คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : ❧ V I R G I N : 4 (100%)
4
แบคฮยอนสูดลมหายใจเข้าปอดเรียกกำลังใจตัวเอง แล้วค่อยๆหันกลับไปตามเสียงเรียกพร้อมกับรีบผละจากคริส สาวเท้าเดินเข้าไปโบกมือทักทายเด็กทั้งสามคน แต่เมื่อหันไปสบตากับเด็กหูกางที่กำลังยิ้มกว้างโชว์ฟันแท้ให้เขาอยู่ก็แอบใจกระตุกวูบลงหน่อยๆ คล้ายกับคนพึ่งทำผิดใหญ่หลวงมาซะอย่างนั้น
“บอกแล้วไม่ใช่เหรอว่าไม่ต้องมาระ...” / “แบคเดินเร็วจังไม่รอคริสเลย”
เสียงทุ้มหนาของชานยอลโดนเสียงที่หนาไม่ต่างกันพูดขัดขึ้นมาก่อนพร้อมกับเจ้าของร่างสูงที่เดินมาหยุดข้างๆกับแบคฮยอน รอยยิ้มกว้างของเด็กหนุ่มค่อยๆเลือนหายไปจนเกือบจะเป็นบึ้งตึง
ชานยอลรู้สึกไม่ชอบใจเมื่อได้ยินคำพูดที่ดูสนิทสนมกันเกินเพื่อนร่วมงานและไม่อยากจะยอมรับเลยว่าร่างเล็กตรงหน้าดูเหมาะสมกับร่างสูงใหญ่ที่ยืนอยู่ข้างกันมากแค่ไหน
นี่หรือเปล่าเหตุผลที่นายไม่รับปากจะดูแลฉันตลอดไปน่ะแบคฮยอน เพราะนายมีคนที่ต้องดูแลอยู่แล้วหรือเปล่า...
“แฟนขุ่นพี่แบคเหรอคะ? แหม เห็นอวบๆแบบนี้เสน่ห์แรงไม่เบาเลยนะคะ คิกๆ ><” เซฮุนแกล้งแซว
“จะให้ผอมโชว์สันกระดูกให้ใครดูละจ้ะน้องเซฮุน!” แบคฮยอนแกล้งยิ้มหวานแต่ส่งสายตาจิกใส่ไม่ยั้งได้ความหมายประมาณว่า อย่าเอาหุ่นมึงมาเป็นตัวกำหนดความอ้วนความผอมเลยอีฮุน หุ่นมึงนี่แถวบ้านกูเรียกว่าแย้แดดเดียว ยูโน๊ว์? แย้น่ะแย้! ที่เคยบอกว่ารู้สึกถูกชะตานั้นแบคฮยอนลืมไปหมดตั้งแต่มันเรียกชื่อเมื่อกี้นั่นแหละ โถ อีเด็กตุ๊ดสายตาดี =_=
“แหม เซฮงเซฮุนอะไร เรียกน้องฮุนก็พอข่าคนกันเอง พี่แบคนั่งเลยๆๆ ชานยอลอปป้าเขยิบก้นนิดนึงคะ พี่สุดหล่อจะยืนคิ้วหนาอีกนานมั้ยคะ ซิทดาวน์พลีสคะขุ่นพี่ ” เซฮุนร่ายยาวพร้อมกับชี้ไม้ชี้มือจัดแจงให้แบคฮยอนไปนั่งข้างๆกับชานยอลตามด้วยคริสที่นั่งข้างแบคฮยอนอีกที
บนโต๊ะเริ่มจะมีเสียงเฮฮาเมื่อเริ่มทำความรู้จักกันพอสมควร จะมีก็แต่เด็กหนุ่มร่างสูงที่เอาแต่มองคนข้างๆกำลังถูกเพื่อนชายที่ชานยอลพึ่งจะเคยเห็นหน้าเอาอกเอาใจอย่างกับเป็นแฟนกัน แถมดูเหมือนว่าร่างเล็กจะดูเต็มใจให้อีกฝ่ายดูแลเสียด้วย ทำไมชานยอลถึงรู้ว่าเต็มใจน่ะเหรอ? ยิ้มกว้างจนเหนียงออกแบบนั้นกลัวคนอื่นไม่รู้เลยสินะ!
ชานยอลไม่รู้ว่าอาการที่เป็นอยู่ตอนนี้จะเรียกว่าหึงหวงหรือเปล่า แต่เขาไม่อยากเห็นแบคฮยอนยิ้มกว้างให้ใคร ไม่ชอบให้แบคฮยอนพูดจาหวานหูกับคนอื่น และเขาก็ไม่ชอบเนื้อย่างที่กำลังเข้าปากของคนตัวเล็กด้วยเมื่อเห็นว่าเป็นเพื่อนชายที่ชื่อคริสกำลังป้อน ยิ่งแก้มย้วยๆนั้นขึ้นสีหลังจากรับเนื้อย่างเข้าปากแล้วชานยอลยิ่งไม่ชอบ!
“อ้าม~ อื้อหือออ เนื้อย่างของตัวเองหวานมากเลยอ่ะ แต่หวานสู้หน้าวอกๆด้วยแป้งแคร์ของตัวเองไม่ได้หรอกน้าส์ >0<”
“ตัวเองก็เว่อร์ตลอดเว เนื้อย่างไหม้ๆก็เกรียมไม่สู้สีผิวของตัวเองเหมือนกันแหละ แต่เขาชอบของดำนะ ./////.”
บทสนทนาเลี่ยนหูทำเอาชานยอลคิ้วกระตุกทั้งๆที่ตนเองก็ได้ฟังประโยคชวนอ้วกจากคู่รักสองสีจนเรียกว่าชินชาไปแล้วก็ได้ แต่ในวันนี้มันกลับขวางหูขวางตาไปหมด ยิ่งเห็นคนข้างๆกระหนุงกระหนิงกันยิ่งขัดเคืองลูกกะตาโตๆไปใหญ่
“เนื้อย่างก็มีให้แดกดันทำท่าจะแดกหัวพี่แบคเขาซะอย่างนั้น เป็นไรของมึงว้ะไอ้ชยอล?” จงอินที่เห็นความปกติคนแรกเอามือป้องปากกระซิบถามเพื่อนรักที่หน้างอคอหักเป็นปลาทูแม่กลองตั้งแต่รุ่นพี่ทั้งสองคนเข้ามานั่งด้วยแล้ว
“ถ้าปากว่างมากก็แดกๆไปอย่ายุ่ง” เสียงทุ้มที่ตอบกลับมาเบาๆพอกันทำเอาจงอินหน้ากระตุกในทันที
“เอ้า! ได้สัสได้ พูดงี้นะ“ จงอินใช้ตะเกียบชี้หน้าเพื่อนประมาณว่าฝากไว้ก่อนเถอะก่อนจะหันไปสนใจกับแฟนรุ่นน้องข้างๆต่อ
เมื่ออิ่มหนำจนจะยัดลงไปกันไม่ไหวแล้ว คริสก็ทำใจดีโชว์ป๋าเลี้ยงมื้อนี้กับทุกคนทำเอาเซฮุนกรี๊ดกร๊าดกับความเท่ของชายหนุ่มแต่ก็ได้แค่กรี๊ดในใจเท่านั้นแหละเมื่อหันไปเจอหน้าดำๆของแฟนหนุ่มกำลังมองมาอย่างจับผิด มีแต่ชานยอลที่ยังรู้สึกขัดเคืองใจไม่หาย ทำเป็นอวดรวย แม่กูเป็นเจ้าของบริษัทที่มึงทำงานอยู่ไม่อยากจะคุย ตอนนี้ยังได้แค่วันละสามพันวอนแต่เข้ามหาลัยแม่บอกจะให้บัตรมารูด อีกสองปีมาแข่งกันม้ะ เด่ออออออ -0-
“นายจะกลับพร้อมกันเลยมั้ย เดี๋ยวนั่งรถคริสกลับไปเอารถของฉันที่ทำงานก่อน” แบคฮยอนหันไปถามเด็กหนุ่มที่เป็นภาวะใบ้เฉียบพลันตั้งแต่เมื่อกี้แล้ว
“ไม่อ้ะ โตแล้วกลับเองได้” ชานยอลส่ายหน้าก่อนจะโบกมือคล้ายกับไล่คนตัวเล็กกลายๆ
“อื้ม อย่ากลับดึกละ” แบคฮยอนบอกทิ้งท้ายก่อนจะเดินออกไปพร้อมกับคนตัวสูงข้างๆ
เมื่อเห็นว่าแผ่นหลังทั้งสองพ้นประตูร้านออกไปแล้วชานยอลก็ถอนถายใจเฮือกใหญ่พร้อมกับเบะปากเหมือนเด็กโดนขัดใจ จงอินมองหน้าคนเป็นเพื่อนอย่างคนไม่เข้าใจแต่ก็ไม่กล้าถามอะไรมากเนื่องจากเมื่อกี้พึ่งโดนคำพูดของอีกฝ่ายตอกใส่หน้ามา แต่ยังมีอีกคนที่กลับเห็นว่ามันเป็นเรื่องสนุกที่ได้เห็นอาการเหมือนคนกินยาเบื่อของชานยอล
“หึงละสิ~” เซฮุนแกล้งพูดขึ้นมาลอยๆ และเหมือนว่าจะได้ผลอยู่พอสมควรเมื่อรุ่นพี่ตัวสูงมีอาการตอบรับอย่างรวดเร็ว
“อะไรใครหึง แค่เรียกชื่อเหมือนสนิทกันมาสิบชาติพี่ก็ไม่อะไรหรอกนะ ทำมาเป็นป้อนเนื้อย่างคงเห็นว่าอีตุ๊ดนั้นเป็นง่อยแดกเองไม่ได้มั้ง แม่มคิดว่าตัวเองหล่อใจดีมีเงิงมาจากแวนคูเวอร์แล้วจะมาเลี้ยงเนื้อย่างโชว์ป๋าให้คนอื่นง่ายๆแบบนี้เหรอวะ นี่ไม่ได้รู้สึกอะไรนะหมั่นไส้ล้วนๆ”
“อ๋อเหรอออออออออออออออออออออออออออออออออออออออออออออ” คู่รักสองสีประสานเสียงกันอย่างเพลียๆ ขนาดมึงไม่ได้รู้สึกอะไรยังบ่นเป็นหางว่าวแบบนี้ นี่ถ้ามึงรู้สึกจริงๆกูไม่ต้องตั้งเวทีให้มึงปราศรัยเลยหรือไง =.,=
“อะไรไม่ต้องมามองหน้า กูไม่ได้รู้สึกอะไรกับอีตุ๊ดนั้นจริงๆนะเว้ย!” ชานยอลบอกกับคนทั้งสองเสียงดัง แต่เมื่อเห็นว่าจงอินและเซฮุนยังมองอยู่แบบเดิมก็ถอนหายใจออกมายาวก่อนจะพูดต่อด้วยเสียงอ่อย
“พวกมึงนี่นะ...เออ! ไอ้เหี้ยช่วยกูด้วยครับ กูว้าวุ่นใจจนจะตายห่าอยู่ละ ._.”
“ก็แค่นั้นละ” จงอินและเซฮุนยังคงประสานเสียงอีกรอบก่อนที่จะเป็นจงอินที่พูดต่อ
“แล้วเขารู้ยังว่ามึงชอบเขาอ้ะ?”
“อ-ไอ้สัส เรื่องไรที่กูจะให้รู้ละ นักล่าเวอร์จิ้นอย่างกูต้องมาพังเพราะอีตุ๊ดอวบระยะสุดท้ายแบบนั้น รู้ถึงไหนอายถึงนั้น -3-”
“กากอีกแหละ” จงอินส่ายหัวไปมาเหมือนจะบอกเพื่อนว่ามึงมันไม่ได้เรื่อง นั้นยิ่งทำให้ชานยอลขมวดคิ้วใส่ไม่พอใจที่อีกฝ่ายทำเหมือนกับว่าตนเองนั้นเป็นเด็กน้อยใสๆที่ดันไปแอบรักรุ่นพี่ นี่ไม่ใช่ฟิค12+นะครับ กูผ่านเรื่องอย่างว่ามาโชกโชนแต่ดันมาตกม้าตายกับตุ๊ดอวบๆคนนึง ชีวิตจริงยิ่งกว่าซีรี่ย์อีกสัสเอ้ย!
“ชานยอลอปป้ากำลังอยากให้ขุ่นพี่แบคฮยอนหันมาสนใจใช่มั้ยละคะ?”
ประหนึ่งเทพธิดาพยากรณ์ที่รู้ใจของชานยอลเป็นยิ่งนัก เซฮุนยกยิ้มที่มุมปากโชว์เหนือเมื่อเห็นสายตาวิ้งวับเดาว่าประโยคเมื่อกี้คงโดนใจรุ่นพี่ตัวโตไม่มากก็น้อย ชานยอลคว้าหมับเข้าที่มือเซฮุนก่อนจะเขย่าไปมาบ่งบอกให้รู้ว่านี่แหละคุณค่าที่ปาร์คคู่ควร
“ไอ้สัส ปล่อยเลยปล่อย อย่ามารุงรังกับแฟนกู” จงอินตีแปะๆเข้าที่มือชานยอลอย่างไม่พอใจ เพื่อนกับเมียมันคนละเรื่องกันครับ เหี้ยยอลอย่าเนียน -_-;;
“เซฮุนก็เห็นไม่ใช่เหรอว่าไอ้เงิงบานนั้นมันตามจีบอีตุ๊ดอ้วนของพี่อยู่อ้ะ” ชานยอลหันไปจิ๊ปากใส่จงอินก่อนจะหันกลับมาคุยกับเซฮุน
“ตุ๊ดอ้วนของพี่ กล้าพูดนะมึงอะ ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆ” จงอินแกล้งแซวก่อนจะหัวเราะออกมาเสียงดังเมื่อเห็นสีหน้าหงุดหงิดของชานยอล ส่งผลให้เซฮุนต้องตีแขนแฟนตัวเองไปทีนึงข้อหาที่เล่นไม่รู้เวลาก่อนจะหันไปคุยกับชานยอลด้วยสีหน้าจริงจัง “เห็น...แล้วก็เห็นอีกด้วยว่าพี่แบคก็สนใจพี่คนนั้นเหมือนกัน”
“นั่นไง แล้วพี่จะทำยังไงละเซฮุน?”
“ทำ....ใจ ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ”
ชานยอลเอามือกุมหน้าด้วยความหงุดหงิด เขากำลังวุ่นวายใจเป็นอย่างมากตอนแรกก็เฉยๆแหละแต่พอเห็นว่าแบคฮยอนมีคนอื่นมาขายขนมจีบก็รู้สึกเหมือนกับว่าจะโดนแย่งความสนใจไป วันนี้มันไม่ใช่วันของชานยอลเลยสินะ ทำข้อสอบก็มั่วยังจะมาอกหักตั้งแต่ยังไม่เริ่มอีก ก่อนกลับบ้านสงสัยชานยอลได้แวะมินิมาร์ทซื้อแห้วกระป๋องไปแทะอยู่บ้านแล้วละ ชีวิตจริงยิ่งกว่าซีรี่ย์กูยังย้ำคำนี้อยู่ ไอ้สัสนี่มันคำคมในชีวิตประจำวันของกูเลย ฮืออออออ ToT
“เอาน่ามึง มันยังมีวิธีอื่นอีกเยอะแยะให้มึงเลือก” จงอินพูดปลอบใจชานยอล
“แล้ววิธีไหนละ?” ชานยอลเงยหน้าขึ้นมาถามอย่างมีความหวังก่อนจะเป็นเซฮุนที่พูดประโยคถัดมา
“ก็ชวนพี่แบคไปทะเลสิคะอปป้า บรรยากาศดีเหมาะแก่การเสียตัว”
“ทำไมกลับบ้านช้าละชานยอลมัวแต่ไปเที่ยวที่ไหนมา?”
เมื่อชานยอลก้าวเท้าเข้าห้องนอนตัวเองได้ไม่กี่ก้าวเสียงเล็กก็ชิงถามขึ้นมาก่อน ตาคมมองร่างเล็กที่กำลังนั่งอยู่บนเตียงก่อนจะเหลือบมองนาฬิกา ก็เห็นว่าสามทุ่มกว่าแล้วคงไม่แปลกที่อีกฝ่ายจะเอ่ยถาม แต่จะให้เขาตอบว่าไงละ ในเมื่อสาเหตุที่ทำให้ต้องมาช้าขนาดนี้ก็เพราะมัวแต่ปรึกษาเรื่องของเจ้าตัวนั่นแหละ พูดถึงตรงนี้แล้วชานยอลก็ยิ่งนึกถึงคำปรึกษาของแฟนเด็กไอ้จงอินมัน เจ้าเด็กนั่นเสนอความคิดที่ทำให้เขาต้องหน้าร้อนแปลกๆ ทั้งๆที่มันเป็นเรื่องปกติในการใช้ชีวิตของเขาแล้วด้วยซ้ำ
“ยุ่ง!”
ชานยอลแกล้งทำเสียงเข้มกลบเกลื่อนความรู้สึกแปลกๆของตัวเองก่อนจะรีบพาหน้าแดงๆเดินเข้าห้องน้ำไป
“เด็กบ้า..คนเขาอุตส่าห์เป็นห่วง จำไว้เลยนะทีหลังไปไหนฉันจะไม่ถามนายซักคำเลย!” ปากเล็กยื่นออกมาบ่นเสียงเล็กเสียงน้อยตามหลังร่างสูงไป แบคฮยอนมองแผ่นหลังกว้างของชานยอลพร้อมกับทำตาโตเมื่อคิดอะไรบางอย่างได้
อาการแบบนี้หรือว่าจะงอนเราเรื่องที่ร้านเนื้อย่าง? บ้า! แล้วจะมางอนทำไมละไม่ได้เป็นอะไรกันซักหน่อย...
แบคฮยอนขมวดคิ้วกับความคิดบ้าๆของตัวเอง ไม่รู้ว่าเผลอคิดอะไรไปนานเท่าไหร่แล้วแต่ตอนนี้ร่างสูงของเด็กหนุ่มก็เดินออกมาจากห้องน้ำแล้ว คนตัวเล็กมองตามร่างสูงโปร่งที่เดินไปมามีบางครั้งที่ชานยอลหันมาสบตาเข้าเต็มๆแต่เจ้าตัวก็ยังทำเฉย แถมยังก้มหน้าก้มตาเหมือนหนีหน้ากันแปลกๆ
ไอ้เด็กบ้า.. ไม่อยากจะคิดว่างอนหรอกนะแต่อาการแบบนี้เด็กอนุบาลยังรู้เลยว่ากำลังงอนน่ะ
คนตัวสูงอยู่ในชุดนอนลายหมีสีฟ้าน่ารักที่แม่มักจะซื้อมาให้ใส่ มันอาจจะดูน่าอายไปหน่อยกับเด็กหนุ่มอย่างเขาแต่ชานยอลคิดว่าอะไรที่แม่ซื้อมาให้มันก็ดีสำหรับเขาหมดละ ร่างสูงพาตัวเองขึ้นมานั่งบนเตียงพร้อมกับหยิบโน๊ตบุ๊คคู่ใจมาวางบนตัก ชานยอลรู้ว่าการกระทำทุกอย่างของตัวเองกำลังอยู่ในสายตาของแบคฮยอนที่นั่งมองเขาไม่วางตา แต่ชานยอลก็ยังทำเป็นไม่เห็นแถมยังหยิบหูฟังขึ้นมาใส่เพื่อตัดขาดจากโลกภายนอก
แบคฮยอนมองการกระทำของชานยอลแล้วรู้สึกหงุดหงิดใจ จะให้เขาทำยังไงละเขาไม่ได้ทำอะไรผิดมาซักหน่อย ชานยอลต่างหากละที่กลับมาบ้านดึกดื่นคนที่ต้องโกรธมันต้องเป็นเขาไม่ใช่หรือไง จนแล้วจนรอดแบคฮยอนก็ทนต่อการนิ่งเฉยของชานยอลที่มีต่อตนเองไม่ได้จึงเป็นฝ่ายเข้าหาก่อน
“นี่..” ไม่เรียกเปล่านิ้วเรียวสวยยังยื่นไปจิ้มๆที่แขนของอีกคนอย่างกล้าๆกลัวๆ
“...”
เมื่อเห็นว่าชานยอลยังทำท่าทีตั้งใจฟังเสียงอย่างอื่นในโน๊ตบุ๊คอยู่ แบคฮยอนแกล้งบีบเสียงเล็กเสียงน้อยเรียกแบบอ้อนๆพร้อมกับย้ายนิ้วเรียวขึ้นไปจิ้มที่แก้มใสๆของเด็กน้อยขี้งอนแทน
“ชานยอลอา~”
“...”
เมื่อไม่ได้ยินเสียงตอบรับจากเด็กกามที่ท่านเรียกแบคฮยอนก็เริ่มจะหงุดหงิดมากกว่าเดิม ร่างเล็กกลอกตาไปมาอย่างเอือมระอาก่อนจะบอกกับเด็กหนุ่มด้วยน้ำเสียงเนือยๆ
“อย่าทำตัวเป็นเด็กขี้งอนน่าอีเด็กหูแมมมอธ แล้วนี่นายฟังเสียงสูญญากาศหรือไง?” ไม่พูดเปล่ายังหยิบสายหูฟังที่แอบถอดตั้งแต่แรกขึ้นมาชูให้เห็นว่ามันไม่ได้เสียเข้ากับโน๊ตบุ๊คตั้งแต่แรกแล้ว
“มีอะไร?” แหนะ! มาทำเสียงเข้มใส่อีก
แบคฮยอนไม่ตอบแต่ทำเพียงยู่ปากพร้อมกับถอนหายใจเฮือกใหญ่ ชานยอลมองใบหน้าเล็กแล้วขมวดคิ้วเป็นปม ไม่เข้าใจว่าอีกฝ่ายจะสื่ออะไรกับตนเอง
“ปวดขี้ก็ไปขี้ที่ห้องน้ำ มานั่งทำหน้าเหมือนคนท้องผูกอยู่ได้” ชานยอลแกล้งขมวดคิ้วบอกเสียงดุแล้วเกือบจะหลุดขำออกมาเมื่อเห็นตาตี่ๆของคนตัวเล็กเบิกกว้างอย่างที่ไม่เคยเห็นมาก่อน
“ไอ้เด็กบ้า! เลิกกวนประสาทฉันซักนาทีมันจะตายหรือไงห้ะ”
“มันก็เหมือนกับที่นายเลิกเป็นตุ๊ดไม่ได้น่ะแหละ” ชานยอลตอบหน้าตาย
ไอ้-ไอ้เด็กหูไม่หยุดการเจริญเติบโต ขอให้หูแกใหญ่กว่าช้างดัมโบ้!
“ไม่งงไม่ง้อมันแล้ว! ทำฉันคลั่งได้ตลอดเวลาเลยนะให้ตายเถอะ” แบคฮยอนกระแทกเสียงใส่หน้าชานยอลก่อนจะสอดตัวเข้าไปในผ้าห่มผืนหนาแล้วจัดการหันหลังให้กับอีกคนทันที
เด็กหนุ่มมองแผ่นหลังเล็กแล้วหัวเราะหึในลำคอ พร่ำใส่หูทุกวันว่าเขาเด็กอย่างนั้นเด็กอย่างนี้ ใครกันแน่ที่เด็ก ไม่ดูตัวเองก่อนจะพูดเลยนะอีตุ๊ดอ้วนเอ้ย!
“อาทิตย์หน้าจะไปเที่ยวทะเลกับไอ้จงอิน เซฮุนก็ไปด้วย” พูดออกไปแล้ว...
ตาคมเหลือบมองร่างเล็กที่ยังนอนนิ่งอยู่เหมือนเดิม คล้ายกับว่าไม่ได้ยินเรื่องที่เขาพึ่งพูดไปเมื่อกี้จึงขยับกายเข้าไปใกล้คนตัวเล็กมากกว่าเดิม ปากอิ่มเลื่อนไปชิดที่ใบหูเล็กก่อนจะเอ่ยเสียงเรียบด้วยประโยคเดียวกัน “อาทิตย์หน้าจะไปเที่ยวทะเลกับไอ้จงอิน เซฮุนก็ไปด้วย”
“..!” แบคฮยอนเผลอสะดุ้งตัวโยนไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะกล้ามาประชิดตัวแบบนี้ รีบหันกลับไปเพื่อจะต่อว่าอีกคนแต่ก็ต้องชะงักอยู่นานเมื่อหันกลับมาแล้วพบว่าใบหน้าของเด็กหนุ่มอยู่ห่างจากหน้าตัวเองแค่ฝ่ามือกั้น
“ทำบ้..า...อะไร” แบคฮยอนรู้สึกว่าเสียงของตัวเองเบามากๆ เบาจนได้ยินเสียงหัวใจของตัวเองที่กำลังเต้นระรัวจนแอบหมั่นไส้
เต้นถูกเวลาจังเลยนะมึง...
แบคฮยอนพึ่งเข้าใจวันนี้ว่าไอ้ฉากหนังไทยที่พระเอกนางเอกจ้องตากันเนิ่นนานจนน่ารำคาญ จากที่เคยคิดว่าทำไมไม่รีบแยกย้ายกันไปกลับมานั่งจ้องกันอยู่ได้ แบคฮยอนพึ่งเข้าใจเองว่า...ใกล้จนอยากจะสัมผัสน่ะมันเป็นยังไง
พระเอกนางเอกไม่ได้ตกใจจนลืมแยกออกจากกัน แต่ทั้งสองกำลังคิดห้ามใจตัวเองไม่ให้สัมผัสอีกฝ่ายต่างหากละ และตอนนี้ดวงตาคม สันจมูกโด่งและปากอิ่มของคนตรงหน้าทำให้เขาเองกำลังหักห้ามใจตัวเองอยู่ ไม่รู้ว่าทำไมยิ่งห้ามก็เหมือนยิ่งเข้าใกล้กันเรื่อยๆ จนในที่สุดปลายจมูกมนของทั้งคู่ก็แตะกัน...
ยิ่งจ้องตาอีกฝ่ายแบคฮยอนยิ่งหักห้ามใจของตัวเองไม่ได้ และชานยอลเองก็คงจะรู้สึกแบบเดียวกันถึงได้เป็นฝ่ายยื่นหน้าเข้ามาทำให้ช่องว่างระหว่างริมฝีปากของเขาทั้งคู่หายไป ริมฝีปากบดเบียดกันแนบแน่น สัมผัสนุ่มละมุนทำให้ชานยอลเป็นฝ่ายส่งลิ้นหนาผ่านกลีบปากบางเข้าไป...
และนั่นทำให้ร่างเล็กรู้สึกตัวก่อนจะดันหน้าอกของชานยอลออกอย่างแรง จนร่างสูงเองที่ยังไม่ทันได้ตั้งตัวผงะแล้วแน่นิ่งไปอีกคน
“มะ..เมื่อกี้นายว่ายังไงนะ” แบคฮยอนที่รู้สึกหน้าร้อนวูบวาบกับจังหวะการเต้นของหัวใจที่ดูแปลกไป รีบเอ่ยถามขึ้นมาเพื่อกลบเกลื่อนเรื่องที่เผลอให้อีกคนฉวยโอกาสไปได้ หลบสายตาวูบลงเมื่อดันเผลอไปสบตาของคนตรงหน้าเต็มๆ
“ห้ะ? อ๋อ คือ..คือจะบอกว่าอาทิตย์หน้าจะไปทะเลกับจงอิน เซฮุนก็ไปด้วย...” ชานยอลพยายามรักษาน้ำเสียงของตัวเองให้เรียบนิ่งที่สุด แลบลิ้นเลียริมฝีปากอย่างคนประหม่าแต่นั่นก็ยิ่งทำให้แบคฮยอนหน้าแดงเข้าไปใหญ่
ไอ้ลิ้นเมื่อกี้มันเข้ามาในปากของเขาด้วยอ้ะ!
“ละ..แล้วมาบอกฉันทำไมละ อยากไปก็ไปสิ”
“ก็...อยากให้นายไปด้วย” จบคำพูดของเด็กหนุ่มที่นอนจ้องตาตัวเองอยู่แบคฮยอนก็หายใจผิดจังหวะทันที ใช้เวลาคิดไม่นานนักแล้วตอบออกไปเสียงแผ่ว
“...ไปก็ได้”
ห้องนอนตกอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่ได้เรียกว่าอึดอัดแต่เป็นอาการขัดเขินของคนทั้งคู่มากกว่า เมื่อเห็นว่าไม่มีอะไรจะต้องคุยกันแล้วแบคฮยอนจึงบอกฝันดีคนที่นอนอยู่ข้างแล้วหันหลังให้ในเวลาต่อมา ชานยอลก็รู้สึกโล่งใจไม่แพ้กัน อย่างน้อยแบคฮยอนก็ไม่ได้รังเกียจสัมผัสของเขา เอาเป็นว่าแผนของแฟนไอ้ดำยังถือว่าใช้งานได้อยู่
เวลาหนึ่งอาทิตย์เวียนมาถึงอย่างรวดเร็ว ชานยอลและแบคฮยอนต่างก็กำลังเตรียมสิ่งของไปเที่ยวทะเลใส่กระเป๋าของตัวเอง ร่างสูงของเด็กหนุ่มเดินไปหยุดอยู่ที่ข้างเตียง พยายามชั่งใจว่าจะเอาของสิ่งนี้ไปดีหรือเปล่า ความคิดตีกันในสมองจนน่าปวดหัว ดังนั้นชานยอลจึงเลือกที่จะตามใจตัวเองซะมากกว่า
ชานยอลย่อตัวลงไปที่ตู้เล็กๆข้างเตียงนอนฝั่งของเขาเอง แอบชำเลืองมองอีกคนที่กำลังง่วนอยู่กับการจัดพวกกระปุกครีมใส่กระเป๋าของตนเอง คงไม่มีเวลามาสนใจเขาแน่ๆ ไม่มีโอกาสไหนเหมาะเจาะเท่ากับตอนนี้แล้ว มือหนาค่อยๆยื่นออกไปหมายจะหยิบสิ่งของที่ตัวเองต้องการ
“อย่าแม้แต่จะคิดอีเด็กบ้ากาม!”
เสียงนิ่งๆที่แทรกเข้ามาขัดจังหวะทำให้ชานยอลเอามือที่ชะงักค้างเมื่อครู่ขยี้หัวตัวเองด้วยความหงุดหงิด มันจะมาตาดีอะไรตอนนี้เล่า!
“เอาไปซักแผ่นสองแผ่นจะเป็นไรไป นี่มันน้องมิยาบิรุ่นลิมิเต็ดเลยนะ! เอ่อ..ใส่ชุดบิกินี่ด้วยเข้ากับสถานที่ที่เราจะไปอีกต่างหาก...” คำพูดแรกๆก็เสียงดังฟังชัดดีไปๆมาๆท้ายประโยคกลับอ่อยลงทันทีเมื่อเห็นสายตาคมกริบจากคนตัวเล็ก
คิดว่าน่ารักแล้วจะทำคนอย่างปาร์คชานยอลใจเต้นตอนไหนก็ได้อย่างนั้นเหรอ คิดว่าทำหน้าโกรธแล้วน่ารักมากป้ะ?
“ลิ..ลิมิเต็ดน่ะเข้าใจป้ะ” ชานยอลพูดซ้ำอีกทีเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายยังมองหน้าเขานิ่งๆอยู่
“ลิมิเต็ดบ้านนายน่ะสิ! ไหนบอกว่าจะไปเที่ยวพักผ่อนแล้วจะขนไอ้ของพวกนี้ไปทำไมห้ะ!”
หื้ม...บอกเลยว่าความรู้สึกเหมือนกำลังฟังเมียบ่นกระจุกกระจิกยังไงก็ไม่รู้ สงสัยต้องไปคิดใหม่ละ น้องปาร์คว่าไม่เวิร์กที่จะเอาตุ๊ดอ้วนแถมยังขี้บ่นมาเป็นเมีย
“ก็พักผ่อนไง ของพวกนี่แหละที่ทำให้ฉันได้ผ่อนคลายอย่างดีเยี่ยมเลยละ” เหมือนใส่โซฟีหลับสบายตลอดคืนอย่างไงอย่างงั้น
“ไอ้เด็กนี่..โตมาในสภาพแวดล้อมแบบไหนกันนะ ฝักใฝ่กับเรื่องแบบนี้อยู่ได้” แบคฮยอนส่ายหัวไปมาเหมือนแม่ที่ผิดหวังในตัวลูกชาย(?)
“มันก็คล้ายๆกับที่นายบ้าไอ้พวกสารเคมีกระปุกนั่นไงละ อยากหน้าใสก็บอกสิฉันมีครีมสูตรธรรมชาตินะ ให้นายใช้ได้ฟรีๆเลย~”
แบคฮยอนขมวดคิ้วกับคำพูดกำกวมของอีกฝ่าย แต่เมื่อเห็นชานยอลทำตากรุ่มกริ่มใส่ก็ตาลุกวาวอ้าปากค้าง ก็โตจนอายุยี่สิบสี่ปีแล้วไม่จะไม่รู้ว่าไอ้ ‘ครีมสูตรธรรมชาติ’ ที่อีกฝ่ายพูดหมายถึงอะไร
“ทะลึ่ง!”
เสียงเล็กแว้ดกลับไปก่อนจะลุกขึ้นยืนแล้วแบกกระเป๋าตัวเองเดินออกจากห้องไปในทันที ทิ้งให้ชานยอลนั่งหัวเราะกับความสำเร็จของตัวเอง ในที่สุดก็แกล้งให้พูดไม่ออกได้บ้างละ
เดี๋ยวก็ได้ใช้ครีมสูตรธรรมชาติของพี่ปาร์คคนหล่อแน่ละอีตุ๊ดอ้วน~
ชานยอลเดินลงมาจากบนห้องก็เห็นว่าแบคฮยอนยืนคุยกับแม่ของตนเองอยู่ ขายาวรีบพาตัวเองเข้าไปแทรกบทสนทนาของทั้งสองคน ดูเหมือนบทสนทนาจบลงทันทีเมื่อเขาเข้าไปแทรก
“รีบไปรีบกลับนะน้องปาร์ค อย่าไปดื้อให้พี่แบคกี้เขาปวดหัวละ”
คำพูดเชิงหยอกล้อของมารดาแถมเสียงหัวเราะเบาๆจากคนตัวเล็กข้างๆทำให้ชานยอลชักสีหน้าด้วยความไม่พอใจทันที
“ดื้ออะไรกันครับแม่ น้องปาร์คโตแล้วนะ”
“จ้ะ โตแล้วก็โตแล้ว น้องปาร์คของแม่โตจนแม่จะตามไม่ทันเลยละจ้ะ”
คำพูดในตอนท้ายประโยคของแม่ตัวเองทำเอาชานยอลคิ้วกระตุกแทบจะทันที แม่ของเขาทำเหมือนกับว่าไปรู้เรื่องอะไรดีๆเกี่ยวกับเขามาอย่างนั้นละ น้องปาร์คของแม่เป็นเด็กดีเสมอต้นเสมอปลายเลยนะครับ!
แต่บางที...ตอนไปเที่ยวทะเลน้องปาร์คขอดื้อกับอีตุ๊ดอ้วนหน่อยละกัน
คิดถึงกันบ้างป่าว~
หายไปนานเลยอ้ะยังจะมีคนอ่านของเค้าอีกม้ะ? ฮือออออออ ;_;
หายไปเพราะพี่เอาโน๊ตบุ๊คไปลงโปรแกรมใหม่ครับ
ล้างหมดทุกอย่างไม่เหลือทั้งฟิคทั้งรูป
อยากร้องไห้แต่กลัวเสียภาพพจน์ .กลั้นไว้ ฮึบ T^T
#อ่านแล้วเม้นเป็นกำลังใจเค้าหน่อยนะ
ขอบคุณคนที่ยังติดตามอยู่ แต๊ง~
+ไม่มีไรแค่ชอบเม้นนี้ 55555555555
#น้องฮุนไม่แรดนะ ฮุนใสๆ5555555555
ความคิดเห็น