ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    GOT7 | KissMark ตราไว้ในใจนายคือของฉัน![END]

    ลำดับตอนที่ #1 : :: KISSMARK :: EP.1

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 20.16K
      150
      12 ม.ค. 58




             - BAMBAM PART-


     

    “ยินดีต้อนรับทุกท่านสู่สายการบิน....” เสียงใสๆของแอร์โฮสเตสเริ่มพูดเมื่อเครื่องบินลำยักษ์ทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้า


    ผมได้แต่นั่งมองออกไปนอกหน้าต่าง พยายามมองหาบ้านหลังใหญ่ที่เคยอาศัยอยู่ ทั้งๆที่รู้ว่ามันไม่มีทางหาเจอ ปากก็พึมพำบอกลาแผ่นดินที่เคยใช้ชีวิตมาตั้งแต่เกิดอย่างอาลัยอาวรณ์


    แต่ในใจนะหรอ ?


    ตื่นเต้นตั้งแต่เหยียบแอร์พอร์ตแล้วครับ ><



    ผมไม่ได้ตัดสินใจขายบ้านที่เคยอยู่ แม้ตั้งใจว่าจะไปมีชีวิตใหม่ที่เกาหลีก็เถอะ สมบัติที่ป้าทิ้งไว้ให้ก่อนเสีย ก็มีมากพอจนผมไม่ต้องทำงานอะไรเลยก็ยังได้ จะว่าสบายก็สบาย จะว่าเหงาก็เหงา พอนึกถึงใบหน้าของหญิงชราที่คอยดูแล คอยเป็นห่วง เป็นทั้งพ่อ ทั้งแม่ ทั้งเพื่อน น้ำตามันก็พานจะไหลออกมาอยู่เรื่อยผมใช้หลังมือเช็ดน้ำหยาดใสอย่างลวกๆ แต่ไม่รู้ทำไมว่ามันยังไม่หมดเสียที นี่ท่อน้ำตาหรือแม่น้ำเจ้าพระยากันแน่เนี่ย?!


    “น้องครับ” เสียทุ้มจากเบาะด้านข้างดังขึ้นพร้อมสะกิดไหล่ผมเบาๆ


    …?” ผมไม่ได้ตอบแต่อย่างใดเพียงแต่เลิกคิ้วเป็นเชิงถาม ว่าแต่พี่คนนี้นี่คุ้นหน้าจังเหมือนเคยเห็นมาก่อนเลย


    “ผ้าเช็ดหน้ามั้ย?” เขาถามพร้อมยื่นผ้าเช็ดหน้าที่พับเรียบมาให้


    นี่ผมร้องไห้หนักขนาดนั้นเลยหรอ ไม่นะไม่!! ผมสัญญากับป้าแล้วว่าจะไม่ขี้แงอีก… T^T


    “ไม่ดีกว่าครับ” ผมปฏิเสธอย่างสุภาพพร้อมดันมือเขากลับไป “ว่าแต่พี่นี่หน้าคุ้นจังเลย” พูดพร้อมใช้แขนเสื้อตัวเองเช็ดคราบน้ำตาอีกครั้ง


    “หรอ” เขาตอบเพียงเท่านั้นก่อนคลี่ยิ้มบางและเก็บผ้าเช็ดหน้าลงกระเป๋าเสื้อตามเดิม


    เดี๋ยวนะๆ ยิ้มแบบนี้


    เสียงพูดติดสำเนียงแบบนี้


    “พี่” ผมลากเสียงทำให้เขาหันกลับมาอีกครั้งพร้อมถอดแว่นกันแดดสีดำสนิทออก “แจ็คสัน หวัง!” ผมพูดเสียงดัง



    ทีจริงมันก็ไม่ได้ดังอะไรมากมาย แต่เพราะเป็นโซนเฟิร์สคลาส มันจึงเงียบผิดปกติ


    “ครับ” เขาตอบเรียบๆ


    อยากจะกรีดร้องดังๆ นี่ผมได้นั่งเครื่องบินข้างๆนักกีฬาทีมชาติเลยนะ


     มีใครอิจฉามั้ย?!


    “ผมเรียกพี่ว่า พี่แจ็คสันได้มั้ยครับ” ผมถามพร้อมน้ำตาที่เหือดแห้งไปหมดแล้ว เหลือแต่คราบที่เลอะข้างแก้ม


    “ได้ครับ” เขาตอบเสียงอบอุ่น


    ลมจะจับ โชคดีตั้งแต่ขึ้นเครื่องเลยวุ้ย!!



    แบมแบมคนนี้ขอย้อนเวลากลับไปได้มั้ย ผ้าเช็ดหน้าผืนนั้นผมขอเถอะ…. แต่ทว่าก็ไม่ทันเสียแล้ว



    “ผมพูดเป็นกันเองกับพี่ได้มั้ยครับ?”


    “ได้สิ” เขายิ้มเมื่อเห็นดวงตาของผมเป็นประกายแวว



    มีคนไม่มากหรอกที่จะดูกีฬาแล้วจำนักกีฬาได้ครบทุกคน ผมก็เป็นหนึ่งในนั้น แต่ผมจำพี่เขาได้ แจ็คสัน หวัง นักกีฬาฟันดาบทีมชาติของฮ่องกง ผมยังจำภาพที่เขาแข่งขัน และรอยยิ้มเมื่อเขาได้ชัยชนะมาได้อยู่ มันตราตรึงอยู่ในหัว และหัวใจของผมตลอดเวลา



    ได้ข่าวว่าเขามาถ่ายโฆษณาที่ไทย แต่ไม่ได้นึกว่าจะมาเจอกันบนเครื่องแบบนี้



    ผมนั่งคุยนั่งเล่นกับพี่แจ็คสันมาตลอดชั่วโมงกว่าๆ แต่มันก็ยังอีกห่างไกลนักกว่าที่จะถึงเกาหลีกัน ยิ่งพูดยิ่งเล่นก็รู้สึกเหมือนว่าอากาศมันค่อยๆน้อยลง ผมหาววอดเหมือนสมองได้รับออกซิเจนไม่เพียงพอ



    “ง่วงรึ?” เขาถามขำๆ



    “ครับ เมื่อคืนตื่นเต้นนอนไม่ค่อยหลับ” ผมตอบพลางใช้มือปิดปากก่อนจะหาวอีกครั้งจนเขาขำคิกคัก


    “ง่วงก็หลับสิ เล่นอยู่นั่นแหละ เดี๋ยวถึงแล้วพี่ปลุกให้ก็ได้”


    “ก็ได้เจอทีมชาติทั้งทีนี่น่า” ผมพูดขณะล้วงกระเป๋ากางเกงหาสมอล์ทอล์ค


    ข้างซ้ายก็ว่างเปล่า


    ข้างขวาก็มีแต่โทรศัพท์


    กระเป๋าหลังนี่ไม่ต้องพูดถึง เรียบติดไปกับเบาะเรียบร้อย


    “หาอะไร?” พี่แจ็คสันถามขึ้นเมื่อเห็นว่าผมลุกลี้ลุกลน


    “สงสัยผมจะลืมเอาสมอล์ทอล์คมา ไม่ก็โหลดอยู่ใต้เครื่อง” ผมพูดก่อนถอนหายใจเฮือกใหญ่ “ถ้าไม่ฟังเพลงผมจะหลับไม่สนิทอะ จะตื่นทุกๆสิบนาทีเลย”


    “ฟังเพลงแนวไหน?”


    “เพลงช้าทั่วไปครับ” ผมตอบซึ่งก็ไม่เข้าใจว่าจะถามไปทำไม


    ไม่มีก็ไม่ต้องฟังวะ!! ผมหันหน้าออกไปทางหน้าต่างก่อนจะหลับตาลงอย่างช้าๆ แล้วก็ต้องลืมตาขึ้นมาใหม่อย่างรวดเร็ว เมื่ออยู่ดีๆ ก็มีเสียงเพลงกรอกเข้ามาในหูข้างขวาของผม


    “หลับสิ ตาเหลือขีดเดียวแล้วนะแบมแบม” พี่แจ็คสันพูดพลางขยับหูฟังให้เข้าที่ “พี่มีอันเดียว แบ่งกันคนละข้างนะ” เขาคลี่ยิ้ม


    “ขขอบคุณครับ” ผมบอกขอบคุณก่อนจะเอนตัวไปพิงกรอบหน้าต่าง แต่ก็โดนมือหนาของคนข้างๆจับหัวผมให้มาอยู่ที่ไหล่เขา


    “ถ้าเราเอนไป มันจะหลุดนะ” พี่แจ็คสันหมายถึงหูฟังที่เราแบ่งกันคนละข้าง มันสั้นเกินกว่าที่เขาจะนั่งตรงๆแล้วผมเอนไปแล้วจะไม่หลุดออกจากฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง “ไม่เมื่อยใช่มั้ย?”


    ผมพยักหน้าตอบก่อนจะหลับตาลง ใบหน้าร้อนผ่าว หัวใจเต้นแรง


    แบมแบมจะละลายแล้วคร้าบบบบ!!!!


    ผมตะโกนในใจ เกิดมาใครมันจะไปคิดว่าจะได้เจอกับทีมชาติที่ชื่นชอบ ชื่นชม ได้พูดด้วย ได้เล่นด้วย ได้ใช้หูฟังเดียวกันก็เปี่ยมสุขแล้ว นี่ถึงขนาดให้หนุนไหล่เลยคุณพระคุณเจ้าช่วย! ชาติที่แล้วผมทำบุญด้วยอะไรเนี่ย?



    เพลงที่ว่าดังอยู่ในหูตอนนี้ อาจจะยังดังไม่เท่าหัวใจที่กำลังเต้นเป็นจังหวะเบรกแดนซ์อยู่ตอนนี้ก็เป็นได้ ผมรู้สึกเหมือนตัวเองได้รับแฟนเซอร์วิสครั้งยิ่งใหญ่ในชีวิตเมื่อได้ยินเขาขอผ้าห่มจากแอร์โฮสเตสแล้วมาห่มให้ผม



    ถ้าเครื่องบินตกตอนนี้ ไอ้แบมก็ไม่เสียดายชีวิตครับ
     


    ----------------------------------

    #fickissmark

    ----------------------------------






     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×