ย้อนกลับไปเมื่อ 7 ปีที่แล้ว ก่อนเข้าเมืองกรุง เราก็เป็นเด็กแบบว่าหน้าตาขี้เหร่มาก ผมยุ่ง หน้ามัน ตัวดำ เอาเป็นแบบว่าสุดๆ แฟนไม่เคยมี อายุ 18 ปีแต่งตัวไม่เป็นใส่แต่กางเกงยีน เสื้อยืด แต่โชคดีที่เรียนพอไปได้ และนิสัยดี อิ อิ อิ...พอถึงคราวต้องเลือกคณะก็เลยเอนติดคณะพยาบาลเกื้อการุณย์ แบบว่าจบมามีงานรองรับและเราก็ไม่ต้องมาเครียดเรื่องหางาน และแล้วเหตุการณ์ต่างๆก็ตามมา...
ก้าวเท้าเข้าเมืองกรุงแบบว่าไม่มีญาติสนิทอยู่ กทม. หรอกแต่ว่าที่เรียนมีหอพักเราก็เลยไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องนี้ ส่วนคิดถึงบ้านก็มีบ้างแต่ไม่ได้เป็นมากเพราะเราค่อนข้างเป็นคนเข้มแข็งและดูแลตนเองมาตลอด หอบผ้ามาอยู่หอและเรียนตอนมาเรียนแรกๆก็รู้สึกว่าทำไมมันเข้ากันนิสัยเราไม่ได้เลย ต้องเรียบร้อย รุ่นพี่น่ะอบรมให้ก้มหัวให้รุ่นพี่แบบว่าน้องผิดเสมออะไรแบบนี้ เราเป็นพวกไม่เชื่อคนแรกๆก็ไม่เชื่อ แต่ไม่แสดงออกว่าไม่เห็นด้วยน่ะแบบว่าจะดื้อแต่เงียบๆอ่ะ เพราะไม่อยากมีปัญหาเลยไม่คิดอะไรมาก พอมาสักพักก็ปรับตัวได้เพราะนิสัยที่ปลูกฝั่งส่วนใหญ่ก็เรื่องอดทนๆๆๆ ซึ่มมันก็จริง
เรื่องการเรียน.....มีหลายวิชา มีคนเคยบอกว่าพยาบาลเรียนเหมือนเป็ดซึ่งมันก็จริง ในบางส่วนอาจจะเพราะมีอาจารย์หลายท่านมาสอน ปี1 มีวิชา เคมี ฟิสิกส์ ชีวะ คณิต ภาษาอังกฤษ จุลชีวะ พยาธิวิทยา ชีวเคมี กายวิภาค เรียนอะไรๆเยอะมากแบบว่า เรียนผิวๆแต่ต้องรู้ๆไว้ เรียนสนุกดี เพราะมันหลากหลาย เราเลยค่อนข้างพอไปไหว แต่ก็ต้องตั้งใจอ่านหนังสือน่ะกลุ่มเพื่อนที่คบก็สำคัญต้องเลือกคบเพื่อนที่ตั้งใจเรียนและเราต้องมีความเป็นตัวของตัวเองส่วนหนึ่งน่ะ เพราะเราจะไม่ตามใครมากนี้คือสิ่งสำคัญในการใช้ชีวิตเมื่อไกลผู้ปกครอง พอขึ้นปี 2 ,3,4 การเรียนก็เริ่มเรียนพยาบาลมากขึ้น แต่ว่ามีทั้งด้านอายุรกรรม ศัลยกรรม วิกฤต เด็ก ทำคลอด และอื่นๆ ขอบอกว่าเป็นอะไรที่สนุกน่ะเรียนๆหลับๆไปเรื่อยๆ ไม่ต้องเครียดมาก ตกๆได้แต่อย่าบ่อยและเสียกำลังใจแล้วกัน ขอให้มีความรับผิดชอบในตัวเองให้มากๆ ความฝันก็จะกลายเป็นจริงได้
เรื่องการดูแลตัวเอง...พอเริ่มเรียนเราก็รู้สึกว่าเราไม่ค่อยดูแลตนเอง ก็เลยเริ่มเก็บตัวไม่ค่อยตากแดดแรงแบบเมื่อก่อน ผิวก็เลยสวยขึ้นเยอะตอนนี้ก็กำลังสวยอยู่ สิวเมื่อก่อนขึ้นเต็มหน้า ก็ไปหาหมอกำจัดสิวผิวเรานี่ก็เลยดีขึ้นหน้าก็ดี ด้วยเค้าโครงเดิมก็ดีไง ซึ่งเป็นผลมาจากการเรียนพยาบาลที่ทำให้เราได้เรียนรู้การดูแลตนเอง การรับประทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพ การออกกำลังกาย การพักผ่อนที่เพียงพอ การผ่อนคลายความเครียด การแต่งตัวที่เหมาะสม การมีสังคมที่ดีอะไรแบบนี้เป็นต้น นับเป็นสิ่งที่หาได้ยากในคณะอื่นๆ เพราะเมื่อเวลาผ่านไปเมื่อเราไปเทียบกับคณะอื่นๆเราจะสวยกว่าใครๆอิอิอิ
นี่เป็นเรื่องเบื้องต้นเดี๋ยวมาดูกันต่อว่าเป็นยังไง
การเรียนนั้นในช่วงขึ้นปี 2เป็นต้นไป จะมีการเรียนในหอผู้ป่วยหรือในโรงพยาบาลเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งเราจะได้เจอผู้ป่วยตัวจริง ให้การพยาบาลอย่างแท้จริง ฉีดยาจริง เรียนว่าทำทุกอย่าง ถ้าจะเทียบกันจริงๆปี 2นี้ก็อายุเพียง19 ปีเท่านั้นจึงทำให้เราแตกต่างจากเพื่อนคณะอื่นคือต้องเป็นผู้ใหญ่กว่าเพื่อน รู้จักที่จะดูแลตนเองและรู้จักที่จะดูแลคนอื่น เพราะเรียนๆไปจะมีคนมาปรึกษาปัญหาสุขภาพกับเรา และที่สำคัญเราจะได้เรียนรู้ชีวิตได้จากคนไข้ที่โรงพยาบาล เราจะได้รู้ปัญหาของประชาชน เพราะการดูแลผู้ป่วยที่จริงต้องดูแลทั้งครอบครัว ต้องลงลึกและเข้าใจ ซึ่งจากความชอบในจุดนี้จึงทำให้เราเลือกเรียนต่อในระดับปริญญาโททางด้านการพยาบาลสาธารณสุข (เดี๋ยวจะกล่าวในตอนต่อไป) มาต่อกันในช่วงปริญญาตรีก่อน การเรียนนี้นอกจากจะได้เรียนในโรงพยาบาลในแผนกต่างๆเพื่อลงลึกถึงการปฎิบัติว่ามีการดูแลแตกต่างกันอย่างไร เคยมีใครหลายคนที่ถามว่าพยาบาลมีหน้าที่อะไร บางคนก็อาจคิดว่าเป็นเพียงผู้รับใช้ให้คนไข้ หรือไม่ก็เพียงทำตามคำสั่งของแพทย์ อันนี้เราขอบอกว่าไม่จริง มันอยู่ที่เราจะเลือกเป็นอย่างไร เพราะโดยหน้าที่แล้วเราไม่ใช้สิ่งที่หลายคนเข้าใจผิด เพราะวิชาชีพพยาบาลมีความเป็นเอกเทศ มีบทบาทมีหน้าที่ และมีความสำคัญมากสำหรับคนไข้ เป็นผู้ปิดทองหลังองพระปฎิมา เหมือนในเพลงของคณะพยาบาลที่แสนซึ้งใครอยากฟังคงต้องลงเลือกคณะพยาบาลแล้ว การฝึกหัดนั้นยังต้องออกภาคสนาม ทั้งในชุมชน ในโรงพยาบาลจิตเวช ในศูนย์สาธารณสุข ซึ่งล้วนเป็นประสบการณ์ที่ล้วนสนุกสนานน่าจดจำทั้งสิ้น
สำหรับกิจกรรมที่ทำในช่วงเรียนนั้นมีมากมายทั้งออกค่าย จัดนิทรรศการ และสิ่งต่างๆที่หล่อหลอมให้เราพยาบาลเป็นคนกล้าแสดงออก เป็นผู้นำกล้าทำเมื่อถึงเวลาที่เหมาะสม เพื่อเป็นต้นกล้าที่แข็งแกร่งในสังคมที่มีการแข่งขันสูงขนาดนี้
เรื่องที่ได้จากการเรียนพยาบาลนั้นมีมากมายทั้งในตอนเรียนและหลังเรียนจบโดยเฉพาะข้อคิดในเรื่องของชีวิตคนเพราะคนไข้ในโรงพยาบาลนั้นส่วนใหญ่เมื่อเจ็บป่วยทางกาย ก็จะมีปัญหาทางด้านจิตใจตามมา และรวมไปถึงสิ่งแวดล้อม ครอบครัวของผู้ป่วยเอง จึงหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีความเครียด การได้อยู่โรงพยาบาลเราจะมองเห็นคนในแง่มุมต่างๆทั้งเกิด แก่ เจ็บ และตาย ฟังดูคล้ายเป็นเรื่องเศร้าแต่เราหลายคนคงไม่มีใครปฎิเสธว่าชีวิตคนนั้นล้วนหนีไม่พ้น โดยเฉพาะเราพยาบาลที่มองเห็นบางครั้งอาจกลายเป็นความชิน แต่เหนืออื่นใด เราจึงใช้ชีวิตไม่ประมาทเพราะ ชีวิตนี้สั้นเหลือเกิน
ข้อความที่โพสจะต้องไม่น้อยกว่า {{min_t_comment}} ตัวอักษรและไม่เกิน {{max_t_comment}} ตัวอักษร
กรอกชื่อด้วยนะ
_________
กรอกข้อมูลในช่องต่อไปนี้ไม่ครบ
หรือข้อมูลผิดพลาดครับ :
_____________________________
ช่วยกรอกอีกครั้งนะครับ
กรุณากรอกรหัสความปลอดภัย
ความคิดเห็น