ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    (one piece) straw hat gangster|อันธพาลหมวกฟาง (yaoi)

    ลำดับตอนที่ #2 : Chapter 02 :: คำเตือนจากเจ้าแห่งทราย

    • อัปเดตล่าสุด 28 ต.ค. 61



     


     

     

     

              วันนี้ก็เป็นอีกวันที่ลูฟี่เดินทางออกจากบ้านของตนตั้งแต่เช้าตรู่ เขามั่นใจว่าเวลาแบบนี้ปู่ของเขาที่เป็นถึงพลตำรวจโทจะต้องยังไม่ตื่นแน่ๆ และพี่ชายร่วมสาบานทั้งสองก็เช่นกัน และสาเหตุที่ตื่นเช้าก็ไม่พ้นการไปพบปะพูดคุยกับเพื่อนร่วมกลุ่มที่ฐานลับบนภูเขา ลูฟี่หัวเราะเสียงใส..วันนี้ซันจิจะทำอะไรมาให้กินน๊า

     

              เขาเดินลัดเลาะตามตรอกซอยต่างๆซึ่งเป็นทางลัดที่จะถึงที่หมายได้เร็วที่สุด และด้วยความช่วยเหลือของโรบินที่มารอรับระหว่างทาง ไม่นานนักเขาก็เดินทางถึงที่หมาย

     

              ในคฤหาสน์หลังเดิมยังคงเต็มไปด้วยเสียงพูดคุยดังเซ็งแซ่ ทั้งเสนาธิการทั้ง 8 คนและหัวหน้าหน่วยทั้ง 7 อยู่พร้อมหน้าพร้อมตากันในห้องประชุม ลูฟี่เดินเข้ามาพร้อมกับโรบิน..ถือว่าตอนนี้ทุกคนมากันพร้อมหน้าพร้อมตาแล้ว และใกล้จะเริ่มประชุมเต็มที

     

              “ซันจิ หิวข้าวแล้ววว” เด็กหนุ่มพุ่งตัวไปกอดเพื่อนสนิทควบตำแหน่งกุ๊กหนุ่มฝีมือดีของกลุ่มแน่น เจ้าตัวพยายามดึงตัวเขาออก..แต่ใบหน้าคมนั้นกลับแดงแจ๋ราวกับมะเขือเทศสุก

     

              “เข้าใจแล้วๆ เพราะงั้นปล่อยฉันซักทีเถอะเจ้าบ้า”

     

              “ชิชิชิ ก็ได้” ยอมปล่อยตัวตามที่ขอพร้อมยิ้มร่าอย่างอารมณ์ดีเมื่ออีกฝ่ายยื่นข้าวกล่องที่ทำเองมาให้ ยังไงซะซันจิก็เป็นกุ๊กฝีมือดีที่สุดสำหรับเขาเลย!

     

              “ลูฟี่ มานั่งที่ได้แล้ว” เป็นโซโลที่เป็นคนลากลูฟี่มานั่งที่เดิมโดยไม่วายหันไปตีหน้ายักษ์ใส่ซันจิที่ลอบทำหน้าเคลิ้มโดยที่ลูฟี่ไม่เห็น ฝ่ายหนุ่มคิ้วม้วนที่สัมผัสได้ถึงรังสีความไม่พอใจก็ยิ้มเยาะ

     

              “อิจฉาล่ะซี่เจ้าหัวสาหร่าย”

     

              “ใครอิจฉาแกกันฟะ!!

     

              ทุกคนมีสีหน้าเหนื่อยใจพร้อมกันโดยมิได้นัดหมาย ก็มีเพียงต้นเหตุของเรื่องเท่านั้นที่เอาแต่ทำหน้าซื่อไม่รู้เรื่องรู้ราวแล้วกินข้าวกล่องของตนไปเงียบๆ จนสุดท้ายแล้วนามิก็เป็นคนห้ามทัพและลากทุกคนให้กลับมาเข้าเรื่องที่จะประชุมเสียที

     

              บรรยากาศจริงจังก่อตัวขึ้นเมื่อทุกคนกลับมานั่งที่เดิม อาจจะมีเพียงท่านผู้นำตัวน้อยที่มัวเอาแต่กินไม่หยุด แต่ทุกคนก็ไม่ได้ใส่ใจมากนัก..เพราะรู้ว่าแม้ลูฟี่จะกินอยู่แต่ก็ได้ยินที่พวกเขาพูดทุกคำนั่นล่ะ

     

              “สายของเราส่งข่าวมาบอกว่าพวกตำรวจจะส่ง นักล่าสีขาว มาที่นี่” เลโอ ชายหนุ่มตัวเล็กผู้เป็นหัวหน้าหน่วยที่ 5 เป็นคนเริ่มบทสนทนาขึ้น ทุกคนเริ่มขมวดคิ้วเป็นปม นักล่าสีขาวเป็นฉายาของนายตำรวจคนหนึ่งที่ว่ากันว่าหากได้เล็งเป้าหมายไปที่ใครแล้วก็จะกัดไม่ปล่อย บางครั้งก็ถูกเรียกว่าสุนัขล่าเนื้อหรืออะไรเทือกๆนั้น ซึ่งพวกเขาล้วนได้ยินฉายานี้จากหนังสือพิมพ์ตอนเช้าอยู่บ่อยครั้ง..โดยเฉพาะเมื่อไม่กี่วันมานี้

     

              “พวกกรมตำรวจคิดอะไรที่ส่งเจ้าคนอันตรายนั่นมาที่นี่..” จินเบทำหน้าฉงนไม่เข้าใจในความคิดของกรมตำรวจที่แผ่นดินใหญ่

     

              “นั่นสินะ ถ้าเทียบกับเขตอื่นแล้ว..ที่นี่สงบกว่ามาก ความวุ่นวายหรือการก่อวิวาทก็ทุเลาลงกว่าเมื่อหลายปีก่อนมากแล้ว หรือว่าส่งมาเพื่อกำจัดพวกเรา?” ช็อปเปอร์เสนอความคิดเห็น  หากแต่โรบินก็ส่ายหน้าไม่เห็นด้วย

     

              “เป็นไปไม่ได้หรอก พวกตำรวจรู้ดีว่าเขตอีสท์ทาวน์พวกเราคุม..และเพราะพวกเราที่นี่ถึงยังสงบสุขอยู่ได้ ฉันไม่คิดว่าพวกนั้นจะอยากเป็นศัตรูกับเรานัก”

     

              “แต่ก็ไม่ได้อยากเป็นมิตรสินะครับ โยโฮ่โฮ่โฮ่”

     

              ทุกคนเริ่มคิดตาม..มันเป็นจริงอย่างที่โรบินพูด ถ้าเป็นไปได้พวกนั้นก็คงไม่อยากมีปัญหากับพวกเขาซักเท่าไหร่ โดยเฉพาะเมื่อเขตที่เคยมีแต่เรื่องวุ่นวายกลับมาสงบสุขได้เพราะพวกเขาคอยดูแล พวกนั้นควรขอบคุณกลุ่มหมวกฟางด้วยซ้ำที่ทำให้ตำรวจไม่ต้องเหนื่อย

     

              แต่ก็นั่นล่ะนะ..ศักดิ์ศรีของตำรวจ ถึงไม่อยากเป็นศัตรูแต่ก็ไม่คิดว่าพวกนั้นจะอยากเป็นมิตรด้วยซักเท่าไหร่

     

              โดยเฉพาะเมื่อพวกเขาเคยไปก่อวีรกรรมกับพวกนั้นเอาไว้เหมือนกัน

     

              “จริงๆแล้ว..” บาโธโลมีโอยกมือขึ้นเพื่อขอพูดอะไรซักอย่าง และนั่นทำให้สายตาทุกคู่หันมามองเขาแม้แต่ลูฟี่ที่กำลังกินอยู่ก็เช่นกัน โอ้— รุ่นพี่ลูฟี่ แม้แต่ตอนกินก็ยังน่ารัก!

     

              คาเวนดิชทำหน้าหงิก..อะไรฟะไอเจ้านี่ อย่ามามองเจ้าหมวกฟางแบบนี้นะเฟ้ย

     

              “จะพูดอะไรก็พูดสิฟะไอหัวหงอนไก่” โซโลชักสีหน้า บาโธโลมีโอที่รู้ตัวว่าตัวเองชักจะเคลิ้มกับใบหน้าน่ารักของหัวหน้าของตัวเองมากเกินไปแล้วรีบดึงสติกลับ เจ้าตัวกระแอมเล็กน้อย

     

              “คือ คือว่า..ช่วงไม่กี่สัปดาห์มานี้มีสายรายงานมาว่าทั้งทางฝั่งนอร์ธทาวน์ เวสท์ทาวน์ และเซาท์ทาวน์มีการเคลื่อนไหวผิดปกติอยู่บ่อยครั้งครับ บางทีอาจเป็นความไม่ลงรอยกันของพวกกลุ่มเจ้าถิ่น..” เจ้าของผมทรงหงอนไก่สีเขียวพักหายใจเล็กน้อย สายตาคมกริบราวกับสัตว์ป่าไล่สายตามองตั้งแต่คนที่นั่งอยู่หัวโต๊ะจนกระทั่งท้ายโต๊ะ แฟรงกี้ที่เห็นท่าทางแบบนั้นจึงพูดสิ่งที่คิดออกมา

     

              “หรือไม่ก็มีใครบางคนกำลังแทรกแซงอาณาเขตของพวกนั้น”

     

              ทุกคนในห้องชะงัก..ดูเหมือนว่านี่จะไม่ใช่แค่ปัญหาเล็กๆเสียแล้ว

     

              “แม้แต่พวก 4 จักรพรรดิก็เริ่มส่งสายข่าวออกเดินทางไปยังทุกเขตแล้ว ไม่เว้นแม้กระทั่งอีสท์ทาวน์เอง..บางทีอาจจะมีเรื่องอะไรจริงๆ” ออลัมบัสอธิบายเพิ่มเติม ในหมู่หัวหน้าทั้ง 7 หน่วย เขาซึ่งเป็นหัวหน้าหน่วยที่ 7 นั้นมีขุมกำลังพลมากที่สุดทำให้ได้รับข่าวคราวอย่างหลากหลาย อิเดโอกับฮัจรูดินพยักหน้าเป็นการบอกว่าพวกเขาก็ได้รับข่าวเช่นเดียวกัน

     

              “คงมีเรื่องใหญ่เกิดขึ้นจริงๆสินะ” อุซปพึมพำกับตัวเอง เขามองไปที่ทุกคนซึ่งมีสีหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออกไม่ต่างกันมากนัก อ้อ..ยกเว้นไว้คนนึง

     

              ง่ำๆๆ

     

              ลูฟี่ที่ยังกินไม่หยุดดูไม่สะทกสะท้านกับข่าวที่ได้รับ (หรืออาจจะไม่ได้ฟัง? เขาไม่อาจทราบได้) เจ้าตัวดูจะสนใจอาหารตรงหน้ามากกว่าการมาคิดอะไรให้ปวดหัวโดยเสียเวลาเปล่า ใบหน้าน่ารักเงยหน้าขึ้นมา “เอาเป็นว่าถ้าเจอเจ้านักล่าสีขาวนั่นก็ถามเอาก็ได้นี่”

     

             โป๊ก!!

     

              “ทำบ้าอะไรของเธอเนี่ยนามิ!!” ลูฟี่แหวลั่นพลางลูบหัวที่โดนเขกอย่างแรง มือยัยนั่นหนักเป็นบ้า..ซักวันเขาต้องเอาคืนให้ได้!

     

              “พูดอะไรไม่รู้จักคิดเลยนะนายเนี่ย ถ้าเดินไปถามโต้งๆได้แบบนั้นพวกเราจะมานั่งเครียดกันแบบนี้มั้ยฮะ!?” ลูฟี่เบ้หน้าเมื่อโดนเพื่อนสาวหัวส้มสั่งสอน โถ่— ก็เขาไม่อยากคิดอะไรให้ปวดหัวนี่นา

     

              “ก็ปกติฉันทำแบบนั้นนี่นา ไม่เข้าใจอะไรก็ถามไปตรงๆเลย! ถ้าถามเจ้าควันไม่ได้ก็ถามเจ้าจระเข้ เดี๋ยวพวกนั้นก็บอกเองแหละ!

     

              ทุกคนมีสีหน้าฉงน โซโลมองลูฟี่ด้วยสายตาที่เต็มไปด้วคำถาม “ใครคือเจ้าควันกับเจ้าจระเข้ ลูฟี่?

     

              “โอ๊ะ..” เด็กหนุ่มยกมือขึ้นปิดปากเหมือนพึ่งรู้ตัวว่าตัวเองหลุดพูดอะไรไม่เข้าท่าออกไปเสียแล้ว “ไม่มีอะไรน่า เอาเป็นว่าไปหาข้อมูลกันต่อนะ ฉันมีธุระอ่ะ! ไว้เจอกัน~” ร่างเล็กโบกมือหยอยๆก่อนวิ่งออกจากห้องประชุมไป

     

              ทุกคนหันมามองหน้ากันแบบงงๆ จนกระทั่งซันจิเป็นคนเอ่ยปากถามขึ้นมาท่ามกลางความค้างคาใจของคนอื่นๆ

     

              “แล้วนี่ลูฟี่จะไปธุระยังไงล่ะ..อย่าบอกนะว่าเดินลงเขา?

     

     

     

    ----|----|----|----|----

     

     

     

              มันเป็นแบบที่ซันจิสงสัยนั่นล่ะ..

     

              ลูฟี่เดินลงเขาจริงๆ

     

              “เมื่อยขาเป็นบ้า!” เด็กหนุ่มบ่นกระปอดกระแปดหลังจากที่เดินลงจากเขาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว มองรถที่ขับสวนทางกันไปมา..แล้วเขาจะไปที่หมายยังไงดีล่ะ? จะให้พวกนั้นไปส่งก็คงไม่ทันแล้วแน่ๆ

     

              ฉับพลันที่คิดว่าตนคงต้องเดินกลับบ้าน..รถจากัวร์สีดำสี่ประตูคันงามก็จอดลงตรงหน้าราวกับรู้ความคิด ลูฟี่ที่ตอนแรกขมวดคิ้วฉีกยิ้มกว้างด้วยความยินดี

     

              และมันเป็นเวลาเดียวกับที่กระจกหลังของรถถูกเลื่อนลง..ที่ปรากฎอยู่ข้างในคือชายหนุ่มผิวสีผึ้งผู้มีรอยแผลเป็นอยู่บนใบหน้า ผมสีดำถูกเซ็ตให้เรียบไปกับศีรษะ เขาสวมสูทสีเทาและเสื้อคลุมขนสัตว์สีดำสนิท มวนซิการ์ในปากนั่นเป็นสิ่งที่คนๆนี้มักจะสูบอยู่เสมอ

     

              “โย้ช! ว่าไงเจ้าจระเข้!” เจ้าตัวเล็กสวมหมวกฟางยิ้มร่าทักทาย ชายผู้นั่งสูบซิการ์อยู่เบาะหลังยิ้มมุมปาก มองไปยังใบหน้าน่ารักก่อนส่งเสียงเฮอะในลำคอเบาๆ

     

              “เจอกันก็ปากดีเลยนะแก”

     

              สุดท้ายแล้วลูฟี่ก็ขึ้นมานั่งบนรถของครอคโคไดล์โดยนั่งข้างๆกันที่เบาะหลัง ที่นั่งคนขับมีแดชซึ่งเป็นลูกน้องคนสนิทของหนุ่มใหญ่เป็นคนคอยขับรถ

     

              ครอคโคไดล์เป็นบอสใหญ่ของกลุ่มมาเฟียที่ชื่อ บาร็อกเวิร์คส์ ซึ่งมีฐานอำนาจอยู่ในเวสท์บลูและแผ่นดินใหญ่บางพื้นที่ เป็นกลุ่มมาเฟียชื่อดังที่พวกตำรวจกำลังจับตาดูว่าจะเป็นอันตรายในอนาคตหรือไม่ และลูฟี่ก็รู้จักกับอีกฝ่ายเมื่อ 3 ปีก่อนด้วยความบังเอิญ

     

              ความสัมพันธ์ของพวกเขาไม่ใช่มิตร..แต่ก็ไม่ใช่ศัตรู ถ้าจะพูดให้เข้าใจง่ายก็คงเป็นการมีผลประโยชน์ร่วมกันนั่นแหละ   

     

    ใช้เวลาไม่ถึงยี่สิบนาทีรถสีดำคันงามก็จอดลงที่ลานจอดรถใต้ดินของโรงแรมแห่งหนึ่ง ครอคโคไดล์ลงมาจากรถพร้อมอุ้มเจ้าเด็กตัวดีลงมาด้วย ลูฟี่ทักท้วงเล็กน้อย..แต่ก็นึกขึ้นมาได้ว่าถึงท้วงไปอีกฝ่ายก็คงทำหูทวนลมจึงปล่อยให้โดนอุ้มอยู่แบบนั้นจนกระทั่งเดินขึ้นมาถึงชั้นสูงสุดที่เจ้าตัวจองเอาไว้

     

              “แกนี่รวยจนน่าหมั่นไส้ชะมัด ชิชิชิ”

     

              คนอุ้มยิ้มบางๆอย่างนึกขัน “คนที่สนับสนุนแกอยู่ก็รวยน่าดูนี่”

     

              เจ้าหนุ่มหมวกฟางชะงัก..มองคนที่อุ้มตนอยู่ด้วยใบหน้าตื่นๆ ทางฝั่งครอคโคไดล์เองที่เห็นเจ้าตัวแสบทำหน้าแบบนั้นก็นึกขำในใจ

     

              “แกรู้ได้ไง?

     

              “หมายถึงเรื่องอะไรล่ะ? เรื่องที่ 1 ใน 4 จักรพรรดิ เจ้าแชงคูสผมแดงนั่นหนุนหลังแกอยู่ หรือเรื่องที่แกติดต่อกับราชานรกเรย์ลี่อยู่?

     

              ลูฟี่มีสีหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออก ดูเหมือนเจ้านี่จะรู้มากกว่าที่คิด

     

              ครอคโคไดล์นั่งลงบนโซฟาสีแดงสดภายในห้องนอนของตนก่อนจับเจ้าตัวเล็กมานั่งไว้บนตัก เพียงไม่นานก็มีคนเอาอาหารมากมายมาเสิร์ฟถึงโต๊ะ ลูฟี่ตาวาว..ไอ้หมอนี่รู้ใจเขาเสียจริง

     

              ครอคโคไดล์หัวเราะหึเมื่อเห็นว่าลูฟี่เริ่มสนใจอาหารตรงหน้าและลงมือทานในทันทีที่เขาพยักหน้าอนุญาต รู้สึกผิดเล็กๆ ในเมื่อตอนนี้เขาเองก็ไม่ต่างจากตาแก่ที่พยายามล่อลวงเด็กด้วยลูกอม รู้สึกเหมือนตัวเองเริ่มเข้าข่ายตาแก่โรคจิตเข้าไปทุกที อย่าโทษเขาเลย..ให้โทษไอเด็กนี่ที่ทำให้เขารู้สึกสนใจมากขนาดนี้ดีกว่า

     

              “เอ้าๆ ค่อยๆกินก็ได้ เดี๋ยวได้สำลักตายกันพอดี” มองเจ้าตัวแสบตรงหน้าที่เอาแต่ตักอาหารเข้าปากอย่างมูมมามก็รู้สึกอารมณ์ดีขึ้นมาทันตา ดูเหมือนว่าเจ้านี่จะชอบอาหารที่เขาสั่งมาเพื่อมัน

     

              “ไอ่ไอ้อีบอินอั้กอ่อย(ไม่ได้รีบกินซักหน่อย)”

     

              “กินเสร็จค่อยพูดสิไอหนู”

     

              ลูฟี่พยักหน้าหงึกหงักก่อนรีบกินให้หมดพร้อมซดน้ำเข้าปากจนหมดแก้ว เขาหันมายิ้มร่าให้ชายวัยกลางคนที่อุตส่าห์เลี้ยง ลืมไปเสียแล้วว่าก่อนหน้านี้ตนรู้สึกเคลือบแคลงสงสัยในตัวอีกฝ่ายเพียงใด

     

              หลังจากที่ลูฟี่กินเสร็จเขาก็จับเจ้าตัวมานั่งบนตักอีกครั้ง เจ้าเด็กน้อยตัวแสบในวันวานดูโตขึ้นกว่าเมื่อ 3 ปีก่อนพอสมควร บางทีอาจจะเพราะเรื่องราวหลายๆอย่างที่เจ้าตัวพบเจอก็เป็นได้ ใบหน้าเรียวเอี้ยวมามองเขาด้วยแววตาซุกซนราวกับเด็กเล็กๆ ร่างสูงหัวเราะกับพฤติกรรมแบบนั้น..เจ้านี่เหมือนลูกแมวกำลังอ้อนขอของเล่น

     

              “ทำหน้าแบบนี้อยากรู้อะไรล่ะ”

     

              “ฉันแปลกใจตั้งแต่เมื่อวานตอนที่แกโทรบอกว่าจะมาที่นี่ละ..แกมาที่นี่ทำไมอ่ะเจ้าเข้? 

     

              “ช่างสงสัยจริงนะ”

     

              “ก็แกทำตัวน่าสงสัย บอกไว้ก่อนนะ..ถ้าแกยุ่งกับเมืองนี้ฉันไม่ให้อภัยแน่” เขาหัวเราะกับคำขู่นั้น มันเหมือนแมวตัวน้อยๆที่กำลังขู่เสืออยู่ โอ้ไม่สิ— แมวที่กำลังขู่จระเข้

     

              “ฉันไม่ยุ่งกับเมืองที่แกรักนักรักหนาหรอก แค่มาหลบความวุ่นวาย”

     

              “หา!? อย่างแกเนี่ยอ่ะนะหลบความวุ่นวาย? ไม่ใช่เป็นต้นตอความวุ่นวายหรอกเรอะ?” ลูฟี่เลิกคิ้วสูงเหมือนไม่อยากจะเชื่อ พูดก็พูดเถอะ..วีรกรรมของเจ้าจระเข้ทะเลทรายนี่น้อยซะที่ไหน ถ้าไม่ใช่เพราะอำนาจเงินกับความยิ่งใหญ่ที่สะสมมาป่านนี้คงโดนพวกพลตำรวจเอกไล่ล่าเป็นว่าเล่นแล้ว

     

              “หลอกด่าได้เจ็บแสบจริงนะเจ้าหนู”

     

              “ความวุ่นวายอะไรที่ถึงกับทำให้แกยอมโผล่หัวมาที่นี่? ได้ข่าวว่าเจ้าควันก็มาที่นี่ด้วยนี่” กายใหญ่ชะงัก..ก่อนลอบยิ้มร้ายกาจ โอ้— ดูเหมือนโจทก์ของเก่าเขาจะมาหาถึงที่เลยรึ

     

              “แกก็น่าจะรู้นี่ว่าตอนนี้มีบางอย่างไม่ปกติ..พวก 4 จักรพรรดิที่ปกติจะไม่เคลื่อนไหวตามใจชอบกลับส่งสายข่าวออกไปยังทุกเขตพร้อมๆกัน แกคิดว่าเพราะอะไร?” ลูฟี่ขมวดคิ้ว ลองคิดตามที่ร่างสูงพูด..ซับซ้อนเป็นบ้าเลยแฮะ

     

              “ไม่รู้สิ..อาจรู้สึกได้ถึงอันตราย” เด็กหนุ่มตอบไม่เต็มเสียง

     

              “พวกนั้นเคลื่อนไหวเพราะคิดว่าอำนาจของตัวเองกำลังถูกสั่นคลอน..เจ้าหนู” ผู้เป็นหัวหน้าของกลุ่มหมวกฟางทำหน้าเหวอ อย่าง 4 จักรพรรดินี่ยังมีอะไรมาสั่นคลอนอำนาจได้อีกหรือ? นั่นเป็นสิ่งที่แม้แต่กรมตำรวจเองยังยากที่จะทำได้เลยด้วยซ้ำ แล้วใครกันที่สามารถทำให้พวกกลุ่มคนที่แข็งแกร่งแบบนั้นถึงกับต้องเคลื่อนไหวเพราะรู้สึกไม่ปลอดภัย?

     

              “ตอนนี้ทุกๆเขตแม้แต่แผ่นดินใหญ่ก็กำลังถูกแทรกแซงจากคนกลุ่มหนึ่ง” ครอคโคไดล์เงียบไปครู่หนึ่ง เห็นเด็กหนุ่มบนตักเงยหน้ามองเขาด้วยความสงสัย..มือใหญ่ลูบหัวเจ้านั่นเบาๆแล้วเริ่มพูดต่อ

     

              “พวกมันแทรกแซงเข้าไปในกลุ่มต่างๆที่มีอิทธิพลในทุกๆเขตแล้วเริ่มขยายฐานอำนาจโดยสร้างความแตกแยกภายในกลุ่ม และดึงคนที่เก่งๆมาเข้าร่วมกับตัวเอง..ฉันก็ไม่ค่อยมั่นใจเพราะบาร็อกเวิร์คส์ไม่ได้โดน แต่ว่า..”

     

              “แต่ว่า..?” ลูฟี่ขมวดคิ้ว ครอคโคไดล์มีสีหน้าไม่สู้ดีนัก..และลูฟี่เริ่มสัมผัสได้ถึงบางอย่าง บางอย่างที่เขาคิดว่ามันคงเป็นลางสังหรณ์..

     

              เขาสัมผัสได้ถึงลางร้าย

     

              “ที่เวสท์บลูมีกลุ่มมาเฟียและองค์กรใต้ดินจำนวนมากถูกแทรกแซง ทำให้เกิดความขัดแย้งภายในและเกิดสงครามระหว่างกลุ่ม แกรู้จักกลุ่มไฟร์แท้งค์มั้ย?” ลูฟี่พยักหน้า  พวกนั้นเป็นกลุ่มมาเฟียมีชื่อในเวสท์ทาวน์

     

    “พวกนั้นโดนบ่อนทำลายจากภายใน จนตอนนี้กลุ่มสลายไปแล้ว..และหัวหน้าที่ชื่อ คาโปเน่ เบจจ์ ก็หายตัวไป”

     

    เด็กหนุ่มกลืนน้ำลายลงคอ ดูเหมือนว่า..มันจะเป็นปัญหาใหญ่กว่าที่เขาคิดมากเลยทีเดียว

     

    “ฉันมาเพื่อเตือนแกเจ้าหนู”

     

    ลูฟี่ทำหน้าฉงน “หา? เตือนฉัน?

     

    “แกคิดว่าทำไมกรมตำรวจถึงส่งนักล่าสีขาวมาที่นี่..” ครอคโคไดล์เงียบไปครู่หนึ่ง ”ถ้าไม่ใช่เพราะพวกมันคิดว่าอีกไม่นานที่นี่จะเกิดเหตุการณ์วุ่นวายขึ้น”

     

     

     

    ----|----|----|----|----

     

     

     

             โป๊ก!!

     

              “โอ๊ย! ขว้างแปรงลบกระดานใส่ผมทำไมเนี่ยอิวานจัง” ลูฟี่คิดว่าช่วงนี้เขาจะโดนทำร้ายบ่อยเกินไปแล้ว เด็กหนุ่มลูบหัวตัวเองปอยๆพลางมองอาจารย์สอนวิชาสุขศึกษาที่มองมาจากหน้าห้องด้วยสายตาเชือดเฉือน

     

              “แล้วเธอกล้าหลับในคาบของฉันได้ไงยะหมวกฟางบอย!

     

              “ก็คุณสอนน่าเบื่อนี่—“

     

              “ฉันได้ยินนะยะ!!” กระเทยร่างใหญ่แหวลั่นก่อนเตรียมขว้างปากกาในมืออีกครั้ง โชคยังดีที่เสียงออดหมดเวลาเรียนดังขึ้นเสียก่อนทำให้เจ้าตัวจำใจเดินฮึดฮัดออกจากห้องเรียนไป ลูฟี่หัวเราะด้วยเสียงที่เป็นเอกลักษณ์ หันไปมองซันจิกับโซโลที่มองเขาด้วยสายตาเอือมละอาก็ยู่หน้า

     

              “อะไรเล่า! ก็ฉันเหนื่อยนี่นา”

     

              “เมื่อวานก็ไม่ได้นัดเจอกันตอนดึก..แล้วทำไมถึงนอนไม่พอได้ฮะลูฟี่?” ซันจิถามพลางเลิกคิ้วม้วนๆนั่นมองอย่างไม่เข้าใจ

     

              “ไปทำอะไรมาถึงนอนดึก” ตามด้วยโซโลที่ถามเสียงเรียบ มือยังคงยกลูบหัวเจ้าหัวหน้าตัวเล็กของเขาไปมาอย่างเพลิดเพลิน นามิกับอุซปมองภาพนั้นด้วยสายตาประหลาด..ตลอดเล๊ยไอสองคนนั้น ไม่กล้าดุลูฟี่แรงๆพอกันทั้งคู่ คนแรกชอบดุชอบเตือนก็จริง..แต่สุดท้ายก็ยอมเจ้าตัวเล็กอยู่ดี อีกคนนี่ไม่ต้องพูดถึง..ลูฟี่ว่าไงเจ้าตัวว่างั้น ดุเรอะ? ไม่มีทางซะหรอก!

     

              “งืมมม ฉันไปหาเบลามีมาน่ะ ชิชิชิ” ลูฟี่ว่าพลางยิ้มตาหยี อุซปที่ได้ยินดังนั้นก็เริ่มหันมาสนใจเช่นเดียวกับนามิ “แล้วนายไปหาเจ้านั่นทำไม?

     

              “ก็ไม่มีอะไรหรอกน่า แค่ให้ไปขอให้ช่วยอะไรนิดหน่อยเอง”

     

              “เบลามีเนี่ยอ่ะนะ?” นามิถามเสียงสูง เบลามีเป็นช่างย้อมสีในเขตตัวเมือง เป็นคนทิฐิสูงมาก..ถึงจะยอมผูกมิตรกับลูฟี่แต่ก็แทบไม่มาหาที่นี่เลยด้วยซ้ำ แถมยังไม่คิดจะช่วยอะไรลูฟี่ถ้านั่นไม่จำเป็นหรือเดือดร้อนจริงๆ

     

              “อือๆ ก็แบบว่า..เรื่องด่วนไง งืมมม จะว่าไปก็ง่วงแฮะ”

     

              พวกซันจิมองหน้ากัน เจ้าตัวยุ่งฟุบหลับไปกับโต๊ะไวเหมือนอดหลับอดนอนมาทั้งคืน สงสัยจะเหนื่อยจริงๆนั่นแหละ

     

              “อุ้มให้ไปนอนที่ห้องพยาบาลแล้วกัน” ทุกคนทำตามคำแนะนำของนามิ แม้โซโลกับซันจิจะเกี่ยงกันอยู่นานว่าใครจะได้อุ้มลูฟี่ก็เถอะ จนสุดท้ายแล้วหน้าที่นั้นก็กลายเป็นของอุซปที่ไม่อยากฟังเสียงทะเลาะกันอันแสนน่ารำคาญของทั้งคู่ไปมากกว่าที่เป็นอยู่

     

              ลูฟี่หลับไปนานกว่า 3 ชั่วโมง..พอเขาตื่นขึ้นมาก็พบว่านี่ถึงเวลาเรียนคาบบ่ายเสียแล้ว แต่เขาไม่อยากเรียนซักหน่อย..คนหน้าหวานเบ้ปากเมื่อนึกถึงอาจารย์ที่จะมาสอนวิชานี้ และเขาก็ได้ตัดสินใจที่จะโดด!

     

              และด้วยความที่รู้ทุกซอกทุกมุมของโรงเรียนนี้เป็นอย่างดี มันจึงไม่ยากนักที่เขาจะหนีออกจากโรงเรียนได้โดยที่ไม่มีใครรู้

     

              แต่..แล้วจะไปไหนดีล่ะ?

     

              กลับบ้านไปตอนนี้ต่อให้พี่ชายทั้ง 2 ไม่ด่า..แต่ปู่ต้องฆ่าเขาแน่ๆ

     

              เด็กหนุ่มเม้มริมฝีปากจนเป็นเส้นตรงอย่างคิดไม่ตก เวลานี้เจ้าจระเข้คงไม่ว่างมาคอยเล่นกับเขาซักเท่าไหร่นัก ส่วนพวกคาเวนดิชก็น่าจะติดเรียนไม่ก็ติดทำงานอยู่เช่นกัน แล้วเขาควรจะไปหาใครดี?

     

              โอ้! ให้ตาย— รู้งี้ไม่น่าโดดมาคนเดียวเลย ชวนโซโลไม่ก็ซันจิโดดด้วยกันก็ดีอยู่หรอก

     

              ลูฟี่พยายามสงบจิตสงบใจตัวเองก่อนเดินเข้าไปในตัวเมือง ถนนสายหลักของที่นี่เต็มไปด้วยรถแน่นขนัด..สองข้างทางมีร้านค้าเรียงรายอยู่มากมาย เขามองมันด้วยความสนใจ โอ๊ะ— นั่นร้านของมากิโนะนี่! ดูเหมือนว่าจะมีขนมแบบใหม่ออกมาขายอีกแล้ว เขาฉีกยิ้มกว้าง..

     

             ครั้งหน้าคงต้องชวนพวกเพื่อนๆมาที่นี่ให้ได้!!

     

              เขาเดินเข้าไปในร้าน หวังในใจว่าจะเข้าไปทักทายพี่สาวแสนใจดีที่เคยดูแลเขาตั้งแต่ยังเด็กเสียหน่อย เธอทำงานเสิร์ฟอาหารอยู่หน้าร้าน..และทันทีที่เห็นเขาเธอก็รีบเดินมาหาด้วยความยินดี เด็กหนุ่มฉีกยิ้มกว้าง

     

              “ไม่เจอกันนานเลยนะลูฟี่”

     

              “ชิชิชิ วันนี้มาเยี่ยมเฉยๆ เดี๋ยวครั้งหน้าจะพาเพื่อนมาอุดหนุนนะ!

     

              เธอหัวเราะก่อนระบายรอยยิ้มบนใบหน้าด้วยความเอ็นดู “จร้าๆ”

     

              ลูฟี่อาสาช่วยงานเธออีกเล็กน้อยนั่นคือคอยเสิร์ฟอาหารและเช็คบิลลูกค้า เขาคิดว่านี่มันก็ช่วยฆ่าเวลาได้ไม่เลว หากแต่ความคิดนั้นก็หยุดลงเมื่อมีลูกค้าคนหนึ่งเดินเข้ามาในร้าน ผมสีเทาควันบุหรี่และซิการ์ที่เจ้าตัวชอบสูบเป็นประจำ..เครื่องแบบของตำรวจที่ถูกใส่อย่างไม่เรียบร้อยนัก

     

              และลูฟี่รู้จักคนๆนี้ดี

     

              “โอ๊ะ— นั่นเจ้าควันนี่นา!

     

     

     

    ----|----|----|----|----

     



    ตอนนี้สั้นกว่าตอนที่แล้วค่ะ แฮะๆ เพราะตันกะทันหันด้วย TT

    ครอคโคไดล์บทเยอะเพราะชั้นรักเค้า(?) /โดนรีดตบ เอาเป็นว่าพระเอกคนอื่นๆจะปรากฎตัวออกมาเรื่อยๆนะคะ คนที่น่าจะต้องรอนานหน่อยก็คือแชงคูสกับเสี่ยนก(?)

    ส่วนคนที่จะได้เจอเร็วๆนี่ก็ เอส ซาโบ และสโมกเกอร์ค่ะ! (หลังจากเอ่ยถึงทั้งตอนแต่ไม่มีบทซักที) ส่วนลอว์กับคิดก็อีกไม่นานแล้วค่ะ อดใจรอกันนิดเนอะ ><

    สามารถให้กำลังใจได้โดยการคอมเม้นและสามารถทวงฟิคหรือพูดคุยกันได้ที่หน้าเพจเด้อออ

    ปล.ตรวจคำผิดแล้วค่ะ แต่อาจเบลอไปบ้าง ถ้ายังเจอคำผิดอยู่ทักมาเตือนได้นะคะ แหะๆ

     

     

     

     

     

     

    S
    N
    A
    P
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×