คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #12 : ตอนที่ 12 เริ่มภารกิจ
“ถ้ามีเรื่องกังวลล่ะก็ พี่สาวจะคอยรับฟังเอง”
เธอยื่นแขนทั้งสองข้างออกมาข้างหน้า อายานามิทำหน้าแปลกใจ ระหว่างนั้นอาตาโกะก็ยิ้มและกวักมือเรียกให้เธอเข้ามาหาพร้อมกับหน้าอกที่ขยับขึ้นลง
อายานามิที่เห็นท่าทีแบบนนั้นของเธอก็นึกถึงเรื่องที่เธอทำกับทาคาโอะขึ้นมา
(อาตาโกะ)
พอนึกถึงเรื่องนั้นขึ้นมาก็ทำให้เธอหน้าแดง จากนั้นก็เปลี่ยนเป็นหวาดระแวงก่อนจะก้าวถอยหลังพร้อมกับยกมือขึ้นมาห้ามเธอ
“อายานามิ ไม่เป็นไรค่ะ”
เธอถอยหลังจนชิดระเบียงเรือ แต่อาตาโกะก็พูดแก้ต่างขณะที่มีเหงื่อเม็ดใหญ่เม็ดหนึ่งผุดขึ้นมาที่หลังศีรษะ
“ไม่ต้องระวังตัวขนาดนั้นก็ได้”
เธอเอามือลงแล้วหลังตาพร้อมกับพูดออกมา
“ลังเลเรื่องการต่อสู้เหรอ”
“!?”
พอได้ยินแบบนั้นอายานามิก็ตกตะลึง เธอไม่คิดว่าอาตาโกะจะมองออกถึงความกังวลใจของเธอ
“ไม่ได้เกลียดการต่อสู้”
“แต่ก็ไม่ได้ชอบใช่มั้ย”
“อายานามิ ชอบทุกคนในจูโอ”
อาตาโกะพยักหน้าขณะรับฟัง อายานามิก็พูดต่อ
“เป็นเพื่อนคนสำคัญ แต่ว่า...”
อาตาโกะพยักหน้าและรับฟังต่อไป
“ฝั่งโน้นเองก็เหมือนกัน”
อายานามินึกย้อนกลับไปในวันที่เธอแทรกซึมเข้าไปในฐานทัพอซูร์เลน ซึ่งพวกเธอก็ไม่ต่างไปจากพวกอายานามิเลยแม้แต่น้อย
“เหมือนพวกอายานามิ มีเพื่อนอยู่ หัวเราะไปด้วยกัน.....”
แต่ในช่วงท้ายประโยคเธอก็ไม่สามารถพูดออกมาได้
อาตาโกะที่เห็นแบบนั้นก็ยิ้มก่อนจะเดินเข้ามากอดอายานามิ ตอนแรกเธอคิดจะขัดขืนและดิ้นไปมาเพื่อที่จะหนีออกจากอ้อมแขนของอาตาโกะ อาตาโกะเอามืออีกข้างลูบศีรษะของอายานามิอย่างอ่อนโยน
“รู้สึกแปลกๆ”
อาตาโกะยังคงกอดอายานามิอยู่แบบนั้นไปอีกสักพักหนึ่ง
ด้านเครื่องบินสอดแนมสองลำซึ่งบินผ่านซากหอคอยที่พวกเชฟฟิลด์หลบซ่อนตัวอยู่
เชฟฟิลด์กับเอดินบาระก็ชะโงกตัวออกมาดู ในขณะที่กันดั้มบาร์บาทอส ลูปัส เร็กซ์ กับกันดั้มซาบาเนียยังอยู่ภายในห้องกับอาคาชิ แต่ตอนนั้นเองเครื่องบินลาดตระเวนก็บินวกกลับมา
“หวา!!”
“ชิ”
เชฟฟิลด์เดาะลิ้นอย่างไม่สบอารมณ์ ก่อนจะกระโดดออกมาจากที่ซ่อนแล้วเรียกปืนออกมายิงใส่เครื่องบินลาดตระเวนทั้งสองลำ ก่อนจะร่อนลงพื้นที่ดาดฟ้าของซากตึกที่อยู่ใกล้ตามด้วยเอดินบาระ อาคาชิ บาร์บาทอสและซาบาเนียที่กระโดดตามเธอลงมา
“ถูกเจอตัวจนได้”
“ทะ ทำยังไงกันดี ตะ ต้องรีบหนีกันแล้ว”
เอดินบาระก็พูดด้วยน้ำเสียงกระวนกระวาย อาคาชิก็กอดเรือของเธอจนตัวสั่น ส่วนบาร์บาทอสกับซาบาเนียก็ติดตั้งอาวุธของพวกเขาทันที
“ตะ แต่ว่า เกาะโดนล้อมอยู่นะ เนี้ยว”
“จะว่าไป นี่พวกคุณสองคนกะลุยเต็มที่เลยเหรอคะ”
เอดินบาระกับอาคาชิที่หันไปมองพวกเขาสองคนก็ต้องตกตะลึงที่พวกเขาติดตั้งอาวุธพร้อมสู้
“แน่นอน”
“แหงอยู่แล้ว”
ทั้งสองตอบโดยไม่ลังเลแม้แต่วินาทีเดียว เอดิบาระกับอาคาชิก็ถึงกับพูดอะไรไม่ออก สองคนนี้กะลุยเต็มที่เลยสินะ สงสัยจะเก็บกดเรื่องที่ต้องหลบซ่อนตัวไม่ให้ศัตรูเจอตัวรึเปล่า
ระหว่างที่ทั้งสองกำลังคิดอยู่ในใจนั้น เชฟฟิลด์ก็มองสำรวจ เธอก็เห็นระยะห่างระหว่างไซเรนสองลำ มีระยะห่างอยู่พอสมควร
“ไม่ ถ้าจะหนีต้องเป็นตอนนี้”
เชฟฟิลด์กระโดดออกตัวทันที ตามด้วยบาร์บาทอสและซาบาเนียที่เร่งบูสเตอร์ตามเธอไป
“เอ๊ะ?”
เอดินบาระกับอาคาชิร้องประสานเสียงกันออกมา ก่อนที่ทั้งสองจะรีบตามทั้งสามคนไป
“เครื่องบินสอดแนมของจูโอ พบเป้าหมายแล้วค่ะ”
เคิลน์ได้รับการติดต่อผ่านทางวิทยุสื่อสารว่าพบตัวเป้าหมายแล้วให้ทุกคนได้รับรู้
“หาว”
ปรินซ์ออยเกนยกแขนขึ้นเหนือศีรษะบิดขี้เกียจ ดูเหมือนว่าเธอคงจะรอจนเบื่อแล้วแน่ๆ
“งั้นคงต้องเอาจริงเอาจัง เรื่องงานซะแล้ว”
เมื่อได้ยินแบบนั้นเลเบรซ์ซึ่งเอามือกอดอกอยู่นานก็เอามือลงพลางกำหมัดพร้อมกับพูดออกมาด้วยความมั่นใจเต็มเปี่ยม
“ถ้าท่านเลเบ(Z1)ผู้อยู่ด้วย ง่ายเหมือนปลอกกลัวยอยู่แล้ว”
แต่นิมิก็กระโดดลงมาพูดแย้งคำพูดของเธอ
“ดูท่า คงไม่ง่าย”
เลเบเหลือบตามองนิมิ ก่อนที่เธอกับเคิลน์จะพยักหน้ารับแล้วหันหน้าไปมองซากเมือง
“ผบ. ทางจูโอพบเป้าหมายแล้วครับ ตอนนี้พวกนั้นกำลังหลบหนีอยู่ครับ”
ดินน์ได้รับการติดต่อจากทางจูโอแล้วรีบรายงานผู้บัญชาการทันที
“เข้าใจแล้ว แบ่งกำลังพลส่วนหนึ่งเข้าไปในเกาะ ที่เหลือให้ประจำตำแหน่งคอยจับตาดูจากนอกเกาะ”
“รับทราบ”
ดินน์รีบถ่ายทอดคำสั่งของผู้บัญชาการทันที โดยที่สุซาโนะโอะยืนพิงผนังห้องเอามือกอดอก
แต่ในเวลาต่อมาก็มีรายงานใหม่เข้ามา
“ท่านครับ!”
ดินน์รีบรายงานผู้บัญชาการกับสุซาโนะโอะทันที
“มีอะไร?”
“จู่ๆ ก็มียานรบที่ไม่ทราบที่มาปรากฏตัวออกมาจากทางฝั่งของอซูร์เลนครับ”
“ว่าไงนะ!? ทั้งที่เราก็ตรวจสอบอย่างละเอียดรอบคอบแล้ว แล้วยานลำนั้นมันมาได้ยังไง”
“ดูเหมือนว่ายานรบลำนั้นจะมีระบบล่องหน และระบบบางอย่างที่ทำให้เราไม่สามารถตรวจพบครับ”
สุซาโนะโอะที่ฟังรายงานของดินน์ก่อนจะได้ข้อสรุปออกมา
“ดูเหมือนว่ายานรบลำนั้นจะเป็นปโตเลไมออส ยานรบของกันดั้ม”
“อะไรน่ะครับ!?”
ผู้บัญชาการตกตะลึงต่อคำตอบของเขาเป็นอย่างมาก
“งั้นก็หมายความว่า...”
“ใช่แล้ว พวกมันก็เข้าร่วมสงครามด้วย”
สุซาโนะโอะตอบกลับไป ผู้บัญชาการก็เริ่มหวั่นวิตกกังวลแล้วว่ากำลังพลเพียง 300 เครื่องจะพอต่อกรกับกันดั้มได้รึเปล่า
“นี่ อย่าลืมสิว่าฉันก็อยู่ด้วยนะ”
เมื่อได้ยินแบบนั้นผู้บัญชากากรก็คลายความกังวลลง
“นั่นสินะครับ ถ้ามีท่านสุซาโนะโอะอยู่ล่ะก็ สามารถต่อกรกับกันดั้มได้แน่ครับ”
“เข้าใจแล้ว ตอนแรกก็นึกว่าจะเป็นการต่อสู้ที่น่าเบื่อ แต่ตอนนี้ไม่ใช่อีกแล้ว”
แม้จะไม่รู้สีหน้าของเขา แต่ผู้บัญชาการรับรู้ได้ว่าสุซาโนะโอะกำลังยิ้มอยู่
“ดูเหมือนว่าจะมีเรื่องน่าสนุกเกิดขึ้นสินะ สุซาโนะโอะ”
ที่ประตูห้องมีโมบิลสูทสีชมพูอ่อน ยืนพิงขอบประตู รูปร่างของหุ่นมีลักษณะคล้ายหญิงสาว ชื่อของเธอคือ ฟอนฟาร์เซีย (XVB-FNC ฟอนฟาร์เซีย)
“ท่านฟอน ฟาร์เซียก็อยู่ด้วยหรือเนี่ย?”
ผู้บัญชาการตกตะลึง ไม่คิดว่าโมบิลสูทรุ่นพิเศษจะมาที่นี่ถึงสองเครื่อง ฟอน ฟาร์เซียก็พูดออกมา
“อืม ก็รอตั้งนาน แต่สุซาโนะโอะก็ไม่ออกมาซะที ก็เลยมาตาม แล้วก็ได้ยินเรื่องน่าสนใจด้วย”
“โห งั้นก็แปลว่า”
สุซาโนะโอะเอ่ยถามฟอน ฟาร์เซีย เธอก็พยักหน้ารับ
“แน่นอน ฉันขอเข้าร่วมด้วยคน อยากจะรู้เหมือนกันว่ากันดั้มจะแข็งแกร่งแค่ไหน”
ทางฝั่งอซูร์เลน
ที่เรือรบของรีพัลส์ รีพัลส์ยืนอยู่บนปืนใหญ่ ก่อนเธอจะตบหน้าตัวเองเพื่อสงบสติอารมณ์
“เอาล่ะ ต้องตั้งสมาธิเอาไว้”
วินาทีต่อมาก็มีหน้าจอโฮโลแกรมปรากฏขึ้นตรงหน้าเธอซึ่งฉายภาพของปโตเลมี แน่นอนว่าคนอื่นๆ ก็เห็นหน้าจอนี้ด้วยเช่นกัน
[ทุกคนคะ จากนี้จะเริ่มแผนการแล้วค่ะ]
“รับทราบ”
รีพัลส์ตอบรับจากนั้นหน้าจอโฮโลแกรมก็ปิดลง ตอนนั้นเองปโตเลไมออสก็ยกเลิกระบบล่องหน ปรากฏตัวออกมา
“GN แคนน่อน GN มิสไซล์ ยิง!!!”
เมื่อปโตเลมีออกคำสั่ง GN แคนน่อนก็ทำการยิงลำแสงขนาดใหญ่เข้าใส่กองเรือไซเรนและโมบิลสูททันทีตามด้วย GN มิสไซล์ที่ตามมาเป็นห่าฝน
จากนั้นปืนใหญ่จากเรือรบของอซูร์เลนก็เล็งปืนใหญ่
รีพัลส์ยื่นไปข้างหน้าแล้วทำท่ายิงปืน
“เล็ง ปัง”
ซัฟฟอล์กกับนอร์ฟอล์กเอามืออุดหู
เปรี้ยงง!! เปรี้ยงง!!
เวลส์ชักดาบ
“ทุกกระบอก ยิง!!”
เธอเหวี่ยงดาบออกไปด้านข้างพร้อมกับออกคำสั่งยิงปืนใหญ่ทุกกระบอก
เปรี้ยง!!
“ยิง!!”
โอคลาโฮม่าสั่งยิงปืนใหญ่ ปืนใหญ่ทุกกระบอกก็ยิงออกไปทันที
เปรี้ยง!!
ปโตเลไมออสและเรือรบทั้งสามลำทำการระดมยิงปืนใหญ่เข้าใส่ฝ่ายเรด แอ็กซิสและโมบิลสูท
มีเรือไซเรนหลายลำและโมบิลสูทหลายสิบเครื่องถูกการโจมตีของปโตเลไมออส ทำให้มีเรือที่ได้รับความเสียหาย ไม่ก็อับปางลง ส่วนโมบิลสูทก็ถูกทำลาย
“อซูร์เลน เคลื่อนไหวกันแล้ว”
“แต่ว่ายานรบนั่นมันอะไรน่ะ!”
“นั่นสิ มันกำลังบินอยู่กลางอากาศ ยิ่งไปกว่านั้นมันโผล่มาจากไหนกันแน่เนี่ย!?”
ฟุโซว ฟุรุทากะ และคาโกะมองดูการโจมตีของอซูร์เลน และตกตะลึงกับการปรากฏตัวของปโตเลไมออส
“หวา! หวา!”
ยามาชิโระที่ยืนอยู่บนเสากระโดงเรือ เนื่องจากการโจมตีของอซูร์เลน ทำให้เธอตกใจจนถอยมาอยู่ที่ปลายเสา เธอเหวี่ยงแขนไปมาก่อนจะก้มตัวลงไปกอดเสาเพื่อไม่ให้ตกลงไปด้านล่าง
“เฮ้อ”
เธอถอนหายใจอย่างโล่งอก แต่การระเบิดนั้นก็ทำให้น้ำทะเลกระเซ็นขึ้นมาทำให้เธอเปียกไปทั้งตัว ด้านซุยคาคุที่มองดูกองเรืออซูร์เลนที่เปิดฉากโจมตี
“ยานรบนั่นมันอะไรน่ะ”
“ไม่ได้เคลื่อนที่อยู่บนทะเล แต่บินอยู่ท้องฟ้างั้นเหรอ”
ซุยคาคุกับโชวคาคุมองดูปโตเลไมออสด้วยความตกตะลึง เช่นเดียวกับคนอื่นๆ
ระหว่างนั้นทาคาโอะก็มองออกว่าการโจมตีนี้เป็นเพียงแค่การดึงความสนใจ
“ดึงความสนใจสิท่า”
“คงตั้งใจจะใช้หมอกและความสับสน ช่วยเพื่อน”
“คงหวังพึ่งเทคเคตซึอย่างเดียวไม่ได้...”
แต่ก่อนที่เธอจะได้พูดอะไรต่อ
“ดูนั่นสิ”
อายานามิชี้ไปที่ปโตเลไมออส คนอื่นๆ ก็มองดูตาม
ประตูที่อยู่ทางกราบซ้ายและขวาและส่วนหัวเรือของปโตเลไมออสเปิดออกพร้อมกับกางแผ่นเหล็กที่พับอยู่ออก
แน่นอนว่าพวกเธอขมวดคิ้วสงสัยว่า ยานรบลำนั้นกำลังจะทำอะไร
ในตอนนั้นเองพวกเธอก็เห็นอะไรบางอย่างพุ่งตัวออกมาจากปโตเลไมออส
“นั่นมัน!? กันดั้ม!?”
ใช่แล้ว กันดั้มทั้งสามเครื่องพุ่งตัวออกมาจากปโตเลไมออสด้วยระบบคาตาพัลส์ จากนั้นเหล่าโมบิลสูทก็เริ่มเปิดฉากโจมตี
ย้อนกลับไปเล็กน้อย
อากิระ คันดะ เรย์ได้มาประจำตำแหน่งที่คาตาพัลท์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว และตอนนี้พวกเขาก็แปลงร่างเป็นกันดั้ม
[คาตาพัลท์ ออลกรีน พร้อมส่งตัวทุกเมื่อค่ะ]
ปโตเลมีแจ้งให้พวกเขาทราบ ทั้งสามก็พยักหน้ารับ
“อากิระ กันดั้ม ดับเบิ้ลโอ สกาย ทำการกำจัดเป้าหมาย”
“คันดะ อัลทรอน กันดั้ม ออกตัว”
“เรย์ ราฟาเอล กันดั้ม ทำการกวาดล้างเป้าหมาย”
พูดจบทั้งสาม คาตาพัลท์ก็ทำการส่งตัวพวกเขาทั้งสามออกไปอย่างพร้อมเพรียงกัน
จากนั้นทั้งสามก็แยกตัวกันไปสามทางเพื่อทำการโจมตีเบี่ยงเบนเป้าหมายให้ศัตรูหันมาสนใจพวกเขาและกองเรือรบที่ทำหน้าที่เป็นนกต่อ
กันดั้มดับเบิ้ลโอ สกายบินมาที่เรือของยามาชิโระที่พวกซุยคาคุอยู่ แซกวอริเออร์ ดินน์ โดม เซอร์เพน จิน กูฟอิกไนด์ เกซ ซิกู ที่ประจำการอยู่ในตำแหน่งนั้นเริ่มทำการระดมยิงใส่กันดั้มดับเบิ้ลโอ สกายทันทีที่เขาเข้าสู่ระยะยิง
ดับเบิ้ลโอ หลบการโจมตีพลางยิงโต้กลับไปด้วย GN บีม ไรเฟิล ลอง ไรเฟิล และบีมวัลแคน เข้าใส่พวกโมบิลสูทไปหลายสิบเครื่อง ก่อนจะเข้าไปประชิดตัวแล้วใช้ GN บีมเซเบอร์ฟันโจมตี
“มาจนได้สินะ ดับเบิ้ลโอ”
ซุยคาคุจ้องมองเขาด้วยความตื่นเต้นที่จะได้สู้กับเขาอีกครั้ง พร้อมกับจับกาเบร่าสเตรทที่ถืออยู่ในมือไว้แน่น
“นั่นน่ะเหรอ ดับเบิ้ลโอ”
ทาคาโอะมองดูการต่อสู้ของดับเบิ้ลโอ
และในตอนนั้นเอง...
ชิ้งง!?
เปรี้ยง!
กันดั้มดับเบิ้ลโอ สกายรีบเหวี่ยงแขนขวาไปด้านหลังพร้อมกับกางบีมชิลด์ป้องกันการโจมตีที่โผล่พรวดออกมาอย่างกะทันหัน
“นี่ นาย...”
กันดั้มดับเบิ้ลโอ สกายหันกลับมามองคนที่โจมตี ก็ต้องตกตะลึงเพราะคนที่โจมตีเขาก็คือ สุซาโนะโอะ นั่นเอง
“ไง ยินดีที่ได้พบ กันดั้ม!!!”
เมื่อทักทายเสร็จสุซาโนะโอะก็ใช้ลูกเตะถีบเข้าที่กลางลำตัวของกันดั้มดับเบิ้ลโอ สกายจนกระเด็นเข้าไปใกล้เรือรบที่พวกซุยคาคุอยู่
“อ๊ะ!?”
ซุยคาคุเบิกตาโพลงด้วยความตกใจ ที่ดับเบิ้ลโอกำลังพุ่งตรงมาที่เธอ
กันดั้มดับเบิ้ลโอ สกายหันไปมองด้านหลังก็เห็นเธออยู่ในทิศที่เขากำลังพุ่งไปก็เร่งอนุภาค GN ทำให้เขาเบรกอยู่กลางอากาศใกล้กับซุยคาคุเพียงไม่กี่สิบเซนติเมตร
“เฮ้อ เกือบไปๆ”
เขาถอนหายใจอย่างโล่งอกแล้วหันไปคุยกับซุยคาคุ
“ไม่เป็นไรใช่มั้ย? ซุยคาคุ”
“อะ อืม”
เธอพยักหน้ารับ โชวคาคุก็อมยิ้มอย่างมีความสุข ส่วนทาคาโอะก็มองดูทั้งสองคนอย่างพินิจพิเคราะห์ อาตาโกะก็มองดูทั้งสองด้วยสีหน้าเบิกบาน
จากนั้นเขาก็หันกลับไปมองสุซาโนะโอะที่ลอยตัวลงมาอยู่ตรงหน้าเขา
“เอาล่ะ มาต่อกันเลยมั้ย”
สุซาโนะโอะชี้ปลายดาบมาที่เขา กันดั้มดับเบิ้ลโอ สกายก็เรียก GN ลอง เบลดกับ GN ช็อต เบลด ออกมา
ทั้งสองเริ่มตั้งท่าดาบแล้วเร่งอนุภาคพุ่งเข้าปะทะ เมื่อทั้งสองเข้ามาใกล้ก็เหวี่ยงดาบในมือเข้าปะทะกันจนเกิดประกายสายฟ้าขึ้น
เปรี๊ยะๆ!
ทั้งสองผละดาบออกจากกัน ก่อนจะแลกดาบเข้าใส่กันอย่างดุเดือด จากนั้นทั้งสองก็พุ่งขึ้นไปบนท้องฟ้าแล้วแลกดาบใส่กันขณะเคลื่อนที่ไปด้วย
ถ้ามองจากมุมมองของพวกซุยคาคาคุจะมองเห็นเป็นเส้นแสงเคลื่อนที่ซิกแซกไปมา บ้างก็เป็นเส้นโค้งเข้ามาชิดกันพร้อมกับเกิดประกายไฟ
“สุดยอด นี่น่ะเหรอการต่อสู้ระหว่างโมบิสูทด้วยกัน”
ซุยคาคุมองเส้นแสงที่เข้าปะทะกันด้วยความตกตะลึง ตอนนั้นเองทาคาโอะก็เหมือนจะนึกอะไรขึ้นมาได้
“จริงสิ อายานามิ พวกเรารีบไปกันเถอะ เพราะการต่อสู้เมื่อครู่ทำให้พวกเราถูกดึงความสนใจไป”
อายานามิที่ได้ยินแบบนั้นก็พยักหน้า
“อืม”
ทาคาโอะพยักหน้ารับแล้วพูดต่อ
“ถึงจะเป็นการต่อสู้ที่น่าจับตามองมากแค่ไหนก็ตาม แต่ในระหว่างการสู้รบก็ถือเป็นการดึงความสนใจอย่างหนึ่ง จะประมาทกองเรือและโมบิลสูทของศัตรูไม่ได้”
ทาคาโอะเดินไปที่ระเบียงเรือ ตอนนั้นเอง
“เรื่องนั้น พวกเราจะไปจัดการกัน”
ทาคาโอะหันไปมองซุยคาคุกับโชวคาคุ
“ถึงจะน่าเสียดายที่ไม่ได้สู้กับเขา แต่โอกาสหน้ายังมีอยู่”
จากนั้นอาตาโกะ ทาคาโอะและอายานามิก็กระโดดลงเรือพร้อมกับติดตั้งอุปกรณ์มุ่งหน้าเข้าไปในเกาะ ตามด้วยซุยคาคุกับโชวคาคุที่มุ่งหน้าไปอีกทางหนึ่ง
ด้านอัลทรอนกันดั้ม
เขากำลังต่อสู้อยู่กับโมบิลสูทจำนวนมาก เขากวัดแกว่งหอกสามง่ามสองปลายและใช้ดราก้อน แฟงก์โจมตี บางทีก็ใช้การโจมตีด้วยไฟ ทำให้โมบิลสูทจำนวนมากถูกเขาจัดการไปเป็นจำนวนมาก
ตอนนั้นเอง....
ปัง! ปัง! ปัง! ปัง! ปัง!
เขารีบเคลื่อนตัวหลบการโจมตีจากห้าทิศทางอย่างหวุดหวิด ก่อนจะได้ยินเสียงของหญิงสาวดังขึ้น
“โห หลบได้งั้นเหรอ เก่งไม่เบาเลยนี่นา กันดั้ม”
อัลทรอนหันไปยังทิศที่มาของเสียง เขาก็พบกับฟอน ฟาร์เซีย
“ฟอน ฟาร์เซีย!?”
“เป็นเกียรติอย่างยิ่งที่รู้จักฉัน กันดั้ม”
เธอเอามือขึ้นทาบอกแล้วย่อตัวก้มศีรษะ จากนั้นก็เงยหน้าขึ้นและยืนตัวตรง
“เอาล่ะ มาเริ่มการต่อสู้ของพวกเรากันเลยดีกว่า”
พูดจบเธอก็ใช้กระบอกสร้างบีมแส้แล้วฟาดเข้าใส่อัลทรอน อัลทรอนหลบได้ ก่อนจะเร่งบูสเตอร์เข้าไปโจมตีเธอ แต่ว่า...
“กระจอกน่า”
แซดด!!
“!?”
อัลทรอนรีบหลบลำแสงห้าเส้นที่ยิงมาจากบนล่าง เขาถอยออกมาตั้งหลักใหม่
“การโจมตีแบบนี้ บิทสินะ”
“ถูกต้อง”
เมื่อได้ยินคำตอบที่ถูกต้องฟอน ฟาร์เซียก็ตอบกลับ เธอขยับมือเรียก ฟอน ฟาร์เซีย บิท ทั้งห้าอันเข้ามาหาเธอ
อัลทรอนควงหอกแล้วตั้งท่า
“เข้ามา”
“หึ”
ซู่มมม!!!
จากนั้นทั้งสองก็เริ่มทำการต่อสู้กันต่อ
ทางฝั่งอซูร์เลน ทีมช่วยเหลือประกอบด้วย คลีฟแลนด์ เบลฟาสต์ จาเวลินและลาฟฟีได้ใช้ผ้าคลุมลายพรางน้ำทะเลแฝงตัวเข้าไปในซากเมือง
“เริ่มจนได้”
“พวกเราต้องรีบแล้ว”
เมื่อทั้งสี่คนเข้ามาในซากเมืองได้แล้ว พวกเธอก็ทิ้งผ้าคลุมลายพรางน้ำทะเล
ในระหว่างที่พวกเธอเคลื่อนที่ผ่านซากเมืองนั้น
“!?”
จู่ๆ ก็มีกระสุนปืนใหญ่ มิสไซล์และบีมพุ่งเข้ามาในซากเมือง
“ไม่ดีแน่”
คลีฟแลนด์เห็นดังนั้นจึงเร่งสปีด แต่ในตอนนั้นเอง...
“เอ๋”
คลีฟแลนด์แหงนหน้าขึ้นไปมองด้านมองก็เห็นทาคาโอะกระโดดสูง จังหวะนั้นเองเธอก็ก้มลงมาเห็นพอดี คลีฟแลนด์กัดฟันกรอด ส่วนทาคาโอะนัยน์ตาของสีเหลืองทองของเธอก็เรียวแหลม เธอหมุนตัวเอาเท้าแตะกำแพงตึกย่อตัวลงแล้วพุ่งเข้าไปหาคลีฟแลนด์พร้อมกับชักดาบออกมาฟันใส่ผิวน้ำแล้วกระโดดถอยหลัง วินาทีถัดมาก็เกิดการระเบิดขึ้น
“อึก”
คลีฟแลนด์กระโดดถอยออกมาตั้งหลัก เบลฟาสต์เคลื่อนที่มาอยู่ข้างๆ เธอ
“ทาคาโอะจัง”
อาตาโกะเคลื่อนที่เข้ามาหาทาคาโอะที่ล่วงหน้ามาก่อนทันในที่สุด ก่อนจะหันหน้าเข้าหาพวกคลีฟแลนด์
ทั้งสองฝ่ายยืนประจันหน้ากัน
“ช่วงเวลา แย่ที่สุดจริงๆ ลาฟฟี! จาเวลิน! ระวังตัวด้วย”
คลีฟแลนด์ตะโกนบอกพวกเธอที่หลงอยู่ในหมอกหนา ทั้งสองหันหลังชนกันและคอยระวังรอบๆ ให้กัน
วินาทีนั้นเองทั้งสองก็ได้ยินเสียงฝีเท้า ทั้งสองมองไปที่หมอกหนาทางด้านหน้า ตอนนั้นเองอายานามิก็ปรากฏตัวออกมาจากหมอก
“อายานามิจัง”
จาเวลินขานชื่อเธอออกมาแล้วมองเธอด้วยความประหลาดใจ
“....”
อายานามิยังคงนิ่งเงียบไม่พูดอะไรและจ้องมองมาที่พวกเธอ เธอเอื้อมมือไปจับดาบที่เหน็บไว้ที่หลังเอวของเธอแล้วชักมันออกมาแล้วตั้งท่า
“อา....”
จาเวลินลังเลที่จะสู้กับอายานามิ
ความคิดเห็น