[SF] Except you : Myungyeol 1/2 - [SF] Except you : Myungyeol 1/2 นิยาย [SF] Except you : Myungyeol 1/2 : Dek-D.com - Writer

    [SF] Except you : Myungyeol 1/2

    ผู้เข้าชมรวม

    427

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    3

    ผู้เข้าชมรวม


    427

    ความคิดเห็น


    5

    คนติดตาม


    5
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  22 เม.ย. 57 / 19:27 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น







    themybutter

    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

       Except “YOU”


       




       











      ใครๆต่างก็รู้จัก....อีซองยอล



      ประธานนักเรียนคนเก่ง




      นักเรียนดีเด่น 3 ปีซ้อน





      ผลการเรียนเป็นเลิศ



      เป็นคนเก่ง





      เป็นหัวกะทิของโรงเรียน





      เป็นเด็กที่บรรดาครู อาจารย์ต่างคาดหวัง






      ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไรก็แล้วแต่หากถึงมือซองยอลรับรองว่าต้องผ่านฉะลุย ไร้อุปสรรคใดใดทั้งสิ้น





      โจทย์ปัญหาคณิตศาสตร์ที่ยากแสนยาก หากซองยอลทำไม่เกิน 5 นาทีก็ได้คำตอบ





      โจทย์ฟิสิกส์โอลิมปิกขอให้บอกทำได้ทุกข้อไม่ว่าจะยากเย็นแค่ไหน





      ภาษาอังกฤษคะแนนเต็มโทอิก นี่ไม่ได้ฟลุ๊ค แต่เพราะความสามารถทางด้านภาษาที่เรียกได้ว่าอัจฉริยะหาตัวจับยาก



      ใครต่อใครจึงมักจะไหว้วานขอความช่วยเหลือจากคนน่ารักติดอันดับท๊อปของโรงเรียนคนนี้เสมอ ไม่ว่าจะงานราษฎร์ งานหลวงขอให้บอก อีซองยอลยินดีและเต็มใจช่วยเหลือ ช่วยทุกคนแก้ปัญหา อย่างไม่มีอิดออด แต่เคยได้ยินไหมว่าเรื่องของคนอื่นหนะช่วยได้ แต่พอเรื่องของตัวเองนี่ตันจนไม่รู้จะตันยังไง หรือที่เรียกง่ายๆว่าตัวไม่รอด




      ซึ่งทุกคนอาจสงสัยว่าเรื่องที่ทำให้อีซองยอลคนน่ารักที่แสนเก่งคนนี้คิดไม่ตก มันคือเรื่องอะไร เรื่องเรียนนี่ตัดไปได้เลย หรือ เรื่องครอบครัวยิ่งไม่ต้องพูดถึงตระกูลอีได้รับรางวัลครอบครัวดีเด่นตั้งแต่สมัยคุณทวด ก็บอกแล้ว ว่าอีซองยอลหนะเก่งแสนเก่ง ฉลาดแสนฉลาด ทำได้ทุกสิ่งทุกอย่าง ยกเว้น จัดการกับปัญหาที่เรื้อรังมาเป็นปีๆ ปัญหาที่พยายามคิดเท่าไหร่ก็คิดไม่ออก หาคำตอบให้ตัวเองไม่ได้จนต้องหนีมานั่งหน้านิ่วคิ้วขมวดอยู่ที่ศาลาริมน้ำด้านหลังโรงเรียนอยู่แบบนี้




      ซองยอล


      นั่นไง...พูดถึงปัญหา ปัญหาก็เดินมาหา ก็แปลกดีเหมือนกัน ปัญหาของซองยอล มีขา มีหู มีจมูกโด่งๆ มีตาคมๆ มีหน้าหล่อๆ ที่ทำให้ใครต่อใครต่างตกหลุมรัก พูดแล้วก็หมั่นไส้ เบะปากใส่ซะเลย เชอะ!!!


      อะไร ทำหน้าแบบนั้นหมายความว่าอะไร

      เสียงทุ้มดังใกล้เข้ามาเรื่อยๆ พร้อมกับระยะห่างที่ค่อยๆลดลง ใบหน้าหล่อเหลายื่นเข้าไปใกล้ โดยที่คนน่ารักก็เอาแต่นั่งหน้างอไม่ทันได้สังเกตเห็น เพราะมัวแต่หันหนีสายตาคมๆที่จ้องมองมา ไปมองนกเป็ดน้ำที่ว่ายน้ำเล่นอยู่ในสระน้ำกว้าง



      ถามไม่ตอบ แล้วทำไมถึงมานั่งที่นี่คนเดียวหละ

      คนน่ารักทำเพียงแค่ยู่ปากอิ่ม ทอดสายตามองไปข้างหน้า ราวกับไม่รับรู้ว่ามีใครมาหยุดยืนอยู่ตรงหน้า


      “….”


      ซองยอล


      “….”


      อีซองยอล

      คิมมยองซูกดเสียงต่ำลง เรียกชื่ออีกฝ่ายเต็มยศเพื่อบ่งบอกให้รู้ว่า เขากำลังไม่พอใจที่อีซองยอลเมินกันแบบนี้

       
       

      ...แล้วยังไงหละ ไม่พอใจแล้วยังไง ซองยอลคนนี้ก็ไม่พอใจเหมือนกันนั่นแหละ คนสวยจะไม่ทนแล้วนะบอกเลย ฮึ่ยยยยย


      คนน่ารักที่รู้ความจริงข้อนี้ดี รู้ว่าอีกฝ่ายกำลังไม่พอใจ ได้แต่คิดในใจพร้อมกับส่งค้อนวงใหญ่ไปให้


      ก็แล้ว คุยผ่านสายตาแบบนี้นายคิดว่าฉันจะเข้าใจนายหรือไงฮะ วันนี้จะคุยรู้เรื่องไหม?”

      พูดพร้อมกับถอนกายใจ ก่อนจะเดินไปนั่งลงตรงที่ว่างเคียงข้างร่างบางที่นั่งนิ่งทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้


       คุยไม่รู้เรื่องก็ไม่ต้องคุย ไม่ได้อยากคุยตั้งแต่แรกอยู่แล้ว

      เสียงหวานเอ่ยขึ้นหลังจากเงียบอยู่นาน เมื่อพูดจบก็ลุกขึ้นเตรียมหนี หากแต่ข้อมือบางกลับถูกคว้าเอาไว้ได้ทันก่อนที่คนน่ารักจะก้าวขาออกวิ่ง


      ดื้อใหญ่แล้วนะ


      อย่ามาดุนะ


      ทำไมจะดุไม่ได้ ก็ยอลลี่ดื้อหนิ เป็นอะไรก็ไม่พูดไม่บอก เอาแต่เดินหนี


      แล้วจะให้พูดอะไร


      ก็ไออาการที่เป็นอยู่เนี่ยมันคืออะไร พูดมาสิ อธิบายมา


      ฉะ ฉัน ก็ไม่รู้


      ฮะ!!”

      ร้องอุทานอย่างตกใจ ราวกับได้ยินคำพูดที่แปลกประหลาด ไม่เคยพบเคยเจอมาก่อนในชีวิต ก็ถ้าเป็นคนอื่นพูดมันก็ไม่แปลกหรอก แต่คนอย่างอีซองยอลเนี่ยนะ พูดคำว่า ไม่รู้พระเจ้า!!โลกคงจะแตกก็วันนี้เนี่ยแหละ


      ทำไม มันน่าตกใจตรงไหน


      คนอย่างอีซองยอลพูดคำว่าไม่รู้ มันแปลกยิ่งกว่าหิมะตกตอนหน้าร้อนเสียอีก


      ทำไม คนอย่างฉันมันจะมีเรื่องที่ไม่รู้บ้างไม่ได้เลยหรือไง ต้องฉลาด อัจฉริยะ รอบรู้ไปซะทุกเรื่องเลยงั้นสิ

      ยิ่งพูดคนน่ารักยิ่งอารมณ์เสียเข้าไปใหญ่ เมื่อคำพูดของร่างสูงไปสะกิดโดนต่อมที่เป็นปมปัญหาในใจ ก็ใช่ไง เพราะอีซองยอลไม่เคยไม่รู้ อีซองยอลเก่งทุกอย่าง พอมาตันเรื่องนี้เข้า คิดจนหัวจะระเบิดก็คิดไม่ออก เลยรู้สึกหงุดหงิดงุ่นง่านอยู่เนี่ยไงหละ


      ไปกันใหญ่แล้วซองยอล นี่ตกลงเราจะคุยกันรู้เรื่องไหม?”


      คุยไม่รู้เรื่องก็ไม่ต้องคุย เพราะฉันก็อึดอัดเต็มทีแล้วเหมือนกันที่ต้องคุยกับคนอย่างนาย!!”

      พูดจบก็สะบัดแขนออกอย่างแรงพร้อมกับวิ่งหนีไปทันที ทิ้งให้คิมมยองซูยืนนิ่งอยู่กับที่ อย่างคนทำตัวไม่ถูก เพราะตั้งแต่รู้จักกันมาซองยอล ไม่เคยโมโหขนาดนี้มาก่อน ไม่เคยตะโกนใส่หน้าเขาแบบนี้ คิดแล้วก็ได้แต่รู้สึกเจ็บหน่วงในใจ อยากจะก้าวขาเดินตามไป แต่ก็ไม่กล้า

       

       

       

       

       


       

      วิ่งหนีเขามาแล้ว ก็มาเดินหน้าเศร้า


      ตะคอกใส่เขา เสร็จแล้วก็มารู้สึกผิด


      ทำตัวไร้สาระ ไม่มีเหตุผล โมโหใส่อีกคน แค่เพียงเพราะเห็นเขาไปทำดีกับคนอื่นแค่นั้นหนะหรอ?


      อีซองยอลเก่งทุกเรื่อง แต่ยกเว้นเรื่องเดียวที่ไม่ว่าพยายามหาคำตอบเท่าไหร่ก็หาไม่เจอซักที



      เรื่องของผู้ชายที่ชื่อ...คิมมยองซู




      ความใกล้ชิดสนิทสนมที่เกินพอดี ทำให้หัวใจดวงน้อยเกิดอาการสั่นไหวได้ไม่ยากเลย


      แล้วก็ไม่เข้าใจตัวเอง ว่าไออาการหน้าแดง ใจสั่น เวลาที่ต้องอยู่ด้วยกันตามลำพังแค่สองคนมันคืออะไร


      แล้วเวลาถูกกอดทำไมถึงต้องรู้สึกอายจนอยากจะหายตัวไปซะเดี๋ยวนั้น


      คำว่าเป็นห่วง ทำไมพอได้ยินจากปากมยองซูแล้วรู้สึกเหมือนหัวใจมันพองโต


       คำว่า ฝันดีนะ ทำไมถึงรู้สึกอยากได้ยินทุกคืนถ้าคิมมยองซูเป็นคนพูด


      มือที่กุมกันไว้ตลอดทางเดินกลับบ้านทำไมถึงให้ความรู้สึกอบอุ่นจนไม่อยากจะปล่อย


      ดวงตาคมสีรัตติกาลคู่นั้นทำไมถึงได้อยากให้สะท้อนเพียงภาพของอีซองยอลคนเดียวเท่านั้น



      ...คิมมยองซูใจร้ายยยยย คำถามยากแสนยากพวกนี้ซองยอลจะหาคำตอบเองคนเดียวได้ยังไง คนที่เป็นฝ่ายเริ่มต้นควรจะต้องรับผิดชอบไม่ใช่หรอ ฮึก คิดแล้วน้ำตาก็จะไหล มือคู่นั้น วันนี้ไปให้คนอื่นจับซะแล้ว ดวงตาคมคู่นั้น วันนี้ก็จ้องมองไปที่คนอื่น ไม่สนใจแม้กระทั่งซองยอลที่ยืนอยู่ข้างๆ



      แล้วจะให้ซองยอลทำยังไง รู้สึกยังไงเล่า ไอเป็ดโง่ เอ๊ยยยยยยย ฮืออออออ

      ว่าแล้วจะระบายความอึดอัด ความรู้สึกสับสนที่อัดแน่นอยู่ภายในหัวใจออกมาเป็นน้ำตาซะเลย ตลอดเวลาที่ผ่านมา ทุกๆการกระทำ มันหมายความว่าอะไรกันแน่ ซองยอลไม่กล้าคิดเข้าข้างตัวเองหรอกนะ ในเมื่อวันนี้มยองซูก็แสดงให้เห็นแล้วนี่ ว่าไมใช่แค่ซองยอลเพียงคนเดียว ที่ได้รับความใจดี ความเอาใจใส่จากมยองซู แต่มันยังเผื่อแผ่ไปถึงคนอื่นด้วยเหมือนกัน



      ซองยอลไม่ใช่เด็กขี้หวง แต่ทำไม พอเป็นมยองซูแล้วซองยอลจะต้องรู้สึกหวงไม่อยากแบ่งให้ใครด้วยหละ


      ซองยอลไม่ใช่เด็กขี้อิจฉา แต่ทำไม พอเป็นมยองซูแล้วซองยอลต้องรู้สึกน้อยใจแบบนี้ด้วยหละ


      ซองยอลไม่ใช่คนโง่ แต่ทำไม พอเป็นมยองซูแล้วซองยอลถึงได้รู้สึกเหมือนไม่รู้อะไรเลยซักอย่าง


       

      ไม่รู้แม้กระทั่งว่าตัวเองรู้สึกยังไง ซองยอลไม่เคยขี้ขลาดขนาดนี้ แต่พอเป็นมยองซู พอเป็นเรื่องของมยองซู กลับอยู่เหนือทุกอย่าง เป็นข้อยกเว้น เพียงข้อเดียวในชีวิตของซองยอล เป็นสิ่งเดียวที่ซองยอลไม่เคยเข้าใจ และก็คงจะไม่มีวันเข้าใจด้วย



      ฮึก คนบ้า มาทำให้คนอื่นเขาร้องไห้แบบนี้มันใช้ได้ที่ไหนกัน ฮืออออ

      พูดจบพร้อมกับเตะกระป๋องน้ำอัดลมผู้โชคร้ายกระแทกกับเสาไฟจนบู้บี้ไปหมด


       “มารับผิดชอบเดี๋ยวนี้นะ

      พูดไปน้ำตาก็ไหลไป มือเล็กยกขึ้นเช็ดน้ำตาอย่างลวกๆ ก่อนจะปล่อยให้หยาดน้ำตาล็อตใหม่รินไหลลงมาอีกรอบ


      ไม่รู้หรือไงว่าที่พูดไปไม่ได้ตั้งใจ

       

      ไม่รู้หรือไงว่าคนกำลังน้อยใจ


      ไม่รู้หรือไงว่าอยากให้ง้อ ไอเป็ดโง่!!!!”

      ตะโกนเสียงดังลั่นทางเดิน โชคดีที่มืดแล้วเลยไม่ค่อยมีใครผ่านมาสักเท่าไหร่ ไม่อย่างนั้นทุกคนคงคิดว่าอีซองยอลเป็นบ้าไปแล้ว ที่มาตะโกนปาวๆอยู่คนเดียวแบบนี้







      อ๊ะ อ่อยเอี๋ยวอี๊อ๊ะ อื้ออออ

      คนน่ารักสะดุ้งสุดตัว ก่อนจะพูดเสียงอู้อี้ฟังแทบไม่รู้เรื่อง เมื่ออยู่ดีๆก็โดนมือปริศนาของใครไม่รู้มาปิดปากเอาไว้ พร้อมกับดันร่างบางเข้าไปในซอยเปลี่ยวๆที่ไร้แสงไฟข้างทางเดิน อีซองยอลคนน่ารักพยายามคิดหาทางรอด ด้วยการดิ้นรนไปมา สะบัดขา ถีบสะเปะสะปะไปทั่ว แต่ก็ไม่อาจต้านทานแรงมหาศาลของคนที่อยู่ด้านหลังได้ ดวงตากลมโตเริ่มจะมีน้ำมาเอ่อคลออีกรอบ หากแต่คราวนี้ไม่ใช่เพราะความโกรธหรือความน้อยใจ แต่เป็นเพราะความกลัว


      ....มยองซู มยองซู อยู่ที่ไหน ช่วยด้วย ช่วยซองยอลด้วย



      ได้แต่ร้องเรียกในใจ พร้อมกับน้ำตาที่ไหลรินลงมาเป็นทาง เสียงสะอื้นดังขึ้นเรื่อยๆ พร้อมกับร่างบางที่เริ่มสั่นจนคนที่กอดอยู่รู้สึกได้


      อยากให้ง้อ ก็มาง้อแล้วนี่ไง จะร้องไห้ทำไมอีก หืมมม

      คนหน้าหวานสะดุ้งทันทีที่ได้ยินเสียงคุ้นเคย ดังในระยะประชิดใกล้ๆใบหู หัวสมองพยายามนึกประมวลเหตุการณ์ทั้งหมดแล้วก็อยากจะต่อยคนที่อยู่ข้างหลังให้หน้าแหก



      ใครเขาง้อกันแบบนี้ ฮะ!! ไอเป็ด ไอบ้า ไอคนนิสัยไม่ดี

      ทันทีที่ได้รับอิสระ คนน่ารักก็หันหน้ากลับมาพร้อมกับรัวคำด่าเป็นชุด และระดมกำปั้นน้อยๆทุบลงบนแผ่นอกหนาไม่ยั้ง



      ดีแต่ทำให้คนอื่นรู้สึกแย่ ทำให้คนอื่นเขาร้องไห้ นายนี่มัน...



      หมดสิ้นถ้อยคำด่าทอ และเรี่ยวแรงที่จะประทุษร้ายคนตรงหน้าได้อีก เมื่อริมฝีปากหยักทาบทับลงมาบนกลีบปากนิ่มสีชมพูระเรื่อ ความหวานละมุนถูกซึมซับผ่านริมฝีปากของกันและกัน ก่อนที่คิมมยองซูจะบดเบียดริมฝีปากลงไปให้แนบชิดมากยิ่งขึ้นเพื่อซึมซับความหวานของอีซองยอลที่เฝ้าปรารถนามาเนิ่นนาน ริมฝีปากหยักกดจูบย้ำ ก่อนจะดูดดึงริมฝีปากบางจนเกิดเสียงน่าอายขึ้น ข้อมือบางทั้งสองข้างไร้เรี่ยวแรงปล่อยทิ้งลงข้างลำตัว ถูกมือหนาจับยกขึ้นมาวางพาดบนลำคอแกร่งเพื่อให้ร่างบางได้ใช้เป็นหลักยึด เรียวลิ้นร้อนค่อยๆแทรกผ่านกลีบปากบางเข้าไปทีละนิดเชื่องช้าทว่ากลับเร่าร้อน จนซองยอลรู้สึกราวกับว่าตัวเองจะถูกหลอมละลาย ยามที่ลิ้นหนาเกี่ยวกระหวัดหยอกล้อกับลิ้นเล็กของตัวเองที่พยายามถอยหนีอย่างคนหมดหนทางสู้



      ริมฝีปากหยักดูดดึงลิ้นเล็กไล้เลียไปตามความยาวราวกับว่ากำลังละเลียดชิมไอศกรีมแสนหวาน ฝ่ามือเล็กกำคอเสื้อของร่างสูงเอาไว้จนยับยู่เพื่อระบายความรู้สึกเสียวซ่านอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน กลีบปากบางถูกดูดดึงอีกครั้งจนบวมเจ่อ ก่อนที่ร่างสูงจะไล่จูบไปตามแนวสันกรามจนมาถึงพวงแก้มนุ่มนิ่มหอมกรุ่นทั้งสองข้าง จมูกโด่งไล้วนดอมดมความหอมเฉพาะตัวจนเต็มปอด ก่อนจะเลื่อนตำแหน่งต่ำลงมาที่ซอกคอขาวเนียน ประทับจูบแผ่วเบา จนร่างบางในอ้อมแขนสั่นสะท้าน ริมฝีปากหยักขบเม้มเนื้อนวลขาวจนเกิดเป็นรอยรักสีกุหลาบเบ่งบานไปทั่ว ฝ่ามือหนาไล้ลูบผิวเนื้อเนียนนุ่มภายใต้เครื่องแบบนักเรียนอย่างหลงใหล อีซองยอลรู้สึกราวกับล่องลอยอยู่ในห้วงบรรยากาศไร้แรงโน้มถ่วง ไร้แรงต้านทาน หัวสมองเป็นสีขาวโพลน ดวงตากลมโตคู่สวยปิดลงทั้งสองข้าง อยากจะขัดขืน อยากจะต่อต้าน แต่เรี่ยวแรงที่มีไม่อาจทัดทานความต้องการที่ถูกปลุกเร้าขึ้นมาได้ คิมมยองซูผละออกจากร่างกายบอบบางที่แสนเย้ายวนตรงหน้า สองแขนโอบรัดเอวคอดเข้ามาแนบชิดจนไร้ช่องว่างแม้แต่จะให้โมเลกุลของอากาศแทรกผ่าน ก่อนจะยกยิ้มอย่างพึงพอใจเมื่อเห็นดวงหน้าหวานที่ใครหลายคนเฝ้าฝันอยากจะครอบครองเป็นสีแดงระเรื่อ ดวงตากลมโตฉ่ำน้ำปรือขึ้นมองคนตรงหน้าด้วยความรู้สึกหลากหลาย ทั้งต้องการ ทั้งอยากผลักไส เพราะรู้ว่าสิ่งที่กำลังทำอยู่มันไม่ถูกต้อง แต่ก่อนที่จะได้เอ่ยปากพูดอะไรออกไป ร่างทั้งร่างก็ถูกช้อนขึ้นพร้อมกับมุ่งตรงไปยังรถสปอร์ตสีดำสุดหรูที่จอดอยู่กลางซอย




      ร่างบางถูกวางลงที่เบาะนิ่มด้านหลังพร้อมกับขายาวของคิมมยองซูได้เกี่ยวประตูรถให้ปิดสนิท ก่อนที่ร่างหนาจะทาบทับลงมา ดวงตาคมกล้าจ้องมองดวงหน้าสวยหวานอย่างร้อนแรง จนร่างบางได้แต่ก้มหน้าซุกลงไปกับแผ่นอกหนาด้วยความเขินอาย




      จะง้ออย่างจริงจังละนะ









      TALK: สวัสดีค่าาาา เรื่องนี้เป็นเรื่องสั้นคนละแนวกับ sunflower เลยยยยยย
      ตอนแรกตั้งใจว่าจะแต่งให้เป็นแนวกุ๊กกิ๊กน่ารักสดใส ไร้ดราม่า
      แต่มันกลายมาเป็นแบบได้ยังไงก็ไม่รู้ 5555555555 ฝากติดตามวิธีง้อของเป็ดด้วยนะคะ อิอิ
      ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านน้าาาาา จุ๊บบบบบบบบบบบบบบ

       


      themybutter

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×