนเห็นได้ชัดเรียกรอยยิ้มจากแทยอน...

       

       

                      หลังจากจัดแจงจ่ายเงินค่าไอศกรีมเสร็จแล้วแทยอนก็พาทิฟฟานี่เดินเอื่อยๆ ไปเรื่อยๆ ผู้คนเริ่มเดินกันพลุกพล่านมากขึ้นแทยอนจึงคว้ามือทิฟฟานี่มากุมไว้ ขณะเดินไปได้ซักพัก...

       

                      ติ๊ง!

       

                      เสียงที่แทยอนเกลียดมาที่สุดก็ดังขึ้นมาอีกแล้ว...

                      ทิฟฟานี่ทำท่าจะปล่อยมือออกจากเธอแต่มีหรือที่เธอจะยอม แทยอนกุมมือทิฟฟานี่แน่น แสร้งทำเป็นไม่รู้เรื่องรู้ราวจนทิฟฟานี่ต้องเอ่ยบอกแทยอน

                     “แทแทอ่า~ปล่อยมือฟานี่ก่อนได้มั้ย โทรศัพท์ฟานี่ดังทิฟฟานี่เอ่ยเสียงอ้อนใส่แทยอนแต่คราวนี้คนตัวเล็กเบนสายตามองไปทางอื่น ขืนมองใบหน้าออดอ้อนของทิฟฟานี่เข้ามีหวังเธอได้ใจอ่อนยอมปล่อยมือทิฟฟานี่แหงๆ

                     “ก็ปล่อยให้มันดังไปสิ แทไม่อยากปล่อยมือนี่เอ่ยอย่างเอาแต่ใจจนทิฟฟานี่ขมวดคิ้วมุ่น เอ่ยเสียงอ่อนกับแทยอน

                     “แทแท... สิก้าเขาอยู่บ้านคนเดียวก็อยากมีเพื่อนคุยด้วย ใช่ว่าฟานี่ไม่อยากจับมือกับแทแทซะหน่อย แต่ตอนนี้ปล่อยมือก่อนนะ ฟานี่สงสารสิก้าเขา...เขาไม่อยากอยู่คนเดียว...

                      ทิฟฟานี่เอ่ยเสียงจริงจังพร้อมมองสบกับดวงตาของแทยอน คนตัวเล็กถอนหายใจยาวก่อนจะยอมปล่อยมืออย่างจำใจ ทิฟฟานี่ส่งยิ้มให้แทยอนก่อนจะรีบล้วงหาโทรศัพท์ในกระเป๋าแล้วหยิบขึ้นมาก้มหน้ากดโดยไม่ได้สังเกตเลยว่า...

                      แทยอนหันหลังเดินหนีไปอีกทางแล้ว...

       

       

      แทยอนที่เดินเลี่ยงออกมาทิ้งให้ทิฟฟานี่เดินก้มหน้ากดโทรศัพท์ไปคนเดียว ไม่รู้ว่าความคิดส่วนไหนสั่งให้เธอเดินออกมา กว่าจะรู้ตัวอีกทีเธอก็ขึ้นมานั่งบนรถเมล์เรียบร้อยแล้วเลยได้แต่ปล่อยเลยตามเลย...

                 เพราะเธอเหนื่อยมามากพอแล้ว...

                  เหนื่อยเกินกว่าจะทนกับความละเลยของทิฟฟานี่ได้อีก...

       

                 ‘แทแทนี่... สิก้าเขาอยู่บ้านคนเดียวก็อยากมีเพื่อนคุยด้วย ใช่ว่าฟานี่ไม่อยากจับมือกับแทแทซะหน่อย แต่ตอนนี้ปล่อยมือก่อนนะ ฟานี่สงสารสิก้าเขา...เขาไม่อยากอยู่คนเดียว...

                     

                  แล้วเธอไม่สงสารฉันบ้างเลยหรือไง...

                  ฉันก็ไม่อยากอยู่คนเดียวเหมือนกันนะ...        

                  เธอมัวแต่กดโทรศัพท์คุยกับคนอื่น...

      แล้วคนที่อยู่ข้างๆ เธอล่ะ...ทำไมไม่คิดจะสนใจกันบ้าง...

       

       

       “เสร็จแล้วแทแททิฟฟานี่เก็บโทรศัพท์ใส่กระเป๋าเอ่ยเสียงร่าเริง เงยหน้าขึ้นหลังจากก้มมานานแต่แล้วคนที่มาด้วยกันตอนแรกกลับหายไปซะเฉยๆ

       

      หายไปไหนของเขานะ...

       

      ทิฟฟานี่ขมวดคิ้วมุ่น มองซ้ายมองขวาก็ไม่เจอคนตัวเล็กผิวขาวหน้าตาจิ้มลิ้มเสียที ล้วงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดโทรออกหาแทยอนแต่กลับพบว่าปลายสายปิดโทรศัพท์

      ความร้อนอกร้อนใจทำให้ทิฟฟานี่เดินตามหาแทยอนเสียทั่ว...

       

       

      ทิฟฟานี่ทิ้งตัวนั่งบนเก้าอี้บนรถเมล์ด้วยความเหนื่อยอ่อนหลังจากเดินหาแทยอนเสียทั่ว ให้ทางห้างฯประกาศเรียกแต่รอเท่าไหร่ก็ไม่มีวี่แววของคนตัวเล็ก ทิฟฟานี่จึงตัดสินใจว่าจะไปรอที่บ้านแทน...

                      ไม่นานนักทิฟฟานี่ก็มาถึงบ้านของเธอและแทยอน พอเห็นว่าภายในบ้านเปิดไฟสว่างอยู่ก็โล่งอกขึ้นมาบ้าง แต่ก็อดหงุดหงิดเสียไม่ได้ที่อยู่ๆ แทยอนก็ทิ้งเธอไว้คนเดียว ถ้ามีเรื่องเร่งด่วนอะไรก็น่าจะบอกกันบ้าง...

                      ทิฟฟานี่เปิดประตูเข้ามาภายในบ้านก็พบแทยอนนั่งเหม่อดูโทรทัศน์ภายในห้องนั่งเล่น ไม่มีทีท่าจะเอ่ยทักเธอที่เดินเข้ามายืนกอดอกมองได้ซักพักแล้ว ทิฟฟานี่จึงเคาะผนังให้แทยอนรู้ตัวว่าเธอมาแล้ว

                      แทยอนสะดุ้งเล็กน้อยก่อนจะหันมามองทิฟฟานี่ สาวตายิ้มจัดการเก๊กหน้าขรึมกอดอกเชิ่ดหน้าคิดว่าแทยอนต้องลากเสียงอ้อนขอโทษขอโพยเธอที่อยู่ๆ ก็หายไปซะดื้อๆ เป็นแน่ แต่ผลกลับออกมาตาลปัตร นอกจากแทยอนจะไม่ขอโทษเธอแล้วยังตีสีหน้านิ่งลุกขึ้นปิดโทรทัศน์ก่อนจะเดินขึ้นห้องไปโดยไม่หันมามองเธอที่ยืนกอดอกพิงผนังอยู่เลยแม้แต่นิดเดียว...

                      ทิฟฟานี่ยืนตีหน้างง อ้าปากค้างด้วยความสงสัย ปกติแทยอนไม่ใช่คนแบบนี้เสียหน่อย จะเป็นแบบนี้ก็ต่อเมื่อโกรธขึ้นมาก็เท่านั้นแหละ...

       

                  ว่าแต่...แทยอนโกรธอะไรฉันกันนะ...

                  เพราะเรื่องโทรศัพท์งั้นหรอ?

       

                      ทิฟฟานี่คิดหาเหตุผลที่แทยอนน่าจะโกรธขึ้นมาก่อนจะตีหน้ายุ่งกว่าเก่า แทยอนเป็นคนมีเหตุผลพอไม่ใช่คนที่จะโกรธอะไรง่ายๆ เรื่องโทรศัพท์เธอก็อธิบายไปแล้ว ทำไมถึงยังโกรธอีกนะ จะว่าโกรธเรื่องอื่นก็ไม่น่าจะใช่เพราะนึกเท่าไหร่ก็นึกไม่ออก สงสัยก็คงเป็นเพราะเหตุผลนี้แหละ...

                  ง้อคนไม่เก่งซะด้วยสิ...

       

                 ทางด้านแทยอนที่เดินหนีขึ้นมาบนห้อง เจ้าตัวนอนราบกับเตียงยกมือขึ้นก่ายหน้าผากคิดทบทวนถึงสิ่งที่ทำลงไปว่ามันมีเหตุผลพอหรือเปล่า...

       

                  ใช่!มันดูไร้เหตุผล!

                     

      ทิฟฟานี่ก็บอกถึงเหตุผลแล้ว แต่เธอก็ยังไม่วายรู้สึกน้อยใจที่อีกคนไม่สนใจใส่ใจเธอบ้างจนทำอะไรๆ ให้มันบานปลายไปกว่าเก่า ทนมาขนาดนี้แล้วทนอีกหน่อยไม่ได้เลยหรือไงนะ...

                      รอกลับมาที่บ้านแล้วเปิดอกคุยกันดีๆ ทิฟฟานี่ก็น่าจะเข้าใจ...

                      แต่สุดท้ายเธอก็ทนไม่ไหวเดินออกมาซะอย่างนั้น...

       

                  ฉันทำอะไรลงไปเนี่ย...

                  ฉันปล่อยเธอไว้คนเดียวแล้วหนีกลับมาก่อน...

      ฉันปล่อยให้เธอกลับบ้านคนเดียวค่ำๆ มืดๆ ทั้งๆ ที่รู้ดีว่ามันอันตรายขนาดไหน...

                  ฉันแสร้งทำเป็นทำเมินเฉยต่อเธอราวกับไม่มีตัวตน...

                      ฉันทำมันทั้งหมดลงไปได้ยังไงกันนะ...



                      ก๊อกๆ

                     “แทแท...ฟานี่เข้าไปนะ

                      เสียงหวานเอ่ยขึ้นหลังจากเคาะประตูพอเป็นพิธี ยืนรอเสียงขานรับจากคนด้านในแต่สิ่งที่ได้รับกลับมาคือความเงียบ ทิฟฟานี่ถอนหายใจเบาๆ ก่อนจะตัดสินใจเปิดประตูเข้าไปอย่างเบามือ

                      ภายในห้องสี่เหลี่ยมเงียบสนิทราวกับไม่มีคนอยู่ แสงจากด้านนนอกที่ส่องลอดเข้ามาทำให้พอเห็นอะไรได้ลางๆ  แผ่นหลังของแทยอนที่นั่งหันหลังให้ทำให้เธอรู้สึกใจคอไม่ดี พยายามคลำหาสวิตช์เปิดไฟด้านข้างประตูแต่แล้วแทยอนก็เอ่ยห้ามเสียงดัง

       

                     “อย่าเปิดไฟนะ!แทอยากอยู่เงียบๆ คนเดียว จะไปไหนก็ไป...

       

                      แทยอนพยายามอย่างยิ่งไม่ให้เสียงที่เปล่งออกมาสั่นเครือ กัดเม้มริมฝีปากแน่นไม่อยากให้เสียงสะอื้นดังลอดไปเข้าหูของทิฟฟานี่ฟานี่คงไม่เหงาหรอกเพราะมีโทรศัพท์เป็นเพื่อน...

                      ร่างบางที่ยืนอยู่หน้าห้องก็ได้แต่ทำสีหน้ารู้สึกผิด คำพูดของแทยอนเป็นเครื่องยืนยันอย่างดีว่าเรื่องที่แทยอนโกรธเธอก็คงไม่พ้นเรื่องโทรศัพท์มือถือ...

       

                  ฉันทำเกินไปหรือเปล่านะ...

       

                 ฟานี่คงไม่เหงาเหมือนแทหรอก...อย่าว่าแต่เพื่อนเลย...ขนาดแฟนยังไม่สนใจ...

                      ใบหน้าหวานของทิฟฟานี่เศร้าหมองลง ร่างบางตัดสินใจปิดประตูทำราวกับว่าเธอเดินออกไปจากห้องนี้แล้ว ทันทีที่เสียงปิดประตูดังขึ้นเสียงสะอื้นของแทยอนก็ดังขึ้นมาแทบจะทันที...

                      ทิฟฟานี่กำมือแน่นจนเล็บจิกลงไปบนฝ่ามือสร้างความเจ็บปวดให้เธอ แต่ตอนนี้ความเจ็บเพียงเล็กน้อยแค่นั้นคงไม่อาจเทียบเท่าความเจ็บปวดของอกด้านซ้ายได้หรอก...

                     

      ฉันทำให้เธอรู้สึกแย่...

                  ฉันทำให้เธอเสียใจ...

                  ฉันทำให้เธอ...

                      เสียน้ำตา... 

                     

      ทิฟฟานี่ค่อนๆ ก้าวขาอ่อนแรงไปหาร่างของแทยอนที่สั่นด้วยแรงสะอื้น ความรู้สึกผิดถาโถมเข้ามาทำเธอแทบหายไม่ออก เฝ้าโทษตัวเองที่ทำอะไรไม่เข้าท่า...

      แทแท...ฟานี่ขอโทษทิฟฟานี่เอ่ยเสียงสั่นดึงแทยอนเข้ามากอดแน่น ร่างเล็กไม่ขัดขืนนั่งนิ่งปล่อยให้อีกฝ่ายกอด ใจจริงยกโทษให้ตั้งแต่ที่ทิฟฟานี่ดึวเข้าไปกอดพร้อมกับเอ่ยขอโทษแล้ว...

       

                  แต่คนอย่างเธอก็ปากหนักใช่ย่อย...                 

                  อีกทั้ง...ลึกๆ ยังชอบด้วยซ้ำเวลาที่ทิฟฟานี่มาง้อขอคืนดีแบบนี้...

                      มันชวนให้รู้สึกดีว่าเราเป็นคนพิเศษสำหรับเขายังไงไม่รู้...

       

       “แทแท...อย่าร้องไห้อีกเลยนะ...รู้มั้ยว่าฟานี่ไม่ชอบตอนแทแทร้องไห้เลยทิฟฟานี่เอ่ยเสียงเศร้าซบหน้าลงกับไหล่ของแทยอน ไปๆ มาๆ คล้ายว่าจะไปเธอเองที่จะร้องไห้ทั้งๆ ที่พึ่งเอ่ยห้ามไม่ให้อีกฝ่ายร้องไห้

      อย่าร้องไห้อีกเลยนะ...

      คำขอของทิฟฟานี่ดูจะได้ผลดีเกินคาดเมื่ออยู่ๆ แทยอนก็เงียบเสียงสะอื้นไปก่อนที่อึดใจต่อมาจะหัวเราะในลำคอเบาๆ สร้างความงุนงงให้กับทิฟฟานี่ไม่น้อย

      หึๆ

      ...

      ฟานี่ไม่ควรเชื่อใจคนบีบน้ำตาเก่งอย่างแทนะ

      แทยอนผละออกจากอ้อมกอดของทิฟฟานี่ก่อนจะเอ่ยเสียงขันพร้อมเอื้อมมือไปเปิดสวิตช์ไฟที่โคมไฟข้างเตียง แสงจากโคมไฟมากพอจะทำให้แทยอนเห็นสิหน้าเคืองขุ่นของทิฟฟานี่ แทยอนทำเพียงแค่ส่งยิ้มกวนๆ ไปให้ด้วยความรู้สึกสนุกกับการแกล้งสาวตายิ้มแม้ว่าข้างในเธอจะโกรธทิฟฟานี่จริงๆ ก็ตามที

      ทิฟฟานี่พรวดพราดลุกจากเตียงด้วยความเคือง กำลังจะก้าวเท้าหนีแต่ก็โดนอีกคนรั้งมือเอาไว้ หันขวับไปเอ่ยเสียงเข้มใส่แทยอน

       

      เอาความรู้สึกคนอื่นมาล้อเล่นมันสนุกมากใช่มั้ย

       

      คำพูดกับสีหน้าเรียบนิ่งของทิฟฟานี่ทำให้แทยอนจำใจปล่อยมือที่รั้งอีกฝ่ายไว้ ก้มหน้านิ่งไม่เอ่ยอะไรออกไป ทิฟฟานี่ยืนมองแทยอนครู่นึงก่อนจะก้าวขาเดินออกจากห้อง

      แต่ยังไม่ทันจับลูกบิดประตู แทยอนก็เอ่ยเสียงจริงจังขึ้นมาบ้างจนทิฟฟานี่ต้องชะงักหยุดฟัง

       

      ฟานี่คิดว่าที่แทบีบน้ำตาได้ง่ายๆ...ไม่ใข่ว่าเพราะมันมีส่วนมาจากฟานี่จริงๆ หรือไง...

       

      คำพูดของแทยอนไม่ได้ทำให้ทิฟฟานี่เชื่อซะทีเดียว ความเงียบปกคลุมภายในห้อง ทิฟฟานี่ทำเพียงยืนครุ่นคิดถึงสิ่งที่แทยอนพูดออกมาว่ามีความเป็นไปได้มากน้อยแค่ไหน...

      ใช่...ตอนแรกแทโกรธฟานี่มาก...ทั้งโกรธ...ทั้งน้อยใจ…”แทยอนก้มหน้าพูดสิ่งที่อยู่ในใจออกมาเรื่อยๆ เพราะรู้ดีว่าตอนนี้ทิฟฟานี่กำลังยืนตั้งใจฟังสิ่งที่เธอพูดอยู่เงียบๆ

       

      เธออยากให้มันจบไปเสียที...

      ไอ้อาการหมางเมินไม่สนใจกันแบบนั้นของทิฟฟานี่...

       

      ฟานี่ใส่ใจแทน้อยลงไปจากแต่ก่อนมาก...มากจนแทเริ่มทนไม่ไหว...ฟานี่มัวแต่สนใจโทรศัพท์ในมือทั้งๆ ที่มันไม่ได้มีความสำคัญมากไปกว่าแทที่ยืนอยู่ข้างๆ เลยด้วยซ้ำ...แต่ฟานี่ก็สนใจมันมากกว่าแท...

      ...

      ฟานี่ก็น่าจะรู้ดี...ว่าแทเกลียดการโดนเมินที่สุด...แทยอนเงยหน้าขึ้นหันไปมองแผ่นหลังทิฟฟานี่ เอ่ยต่อไปอีกว่า"โดยเฉพาะการถูกเมินจากฟานี่"

      แทยอนเงียบนิ่งรอให้ทิฟฟานี่เอ่ยอะไรออกมาหรือทำอะไรบ้าง ครู่ต่อมาทิฟฟานี่ก็หันหน้ามายิ้มเย็นๆ ให้แทยอน

      แล้วแทแทก็น่าจะรู้ดีเหมือนกันนะ...ว่าฟานี่ก็เกลียดการโดนเมินที่สุด...

      ...

      โดยเฉพาะการถูกเมินจากแทแท...

      .

      .

      .

                 ‘ไม่ๆ โอ้!ไม่ๆ...โว้ย!ให้มันได้งี้สิ!’

                  ร่างเล็กนั่งตีหน้ายุ่งภายในห้องนั่งเล่นยามบ่าย ในมือถือเครื่องเล่นPSPไว้ด้วยความหงุดหงิดเมื่อไม่สามารถล้มบอสในกมได้สำเร็จ ท่องกับตัวเองให้ใจเย็นเข้าไว้เพราะถึงยังไงก็ต้องจัดการบอสนั่นให้ได้เพื่อข้ามไปเลเวลต่อไป

       

                 ‘แทแท~’

       

                 ร่างบางที่พึ่งเดินลงมาจากด้านบนหลังจากเก็บกวาดห้องเสร็จทิ้งตัวนั่งลงด้านข้างร่างเล็กที่กำลังจะกดเริ่มเกมใหม่ ร่างบางกระแซะตัวไปใกล้เช่นที่ทำประจำด้วยความออดอ้อนมือนึงคล้องแขนอีกมือก็ยกขึ้นจับท้องตัวเอง

                 ‘แทแทอ่า~ฟานี่หิวจัง ทำอะไรให้กินหน่อยสิ

                 ‘อ่า...รอก่อนนะฟานี่...แทขอเล่นด่านนี้ให้จบก่อน

                 แทยอนเอ่ยเนิบๆ ในขณะที่กำลังพยายามเพ่งสมาธิทั้งหมดไปกับการเล่นเกม ทิฟฟานี่ได้ยินดังนั้นจึงหันไปคว้ารีโมทขึ้นมากดเปิดทีวีดูฆ่าเวลา กดเปลี่ยนไปช่องโปรดที่เป็นรายการตลกแบบที่ตัวเองชอบ

                  ทิฟฟานี่ผละออกจากแทยอนหันมาตั้งหน้าตั้งตาดูโทรทัศน์ตรงหน้า ส่วนแทยอนก็ยังคงทุ่มสมาธิทั้งหมดไปกับการเล่นเกม ภายในห้องนั่งเล่นยามบ่ายเช่นนี้จึงมีเพียงเสียงจากโทรทัศน์กับเสียงจากเครื่องเล่นPSPในมือของแทยอน

                 

                  5นาทีผ่านไป...

                 ‘กร๊ากกกกกกกกกกกกก ฮ่าๆๆๆๆๆๆ

                 ‘…’

                  ‘ฮ่าๆๆๆๆ!’

                 ‘โว้ย!แพ้อีกแล้วหรอเนี่ย!’

                  ทิฟฟานี่สะดุ้งตัวโยนเมื่ออยู่ๆ แทยอนก็แหกปากเสียงดังด้วยความหงุดหงิด โยนPSPในมือลงกับโซฟา ดูก็รู้ว่าอีแบบนี้ก็คงไม่พ้นแพ้มาอีกระลอก

                 ‘แทแท~ฟานี่หิวแล้วน้าทิฟฟานี่เอ่ยเสียงอ้อนทำตาวิบวับหากแต่แทยอนไม่แม้แต่จะสนใจมองหันไปคว้าPSPที่พึ่งโยนไปเมื่อครู่ขึ้นมากดเริ่มเกมใหม่อีกรอบ

                 ‘ฟานี่!เบาเสียงทีวีแล้วก็หัวเราะเบาๆ หน่อยได้มั้ย แทไม่มีสมาธิ

                  ทิฟฟานี่ส่ายหน้าน้อยๆ ก่อนจะคว้ามรีโมทขึ้นมากดปิดโทรทัศน์ตัดปัญหาไป เปลี่ยนจากดูโทรทัศน์ไปดูแทยอนเล่นเกมแทน          

       

                  5นาทีต่อมา...

                 ‘ว้าย!แทแทระวัง อ๊า!บอสมันจะฆ่าแทแทได้แล้วนะ

                 ‘รู้แล้วหน่าฟานี่ เงียบๆ หน่อยได้มั้ย แทต้องการสมาธิ

                  ทิฟฟานี่หุบปากตามคำสั่งของแทยอน จ้องPSPในมือแทยอนนิ่งด้วยความตื่นเต้น ส่วนแทยอนก็ยังคงพยายามที่จะเอาชนะบอสให้ได้แต่จนแล้วจนรอดก็...

       

                  ‘โว้ยยยยยยยยยยย!แพ้อีกแล้วหรอวะเนี่ย!’

       

                  แทยอนยกมือขึ้นทึ้งหัวตัวเอง เพราะเป็นคนอารมณ์ร้อนแบบนี้เนี่ยแหละเลยทำให้ทิฟฟานี่ได้แต่ส่ายหน้าน้อยๆ รู้นิสัยแทยอนดีว่าถ้าไม่ทำอะไรที่ตั้งใจไว้ให้สำเร็จก็จะไม่มีวันทำอย่างอื่นเด็ดขาด

       

                  ไอ้นิสัยแบบนั้นมันก็น่าชื่นชมในความมุ่งมั่นอยู่หรอก

                  แต่ในเวลานี้มันไม่ใช่ เพราะตอนนี้เธอหิวจนจะกินหมาได้ทั้งตัว(ทำไมต้องหมา?)อยู่รอมร่อ ขืนรอให้แทยอนเล่นเกมเอาชนะบอสได้เสร็จละก็มีหวังเธอคงกระเพาะทะลุแน่ๆ

       

                  ทิฟฟานี่ตัดสินใจเดินออกไปซื้อของข้างนอกเข้ามากินในบ้าน ถ้าทำอาหารเป็นก็คงไม่ต้องมาลำบากออกไปซื้อแบบนี้หรอกแต่ถ้าจะให้ฝึกทำก็ไม่เอาด้วยเหมือนกัน

                  อดน้อยใจแทยอนเสียไม่ได้ ขนาดเธอเดินออกมาจากบ้านยังไม่แม้แต่จะถามว่าเธอจะไปไหน คงไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าเธอเดินออกมาข้างนอก ก็เพราะมัวแต่สนใจPSPในมือ มันก็แค่เกม จะไปจริงจังอะไรนักหนาก็ไม่รู้ ขืนเธอรอจนกว่าแทยอนจะเล่นจบแล้วไปทำอาหารมาให้กิน สมมติเกิดเป็นลมขึ้นมายังไม่รู้เลยว่าแทยอนจะรู้ตัวมั้ย

       

                 ‘รับอะไรดีคะ

       

                  แม่ค้าเอ่ยเสียงหวานเมื่อเห็นว่าทิฟฟานี่เดินมาหยุดยืนอยู่หน้าร้าน ร่างบางยืนนึกว่าจะซื้ออะไรกลับเข้าไปกินที่บ้านดีก่อนจะเลือกที่จะโทรเข้าไปถามแทยอนเสียหน่อยเผื่อเจ้าตัวอยากกินอะไรจะได้ซื้อเข้าไปให้ด้วย

                  สามครั้งได้ที่ทิฟฟานี่กดโทรเข้าเบอร์บ้านแต่ปรากฏว่าไม่มีคนรับสายทั้งๆ ที่โทรศัพท์บ้านก็วางอยู่ข้างโซฟาภายในห้องนั่งเล่นที่แทยอนนั่งเล่นเกมอยู่ ด้วยความร้อนใจกลัวว่าอีกฝ่ายจะเป็นอะไรทิฟฟานี่จึงรีบวิ่งกลับเข้าไปในบ้านทันที...

                  ระหว่างทางก็กดโทรหาแทยอนไปด้วยเผื่อว่าแทยอนอาจจะกำลังออกมาจากห้องน้ำ หายใจหอบถี่ด้วยความเหนื่อยเมื่อในที่สุดเธอก็วิ่งมาถึงหน้าบ้านจนได้ ยังไม่ทันยืนพักให้หายเหนื่อยทิฟฟานี่ก็วิ่งเข้าไปในบ้านทันทีด้วยกลัวว่าแทยอนจะเป็นอะไรไป...

       

                  แต่ภาพที่ได้เห็นนี่มันชวนโมโหไม่ใช่น้อย!

                  กริ๊ง~....กริ๊ง~....กริ๊ง...

                 ‘Yes!ในที่สุดก็ล้มบอสตัวนี้ได้ซักที ว้ะฮาฮ่าๆ!’

                  แทยอนลุกพรวดขึ้นยืนยกขาสั้นๆ ของตัวเองข้างนึงเหยียบบนโซฟามือท้าวสะเอวส่วนอีกมือก็กำแน่นเหยียดตรงชี้ฟ้าทำท่าราวกับซุปเปอร์แมนกำลังจะเหินฟ้า แต่ดูเหมือนว่าซุปเปอร์แมนนี่ท่าทางจะอายุแค่สี่ขวบเศษ!

                 แทยอนยังคงยืนอย่างสง่าทำหน้าภาคภูมิใจกับชัยชนะที่ได้รับโดยมีเสียงซาวน์เอฟเฟคเป็นเสียงโทรศัพท์บ้านที่ดังเรื่อยๆ โดยเจ้าตัวไม่มีทีท่าจะสนใจเดินไปรับโทรศัพท์เลย ไม่รู้ว่าเพราะมัวแต่ดีใจจนไม่ได้ยินหรือเพราะไม่ใส่ใจจะรับโทรศัพท์กันแน่...

       

                  ท่าทางแทยอนคงจะยืนภาคภูมิใจกับชัยชนะอีกพักใหญ่...

                 

                  ทิฟฟานี่จึงเดินเข้ามาในห้องนั่งเล่น กระแอมไอเสียงดัง แทยอนที่หันมาเห็นทิฟฟานี่โวยวายเสียงดังวิ่งโร่เข้ามาหาด้วยความดีใจ

       

                 ‘ฟานี่!แทชนะบอสได้แล้วนะ ม่ะๆ เดี๋ยวแทจะทำของกินฉลองให้ นั่งรอตรงนี้นะ อ่าโฮะๆ

       

                  แทยอนเอ่ยร่าเริงจับทิฟฟานี่นั่งลงกับโซฟาก่อนจะเดินฮัมเพลงเข้าไปในครัวอย่างอารมณ์ดี ทิฟฟานี่ส่ายหน้าระอาใจน้อยๆ

                  แฟนฉัน...ให้มันได้งี้สิ...

                 

                 ‘แทแท...

                 ‘หือ?’

                 ‘ออกมาเที่ยวยังจะเดินไปกดไปอีกหรอ

                 ‘อ่า...กำลังมันส์เลยอ่ะฟานี่ ขออีกแป๊บนะ

                  แทยอนเอ่ยในขณะที่ก้มหน้าเล่นPSPในมือโดยไม่ได้สนใจหรือสังเกตสีหน้าของทิฟฟานี่แม้แต่น้อย

       

                  มันน่าหนัก คิม แทยอน!

       

                  ไม่รู้ว่าแทยอนติดโรคติดต่อร้ายแรงมาหรือว่ายังไงเพราะตั้งแต่เริ่มเล่นPSPมา เจ้าตัวก็ดูเหมือนจะติดมันมากขึ้นๆ นี่ก็ร่วมสามเดือนแล้วที่แทยอนไปไหนมาไหนก็หยิบติดมือไปด้วย ทำอะไรก็หยิบขึ้นมาเล่นตลอด ไม่เว้นแม้แต่ตอนออกมาเดินห้างฯ ช่วงแรกๆ ก็ไม่ได้รู้สึกอะไรหรอก แต่มาตอนนี้ชักอยากจะคว้ามาหักทิ้งแล้วเหยียบๆ ให้เละขาเท้าเสียจริง

                  เล่นมากแล้วยังไม่พอแทยอนยังมีทีท่าเมินเฉยใส่ทิฟฟานี่ ยิ่งช่วงหลังๆ มายิ่งอาการหนัก ต้องเรียกสามสี่รอบถึงจะได้ยิน คุยก็ไม่คุยด้วยแถมชวยคุยด้วยก็หาว่าไปกวนสมาธิการเล่นเกมอีก

       

                  แบบนี้มันน่าโมโหมั้ยละ

                  อย่าให้ฉันคิดหาวิธีแก้แค้นได้แล้วกันแทยอน...

       

                  ทิฟฟานี่เข่นเขี้ยวเคี้ยวฟันมองแทยอนด้วยสีหน้าเคืองๆ ก่อนจะแสร้งทำปลงไม่สนใจแทยอนทั้งๆ ที่ข้างในน้อยใจจนจะบ้าอยู่แล้วก็ตามที...

       

                  แต่ไม่เป็นไร...ฉันทนได้...

                  ไว้รอให้ฉันคิดวิธีเอาคืนได้ก่อนเถอะแทยอน หึๆ...

                 

                  ทิฟฟานี่ก้าวขายาวๆ เร็วๆ ไปที่โซนขายโทรศัพท์มือถือโดยไม่สนใจแทยอน คนตัวเล็กก็ดูจะไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรเพราะมัวแต่ก้มหน้าเล่นเกมไม่สนใจสิ่งรอบข้าง

       

                 ‘เฮ้ย!’

       

                  แทยอนหลุดร้องเสียงหลงเมื่ออยู่ๆ ก็โดนชนอย่างแรงจนล้มลงกับพื้นPSPคู่ใจหลุดออกจากมือโดยไม่ตั้งใจ และโดยไม่ตั้งใจเช่นกันเท้าของใครบางคนที่เดินมาด้วยความเร่งรีบโดยไม่รู้เรื่องอะไรก็เหยียบเข้าให้...

       

                  กรอบ!

       

                  แทยอนนั่งเบิกตาโตมองPSPแสนรักที่ตอนนี้กลายสภาพเป็นแค่เศษเหล็กอยู่บนพื้นด้วยความอาลัย คนเดินเหยียบก็ดูเหมือนจะไม่รู้ตัวเลยว่าเผลอไปเหยียบอะไรบางอย่างเข้า เดินจ่ำๆ ต่อไปด้วยความรีบร้อนในธุระของตน

                  ทิฟฟานี่ที่หันมาเห็นเหตุการณ์พอดีก่อนจะหลุดหัวเราะออกมา ไอ้น่าสงสารมันก็น่าสงสารอยู่หรอก แต่สมน้ำหน้าเสียมากกว่า

                  ทิฟฟานี่สะบัดหน้าหนีแทยอนแสร้งทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นกลับไปสนใจโทรศัพท์มือถือที่วางเรียงรายไว้ในตู้กระจกด้วยดวงตาเป็นประกาย

       

                  ในที่สุดก็จะได้เปลี่ยนโทรศัพท์ใหม่ซักที!

       

                  ทิฟฟานี่ไล่สายตามองโทรศัพท์ไปเรื่อยๆ ก่อนจะสะดุดเข้ากับโทรศัพท์แบล็คเบอร์รี่ที่กำลังฮอตฮิตในขณะนี้ เอ่ยบอกเจ้าของร้านขอดู

       

                  ทิฟฟานี่พลิกโทรศัพท์แบล็คเบอร์รี่ในมือไปมาด้วยความหลงใหล

                      เพราะไอ้สิ่งนี้แหละ!ที่จะช่วยให้เธอได้แก้แค้นแทยอนสมใจอยาก!

       

                  หลังจากตัดสินใจซื้อโทรศัพท์แบล็คเบอร์รี่มาแล้ว ทิฟฟานี่ก็เดินกลับไปหาแทยอนที่นั่งหมดอาลัยตายอยากบริเวณใกล้ๆ กับซากPSPแสนรัก

                  ทันทีที่แทยอนเห็นทิฟฟานี่เจ้าตัวก็เดินโซเซเข้ามาหาเอ่ยใบหน้าเศร้าเล่าเหตุการณ์อันเลวร้ายที่เกิดขึ้นให้ทิฟฟานี่ฟัง สาวตายิ้มก็แสร้งทำสีหน้าตื่นตกใจไปกับเหตุการณ์ที่อีกฝ่ายเล่ามาทั้งๆ ที่ลึกๆ ข้างในอยากจะหัวเราะให้ฟันโยกแต่ก็ต้องเก็บซ่อนอารมณ์นั้นไว้

       

                 ‘ก็อย่างที่เล่าแหละฟานี่... ฟานี่ช่วยออกเงินซ่อมPSPให้แทก่อนได้มั้ยอ่า... ตอนนี้แทยังไม่มีเงินเลยอ่ะ นะฟานี่นะ แทคงอยู่ไม่ได้ถ้าไม่มีมัน

       

                  แทยอนคร่ำครวญพยายามทำให้ทิฟฟานี่เห็นใจ หารู้ไม่ว่าตอนนี้ทิฟฟานี่เองก็ไม่มีเงินเหมือนกัน

                  และถึงมี...เธอก็ไม่มีวันยอมเสียเงินซ่อมให้แทยอนหรอก!

       

                 ‘เอ่อ...ฟานี่พึ่งซื้อโทรศัพท์เครื่องใหม่มาอ่ะแทแท... เงินฟานี่ก็หมดแล้วเหมือนกัน...ทิฟฟานี่เอ่ยตามความจริง

       

                  แทยอนทำหน้าราวกับจะลงไปดิ้นตายเสียให้ได้ หันไปมองซากPSPด้วยความอาลัยอาวรณ์ก่อนจะเดินเข้าไปเก็บซากขึ้นมาถือไว้ในมือด้วยดวงตาคลอน้ำใส

       

                  รอพ่อก่อนนะ...แล้วพ่อจะรีบเก็บเงินพาลูกไปรักษาตัว...

       

                  แทยอนคร่ำครวญในใจมองPSPด้วยดวงตาเปี่ยมรัก(โรคจิตมาก- -;) โดยไม่รู้ตัวเลยว่าทิฟฟานี่กำลังทำสีหน้านางมารร้ายมองตนอยู่...

       

                      หึ!ได้เวลาเอาคืนแล้วล่ะ คิม แทยอน!

      .

      .

      .


                      ภายในห้องตอนนี้บรรยากาศดูอึมครึม ทิฟฟานี่กอดอกมองแทยอนนิ่งหลังจากเล่าเหตุการณ์ในดีตที่ดูเหมือนว่าแทยอนจะจำมันไม่ค่อยได้เสียเท่าไหร่จบ สถานการณ์ดูต่างไปจากตอนแรกเมื่อตอนนี้กลับเป็นแทยอนที่ควรจะต้องง้อทิฟฟานี่

                     “ฟานี่อ่า...แทขอโทษ

                      แทยอนเดินเข้ามาจับมือทิฟฟานี่แกว่งไปมา สีหน้ารู้สึกผิดสร้างความพึงพอใจให้ทิฟฟานี่เป็นอย่างมาก

                     “เข้าใจฟานี่แล้วใช่มั้ย ว่าการถูกเมินมันเป็นยังไง

                     “เข้าใจแล้ว~แทขอโทษ~ฟานี่ไม่โกรธนะ

                      แทยอนมองทิฟฟานี่ด้วยดวงตากลมโต ทำเหมือนกับลูกแมวตัวน้อยๆ แต่นั่นก็ได้ผลเมื่อทิฟฟานี่พยักหน้าเป็นเชิงยกโทษให้แทยอน

                     “เย้~!ฟานี่น่ารักที่สุดเลย

                      แทยอนโวยวายดีใจเสียงดัง กระโดดสวมกอดทิฟฟานี่ด้วยความดีใจ

       

                      ในที่สุด...หลังจากนี้ต่อไปก็จะไม่มีไอ้เสียงนรกนั่นดังให้ระคายหูอีกต่อไป!

       

                      แทยอนกระตุกยิ้มเหมือนจะเยาะเย้ยโทรศัพท์ของทิฟฟานี่ว่าเป็นไงล่ะ สุดท้ายเจ้านายแกก็เลือกฉัน โฮะๆ

                      แต่เพื่อความแน่ใจ... แทยอนจึงเอ่ยถามทิฟฟานี่

                     “ฟานี่อา~แทสำนึกผิดแล้ว งั้นต่อไปนี้ฟานี่จะไม่ก้มหน้ากดโทรศัพท์ไม่สนใจแทอีกใช่มั้ย

                      แทยอนผละออกจากตัวทิฟฟานี่เพื่อที่จะได้จ้องหน้าอ้อนวอนได้ง่ายๆ เอ่ยเสียงอ่อย เบะปากเตรียมตัวจะบีบน้ำตารอบที่สองถ้าเกิดว่าทิฟฟานี่ตอบว่าไม่!ฟานี่ไม่อยากสนใจแทแทแล้ว โทรศัพท์มันยังน่ารักมากกว่าแทอีก!’

                 ถ้าแทแทรู้แล้วว่ามันเป็นยังไงเวลาถูกเมิน ต่อไปนี้ฟานี่ก็จะกลับมาสนใจใส่ใจแทแทเหมือนเดิม

                     “เย้!~แฟนใครเนี่ย!น่ารักจัง

                     แทยอนเอ่ยด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม ฉวยโอกาสตอนทิฟฟานี่เผลอก้มตัวลงรวบต้นขาทิฟฟานี่ไว้ในอ้อมกอดแล้วยกขึ้นก่อนจะเดินตรงไปที่เตียง

                     “กรี๊ด!แทแท!ปล่อยฟานี่ลงนะ ตัวก็เล็กนิดเดียวยังจะมาทำเก่งอุ้มคนอื่นทิฟฟานี่โวยวายทันทีด้วยกลัวว่าแทยอนจะรับน้ำหนักเธอไม่ไหวจนล้มลงไปกองทั้งคู่ ถ้าเป็นแบบนั้นสาบานกับตัวเองเลยว่าเธอจะยำแทยอนให้เละ!

       

                      ตุ้บ!

                     “ว้าย!”

       

                      แทยอนโยนทิฟฟานี่ลงกับเตียง ไม่รอช้ารีบขึ้นไปคร่อมมองหน้าทิฟฟานี่ด้วยดวงตาหวานเลี่ยน

       

                     “น่ารักแบบนี้ก็ต้องให้รางวัลซะหน่อย

       

                      แทยอนเอ่ยจบก็ทาบทับริมฝีปากลงไปบนตำแหน่งเดียวกันทันที ทิฟฟานี่เบิกตาโพลงก่อนจะหลับตาพริ้มลงเมื่อแทยอนแทรกลิ้นเรียวเข้ามาภายในโพรงปาก ครู่ต่อมาแทยอนก็ถอนริมฝีปากออกมาด้วยใบหน้าอายๆ ที่ขึ้นสีแดงเรื่อ มองสบตากับทิฟฟานี่เงียบๆ ด้วยรอยยิ้ม

                      รอยยิ้มตาปิดของเธอมันช่างหวานเสียจริง

                      แต่ตอนนี้ฉันพบแล้วล่ะ...สิ่งที่หวานกว่ารอยยิ้มตาปิดของเธอ...

                      รสจูบของเธอยังไงล่ะ...มันช่าง...

                      หวานละมุนลิ้นเสียจริง...

       

       

      The End
      -------------------------------------------------------------------------

                      ว้าวๆ><ในที่สุดก็จบซักที><

                      ตอนจบน่ากระโดดถีบไรเตอร์มั้ยเนี่ย? 5555+

                      ไม่รู้จะชอบกันมั้ยT^Tยังไงก็ขอบคุณที่อ่านกันจนจบค่ะ>/\<

                      เป็ดลิง:ขออย่างเดียวจากไรเตอร์เช่นเดิม>o<คอมเม้นหน่อยค่ะ><



      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×