Fanfic tartaros แอบ!
เป็นฟิคเศร้าๆที่เขียนตามหัวข้อของคนในบอร์ดเกมส์ครับ
ผู้เข้าชมรวม
1,417
ผู้เข้าชมเดือนนี้
2
ผู้เข้าชมรวม
เนื้อเรื่อง
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
FanFiC
Tararos
แอบ!
“มาแล้วๆ”เสียงหวานปนแหลมเล็กน้อยของเด็กสาวคนหนึ่งดังขึ้นพร้อมกับเจ้าของร่างเล็กที่วิ่งเข้ามาหากลุ่มคนกลุ่มหนึ่ง
“เห คนนี้นะเหรอ”เสียงชองชายคนหนึ่งในกลุ่มทักขึ้น พลางมองคนที่เด็กสาวพามาด้วย เด็กสาวยิ้มร่า ก่อนจะหันไปมองผู้ที่เธอลากมาเมื่อครู่
“คนนี้แหละพี่ชู ช่วยเราได้เยอะแน่”เสียงใสของเด็กสาวพูด พลางยิ้มกว้าง
“สวัสดีครับ”ชูบาลแมน หรือที่สาวน้อยเรียกว่าชูพูด พลางหันไปส่งยิ้มให้หญิงสาวที่เด็กสาวพามา แต่เธอกลับหลบหน้าเขาเสียเฉยๆ
“พี่เกรนิตไม่ต้องอายหลอก คนกันเองทั้งนั้น”เด็กสาวพูด พลางมองหน้าหญิงสาวที่ตนเป็นคนพามาแล้วยิ้มกว้าง
“จ้ะ”เกรนิตพูดเสียงเบา ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองกลุ่มคนตรงหน้าช้าๆ ชายที่ทักทายเธอเมื่อครู่ เป็นชายร่างสูง ผมสีแดงมัดรวบเล็กๆด้านหลัง ร่างของเขาเต็มไปด้วยชิ้นส่วนของชุดเกราะ แถมยังพกดาบใหญ่อยู่ด้านหลังอีก ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเป็นอัศวินหรืออะไรแบบนั้นแน่ๆ เมื่อมองไปด้านหลังอีกก็พบหญิงสาวใบหน้าสวยคมจนน่าหลงใหล ดวงตาสีดำออกม่วงของเธอมองมายังหญิงสาวจนรู้ศึกเกร็งนิดๆไม่ได้ ส่วนอีกคนที่หลบมุมอยู่ด้านหลัง กลับเป็นชายเจ้าของผมสีเทาออกเงินมัดรวบยาว ดวงตาภายใต้กรอบแว่นมองมายังเธออย่างเย็นชาจนขนลุก ทำเอาเธอหวั่นใจไม่น้อย ว่าจะเข้ากับคนเหล่านี้ได้หมดหรือไม่ แต่ความหนักใจนั่นก็ลอยหายไปทันทีเมื่อสบตาเข้ากับคนสุดท้ายในกลุ่ม ดวงตาสีดำคู่สวยเมื่อสบเข้ากับดวงตาสีเขียวก็ฉายแววอ่อนโยนทันที ใบหน้าขาวดูน่าหลงใหลยิ้มบางๆเป็นการทักทาย แต่การกระทำแบบนั้นกลับทำให้หญิงสาวรู้ศึกแปลกๆ ไม่รู้หลอกน้ะว่ามันคืออะไร แต่มันไม่เคยเป็นมาก่อน
“ยินดีต้อนรับสู่กลุ่มครับ”ชายเจ้าของนัยน์ตาสีดำพูดใบหน้าเปื้อนรอยยิ้มทำให้หยิงสาวอดยิ้มตามไม่ได้
“ว่าแต่ พิงโกะ ไปลากเขามาจากไหนเนี่ย”เสียงชูถามทำให้พิงโกะยิ้มแหยๆ
“จับได้กลางป่าน่ะค่ะ”พิงโกะยิ้มเก้อๆ เล่นเอาคนทั้งกลุ่มถึงกับกุมขมับ
“แล้วไปบังคับเขามาได้ไงละ เขาเต็มใจหรือเปล่าก็ไม่รู้”พูดจบชูก็ถอนหายใจ พลางมองไปที่หญิงสาว
“ไม่ใช่มนุษย์”เสียงของหญิงสาวเจ้าของเส้นผมสีม่วงเข้มพูด เมื่อได้มองหญิงสาวผู้มาใหม่ก็เห็น เขา และ ใบหู ที่ผิดแปลกออกไปได้อย่างไม่ยากเย็น
“เอาน่า เผ่าของเธอก็เป็นพวกที่ไม่ต่างจากมนุษย์นักหลอก จะให้เข้ากลุ่มมันก็ไม่มีปัญหานี่นา เอ่อ ว่าแต่ตกลงเข้ากลุ่มพวกเราหรือเปล่าละ”ชายเจ้าของนัยน์ตาสีดำพูด พลางมองไปที่หญิงสาวเป็นเชิงถาม
“ท่าไม่รังเกียจละก็”หญิงสาวตอบอายๆ พลางยิ้มบางๆ ทำให้ชายหนุ่มเจ้าของคำถามยิ้มตอบ
“งั้นยินดีต้อนรับ ผม แอลรอท ทำหน้าที่คอยรักษา”แอลรอทพูด พลางฉีกยิ้มกว้าง
“อิซิเลีย ฝ่ายบุกโจมตี”หญิงสาวเจ้าของเส้นผมสีม่วงเข้มพูด
“ชูบาลแมน ฝ่ายจู่โจมเช่นกัน”ชูพูด ก่อนจะยิ้มบางๆ
“โครโมโด้ ฝ่ายโจมตีด้วยเวทมนตร์”ชายผมเทาพูด พลางขยับแว่นตาเล็กน้อย
“พิงโกะจ้า”เด้กสาวพูด พลางชูมือสูง
“เอ่อ เกรนิตค่ะ ยินดีที่ได้รู้จัก”หญิงสาวผู้มาใหม่พูด พลางยิ้มบางๆ
“เกรนิต”ชู พูดเสียงเบา
“อะไรหรอค้ะ”เกรนิตถามเสียงเบา
“เปล่าหลอก มันเรียกยากน่ะ”ชู พูดพลางยิ้มบางๆ
“งั้นเรียกน้องแกะแทนละกัน”พิงโกะพูด พลางยิ้มร่า
“ง่า ไม่ดีมั้ง”เกรนิตพูด พลางมองพิงโกะด้วยสายตาน่าสงสาร
“ดีแล้วละ พี่รอทเห็นด้วยใช่มะ”พิงโกะหันไปตามแอลรอท ซึ่งเขาเองก็ยิ้มบางๆแล้วตอบว่า
“ก็น่ารักดีนี่นา”เพียงแค่นั้นละ ใบหน้าของเกรนิตราวกับถูกน้ำเย็นสาดเข้าอย่างจัง ก่อนจะเริ่มรู้ศึกร้อนที่บริเวณแก้มทั้งสองข้าง
“ไม่เถียงถือว่าตกลง ว่าแต่พี่เกรนิตเก่งเรื่งอะไรหรอ”พิงโกะถาม พลางมองหญิงสาว
“จะเป็นก็แต่พวกเวทช่วยเหลือน่ะค่ะ”หญิงสาวตอบ
“จริงหรอ”แอลรอทพูดด้วยอาการที่ดูตกดีใจกว่าคนอื่น
“คะ...ค่ะ”เกรนิทตอบรับเสียงเบา
“ดีจัง จะได้มีคนมาช่วยอีกแรง”แอลรอทยิ่มร่าพลางกุมมือเกรนิตทำท่าเช็คแฮนอย่างอารมดี แน่ละ นอกจากเขาแล้วไม่มีใครพอที่จะมีเวทรักษาเลย ถึงจะมีโครโมโด้ แต่หมอนั่นดันเป็นแต่เวทโจมตีเสียได้ พอมีคนมาช่วยแบบนี้เขาก็อดดีใจไม่ได้ จนเผลอทำให้สมาชิกใหม่ของกลุ่มได้รู้จักกับคำว่าหวั่นไหวไปเสียแล้ว!
“เอาไปกินซะปีศาจหมู”เสียงเล้กของพิงโกะดังขึ้นพร้อมกับลูกปืนใหญ่ที่ยิงใส่ปีศาจหมูตรงหน้าจนลงไปนอนกลิ้งกับพื้น
“นี่พิงจัง อย่าทำลายพื้นรอบๆด้วยสิ”เสียงเกรนิตดังขึ้นทำให้พิงโกะหัวเราะแหะๆ เพราะพื้นรอบๆดันเกิดหลุมขนาดใหญ๋เพราะฝีมือเธอไปเสียแล้ว
“ขอโทษค้า”
“คราวหน้าพยายามให้โดนแต่พวกม้อนอย่างเดียวน้ะ”แอลรอทพูด ก่อนจะคว้าแขนของเกรนิตขึ้นมาอย่างปุบปับ
“บาดเจ็บนี่นา”แอลรอทพูด พลางมองแขนของเกรนิตที่มีรอยถากเล็กๆ
“คนอื่นเขาโดนเยอะกว่าน้ะ ไปรักษาก่อนสอ พี่อิซิเลียเองก็โดนควิดที่ขานี่นา”เกรนิตพูด พลางมองหน้าแอลรอท แต่ก็อดไม่ได้ที่จะหลบสายตา
“แผลเล็กรักษาง่ายกว่า ใช้เวลาน้อย ไม่เป็นไรหลอก”แอลรอทว่า ก่อนจะร่ายเวทลงบนแขนของเกรนิต แทบไม่ทันกระพริบตา แผลก็หายไปอย่างรวดเร็ว
“ลำเอียง”เสียงหนึ่งกังขึ้นทำเอาแอลรอทหันไปมอง พลางยิ้มบางๆ
“บ่นหรอ งั้นนายเอาไว้หลังสุดเลยชู”แอลรอทพูด พลางยิ้มเจ้าเล่ห์
“ไม่แคร์ ฉันไม่ได้บาดเจ็บซะหน่อย”ชูพูด พลางยิ้มอย่างเหนือกว่า
“คนชนดันไม่เจ็บ แบบนี้แสดงว่าทำงานไม่เต็มที่ หักเงินเดือนสถานเดียว”แอลรอทว่า พลางชี้หน้าชูด้วยใบหน้าที่เหมือนจะพยายามทำให้ดุ
“นายให้เงินเดือนฉันเมื่อไหร่ฟะ”ชูว่า แต่แอลรอทกลับหันไปยิ้มให้เกรนิตแทน
“เย็นนี้ข้าวเย็นของชูหาร 2 น้ะ”แอลรอทว่า ทำให้เกรนิตพยักหน้าเบาๆ ทำเอาชูกัดฟันกรอด
“ขี้โกงนี่หว่า น้องแกะอย่าไปยอมน้ะ”ชูพูด ก่อนจะรีบเข้าไปห้ามไม่ให้แอลรอทสั่งอะไรเกรนิตได้อีก นับจากวันที่เกรนิตเข้ากลุ่มก็ผ่านมาได้นานพอสมควรแล้ว จนคนทั้งกลุ่มเริ่มจะสนิทกันมากขึ้นเรื่อยๆ จนแทบจะเป็นพี่น้องกันอยู่รอมร่อ มีหลายเรื่องที่เกรนิตได้รู้มากขึ้นหลังจากลองคบกับเพื่อนๆเหล่านี้แล้ว อย่างอิซิเลีย กับ โครโมโด้นั้น แม้ภายนอกจะหยิ่ง เย็นชา แต่กลับไม่ได้เป็นอย่างนั้นแต่อย่างไร เมื่อได้คบแล้ว ก็ถือเป็นเพื่อนคนหนึ่งที่ไว้ใจได้เลย การได้อยู่กับคนพวกนี้ทำให้เธออดที่จะมีความสุขร่วมไปด้วยไม่ได้ โดยเฉพาะ เมื่อได้อยู่กับ.........
ฟุบ! เสียงดาบตะวัดตัดกับสายลมจนเสียงดังกระหึ่มไปทั่วห้องฝึก ร่างของแอลรอทเคลื่อนไหวไปตามจังหวะ ราวกับเต้นรำ ทำให้คนที่นั่งดูอยู่อมยิ้มบางๆ
“นี่ แอลรอท”เกรนิตเรียกชื่อของผู้ฝึก จนทำให้เจ้าตัวหันมามองอย่างสงสัย
“แอลรอทก็เป็นจอมเวทไม่ใช่หรอ ทำไมถึงต้องฝึกดาบด้วยละ”เกรนิตถาม พลางมองหน้าแอลรอทนิ่ง ถึงเธอจะเริ่มชินที่จะมองหน้าเขาแล้ว แต่ท่าหากสบตาก็อดไม่ได้ที่จะใจแกว่งไปพักหนึ่ง
“จะได้ ไม่เป็นแบบตอนนั้นไง” ตอนนั้นของแอลรอท ไม่ได้หมายถึงตอนไหน นอกเสียจากเมื่อประมาน 4 เดือนก่อน ตอนนั้นเป็นช่วงที่พวกเขาเริ่มสนิทกันมากขึ้น และตัดสินใจไปลุยในสถานที่ๆอันตรายกว่าปกติ เพราะความยากที่มากขึ้น ทำให้ชูและอิซิเลียรับมือได้ไม่หมดปล่อยม้อนเข้ามาได้ตัวหนึ่ง แอลรอทที่ไม่ค่อยได้สู้กลับใช้ดาบเข้าปะทะ เพื่อป้องกันจอมเวททั้งสองของกลุ่ม แต่เพราะเขาไม่ได้ใช้ดาบเป็นหลัก ทำให้มันสามารถรอดคมดาบของเขาพุ่งเข้าทำร้ายเกรนิตได้ โชคดีที่โครโมโด้ร่ายเวทใส่ได้ทัน ไม่อย่างนั้นกลุ่มของเขาอาจจะขาดคนไปก็ได้ แม้คำพูดของแอลรอทจะไม่ได้จริงจังนัก แต่เอก็รู้ดีว่าแอลรอทยังคงรู้ศึกผิด และต้องการรับผิดชอบกับเรื่องนั้นแค่ไหน หลังๆแอลรอทแทบจะตรงเข้ามารักษาเธอเป็นคนแรกเสมอ หากคนอื่นๆไม่บาดเจ็บหนักจริงๆ เมื่อนึกถึงเหตุผล และท่าทางของแอลรอท ก็ทำให้หญิงสาวยิ้มบางๆ ก่อนจะลุกขึ้นไปหยิบขวดน้ำออกมายื่นให้แอลรอท
“อย่าโหมนักสิ เดี๋ยวร่างกายจะไม่ไหวน้ะ”เกรนิตพูด พลางยิ้มบางๆ ก่อนจะยื่นขวดน้ำให้แอลรอท เขารับอย่างว่างายก่อนจะพูดว่า
“ขอบใจน้ะน้องแกะ”คำพูดสั้นๆนั่นทำเอาหญิงสาวหน้าชา พร้อมกับจังหวะการเต้นของหัวใจที่หยุดไปชั่วขณะ ไม่รู้ว่าเพราะอะไร แต่ชื่อที่คนอื่นๆใช้พูดกัน แต่กับแอลรอทคนเดียวที่ทำให้รู้ศึกแบบนี้ ถึงนานๆเขาจะเรียกที แต่ได้ยินทีไร ก็อดที่จะยิ้มไม่ได้ทุกที ดีใจจนอยากจะกรีดดังๆ ทั้งๆที่มันเป็นเรื่องธรรมดาแท้ๆ
“พี่เกรนิต”เสียงหวานของพิงโกะทำให้เกรนิตที่เผลอเหม่อเล็กน้อย หันกลับไปมองที่ประตู
“อะไรหรอจ้ะพิงจัง”เกรนิตถาม พลางมองหิงโกะงงๆ
“วันนี้วันอะไรค้ะ”พิงโกะถามพลางยิ้มบางๆ
“วันจันทร์ไงจ้ะ”เกรนิตตอบหน้าซื่อ ทำเอาพิงโกะแป๊กไปเลย
“ง่า พี่ละก็ พี่รอท หนูขอยืมแกะน้อยไปก่อนน้ะ”พิงโกะว่าพลางลากเกรนิตออกมาอย่างรวดเร็ว ปล่อยให้แอลรอทยินโบกมือลาคนเดียว
“นี่มันเรื่องอะไรกันเนี่ยพิงจัง”เกรนิตถามงงๆ
“ก็เดือนนี้มันเดือนอะไรละค้ะ”
“กุมภาพันธ์ไงจ้ะ ทำไมหรอ”เกรนิตตอบ แต่ก็ยังคงไม่ได้เข้าใจถึงความหมายของน้องสาวเลย
“วันที่ 14 ของเดือนนี้เป็นวันอะไรละค้า”พิงโกะว่า พลางมองเกรนิตนิ่ง
“วัน วาเลนไทน์ใช่ไหมละ ทำไมหรอ”เกรนิตถามซื่อ ทำเอาน้องสาวตัวน้อบอดเครียดไม่ได้
“พี่คิดหรือยังละว่าจะหาของขวัญอะไรให้พี่รอทนะ”พิงโกะถามเล่นเอาหญิงสาวหน้าชาไปอีกรอบ
“พี่ไม่เห็นต้องให้รอทเขาเลยนี่”เกรนิตพูด ทั้งๆที่ใบหน้าเต็มไปด้วยสีแดง
“ปิดหนูไม่ได้หลอก หนูว่าพี่ลองทำของทำมือไปให้เขาสิ น่าจะดีน้ะ”พิงโกะพูด พลางยื่นหนังสือไปให้เกรนิต หนังสือที่ยื่นมาคือหนังสือสอนทำของเล็กๆน้อยๆต่างๆ ทำให้เกรนิตยิ้มบางๆ
“ขอบใจจ่ะ”เกรนิตพูด พลางยิ้มบางๆ ท่าให้ของขวัญวาเลนไทน์ เขาจะดีใจไหมน้ะ?
ใช้เวลาเลือกเกือบหนึ่งคืนเต็ม ในที่สุดก็เลือกได้ผ้าพันคอจนได้ เพราะเมืองหน้าที่พวกเขาจะไปกันค่อนข้างที่จะหนาว มันอาจจะมีประโยชน์ก็ได้ หลังจากใช้เวลาเลือกสีของไหมพรมและแบบที่จะถักได้แล้ว เกรนิตก็ลงมือทันที ตลอดเวลาที่ถักก็เอาแต่นึกว่าเขาจะชอบสีนี้ไหมน้า จะดีใจไหมที่ให้เขา จะรับหรือเปล่า จะยิ้มเหมือนทุกทีไหม บางทีอาจจะพูดล้อชื่อเธอบ้างก็ได้ แต่ไม่รู้ทำไม ยิ่งถัก ก็ยิ่งดูไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ไม่รู้เพราะไม่เคยถักมาก่อนหรือเพราะฝีมือเธอไม่ดีกันแน่ ผ้าพันคอเลยไม่ค่อยออกมาเป็นผ้าพันคอนัก เวลาที่ใช้เลยมากกว่าปกติ เพราะต้องทำใหม่หลายรอบ กลัวว่าเขาจะรับแล้วไม่พอใจ อย่างน้อยก็อยากให้เขาใส่ซักครั้ง เลยไม่อยากให้เป็นของที่ดูไม่ดีเท่าไหร่
“เสร็จแล้ว”เกรนิตพูด พลางชูผ้าพันคอของเธออย่างภูมิใจ แม้จะมีรอยหลุดบ้างแต่ก็เป็นผ้าพันคอที่สมบูรที่สุดเท่าที่เธอทำได้ เกรนิตหันไปมงอนาฬิกาช้าๆ ตอนนี้เป็นเวลา ตี 3 ของวันที่ 14 แล้ว ท่าเอาไปให้ตอนนี้เลยจะเป็นไรไหมน้ะ ไม่เอาดีกว่า ขืนไปปลุกตอนนี้ก็รบกวนเปล่าๆ รอให้เช้าก่อนเดี๋ยวค่อยเอาไปให้ดีกว่า
“ว้าย”เสียงร้องของเกรนิตดังขึ้นเมื่อมองดูนาฬิกา เพราะพบว่าตอนนี้เข็มนาฬิกาได้เลื่อนมาถึงเลข 8 แล้ว ไม่รู้เพราะนอนเช้าหรือเพราะอดนอนมาหลายคืน เลยทำให้เธอตื่นซะสายขนาดนี้ ปกติทุกคนจะตื่นกันแต่เช้า ตอนนี้ไม่รู้เขาจะอยู่ที่ห้องหรือเปล่า เกรนิตรีบคว้าของขวัญของเธอ แล้วรีบวิ่งไปที่ห้องเป้าหมายทันที
ร่างบางหอบหายใจเล็กน้อยเมื่อมาถึงหน้าประตูห้องของแอลรอท หวังว่าแอลรอทคงยังอยู่ที่ห้องน้ะ ไม่อย่างนั้นเธอคงต้องรอจนเย็นแน่กว่าจะได้ให้ของขวัญชิ้นนี้กับเขา เมื่อลมหายใจเข้าที่ เธอก็กลั้นใจเปิดประตูช้าๆ ดวงตาสีเขียวมองเข้าไปในห้องเพื่อสอดส่องหาเจ้าของห้อง แต่เมื่อพบกับเจ้าของห้องแทนที่จะดีใจ กลับเป็นความรู้ศึกชาวาบไปทั้งตัว ดวงตาสีเขียวเบิกกว้างอย่างตกใจ ขอบตามีน้ำตาซึมออกมาโดยที่ตัวเองก็ห้ามไม่อยู่ เหมือนมีบางอย่างทะลักออกมาจากในอกก็ไม่ปาน เพราะภาพที่เธอเห็นคือ อิวิเลีย เธอกำลังผูกผ้าพันคอให้แอลรอท คนที่เธอกำลังจะนำผ้าพันคอมาให้ ทำไมเธอถึงไม่นึกเอะใจมาก่อนละว่า เขาจะมีคนอื่นอยู่แล้ว แถมพี่อิซิเลียเองก็เป็นคนสวยมันก็เหมาะกันอยู่แล้วนี่นา มันก็ดีแล้วไม่ใช่หรอ มันก็ดีแล้วนี่
ร่างบางเดินออกมาอย่างไร้เรี่ยวแรง ขาสองข้างแทบจะล้มลงไปกับพื้นเพราะแรงที่แทบไม่มี ขาอันอ่นแรงพาเอาร่างของเธอมาถึงศาลาริมน้ำ ทันทีที่มาถึงขั้นบันไดของซาลา ร่างบางก็ทรุดฮวบราวกับหมดเรี่ยวแรงเสียดื้อๆ เธอกอดผ้าพันคอที่อยู่ในอ้อมแขนแน่น บางทีมันอาจจะไม่จำเป็นแล้วก็ได้ ไม่จำเป็นแล้ว เพราะ มันไม่สำคัญอีกแล้ว ไม่สำคัญอีกแล้ว........
YA
.. ยังไม่จบน้ะครับ ไว้จะมาต่อตอน Happy น้ะ
ผลงานอื่นๆ ของ kiloss ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ kiloss
ความคิดเห็น