หักแผนพยัคฆ์เหนือเมฆ - หักแผนพยัคฆ์เหนือเมฆ นิยาย หักแผนพยัคฆ์เหนือเมฆ : Dek-D.com - Writer

    หักแผนพยัคฆ์เหนือเมฆ

    เมื่อเครื่องบินถูกไฮแจ๊คบนความสูง ๒๐,๐๐๐ ฟุตเหนือพื้นดิน คุณจะเลือกเอาชีวิตรอดอย่างไร โป้ปด หรือ พูดความจริง ??

    ผู้เข้าชมรวม

    227

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    4

    ผู้เข้าชมรวม


    227

    ความคิดเห็น


    2

    คนติดตาม


    0
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  14 ต.ค. 49 / 22:16 น.


    ข้อมูลเบื้องต้นของเรื่องนี้
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

                  “ท่านผู้โดยสารโปรดทราบ โปรดรับเข็มขัดของท่าน และตรวจตราดูตู้สัมภาระด้านบนศีรษะว่าเรียบร้อยดีหรือไม่ เรากำลังจะนำเครื่องขึ้นจากท่าอากาศยานสู่ที่หมายปลายทางในอีก ๑ ชั่วโมงข้างหน้านี้

                  เสียงกัปตันประจำเครื่องประกาศผ่านทางเครื่องขยายเสียง เตือนให้ผู้โดยสารเช่นเรา ๆ ดูแลความเรียบร้อยรอบ ๆ ตัวก่อนที่จะนำเครื่องทะยานขึ้นสู่ผืนฟ้าในอีกไม่กี่อึดใจข้างหน้า ผมถอนหายใจวูบ รู้สึกวาบเสียวสันหลังเมื่อมองดูนาฬิกาข้อมือ ตอนนี้ก็ ๘.๐๐ น. แล้ว ผมต้องรีบไปให้ทันประชุมคณะรัฐมนตรีในราว ๑๐.๐๐ น. ในวันที่ภายนอกนั้นวุ่นวายเหลือกำลัง แต่เมื่อเข้ามาอยู่ในเครื่องแล้ว ผมกลับพบแต่ความโล่งโปร่งสบาย ผู้โดยสารบนเครื่องเที่ยวเช้าวันนี้ดูบางตาจนน่าใจหายเหมือนกัน สำหรับเที่ยวบินสำคัญอย่าง ภูเก็ต-กรุงเทพฯ นี้

                      จะรับอะไรดีคะท่าน ข้าวเช้าหรือของว่างรองท้องดีคะ

                      และแล้วเสียงสวรรค์ของวันนี้ก็มาโปรดผม เธอคือ นางฟ้าประจำสายการบินนี้ และ ประจำเที่ยวนี้เสียด้วย เธอสูงโปร่งตามมาตรฐานนางแบบ แต่ความยั่วยวนของเธอที่กระเพื่อมยามเธอเดินไปมาบนเครื่องนั้น ช่วยให้ผมสลัดความทรงจำพื้นฐานเกี่ยวกับนางแบบ ไม้กระดาน ได้อย่างสิ้นเชิง

                      ขอเป็น ของว่าง แล้วกันครับ ผมไม่อยากจะต้องรีบร้อนเข้าห้องน้ำยามเช้าหลังเวลาอาหาร บนความสูง ๒๐,๐๐๐ ฟุต เหนือผืนดินประเทศของผมเอง

                  ค่ะ แล้วจะรับน้ำอะไรดีคะท่าน

                      ผมสั่งเป็นน้ำส้มคั้นสด ไว้กินล้างปากยามเช้าแบบนี้ ช่วยให้สดชื่นได้ดีแท้ เธอโน้มตัวมาใกล้กับผม เพื่อจะปรับเบาะของผมให้นั่งสบายขึ้นและสะดวกที่จะกินของว่างที่เธอจัดหามาให้ กลิ่นกายของเธอหอมละมุน เส้นผมยาวสลวยของเธอพาดผ่านหน้าอกผมไปเมื่อตอนเธอโน้มตัว ผมรู้สึกวูบวาบขึ้นมาในใจ เมื่อได้อยู่ใกล้เธอพร้อมกับความยั่วยวนของเธอที่ประชิดตัวผมเสียเหลือเกิน ผมแทบจะอยากทำแบบที่เพื่อนนักการเมืองของผมบางคนเคยทำ แต่นั่นจะทำให้อาชีพของผมพังลงไปในชั่ววูบเลยทีเดียว ผมจึงได้แต่สะกดกลั้นและรอคอยยามลงจากเครื่องเสียก่อน จากนั้นผมจะต้องชวนเธอไปกินข้าวเช้ากับผมให้ได้

                      ไม่นานหลังจากเสร็จสิ้นการบริการของผมตามหน้าที่ เธอก็เดินจากไปเพื่อบริการผู้โดยสารคนอื่นบนเครื่อง ความเป็นวีไอพีของผมไม่ได้ช่วยยืดเวลาที่เธอจะอยู่กับผมได้มากนัก ผมมองแผ่นหลังของเธอไล่ลงมาถึงเรียวขาสวยเนียนนั่น ผมมองจนเคลิ้ม จนกระทั่งเธอหายลับไปจากสายตาของผม เมื่อนั้นความสนใจของผมจึงกลับมายังของว่างตรงหน้า กับน้ำส้มคั้นสดแก้วนั้น

                      ผมจัดการของว่างได้อย่างไม่ยากเย็นนัก ด้วยวัยที่ย่างเข้า ๕๐ ของผม แต่ยังดูแข็งแรงเหมือน ๔๐ ต้นๆ ผมมักจะกระปรี้กระเปร่ายามได้ทานอาหารรสเลิศ แตกต่างจากพวกรัฐมนตรีวัยเดียวกันที่เริ่มตายด้านทางรสอาหารและรสกามารมณ์ เสร็จสิ้นจากของว่าง ผมก็ตบท้ายด้วยน้ำส้มคั้นสด มันหวานชื่น จับใจผมจริง ๆ พับผ่า

                      เมื่อท้องอิ่มหนังตาผมก็เริ่มหย่อนลง ร่างกายบังคับให้ผมต้องพักผ่อนกลางอากาศนี้แล้ว ผมไม่ฝืนหรอก เวลาอีกตั้ง ชั่วโมงครึ่ง ก่อนเวลาประชุม ครม. จะเริ่ม ผมยังมีเวลาพอสำหรับการพักผ่อน คิดได้เพียงเท่านี้ ผมก็ ผล็อยหลับไปด้วยความง่วงงุน 

       

                                                   ------------------

                      เสียงอึกทึกครึกโครมดังขึ้น ปลุกให้ผมตื่นจากภวังค์ ม่านตาของผมเริ่มเผยอขึ้นเผยให้เห็นภาพเบื้องหน้าสายตาทีละน้อย ๆ  สายตาของผมดูจะยังพร่าพราง ภาพที่เห็นจึงไม่ชัดเป็นลาง ๆ เลือน ๆ เหมือนกึ่งฝันกึ่งจริง ผมเห็นผู้ชายเดินถือปืนกลมือ ไปมา  ๒ หรือ ๓ คน ให้ตาย นี่มันฝันร้ายชัด ๆ ผมเลือกที่จะหลับต่อดีกว่า ฝันร้ายจะได้หายไป ความจริงผมอยากจะฝันถึงนางฟ้าบนเครื่องลำนี้ของผมมากกว่า ไม่นานผมก็วูบหลับไป

       


                                                                ----------------------------------------

       

                      เฮ้ย ไอ้ระยำ !!  ตื่นได้แล้ว !! ”

                  พลั่ก !!!” เสียงของแข็งกระแทกเข้ากับขมับผม ให้ตาย ผมลืมตาขึ้นมาดู เห็นผู้ชายใส่ชุดสีเขียวมอ ๆ คนหนึ่ง ถือปืนกลมือ หันปากกระบอกปืนเข้ามาหาผม มันยืนจ้องเขม็ง แล้วผยักเผยิดให้ใครอีกคนที่เหมือนจะอยู่ใกล้ ๆ กันนั้น เดินเข้ามาใกล้ ๆ กับที่มันยืนอยู่

                      หัวหน้า มันตื่นแล้วครับ จะเอายังไงกับมันดี

                      ผู้ชายอีกคนเดินเข้ามา เขาใส่เสื้อกั้กสีกรมเข้ม คล้าย ๆ ชุดสนามของหน่วยคอมมานโด แต่ใส่กางเกงลายพราง กับคอมแบทคู่หนาหนักคู่นั้น เขายกเท้าพาดตัวผมแล้วก็ยกตัวข้ามผ่านผมไป นั่งลงที่นั่งว่างข้าง ๆ ผม

                      ไงครับ ท่านประธานสภา ? อากาศวันนี้สดชื่นดีนะครับ เหมาะแก่การขึ้นเครื่องบิน

                      พวกคุณเป็นใคร แล้วต้องการอะไร ? ผมว่าพวกคุณไม่ได้มาดีแน่

                      งั้นเหรอครับ ?

                      สิ้นเสียง ศอกแข็ง ๆ ของเขาก็กระแทกเข้าที่ชายโครงผม มันเจ็บจนจุก ผมบิดตัวงอ มือสองข้างกุมเข้าที่ชายโครง เสียงหัวเราะของผู้ชายที่ยืนถือปืนอยู่ข้าง ๆ ตามมา ไวพอ ๆ กับมือของผู้ชายที่นั่งข้างผม มือนั้นปราดเข้ามาจิกหัวผมขึ้นให้โงขึ้นมา มันยื่นหน้าเข้ามาใกล้จนกระทั่งได้กลิ่นลมหายใจของมันที่บ่งบอกว่าเช้านี้มันได้ผ่านอะไรเข้าทางปากมาบ้าง หนวดของมันขึ้นหรอมแหรมเขียวครึ้ม มันชิดหน้าเขามาใกล้เสียจนผมเห็นไรขนบนริมฝีปากมันได้

                      ท่านฯ อาจจะไม่รู้จักผม หรือ ลูกน้องของผมที่ยืนถือปืนมาทางท่านฯ ตอนนี้ หรือ ไอ้สารเลวทั้งหลายที่ท่านประนามว่าเป็น  ภัยร้ายของชาติ เมื่อ ไม่นานมานี้ บัดนี้ตอนนี้ พวกนั้นมาอยู่บนเครื่องบินลำเดียวกับท่านแล้ว มองดูสิ มองไปรอบ ๆ มองซะให้เต็มตา !! ไอ้ระยำ !!”

                  มันจิกหัวผมให้มองไปรอบ ๆ เครื่อง ตอนนี้ มีผู้ชายแต่งกายคล้าย ๆ กับชุดคอมมานโด แต่เป็นสีกรม ราว ๆ ๔ ๕ คน เดินไปมาอยู่ในแต่ละส่วนของเครื่อง รวมทั้งหนึ่งคนที่หน้าห้องกัปตัน ที่ประตูหน้าห้องนั้นมีร่องรอยกระสุนอยู่ราว ๖ ๗ นัด คงจะเป็นการยิงเข้าไปในห้อง กัปตันกับนักบินผู้ช่วยคงจะตายหมดแล้ว

                      เอาล่ะ ผมว่า เรามาเข้าประเด็นกันเลยดีกว่า ท่านรู้จัก ซูลาห์ อาเหมด อัล อาซิด ใช่หรือไม่?

                  ใคร ? ซูลาห์ อาเหมด ผมไม่รู้จักหรอก

                      มันใช้พันท้ายปืนทุบมือข้างขวาผม ผมร้องลั่น  แต่ก็เงียบเสียงลงได้ในแทบจะทันที เมื่อปากกระบอกปืนพกจี้อยู่ที่คอหอยของผม

                      เอาล่ะ ฟัง ๆ ดีนะ ไอ้ระยำ, ซูลาห์ อาเหมด อัล อาซิด เคยเป็นเพื่อนของมึง , เพื่อนที่ดีมาก เพราะเขาช่วยให้มึงได้ตำแหน่งในสภา , ตำแหน่งอันแสนจะทรงเกียรติ แม้จะเป็นวิธีที่สกปรกแต่ก็ยังไม่เลวเท่ากับสิ่งที่มึงตอบแทนเขา , เพื่อนของมึง ไอ้สารเลว มึงถวายเขาขึ้นเขียงให้ นายกฯ และมันพร้อมจะเชือดคอ ซูลาห์ อาเหมด ให้พวกกลุ่มต่อต้านฯ ดูเป็นเยี่ยงที่ไม่ควรเอาอย่าง วันนี้มึงไม่มีเงื่อนไขใด ๆ ต่อรองกูได้ แต่กูมี มึงจงเชื่อมั่นในปืนของกู มันไม่มีชีวิตแต่มันสามารถปลิดชีวิตมึงได้ ถ้ากูเหนี่ยวไกปืนเข้ามาหาตัวกู , แบบนี้

                      มันหันปืนไปทางผู้ชายคนหนึ่งที่นั่งเยื้องกับผมไปอีก ๒ แถว แล้วเปรี้ยง ร่างนั้นก็ฟุบลง เหมือนคนคอหัก เลือดไหลนองลงบนพนักพักแขน สีแดงฉานนั้นเปราะบนพรมสีสักลาดกระจายไปทั่วบริเวณ

                      ไอ้หอกที่เพิ่งจะโดนยิงไปนั่น เป็นบอดี้การ์ดของมึง , คนเดียวที่เหลืออยู่ และเพิ่งจะตายไป เอาล่ะ มาคุยธุรกิจกันต่อ ซูลาห์ อาเหมด ยังไม่ถูกประหาร แต่ถูกจองจำที่ไหนซักแห่งในประเทศไทย ดูเหมือนว่าจะมีเพียงไม่กี่คนที่รู้ นายกฯ เป็นหนึ่งในนั้น แต่มึงก็ไม่ใช่คนอื่นคนไกล มึงคุยกับท่านนายกฯ ได้ บอกให้มันปล่อย ซูลาห์ อาเหมด ซะ แล้วกูจะปล่อยมึงเป็นการตอบแทน ดีไหม?

                      อะไร ผมบอกแล้วไงว่า ไม่รู้จักซูลาห์ อาเหมด คุณต้องการอะไรจากผมกันแน่!!”

                  เปรี้ยง !!!”

       

                                                      --------------------

       


                      เลือดไหลนองจากขาข้างซ้ายของผม ระยำ มันยิงเข้าที่น่องของผม เลือดยังคงไหลอยู่ไม่หยุด ผมเอามือทั้งสองข้างกดน่องขาไว้ หวังเพียงว่ามันคงจะยิงไม่ถูกเส้นเลือดใหญ่

                      มาคุยกันต่อ อย่าทำให้ผมเสียเวลามากนัก ซูลาห์ อาเหมด...

                      โอเค ๆ ผมรู้จัก ๆ ซูลาห์ อาเหมด เขาเป็นคนดี ผมนับถือเขา เขาช่วยเหลือผมในการเข้าไปมีหน้ามีตาในสังคม โดยเฉพาะทางการเมือง ผมได้ตำแหน่งสำคัญ ๆ ก็เพราะเขา

                  แล้วทำไมมึงจับเขาขึ้นเขียง รอให้ นายกฯ ที่รักของมึงเชือดคอเขา ทำไม ?

                      ซูลาห์ อาเหมด เป็นที่นับหน้าถือตาในสังคม อิทธิพลของเขากว้างขวางพอ ๆ กับ ที่ดินที่เขามี   เขามีทั้งทหาร ตำรวจ ในกำมือมากมาย ถ้าเขาจะปฏิวัติแล้วยึดครองประเทศ เขาก็ทำได้ แต่เขาไม่ทำ เพราะเขาชอบพอใจที่จะกุมอำนาจอยู่เบื้องหลัง เขาคอยชักไยผู้นำหลายต่อหลายคนในประเทศ แต่เมื่อประเทศประสบปัญหาเศรษฐกิจ ประชาชนเรียกร้อง นายกฯ คนใหม่ แล้วท่านผู้นำก็ก้าวเข้ามา พาประเทศกลับสู่ความรุ่งเรืองอีกครั้ง แต่เขาไม่ได้มาจากการสนับสนุนของ ซูลาห์ อาเหมด และไม่มีวันที่ซูลาห์ อาเหมด จะสนับสนุนเขา

                      ท่านนายกฯ ของมึงก็เลยต้องชิงเก็บ ซูลาห์ อาเหมด เสียก่อน?

                      ไม่ใช่ ท่านนายกหวั่นเกรงซูลาห์ อาเหมด มาก แต่คำแนะนำของผมทำให้ท่านเปลี่ยนใจ

                      คำแนะนำ ? มึงแนะนำอะไร มึงมีอำนาจขนาดไหน ที่เปลี่ยนความคิดของนายกฯได้

                  ท่านนายกฯ ขึ้นมาได้ถึงจุดนี้ ผมต้องขอสมอ้างว่าเป็นความสามารถของผมล้วน ๆ ที่ผลักดันให้ท่านมายืน ณ จุดนี้ได้ ผมใช้ทั้งฐานกำลังเงินของ ซูลาห์ อาเหมด และ บุคลากรในเครือข่ายของซูลาห์ อาเหมด ผมใช้ทุกอย่างที่เป็นของซูลาห์ อาเหมด ในนามของซูลาห์ อาเหมด เอง แต่ตัวเขาเองไม่เคยรู้ว่า อำนาจนั้นถูกผมใช้ไปในการสนับสนุนคนที่เขาไม่มีวันจะสนับสนุนเด็ดขาด

                      ระยำ มึงมันระยำสิ้นดี  มึงแอบใช้อำนาจของซูลาห์ อาเหมด แต่สุดท้ายมึงกลับเอาเชือกตรึงคอ ซูลาห์ อาเหมด ไว้บนแท่นประหาร ไอ้นรก!!”

                  เขายกปืนขึ้นจ่อที่ขมับด้านขวาของผม มือของผมสั่นเทาไปด้วยแรงหวาดหวั่นต่อความตาย ผมนึกเพ้อไปถึงนางฟ้าบนเครื่อง ป่านนี้เธอคงจะถูกไอ้พวกระยำนี้รุมโทรมเสียเรียบร้อยแล้วกระมัง แต่ก็ต้องโทษความยั่วยวนบนร่างกายของเธอเอง ที่โดดเด่นเสียจนทำให้ผู้ชายคนไหน ๆ ก็อยากจะสัมผัสด้วยความหื่นกระหาย เสียงกริ๊กดังขึ้น ผมสูดลมหายใจยาวลึก แล้วเลือกเสี่ยงจะยื้อชีวิตตัวเองต่อไป ..

                      ช้าก่อน ๆๆๆๆ ผมยังเล่าไม่จบ เรื่องการตัดสินใจของท่านนายกฯ

                  เอาล่ะ มึงมีเวลาอีก ๕ นาที ที่จะยื้อชีวิตของมึงเองให้ยืดยาวต่อไป หรือจบลงภายใน ๕ นาทีนับจากนี้

      ผมสูดลมหายใจลึกอีกครั้ง แล้วเริ่มเล่าต่อ

                  ท่านนายกฯ ไม่ทราบถึงที่มาของแหล่งเงินทุนจนเมื่อท่านได้ดำรงตำแหน่ง ท่านเกรี้ยวกราดเป็นอันมากและแทบจะคลั่งตาย เมื่อได้รู้ว่าจริง ๆ ท่านได้ใช้เงินทุนของ ซูลาห์ อาเหมด ผู้ชายที่ท่านหวาดหวั่นว่าจะเป็นศัตรูหมายเลขหนึ่งในการโค่นล้มอำนาจของท่าน ผมจึงเสนอข้อมูลลับสุดยอดทั้งเครือข่ายขององค์กรซูลาห์ อาเหมด ,สายการดำเนินงานภายใน รวมทั้งแหล่งเงินทุน และที่สำคัญที่สุด ข้อมูลทุกอย่างของตัว ซูลาห์ อาเหมด เอง เพื่อแลกกับการดำรงตำแหน่งสำคัญทางการเมืองของผม ตลอดระยะเวลาที่ท่านดำรงตำแหน่งและหลังจากนั้น

                  คงจะเป็นตำแหน่งปัจจุบันนี้ ประธานรัฐสภา แล้วหลังจากนั้นของมึง มันคืออะไร?

                  เมื่อกล่าวถึงตรงนี้ ริมฝีปากผมฉาบรอยยิ้มอย่างผู้ชนะ ผมภูมิใจกับแผนการอันแยบยลของตัวเองในครั้งนั้นมาก นึกถึงคราใดก็อดที่จะภูมิใจกับมันไม่ได้จริง ๆ

                      ดำรงตำแหน่ง ประธานสมาชิกวุฒิสภา เงินเดือนอื้อซ่าจะเดินเข้ามาหาผม หรือ ไม่ผมก็จะรับตำแหน่งที่ปรึกษารัฐบาลเงินเดือนมากไม่แพ้กัน กินทั้งขึ้นทั้งล่อง กับข้อมูลของคนเลว ๆ คนหนึ่ง

                      คนเลว ๆ คนหนึ่งอย่างนั้นเหรอ ? มึงคิดแบบนั้นจริง ๆ ไอ้สารเลว !!”

                  มือของเขาเหวี่ยงมาอัดที่หน้าท้องผมเต็มรัก ผมจุกอีกครั้ง ร่างของผมบิดงออย่างเจ็บปวด แล้วมือของเขาก็กระชากผมลุกขึ้นจากที่นั่ง ถูลู่ถูกังลากผมไปยังส่วนท้ายของตัวเครื่องบิน ผ่านสถานที่เก็บสัมภาระ ทะลุไปยังส่วนท้ายของตัวเครื่อง ซึ่งส่วนนี้เองที่สามารถจะเปิดด้านท้ายได้ เหมือนเครื่องบินรบทหารที่สามารถปล่อยพลร่มกระโดดออกมาได้ ดูเหมือนว่าผู้ชายในชุดสนามสีกรมทุกคนที่ผมเห็น อ้อ ผู้ชายชุดสีเขียวมอ ๆ นั่นด้วย ต่างก็เดินตามมา มันทิ้งผมลงนั่งกับพื้น แล้วมัดแขนผมทั้งสองข้างไว้ด้วยกันด้วยเส้นลวดพลาสติกแบบที่ตำรวจใช้ จากนั้นพวกมันก็สาละวนอยู่กับการสวมใส่ร่มชูชีพ  ไม่นานนัก มันก็กลับมาหาผม

                      ไง วันนี้อากาศดีจริง ๆ อยากจะรับลมหน่อยไหมพวก ?

                      มันลากผมออกไปยังพื้นท้ายเครื่องที่เปิดออกเหมือนปลาวาฬอ้าปาก ผมคงอยู่ส่วนกลางลิ้น มันจับผมนั่งหันหน้าออกไป ผมมองเห็นท้องฟ้าสีคราม ก้อนเมฆสีขาวปุกปุยลอยนวลอยู่นั่น เหมือนหมู่เกาะกลางมหาสมุทรไม่มีผิด สายลมแรงพัดกรรโชกใบหน้าผมจนบิดเบี้ยว แรงลมตีจนเหมือนจะฉีกหน้าผมออกเป็นชิ้น ๆ

                      เฮ้ย กูลืมอย่างว่ะ ก่อนเราจะลาจากกัน ขอบคุณสำหรับคำพูดทุก ๆ คำ

                      ผมหันกลับไปจ้องหน้ามันให้ชัด ๆ อีกครั้ง มันล้วงเอาเครื่องอัดเสียงขนาดเล็กออกมาจากกระเป๋าเสื้อที่อกด้านขวา มันชูสลอนให้ผมเห็นแล้วโบกไปมาอย่างเด็กได้ของเล่นใหม่ รอยยิ้มอย่างผู้ชนะฉาบที่ริมฝีปาก ตัดกับผิวสีเกรียมแดดของมัน ช่วยขับให้คิ้วดกดำของมันโดดเด่นยิ่งขึ้น แล้วสายตาผมก็กวาดมองไปที่พวกมันทั้งหมด ตอนนี้ผมเพิ่งจะเห็นว่ามีผู้หญิงอยู่ในกลุ่มของมันด้วย เธอสูงโปร่งราวกับนางแบบ แต่ไม่ใช่เธอมีบางสิ่งที่โดดเด่น เป็นความเย้ายวนบนเรือนร่างที่ผมจำได้ติดตา เธอคือ แอร์โฮสเตจ สาวคนนั้น ที่เสิร์ฟของว่างกับน้ำส้มให้ผม เธอแต่งกายชุดเดียวกันเป็นชุดสนามสีกรม และใส่อุปกรณ์ร่มชูชีพเรียบร้อย ผมจ้องเธออยู่เนิ่นนาน

                      อ้อ ... เธอเป็นผู้หญิงที่เยี่ยมว่าไหม แกคงจะชอบเธอมาก แต่เสียใจด้วย แกจะไม่ได้เจอกับเธออีกแล้วบ๊ายบายเพื่อน

                  พลั่ก มันยันผมด้วยรองเท้าคอมแบทคู่หนักนั่น ผมกลิ้งลุ่น ๆ ลงตามทางลาดท้ายเครื่องที่เปิดรับลมโกรก ขณะนี้เครื่องบินกำลังลอยอยู่เหนือจังหวัดใด จังหวัดหนึ่งเป็นแน่ ผมกลิ้งจนถึงสุดปลายทาง มือของผมพยายามตระหวัดเกี่ยวเอาเหล็กตัวยึดกับผนังด้านบนไว้ แต่กับไปโดนระหว่างกลางมือของผม เลื่อยให้เส้นลวดพลาสติกนั้นขาดกัน ผมสะบัดมือทั้งสองจะเกี่ยวกับปลายทางลาดนั่นไว้ แต่ไม่เป็นผล มือผมลื่นหลุดเนื่องจากไม่มีที่ใดให้ยึดเกาะไว้เป็นหลักได้  ผมลอยละลิ่วตกสู่ฟากฟ้าเบื้องหน้าที่ผมเคยเห็นนั่น ผ่านปุยเมฆสีขาวลงไป....ลงไป


                                              --------------------------


                      ตา วันนี้ทำไมรถมันติดกันจังนะ

                      นั่นสิ ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน วันนี้อุตส่าฤกษ์งามยามดี ล้างรถซะใหม่เอี่ยมอ่อง

                      รถเก๋งมาสด้า สีน้ำตาลเงาวับ จอดติดอยู่บนท้องถนนที่คลาคล่ำไปด้วยรถหลากหลายรุ่นและยี่ห้อ รถคันนี้อยู่ด้านหน้าสุด กำลังใจจดใจจ่อรอคอยไฟเขียวด้วยใจระสับระส่าย สิ้นเสียงบ่นอุบของพลขับรุ่นคุณตา รถก็ออกแล่นอย่างสบายอกสบายใจ

                      ตู๊ม !!!”

                      ห่า ! อะไรกันวะเนี่ย !!”

                  คุณตาเจ้าของรถเปิดประตูออกมาด้วยอารมณ์หงุดหงิดที่สุด เขาเดินมายังกระโปรงหน้าเพื่อจะพบเห็น ร่าง ๆ หนึ่งนอนแน่นิ่งอยู่เหนือกระโปรงหน้าบุบบู้บี้ของเขา เลือดสีแดงฉานสาดกระเซ็นไปทั่วกระจกหน้าและเลือดอีกเป็นลิ่มๆ กำลังไหลลงไปในเครื่องยนต์ที่อยู่ใต้กระโปรงหน้านั้น  ร่างนั้นหน้าตาบูดเบี้ยวแหยเก อย่างน่ากลัวแต่เขาจำได้เลา ๆ ว่า เจ้าของร่างนี้เคยออกทีวีอยู่บ่อย ๆ เขายืนงงอยู่ไม่นาน เสียงยายคู่ทุกข์คู่ยากของเขา แหวกผ่านความงุนงงของเขาเข้ามากระชากให้รู้สึกขนลุกเกรียวโดยพลัน

                      นี่มัน ท่านประธานสภา  วรดิษฐ์ นี่นา ฉันจำได้เมื่อวาน เขายังเพิ่งเป็นข่าวอยู่เลย

                      ข่าวอะไรเหรอ ยาย ฉันเริ่มจะจำได้แล้วว่าเขาเป็นใคร

                      อ้าว ก็ข่าวที่ว่าเขาพัวพันกับมาเฟียไง แต่ว่าตอนนี้...เขาคงเป็นข่าวใหญ่กว่าเดิมแน่ ๆ แล้วล่ะ

       

                                                    --------------------------


                 

                  ข่าวโทรทัศน์เสนอข่าวถึงการจากไปอย่างกะทันหันของท่านประธานสภา วรดิษฐ์ โดยเชื่อว่าเป็น ฝีมือของกลุ่มมาเฟียที่กำลังพัวพันตกเป็นข่าวกันอยู่ ซึ่งในที่นี้มีการเปิดเผยแล้วว่า เป็นฝีมือของกลุ่มลาฮาดัด ที่เป็นกลุ่มสนับสนุนทางการเงินของเขามาโดยตลอดโดยตำรวจกำลังออกหมายจับเพื่อดำเนินการตามกฎหมายในเร็ววัน

                      รีโมทในมือของผู้ชายในชุดสูทสีดำเรียบร้อยถูกใช้กดปิดสัญญาณโทรทัศน์ เมื่อเสียงเคาะประตูดังขึ้น ตามด้วยการขานรับของเขาให้แขกผู้มาเยือนเข้ามาได้  ประตูบานนั้นเปิดกว้างอย่างช้า ๆ แล้วชายคนหนึ่งก็เดินก้าวเข้ามา ท่วงท่าของเขาสง่างามแม้ในวัย ๗๒ ปี เขาก็ยังคงดูทรงอำนาจมากพอ ๆ กับที่ดูแข็งแรงยิ่งสำหรับคนวัยนี้

                      เป็นเกียรติอย่างยิ่งครับ คุณพ่อ เชิญนั่งครับ

                      งานเรียบร้อยดี ฉันพอใจในตัวแกมาก สมแล้วที่ฉันเลือกรับแกเป็นลูกบุญธรรมคนแรก ๆ แม้ฉันจะไม่เปิดเผยตัวแกให้ใครรู้ แต่แกก็ดีอย่างที่ฉันอยากให้เป็นอย่างเงียบ ๆ มาโดยตลอด ฉันขอบใจแกมาก

                      ไม่เป็นไรหรอกครับคุณพ่อ  ปัญหาของท่านก็เหมือนกับของผม

                      แต่ตำแหน่งงานของลูกน้องแกก็จะว่างลง แกจะทำยังไงต่อไป

                      ก็แล้วแต่คุณพ่อสิครับ ผมรู้ว่าคุณพ่อมีคนในใจอยู่แล้ว ถ้าคุณพ่อเห็นชอบ ผมก็ไม่ขัดข้อง

                      ดี ถ้าอย่างนั้นอีก ๒ ๓ วัน ให้เรื่องนี้มันเริ่มคลี่คลายไปในทางที่เรากำหนดไว้ แล้วฉันจะบอกแกเองว่าจะให้ใครมาทำงานนั้นแทน ไอ้วรดิษฐ์

                      คุณพ่ออย่าเอ่ยชื่อมันเลยครับ มันลงนรกไปแล้ว ส่วนเรื่องคดี คุณพ่อวางใจได้ครับ ผมจะจัดการเองให้เรียบร้อย รับรองครับว่าทุกอย่างจะราบรื่นอย่างที่คุณพ่ออยากจะให้เป็น

                      ดีมาก แกนี่มันถูกใจฉันจริง ๆ ถ้าอย่างนั้นฉันก็ไม่กวนแกแล้ว ฉันต้องไปเยี่ยมเพื่อนเก่าคนหนึ่งที่นัดกันไว้ ไม่ได้เจอกันนานเลยเชียว

                  ครับ ถ้าอย่างนั้นเดี๋ยวผมจะส่งเด็กไปเป็นเพื่อนคุณพ่อนะครับ มันรู้งานดี แถมยังขยันขันแข็งเอาการ แล้วงานนี้มันก็เป็นหัวหน้าชุดซะด้วยนะครับ เอ้อ เดี๋ยวผมจะเรียกมันมาเดี๋ยวนี้เลยดีกว่า

                      ชายในชุดสูทหันไปกรอกเสียงลงบนเครื่องโทรศัพท์ข้างกาย เขากดหมายเลข ๐ อันหมายถึงเบอร์ติดต่อไปยังเลขานุการหน้าห้อง เอ่ยชื่อ ๆ หนึ่งขึ้นมา แล้วก็วางไป ไม่นานจากนั้นผู้ชายร่างสูง ผิวสีเกรียมแดด คิ้วดกดำเข้มดูโดดเด่น รับกับใบหน้าคมคาย ก็เดินเข้ามา เขาใส่ชุดทหารเต็มยศ ดาวบนไหล่เขามี ๒ ดวงกับแถบอีก ๒แถบ เดินหลังตรงแน่วมายังหน้าโต๊ะแล้วยืนทำวัณทยาหัตย์ต่อชายในชุดสูทสีดำ

                      ท่านครับ ภารกิจเสร็จสิ้นแล้ว ผมเก็บหลักฐานมาให้ท่านครับ

                      เขาหยิบม้วนเทปเล็ก ๆ สีดำสนิท มีแถบกระดาษกาวสีแดงแปะติดไว้ตรงสันเทป วางลงในมือชายชุดสูทสีดำที่ยื่นมือมารองรับพอดี รอยยิ้มฉายแววขึ้นบนใบหน้าเจ้าของชุดสูทสีดำนั้น แววตาเขาก็ยิ้มรับด้วย ก่อนจะหันกลับไปยังชายแก่ที่นั่งอยู่ตรงหน้า

                      อ้อ คุณพ่อครับ นี่คือ พันโท เอกสิทธิ์ ลูกน้องคนสำคัญของผมเองครับ

                      ชายแก่ลุกขึ้น ยืนนิ่งมองค้นหาเข้าไปในดวงตาของนายทหารหนุ่ม ไม่นานเขาก็เผยรอยยิ้มเล็ก ๆ ที่มุมปากอย่างพึงพอใจ

                      หน่วยก้านดีนี่พ่อหนุ่ม  ฉันชอบนายทหารที่เก่งและซื่อสัตย์เสมอ หวังว่าเธอจะเป็นหนึ่งในนั้นนะ

                  เป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้รู้จักกับท่านครับ ผมเห็นแต่ในข่าวทีวีไม่อาจทราบเลยว่าท่านจะยังดูแข็งแรงและยังดูปราดเปรียวยิ่งครับ

                      ซูลาห์ อาเหม็ด คนนี้น่ะรึที่ดูแข็งแรงและปราดเปรียว พ่อหนุ่ม ฉันอายุ ๗๒ และไม่คิดอยากจะกลับไปแข็งแรงและปราดเปรียวอย่างแต่ก่อนอีกแล้ว ฉันเพียงแต่เฝ้าดูความปราดเปรียวของคนหนุ่ม ๆ ทำงานแทนฉันอย่างสบายใจไปแบบนี้จะเป็นการดีกว่า

                      คุณพ่อ ดูแข็งแรงจริง ๆ นี่ครับ ขนาด เคธ แฟนของผมยังออกปากชมบ่อย ๆชายในชุดสูทสีดำหัวเราะร่วน อย่างพออกพอใจ

                      ยังจะใช้คำว่าแฟนอยู่เหรอ ฉันว่าต้องใช้คำว่า สุภาพสตรีหมายเลขหนึ่งจะเหมาะกว่าไหม สำหรับตำแหน่งภริยาของท่านนายกรัฐมนตรี

                  เสียงหัวเราะร่วนชุดใหญ่ตามมาหลังจากนั้น เป็นเสียงหัวเราะที่มีความสุขยิ่งของชายวัยแตกต่างกัน ๓คน  จากภายหลังบานประตูนั้น  ที่ใคร ๆ ต่างก็รู้ว่าเป็นบานประตูของผู้ทรงอำนาจมากที่สุดในการปกครองประเทศ และแทบจะกุมสิทธิ์ขาดทุกอย่างในการตัดสินใจใด ๆ ทั้งหมดทั้งมวล ...

                      ประตูห้องทำงานของนายกรัฐมนตรี....

                                                                       ------------------------------------

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×