คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : ❧ V I R G I N : 3 (100%)
3
ตอนนี้เป็นอะไรที่ชานยอลอยากจะหายตัวได้มากที่สุด ในอ้อมกอดก็เป็นตุ๊ดอ้วนที่กำลังเอาหน้าบี้หัวนมตัวเองอยู่ ข้างๆก็เป็นผู้หญิงนางหนึ่งที่ตัวเองพึ่งเสร็จกิจกามมาด้วยหมาดๆ ไม่รู้ว่าเขารู้สึกเองไปหรือเปล่าว่ามือของแบคฮยอนที่จับแขนตัวเองไว้อยู่มันบีบแน่นจนรู้สึกได้
“ปล่อยมือมันเดี๋ยวนี้นะน้องชานยอล!!” เสียงแหลมๆที่เคยน่าฟังตอนกำลังครางอยู่ใต้ร่างของเขาแต่ตอนนี้ชานยอลกลับรู้สึกว่ามันน่ารำคาญเสียมากกว่า
แค่แหกปากไม่พอยังถลามาดึงตัวแบคฮยอนให้ห่างจากตัวเขาเองอย่างแรงจนแบคฮยอนแทบล้มลงไปนั่งกับพื้น แต่ตอนนี้ชานยอลกำลังคิดว่าจะไว้อาลัยให้กับคู่นอนของตัวเองยังไงดี
อย่าลืมสิว่าแบคฮยอนเป็นฮับกิโดสายดำและเขาก็เคยเกือบจะแขนหักมาแล้วด้วย
มานับถอยหลังกันเถ้อะ
3
2
1
“กรี๊ดดดดดดดดด อีบ้าทำอะไรฉัน!!!!!”
เสียงกรีดร้องดังยิ่งกว่าชะนีออกลูกเป็นของใครไปไม่ได้นอกจากคู่นอนของชานยอลเองนั้นละ แบคฮยอนที่เหมือนตั้งหลักได้อยู่ดีๆก็พุ่งเข้ามาจับแขนแล้วไพล่หลังแบบที่ชานยอลเองเคยโดนและชานยอลก็รู้ด้วยว่ามันเจ็บมากแค่ไหน
“ไม่จับทุ่มก็บุญแค่ไหนแล้ว เสียงเธอมันน่าเอาไปใช้ในวันฮัลโลวีนจริงๆยัยชะนีหลงฝูง!” แบคฮยอนตะคอกใส่หน้าขาวๆที่สังเคราะห์มาจากแป้งล้วนๆก่อนจะผลักร่างบางของผู้หญิงคนนั้นให้ห่างจากตัวด้วยท่าทีรังเกียจ
“น้องชานยอลดูมันว่านูน่าสิ มันเป็นใครกล้าดียังไงมาทำกับนูน่าแบบนี้!” ร่างบางรีบวิ่งไปหลบหลังของชานยอลก่อนจะใช้หน้าถูไถไปกับกล้ามแขนอย่างออดอ้อน
“ตอบไปสิว่าฉันเป็นใคร!” แบคฮยอนที่ยืนกอดอกหันไปพูดกับชานยอล
“ก็แค่ตุ๊ดน่ารำคาญคนนึง” ชานยอลแกล้งพูดหน้าตายใส่พร้อมกับมองตาของคนตัวเล็กกว่าไปด้วย
“ตอบใหม่ให้ชัดๆอีกทีสิ...น้องปาร์ค” แบคฮยอนยกยิ้มอย่างคนเหนือกว่าแล้วแกล้งยกโทรศัพท์ขึ้นมา ชานยอลมองภาพนั้นด้วยความหงุดหงิด
ดวงตาวิบวับเหมือนลูกหมาเจอเจ้าของของคนตรงหน้ากำลังทำให้ชานยอลหงุดหงิดและยิ่งเห็นสายตาที่สื่อมาว่าจะให้เขาตอบว่าอะไรชานยอลยิ่งอยากกลั้นหายใจตายมันซะตรงนี้เลย
“ตกลงว่าเป็นอะไรกันแน่คะน้องปาร์ค!”
โว้ยยยยย อีเจ๊นี่ก็เร่งจัง อยากรู้มากใช่ป้ะ ได้!
“เป็นเมีย!”
“กรี๊ดดดดดด แล้วไหนน้องชานยอลบอกว่ายังไม่มีแฟนไง แล้วที่เรามีอะไรกันละน้องชานยอล!!” เสียงแหลมๆเริ่มกรีดร้องขึ้นมาอีกครั้งก่อนจะคว้าท่อนแขนของชานยอลมาเขย่าไปมา
“ก็มันไม่มีแฟนมีแต่เมียไง ชัดมั้ย? อ่อ! ส่วนเรื่องนั้นฉันไม่ถือนะเพราะผัวฉันชอบเอามั่วอยู่แล้ว กลับบ้านไปก็ไปหาหมอบ้างนะเผื่อเป็นเอดส์ขึ้นมาจะได้ทำใจได้ทัน หึ!” แบคฮยอนเดินเข้าไปดึงแขนของชานยอลออกมาแล้วเอาหน้าตัวเองถูไถเลียนแบบมารยาของอีกฝ่ายบ้าง
ชานยอลได้แต่ยืนนิ่งให้อีกฝ่ายกระทำด้วยความเหนื่อยใจเพราะไม่สามารถห้ามอะไรได้แล้วจริงๆ อะไรในตอนนี้ไม่สำคัญเท่ากับความปลอดภัยในชีวิตของเขาละ ถ้าแม่รู้ว่าตนเองมานอนกกหญิงอยู่โรงแรมมีแต่ตายกับตายเท่านั้นละ
และชานยอลยังอยากใช้ชีวิตอย่างสงบสุขอยู่
“ไอ้..ไอ้บ้าปาร์คชานยอล แกมันเป็นผู้ชายเฮงซวยที่สุดเลย!”
เพี๊ยะ!!
แรงตบจากฝ่ายหญิงทำให้ชานยอลที่ยืนเอ๋ออยู่นานได้สติ มองร่างเล็กที่ยืนชี้หน้าด่าตนเองอยู่ปาวๆด้วยแรงโทสะก่อนจะยื่นแขนไปบีบแขนเล็กแล้วกระชากเข้ามาหาตัวอย่างแรง
“นี่คิดว่าตัวเองเป็นนางเอกละครเหรอ? เออ! ฉันมันเฮงซวยแล้วเธอมานอนอ้าขาให้ฉันเอาทำไมวะครับ..หื้ม?”
แบคฮยอนมองภาพตรงหน้าด้วยความตกใจ ไม่รู้จะสงสารหรือสมน้ำหน้าชะนีร่างบางตรงหน้าดี แต่เห็นแววตาที่เจือไปด้วยความโกรธของชานยอลแล้วก็แอบขนลุกตามได้เหมือนกัน
ร่างบางของหญิงสาวสั่นไปด้วยความโกรธเพราะไม่รู้จะเถียงชานยอลยังไงดีเพราะที่อีกฝ่ายพูดมามันก็ถูกต้องทุกประการจึงทำให้แต่ส่งเสียงฮึดฮัดรีบแงะมือหนาของคนตรงหน้าก่อนจะหอบข้าวหอบของแล้ววิ่งออกไปจากห้องทันที
“อย่าลืมกลับไปหาหมอด้วยนะ เตือนเพราะหวังดีหรอกยะ ชิ!” แบคฮยอนตะโกนไล่หลังเล็กๆที่พึ่งวิ่งออกไปก่อนจะหันกลับมาแล้วเจอสายตาของชานยอลที่มองอยู่ก่อนแล้ว “มีอะไร?”
“อยาก”
“ห้ะ! อยากอะไรของนาย?” แบคฮยอนขมวดคิ้วเป็นปมด้วยความงุนงง มันอยากอะไรของมันวะ อยากกินข้าว? เหนื่อยแล้วหิวงี้เหรอ -_________-?
“อยากเอา”
“ห๊า! พูดบ้าอะไรของนาย” แบคฮยอนโวยวายเสียงดังใส่ชานยอลที่อยู่ดีๆก็เดินเข้ามาหาเขาอย่างช้าๆ แบคฮยอนเคยดูในหนังนะ เดินเข้ามาแบบนี้ต้องการอะไรแบบนั้นใช่มั้ยอีเด็กบ้า! ไม่ให้โว้ย!!
“ไม่บ้า นี่อารมณ์ขึ้นตั้งแต่เอาหน้าแนบนมเมื่อกี้ละ”
ห้ะ? แปปนะ อีเด็กเอ๋อนี่มันมีอารมณ์ง่ายไปป้ะ สมมุติมึงกอดกับใครมึงก็จะเอาเขาเลยอย่างงี้อ้ะเหรอ? =_____=
“ไอ้..ไอ้เด็กหื่นอย่ามาทำรุ่มร่ามใส่ฉันนะเว้ย”
“เอ้า! ก็เมื่อกี้เห็นบอกเป็นเมียฉันอยู่ไม่ใช่รึไง?” ยัง ยังจะมายิ้มมุมปาก คิดว่าเท่ไงวะ?
“ฉ..ฉันแกล้งพูดไปงั้นละ”
“ลองมาเป็นเมียจริงๆดูมั้ยละเผื่อจะติดใจ”
“ว้ากกกกกกกกกก ไม่เป็นเว้ย ไม่อาวววววววววววววววว” แบคฮยอนแหกปากโวยวายสุดเสียงเมื่อตัวเองถูกชานยอลจับยกอุ้มพาดบ่าแล้วพาเข้าไปในห้องนอนที่ตัวเองพึ่งจะเสร็จเรื่องอย่างว่ามาหมาดๆ
ชานยอลวางแบคฮยอนลงบนเตียงอย่างแรงแทบจะเรียกว่าเหวี่ยงลงซะมากกว่า ร่างเล็กที่โดนชานยอลวางตัวเองแรงแบบนั้นถึงกับโวยวายเสียงดัง ทั้งเตะทั้งถีบทำทุกอย่างที่จะทำได้เมื่อชานยอลกดข้อมือทั้งสองข้างตัวเองกับที่นอน แบคฮยอนไม่ยอมเสียเวอร์จิ้นที่พึงรักษามาได้ตั้งยี่สิบสี่ปีให้กับเด็กฟันเยอะหูกางแบบนี้หรอกและที่สำคัญ...
ชานยอลคงไม่หยุดที่เขาคนเดียว
แบคฮยอนไม่ยอมให้ผู้ชายที่สนุกกับเรื่องเพศสัมพันธ์เหมือนเป็นของเล่นมาข่มขืนง่ายๆหรอก ยิ่งคิดได้แบบนี้แล้วแบคฮยอนก็ยิ่งแหกปากเสียงดังมากกว่าเดิมไปใหญ่ มันไม่ใช่เรื่องตลกแล้วนะ ดูจากความพยายามที่จะถอดกางเกงเขาให้ได้แล้ว ชานยอลคงจะทำจริงอย่างที่พูดแน่ๆ
“อย่านะเว้ยชานยอล ฉันเป็นตุ๊ดนะเว้ย ตุ๊ดน่ะตุ๊ด!!!!” แบคฮยอนพยายามพูดใส่หูของชานยอลที่ตอนนี้กำลังใช้มือของตัวเองรวบข้อมือของแบคฮยอนด้วยมือด้วยส่วนอีกข้างก็พยายามจะถอดกางเกงของเขาอยู่
“ตุ๊ดแล้วไง อยู่นิ่งๆดิวะ!” ชานยอลเผลอตะคอกใส่หน้าแบคฮยอนด้วยความหงุดหงิดที่ตัวเองไม่สามารถจะถอดกางเกงของคนตัวเล็กได้ซักที
แบคฮยอนนิ่งไปกับท่าทีของชานยอลกว่าจะรู้ตัวอีกทีกางเกงของตัวเองก็ถูกมือหนาจับรูดลงไปกองที่ปลายเท้าแล้ว เห็นอย่างนี้แบคฮยอนจึงได้สติรีบดิ้นไปมาทันที ปากก็ยังคงทำงานของมันได้ดีเยี่ยมเหมือนเดิม
“อีเด็กบ้า มึงถูกอารมณ์หื่นกามครอบงำหรือไงวะ กูเป็นพี่มึงอีกนะ ไอ้เด็กเหี้ย!” แบคฮยอนพยายามดันความรู้สึกจุกอกที่ตีขึ้นมาพร้อมกับน้ำสีใสที่เริ่มก่อขึ้นมาบนขอบตาของตัวเองออกไปให้หมด แต่ยิ่งพูดน้ำใสๆมันก็ดันไหลลงมาตามโครงหน้าของเขาอย่างช้าๆ
“พูดมากจัง รำคาญ” ชานยอลมองหน้าขาวๆของคนตรงหน้าก่อนจะชะงักไปเมื่อเห็นตาเรียวสวยเริ่มแดงช้ำพร้อมกับน้ำสีใสที่กำลังไหลเอ่อออกมา “ร้องไห้ทำไม”
“กูกำลังจะโดนข่มขืน..ฮึก...มึงจะให้กูหัวเราะหรือไงละไอ้สัส!” ถึงน้ำตาจะไหลออกมาไม่หยุดแต่ปากเล็กๆก็ยังตะโกนด่าอีกคนปาวๆที่ทำท่าเหมือนไม่รู้สึกรู้สาอะไร
ชานยอลมองภาพของคนตัวเล็กกำลังสะอึกสะอื้นอยู่ใต้ร่างของตัวเองพร้อมกับหลับตาลงเหมือนจะเหนื่อยที่ตะโกนแหกปากเขาไปเมื่อกี้ ร่างเล็กๆที่กำลังสั่นไหวกับปลายจมูกมนที่เริ่มขึ้นสีแดงระเรื่อทำให้ชานยอลจ้องมองภาพนั้นอยู่นาน
“ใส่กางเกงเห้อะ เห็นไขมันแล้วหมดอารมณ์วะ” ชานยอลปล่อยมือที่จับแขนของแบคฮยอนออกก่อนจะลุกเดินออกจากห้องไปในทันที
ถึงผมจะดูหื่นกามหรืออะไรก็แล้วแต่ อย่างน้อยผมก็ไม่เคยขืนใจใครนะครับ...
“ฮึก..อ...ไอ้เด็กบ้า” แบคฮยอนยกมือขึ้นมาถูน้ำตาบนหน้าของตัวเองไปมาก่อนจะรีบลุกมาใส่กางเกงพอเดินออกไปด้านนอกก็เห็นชานยอลสะพายกระเป๋ารออยู่แล้ว
ระหว่างทางขับรถกลับบ้านแบคฮยอนและชานยอลก็ไม่ได้คุยกันอีกเลย คำขอโทษจากปากของคนอายุน้อยกว่าก็ไม่มีให้ได้ยินสักนิด มัวแต่หันหน้าไปมองกระจกอีกด้านจนแบคฮยอนรู้สึกหงุดหงิดขึ้นมานิดๆ คนที่ควรจะโกรธมันต้องเป็นเขาไม่ใช่หรือไง และแบคฮยอนก็ต้องด่าตัวเองอีกรอบนั้นละที่สายตาตัวเองชอบเหลือบไปมองคนข้างๆบ่อยเหลือเกิน
“มองทำไมขับรถไปสิ”
คำพูดของคนที่กำลังหันหน้าไปอีกทางทำให้แบคฮยอนที่กำลังแอบมองสะดุ้งหน่อยๆก่อนจะหันกลับไปมองถนนเหมือนเดิม มันรู้ได้ไงวะว่าเขากำลังมองมัน หรือมันมีตาหลัง? นี่ข้องมากนะ
ชานยอลมองเงาจากกระจกก็เห็นว่าหน้าเล็กขมวดคิ้วเป็นปมเหมือนคนกำลังสงสัยอะไรบางอย่างไม่ได้ทำหน้าจะร้องไห้เหมือนนางเอกพึ่งโดนพระเอกข่มขืนก็อดจะรู้สึกโล่งใจขึ้นมาบ้างแล้ว
นี่ไม่รู้จริงๆเหรอว่าชานยอลรู้สึกผิดจนไม่กล้ามองหน้าของแบคฮยอนเต็มๆ
ได้แต่มองผ่านเงาที่สะท้อนจากกระจก...
[VIRGIN]
นับตั้งแต่เรื่องในวันนั้นแบคฮยอนก็แทบจะไม่ได้คุยกับชานยอลอีกเลย แบคฮยอนแทบจะมองอีกฝ่ายเป็นแค่เพียงธาตุอากาศเท่านั้น ตอนเช้าไปส่งตอนเย็นไปรับกลับบ้านยังดีที่ชานยอลเหมือนจะไม่นอกลู่นอกทางเหมือนวันนั้นอีก มาเจอกันอีกทีตอนกินข้าวเย็นแล้วแบคฮยอนก็จะเป็นฝ่ายแยกตัวขึ้นมาอาบน้ำนอนก่อนทุกครั้งเป็นแบบนี้มาได้สามวันแล้ว
วันนี้ก็เป็นอีกวันที่แบคฮยอนหนีขึ้นมาข้างบนก่อนเหมือนเดิม ขณะที่กำลังทาครีมให้กับผิวขาวๆที่บรรจงรักษาให้มันมีสุขภาพดีอยู่เสมอเสียงเปิดประตูที่ดังขึ้นก็ทำให้แบคฮยอนตกใจอยู่ไม่น้อย ทำไมวันนี้ชานยอลถึงขึ้นมาเร็วผิดปรกติในเมื่อรู้เวลาตัวเองอยู่ว่าสมควรขึ้นมาตอนไหน
“พรุ่งนี้ไม่ต้องไปรับที่โรงเรียนนะ” เสียงทุ้มเอ่ยขึ้นกับคนที่กำลังนั่งหันหลังให้ตัวเองอยู่
“อื้ม” แบคฮยอนทำได้เพียงแค่ส่งเสียงรับปากไปส่งๆ เอาจริงเข้าก็อยากรู้เหมือนกันแหละว่าคนร่างสูงจะแอบหนีไปโรงแรมอีกหรือเปล่า นี่ไม่ได้หึงหรืออะไรนะ สงสัยไปตามงานที่ได้รับของตัวเองต่างหาก
ชานยอลยืนมองแผ่นหลังเล็กอยู่นานก็ไม่เห็นว่าอีกคนจะหันมาถามตัวเองว่าเพราะอะไรหรือแม้แต่จะหันมาถามว่ากินข้าวอร่อยมั้ยมีการบ้านหรือเปล่า ถึงแม้อย่างหลังๆจะดูเพ้อฝันเกินไปก็เถ้อะนะ จนสุดท้ายก็ได้แต่ถอนหายใจกับตัวเองแล้วเดินไปนั่งลงบนเตียงข้างๆอีกคน
“พรุ่งนี้ฉันสอบวันสุดท้ายแล้วจะไปฉลองกับเพื่อนๆที่ร้านเนื้อย่างกันน่ะ”
“ก็ดีแล้ว”
ชานยอลเห็นว่าอีกคนเลี่ยงที่จะคุยกับเขาก็รู้สึกน้อยใจขึ้นมาไม่ได้ เหลือบมองขวดครีมที่วางอยู่ข้างๆจึงถือวิสาสะหยิบขึ้นมาดูก่อนจะดมกลิ่นหอมของมันจนรู้ว่ากลิ่นตัวหอมๆของแบคฮยอนมาจากเจ้าครีมตัวนี้เอง
"โห หอมเหมือนตัวนายเลย”
แบคฮยอนหันไปมองหน้าของอีกคนที่กำลังยิ้มกว้างเมื่อเห็นว่าครีมที่ตัวเองกำลังถืออยู่นั้นให้กลิ่นหอมเหมือนตัวเขาเอง ไม่รู้ว่ามันมีอะไรน่าดีใจนักหนา
“นี้มันครีมทาผิวที่ฉันทามันทุกวันน่ะ”
“ขอทาหน่อยได้มั้ย?”
ใบหน้าที่รอคำตอบจากปากของเขาดูจะเต็มไปด้วยความหวังขนาดนี้แล้วแบคฮยอนก็อดจะแปลกใจไม่ได้ จะอยากทาอะไรขนาดนั้น แต่เห็นดวงตากลมโตที่กำลังมองเขาเหมือนเด็กกำลังขอกินขนมก็ได้แต่ถอนหายใจเฮือกใหญ่แล้วตอบอีกคนไป “ก็ได้..แต่นายต้องไปอาบน้ำก่อนนะ”
ใบหน้าหล่อหวานพยักขึ้นลงอย่างดีใจรีบวิ่งไปคว้าผ้าเช็ดตัวแล้วเข้าห้องน้ำไปพักใหญ่ก่อนจะเดินออกมาจากห้องน้ำตัวเปียกซก แบคฮยอนเห็นแล้วรู้สึกขัดใจหน่อยๆเพราะบางครั้งชานยอลก็ทำตัวเกินวัยบางครั้งก็ทำตัวเป็นเด็กปัญญาอ่อนไปได้
“นี่อาบน้ำหรือไปเล่นสงกรานต์อยู่ไทย เช็ดเท้าก่อนสิ ย๊า! เช็ดผมด้วยน้ำหยดเป็นทางเลยเห็นมั้ย แล้วบ้านนายสอนให้เช็ดผมแบบนั้นหรือไง มานี่เลยๆเดี๋ยวเช็ดผมให้”
ชานยอลเดินเข้าไปนั่งบนเตียงอย่างว่าง่ายก่อนจะอดยิ้มเมื่อเห็นว่าอีกคนบ่นเขาเหมือนเขาเป็นแค่เด็กอย่างไงอย่างงั้น แบคฮยอนนั่งคุกเข่าใช้มือเล็กเช็ดผมให้เขาอย่างเบามือทำให้ชานยอลเองรู้สึกดีอย่างแปลกประหลาด อาจเป็นเพราะสัมผัสที่เหมือนแม่กำลังเช็ดผมให้ลูกชายอยู่ก็ได้เลยทำให้ชานยอลใจสั่นมากขนาดนี้
ชานยอลได้รับความรักความห่วงใยจากแม่มามากก็จริง แต่การกระทำอย่างแม่ลูกนั้นชานยอลแทบจะไม่ได้รับสัมผัสแบบนั้นเลย อาจเป็นเพราะพ่อของชานยอลประสบอุบัติเหตุตั้งแต่เขายังเป็นเด็กน้อยจึงทำให้แม่ของเขาต้องทำงานดูแลบริษัทขนาดใหญ่อยู่คนเดียว ได้เจอหน้าตอนมื้อเย็นในทุกวันก็ดีแค่ไหนแล้วและบางครั้งที่แม่จะโทรศัพท์มาถามระหว่างที่เขาอยู่โรงเรียนนั้นก็ทำให้ชานยอลอิ่มใจมากพอแล้ว
เพราะแบบนี้หรือเปล่าทำให้ตอนนี้ชานยอลตัดสินใจหันกลับไปกอดเอวของอีกคน แนบหน้าเข้าไปที่หน้าท้องแล้วปิดเปลือกตาตัวเองลงซึมซับความอบอุ่นของอีกคนเอาไว้
“นี่...ชานยอล” ถึงจะแอบตกใจอยู่บ้างแต่พอรู้สึกถึงความอุ่นชื้นตรงหน้าท้องของตัวเองแล้วแบคฮยอนก็ทำได้แค่ลูบหัวของคนตัวสูงที่กำลังทำตัวเป็นเด็กน้อยขี้แย
“จะดูแลแบบนี้ไปทุกวันหรือเปล่า” เสียงอู้อี้ที่ดังมาจากชานยอลทำให้แบคฮยอนได้แต่ขมวดคิ้วกับท่าทีที่เปลี่ยนไปของคนที่กำลังกอดตัวเองไว้อยู่
“ก็แน่สิ..” แม่นายจ้างฉันมาดูแลพฤติกรรมของนายแลกกับงานที่ได้ทำอยู่ทุกวันนี้นี่ แบคฮยอนได้แต่คิดประโยคหลังไว้ในใจ
“ตลอดไป...ได้มั้ย?”
ดวงตากลมที่บวมหน่อยๆจากการร้องไห้เมื่อสักครู่เงยหน้าขึ้นสบตากับแบคฮยอน ร่างเล็กถอนหายใจกับการกระทำที่ดูจะส่งผลกับการทำงานของหัวใจของตัวเองแบบนี้ ไม่ใช่ว่าไม่อยากดูแลไม่อยากรับคำสัญญา แต่ทุกอย่างมันต้องมีเริ่มต้นและจุดจบ หากวันใดที่ชานยอลเป็นเด็กดีได้ดั่งใจแม่เมื่อไหร่แล้ว วันนั้นคงเป็นวันที่แบคฮยอนทำงานได้สำเร็จ
สุดท้ายเขาเองนั้นละที่จะต้องผิดสัญญาและเสียใจไม่น้อย
“ไปใส่เสื้อผ้าได้แล้วเดี๋ยวจะได้มาทาครีม” แบคฮยอนเลือกหลบสายตาแล้วทำทีดุเสียงเข้มกับคนตรงหน้าที่กำลังหลุบตาลงที่ไม่ได้ยินคำตอบที่ต้องการ
ไม่ตอบรับคือไม่สัญญาใช่มั้ย? จะไม่ดูแลตลอดไปจริงๆเหรอแบคฮยอน...
ขณะที่ชานยอลลุกขึ้นไปใส่เสื้อผ้าและหันหลังให้กับตัวเองอยู่ แบคฮยอนจึงเลือกที่จะสูดลมหายใจเข้าลึกๆไล่ความรู้สึกเห่อร้อนที่ขอบตาของตัวเองออกไปให้หมดแล้วหันไปยิ้มให้เมื่อเห็นว่าชานยอลที่ใส่เสื้อผ้าแล้วกำลังเดินเข้ามาหา
“ตัวฉันหอมเหมือนนายหรือยัง?” เสียงทุ้มๆเอ่ยถามขึ้นหลังจากที่ทาครีมให้ตัวเองเสร็จแล้ว
“อื้ม! หอมสิ”
“ไม่เห็นนายดมเลย รู้ได้ไงว่าหอม” ชานยอลรีบดึงผ้าของคนที่กำลังจะยกมันขึ้นมาห่มร่างตัวเอง
“หอมแล้ว” แบคฮยอนยื่นหน้าเข้าไปใกล้แขนของคนที่กำลังดึงผ้าห่มไว้อยู่แล้วหันไปตอบเด็กน้อยที่กำลังมองหน้าตัวเองอยู่ ก่อนจะเบิกตากว้างเมื่ออีกคนยื่นหน้าเข้ามาใกล้แล้วกดจมูกโด่งฝังมาที่แก้มนิ่มของตัวเอง
ฟอด~
“อย่างนี้สิถึงจะเรียกว่าหอม นอนแล้วนะอ้วน” ชานยอลยิ้มกว้างก่อนจะยีหัวคนที่กำลังลืมตาโตค้างไว้อยู่ อาศัยจังหวะนี้รีบหันหลังแล้วล้มต้วลงนอนในทันที
“งื้อ~ .//////////.” แบคฮยอนทุบเข้าที่แผ่นหลังกว้างไปทีนึงก่อนจะรีบสอดตัวเข้าไปในผ้าห่มแล้วนอนหันหลังให้เหมือนกัน
ทำเป็นมายีหัวคิดว่าน่ารักรึไง ฉันเป็นพี่นายนะไอ้เด็กบ้า! ให้นายเถ้อะ ทำไมผมหุบยิ้มไม่ได้เลยละ ;//////;
เช้าวันนี้คงจะสดใสมากกว่าหลายวันที่ผ่านมาจริงๆ เพราะนอกจากชานยอลจะปลุกคนตัวเล็กโดยใช้วิธีการหอมแก้มซ้ายขวาไปมาจนกว่าแบคฮยอนจะตื่นแล้ว ยังใจดีเตรียมชุดไปทำงานให้อีกตั้งหาก จากที่กำลังจะโกรธเรื่องที่บังอาจมาหอมแก้มก็กลายเป็นแบคฮยอนเองที่ยิ้มไม่หุบแทน
“อย่าลืมว่าวันนี้ไม่ต้องมารับนะ อย่าเอ๋อละอ้วน” คำที่ชานยอลเรียกใช้ตั้งแต่เมื่อคืนถูกเอามาใช้ในวันนี้ก่อนที่เจ้าตัวจะเปิดประตูลงจากรถไปเข้าโรงเรียน
“ชานยอล!” ชื่อของตัวเองที่ไม่บ่อยครั้งนักที่เจ้าตัวจะได้ยินจากปากสวยของอีกคนทำให้ชานยอลหยุดชะงักแล้วหันกลับมาแทบจะทันที
“ขอให้ทำข้อสอบได้นะ”
คำอวยพรสั้นๆที่ทำเอาเด็กน้อยยิ้มกว้างโชว์ฟันงามก่อนที่เจ้าตัวจะโค้งแทนคำขอบคุณแล้วหันหลังวิ่งเข้าไปกอดคอเพื่อนรักแล้วรุ่นน้องตัวบางด้วยท่าทีร่าเริง แบคฮยอนมองภาพนั้นด้วยรอยยิ้มแล้วขับรถตรงไปที่ทำงานของตัวเองทันที
เมื่อถึงเวลาเลิกงานแบคฮยอนก็พบว่าตัวเองว่างในวันนี้พอดีกับที่เพื่อนร่วมงานหน้าหล่อมาชวนออกไปกินข้าวด้วยกัน คนตัวเล็กก็เลือกที่จะไม่ปฏิเสธเพราะเห็นว่าอีกฝ่ายตื้อที่จะเลี้ยงข้าวเขามาหลายวันแล้วเหมือนกัน สุดท้ายแล้วแบคฮยอนกับคริสตกลงกันได้ว่าคนตัวเล็กจะทิ้งรถไว้ที่ทำงานแล้วนั่งรถไปกับร่างสูงแทนหลังกินข้าวเสร็จแล้วอีกคนจะมาส่งที่นี้เหมือนเดิม
“เชิญคนสวยขึ้นรถเลยครับ~” ท่าทางน่ารักของคนตัวสูงที่วิ่งมาเปิดประตูรถให้ทำให้แบคฮยอนส่งยิ้มหวานกลับไปให้ไม่ยาก
นี่เรียกว่าจีบหรือเปล่าอ้ะ จะได้ไม่เหนื่อยอ่อย กรี๊ดดดด >////////<
“คริสจะพาเราไปที่ไหนเหรอ?” ขณะที่กำลังนั่งอยู่ในรถแบคฮยอนก็หันไปถามถึงจุดหมายของวันนี้กับคนข้างๆที่ยิ้มไม่หุบตั้งแต่แบคฮยอนรับคำว่าจะมาด้วยแล้ว
“ว่าจะพาไปร้านเนื้อย่างน่ะ ไม่รู้ว่าแบคจะชอบหรือเปล่านะ ^^”
“ถ้าคริสเลี้ยงแบคก็ชอบสิ คิกๆ ><” แบคฮยอนแกล้งพูดแซวอีกคนพร้อมกับหัวเราะเบาๆ ท่าทางน่ารักแบบนี้ทำเอาคริสใจเต้นแรงจนแทบอยากจะกลับรถแล้วเลี้ยวพาเข้าโรงแรมเดี๋ยวนั้นเลยด้วยซ้ำ
“เชิญคร้าบ~” คริสรีบเดินเข้าไปเปิดประตูร้านให้ทันที เรียกได้ว่าดูแลทุกย่างก้าวเลยทีเดียว
แบคฮยอนยิ้มขอบคุณแล้วกวาดสายตาไปทั่วเพื่อหาที่นั่งแต่ก็สะดุดเข้ากับกลุ่มเด็กชุดมัธยมที่นั่งอยู่มุมในสุดของร้าน เด็กตัวขาวๆที่กำลังป้อนเนื้อย่างเอาอกเอาใจเด็กตัวดำไหนจะคนที่นั่งหันหลังโชว์ใบหูอันเป็นเอกลักษณ์นั้นอีกละ มันจะดีกว่านี้ถ้าแบคฮยอนไม่ได้มากับร่างสูงที่ยืนอยู่ข้างๆ ไม่รู้เพราะอะไรตัวเขาเองถึงรู้สึกว่าไม่อยากเจอชานยอลขณะที่ตัวเองอยู่กับคนอื่นแบบนี้
แบคฮยอนรีบหันหลังกลับแทบจะทันทีพร้อมกับเดินไปจับแขนของคริสไว้
“แบคว่าเราไปที่อื่นกันเห้อะคริส”
“อ้าวทำไมละ ร้านนี้อร่อยมากเลยนะ”
“คือพอดีรู้สึกว่าช่วงนี้ตัวเองอ้วนมากแล้วน่ะ” แบคฮยอนรีบพูดพลางดันแขนให้ออกจากร้านไปด้วยกัน
“ไม่อ้วนหรอก กำลังน่ารักเลย คริสว่ากินร้านนี้ละ” คริสขำเบาๆเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายคิดว่าตัวเองอ้วนถึงกับไม่ยอมเข้าร้านเนื้อย่างแบบนี้
“แบคว่ากินร้าน...”
“นั้นใช่พี่แบคฮยอนรึเปล่าค้า!!”
ไม่รู้ว่าทำไมแบคฮยอนเริ่มจะรู้สึกอยากตบปากอีตุ๊ดเด็กนี่ซักทีนะ จะเรียกกูทำไมละอีฮุน!!!!!
- TALK
ฉันแวะมาลงให้อยากแล้วก็เดินจากหน้าบทความไป~
ส่วนตอนที่สี่ลงวันศุกร์ไม่ก็วันเสาร์หน้าน้าาา
ใครรอเอ็นซีก็รอต่อไป =.,= #อย่ามาตบเค้า5555555555
+เอ็นซีอีกสองตอนเจอกัน แบร่~ :P
ความคิดเห็น