Brownie สาวน้อยวัยใส - Brownie สาวน้อยวัยใส นิยาย Brownie สาวน้อยวัยใส : Dek-D.com - Writer

    Brownie สาวน้อยวัยใส

    โดย E-Infi

    Cake Town เมืองเลื่องชื่อในเรื่องขนมเค้ก ซึ่งเมืองนี้มีเชฟทั้งเค้กฝ่ายขาวและดำ จะเกิดอะไรขึ้นต่อไปถ้าฝ่ายดำต้องการครอบครองตำแหน่งเชฟหลวงเพียงฝ่ายเดียว....

    ผู้เข้าชมรวม

    181

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    0

    ผู้เข้าชมรวม


    181

    ความคิดเห็น


    2

    คนติดตาม


    0
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  17 ก.ย. 55 / 02:24 น.


    ข้อมูลเบื้องต้นของเรื่องนี้
     
                          นี่เป็นนิทานเรื่องแรกที่แต่ง ไงก็ช่วยเมนท์ติชมได้นะคะ
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ
                Cake Land อาณาจักรแห่งเค้ก ที่ที่ทุกคนในจักรวาลยอมรับว่า เค้กอร่อยที่สุด ดังนั้นจึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่จะมีสำนักเปิดสอนการทำขนมเค้ก  และที่ดินแดนแห่งนี้ก็มี 2 สำนักที่เลื่องชื่อในเรื่องของขนมเค้ก นั่นก็คือ สำนักขาว และสำนักดำ ทั้ง 2 สำนัก ต่างแก่งแย่งชิงดีกันเพื่อที่จะเป็น "จ้าวแห่งการทำเค้ก" ซึ่งการแข่งขันเพื่อหาจ้าวแห่งเค้กนั้นจะจัดขึ้นทุกๆ 10 ปี ในวันครบรอบการก่อตั้งอาณาจักร ซึ่งเมื่อ 10 ปีที่แล้วนั้น  สำนักขาวเป็นผู้ได้รับชัยชนะ ซึ่งนั่นได้สร้างความแค้นให้กับสำนักดำเป็นอย่างมาก จึงเป็นเหตุให้ฝ่ายดำคอยหาเรื่องฝ่ายขาวอยู่ตลอดเวลา และพยายามหาหนทางที่จะชนะสำนักขาวให้ได้  เพื่อล้างอายที่แพ้สำนักขาว 
             สำนักดำนั่นมั่นใจว่าจะชนะสำนักขาว ด้วยความอัจฉริยภาพในด้านการทำขนมเค้กของทายาทคนสำคัญของสำนักดำ อย่าง ฟัดจ์  แบล็กเทีย เด็กหนุ่มอายุ 15 ปี ผู้มีความสามารถรอบด้านในด้านการทำขนมเค้ก เขาสามารถรังสรรค์เค้กที่ชื่อดูธรรมดา ให้กลายเป็นขนมหวานสุดพิเศษที่มีหน้าตาน่ารับประทาน และยังมีรสชาติที่เอร็ดอร่อยอีกด้วย เขาเป็นความหวังหนึ่งเดียวของ มูส  แบล็กเทีย พ่อของเขาที่พ่ายแพ้ให้กับสำนักขาวเมื่อ 10 ปีก่อน เขาจึงได้รับความกดดันจากพ่อและทุกๆคนในสำนักดำ ตั้งแต่อายุ 5 ปี เพื่อเข้ารับการถ่ายทอดวิชาการทำขนมเค้กจากพ่อของเขาและท่านปู่ผู้เคร่งครัด ซึ่งนั่นเป็นสาเหตุที่ทำให้เขากลายเป็นเด็กที่เงียบขรึม และไม่มีเพื่อนเลยสักคน
              สำนักขาวเองก็มีทายาทผู้รับหน้าที่สืบทอดสำนัก เธอคนนั้น คือ บราวนี่  ไวท์มอส สาวน้อยวัย 15 ปี ลูกสาวคนเดียวของ ชิฟฟ่อน ไวท์มอส  เจ้าสำนักขาว ผู้ได้รับชัยชนะจากการแข่งขันจ้าวแห่งการทำเค้กเมื่อ 10 ปีที่แล้ว
      บราวนี่เป็นเด็กสาวที่สดใส ร่าเริง และมองโลกในแง่ดี แต่เด็กสาวกลับไม่ชอบที่จะทำขนมเค้กเอาซะเลย  ซึ่งนั้นเป็นสาเหตุที่ทำให้พ่อของเธอเครียดมาก เพราะไม่ว่าเขาจะบังคับให้ลูกสาวเรียนทำขนมเค้กสักเพียงใด เธอก็จะใช้น้ำตาทำให้เขาใจอ่อนอยู่เสมอ ทักษะด้านการทำขนมเค้กของเธอจึงไม่มีเลย เขาจึงได้แต่หวังว่าข่าวเรื่องลูกสาวของเขาทำอาหารไม่เป็นคงไม่รู้ไปถึงหูของสำนักดำ...
                แต่โชคดีคงไม่เข้าข้างฝ่ายสำนักขาว  เพราะข่าวนี้รู้ไปถึงหูของ มูส  แบล็กเทีย ซึ่งเขาคิดจะใช้เรื่องนี้ให้เป็นประโยชน์ต่อการแข่งขันจ้าวแห่งการทำขนมเค้ก และการได้รับชัยชนะของสำนักดำ เขาคงต้องทำอะไรสักอย่างแล้วสินะเพื่อสีสันในการแข่งครั้งนี้

      30 วันก่อนการแข่งขัน
                ณ ปราสาทชีสเค้กสตรอเบอรี่.....


      ราชาลูฟัส ราชาแห่งความเฮฮาผู้นำแห่งอาณาจักรได้เรียกตัวจ้าวสำนักทั้งสองมาพบเพื่อบอกกฎ-กติกาการแข่งขันในปีนี้..
           ราชาลูฟัส : 555 พวกเจ้าทั้งสองมากันแล้วสินะ 
           มูส&ชิฟฟ่อน : พะยะค่ะ ฝ่าบาท
           ชิฟฟ่อน : ว่าแต่ ฝ่าบาท เกล้ากระหม่อมอยากรู้จริงๆเลยว่ากติกาเป็นอย่างไร
           ราชาลูฟัส : 555 ชิฟฟ่อน เจ้าอย่าได้ใจร้อนไปเลย ข้าว่าเจ้าต้องชอบใจแน่ๆ กับกฎในปีนี้
           มูส : ใช่ เจ้ารู้รึเปล่า  กฎ-กติกาในปีนี้ ข้าได้ถวายคำปรึกษาแก่พระราชาด้วยนะ
      ชิฟฟ่อนมองใบหน้าเจ้าเล่ห์ของมูส ด้วยความตกใจและอยากรู้ เขาอยากรู้จริงๆว่า จิ้งจอกจอมเจ้าเล่ห์อย่างมูสวางแผนจะทำอะไรอยู่อีก และมันจะส่งผลร้ายต่อสำนักขาวของเขาถึงเพียงไหน เขาจึงถามพระราชาทันทีว่า
           ชิฟฟ่อน : ฝ่าบาท กระหม่อมอยากรู้ถึงกติกาการแข่งขัน ฝ่าบาทจะช่วยตรัสบอกพวกเราได้ไหม พะยะค่ะ
           ราชาลูฟัส : 555 ข้าไม่แกล้งเจ้าแล้วล่ะ ชิฟฟ่อน แฮ่มม..แฮ่ม เอาให้เป็นทางการหน่อยล่ะกันนะ กติกาปีนี้ คือ ทั้งสองสำนักจะต้องส่งทายาทที่จะเป็นผู้สืบทอดรับตำแหน่งเจ้าสำนักในอนาคต มาเป็นผู้เข้าร่วมการแข่งขัน เป็นไงล่ะ กติกานี้ คงถูกใจเจ้าซินะ ชิฟฟ่อน ถึงได้อ้าปากค้างขนาดนั้นห่ะ 555
           ชิฟฟ่อน : อ่อ ใช่เลย พะยะคะ กระหม่อมรู้สึกดีใจที่ฝ่าบาททรงให้โอกาสการแข่งขันกับทายาทของกระหม่อมและมูส งั้นกระหม่อมขอตัวลาก่อน พะยะค่ะ 
           มูส : โธ่..โธ่..ชิฟฟ่อน  เจ้าจะรีบไปสอนเทคนิคให้กับลูกสาวของเจ้ารึไง  อย่าเพิ่งรีบไปเลย...นานๆที จะได้เข้าเฝ้าฝ่าบาท ทำไมเจ้าไม่อยู่ต่อล่ะ ??
           ราชาลูฟัส : เจ้าอยู่ต่อเป็นเพื่อนข้าเถอะนะ ช่วงอาหารเย็น ข้าอยากให้เจ้าอยู่กับข้า เจ้าก็รู้ดีนี่ว่าโอรส และธิดาของเราก็ไม่อยู่ เราเหงา เราอยากมีเพื่อนกินข้าว
           ชิฟฟ่อน : ตกลง พะยะค่ะ 
      ชิฟฟ่อนกล่าวด้วยน้ำเสียงห่อเหี่ยว เขาเหลือบมองใบหน้าของมูสด้วยความแค้นใจด้วยรู้ว่ามูสรู้ความลับของเขาที่ และแอบสงสัยในใจว่าทำไมมูสถึงรู้??

      ณ สำนักดำ
            มูส : 555 นี่แหละ คือโอกาสของเรา จงคว้าฝันเอาไว้---- 555 
            เอลีน : ท่านเจ้าสำนัก มีข่าวดีอะไรเหรอค่ะ ถึงได้ร้องเพลงไม่หยุดตั้งแต่กลับมาจากพระราชวัง
            มูส : ก็ไม่มีอะไรมากหรอกเอลีน ว่าแต่เจ้าฟัดจ์มันไปอยู่ไหนซะล่ะ ข้าตั้งใจว่าจะบอกข่าวดีนี้ให้มันฟังเป็นคนแรก
            เอลีน : เอลีนก็ไม่ทราบเหมือนกันเจ้าค่ะ เพราะศิษย์พี่ฟัดจ์สั่งไม่ให้เอลีนตามเขาไป
            มูส : อ่อ งั้นเหรอ แสดงว่าถ้ามันอยากกลับ มันก็คงกลับมาเอง ไม่ต้องเป็นห่วงมันมากนักหรอก
            เอลีน : ไม่ห่วงไม่ได้ เจ้าค่ะ เพราะพี่ฟัดจ์เป็นของเอลีน ท่านเจ้าสำนักอย่ามอบพี่ฟัดจ์ให้ใครนะเจ้าค่ะ เอลีน หวง
            มูส : 555 งั้นเจ้ากลับบ้านซะเถอะนี้ก็ดึกแล้ว เดี๋ยวท่านรัฐมนตรี จีนัส แรงเลอก์ พ่อของเจ้าจะเป็นห่วง
            เอลีน : ค่ะ ท่านเจ้าสำนัก งั้นเอลีนกลับก่อนนะคะ 
            มูส : คราวหลังเจ้าเรียกข้าว่าท่านลุงล่ะกัน จะได้ฟังดูสนิทสนม
        



      นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      คำนิยม Top

      ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้

      คำนิยมล่าสุด

      ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้

      ความคิดเห็น

      ×