คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : Chapter 05 :: ดูๆแล้วโลกนี้กลมจนน่าประหลาด [แก้ไขยศตัวละคร]
เน่าเฟะจริงๆ
ชายหนุ่มถุยน้ำลายลงบนพื้นพลางเงยหน้าขึ้นมองแสงแดดที่สาดส่อง
การที่ต้องมาถูกมัดไว้ในที่โล่งแจ้งท่ามกลางบรรยากาศที่ร้อนระอุแบบนี้..จะบอกว่าไม่ทรมานเลยก็คงเป็นการโกหกที่งี่เง่าเกินไป
รอบข้างมีพวกทหารเรือถืออาวุธจำนวนหนึ่งเฝ้าเขาเอาไว้
คงกลัวว่าจะมีใครมาพาเขาหนีไปล่ะสิ
ก็แค่หลงทางมาที่เกาะแห่งนี้
ก็แค่ดันไปช่วยเด็กคนหนึ่งเอาไว้
ก็แค่ถูกพวกทหารเรือจับมามัดเอาไว้
ก็อย่างที่เห็น..ดูเหมือนกองทัพเรือที่ว่าจะไม่ได้มี ‘ความยุติธรรม’ ตามที่ยกยอตัวเองด้วยคำที่ถูกปักลงบนหลังเสื้อคลุมซักเท่าไหร่
มองเพียงครู่เดียวก็รู้ว่าพวกทหารเรือยศน้อยพวกนี้หวาดกลัวนาวาเอกที่คุมที่นี่อยู่จนไม่เป็นอันทำอะไร
พอเป็นแบบนั้นแม้แต่พวกชาวบ้านจึงหวาดกลัวไปด้วย
“ขอโทษด้วยนะ
และขอบคุณที่ช่วยเด็กคนนั้นเอาไว้” นาวาโทที่เขาไม่คิดจะจำชื่อกล่าวเสียงเบาราวกับเสียงกระซิบ
นัยน์ตาคมดูมีความรู้สึกผิดอยู่ลึกๆ ก่อนที่จะคว้าอาวุธพร้อมเดินเข้าไปในตัวฐาน
โซโลมองชายคนนั้นจนลับสายตา
“เฮอะ
ก็ไม่ได้ลำบากอะไรนี่” แค่นหัวเราะพลางหลับตาลงด้วยความเบื่อหน่าย ภาวนาให้ช่วงเวลานี้ผ่านไปเร็วๆ
หากเขาสามารถอยู่รอดจนครบกำหนดเวลาที่ตกลงเอาไว้กับเฮลเมปโป..ลูกชายของนาวาเอกมอร์แกนคนนั้นได้
เขาก็จะเป็นอิสระ
ในตอนที่คิดว่าควรจะหลับซักงีบ
เสียงพูดคุยของพวกนายทหารในบริเวณใกล้เคียงก็ดังขึ้นกระทบโสตประสาท
“ได้ข่าวว่าจะมีนาวาเอกมาที่นี่”
“นาวาเอกเรอะ? ทางศูนย์ใหญ่ส่งนาวาเอกมาเพิ่มทำไมอีก?
ไม่ใช่ว่าที่นี่มีนาวาเอกมอร์แกนอยู่แล้วหรือ?”
“ใครจะไปรู้ล่ะ
คงมาตรวจสอบเรื่องนักล่าโจรสลัดนี่ล่ะมั้ง..แต่ถ้าถูกส่งมาแทนที่นาวาเอกมอร์แกนล่ะก็คงเป็นเรื่องที่ดีไม่น้อยเลย”
“ขอให้เป็นไปตามที่นายพูดละกัน”
“แล้วถ้าเขาเป็นคนแบบนาวาเอกมอร์แกนล่ะ?”
ความเงียบก่อตัวขึ้นในทันทีที่ทหารเรือนายหนึ่งกล่าวเสร็จ
พวกเขามองหน้ากันก่อนส่ายหน้าพรืดอย่างพร้อมเพรียง
“พระเจ้าเถอะ—
ฉันหวังว่าเขาจะไม่ใช่คนแบบนั้น”
“หรือเขาจะเลวร้ายยิ่งกว่า?”
“เลิกพูดซะโรคาคุ
นายกำลังทำให้พวกเราหมดหวัง”
“โอ้
ขอโทษด้วย”
เสียงบทสนทนาของพวกทหารเรืองี่เง่าที่รบกวนการนอนกลางวันของชายหนุ่มเริ่มเงียบลงเมื่อนายทหารเหล่านั้นไม่มีอะไรจะพูด
เขาถอนหายใจอย่างโล่งอก ปิดเปลือกตาลงพร้อมกับดำดิ่งลงสู่ห้วงนิทรา
อย่างที่คิดเลย..แม้แดดจะแรงแค่ไหนก็ไม่เป็นอุปสรรคต่อการนอนหลับของเขา
หลับลึกจนถึงขั้นที่ว่าสามารถฝันได้เป็นตุเป็นตะ
เขาฝันเห็นตัวเองในวัย
16 กับเด็กชายสวมหมวกฟางคนหนึ่ง อีกฝ่ายอายุห่างกับเขาประมาณ 2 ปีเห็นจะได้
รูปร่างและขนาดตัวที่เล็กกว่าเด็กชายในวัยเดียวกันไม่ใช่สิ่งที่น่าสนใจสำหรับเขา
เพราะมันเห็นได้บ่อยในกลุ่มคนที่อดอยาก แต่สิ่งที่ทำให้เขาสนใจอีกฝ่ายคงจะเป็นหมวกฟางบนศีรษะทุยนั่น
และนัยน์ตาที่ส่องประกายเจิดจ้าราวกับพระอาทิตย์
‘โซโล! คิดๆดูแล้ว มาเป็นลูกเรือฉันมั้ย? ชิชิชิ’
‘เด็กอย่างนายเนี่ยนะ? ฝันไปเถอะ’
‘แต่เราก็สนิทกันมาเกือบปีเชียวนะ!
ไปเรียนโรงเรียนเตรียมทหารกับฉันเถอะ!’
‘บอกว่าไม่เอาไงเฟ้ย อีกอย่างตอนนี้นายยังเรียนอยู่ไม่ใช่รึไง’
‘มันก็ใช่แหละ แต่ฉันชอบนายจริงๆนี่’
เขาเห็นตัวเองในวัย 16 ที่กำลังยกมือขึ้นปิดใบหน้าที่ขึ้นสีแดงจัด
ปากหนาก็มุบมิบไม่ได้ศัพท์
เด็กคนนั้นเอียงคอมองอย่างสงสัยพลางขยับเข้ามาใกล้ขึ้นเรื่อยๆ คงเพราะอยากรู้ว่าเขาพูดว่าอะไร
เขาดันหน้าเจ้าตัวดีออกห่างพลางกระแอมเบาๆ
‘อย่าไปพูดว่าชอบใครง่ายๆแบบนี้อีกนะเจ้าบ้า’
‘หา!? ทำไมอ่ะ?
ฉันยังบอกชอบเอสกับซาโบทุกวันเลย!!’
‘ใครกันล่ะนั่น แต่..เอาเถอะ ช่างมันก่อน’
‘นายจะไม่ไปเป็นทหารเรือกับฉันจริงๆเหรอ’ ร่างเล็กมองมาที่เขาด้วยสายตาเว้าวอนเหมือนลูกแมวตัวน้อยๆ
เขาอึกอักไปครู่ใหญ่ ดูเหมือนท่าทางน่ารักนั่นจะมีดาเมจแรงกว่าที่คิดไว้เสียอีก
‘งั้นเอางี้..’
‘..?’
‘ไว้ถ้านายโตกว่านี้..กลายเป็นทหารเรือที่น่าเคารพเมื่อไหร่ค่อยมาชวนฉัน ถึงตอนนั้นฉันจะลองคิดดูอีกที’
ตอนนี้ก็ผ่านไปกี่ปีแล้วนะ? 3 ปีเหรอ? คงงั้นมั้ง..เขาแหงนหน้ามองบนท้องฟ้า แสงแดดจ้าทำให้ต้องหยีตาลงโดยอัตโนมัติ
เกือบลืมไปแล้วด้วยซ้ำว่าเคยมีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้น
เผลอๆเด็กนั่นก็คงจะลืมไปแล้วเหมือนกัน
พวกทหารที่เคยยืนประจำตำแหน่งตามจุดต่างๆในลานกว้างหายไปแล้ว
บางทีเจ้านาวาเอกที่พวกนั้นพูดถึงอาจจะมาถึงแล้วก็ได้..เขาหัวเราะหึในลำคอ
นาวาเอกงั้นหรือ? พวกทหารเรือยศสูงๆก็คงจะนิสัยเหมือนๆกันหมด
จะไปต่างกับไอ้มอร์แกนนั่นซักเท่าไหร่เชียว
“โฮ้ยยยย เจ้าหัวมอสตรงนั้นน่ะ!
แกเห็นเด็กใส่หมวกฟางผ่านมาทางนี้บ้างมั้ย” เขาเลิกคิ้ว มองผู้ชายคิ้วประหลาดที่กำลังโบกไม้โบกมืออยู่บนกำแพงด้วยแววตาฉงน
ไม่รู้หรอกว่าเด็กใส่หมวกฟางที่หมอนี่พูดถึงคือใคร แต่สิ่งที่แน่ชัดยิ่งกว่าอะไรก็คือความรู้สึกที่เขามีต่อหมอนี่..
ไม่ถูกชะตาเอาซะเลย
/คิ้วกระตุก
“ไม่เห็น
แล้วแกเป็นใครกันฟะไอคิ้วม้วน!
เด็กหมวกฟางที่ไหนมันจะมาอยู่แถวนี้กัน นี่ฐานทัพเรือนะเฟ้ย!”
“แกว่าใครคิ้วม้วนกันฟะ!!” คนสองคนปะทะคารมระยะไกลอย่างสนุกสนาน
ผลัดกันตะโกนแข่งกันไปมาโดยไม่กลัวว่าจะมีทหารเรือบุกเข้ามาจับกุมหรือเปล่า
โซโลรู้สึกหงุดหงิด..แค่เห็นหน้าตาหมอนี่ก็รู้สึกคันไม้คันมืออย่างน่าประหลาด
สัมผัสได้ถึงความเป็นศัตรู(หัวใจ)ในอนาคต
“ให้ตายสิ! ทิ้งฉันไว้ที่ร้านอาหารแล้วหายไปไหนก็ไม่รู้!”
ชายตัวสูงพอๆกับเขาบ่นกระปอดกระแปด
มันหันมามองเขาด้วยสีหน้าหงุดหงิด
”ฉันไม่ว่างมาเถียงกับแกหรอกนะเจ้างี่เง่า! ให้ตายสิ! เจ้าบ้านั่นหายไปไหนกันฟะ” ชายคิ้วม้วนกระโดดลงจากกำแพงไปยังฝั่งเดิมที่ตนกระโดดขึ้นมา
โซโลทำปากขมุบขมิบ..
รู้สึกได้ว่ากำลังจะมีเรื่องบางอย่างเกิดขึ้น
----|----|----|----|----
นายทหารเรือทั้งหมดซึ่งประจำอยู่ ณ ฐานทัพเรือแห่งนี้ยืนเรียงแถวกันอย่างเป็นระเบียบ
พวกเขายืนแยกเป็นสองฝั่ง..เว้นที่ตรงกลางเป็นทางเดินให้กับผู้มาใหม่ นัยน์ตาทุกคู่จับจ้องไปข้างหน้าและไม่คิดจะสบตากับเด็กหนุ่มหมวกฟางในชุดเสื้อแขนยาวสีแดงและกางเกงขาสั้นสีน้ำเงินแต่อย่างใด
แค่ผ้าคลุมที่ประดับอยู่บนหลังนั่นก็บอกได้ว่าอีกฝ่ายยศสูงกว่าพวกเขาแค่ไหน
ทั้งๆที่อายุยังน้อยแท้ๆ
นั่นหมายความว่าฝีมือของอีกฝ่ายต้องไม่ธรรมดาแน่ๆ
ไหนจะเรื่องที่ว่าเป็นหลานของพลโทการ์ป
วีรบุรุษแห่งกองทัพเรือคนนั้นอีก ฉับพลันก็เหลือบไปมองผู้บังคับบัญชาของตนที่ยังยืนนิ่งไม่ไหวติง
ที่ผ่านมามอร์แกนเป็นคนที่ยศสูงที่สุดในที่นี่มาโดยตลอด
การที่มีใครอีกคนที่มียศเท่าเทียมกันมาอยู่ที่นี่..พวกเขาก็ไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง
“นายคือมอร์แกนมือขวานสินะ
ชิชิชิ” ชายร่างใหญ่ซึ่งมีมือข้างหนึ่งเป็นขวานเล่มโตชักสีหน้า
“ต่อให้แกเป็นหลานพลโทการ์ป
แต่ฉันกับแกก็ยศเท่ากัน..ฉันไม่ยกยอชูปั้นแกหรอกนะหมวกฟาง”
“โฮ่
ก็ไม่ได้บอกให้มายกยอฉันนี่ ฉันแค่มาตรวจสอบเรื่องตามคำสั่งของศูนย์ใหญ่เท่านั้นเอง”
“จริงๆศูนย์ใหญ่ไม่จำเป็นต้องทำแบบนั้นด้วยซ้ำ
พวกนั้นน่าจะรู้ดีกว่าฉันแข็งแกร่งแค่ไหน กับอีแค่นักล่าโจรสลัดคนเดียว..พวกนั้นไม่เห็นต้องสนใจ”
“ชิชิชิ
เปล่าเลยๆ สิ่งที่พวกนั้นให้ฉันมาตรวจสอบน่ะ..คือตัวแกต่างหาก” ลูฟี่ยิ้มหน้าระรื่น
ข้างกันนั้นมีอุซปที่ได้แต่หน้าซีดปากสั่น จะเข้าไปห้ามการปะทะคารมก็ดูจะไม่ใช่หน้าที่ของเขา
เจ้ามอร์แกนนั่นดูจะไม่ค่อยพอใจนัก..แต่ยังดีที่มันไม่คิดจะทำอะไรบุ่มบ่าม
ทุกสิ่งมันจริงอย่างที่ลูฟี่พูด..จริงอยู่ที่พวกเขาอยากรู้เรื่องของนักล่าโจรสลัดนั่น
แต่สิ่งที่ศูนย์ใหญ่ต้องการให้มาตรวจสอบจริงๆก็คือการทำงานของมอร์แกน มีข่าวลือที่ไม่ค่อยดีนักเกี่ยวกับที่นี่ไปถึงหูของจอมพลเซ็นโงคุ..พวกเขาถึงได้รับการไหว้วานให้มาตรวจสอบตามคำสั่ง
“อ้อ
แล้วก็..” ลูฟี่มองทหารยศนาวาโทคนหนึ่งที่ยืนอยู่ข้างมอร์แกน “นายพาฉันไปหานักล่าโจรสลัดนั่นทีสิ!”
นาวาโทริปเปอร์พยักหน้ารับอย่างมึนๆ
ก่อนพานาวาเอกผู้เดินทางมาจากแดนไกลและผู้ติดตามไปยังลานกว้างที่พวกเขาจับบุคคลที่ว่านั่นมัดเอาไว้ตามคำสั่งของเฮลเมปโป
ลูกชายที่แสนน่าหมั่นไส้ของมอร์แกน
มอร์แกนมองตามหลังเจ้าเด็กอวดดีนั่นด้วยสายตาอาฆาต
ตราบใดที่มันไม่ยื่นมือเข้ามาขัดขวางหนทางสู่ความเป็นใหญ่ของเขา
เขาก็จะยังไม่กำจัดมัน
“หมอนั่นน่ากลัวชะมัดเลย
ว่ามั้ยลูฟี่?” อุซปถามกัปตันของตัวเองเสียงสั่น
ดีนะที่เขาไม่ได้รับเรื่องให้มาประจำการที่นี่..ไม่งั้นคงต้องเป็นบ้าตายกับความน่ากลัวของเจ้านาวาเอกมอร์แกนนั่นแน่ๆ
“น่ากลัวเหรอ? ก็ไม่นี่ ชิชิชิ”
โอ้..ลืมไป
หมอนี่มันเป็นพวกต่อมความกลัว(?)ตายด้านนี่
ชายจมูกยาวถอนหายใจอย่างปลงตก
พวกเขาเดินมาถึงลานกว้างที่ไม่มีอะไรเลยนอกจากร่างของชายคนหนึ่งที่ถูกมัดไว้กับไม้กลางแดดร้อนๆแบบนี้
แม้จะสวมผ้าโพกหัว..แต่ก็ไม่อาจปกปิดผมสีเขียวราวกับสาหร่ายที่โผล่พ้นออกมาได้
ใบหน้าคมดูดีอยู่ไม่ใช่น้อย..แม้ว่าผิวจะคล้ำแดดไปบ้างเพราะแสงที่สาดส่อง
แต่มันก็ไม่ได้ทำให้เขาอีกฝ่ายดูขี้ริ้วขี้เหร่อะไร
ลูฟี่เลิกคิ้วขึ้น
เขาเดินเข้าไปใกล้ร่างนั้นโดยมีนาวาโทริปเปอร์และเรือตรีอุซปเดินตามอยู่ไม่ห่าง
“เฮ้ย
นายน่ะ” เขาลองเรียกอีกฝ่ายดู และมันได้ผล..นัยน์ตาคมช้อนตาขึ้นมองใบหน้าเขา
เจ้าตัวดูอ่อนล้าอยู่พอสมควร..คงเพราะขาดน้ำขาดอาหารเป็นเวลานาน ลูฟี่เท้าสะเอวมองคนที่ดูๆแล้วก็ไม่น่าจะเป็นคนเลวไปได้ด้วยแววตาสนใจ
“เด็กผู้หญิงที่นายไปช่วยไว้ฝากบางอย่างมาให้”
ข้าวปั้นหน้าตาน่ารักประทานที่ถูกห่อมาอย่างดีทำให้คนตัวโตกว่ากลืนน้ำลายลงคอดังเอื้อก
ลูฟี่หัวเราะชอบใจ มอบคนตัวสูงกว่าที่แม้ตอนแรกจะไม่ยอมกินด้วยความทิฐิแต่สุดท้ายก็กินมันจนได้
เขาเจอกับเด็กคนนั้นเมื่อวานตอนที่พึ่งเดินทางมาถึงที่นี่
เธอเล่าทุกอย่างให้เขาฟัง
หมอนี่ช่วยเธอเอาไว้ทำให้ตัวเองถูกจับแทน
ก็เป็นคนดีจริงๆนั่นแหละ
“ถ้านายอยากออกไปจากที่นี่ล่ะก็..ฉันพานายไปได้นะ
ชิชิชิ” อุซปรวมถึงนาวาตรีริปเปอร์ซึ่งประจำการที่นี่มาเนิ่นนานมองลูฟี่ตาแทบถลน
แม้แต่คนที่ถูกพูดถึงอย่างโซโลก็แทบไม่อยากเชื่อกับคำพูดนั้น
เขาไล่สายตามองร่างตรงหน้าดีๆ..ร่างเล็กดูบอบบางจนแทบไม่น่าเชื่อว่าจะมียศเป็นถึงนาวาเอก
ใบหน้าหวานที่ประดับด้วยนัยน์ตากลมและริมฝีปากกระจับ แผลใต้ตานั่นดูมีเอกลักษณ์..
รวมถึงหมวกฟางที่ห้อยอยู่ด้านหลังก็ช่างชวนให้รู้สึกคุ้นเคยอย่างน่าประหลาด
โลกนี้มันจะกลมเกินไปรึเปล่า?
“หึ
ไม่เอาหรอก อีกไม่นานก็จะครบวันตามที่ตกลงกันไว้กับเจ้าเฮลเมปโปนั่น แค่นั้นฉันก็จะได้เป็นอิสระ..ไม่คิดจะยืมมือทหารเรือหรอกนะ”
ปฏิเสธไปตามที่ใจคิด
แม้จะพอเดาได้แล้วว่าคนตรงหน้าเป็นใคร..แต่เขาก็ไม่ได้คิดว่าคนตรงหน้าจะต่างไปจากทหารเรือคนอื่นๆ
เวลาเปลี่ยนคนเปลี่ยน..เรื่องนี้เขารู้ดีที่สุด
บางทีเด็กตัวเล็กที่แสนใสซื่อในวันวาน จนถึงตอนนี้อาจจะไม่ใช่คนเดิมแล้วก็ได้
เขาแค่นหัวเราะในลำคอ
ที่สำคัญ..หมอนั่นอาจจะลืมเขาไปแล้ว
“เหรอ? น่าเสียดายจังนะ นึกว่านายจะยอมรับข้อเสนอของฉันซะอีก” ลูฟี่ส่ายหัวไปมา
เขาหันหลังเดินกลับ..เสื้อคลุมที่ด้านหลังปักคำว่ายุติธรรมตัวโตๆปลิวไสวไปตามการเดินของร่างเล็ก
ดูน่าเกรงขามสมกับที่เป็นทหารเรืออย่างน่าประหลาด
เขาหลับตาลง..บางทีเด็กน้อยในวันวานอาจจะหายไปแล้วจริงๆ
....
รึเปล่านะ?
“ชิชิชิ
เสียใจด้วยนะ แต่หมอนั่นไม่มีวันปล่อยนายไปหรอก หมอนั่นไม่คิดจะให้นายรอดชีวิตแต่แรกอยู่แล้ว”
ร่างเล็กหันกลับมาพูด โซโลชะงักไปแทบจะทันที..เฮลเมปโปหลอกเขาหรือ? แล้วหมอนี่รู้ได้ไง?
“พวกเราได้ยินมาตอนที่เฮลเมปโปไปหาเรื่องเด็กผู้หญิงคนนั้นน่ะ” ชายจมูกยาวพูดขึ้นมาราวกับอ่านใจเขาได้
“และฉันจะไม่ยอมปล่อยให้นายตายเด็ดขาด
ก็นายเคยสัญญาไว้นี่..ว่าถ้าฉันมาชวนนายเป็นทหารเรืออีกครั้งนายจะตกลงน่ะ”
คำพูดที่ดูมีความมุ่งมั่นและจริงใจนั่นทำให้หัวใจของเขารู้สึกอุ่นวาบขึ้นมาอย่างน่าประหลาด
ลูฟี่ยิ้มตาหยีดูสดใสราวกับทานตะวัน
“เพราะงั้น..มาเป็นลูกเรือฉันเถอะโซโล!”
เรื่องราวหลังจากนั้นคงไม่ต้องอธิบายอะไรให้มากความกระมั้ง?
ลูฟี่จัดการมอร์แกนได้อย่างง่ายดายโดยมีอุซปช่วยไปตามหาดาบทั้ง
3 เล่มของโซโลมาให้ ฐานทัพเรือแห่งนี้กลายเป็นอิสระ..ไม่มีมอร์แกนมากดขี่อีกต่อไป
พวกเขาเชิญให้ลูฟี่มาประจำที่นี่ แน่นอนว่าเจ้าตัวดีปฏิเสธ
“”แก!! แกมันไอหัวมอสนี่!!”
ซันจิแหวลั่นพลางชี้นิ้วไปยังคนที่ยืนอยู่ข้างๆเจ้าตัวเล็กของเขา(?) โซโลก็ไม่ต่างกัน..ชายร่างสูงทั้งสองแยกเขี้ยวใส่กันดูน่าตลกขบขัน
“อย่าบอกนะว่าเจ้านี่ก็เป็นลูกเรือนาย?”
ลูฟี่หัวเราะกับคำถามของโซโล
“ว่าที่ลูกเรือน่ะ
ยังไม่ได้ไปทดสอบเป็นทหารเรือเลย”
“ไม่นะลูฟี่
ฉันอยู่กับเจ้านี่ไม่ได้แน่ๆ!!” ซันจิกรีดร้อง(?)พลางดึงตัวเด็กสวมหมวกฟางมากอดไว้แทบจมอก ความไม่พอใจสุมลงในใจเรื่อยๆ..รู้แล้วว่าทำไมถึงรู้สึกไม่ถูกชะตาตั้งแต่แรกเจอ
เพราะรู้ว่าในอนาคตจะกลายเป็นศัตรู(หัวใจ)กันนี่เอง!!
“ชิชิชิ
พวกนายนี่ตลกดีนะ” ลูฟี่หัวเราะอย่างอารมณ์ดี ถอนตัวออกมาจากการเกาะกุมของว่าที่ลูกเรือผมทองพร้อมเดินนำไปที่เรือด้วยท่าทีสบายๆ
ตามหลังมานั้นมีอุซปเดินตามไปด้วยเพราะกลัวว่ากัปตันของตัวเองจะไปก่อเรื่องที่ไหน
และร่างสูงสองคนที่เดินกัดกันไปตลอดทาง
พวกเขาเดินทางกลับศูนย์ใหญ่เพื่อส่งโซโลกับซันจิไปยังโรงเรียนเตรียมทหารเพื่อทำการทดสอบและเรียนหลักสูตรการเตรียมตัวเป็นทหารเรือฉบับเร่งรัด
(มันเป็นหลักสูตรสำหรับคนที่ถูกทหารเรือยศนาวาเอกขึ้นไปชวนมาเป็นลูกเรือโดยที่ตัวเองไม่ได้เรียนโรงเรียนเตรียมทหารมาก่อน)
ส่วนลูฟี่กับอุซปต้องเดินทางไปยังหมู่บ้านออร์แกนในหมู่เกาะออเลนต์ซึ่งได้รับรายงานว่าโจรสลัดที่มีฉายา
‘ตัวตลกบากี้’ ค่าหัว 15 ล้านเบรีกำลังอาละวาดอยู่ในแถบนั้น
และที่นั่น..พวกเขาได้เจอกับ
‘นามิ’ อีกครั้ง
พวกเขาได้ให้การช่วยเหลือเธอ
และได้เธอมาเป็น(ว่าที่)ลูกเรือเพิ่มอีกคน รวมถึงข้อมูลเกี่ยวกับโจรสลัดเงือกกลุ่มอารองที่อาละวาดอยู่ในหมู่บ้านโคโคยาชิซึ่งตั้งอยู่บนเกาะโคโนมิในเขตอีสท์บลู
ลูฟี่สัญญาว่าจะช่วยเธอและหมู่บ้านของเธอ
และไม่นานหลังจากนั้น..เธอ
ซันจิ และโซโลก็ผ่านการอบรมหลักสูตรเตรียมตัวเป็นทหารเรือฉบับเร่งรัดได้สำเร็จ
ลูฟี่
โซโล ซันจิ อุซป และนามิ รวมถึงทหารเรือบางส่วนได้ไปยังหมู่บ้านแห่งนั้นและตามกวาดล้างอารองได้อย่างง่ายดาย
นามิเป็นอิสระ
พวกเขาได้กลายเป็นลูกเรือของลูฟี่เต็มตัว
ผลจากความดีความชอบนั้นทำให้พวกเขาได้รับการเลื่อนยศแทบจะในทันที
(ก็แหม..ทหารเรือที่มีฝีมือเก่งกาจขนาดจัดการพวกมนุษย์เงือกได้นี่มันไม่ได้หากันง่ายๆนี่เนอะ)
นาวาเอกลูฟี่ เรือเอกโซโล เรือโทซันจิ พันจ่าเอกนามิ เรือตรีอุซป (เลื่อนขึ้นมาจากพันจ่าโท)
ดูเหมือนว่า..หน่วยทหารเรือที่จะกลายเป็นตัวอันตรายต่อพวกโจรสลัดในอนาคตได้ถือกำเนิดขึ้นแล้ว
ซิการ์ในมือถูกโยนทิ้งลงถังขยะ
นัยน์ตาแข็งกร้าวจับจ้องไปยังรอยยิ้มของเด็กหน้าหวานในรูปซึ่งถูกส่งมาโดยสายข่าวของตัวเอง
รอยยิ้มเหี้ยมเกรียมปรากฎบนใบหน้า ชายร่างสูงใหญ่แค่นหัวเราะเหอะในลำคอ..
มือหนาไล้ไปตามโครงหน้าของเด็กหนุ่มเจ้าของรอยแผลเป็นใต้ตาในรูปไปมา
“นี่น่ะเหรอ..เด็กที่ไอนกโรคจิตนั่นสนใจ”
หญิงสาวคนหนึ่งเดินเข้ามาใกล้เขา
ผมสีดำเหยียดตรงพลิ้วไสวไปตามแรงลม นัยน์ตาสีฟ้าน้ำทะเลของเธอมองออกไปยังเหล่าจระเข้ที่แหวกว่ายอยู่ในน้ำทะเลผ่านกระจกใสที่มองเห็นปะการังและเหล่าสัตว์น้ำทั้งหลายแหล่
“คุณก็สนใจเขาไม่ใช่รึไง
มิสเตอร์ซีโร่..”
“...”
“ไม่สิ..มิสเตอร์ครอคโคไดล์”
----|----|----|----|----
เหมือนจะดำเนินเรื่องเร็วไปนิด
แต่มันเป็นเพราะความจำเป็นจริงๆค่ะ T^T
จริงๆแล้วไม่อยากข้ามตอนสู้กับอารองไปเลย
(ประทับใจตอนลูฟี่เอาหมวกฟางของรักของตัวเองสวมให้นามิมาก) แต่คิดว่าพยายามเร่งให้เดินทางไปแกรนไลน์เร็วๆน่าจะดีกว่า
หลังจากนี้เนื้อเรื่องจะไม่ค่อยเหมือน(?)ในอนิเมะแล้วนะคะ
แฮะๆ
คิดว่าคงได้แต่งอาทิตย์ละตอน
(หรืออาจจะสองตอน?) ถ้าสมองไม่ตันซะก่อน..
ขอบคุณสำหรับทุกคอมเม้นและกำลังใจค่ะ
ปลื้มมากๆ TT ตอนแต่งก็ไม่คิดว่าจะมีใครมาอ่าน (ฮา)
ถ้าเจอคำผิดหรือมีอะไรอยากแนะนำก็บอกได้เลยนะคะ
><
ความคิดเห็น