คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #22 : :: KISSMARK :: EP.22
-MARK PART-
ผมกับแจ็คสันต้องเสียคาบเรียนไปถึงสามคาบเพราะโดนไอ้ประธานนักเรียนนี่เรียกให้ไปช่วยจัดเอกสารในห้องคณะกรรมการนักเรียน ความจริงมันไม่ใช่งานของพวกผมหรอก แต่เพราะมันต้องทำงานเก็บเวลาผมก็เลยต้องไปทำอย่างช่วยไม่ได้ แต่จะว่าไปไม่ต้องนั่งเรียนนี่ก็ดีเหมือนกัน อีกอย่างจินยองมันอยู่คลาสเอให้มันพูดให้ฟังสองสามคำ ที่ไม่ได้เรียนมาสามคาบก็เข้าใจได้ทั้งหมด
ดูเหมือนคนที่จัดของจริงๆจะมีแค่แจ็คสัน เพราะผมและจินยองมัวแต่เล่นกันเสียมากกว่า ตอนแรกๆก็จัดอยู่ดีๆหรอก แต่ใครใช้ให้มันเอาเอกสารติดฝุ่นมาโดนหลังผมก่อนล่ะ จากการที่จะฟาดคืน เลยกลายเป็นว่าวิ่งเล่นกันไปทั่วห้องซะงั้น แจ็คสันมาก็หันมาตะโกนด่าจนเริ่มจะเบื่อ และกลับไปสนใจงานของตัวเองต่อ
พวกเราจัดของกันจนไม่ได้ดูว่าเวลาผ่านไปนานขนาดไหนแล้ว อาจจะเพราะว่าผมเล่นไปด้วยมันเลยสนุกมากกว่าน่าเบื่อที่จะต้องหันดูนาฬิกาทุกๆวินาทีเหมือนตอนที่นั่งเรียน ผมไม่ได้ยินเสียงกริ๊งที่โรงเรียนปล่อยเป็นสัญญาณระหว่างหมดคาบ เพราะนี่เป็นชั้นใต้ดิน มันจะปิดตัวเองจากโลกภายนอก ผมเลยไม่รู้ว่าที่จริงตอนนี้ผมควรเรียนวิชาอะไร หรือว่าถึงเวลาพักหรือยัง และเพราะว่าผมเล่นกับจินยองเสียงดังเกินไปโทรศัพท์มือถือที่ปิดเสียงอยู่ถึงได้ไม่มีใครสนใจมัน
จากที่วิ่งไล่กับจินยองไปมา เลยกลายเป็นว่ามันกระโดดขี่หลังผมไว้เพื่อไม่ให้ผมใช้แฟ้มฟาดมันได้ นานแล้วนะที่ผมไม่ได้เล่นอะไรเป็นเด็กกับมันแบบนี้ ประมาณสองปีได้ที่เราไม่ได้ติดต่อกันเลย ผม แจ็คสัน แล้วก็จินยอง สองปีที่ไม่มีใครติดต่อหาใครเลย...
"เฮ้ย!!!" ทันทีที่ผมได้ยินเสียงอุทานตกใจดังมาจากประตูผมก็หันไปแทบจะทันที
ยูคยอมที่เปิดประตูค้างไว้เป็นเจ้าของเสียง และตามมาด้วยแบมแบมที่แทรกตัวผ่านแขนยูคยอมเข้ามา
ผมไม่รู้ว่าเขามาตอนไหน มาได้ยังไง มาทำไม ผมควรพูดอะไร และตอนนี้เป็นเวลากี่โมง สิ่งที่ผมรู้อย่างเดียวคือปล่อยคนที่อยู่บนหลังลงพื้นให้เร็วที่สุด!
"แบม..." แจ็คสันเรียกเป็นคนแรกก่อนวางเอกสารในมือลง
"แบมคือ..." เมื่อเห็นว่าแจ็คสันไม่ได้พูดอะไรต่อผมก็เลยพูดขึ้น แต่ก็ไม่รู้ว่าควรพูดอะไรต่อไปดี สีหน้า แววตาแบบนั้นจากเด็กคนนี้ผมไม่เคยเห็นมันเลย
อยากจะเดินตามออกไปแต่จินยองมันก็รั้งแขนเอาไว้ แจ็คสันมันเลยเป็นคนที่เดินออกไปเอง ผมไม่รู้ว่าควรทำอะไร
ตอนนี้ในห้องก็เหลือแต่ผมกับจินยองเท่านั้น...
"มึงรั้งแขนกูไว้ทำไม?" ผมหันไปถามคนที่กำลังเดินไปเก็บเอกสารลงกล่องไม้ทรงสี่เหลี่ยม
"แล้วจะตามออกไปทำไมล่ะ รู้หรือไงว่าควรพูดอะไรถ้าตามออกไป"
"กูไม่รู้ แต่อย่างน้อยกูก็ควรตามออกไปไม่ใช่หรอวะ"
"แล้วทำไมไม่เดินออกไปล่ะ? หยุดตามที่ผมบอกทำไม?"
"เอ้า!!! มึงนี่..!" ผมพูดได้แค่นั้นจริงๆ ไม่รู้จะเถียงอะไรมันต่อ อาจะเป็นเพราะความคุ้นเคยจากเมื่อก่อนที่ผมมักทำอะไรตามที่มันขอเสมอ...
"มาร์ค!! มึงไม่คิดจะไปดูแบมหน่อยหรอ?" แจ็คสันตะโกนใส่ผมทันทีที่เปิดประตูเข้ามา
"คิดสิ...กูคิดอยู่" ผมตอบ
"มึงรู้รึเปล่าว่ามึงทำอะไรผิด?" มันลดเสียงลง
"..." ผมนิ่งเงียบครุ่นคิดและหันมองนาฬิกาอีกครั้ง
ตอนนี้เลยเวลาพักเที่ยงมาแล้วประมาณห้าสิบนาที ตั้งแต่เช้าผมให้ยูคยอมเป็นคนพาแบมแบมไปส่งที่คลาส และบอกว่า 'ตอนเที่ยงจะไปรับ' และผมก็ไม่ได้ไปเพราะมัวแต่จัดของบวกกับเล่นอยู่...กับไอ้จินยอง
และคงจะเป็นผมที่ผิดจริงๆ ผมไม่เคยผิดคำพูด...
แย่จริง!!
"มึงนึกอยู่หรือว่ามึงไม่รู้?!" แจ็คสันตะคอกถามเสียงดัง
"กูรู้แล้ว มึงอย่าตะโกนได้มั้ย"
"รู้แล้ว! แต่มึงก็ยังยืนอยู่นี่ มึงไม่คิดจะตามไปขอโทษหน่อยหรอ?" แจ็คสันยังคงตะโกนอยู่ก่อนหันไปหาจินยอง "แล้วมึงจะรั้งแขนมาร์คไว้ทำไม?"
"มึงอย่าว่ามัน กูเองแหละที่ไม่เดินไป กูผิดเอง"
"มาร์ค!!!"แจ็คสันตะโกนครั้งสุดท้ายก่อนจะเดินพรวดพราดออกไปและตามด้วยเสียงประตูที่ปิดตามหลังอย่างแรง
"คงไม่ทะเลาะกันใช่มั้ย แจ็คสันกับนายน่ะ แล้วก็เด็กนั่นด้วย" จินยองหันมาถามเสียงเป็นห่วง "ความจริงผมก็ผิดนะ"
"ถึงมึงจะผิด กูก็ว่ามึงได้คนเดียวเท่านั้น ลืมไปแล้วรึไง"
ผมอายุมากกว่าจินยองสองปี แต่เพราะเราสนิทกันผมกับแจ็คสันเลยอนุญาตให้มันเรียกโดยที่ไม่ต้องมี 'พี่' นำหน้า และยังพูดแบบเป็นกันเองสุดๆอีก แม้มันจะไม่เรียกผมว่าพี่ แต่มันก็ยังแทนตัวเองว่า 'ผม' เพราะไม่อยากตีเสมอจนเกินไป ซึ่งผมก็ไม่ว่าอะไรหรอกถ้ามันจะแทนตัวเองว่า 'กู' เหมือนกัน เพราะมันเป็นทั้งน้องและเพื่อนที่ผมรักที่สุดพอๆกับแจ็คสัน ไม่ว่าอะไรที่มันต้องการและผมให้ได้ผมก็จะให้ ไม่ว่ามันจะผิดหรือถูกผมก็ต้องปกป้องมันไว้ แม้คนที่ผิดจริงๆจะเป็นมันก็ตาม
"ขอบคุณครับ แต่ไปเรียนได้แล้วล่ะที่เหลือเดี๋ยวผมจัดการเอง" เมื่อเอกสารกองใหญ่สองสามกองเริ่มเรียงเป็นระเบียบแล้ว ผมก็เดินออกมาปล่อยให้จินยองมันอยู่คนเดียว
ตลอดการนั่งเรียนสามคาบที่เหลือช่วงบ่ายมันช่างเนิ่นนานนัก แจ็คสันก็ไม่ยอมพูดอะไรกับผมเลย มันเลยยิ่งทำให้ผมอึดอัดเข้าไปอีก ถ้าแบมแบมจะโกรธผม ผมก็พอจะเข้าใจได้ แต่แจ็คสันนี่ทำให้ผมหงุดหงิดจริงๆนะ
"มึงไม่คิดจะคุยกับกูหน่อยหรอ?" ผมถามมันเมื่อเวลาเรียนแสนอึดอัดสามชั่วโมงได้ผ่านไป
"เมื่อไหร่ที่แบมคุยกับมึง กูถึงจะคุยกับมึง"
"มึงอย่ามาเป็นแบมแบมสองสิวะ"
"มึงก็อย่าเป็นจินยองสองสิวะ"
"กูเปล่า..." ผมตอบเสียงเบา ก่อนคิดว่าตัวเองไปเป็นจินยองสองเมื่อไหร่
"กูหมายความว่า..." แจ็คสันลากเสียงขณะลุกขึ้นสะพายกระเป๋า "...ถ้ามึงอยู่ข้างจินยอง กูจะอยู่ข้างแบมเอง"
"กูไม่ได้อยู่ข้างใครทั้งนั้น"
"มึงอยู่ข้างมัน มาร์ค! มึงอยู่ข้างมันมานานแล้ว และถ้าตอนนี้มึงต้องปกป้องมันในขณะที่ต้องปกป้องแบม กูจะปกป้องแบมเอง ถ้ามึงดูแลเขาได้ไม่ดีอย่างที่พูด กูจะดูแลเขาเอง ถึงวันนี้กูจะมีส่วนผิดที่ไม่ได้เตือนมึงหรืออะไรก็แล้วแต่ แต่กูเป็นคนที่เดินตามแบมออกไป ไม่ใช่มึงที่ยืนอยู่ข้างไอ้จินยอง!" แจ็คสันกระแทกเสียงด้วยอารมณ์ที่พุ่งสูงก่อนจะเดินออกไปโดยไม่หันกลับมามองผมอีก
ในเมื่อมันเดินออกไปแล้ว สิ่งที่ผมจะทำได้ก็คือเก็บของและเดินออกไป… ผมก้มมองดูรถตัวเองจากระเบียงหน้าคลาสก็เห็นว่ายูคยอมกับแบมแบมยืนรออยู่ข้างรถแล้ว
ด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม...
แค่เพียงเท้าผมแตะบันไดขั้นสุดท้ายแบมแบมก็หันมาเห็นพอดี สีหน้าของเขาก็เปลี่ยนเป็นเรียบเฉย ไร้ซึ่งความรู้สึกใดๆ พร้อมกับโบกมือให้ยูคยอมที่กำลังเดินจากไป
"ลงมาก่อนทำไม?" มาถามเสียงเรียบขณะสตาร์ทรถ
"ก็ไม่รู้ว่าถ้านั่งรอ ต้องรอไปถึงเมื่อไหร่?"
นั่นเป็นคำพูดสุดท้ายก่อนที่รถจะเคลื่อนตัวออกจากที่จอดหน้าอาคาร แบมแบมไม่ได้พูดอะไรต่อ ผมก็ไม่ได้พูดอะไร ถ้าเป็นปกติผมจะชอบความเงียบขณะขับรถมาก แต่ในกรณีนี้มันค่อนข้างอึดอัดไม่ใช่น้อย แต่ผมก็เลือกที่จะไม่พูดอะไรอยู่ดี จนกว่าจะถึงคอนโด
"ขอคุยด้วยหน่อยสิ" หลังจากที่เดินตามหลังคนขาหักมานาน ผมก็เริ่มพูดเมื่อถึงที่ห้องและนั่งลงที่โซฟาแล้ว
"แบมจะอาบน้ำ" เขาพูดเสียงเรียบ
"ขอคุยก่อนได้มั้ย?"
"แล้วแบมขออาบน้ำก่อนได้มั้ยล่ะ?"
"ถ้าจะอาบน้ำก่อน ฉันจะตามเข้าไปคุยในห้องน้ำนะ"
"ถ้าพี่มาร์คตามเข้ามา แบมจะไม่คุยกับพี่มาร์คอีกเลย!!!"
----------------------------
#fickissmark
---------------------------
ความคิดเห็น