คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : Chapter 1 : Malfoy is Malfoy
Fic Harry Potter [DM/HP] What is
it called ?
_________________________________________________________
Chapter 1 : Malfoy is Malfoy
มัลฟอยก็คือมัลฟอย
ชื่อของเขาคือมัลฟอย
เดรโก มัลฟอย ทายาทเพียงหนึ่งเดียวของบ้านมัลฟอย
เขาถูกเลี้ยงมาด้วยความภาคภูมิใจในตระกูลและสายเลือดที่บริสุทธิ์
พ่อของเขาบอกเสมอว่ามัลฟอยไม่จำเป็นต้องสนใจกับอะไรก็ตามที่ไม่เกี่ยวข้องกับพวกเลือดบริสุทธิ์เพราะคนพวกนั้นไม่คู่ควรให้มัลฟอยพูดถึง
เดรโกเป็นคนเย่อหยิ่ง
อ่อนแอและตกอยู่ใต้เงาของผู้เป็นพ่อ
ใช่ว่าเขาจะไม่รู้ตัวแต่ตลอดมาเขามีพ่อเป็นต้นแบบในการดำเนินชีวิต เขาจึงซึมซับนิสัยของผู้เป็นพ่อจนเหมือนว่าเขาเป็นลูเซียสอีกคนเสียด้วยซ้ำ
เมื่อเดรโกเข้าเรียนที่ฮอกวอตส์
อะไรๆ ก็ดูเหมือนไม่เป็นใจให้มัลฟอยเป็นที่กล่าวถึง
อันที่จริงเดรโกไม่ได้คาดหวังกับการมีชื่อเสียงหรือได้รับความนิยมจากใครต่อใครเลยสักนิด
แต่เขาไม่ชอบที่ทุกบทสนทนาจะต้องมีชื่อของไอ้เด็กแผลเป็นอย่างแฮร์รี่ พอตเตอร์
แน่นอนว่าเขารู้จักแฮร์รี่
พอตเตอร์ มีใครไม่รู้จักเด็กชายผู้รอดชีวิตจากจอมมารกัน
เดรโกได้ยินชื่อเสียงเรียงนามของเด็กคนนั้นมาแทบจะตลอดชีวิต
มันจึงไม่แปลกเลยที่เขาจะหยิบยื่นมิตรภาพให้อีกฝ่ายในทันทีที่รู้ว่าคนๆ นั้นคือใคร
เดรโกรู้มาว่ามีทฤษฎีมากมายเกี่ยวกับเหตุผลที่แฮร์รี่
พอตเตอร์รอดชีวิตจากเงื้อมมือของจอมมารและดูเหมือนว่าพ่อของเขาจะสนับสนุนหนึ่งในทฤษฎีที่ว่า
แฮร์รี่ พอตเตอร์อาจจะเป็นพ่อมดเลือดบริสุทธิ์ที่แข็งแกร่งยิ่งกว่าจอมมาร
เสียเหลือเกิน แต่ทันทีที่เขาถูกพอตเตอร์ปฏิเสธมิตรภาพแถมยังไปสนิทชิดเชื้อกับพวกวีสลีย์และเด็กเลือดสีโคลน
เขาก็รู้ได้ทันทีว่าเด็กคนนั้นไม่มีทางที่จะเป็นอย่างที่พ่อของเขาคิด
ไม่มีทางที่แฮร์รี่
พอตเตอร์จะเป็นอย่างจอมมารเด็ดขาด!
และเพราะเหตุนั้นเดรโกจึงตั้งตัวเป็นอริกับเด็กชายผู้โด่งดังกับผองเพื่อน
เขาสะสมความไม่พอใจ ความไม่ชอบใจ ความอิจฉาริษยาจนเกือบจะกลายเป็นความเกลียดชัง ทำไมเด็กคนนั้นถึงเหนือกว่าเขา
มันเป็นคำถามที่เดรโกคอยถามตัวเองอยู่เสมอ
เขาที่ภาคภูมิใจกับสายเลือดที่บริสุทธิ์ของตัวเองนั้นพ่ายแพ้ให้กับคนแบบนั้นไม่รู้ตั้งกี่รอบได้ยังไง
เดรโกตระหนักได้ถึงความอ่อนหัดและอ่อนแอของตัวเอง
เขาเลือกใช้วิธีสกปรกต่างๆ เล่นงานพอตเตอร์แต่มันก็เท่านั้น
นอกจากเจ้าตัวจะไม่สนใจแล้วเขายังต้องยอมรับความอับอายกับความพ่ายแพ้อยู่บ่อยครั้ง
มันเป็นเรื่องอัปยศที่คงจะติดตราตรึงอยู่ในใจของเขาไปจนตาย
ความสัมพันธ์ระหว่างเขากับแฮร์รี่
พอตเตอร์นั้นเรียกได้ว่าเป็นศัตรูคู่อาฆาต ไม่มีทางจะมาบรรจบกันได้เลย
ไม่มีทางและไม่มีวัน!
ในช่วงก่อนสงครามไม่นานเขาได้เข้าร่วมเป็นผู้เสพความตายเต็มตัว
เขาอยากให้พ่อภูมิใจและต้องการให้มัลฟอยได้กลับไปรุ่งโรจน์อยู่เคียงข้างจอมมารอีกครั้ง
ถ้าเขาสังหารดัมเบิลดอร์สำเร็จก็จะไม่มีใครมาดูถูกว่าเขามันก็เป็นแค่ไอ้เด็กอมมือคนหนึ่ง…. แต่สุดท้ายเขาก็ทำไม่ได้
เขากลัวที่จะลงมือสังหารอาจารย์ใหญ่
เขาไม่กล้าแม้แต่จะเสกคำสาปพิฆาตใส่ชายชราอ่อนแอตรงหน้าด้วยซ้ำ!
เดรโก
มัลฟอยคือความล้มเหลวของครอบครัวมัลฟอยเช่นนั้นหรือ
ความสับสนทำให้เขาลังเลว่าแท้จริงแล้วเขาควรเข้าร่วมฝ่ายใดกันแน่
การได้รับความเมตตา
สงสารเห็นใจจากอาจารย์ใหญ่ในช่วงเวลาที่เขาคิดจะปลิดชีพอีกฝ่ายมันช่างให้ความรู้สึกที่ยากจะอธิบายเหลือเกิน
พ่อของเขาถูกปล่อยตัวหลังจากนั้นแต่ทุกอย่างกลับไม่เป็นดั่งที่เขาคิด
มัลฟอยกลายเป็นเหมือนเศษขยะในสายตาจอมมารและผู้เสพความตายอื่นๆ
เพราะความล้มเหลวของพ่อทำให้สถานะของมัลฟอยกลายเป็นไม่มีไปโดยปริยายและนั่นทำให้เขาเริ่มคิดที่จะย้ายฝ่ายแม้จะยังสับสนอยู่ก็ตาม
ในวันที่พอตเตอร์กับพวกถูกจับมายังคฤหาสน์มัลฟอย เขายอมรับว่าตกใจมากแต่เขาในตอนนั้นก็เลือกที่จะโกหกคนในบ้านว่าเด็กหนุ่มตรงหน้าไม่ใช่แฮร์รี่
พอตเตอร์
ในใจของเดรโกหวาดกลัวแม้คนตรงหน้าจะเป็นคนที่เขาปรารถนาให้ตายไปเสียแต่เอาเข้าจริงเขาก็ไม่กล้าแม้แต่จะคิดว่าถ้าเกิดพอตเตอร์ตายขึ้นมาจริงๆ
จะทำยังไง
เขาปรารถนาให้อีกฝ่ายมีชีวิตรอดมากกว่านี้
ที่น่าตลกคือตัวเขาก็เกือบจะเอาชีวิตไปทิ้งในห้องต้องประสงค์ระหว่างสงครามเข้าแล้วสิแต่ก็ดันถูกช่วยเหลือจากคนที่เขาตั้งตัวเป็นอริ การถูกแฮร์รี่ พอตเตอร์ช่วยเหลือมันน่าอับอายแต่ถึงอย่างนั้นมันก็ไม่ทำให้เขาต้องตายอย่างน่าสมเพช
หรือเจ้าหมอนั่นมันคิดจะตอบแทนเขากันนะ
คิดถึงตรงนี้ก็รู้สึกอยากจะปฏิเสธดังๆ จริงๆ
“เดรโก.... ลูกรักลูกกำลังคิดอะไรอยู่” นาร์ซิสซาเอ่ยถามขณะมองลูกชายที่ตกอยู่ในภวังค์
ครอบครัวเธอยังอยู่ในฮอกวอตส์ที่เสียหายยับเยินจากสงครามเพื่อต่อรองบางอย่างกับกระทรวง
“ไม่มีอะไรครับแม่”
ชายหนุ่มตอบกลับมารดาด้วยสีหน้าซีดเซียว เดรโกเป็นเช่นนี้เสมอ เขามักจะฝืนแบกรับหน้าตาของครอบครัว
เขาอยากให้ครอบครัวกลับมาอยู่จุดสูงสุดที่เต็มไปด้วยเกียรติยศอีกครั้ง แต่ดูเหมือนมันยากเหลือเกิน
“เดรโก
ลูกไม่ต้องตามพ่อกับแม่ไปคุยกับเจ้าหน้าที่จากกระทรวงนะ รออยู่ตรงนี้ก่อน
เดี๋ยวแม่กลับมา” นาร์ซิสซาว่าก่อนเธอจะเดินไปสมทบกับสามีที่ยืนอยู่อีกด้านหนึ่ง
เขารับคำมารดาก่อนจะใช้สายตามองรอบๆ
ตัว เด็กนักเรียนจากฮอกวอตส์หลายคนยังอยู่ที่นี่
ผู้ใหญ่จากกระทรวงทั้งหลายแหล่ก็เช่นกัน สงครามจบลงไปประมาณ 3 วันแล้วแต่หลายๆ
คนก็ยังเลือกที่จะอยู่ที่นี่เพื่อซ่อมแซมความเสียหายที่เกิดขึ้นและไว้อาลัยแก่ผู้จากไป
แน่นอนว่าต้องไม่ใช่พวกผู้เสพความตายกับจอมมาร
เดรโกแค่นหัวเราะกับตัวเองอย่างแผ่วเบา
เกือบไปแล้ว.... เขาและครอบครัวเกือบจะจบชีวิตลงที่นี่แล้ว
ขึ้นชื่อว่าเป็นผู้เสพความตาย ใครจะยังอยากเก็บพวกเขาเอาไว้กัน
ที่พ่อกับแม่ไปคุยกับกระทรวงก็เพื่อต่อรองไม่ให้จับกุมพวกเขาทั้งสามคนไม่ใช่หรือไง
ความภูมิใจในสายเลือดบริสุทธิ์อะไรกัน
ความจงรักภักดีต่อจอมมารอะไรกัน ของพวกนั้นไม่มีค่าในสงครามเลยสักนิด
แต่ถึงอย่างนั้นสงครามนี้ก็ทำให้เขารู้สึกถึงความไม่เอาไหนของตัวเองได้อย่างแจ่มแจ้ง
ความล้มเหลวในชีวิตเขาในครั้งนี้ทำให้เขารู้สึกตัวว่าควรจะเปลี่ยนแปลงความคิดและนิสัยของตัวเองอย่างจริงจัง
จะต้องเป็นมัลฟอยที่อลุ่มอล่วยมากกว่านี้
“เดรโก
พ่อเขาตัดสินใจจะช่วยเหลือกระทรวงตามจับผู้เสพความตายที่หลบหนีได้แลกกับการปล่อยพวกเราไป”
แม่ของเขาเดินกลับมาอยู่เคียงข้างพร้อมกระซิบแผ่วเบา ใบหน้าที่ดูเหนื่อยล้าเกินวัยไปสักหน่อยระบายรอยยิ้มอ่อนโยนออกมา
เดรโกไม่ได้เห็นรอยยิ้มของผู้หญิงตรงหน้ามานานแล้ว เขารู้สึกดีขึ้นกับหลายๆ
สิ่งในชีวิตขึ้นมานิดหน่อยทันที
“ดีจังเลยนะครับแม่ ทุกอย่างเป็นไปด้วยดีใช่ไหมครับพ่อ”
เดรโกพูดกับมารดาด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนอย่างที่ไม่เคยมีใครได้ยินก่อนจะหันไปถามบิดาที่มีสีหน้าดูดีขึ้นกว่าเดิม
“คิงส์ลีย์ตอบรับข้อเสนอของฉันด้วยตัวเอง
โชคดีจริงๆ ที่พวกเขาไม่จับฉันกลับไปอัซคาบันแต่มันก็คงเป็นงานหนักไม่น้อยทีเดียวในการตามหาเจ้าพวกที่เหลือรอด”
ลูเซียสพูดด้วยน้ำเสียงเย่อหยิ่งเหมือนเคยถึงเขาจะพยายามทอดเสียงให้อ่อนลงแล้วก็ตาม
“หมดธุระของเราที่ฮอกวอตส์แล้วเดรโก
กลับคฤหาสน์กันได้แล้ว” ไม่ทันขาดคำร่างของสองสามีภรรยาบ้านมัลฟอยก็หายวับไป เหลือแค่เดรโกที่ยังยืนนิ่งอยู่กับที่
เดรโก
มัลฟอย นักเรียนสลิธิรีนเพียงหนึ่งเดียวที่ยังอยู่ฮอกวอตส์
เขาถูกสายตาของเพื่อนร่วมสถาบันจ้องมองด้วยความรู้สึกที่แตกต่างกัน
บ้างก็มองอย่างอาฆาต บ้างก็มองอย่างเข้าใจ
แต่คนอย่างเดรโกน่ะหรือจะสนใจกับอีแค่สายตาพวกนี้
ถ้าเป็นตัวเขาเมื่อก่อนคงจะจ้องอย่างหาเรื่องกลับไปแล้วกระมัง
เวลาเพียงไม่นานทำให้ตัวเขาเปลี่ยนไปได้ถึงขนาดนี้เลยหรือ
ใจเย็นลงถึงได้ขนาดนี้เชียวหรือ แต่ถึงอย่างนั้นมัลฟอยก็คือมัลฟอย
เย่อหยิ่งและไม่สนใจใคร
ตอนนี้ทั้งพ่อและแม่ต่างกลับไปหมดแล้วและเด็กหนุ่มเองก็เหนื่อยล้าเต็มที
เขาคิดจะไปหามุมเงียบสงบเพื่อครุ่นคิดเกี่ยวกับอนาคตอีกสักหน่อย
ความปรารถนาอันแรงกล้าของเขาก็ยังคงเป็นการนำครอบครัวกลับไปยังจุดสูงสุดที่เคยอยู่และสืบสานปณิธานแบบมัลฟอยต่อไป
แน่นอนว่ามันไม่ใช่การปลูกฝังความคิดเดิมๆ
เกี่ยวกับสายเลือดให้กับคนรุ่นหลังเพราะเขาอยากจะเป็นมัลฟอยที่ดีกว่าเดิม
“รอน
ฉันไม่ได้อยากเลิกกับเขา ฉันไม่ได้อยากเลิกกับแฮร์รี่”
แว่วเสียงสะอึกสะอื้นมาไม่ไกล เดรโกจะไม่สนใจเสียงสะอื้นนั่นเลยถ้าไม่มีชื่อแสนคุ้นเคยปรากฏอยู่ในนั้น
“จินนี่
ฉันเสียใจที่ช่วยอะไรไม่ได้แต่แฮร์รี่ในตอนนี้ไม่พร้อมจะคบกับเธอต่อจริงๆ
ให้เวลาเขาเถอะนะ พอเวลาผ่านไปสักวันบาดแผลในใจของเขาคงจะทุเลาลง แล้ววันนั้นเธอจะกลับไปหาเขามันก็ยังไม่สายนี่”
วีสลีย์ผู้พี่ปลอบโยนน้องสาวด้วยน้ำเสียงให้กำลังใจ
“แต่แฮร์รี่พูดเหมือนว่าเขาจะไม่กลับมาคบกับฉันอีกแล้วรอน!” เด็กสาวผมแดงตะโกนใส่พี่ชายก่อนจะถูกกลบด้วยเสียงสะอึกสะอื้น
“จินนี่....”
วีสลีย์คนพี่ครางเสียงแผ่วในขณะเดียวกับที่เดรโกตัดสินใจเดินจากไปจากตรงนั้น
ไม่ยักจะรู้ว่าพอตเตอร์ยังคบหากับลูกคนเล็กของบ้านวีสลีย์ ถึงจะคบกันถึงแค่เมื่อไม่นานมานี้ก็เถอะ
เอาเถอะ มันไม่ใช่ธุระอะไรของเขาที่ต้องสนใจชีวิตของพอตเตอร์สักหน่อย
เด็กหนุ่มสะบัดหัวไล่ความคิดไร้สาระออกจากหัวทันที
เดรโกเดินตรงไปที่คุกใต้ดินเพื่อไปยังหอพักบ้านสลิธีรีน
เขาต้องการพักผ่อน โชคดีจริงๆ ที่คุกใต้ดินนี้ไม่มีใครอยู่เลย เขาต้องการอยู่คนเดียวสักพักพอดี
เดรโกเดินตรงไปยังห้องนอนของเขาและล้มตัวลงกับเตียงอย่างหมดแรง
พ่อกับแม่คงไม่ว่าอะไรเขาหรอกมั้งถ้าหากเขาไม่กลับบ้านไปสักระยะ
“แกจะรู้สึกแบบไหนกันนะกับการเป็นวีรบุรุษที่ปกป้องโลกนี้
กับการเป็นเด็กชายผู้มีชื่อเสียง แกมีความสุขกับมันหรือเปล่า...พอตเตอร์”
เดรโกกระซิบเสียงแผ่วเบากับตัวเอง ทั้งเขาและพอตเตอร์ต่างเป็นบุคคลที่ถูกพูดถึงมากที่สุดแต่เป็นคนละความหมาย
เจ้าหมอนั่นที่ถูกชื่นชมกับเขาที่ถูกสาปแช่ง
เขาเข้าใจว่าทำไมและแน่นอนว่าเขายอมรับได้เพราะมันเป็นเขาที่ทำผิด
อ่อนแอจนไม่กล้าเผชิญหน้ากับความจริง ผลที่เขาได้รับคือการแบกรับความรู้สึกผิดกับสิ่งที่ได้กระทำและความรู้สึกที่สมเพชต่อตัวเอง
เขาเดินผิดทางมาแต่แรก
ผิดทางตั้งแต่การยึดเอาบิดาเป็นต้นแบบในชีวิตและเขาก็ทำในสิ่งที่ผิดมาตลอด แฮร์รี่
พอตเตอร์คือแสงสว่างที่ตรงข้ามกับความมืดอย่างเขา
ตัวเขาที่มีแต่ความอิจฉาและเกลียดชัง แต่มันจะเป็นไปได้ไหมที่เขาอยากจะหลุดพ้นจากความมืดมิดนี้
“ฉันต้องทำได้”
เดรโกพึมพำกับเพดานก่อนจะหลับตาลงแล้วเข้าสู่ห้วงนิทรา
วันเวลาผันเวียนเปลี่ยนไปจนถึงห้าปีแฮร์รี่ในตอนนี้ทำงานเป็นมือปราบมารประจำอยู่ที่กระทรวงเวทมนต์พร้อมกับรอน
วีสลีย์และเนวิลล์ ลองบัตท่อม
พวกเขาสามารถเป็นมือปราบมารได้โดยไม่ต้องสอบอะไรเพราะทั้งสามต่างผ่านสงครามครั้งใหญ่ด้วยกันมา
ดูเหมือนช่วงหลังๆ
มานี้เนวิลล์เริ่มมีความคิดที่จะเลิกเป็นมือปราบมาร เจ้าตัวเริ่มวุ่นๆ
กับการบอกคุณย่าว่าอีกไม่นานจะเลิกเป็นมือปราบมาร เนวิลล์ต้องอธิบายเหตุผลให้คุณย่าของเขาฟังถึงสามครั้งต่อวัน
เนวิลล์ในตอนนี้ไม่เหลือเค้าของเด็กอ้วนอ่อนแอคนนั้นอีกต่อไปแล้ว
แฮร์รี่รู้สึกดีใจที่เห็นเพื่อนเติบโตได้มากขนาดนี้
“ไง
แฮร์รี่” เนวิลล์ทักเขาทันทีที่เห็นเขาเข้ามาในกระทรวง
ใบหน้าอีกฝ่ายดูหมองเคล้าอย่างคนไม่ได้นอน
เนวิลล์เดินมาขนาบข้างเขาก่อนจะกระซิบอย่างกังวล
“ฉันรู้ว่าคุณย่าท่านภูมิใจที่ฉันมาไกลได้ถึงขนาดนี้แต่ฉันมีอย่างอื่นที่อยากทำอีก....
ท่านไม่ฟังฉันเลย”
“นายอย่ากังวลมากเกินไปสิเนวิลล์
ให้เวลาท่านหน่อย นายเพิ่งมาทำงานเป็นมือปราบมารไม่กี่ปีเอง ให้ท่านภูมิใจนานๆ
เดี๋ยวท่านก็จะตามใจนายเองนั่นแหละ” แฮร์รี่กระซิบตอบด้วยรอยยิ้มน้อยๆ
ถึงเนวิลล์จะไม่อ่อนแอแล้วแต่ก็ยังเป็นคนขี้กังวลเหมือนเดิม
“แล้วนายกับลูน่าเป็นยังไงบ้างล่ะ”
เมื่อเห็นอีกฝ่ายท่าทางคลายกังวลมาหน่อยเขาก็สวนคำถามปล่อยหมัดฮุกออกไปทันที หน้าเนวิลล์ในตอนนี้เป็นสีชมพูเหมือนลูกหมูเลย!
“ฮะ
แฮร์รี่! นายถามอะไรกันเล่า” เนวิลล์ปัดไม้ปัดมือหน้าแดงก่ำก่อนจะเดินไวๆ
ไปห้องทำงานของตัวเองทันที นั่นทำให้แฮร์รี่หัวเราะออกมาได้ไม่น้อย
หลังจากนั้นแฮร์รี่ก็เดินไปยังห้องทำงานของตัวเองซึ่งอยู่ไม่ไกลจากห้องของรอนและเนวิลล์เท่าไรนัก
ในจังหวะที่เขากำลังจะเข้าห้องนั้นรอนก็แทบหายตัวมาอยู่ตรงหน้าเขาแล้วพูดรัวเร็วด้วยสีหน้ารีบร้อนและตื่นตระหนก
“เดี๋ยวรอน...
ใจเย็นๆ ฉันฟังไม่ถนัดเลย” แฮร์รี่เอ่ยแทรกขึ้นมาเพราะคำพูดที่ฟังไม่ได้ศัพท์ของรอนกำลังทำเขาปวดหัว
“กาเวน
โรบาดส์เรียกนายแน่ะแฮร์รี่ เขาบอกว่ามีเรื่องสำคัญต้องคุยกับนาย
ให้นายไปหาเขาให้ไวที่สุดแถมยังบอกว่าถ้านายไม่เคาะประตูห้องเขาภายในสองนาที
เขาจะทำโทษฉัน! โอ๊ย ให้ตายสิ
ฉันไม่น่าไปเดินโต๋เต๋อยู่แถวหน้าห้องเขาเลย!”
รอนอธิบายใหม่ด้วยน้ำเสียงชัดถ้อยชัดคำพร้อมกับบ่นออกมา ถึงมันแทบจะฟังไม่รู้เรื่องเลยก็ตามที
แต่เมื่อเห็นใบหน้าตกกระมีเหงื่อไหลซึมของเพื่อนรักแฮร์รี่ก็รีบหันกายกลับไปทิศตรงข้ามทันที
ห้องของหัวหน้ามือปราบมารอยู่คนละฝั่งกับห้องของเขาพอดี… เขาหมายถึงคนละฝั่งของตึกน่ะนะ
เด็กหนุ่มเคาะประตูไม้สีดำเคลือบทองสามครั้งด้วยจังหวะหนักแน่นคงที่ก่อนจะถือวิสสาสะเปิดประตูเข้าไปพบกับหัวหน้าสำนักงานใหญ่ที่นั่งรอเขาอยู่ในห้อง....
แต่ไม่ได้มีแค่กาเวนคนเดียวนี่สิ ทำไมเดรโก มัลฟอยถึงมาอยู่ที่นี่ได้กัน
“มาช้านะคุณพอตเตอร์
ปิดประตูแล้วเข้ามานั่งคุยกันให้เรียบร้อยสิ” กาเวนเอ่ยด้วยน้ำเสียงติดตำหนิ
มันทำให้เขารู้สึกละอายใจและละอายใจมากขึ้นเมื่อถูกพูดต่อหน้าของเดรโก มัลฟอย
“ขอโทษครับคุณโรบาดส์”
เขาพูดอย่างรู้สึกผิดก่อนจะเลื่อนเก้าอี้ข้างมัลฟอยมานั่ง สายตาจับจ้องไปที่หัวหน้าของเขาอย่างต้องการคำอธิบาย
“เรื่องนี้คุณมัลฟอยมาขอร้องด้วยตัวเอง
เขาต้องการความช่วยเหลือจากเธอน่ะคุณพอตเตอร์”
เมื่อได้ยินดังนั้นแฮร์รี่รีบหันไปมองผู้ชายที่นั่งข้างกันทันที
นัยน์ตาสีเทาอ่อนสบเข้ากับเขาก่อนมัลฟอยจะเอ่ยปาก
“พ่อของฉันกำลังลำบากกับการล่าผู้เสพความตาย.. ฉันว่าแก- -
ฉันว่านายน่าจะรู้เรื่องของทอร์ฟินน์ โรลว์”
แฮร์รี่พยักหน้าเป็นเชิงรับรู้แล้วรอให้มัลฟอยพูดต่อ
“หมอนั่นหนีไปได้และยังคงปรากฏตัวให้คนเห็นเป็นระยะแต่ไม่รู้ที่อยู่แน่นอน เมื่อสัปดาห์ก่อนพ่อฉันปะทะกับหมอนั่นแถวๆ
ตรอกน็อกเทิร์นแล้วพ่อฉันก็ได้รับบาดเจ็บจากคำสาปกรีดแทง”
แววตาสีเทาซีดฉายแววโทสะอยู่ชั่วครู่ก่อนจะปรับมาเป็นปกติ
แฮร์รี่รู้สึกว่ามัลฟอยคนนี้เปลี่ยนไปเล็กน้อย... อย่างน้อยก็เปลี่ยนไปในเชิงที่ดี
แฮร์รี่คิดอย่างนั้น
“แล้วพ่อฉันก็เสียแขนไปข้างหนึ่งด้วย
โรลว์จับกลุ่มกับผู้เสพความตายอีกสองสามคน พวกมันรุมพ่อฉันจนแทบหนีกลับมาไม่ได้”
“พอตเตอร์
นี่เป็นคำขอร้องของแม่ฉัน ฉันไม่ได้อยากได้ความช่วยเหลือจากแกเลยสักนิด แต่ถ้าแกอยากจะช่วยเหลือล่ะก็ส่งจดหมายมาให้คำตอบด้วยแล้วเราจะนัดคุยรายละเอียดกันอีกที”
แฮร์รี่ได้แต่นั่งตาค้างกับท่าทางของมัลฟอยที่ไม่อยู่ในห้องแล้ว
ห้าปีผ่านไปหมอนั่นก็ยังเหมือนเดิม ไม่เห็นเปลี่ยนไปเลยสักนิด
มัลฟอยนี่มันมัลฟอยจริงๆ แฮร์รี่สบถลั่นในใจอย่างไม่สบอารมณ์
_________________________________________________________
แอ้แฮะ~ ปล่อยตอนแรกออกมาแล้วนะครัช ถูกใจกันหรือเปล่าน้อ~
เราคิดว่าเรื่องนี้จะดำเนินไปเรื่อยๆ แหละ ความสัมพันธ์ของหลายๆ คนจะค่อยๆ พัฒนา
มันคงไม่ปุปปัปรักกันเลยหรอก มันเป็นไปไม่ได้ เพราะเราแอบอิงตามเนื้อหาในหนังสือ/ภาพยนตร์ด้วย
แต่ความรู้สึกของเดรโกที่มีต่อแฮร์รี่จะลดน้อยลง(ในแง่ความอิจฉานะ) แต่ก็ยังเหม็นขี้หน้ากันอยู่ดี (ฮา)
ส่วนของแฮร์รี่ก็เหมือนจะมีความรู้สึกเห็นใจเดรโกเล็กๆ กับเรื่องในอดีต แต่ก็ยังไม่ค่อยชอบหน้าอยู่ดี (อ้าว)
ผู้เสพความตายที่เราเอ่ยถึงปรากฏตัวในภาพยนตร์ด้วยนะ!
โรวล์ไงล่ะ
เห็นหน้าก็รู้สึกแล้วว่าหมอนี่มันตัวร้าย!
ปล. หวังว่าข้อมูลอะไรที่เราหามาคงไม่ผิดพลาดนะ ขอให้อ่านอย่างมีความสุขครัช!
ปล2. ทุกคอมเม้นท์มีค่าสำหรับนักเขียนมากๆ นะฮะ หากคุณคอมเม้นท์บ้าง
รับรองว่านักเขียนอย่างเราจะมีกำลังใจและแรงบันดาลใจไปการเขียนต่อไปแน่ๆ
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านกันมากๆ เลยนะ ♥ แค่ยอดวิวเพิ่มเราก็ดีใจแล้วแหละ แฮ่~
ความคิดเห็น