ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Fic.[Jelsa] melt your heart ปลดล๊อคหัวใจ ยัยราชินีหิมะ

    ลำดับตอนที่ #3 : chapter 03 ราชนิกูลที่ดีก็ต้องคู่ควรกับการเต้นรำที่สง่างามสิ

    • อัปเดตล่าสุด 28 ม.ค. 57


    3

    ❄ ราชนิกูลที่ดีก็ต้องคู่ควรกับการเต้นรำที่สง่างามสิ 

          


    “หนึ่ง สอง สาม ไม่ใช่พะยะค่ะเจ้าหญิงอันนา การเต้นรำเป็นการก้าวช้าๆ ไม่ใช้การกระโดดอย่างนั้นเจ้าหญิง” อันนาเต้นรำไปตามจังหวะตามที่ใจเธอนึก และแน่นอนไม่ใช้จังหวะของชายชราสอนเต้นรำต้องการเท่าไรนัก

     

    แต่จะทำไงได้ ยังไงวันนี้อันนาก็ไม่มีทางหนีไปไหนพ้น เพราะวันนี้เอลซ่าดันรู้ทันมานั่งเฝ้าเธอเรียนด้วยตัวเองแบบนี้ ก็มีแต่ต้องสร้างความสนุกด้วยตัวเธอเองซะแล้ว

     

    อันนาหมุนตัวไปรอบๆครูฝึกก่อนจะจับมือเขาแล้วหมุนเป็นวงกลมไปรอบๆ อันนาหัวเราะร่าเริงต่างจากสีหน้าของครูฝึกที่ดูเหมือนว่าจะอ้วกอยู่เต็มทีไม่นานทั้งเจ้าตัวและครูฝึกต่างก็เวียนหัวจนต้องปล่อยมือจากกัน

     

    อันนาและครูฝึกต่างก็ล้มไปคนละทางจนเอลซ่าและแจ็คต้องสร้างกองหิมะมารับทั้งคู่ไว้

     

    “ฉันว่าเรื่องเต้นรำนี่ขอผ่านไปสักเรื่องได้ไหมพี่ แบบว่ามันไม่ใช่สไตล์น่ะ” อันนาหันมาส่งสายตาอ้อนวอนเอลซ่าที่นั่งจิบชาอยู่ข้างๆ

     

    “เรื่องเต้นรำราชนิกูลทุกคนต้องทำได้และแน่นอนเจ้าก็คือหนึ่งในนั้น”

     

    แกระ ป๊อก!!

     

    หิมะก้อนกลมๆถูกปามากระทบบานหน้าต่างห้องโถง อันนารีบวิ่งไปดูทางต้นเสียงก่อนจบพบว่าคนที่ปามันคือ คริสตอฟฟ์ แฟนหนุ่มของเธอ

     

    อันนาพยักหน้าก่อนจะโบกไม้โบกมือสองสามทีแล้ววิ่งออกจากห้องโถงไป ทิ้งให้ครูสอนเต้นที่ยืนจับบันท้ายจากการบาดเจ็บในหน้าที่หันมามองใบหน้าองค์ราชินีอย่างขอความช่วยเหลือ

     

    “อันนากลับมาก่อน” เอลซ่าตะโกนไล่หลังอันน่าไปแต่เธอก็ไม่มีท่าทีที่จะหันหลังกลับมา แถมเธอยังตะโกนกลับมาด้วยประโยคที่เจ็บแสบสมเป็นเธอ

     

    “พี่บอกว่าราชนิกูลที่ดีต้องเต้นรำได้ใช้ไหม ท่านครูท่านก็ช่วยสอนราชนิกูลคนที่เหลือไปก่อนแล้วกัน” ประโยคนี้ประโยคเดียวทำให้เอลซ่าถึงกับสำลักชาชั้นเลิศที่ตนกำลังจิบอยู่

     

    “งั้นข้าขออนุญาตสอนท่านแทนองค์ราชินี” ชายแก่โค้งให้เธอก่อนจะยื่นมือมาทางเธอ

     

    เอลซ่ายื่นมือไปหาชายแก่ด้วยความลังเล เกิดมาเธอไม่เคยเต้นรำกับใครมาก่อนและไม่คิดจะทำด้วย นั้นเองคือสาเหตุที่เธอเคี้ยวเข็นให้อันนาเรียนเต้นรำ เพื่อที่จะได้เต้นรำแทนเธอในงานเลี้ยงต่างๆ

     

    ก็การเต้นรำมันต้องจับมืออีกฝ่ายนี้น่า...และเธอก็ยังไม่มั่นใจในการควบคุมพลังของเธอด้วย

     

    “ถอดถุงมือด้วยพะยะค่ะองค์ราชินี”

     

    เอลซ่าค่อยๆดึงถุงมือของตนออกทีละข้าง ก่อนจะวางมันลงบนมือครูฝึกอีกครั้งแต่ยังไม่ทันได้เต้นรำเอลซ่าก็ชักมือของเธอกลับที่เดิม

     

    เอลซ่าถอยหลังออกห่างจากชายแก่หนึ่งก้าว “ข้าว่าวันนี้ท่านกลับไปก่อนเถอะนี่ก็ดึกมากแล้วเดี่ยวข้าให้รถม้าไปส่งท่านที่บ้าน”

     

    “ปกติเวลากลับของข้าคือหนึ่งชั่วโมงหลังจากนี้ เกรงว่าข้าอยู่ต่อได้อย่างสบาย” ชายแก่ก้มมองนาฬิกา พล่างว่าไปตามจิตวิญญาณของครูที่พร้อมถ่ายทอดความรู้ให้แก่ลูกศิษย์อย่างเต็มเปี่ยม

     

    “วันนี้มีโจรบุกขึ้นปราสาท เกรงว่าท่านอาจารย์จะไม่ปลอดภัยขอต้องขออภัยแต่คงต้องเชิญท่านกลับ” เอลซ่าเชิดหน้าขึ้นเล็กน้อยก่อนจะผายมือไปทางบานประตูทางออก ทำให้ชายแก่ต้องเดินออกไปอย่างช่วยไม่ได้

     

    แจ็คที่นั่งเงียบอยู่นานเมื่อเห็นครูสอนเต้นรำลับสายตาไป เขาก็ได้โอกาสพูดกับเอลซ่าอีกครั่ง “ทำไมเจ้าไม่เรียนเต้นรำไปล่ะ น่าสนุกดีออก”

     

    “ข้าไม่ค่อยมั่นใจ ข้าอาจควบคุมพลังไม่ได้ ข้า..ข้าอาจแช่แข็งเขาทั้งเป็น” เอลซ่าหันมาอธิบายแจ็คก่อนจะหันหลังกลับไปอีกครั้ง

     

    “ทำไมเจ้าถึงกลัวในสิ่งที่ยังไม่ได้ลองทำมัน มันน่าเสียดายออกนะถ้าเจ้าไม่ได้ลองทำสิ่งใหม่ เจ้านะลืมสิ่งต่างๆที่เคยเกิดขึ้นทั้งหมด แล้วสนใจแค่สิ่งตรงหน้าก็พอ”

     

    แต่ดูเหมือนว่าหญิงสาวจะไม่ได้สนใจในสิ่งที่เขาพูด แจ็ค ยื่นมองเอลซ่าเดินหันหลังไปอย่างช้าๆ ก่อนจะมองไปที่บานประตู “อ้าว!! ตาแก่นั้นกลับมาทำไมล่ะนั้น”

     

    แน่นอนมันได้ผลเอลซ่าหันหลังกลับมามองที่บานประตูแต่สิ่งที่เธอพบ

     

    กลับเป็นความว่างเปล่า

     

    แจ็คที่แอบลอยมาข้างเธอ คว้ามือของเอลซ่าไปจับก่อนจะใช้มืออีกข้างโอบเอวเธอไว้ เอลซ่าตั้งใจจะหันมาโวยวายเด็กหนุ่มแต่ทว่าใบหน้าของทั้งสองใกล้กันเกินไป จนเธอไม่กล้าพูดอะไรออกไปแม้แต่พยางค์เดียวทำได้แต่เพียงส่งสายตาดุ ไปหาเขาแทนและแน่นอนแจ็คไม่ได้สนใจสายตานั้นแต่น้อย เขาพยายามดึงให้เอลซ่าเต้นรำพร้อมกับหลบน้ำแข็งที่เธอสร้างอย่างไม่รู้ตัวอย่างยากลำบาก ถ้าอยากแจ็ค ฟรอสต์ทำหน้าจริงจังละก็

     

    คงมีแต่ตอนนี้เท่านั้นแหละ

     

    “ปล่อยข้าเถอะน่าแจ็ค เดียวก็เจ็บตัวหรอก” เอลซ่าพยายามกล่อมแจ็คให้หยุด เพราะเขาไม่ได้เพียงพาเธอเต้นรำแต่เขาพยามหลบน้ำแข็งที่เธอสร้างอย่างไม่ได้ตั้งใจด้วย และทุกครั้งที่หลบไม่พ้นเขาก็จะเอาตัวเองมาบังไว้เสมอทำให้ตอนนี้ตัวของแจ็คเริ่มมีบาดแผลตามตัว และนั้นยิ่งทำให้เอลซ่ายิ่งกลัวเข้าไปใหญ่

     

    มือที่สั่นของเอลซ่าทำให้แจ็ครู้ดีว่าตอนนี้เธอกำลังกลัว แต่ถ้าไม่ลองไม่พยายามแล้วเมื่อไรคนตรงหน้าเข้าจะกล้าก้าวเดินต่อไปทักทีล่ะ

     

    “เจ็บแต่ไม่ตายสักหน่อย เอลซ่าเจ้านั้นและที่ทำอะไรอยู่มองหน้าข้าสิ ตอนนี้ข้าเป็นคู่เต้นรำของเจ้า คิดแต่เรื่องที่จะไม่เหยียบเท้าคู่เต้นรำของเจ้าก็พอ เรื่องอื่นเจ้าจะคิดให้ปวดหัวทำไม”

     

    มือของเอลซ่าที่ประสานกับเขาอยู่ค่อยๆลดความเย็นลด และน้ำแข็งที่พุ่งเข้ามาเป็นว่าเล่นเริ่มค่อยๆช้าลงและลดจำนวนลดด้วย

    .

    .

    .

    .

    .

     

    เวลาผ่านไปหลายชั่วโมง น้ำแข็งของเอลซ่าเริ่มลดจำนวนลงมากจนแทบจะไม่เหลือ แจ็คจ้องมองใบหน้าของหญิงสาวที่เป็นคู่เต้นรำราวกับพยายามจดจำรายละเอียดทั้งหมดของเธอ

     

    “เจ้าดูสิตอนนี้เจ้าไม่ตื่นเต้นกับเรื่องเต้นรำนี้แล้วนะแถมตอนนี้มือของเจ้าก็ไม่สร้างน้ำแข็งล้อมรอบมันอีกแล้วนะมัน..มันอุ่นกว่าตอนที่ข้าจับมือเจ้าครั้งแรกเยอะเลย” แจ็คพยายามหาเรื่องคุย เพราะดูเหมือนว่าคนตรงหน้าจะไม่ยอมพูดอะไรกับเขามาสักพักแล้ว

     

    “...” เอลซ่าไม่พูดอะไรได้แต่เงยหน้าขึ้นไปมองมือของตนที่จับอยู่กับมือของแจ็ค เธอไม่ได้จับมือกับคนอื่นนอกจากอันนานานเท่าไรแล้วนะ ร่างบางเผยยิ้มออกมาบางๆ และรอยยิ้มนั้นก็ทำให้คนสอนเต้นมือใหม่อย่างแจ็คหลายเหนื่อยเป็นปริทิ้ง

     

    “ถ้ารู้ว่าสอนเจ้าเต้นรำแล้วเจ้าจะเงียบอย่างนี้ข้าสอนเจ้าไปนานแล้ว” แต่ก็ยังไม่วายต้องหาคำพูดมาขัดบรรยากาศตามสไตล์หนุ่มเกรียนซึ่งเป็นเอกลักษณ์ประจำตัวของ แจ๊ค ฟรอสต์

     

    “ข้า..ข้าง่วง..” แต่ดูเหมือนคนบางคนไม่ได้หายเหนื่อยไปด้วยเอลซ่าพูดเบาๆกับแจ็คเพราะเธอรู้ดีว่ายังไงเขาก็ได้ยิน ร่างบางยังคงเต้นรำไปตามจังหวะที่มีเด็กหนุ่มเป็นผู้นำ แจ็คชูมือขึ้นเพื่อเป็นสัญญาณให้หญิงสาวหมุนตัว

     

    แต่ทว่าดูเหมือนการเต้นรำมาราทอนหลายชั่วโมงที่ผ่านมาจะทำพิษเสียแล้วเอลซ่าผล่อยหลับไปทั้งที่ยังเต้นรำอยู่กับแจ็ค ฟรอสต์

     

    แต่ครั้งนี้เขาไม่ได้ปล่อยให้เอลซ่าล้มลงไปกองกับพื้นเหมือนครั้งที่แล้วเขาประครองเอลซ่าไว้ก่อนจะค่อยๆวางลงกับพื้น

     

    แจ็คดึงมือที่จับไว้กับเอลซ่าออกแต่ดูเหมือนว่าการเกร๊งท่าเดิมเป็นเวลานานๆจะทำให้มือเรียวบางข้างนี้ไม่ปล่อยมือของเขาซะแล้ว

     

    “ข้าให้ยกให้เจ้าวันหนึ่งเท่านั้นนะ” แจ็คไม่ได้ดึงมือของเขาออกแต่กลับเอนตัวลงนอนพิงผนัง มืออีกข้างปล่อยเกล็ดน้ำแข็งให้ลอยไปตามสายลม

     

    ขอพักร้อนสักวันแล้วกัน....

     

    แจ็คค่อยๆปิดเปลือกตาลงนอนแต่ทว่า ช่วงเวลาแห่งความสุขมันมักจะผ่านไปไวเสมอ

     

    “จี๊ด จิด จิด จีด ..” เสียงของนางฟ้าตัวน้อยปลุกแจ็คที่เคลิมจะหลับให้ตื่นอีกครั้ง นับตั้งแต่แจ็คเคยช่วยชีวิตไว้คราวนั้น ดูเหมือนว่าเจ้านางฟ้าตัวน้อยตัวนี้จะติดเขาแจยิ่งกว่า “ทูธ-นางฟ้าฟันน้ำนม” ซะอีก

     

    “นี้เจ้าตามหาข้าเจอได้ไงเจ้านางฟ้าตัวน้อย” แจ็คลืมตาขึ้นมามองเจ้าตัวป่วนที่เขาทิ้งไว้ที่วังทันตะของทูธแล้วแอบหนีมา

     

    แต่ตอนนี้เจ้านางฟ้าตัวน้อยดูเหมือนว่าจะไม่ได้สนใจเขาแล้ว กลับมองไปที่เอลซ่าอย่างหาเรื่อง “จิด จี๊ด ไจ จิ๊ด... จิ๊ด...” นางชี้ไปที่มือของแจ็คที่จับเอลซ่าอยู่ ก่อนจะเปลี่ยนมาชี้ที่หน้าแจ๊คอีกที

     

    “เจ้าทำแบบนี้ได้ไง...” แจ็คทวนสิ่งที่นางฟ้าตัวน้อยพูดอีกครั้งอย่างช้าๆ  “เฮ้! เดี่ยวเจ้านางฟ้าตัวน้อยข้าทำอะไรผิด ข้าไปทำอะไรให้เจ้าโกรธ เอ่อ..ไอ้เรื่องที่ข้าทิ้งเจ้าไว้ที่วังทันตะนะข้าขอโทษเจ้าแล้วกัน”

     

    “ไจ จี๊ด.. จิด”

     

    “ไม่ใช้ ปลุกนางเลิกจับมือกันได้แล้ว...เอ่อ..บะ.บาดตา”

     

    “เอ้ย!! เดี่ยวเจ้าจะทำอะไรน่ะ” แจ็ครีบคว้าเจ้านางฟ้าตัวป่วนที่ถือวาวุธครบมือออกจากแอลซ่า ทำไมนะหรอก็เจ้านางฟ้าตัวน้อยนี่เตรียมจะถอนฟันเอลซ่านะสิ แถมฟันแท้ซะด้วย

     

    “โอเคๆ ข้าปลุกเองก็ได้โอเคไหม” แจ็คเอื่อมมืออีกข้างไปปลุกเอลซ่าแต่ดูเหมือนจะไม่ได้ผลเอลซ่าพลิกตัวไปอีกด้านหนึ่งแทนทำให้เจ้าตัวค่อยๆโน้มหน้าไปกระซิบข้างหูองค์ราชินีขี้เซา

     

    “เอลซ่า เจ้านอนหน้าลายยืดเปราะเสื้อข้าหมดแล้ว...” และแน่นอนมันได้ผลเอลซ่ารีบลุกขึ้นนั่งก่อนจะรีบยกมือขึ้นมาเช็ดริมฝีปากของตนแต่มันกลับไม่มีน้ำลายตามที่เด็กหนุ่มขี้แกล้งบอก

     

    “จี๊ด จิด จี๊ด จี๊ด จี๊ด” นางฟ้าตัวน้อยบินมาขั้นหน้าระหว่างเอลซ่ากับแจ๊คไว้ ก่อนจะบอกให้นางรีบกลับไปนอนที่ห้องได้แล้ว แน่นอนเอลซ่าไม่รู้เรื่องที่เจ้านางฟ้าตนนี้พูดสักนิด

     

    เมื่อเห็นเอลซ่าทำหน้างงแจ็คเลยถือโอกาสช่วยแปลภาษาของนางฟ้าฟันให้ฟัง “นางบอกให้เจ้ารีบไปนอนที่ห้องได้แล้ว เดี่ยวเป็นหวัดเอาหรอก เอ่อ..เป็นห่วง....” ประโยคสุดท้ายนั้นแทบไม่มีเสียงออกมาและแน่นอนว่านางฟ้าตัวน้อยไม่ได้พูดขนาดนั้น

     

    และการที่แจ๊คพูดไปแบบนั้นทำให้นางฟ้าตัวน้อยโกรธถึงขั้นหยิบอุปกรณ์ถอดฟันออกมาอีกครั้ง

     

    “เอาน่า เอาน่าความหมายไม่ได้เปลี่ยนสักหน่อย” แจ๊คใช้นิ้วชี้ลูบหัวนางฟ้าตัวน้อยก่อนจะหันหน้ามาพูดกับเอลซ่าก็เห็นว่านางกำลังเดินกลับห้องของตน “นี้เอลซ่าให้ข้าไปส่งไหม”

     

    เอลซ่าหันมาหาแจ็คแต่ก็ยังไม่หยุดเดิน “ไม่เป็นไรหรอกนี่มันวังของข้านะ หลับตาเดินยังถึงห้องเลย”

     

    “ข้าว่าไม่งั้นหรอกเอลซ่า ระวัง!!” แจ็ค ตะโกนเรียกเอลซ่าแต่ดูเหมือนจะช้าไปสามวิ ร่างบางที่เดินกลับหลังอยู่ชนกับเสาประตูอย่างเต็มๆ

     

    ทั้งแจ็คและนางฟ้าตัวน้อยรีบบินมาดูร่างเล็กที่ล้มลงไปนอนอีกครั้ง

     

    “จี๊ด จิด จี๊ด...” นางฟาตัวน้อยดึงผมของเอลซ่าให้ลุกขึ้นแต่ดูเหมือนครั้งนี้เธอจะไม่ได้นอน แต่สลบต่างหาก

     

    “สงสัยจะโดนแผลเก่านะ*”  แจ๊คหันไปบอกนางฟ้าน้อยที่ยังดึงผมเอลซ่าไม่เลิกก่อนจะคว้าตัวนางฟ้าตัวเดิมมาใส่กระเป๋าเสื้อกันหนาวตรงท้อง เด็กหนุ่มเกาหัวก่อนจะอุ้มเอลซ่าขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้ เพราะถ้าทิ้งไว้อย่างนี้พรุ่งนี้คงมีข่าวลือประหลาดต่างๆนานาเกี่ยวกับตำนานวันหิมะหรรษาแน่นอน

    (*แผลเก่า – แผลที่แจ็คใช้น้ำแข็งปาหัวเอลซ่าในตอนที่ 1)

     

    ทันทีที่แจ็คอุ้มเอลซ่าพ้นประตูห้อง ควันสีดำทมึนค่อยๆร่วมตัวกันเป็นร่างของใครบางคนอยู่ที่มุมมืด

     

    “เวลาของเจ้าหมดแล้ว แจ็ค ฟรอสต์ ข้าจะทวงทุกสิ่งของข้าคืนมาจากเจ้าให้หมดไม่ว่าจะเด็กๆที่เจ้ารัก รวมถึงคนรักของเจ้าด้วย ฮึๆๆ” ฉับพลันเงามือก็ค่อยๆสลายไปตามสายลม


    thx theme :)  Shalunla


    คอมเม้นต์เล็กๆของนักอ่าน คือกำลังของคนแต่ง P.mail 
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×