ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    GOT7 | KissMark ตราไว้ในใจนายคือของฉัน![END]

    ลำดับตอนที่ #2 : :: KISSMARK :: EP.2

    • อัปเดตล่าสุด 12 ม.ค. 58




               -BAMBAM PART-

               “แบมแบม” เสียงทุ้มเรียกผมอย่างแผ่วเบาพลางใช้มืออุ่นแตะเบาๆที่ใบหน้า นั่นทำให้ผมตื่นตัวได้เป็นอย่างดี



    ดีมาก


    มากจนเรียกได้ว่าสะดุ้ง


    “พี่ทำเราตกใจรึเปล่า?” พี่แจ็คสันรีบพูดเมื่อเห็นผมสะดุ้ง


    “ปเปล่าครับ” ผมตอบพลางใช้หลังมือขยี้ดวงตาจนพร่า “ถึงแล้วหรอ?”


    “ถึงแล้ว เครื่องกำลังจะลงที่อินชอน” เขาตอบทำให้ผมหันไปดูหน้าต่างที่ถูกปิดไป



    ผมค่อยๆเลื่อนมันออกก็เห็นได้ถึงวิวยามดึกจากมุมสูง และค่อยๆเลื่อนเข้าไปใกล้ แสงไฟมากมายส่องสว่างสวยงาม จากตึกบ้าง จากบ้านบ้าง ไฟส่องข้างทาง ไฟรถนับแสนนับล้านคัน



    “สวยจัง พี่แจ็คสันดู” ผมที่หันไปจะเรียกให้เขาดู แต่เขากลับมองอยู่ก่อนแล้ว “สวยเนอะ”



    “อื้ม” เขาตอบเป็นเสียงในลำคอ ก่อนหันตัวไปนั่งแบบเดิม


    “เพลงเพราะมากเลย ขอบคุณนะครับ” พอนึกขึ้นได้ว่ายังใส่หูฟังอยู่ก็ถอดคืนแต่ว่า


    “เอาไปสิ พี่ให้ เผื่อลืมเอามาจากบ้านจะได้ไม่ต้องซื้อใหม่ พี่เพิ่งใช้เมื่อกี้ครั้งแรกเอง” พี่แจ็คสันพูดก่อนกดปิดเพลงและถอดหูฟังเก็บใส่กล่องใสอย่างดีก่อนยื่นให้ผม


    “คือ” ผมลากเสียงจนเขาเลิกคิ้วขึ้น “ไม่เป็นไรหรอกครับถ้าผมลืม ผมซื้อใหม่ก็ได้ เกรงใจ”


    ปากก็บอกเกรงใจแต่ในใจนี่คือรับมาแล้ว


    “เกรงใจอะไร เอาไปเถอะถือว่าเป็นที่ระลึก จะให้เซ็นต์ให้ด้วยมั้ย?” เขาพูดพลางหยิบเพอร์มาเน้นท์จากกระเป๋าเสื้อแล้วเซ็นต์ลงบนกล่อง


    เดี๋ยวนี้คนดังต้องพกเพอร์มาเน้นท์เองแล้วหรือครับ…?



    “ขอบคุณครับ” ผมกล่าวขอบคุณด้วยรอยยิ้มที่หุบไม่ลงจริงๆ


     

    ผมเดินคุยเรื่องนั่นนี่กับพี่แจ็คสันมาตลอดทางเดิน มีบางคนที่จำเขาได้ก็จะเข้ามาขอถ่ายรูปบ้างละ ขอลายเซ็นต์บ้างละ ผมบอกจะเดินไปก่อนแต่เขาก็จะให้ผมรอ



    “แบมแบมพักที่ไหน?” เขาถามขึ้นทำให้ผมตกใจไม่น้อย ปกติผมควรจะถามเขามากกว่า แต่ว่ากลัวจะเป็นการละเมิดสิทธิส่วนบุคคลเกินไป


    “บอกไปแล้วจะมาหาผมหรอครับ?” ผมพูดล้อขำๆ แต่คำตอบที่กลับมาแทบจะขำไม่ออก



    “ก็อาจจะนะ ถ้าว่าง” จังหวะที่เขาพูดพอดีกับที่เราเดินออกมาสู่ตัวแอร์พอร์ตพอดี พี่แจ็คสันก็ไม่ลืมที่จะหยิบแว่นดำกันแสงนีออนขึ้นมาใส่



    ช่วงหลังมานี่ผมเริ่มไม่ค่อยแน่ใจว่า ดาราใส่แว่นดำเพื่อไม่อยากให้คนจำได้ หรือว่าอยากให้จำได้กันแน่ มันเด่น มันหล่อซะเหลือเกินพ่อคุณเอ้ยยยยยยยยย !!



    “ว่าไง? อยู่ที่ไหน?” เขาถามย้ำเมื่อเห็นว่าผมยังไม่ตอบ


    “คอนโด XX ครับ” ผมตอบ


    “แล้วไปยังไง ให้พี่ไปส่งมั้ย” พี่แจ็คสันเสนอ



    ไปครับ!!



     ก็ได้แต่พูดในใจคุณป้าผู้ล่วงลับสอนมาว่า ความเกรงใจเป็นสมบัติของผู้ดี



    “ขอบคุณครับ แต่เดี๋ยวผมนั่งแท็กซี่ไปดีกว่า” ตอบพร้อมรอยยิ้ม แต่ในใจแทบจะสลาย



    “ตามใจเราแล้วกัน”



    พี่แจ็คสันมีคนขับรถมารับที่หน้าสนามบิน เขาจึงฝากกระเป๋าไว้แล้วลากกระเป๋าผมไปที่รอแท็กซี่แทน โอ้ยยยย!! นักกีฬาคนนี้จะทำให้ผมคลั่งได้จริงๆ หน้าตาก็ดี ความสามารถก็ล้นเหลือ แถมยังใจดีมากๆอีกต่างหาก



    “กลับเองแน่นะ?” เขาถามย้ำเมื่อคนขับแท็กซี่มารับกระเป๋าไป


    “ครับ” ผมฉีกยิ้ม “ขอบคุณมากนะครับ ผมชอบพี่มากกว่าเดิมอีกสู้ๆนะครับ” ผมชูกำปั้นก่อนเปิดประตูรถ


    “งั้นไว้เจอกันใหม่นะ ถ้ามีอะไรก็โทรมาได้” พี่แจ็คสันคลี่ยิ้มอบอุ่นหากแต่แววตาไม่ได้ยิ้มไปด้วยมากเท่าไหร่นัก


    “โทร?”


    “ใช่โทรเข้าไปสิ” เขาพยักเพยิดไปยังแท็กซี่ โดยที่ผมก็ยังสงสัยว่าผมจะโทรหาเขาได้ยังไงกัน “กลับดีๆนะ”   



    ” ผมเข้าไปนั่งในแท็กซี่ตามคำสั่งโดยอัตโนมัติ “ขอบคุณมากๆเลยนะครับ พี่ใจดีกับผมมากเลย”



    “ก็แค่กับเรานั้นแหละ พี่ไปก่อนนะโดนเรียกแล้ว” เขาพูดเร็วจนผมฟังแทบไม่ทันแต่ก็ทัน



    ” ผมได้แต่ยิ้มยังไม่ทันตอบอะไรพี่แจ็คสันก็ยกมือถือขึ้นแนบหูก่อนปิดประตูรถและเดินกลับไปยังรถของเขา


    ผมมองแผ่นหลังเขาผ่านกระจกใส ไม่รู้ว่าจะได้เจอกันอีกมั้ย ไม่รู้ว่าถ้าเจอกันจะจำผมได้มั้ย ไม่รู้ว่าจะเห็นเขาอีกครั้งเมื่อไหร่ จะเป็นตามทีวีหรือตามนิตยสารก็ดี





     

    -MARK PART-

    “ผมไม่รับงานดึกพี่ก็รู้” ผมพูดกับผู้จัดการส่วนตัวผ่านทางบลูทูธของรถยนต์


    การคุยโทรศัพท์พร้อมกับขับรถตอนกลางคืนนี่มันเป็นปัญหาชีวิตของผมอย่างหนึ่งเลยครับ


    (“ฉันก็รู้ แต่เขาเป็นลูกค้าคนสำคัญ นายแค่มาถ่ายแบบสองสามภาพเองมาร์ค”)


    “ไม่ว่าจะกี่ภาพผมก็ไม่ทำครับ เลื่อนเป็นตอนเช้ามืดก็ได้ครับ ผมไม่ทำงานตอนกลางคืน” ผมพูดก่อนหักพวงมาลัยเพื่อกลับรถไปยังคอนโด


    (“อย่าเรื่องมากได้ไหมมาร์ค!”)  เสียงแหลมปี๊ดแล่นเข้าหูผมจนต้องเอียงคอ



    “ผมไม่ได้เรื่องมาก แต่การขับรถตอนกลางคืนสำหรับผมไม่ใช่เรื่องง่ายนะครับ!!”  เป็นผมบ้างที่เสียงดัง


    รถนี่ก็เยอะเหลือเกิน ไม่รู้จักหลับจักนอนกันบ้างรึไงนะ นี่มันก็ห้าทุ่มแล้ว รถเต็มถนนหมายความว่าอะไร?!!



    (“ฉันหาคนขับรถให้มั้ย”)


    “ผมไม่ชอบให้ใครมานั่งรถผม”


    (“ฉันก็ไม่ชอบแคนเซิลงานเหมือนกัน”) ผู้จัดการเสียงแหลมตัดสายไปทำให้ผมมีสมาธิกับการขับรถมากขึ้น


    “จบเอกด้านการปาดหน้ามารึไงวะ?!” ผมพูดเมื่อรถแท็กซี่ขับปาดหน้าขึ้นมา


    ถึงมันจะเป็นเรื่องยากในการขับรถตอนกลางคืน แต่ศักดิ์ศรีสำคัญกว่า ผมปาดมันคืนจนแซงขึ้นมาอยู่หน้าไฟจราจรสีส้มเป็นสัญลักษณ์เตรียมหยุด แต่ผมขอไปเถอะ!! ผมเหยียบคันเร่งเต็มที่กะว่าพอข้ามแยกไปก็ไฟแดงขึ้นพอดี แต่โชคกลับไม่เข้าข้างเมื่อมีรถด้านแยกฝั่งขวาขับออกมาเหมือนกัน



    แสงไฟสว่างจ้าสีขาวสว่างสาดเข้าเต็มใบหน้าและดวงตา จากด้านข้างจนทางด้านหน้าดับไปหมด ด้วยสัญชาตญาณหรืออะไรก็แล้วแต่ ทำให้ผมหักพวงมาลัยไปฝั่งตรงกันข้าม สติหลุดกระเจิง ไม่รู้ว่าทำไมยิ่งเหยียบเบรกความเร็วยิ่งเพิ่มมากขึ้น ผมแหกปากร้องลั่นสองมือกำพวงมาลัยแน่นเพราะความกลัว หัวใจเต้นแรงราวกลับจะระเบิดออกมา



    โครม!!



    เสียงแผ่นเหล็กหนากระทบกันเสียงดัง และแรงพอที่จะทำให้รถผมหยุดอยู่กับที่ในสภาพปกติที่ไม่ปกติที่ว่าปกติก็คือหยุดแบบเหมือนจอดไม่พลิก ไม่คว่ำ และผมยังไม่ตาย ที่ว่าไม่ปกติคือหน้ารถของผมถูกหยุดโดยประตูด้านหลังของแท็กซี่ในสภาพบุบเข้าไปเล็กน้อย ควันสีขาวจางๆพวยพุ่งขึ้น ผมค่อยๆเงยหน้าจากพวงมาลัยรถมองเหตุการณ์รอบๆตัว รถทุกคันตอนนี้ ราวกับโดนสต๊าฟไว้ หยุดนิ่ง หยุดเคลื่อนไว้ ผมค่อยๆปล่อยมือที่สั่นระริกออกจากพวงมาลัยและเปิดประตูรถลงมา เดินตรงไปยังแท็กซี่คันหน้า



    ผมหลับตาภาวนาขอให้คนด้านในไม่เป็นอะไร ถ้าเป็นก็อย่าถึงตายก็พอ



    ผมเอื้อมมือเปิดประตูรถด้านหน้าก็พบกับคนขับที่มีเลือดไหลซิบๆที่ศีรษะ เขาค่อยๆลุกออกมาจากแท็กซี่และผมก็ถอยกลับมาที่ประตูด้านหลัง ด้านหน้าไม่โดนชนยังหัวแตก ด้านหลังที่โดนเต็มๆนี่หัวละเอียดไปรึยังนะ?



    เมื่อเปิดออกก็พบกับเด็กผู้ชายที่นอนสลบอยู่บนเบาะโดยมีเลือดไหลท่วมตัว


    “สติสติมาร์คคุมสติไว้” ผมพูดกับตัวเองก่อนจะใช้นิ้วมือไปแตะบริเวณจมูกว่ายังหายใจอยู่รึเปล่า


    “ขอพระเจ้าคุ้มครอง” ผมพูดเมื่อมีลมแผ่วๆกระทบที่ปลายนิ้ว และสติที่ผมคุมอยู่ก็สั่งให้ผมหยิบโทรศัพท์และโทรเรียกรถพยาบาลทันที

     


    ----------------------------

    #fickissmark

    ---------------------------

     

     



    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×