ลายสือ & สายขิม - นิยาย ลายสือ & สายขิม : Dek-D.com - Writer
×

    ผู้เข้าชมรวม

    2,129

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    15

    ผู้เข้าชมรวม


    2.12K

    ความคิดเห็น


    0

    คนติดตาม


    19
    หมวด :  รักดราม่า
    จำนวนตอน :  31 ตอน
    อัปเดตล่าสุด :  1 มี.ค. 67 / 09:43 น.
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

    กรุงเทพฯมหานคร ณ.โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง ชั้นที่ 20 ห้องหมายเลข 909 ภายในห้องพิเศษมากๆ

    “คุณคะ ได้เวลาทานยาแล้วค่ะ ลุกนั่งไหวไหมคะ เดี๋ยวพยาบาลช่วยประคอง”

    ร่างที่นอนอยู่บนเตียงค่อยๆลืมตาเมื่อได้ยินเสียงของผู้หญิงดังอยู่ที่ข้างหู เขายังคงนิ่งเฉยไม่ยินดียินร้ายกับเสียงที่พยาบาลพยายามสื่อสารด้วย

    “คุณลายสือคะ ได้เวลาทานยาแล้วค่ะ ลุกไหวไหมคะ ถ้าไม่ไหวเดี๋ยวดิฉันช่วยประคองค่ะ”

    ไม่มีสัญญาณตอบรับ คนบนเตียงยังนอนนิ่งเฉย ไม่รับรู้อะไรทั้งนั้น 

    “อุ้ย....”เจ้าหน้าที่พยาบาลคนที่เท่าไหร่แล้วไม่รู้ที่เข้ามาดูแลคนป่วยห้องพิเศษห้องนี้ สดๆร้อนๆน้องพยาบาลคนล่าสุดถูกทุ่มด้วยเหยือกน้ำเต็มแรงของคนบนเตียง

    “ออกไป อย่ามายุ่งกับฉัน”

    “บ้าจริง บ้าไปแล้วแน่ๆเลย ทำไมเป็นแบบนี้นะ คิดว่าตัวเองรวยมากหรือไง แบบนี้ไม่มีใครเขาอยากมาดูแลหรอก บ้าสมควรแล้วที่เป็นแบบนี้ บ้าๆๆๆ”

    “หัวหน้าคะ ไม่ไหวแล้วนะคะพยาบาลหลายคนขอย้ายตึก ไม่อยากมาที่ห้องนี้เลย เราจะเสียบุคลากรดีๆไปหมดนะคะ คนเก่าก็ไม่ไหว น้องใหม่ก็จะลาออกหมดแล้ว นี่แค่เวลาไม่ถึงเดือน แบบนี้ฟื้นฟูยังไงก็ไม่ดีขึ้นหรอกค่ะ ทั้งร่างกายและจิตใจ”

    “เฮ้ย...แล้วจะให้พี่ทำยังไง เขาเป็นหุ้นส่วนใหญ่ของโรงพยาบาล ยังไงเราก็ต้องดูแล”

    “แล้วไงคะหัวหน้า งั้นพวกเราขอลาออกค่ะ มีโรงพยาบาลเอกชนอีกหลายที่ๆต้องการพยาบาลดีๆแบบพวกเรา เจอคนป่วยที่เป็นเจ้าของโรงพยาบาลแบบนี้ขอบายค่ะ”

    นงคราญหัวหน้าตึกศัลยกรรมของโรงพยาบาลเอกชนชื่อดัง นั่งกุมขมับอยู่ต่อหน้า ผู้อำนวยการโรงพยาบาลซึ่งเป็นเจ้าของโรงพยาบาล เธอมาขอลาออกเพราะไม่สามารถจัดการให้พยาบาลมาดูแลลูกชายคนเดียวของผู้อำนวยการให้ทั้งร่างกายและจิตใจของเขาฟื้นฟูขึ้นมาได้ เพราะคนป่วยอารมณ์ร้ายเหลือเกิน

    “ฉันเข้าใจพวกคุณนะ ฉันขอร้องอย่าลาออกกันเลย ทุกคนอยู่ที่นี่มานานเหมือนครอบครัวเราแล้ว ไม่เป็นไรฉันจะพาเขากลับไปอยู่ที่บ้าน แล้วจะจ้างพยาบาลพิเศษไปดูแลที่บ้านเอง ไม่ต้องห่วง ขออภัยทุกคนด้วยที่ทำให้เดือดร้อน “

    นงคราญน้ำตาซึม เมื่อได้ยินคำพูดของผู้อำนวยการโรงพยาบาล ดีใจที่ถึงแม้ว่าคนป่วยจะเป็นลูกชาย แต่ท่านก็ยังเห็นใจพนักงานคนทำงาน แบบนี้จะหนีไปได้ยังไง 

    “ดิฉันขอบคุณผู้อำนวยมากเลยนะคะ ไม่งั้นทั้งตึกนี้จะไม่เหลือพยาบาลดีๆเหลืออยู่เลยสักคน”

    “เอาล่ะ ไปบอกทุกคนฉันขอเวลาสองวันเพื่อเตรียมที่ทางสำหรับรองรับเขา เสร็จเมื่อไหร่จะย้ายเขาไปทันที”

    “อ้อ แล้วแฟนเขามาเยี่ยมบ้างหรือเปล่าตั้งประสบอุบัติเหตุ”

    “มาสองครั้งค่ะ แล้วก็ไม่มาอีกเลย”

    “เนี้ยล่ะนะ รักกันนักรักกันหนา เวลาเจ็บป่วยมาไม่มาดูแลกันเลย”

    นงคราญนิ่งไป ไม่ใช่เรื่องที่เธอจะต้องออกความเห็น

    “แฟนเขารู้ใช่ไหมว่าลูกชายฉันเขาเดินไม่ได้”

    “ทราบค่ะ”

    “เอ่าล่ะฉันมีธุระจะคุยแค่นี้ ช่วยเตรียมพวกอุปกรณ์สำหรับรักษาพยาบาล อุปกรณ์ทำแผลให้ฉันหน่อยนะ จะได้ไม่ต้องมาเบิกหลายรอบ แล้วขอใบเสร็จให้ฉันด้วย

    “ได้ค่ะ ขอบคุณมากค่ะผู้อำนวยการ”

    เสร็จจากคุยธุระกับคุณนงคราญ คุณเยาวภาขึ้นไปหาลูกชายคนเดียวที่พักอยู่ชั้น 20 ห้อง 909

    “บอกว่าอย่าเข้ามาไง ถ้าไม่ใช่วดีไม่ต้องเข้ามา”เสียงคนบนเตียงพูดเสียงดัง

    “ลายสือแม่เองลูก นี่แม่เองเป็นอะไรลูกใจเย็นๆนะทำไมเป็นแบบนี้ไปได้”

    “แม่ครับวดีอยู่ไหนครับ ช่วยบอกวดีมาหาผมหน่อยผมคิดถึงเขามาก ทำไมวดีหายไปหลายวันจังเลยครับแม่ แล้วผมจะมองเห็นไหม แม่ครับติดต่อหมอได้ไหม ทำไมมันมืดแบบนี้ผมจะมีโอกาสมองเห็นไหมครับแม่”

    คุณเยาวภายืนมองลูกชายนิ่ง สงสารลูกเหลือเกิน ลูกชายคนเดียวของนางประสบอุบัติเหตุรถแหกโค้งหลังจากกลับจากไปฉลองวันเกิดของสุวดีว่าที่ภรรยาของเขาเอง จะเรียกว่าแฟนหรือภรรยาดี ทั้งสองคนต่างก็มีสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งต่อกัน ตั้งแต่ลายสือกลับจากต่างประเทศ ไปๆมาๆระหว่างบ้านของลูกชาย บางวันบางวันลายสือก็ไปนอนบ้านของสุวดี ทั้งสองไม่มีทีท่าว่าจะตกลงแต่งงานกัน 

    คุณเยาวภามองออกว่าสุวดีคิดอะไร หวังอะไร พ่อและแม่ของสุวดีการเงินไม่ค่อยดีนัก แว่วๆว่าติดพนันกันทั้งบ้าน สุวดีเป็นลูกสาวคนเดียวแถมสวยมาก แต่สวยแบบคนสมัยใหม่ ไม่เรียบร้อย สะดุดเพียงแรกเห็น ไม่มีเสน่ห์ ทั้งตัวมีแต่แบรนด์เนม สุวดีรู้ว่าคุณเยาวภาไม่ค่อยปลื้มเธอนัก

    “ไปคิดถึงทำไมคนแบบนั้น แม่เห็นเขาบินไปยุโรปกับเพื่อนๆเขาตั้งแต่สัปดาห์ที่ผ่านมา เขาไม่ได้บอกลูกหรอกเหรอ เป็นแฟนกันยังไง ไม่ไหวเลยนะแบบนี้ แม่ไม่ชอบเลย พูดตรงๆ”

    “ว่ายังไงนะครับแม่ วดีไปต่างประเทศเหรอครับ แม่ครับช่วยต่อสายหาวดีให้ผมหน่อยได้ไหม ผมอยากคุยกับเขา”

    “เขาจะรับสายไหม “คุณเยาวภาคว้าโทรศัพท์ลูกชายขึ้นมาดู มีแต่รูปสุวดีเต็มไปหมด เลื่อนหาเบอร์โทร

    ลายสือที่นอนอยู่บนเตียง รอบดวงตาทั้งสองข้างยังมีผ้าขาวปิดตาอยู่ทั้งสองข้าง ทั้งตัวยังมีร่องรอยของบาดแผลกระจกบาดเกือบทั้งตัว บางแห่งเริ่มช้ำบ้างแล้ว 

    “ไม่มีสัญญาณเขาคงกำลังเที่ยวเพลิดเพลินละมั้ง อย่าไปห่วงหรือคิดถึงเขาเลยลูก นี่แหละเห็นไหมที่แม่เคยเตือนลูก สุวดีไม่ได้รักลูกจริงเขารักเงินของลูก แล้วยิ่งรู้ว่าลูกมองไม่เห็น ไม่สามารถให้ความสุขกับเขาได้ เขาก็ย่อมต้องมองหาคนใหม่ ใครเขาจะเอาลูกถึงจะมีเงินก็เถอะ นี่เรามาพูดความจริงกันเลยนะ”

    “แม่ครับทำไมแม่พูดถึงวดีแบบนั้นครับ ไม่แฟร์เลยวดีไม่ได้อยู่ตรงนี้นะครับแม่เขาเถียงไม่ได้”

    “ทำไมแม่จะพูดไม่ได้ แม่เป็นแม่นะลายสือมีเหตุผลบ้าง คิดทบทวนดีๆ แล้วนี่ทำไมต้องอาระวาดจังเลย ใครเขาจะมาดูแลเราได้แบบนี้ เราเป็นเจ้าของโรงพยาบาลก็จริงนะลายสือ แต่ลูกไม่มีสิทธิ์ทำกับพวกเขาแบบนั้น ถ้าอยู่ที่นี่ไม่ได้ก็ต้องย้ายกลับไปอยู่บ้าน แม่ให้ช่างต่อเติมห้องให้แล้ว แล้วแม่จะจ้างพยาบาลพิเศษไปดูแลลูก หรือลูกจะรอแม่วดีแม่ก็ไม่ว่า”

    “ไปวันนี้เลยไม่ได้เหรอครับแม่ ผมไม่อยากอยู่ที่นี่ มันวังเวงยังไงไม่รู้ไม่คุ้นเลย จะเข้าห้องน้ำก็ลำบาก ผมไม่ชิน ผมเหงา แค่มองไม่เห็นก็โหดร้ายสำหรับผมแล้ว แม่ช่วยให้กำลังผมหน่อยได้ไหมครับ”

    “ลายสือ แม่ไม่ได้รังเกียจหรือไม่รักลูกนะ แต่ถ้าลูกอยากให้คนอื่นเขาดีกับเรา ลูกก็ต้องไม่ดื้อแบบนี้เมื่อไหร่จะหายล่ะลูก คุณหมอเขาก็แนะนำว่าอย่าเครียด ขอแค่ต้องใช้เวลาหน่อย เขายืนยันว่าลูกจะกลับมามองเห็นอีกแน่นอน”

    “เมื่อไหร่ครับแม่ เมื่อไหร่กัน กว่าผมจะมองเห็นคงตายก่อน “

    “ลายสือเป็นผู้ใหญ่หน่อยได้ไหม คิดให้มากลูกถ้ายังอยากมองเห็นลูกก็ต้องมีสติ พ่อติดต่อหมอที่ต่างประเทศให้แล้ว ถ้าได้คิวเราก็จะเดินทางไปรักษาที่โน้นได้เลย แต่ช่วงนี้แม่ขอให้ลูก ดูแลตัวเองเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับการผ่าตัดครั้งใหญ่ ทางโน้นเขาแจ้งมาแล้วคิวที่เร็วที่สุดคือ 6 เดือน และนับตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไปลูกต้องดูแลรักษาสุขภาพให้พร้อมเพื่อเตรียมตัวผ่าตัด แม่หวังว่าลูกจะให้ความร่วมมือนะ”

    “แม่ครับ ต้องรอถึง 6 เดือน เลยเหรอครับเรามีเงินตั้งมากมาย ทำไมไม่ใช้เงินครับแม่ นานเกินไปผมรอไม่ได้หรอก ยังไงก็ขอให้เร็วกว่านี้ได้ไหมครับแม่”

    “ไม่ได้นี่คือเร็วที่สุดแล้ว หมอคนนี้เก่งระดับโลก รักษาคนให้หายมาแล้วมากมาย นี่เขาอุตสาห์ให้คิวเรามาแล้วนะลายสือ ลูกน่ะโชคดีแล้วที่บ้านเรายังพอมีกำลังทรัยพ์ ถ้าเป็นตาสีตาสาชาวบ้านเขาจะมีโอกาสแบบลูกไหม พยายามคิดถึงคนที่แย่กว่าเรานะลูก”

    “ทำไมครับแม่ ทำไมเรื่องแบบนี้ต้องมาเกิดกับผมด้วย “

    คุณเยาวภานั่งฟังเสียงลูกชายคร่ำครวญ สภาพของลายสือเวลานี้ช่างน่าสงสารนัก นางตกใจที่รู้ข่าว ทีวีออกข่าวช่วงเช้ามืด ว่าทายาทมหาเศรษฐีเจ้าของโรงพยาบาลเอกชนชื่อดัง ประสบอุบัติเหตุรถแหกโค้งไม่ได้สติ หลังจากนั้น นางและสามีก็รับโทรศัทพ์แทบสายไหม้ ยิ่งผลตรวจออกว่ามามีแอลกอฮอร์มากมายในตัวของลูกชาย ดีที่ลายสือถูกส่งตัวมาที่โรงพยาบาลของตัวเอง ทำให้ข่าวไม่รั่วไหล ไม่งั้นงามหน้าแน่ๆ

    ลายสือ อมรเทพวิวัฒน์ หนุ่มรูปงามดีกรีนักเรียนนอก ทายาทเจ้าของธุรกิจโรงแรมเอกชนที่ดังที่สุดดีที่สุดในเมืองไทย เขาเป็นที่หมายปองของสาวน้อยสาวใหญ่ทั้งเมือง แต่สาวๆหลายคนต่างก็ต้องผิดหวัง เพราะลายสือประกาศว่าเขามีคนรู้ใจแล้ว และกำลังจะแต่งงานกัน นั่นก็คือ นางสาวสุวดี  กลิ่นกำจร หรือวดี ทั้งสองคบหากันตั้งแต่เรียนที่เมืองนอก กลับมาก็ยังสานสัมพันธ์กันอย่างแน่นเหนียว ชาวบ้านเขารู้กันทั่ว ว่ายังไงทั้งสองก็ต้องแต่งงานกัน เพราะเหมาะสมกันมาก ฝั่งครอบครัวของสุวดีทำกิจการเกี่ยวกับความงาม โรงแรมที่เมืองท่องเที่ยว แต่กลิ่นไม่ค่อยดีนัก ไม่รู้ว่าลายสือรู้เรื่องเกี่ยวกับครอบครัวของสุวดีมากน้อยแค่ไหน สองปีให้หลังสุวดีพยายามที่จะให้ลายสือไปขอกับพ่อแม่ และตบแต่งให้เรียบร้อย แต่ลายสือยังลีลา อ้างว่ายังไม่พร้อม ยังไม่อยากแต่งงาน เขาให้เหตุผลว่า การแต่งงานเหมือนเป็นการผูกมัด เขายังรักอิสระ ทั้งสองคนเคยมีปัญหากันหลายครั้ง เรื่องนี้ แต่ลายสือก็ยังยืนยันว่ายังไม่พร้อม เรื่องแรกคือ พ่อกับแม่ของสุวดีเรียกสินสอดเกินจริง ลูกสาวก็ไม่ใช่สาวบริสุทธิ์ 

    ก่อนหน้าที่สุวดีจะมาคบกับเขา หล่อนก็มีแฟนมาก่อนด้วยซ้ำ แถมมีลูกติด เห็นว่าเขารักสุวดีก็เอาแต่ใจ เขาไม่ยอมแต่งงาน แต่เขาก็ชดเชยให้สุวดีอยากได้อะไรเขาก็ให้ทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นบ้าน รถ ที่ดิน เงินทองเครื่องเพชร ไม่รวมท่องเที่ยวรอบโลก สุวดีแทบที่จะไม่ต้องทำงานอะไรเลย บางเดือนหล่อนมาค้างที่คอนโดเขาแทบจะทั้งเดือน โดยที่ไม่เคยออกค่าใช้จ่ายอะไรเลย แต่มีที่เดียวที่เขาไม่อนุญาตให้สุวดีไปคือ บ้านของพ่อและแม่ และบ้านของเขาขอไว้

    หรือสิ่งที่แม่แม่เขาคอยพร่ำบอกกับเขาเสมอมาจะเป็นจริง สุวดีไม่ได้รักเขาหล่อนรักเงินของเขา ขนาดเขาเจ็บขนาดนี้หล่อนยังไม่มาคอยดูแลเขาเลย เขาประสบอุบัติเหตุสลบไปเกือบสองคืน ฟื้นขึ้นมาเจอแต่หน้าแม่กับพ่อ หมอพยาบาล แต่ไม่เห็นหน้าคนรัก มารู้อีกทีสุวดีไปเที่ยวต่างจังหวัดกับเพื่อนๆมาไม่ทัน แต่ในที่สุดวันที่ 10 หล่อนก็มาเยี่ยมเขา หลังจากนั้นอีก 5วัน มาใหม่ แค่นั้นจริงๆ จนกระทั่งวันนี้วันที่เขาอยากให้หล่อนมาหา เขาไม่อยากให้พยาบาลมาดูแลทำโน้นทำนี่ให้ เขาไม่ชิน อยากให้สุวดีมาทำให้ มาคอยดูแลเขา แต่หล่อนกลับไปเที่ยวยุโรปกับเพื่อน ลายสือถอนหายใจ หรือเขาต้องเชื่อแม่แล้วจริงๆ มาคิดได้ก็สายไปแล้ว เขามองไม่เห็น

    วันเกิดของสุวดีเขาทุ่มทุนมาก ปิดโรงแรมเลี้ยงฉลองให้ มีทั้งเพื่อนเขาและเพื่อนของสุวดีมาร่วมงานมากมาย เขาหมดไปเยอะ และเขาก็เมามากด้วย เรื่องที่ทำให้เขาเสียใจที่สุดเลยก็คือ เขาเห็นสุวดีจูบกับผู้ชายคนอื่นในงานฉลองวันเกิดของตัวเองที่หน้าห้องที่เขาจองไว้ให้หล่อนกับเขา เมื่อเขาถามสุวดีไม่ยอมรับทำให้เกิดการทะเลาะกัน เขาโมโหเพื่อนห้ามก็ไม่ยอมฟัง ขับรถออกจากโรงแรม ทำให้เกิดอุบัติเหตุ สุวดีไม่ได้มีเขาคนเดียว พวกเพื่อนเขาเคยเตือนหลายครั้งแต่เขาไม่สนใจ จนมาเจอกับตาตัวเอง ถามว่าเสียใจมากไหม ก็ไม่เท่าไหร่แต่เจ็บใจมากกว่าที่หล่อนปิดบังเขา สวมเขาให้เขา และไอ้หนุ่มนั้นก็อยู่ในกลุ่มกินเที่ยวด้วยกัน ทำให้เขาโกรธมาก แม่กับพ่อเขาไม่รู้ต้นตอของสาเหตุที่ทำให้เขาเกิดอุบัติเหตุครั้งนี้มาจากสุวดี ถ้าท่านทั้งสองรู้ก็คงโกรธไม่แพ้เขาหรอก

    การที่ต้องนอนนิ่งๆทำอะไรไม่ได้ ดื่มไม่ได้ สูบบุหรี่ไม่ได้ทำให้เขาหงุดหงุด ขาและแขนข้างซ้ายใส่เฝือก แถมตาก็มองไม่เห็น ทั่วร่างกายมีแต่แผล หลายวันมาแล้วยังไม่มีทีท่าว่าจะหายเจ็บหายปวด แถมพวกพยาบาลก็ทำอะไรไม่ถูกใจเขาเอาซะเลย 

    “แม่ครับผมอยากสูบบุหรี่ “

    “จะบ้าเหรอลายสือ จะสูบได้ยังไง ไม่ได้นะลูกอดทนเอาไว้ให้หายดีก่อนค่อยสูบ”

    โธ่...แม่ครับอะไรก็ไม่ได้สักอย่าง ให้ผมตายไปเลยดีกว่าที่จะต้องมาอยู่สภาพแบบนี้”

    “นี่ลายสือ แม่ไม่อยากโทษลูกหรอกนะ ไม่มีใครเขาให้ลูกดื่ม ไม่มีใครเขาให้ลูกขับรถในเวลาเมา ลูกทำของลูกเอง แล้วเป็นนี่คือผลของน้ำเมา น้ำเปลี่ยนนิสัย ลูกก็ต้องยอมรับ ลูกทำเองก็ต้องยอมรับผลของมัน อย่าไปโทษคนอื่น เรื่องของแม่วดีก็ไม่ต้องไปสนใจแล้ว แม่รู้ว่าลูกก็รู้ว่าแม่วดีเขาไม่ได้รักลูกหรอก เขาหวังเงินของลูก ดูริแฟนบาดเจ็ดสาหัส ยังมีหน้าไปเที่ยวกับผู้ชาย ไหนๆก็ไหนๆแล้วแม่ก็จะเล่าให้ฟัง แม่วดีเขาไปเที่ยวกับคู่ขาคนใหม่ของเขา เปิดตัวกันแล้วนะลูก เสียดายที่ลูกมองไม่เห็น ไว้สบายดีแล้วค่อยเปิดทีวีฟัง นักข่าวเขาลือกันให้แซ่ด เขาไปถึงไหนต่อไหนกันแล้วเลิกคิดถึงเขาได้แล้ว ตั้งใจรักษาตัวเอง เรายังมีหวังนะลายสือ แม่กับพ่อมีเงินช่วยลูกได้ แต่ขอให้ลูกอดทนดูแลตัวเองเพื่อรอเข้ารับการผ่าตัด ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปข่าวของลูกจะหายไปจากวงสังคม ตกลงตามนี้นะ ไว้ให้ลูกมองเห็นอีกครั้งจะทำอะไรต่อไปพ่อกับแม่ก็ไม่ขัด ขอแค่ให้ลูกแม่มองเห็นก็พอ เข้าใจไหมลายสือ ใครเขาไม่รัก ขอให้ลูกรับรู้ไว้เสมอว่ายังมีพ่อกับแม่ที่รักลูกมาก “คุณเยาวภาเข้าก้มลงไปสวมกอดลูกชายไว้

    “ครับแม่ “ลายสือคิดได้ตั้งแต่วินาทีที่สัมผัสถึงน้ำตาของคุณเยาวภาหยดลงมาที่แขนของเขา เขาก็มีศักดิ์ศรีเหมือนกัน ผู้หญิงทุกคนที่เข้ามาในชีวิตของเขาล้วนเขามาเพื่อหวังทรัยพ์สมบัติ และผลประโยชน์จากเขาทั้งนั้น เว้นแต่แม่ของเขาคนเดียว นอกนั้นไว้ใจไม่ได้เลยสักคน อุบัติเหตุครั้งนี้ทำชีวิตรักของเขาพัง สิ้นหวังเกือบทุกอย่าง ต่อไปเขาก็จะกลายเป็นคนพิการ ที่ไม่มีใครเหลียวแล คนรัก เพื่อน คนรู้จัก ที่เขาคิดว่ารักเขานักหนา ค่อยๆหายไปทีละคนสองคน เหลือเพียงไม่กี่คนที่ยังเดินทางมาเยี่ยมและให้กำลังใจเขา ครั้งนี้คัดคนจริงๆ

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    นักเขียนปิดการแสดงความคิดเห็น