คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : ❧ V I R G I N : 2 (100%)
2
แสงอาทิตย์แรกยามเช้าสาดส่องเข้ามาทำให้ชานยอลที่นอนหลับสบายอยู่บนเตียงค่อยๆขยับหนีแสงแดด นอนหลับต่อได้ไม่กี่นาทีแสงแดดก็เริ่มลามมาจนถึงที่ตัวเองนอนอีกแล้ว ร่างสูงจึงหันหลังแล้วขยับออกไปเข้าไปใกล้หมอนข้างที่อยู่ข้างๆกาย
กลิ่นหอมอ่อนๆจากหมอนข้างที่ตัวเองซุกอยู่ทำให้ชานยอลยิ่งขยับเข้าไปใกล้มากกว่าเดิม แขนยาววาดขึ้นบนอากาศก่อนจะตวัดลงมาที่หมอนข้างแล้วดึงให้มันมาแนบกับลำตัว
อ่า..นิ่มจัง
หอมด้วย..
หมอนข้างอะไรทั้งนิ่มทั้งหอมแบบนี้..
เดี๋ยวนะ ห้องของผมไม่มีหมอนข้าง!
“เห้ย!” ชานยอลที่พึ่งตรัสรู้อะไรได้บางอย่างลืมตาขึ้นมาพร้อมกับส่งเสียงตกใจเมื่อเห็นว่าหน้าขาวๆของอีกคนอยู่ใกล้แค่คืบ
เมื่อพิจารณาดูดีๆแล้วชานยอลก็พบว่าตัวเองกำลังอยู่ในท่าที่คนตัวเล็กซุกอยู่กับอกกว้างของตัวเองแถมมือหนาของตัวเองยังไปกอดเอวของอีกคนซะนี่
กำลังคิดว่าเป็นฉากละมุนมุ้งมิ้งกันอยู่ละสิ มันคงจะเป็นแบบนั้นถ้าเอวที่ผมจับอยู่ไม่อุดมไปด้วยไขมันมากกว่า80%ของร่างกาย(เว่อร์)แถมหน้าขาวๆที่กำลังซุกอกของผมก็เต็มไปด้วยคราบน้ำลาย ภาพของน้ำใสๆย้อยออกมาจากปากบางที่กำลังเผยออยู่หน่อยๆมันไม่ได้ดูน่ารักเหมือนเคะน้อยในฟิคหรอกนะ
อี๋~ น้ำลายเลอะเต็มชุดนอนเลย แหวะ!
“อีตุ๊ดปากรั่วตื่นเดี๋ยวนี้นะเว้ย น้ำลายจะท่วมห้องฉันอยู่แล้ว” ชานยอลทั้งเขย่าทั้งแหกปากเรียกคนที่ซุกหน้าอยู่ในอกของตัวเองแต่ไม่มีทีท่าว่าอีกคนจะตื่นซักที
“งื้อ~” เสียงเล็กๆส่งเสียงออกมาเหมือนกำลังหงุดหงิดเต็มทีที่มีคนไปรบกวนการนอนของตัวเองก่อนจะซุกหน้ากดลงไปกับแผ่นอกของอีกคนมากกว่าเดิม
อีตุ๊ดอ้วนแม่.งยั่วผมปะวะ เอาหน้ามาถูกับหัวนมแบบนี้น้องปาร์คก็เขินแย่สิครับ =/////////=
“คิดอะไรอกุศลกับฉันอยู่แน่ๆเลยไอ้เด็กหื่นกาม ฮ้าว~”
เสียงที่ติดงัวเงียอยู่หน่อยๆพูดขึ้นมาท่ามกลางความฟินของชานยอลก่อนที่เจ้าของเสียงจะดันหน้าอกของคนตัวสูงแล้วลุกขึ้นมานั่งบิดขี้เกียจปิดท้ายด้วยหาวเบาๆสองสามที
“ค..คิดอะไร อ้วนไม่พอยังหลงตัวเองอีก”
“อ้วนเกี่ยวอะไรกับหลงตัวเองวะครับ? -_-;;”
“ไม่เกี่ยวหรอกแค่อยากเรียก มีไรมะ?”
“ไม่มีไร แค่จะบอกว่าไอ้ที่กำลังตุงบนเป้านายทำให้ฉันหมดอารมณ์จะนอนต่อชะมัด เห้อะ!”
“ย๊า! มันเป็นเรื่องปกติในตอนเช้าเว้ย ./////////.”
ชานยอลก้มหน้ามองเป้ากางเกงของตัวเองตามที่อีกคนบอกก็เห็นว่าน้องปาร์คน้อยกำลังดันเนื้อผ้าจนนูนออกมาซะน่าเกลียด
มันก็เป็นเรื่องปกติของผู้ชายในตอนเช้าอยู่แล้วนี่ อีตุ๊ดนี่ก็เว่อร์ตัลหลอด *ทำท่าเอือมแบบตอแหล*
“มัวแต่นั่งมองเป้าตัวเองอยู่นั้นละ ไปอาบน้ำได้แล้วเดี๋ยวเช้านี้ฉันไปส่งที่รร.” แบคฮยอนบอกทิ้งท้ายก่อนที่ตัวเองจะเดินไปหยิบเสื้อผ้ามาเตรียมไว้สำหรับใส่ไปทำงานในเช้าวันนี้
“เดี๋ยวตอนเย็นฉันมารับนะ”
แบคฮยอนที่ขับรถมาส่งชานยอลถึงหน้าโรงเรียนชะโงกหน้าบอกคนที่พึ่งลงรถไปผ่านกระจก ทำให้ชานยอลที่กำลังจะเดินเข้าโรงเรียนหันกลับมามองหน้าหวานๆของแบคฮยอนแล้วยักไหล่ใส่ด้วยท่าทีกวนประสาท
“ฉันโตแล้วไม่ใช่เด็กประถมที่ต้องให้ผู้ปกครองมาคอยรับคอยส่ง”
“อ๋อเหรอ? ฉันนึกว่านายเป็นเด็กอนุบาลซะอีก แล้วก็อย่าคิดขัดคำสั่งฉัน บายส์” แบคฮยอนบอกกับชานยอลแค่นั้นก่อนจะขับรถออกไปทิ้งให้เด็กน้อยที่ยืนทึ้งหัวตัวเองอยู่หน้าโรงเรียนตะโกนตามหลังรถไป
“คิดว่าตัวเองเป็นใครมาสั่งคนอย่างชานยอล อีตุ๊ดจอมบงการเอ้ย!”
“เฮ้ย! ไอ้ชยอลมึงเป็นบ้าอัลไลมายืนแหกปากอยู่คนเดียวว้าาา” เสียงแว้นๆของเพื่อนรักผิวสีแทนทำให้ชานยอลที่กำลังหัวเสียหันกลับมาตอบคำถามอย่างหงุดหงิด
“ก็แม่กูอ้ะดิเอาตุ๊ดมาอยู่ด้วย”
“เหยดดดดด แล่วๆๆๆๆๆ อย่าบอกนะว่ามึงติดใจตุ๊ดอ่าส์”
“ติดใจบ้านมึงดิ แม่.งมาวันแรกก็สั่งกูอย่างกะกูเป็นเด็กสามขวบซะและ”
“ทำเป็นมาบ่นๆแบบนี้กูเห็นว่าได้กันมาหลายน้ำแล้วนะครัชแหม่”
“กูไม่นิยมตุ๊ดจย้า” ชานยอลหันไปตอบเลียนแบบจงอินแล้วลากคอเพื่อนรักเข้าโรงเรียนไปก่อนที่มันจะพ่นคำพูดติดเรท18+มากกว่านี้
ช่วงเช้าของชานยอลผ่านไปช้าๆอย่างน่าเบื่อจนล่วงเลยมาถึงช่วงพักกลางวันอันเป็นเวลาแห่งสวรรค์ชั้นเจ็ดของชานยอล แน่ละว่าพอเข็มสั้นและเข็มยาวเวียนมาบรรจบกันปุ๊บโทรศัพท์เครื่องงามของชานยอลก็สั่นครืดคราดนานกว่าครึ่งชั่วโมงก่อนจะเงียบไป ทำให้จงอินที่ลากเซฮุนแฟนสาวรุ่นน้อง(?)ของตัวเองมากินข้าวตอนพักเที่ยงด้วยถึงกับส่ายหัวให้กับความเนื้อหอมของเพื่อนตัวเอง
“นี่เพื่อนกูเป็นนักเรียนม.ปลายหรือโอเปอเรเตอร์ครับอิดอกตอบส์”
“ไม่ต้องไปแซวพี่ชานยอลเลยทำอย่างกะตัวเองไม่เคยอย่างนั้นละ” เสียงเป็ดๆ(?)ของเซฮุนที่นั่งกินข้าวอยู่ข้างๆพูดแทรกจงอิน เจ้าตัวสะบัดผมหน้าม้าที่เลี้ยงไว้ยาวจนแทบทิ่มตาไปมาก่อนจะยกกระจกที่พกติดตัวประจำขึ้นมาส่องแล้วใช้มือจัดหน้าม้าของตัวเองให้เข้าทรง “โอ้ยอิดอกหน้าม้าแตก”
“กูขุดหลุมฝังตัวเองอีกละ” จงอินส่ายหัวไปมาอย่างเซ็งๆก่อนจะหันไปมองเพื่อนรักที่สนใจแต่หน้าจอโทรศัพท์จนปล่อยให้จานข้าวตรงหน้าแทบบูด
ชานยอลเปิดแอพพลิเคชั่นต่างๆในโทรศัพท์ขึ้นมาเลื่อนๆดูจนครบแล้วเลือกตอบแต่คนที่ตนเองสนใจตามประสาเซเลบ จนเมื่อโปรแกรมแชทเด้งข้อความตอบกลับจากคนที่ตนพึ่งตอบไปทำให้ใบหน้าหล่อหวานยกยิ้มด้วยความพอใจก่อนจะลุกขึ้นยืนเตรียมจะเดินออกไปโดยไม่บอกไม่กล่าวเพื่อนที่กำลังก้มหน้าก้มตากินข้าวอยู่
“พี่ชานยอลจะไปไหนอ้ะ” เป็นเซฮุนที่พึ่งวางกระจกลงเอ่ยถามขึ้นมา
“ก็..ไปล่าเวอร์จิ้นมั้ง” ชานยอลหันกลับไปตอบยิ้มๆแล้วเดินออกมาทิ้งให้เพื่อนกับแฟนเพื่อนมองตามด้วยความระอา
“จะกลับบ้านแล้วเหรอแบค?” เสียงเรียกจากเพื่อนร่วมงานทำให้แบคฮยอนที่กำลังเก็บของใส่กระเป๋าหันกลับไปมองแบบงงๆ
ร่างสูงในแบบนักกีฬาบวกกับใบหน้าที่เรียกว่าหล่อมากทีเดียวทำให้แบคฮยอนคุ้นเคยว่าเป็นเพื่อนร่วมงานในแผนกเดียวกัน เนื่องจากแบคฮยอนพึ่งมาทำงานวันนี้เป็นวันแรกจึงไม่ค่อยจะได้รู้จักใครมากนักแต่คนตัวสูงตรงหน้าที่เรียกชื่อของเขาเหมือนสนิทกันเป็นนับปีก็ทำให้แบคฮยอนรู้สึกแปลกอยู่พอสมควร
“ครับ เอ่อ..” แบคฮยอนเว้นการเรียกชื่อของอีกคนไว้เพราะนึกไม่ออกจริงๆว่าคนผมสีบลอนด์แสบตาตรงหน้านั้นชื่ออะไร
“อ่า..จริงสิคงจำชื่อผมไม่ได้สินะ ผมชื่อ คริส นะครับทำงานอยู่แผนกเดียวกับคุณ ขอโทษที่เสียมารยาทเรียกชื่อคุณแบคฮยอนแบบนั้นด้วยนะ ลืมคิดไปว่าคุณคง..”
“ม..ไม่เป็นไร เรียกเราว่าแบคเฉยๆก็ได้ อ่อ แบคว่าคริสคงอายุเท่ากันใช่มั้ย คุยแบบนี้ดีกว่านะ^^” แบคฮยอนรีบพูดขัดขึ้นมาเมื่อเห็นว่าอีกคนคงไม่ยอมหยุดอธิบายยืดยาวแบบนั้นแน่ๆ
และที่สำคัญ..
หล่อมดลูกสั่นขนาดนี้แบคกี้ไม่ทนข่าาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา >,<
“งั้นก็ดีเลย แบคจะกลับแล้วใช่มั้ย คริสว่าจะเลี้ยงข้าวพนักงานใหม่ซะหน่อย ^^” คริสที่เห็นว่าอีกคนพูดแทนตัวเองด้วยชื่อแบบนั้นแล้วจึงลองพูดตามบ้างเพราะคิดว่ามันก็น่ารักดี
“ต้องขอโทษด้วยนะคือแบคต้องไปรับน้องที่โรงเรียนน่ะ เอาไว้โอกาสหน้าแล้วกันนะ” แบคฮยอนทำหน้าเศร้าแบบอ้อนๆก่อนจะบอกขอโทษอีกคนแล้วแยกตัวออกมา
อดไปกินข้าวกับคนหล่อเพราะอีน้องปาร์คนั้นแท้ๆเลย ถ้าแม่นายไม่จ้างให้ฉันมาคอยดูแลพฤติกรรมนายนะ ป่านนี้ฉันไปแรดกับไอ้ขี้เก๊กอะไรนั้นไปเรียบร้อยละ ชิ!
แบคฮยอนกรีดร้องในใจกับตัวเองก่อนจะรีบขับรถไปยังโรงเรียนของคนที่พึ่งไปส่งมาเมื่อเช้า
“ไปมุดหัวอยู่ไหนอีกละ” แบคฮยอนที่จอดรถรออยู่หน้าโรงเรียนอยู่นานไม่เห็นว่าจะเห็นหน้าเอ๋อๆของชานยอลซักทีจึงตัดสินใจลงจากรถแล้วเดินเข้าไปในโรงเรียนแทน
เมื่อเข้าไปในโรงเรียนแล้วภาพแรกที่แบคฮยอนเห็นคือเด็กผู้ชายตัวดำๆกำลังนั่งเล็มผมหน้าม้าให้กับเด็กผู้ชายตัวขาวๆที่นั่งส่องกระจกอยู่ หันซ้ายหันขวาก็ไม่เห็นจะมีเด็กที่ไหนให้มาถามแล้วแบคฮยอนจึงตัดสินใจเดินเข้าไปถามเด็กทั้งสองคนทันที
“น้องครับรู้จักคนชื่อปาร์คชานยอลมั้ย?”
“หื้ม..รู้จักดิ” จงอินที่กำลังตั้งใจเล็งด้วยความระมัดระวังเผลอเงยหน้าหันมาตอบคำถามทำให้กะระยะการตัดผิดไปมากกว่าที่เล็งไว้พอสมควร
ฉับ! (เสียงกรรไกรตัดผม)
“กรี๊ดดดดด ตัวเองทำอะไรเห็นมั้ยว่าผมเขาแหว่งอ้ะ!!!!!”
เสียงโวยวายของเซฮุนทำให้แบคฮยอนเผลอสะดุ้งตกใจหลุดพ่นคำพูดยามตกใจออกมา “อุ้ยต่ะ อกอิแบคจะบู้ม”
“อุ้ย ขุ่นพี่อ้อยเหรอข่ะ?” เซฮุนหัวเราะคิกคักก่อนจะถามแบคฮยอนทีกำลังยกมือตีหน้าผากตัวเองเมื่อเห็นว่ารุ่นน้องจับได้ว่าสปีชี่ย์เดียวกัน
“เอ่อ..ขอโทษนะที่ทำให้ผมหน้าม้าของน้อง..”
“อู้ยยยยยยย ด้อนทึวอรี่นะคะขุ่นพี่ ว่าแต่ถามหาพี่ชานยอลมีอะไรหรือเปล่าคะ?”
แปปนะ ได้ข่าวว่ามาตามหาอีเด็กเอ๋อชานยอล แล้วไหงเขาถึงได้มายืนคุยกับตุ๊ดเด็กนี่ละ =_=
“เอ่อ..คือพี่มารับชานยอลตามที่แม่ของชานยอลสั่งมาน่ะ”
“ไม่ทันละเพ้ ไอ้ชยอลมันไปล่าจิ้นกับเด็กมันที่โรงแรมล้าววววว” สำเนียงแว้นๆของจงอินทำให้แบคฮยอนขมวดคิ้วเป็นปมก่อนที่สมองจะประมวลผลออกมาให้เป็นภาษาปกติ
“หมายถึงว่าตอนนี้ชานยอลอยู่ที่...โรงแรมอย่างนั้นเหรอ?”
“ใช่คะ ชานยอลโอปป้าโดดเรียนไปฟิชเจอริ่งกับสาวๆที่โรงแรมตั้งแต่บ่ายแล้วข่าาา” คำยืนยันจากปากของเซฮุนทำให้แบคฮยอนเข้าสู่โหมดดาร์กในทันที
กล้าขัดคำสั่งตั้งแต่วันแรกแบบนี้มีดราม่าแน่นอนละอีเด็กหูใบลาน!
[VIRGIN]
หลังจากที่รู้ชื่อและที่ตั้งโรงแรมจากเพื่อนของชานยอลแล้วแบคฮยอนก็ไม่รอช้ารีบวิ่งออกจากโรงเรียนและตรงไปที่รถของตัวเองทันทีต้องขอบคุณน้องจงอินและน้องเซฮุนคนสวยนั้นจริงๆเห็นแบบนี้แบคฮยอนก็รู้สึกถูกชะตากับเซฮุนแปลกๆถ้าไม่ติดว่ารีบแบคฮยอนคงจะแลกเบอร์แลกไลน์อะไรกันไปแล้ว
ระหว่างที่สตาร์ทรถมือข้างที่ว่างก็หยิบโทรศัพท์กดหาแม่ของชานยอลแต่จะเรียกให้ถูกควรจะเรียกว่าเป็นผู้ว่าจ้างของแบคฮยอนซะมากกว่า
รอไม่นานคนในสายของแบคฮยอนก็กดรับแทบจะทันที (ว่าไงจ้ะหนูแบคกี้)
“ผมไปรับน้องปาร์คตามที่คุณน้าบอกแต่เห็นเพื่อนของเขาบอกว่าน้องโดดเรียนไปเข้าโรงแรมกับผู้หญิงตั้งแต่บ่ายแล้วนะครับ” แบคฮยอนรายงานกับคนในสายไปตรงๆเพราะไม่รู้จะอ้อมไปเพื่ออะไรในเมื่อไม่ใช่เรื่องของตัวเองอยู่แล้ว
(อย่างที่คิดไว้ไม่ผิดเลย...งั้นแม่ฝากให้หนูแบคจัดการแทนให้หน่อยนะ)
“ได้ครับ” แบคฮยอนรับคำก่อนจะกดวางสายไป
แม่เปิดทางมาซะขนาดนี้มีเหรอที่คนอย่างบยอนแบคฮยอนจะยอมออมมือน่ะน้องปาร์ค หึ!
แบคฮยอนยกยิ้มมุมปากพลางฮัมเพลงไปอย่างคนอารมณ์ดีเมื่อสมองกำลังประมวลแผนการว่าจะจัดการยังไงกับเด็กหื่นกามอย่างชานยอลดีเพราะเรียกได้ว่านั้นเป็นสิ่งที่แบคฮยอนต้องทำตามงานที่ได้รับมอบหมายมา
ถึงมันจะดูโหดร้ายไปหน่อยสำหรับเด็กอย่างปาร์คชานยอลที่ไม่รู้ว่าแม่ตัวเองจับไต๋ได้ตั้งนานแล้ว ผู้เป็นแม่ก็ร้ายไม่เบาที่เล่นตามบทแกล้งหลงเชื่อว่าลูกชายตัวเองนั้นเป็นเด็กดีที่แสนน่ารักซะเหลือเกิน ตอนแรกก็พอจะคิดว่าลูกชายตัวเองเป็นเด็กดีอยู่หรอกนะ แต่ดันมีคนไปเห็นว่าชานยอลนั้นพาผู้หญิงเข้าโรงแรมเป็นว่าเล่นพอเรื่องถึงหูคุณนายปาร์คเท่านั้นละ แทบจะหาคนมาปรับพฤติกรรมของลูกตัวเองแทบไม่ทัน
สุดท้ายหวยก็มาออกกับลูกเพื่อนซี้ที่พึ่งเรียนจบกำลังหางานทำอย่างแบคฮยอนนี้ไง
งานง่ายๆอย่างการดัดสันดานคนๆนึงแลกกับได้มีงานที่มั่นคงแถมเงินที่คุณนายปาร์คเสนอให้ก็ไม่ใช่น้อยๆไหนจะได้อาศัยอยู่บ้านหลังใหญ่ถึงแม้จะต้องมาอยู่กับเด็กหื่นกามอย่างชานยอลก็เห้อะ แต่แค่นี้ก็คุ้มเกินคุ้มสำหรับแบคฮยอนแล้วละ
ถึงแม้จะรู้สึกแปลกๆที่ได้มาเห็นกับตาว่าเด็กวัยสิบหกปีอย่างชานยอลพาผู้หญิงเข้าโรงแรมเป็นเรื่องจริงและก็คงจะไม่พ้นมีเรื่องอย่างว่ามาเกี่ยวด้วยแบคฮยอนก็จะพยายามบอกตัวเองว่ามันเป็นเรื่องปกติแล้วกันนะ
แค่รู้สึกหงุดหงิดนิดหน่อยเอง
แต่ไอ้อาการที่รู้สึกจี๊ดๆในใจนี่มันเรียกว่านิดหน่อยรึเปล่านะ?
ช่างเห้อะ..
แบคฮยอนเลี้ยวรถเข้าไปจอดก่อนจะพาตัวเองเข้าไปในตัวโรงแรม เมื่อเข้าไปข้างในสิ่งแรกที่แบคฮยอนสัมผัสได้คือความหรูและอลังการเว่อร์ตามแบบโรงแรมห้าดาว ตาเรียวสอดส่องสายตาไปทั่วเผื่อจะเห็นหน้าเอ๋อๆใบหูควายๆที่เป็นเอกลักษณ์ของคนที่ตัวเองตามหาบ้างแต่ก็พบเพียงกลุ่มพนักงานต้อนรับหญิงที่ยิ้มหวานอ่อยเขาเบาๆ
ขอโทษที พอดีฉันก็เป็นคนนึงที่เรียกพี่ชายว่าโอปป้าและเรียกผู้หญิงอย่างเธอว่าชะนีนั้นแหละย่ะ ชิ!
“ขอโทษนะคะ ไม่ทราบว่ามาติดต่อห้องพักหรือเปล่าคะ?” เสียงหวานๆที่เหมือนจะพูดกับตัวแบคฮยอนเองทำให้คนถูกถามหันไปมองหน้าแบบงงๆ
เดาว่านางคือหน่วยกล้าตายของกลุ่มสินะ =_______________=
“อ๋อ พอดีมาตามหาสามีของฉันน่ะคะ ได้ข่าวว่าพาชะนีหน้าปลวกๆมาผสมพันธ์กันที่นี่” เงิบละสิ นี่แค่เบาะๆอย่าพึ่งทำหน้าเหมือนออมม่าตายอย่างนั้นสิยะ!
“อะ..เอ่อ ไม่ทราบว่าสามีของคุณชื่อ..”
“อีเด็กที่หูไม่สมประกอบอ้ะ หูกางๆอ้ะ คนนั้นแหล้ะ” แบคฮยอนรีบพูดแทรกไปด้วยความรำคาญเต็มที คือกว่าจะพูดออกมาแต่ละคำนี่มึงต้องดัดให้เสียงตอแหลแบบนี้ตลอดป้ะ แลดูลำบากมากนะ -____-;;
“หู...อ๋อ คุณชานยอลใช่มั้ยค้ะ” แหม ทีอย่างนี้ละรู้ดีเชียว
“อื้ม นั้นละๆ ตอนนี้มัน เอ้ย เขาอยู่ห้องไหน? ชั้นอะไร?”
“ดะ..เดี๋ยวจะรีบสอบถามจากประชาสัมพันธ์ให้นะคะ” ว่าแล้วพนักงานต้อนรับหญิงก็รีบเดินออกไปทันทีทิ้งให้แบคฮยอนยืนกอดอกรออยู่ไม่นานก็เดินเข้ามาหาอีกรอบพร้อมกับการ์ดในมือ
“ตอนนี้คุณชานยอลกำลังอยู่ภายในห้อ..”
“ฉันรู้แล้ว! มันเปิดห้องมาเพื่อเรื่องอย่างว่าจะให้มันไปทำอะไรกันนอกห้องรึไง ที่ฉันอยากรู้คืออีเด็กบ้ากามนั้นอยู่ห้องไหนชั้นอะไร! เข้า! ใจ! มั้ย!” แบคฮยอนที่เริ่มจะทนกับความลีลาของพนักงานไม่ไหวหันไปพูดกระแทกเสียงพร้อมกับย้ำคำถามของตัวเองให้ฟังชัดๆอีกครั้ง
ขนาดตัวเองยังไม่เข้าใจเลยว่าจะหงุดหงิดไปเพื่ออะไร บางทีประจำเดือนไม่มายี่สิบสี่ปีอาจจะเกี่ยว ._.
“อยู่..อยู่ชั้น5ห้อง501คะ”
“ชั้น5…เล่นห้องสวีทซะด้วย” แบคฮยอนที่ได้ยินหมายเลขห้องถึงกับพึมพำออกมาเบาๆ ไม่คิดว่าเด็กอย่างชานยอลจะเอาเงินมากมายมาเสียให้กับเรื่องอะไรแบบนี้
“ใช่คะ ห้องสวีท”
ลืมไปว่านางยังอยู่ V______________V
“ฉันตรัสรู้เองได้ย่ะ!” แบคฮยอนหันไปจิกตาใส่ทีนึงก่อนจะรีบเดินออกมาจากตรงนั้นถ้าอยู่นานกว่านี้อาจจะได้เห็นเคะต่อยชะนีหน้าแหกได้
นิ้วเรียวจิ้มปุ่มกดลิฟต์รัวๆเมื่อประตูเปิดแบคฮยอนก็รีบแทรกตัวเข้าไปแล้วกดปิดทันทีโดยไม่สนคนที่มายืนรอร่วมกันเมื่อสักครู่ซักนิด ลิฟต์พาคนตัวเล็กมาถึงชั้นห้าประตูก็เปิดออกแบคฮยอนจึงเดินตรงดิ่งไปห้องที่หมายตาไว้ทันที
ห้อง 501
มือสวยกำลังง้างจะเคาะประตูก่อนจะชะงักไปเมื่อคิดได้ว่าโรงแรมนี้คงหรูเกินกว่าจะเคาะแบบบ้านนอก เมื่อเหลือบไปมองข้างๆบานประตูก็เห็นปุ่มกดคล้ายๆกับออดหน้าบ้าน แต่ขอโทษตอนนี้มีการ์ดอยู่กับตัวแล้วจะกดให้โง่ทำไม รูดสิรูด!
ติ๊ด!
เสียงสแกนการ์ดที่ทำให้รู้ว่ามันปลดล็อคแล้วทำให้แบคฮยอนยิ้มกระหยิ่มในใจ
นายจะได้ยินเสียงนี้หรือเปล่านะน้องปาร์ค นี่มันเสียงหายนะของนายเลยน้า..
“อ๊ะ..อื้อออ...น้องชาน..ยอล...”
เดินเข้ามาในเขตห้องสวีทไม่ถึงสองก้าวหูของแบคฮยอนก็ได้ยินเสียงครางหวานปนดัดจริตของผู้หญิง ให้เด็กอนุบาลเดายังรู้เลยว่ามันเกิดจากอะไร..หึ
แบคฮยอนเดินผ่านห้องนอนทีเดาว่าตอนนี้กำลังมีสองชีวิตที่กำลังเสพสุขกันอย่างมีความสุข แต่อีกไม่นานหรอกนะ..อีกไม่นานหรอก! ตักตวงความสุขในตอนนี้กันให้มากจนจุกอกตายเลยก็ดี
กำลังคิดว่าแบคฮยอนจะเดินไปกรี๊ดแตกใส่พร้อมกับโวยวายเป็นควายตกลูกแบบนั้นละสิ ความจริงแล้วแบคฮยอนทำแค่เพียงเดินเลยห้องนอนไปนั่งอยู่ที่โซฟาที่ตั้งอยู่กลางห้องพร้อมกับหยิบโทรศัพท์มาเปิดดูเล่นไปพลางๆ
...แบคฮยอนทำแค่นั้นจริงๆ
“อ๊ะ..นูน่าเจ็บ...นะ”
“หื้ม?...เจ็บก็อ้ากว้างๆสิครับ”
!!
เสียงทุ้มของชานยอลที่ดูเหมือนกำลังอดกลั้นกับอะไรบางอย่างทำให้แบคฮยอนที่กำลังนั่งเล่นโทรศัพท์อยู่ถึงกับชะงักไปพักใหญ่ เสียงที่ฟังแล้ว...อยากเห็นหน้าของคนพูด
อยากเห็นหน้าที่กำลังมีความสุขกับเรื่องอย่างว่าของชานยอล...
ไม่รู้ว่าแบคฮยอนนั่งฟังคนกำลังมีอะไรกันนานเท่าไหร่อาจจะครึ่งชั่วโมงหรือหนึ่งชั่วโมงแล้วก็ได้เพราะฟังจากเสียงแล้วเด็กอย่างชานยอลก็จัดไปหลายรอบแล้วเหมือนกันดูท่าทางแล้วคงจะอึดน่าดู ยิ่งเวลาได้ยินเสียงร้องโหยหวนเหมือนคนเจ็บปวดพร้อมกับคำร้องขอให้หยุดของชะนีแล้ว แบคฮยอนก็อดจะนึกสงสารผู้หญิงโชคร้ายคนนี้ขึ้นมาเสียไม่ได้
ผู้หญิงถึงกับเอ่ยปากร้องขอให้พอแต่แบคฮยอนกับได้ยินเสียงเนื้อกระทบเนื้อที่ดังมากกว่าเดิม
บางทีก็ประมาทเด็กอย่างชานยอลไม่ได้เลยจริงๆ
นี่ถ้าเป็นตัวแบคฮยอนเองชานยอลจะยอมหยุดให้หรือเปล่านะ?
แบคฮยอนส่ายหัวไปมาพร้อมกับยกมือปัดป่ายไปกลางอากาศเหมือนกับกำลังลบความคิดบ้าๆของตัวเอง เสียงร้องโหยหวนหายไปแล้วกลายเป็นเสียงเปิดประตูดังขึ้นมาแทนจึงทำให้แบคฮยอนรีบเอามือลงพร้อมกับนั่งไขว่ห้างกอดอกในท่าเตรียมพร้อมทันที
“แฮ่ก...รีบใส่เสื้อผ้าซะฉันจะรีบกลับบ้าน”
เสียงทุ้มปนเหนื่อยหอบเหมือนกับบอกอีกคนด้านในดังขึ้นมา ก่อนที่เจ้าของเสียงจะเดินออกมาจากห้องในด้วยกางเกงบ็อกเซอร์ตัวเดียว ท่าทีเหมือนคนพึ่งออกกำลังกายอย่างหนักมา เหงื่อที่กำลังชโลมกายกับแผ่นอกขาวๆที่ไร้เสื้อปิดบังทำให้เจ้าตัวดูดีขึ้นมากกว่าเดิมอย่างแปลกประหลาด
“จำได้ด้วยเหรอว่าต้องกลับบ้านน่ะ”
“..!”
เสียงเรียบนิ่งของแบคฮยอนทำให้ชานยอลที่พึ่งเสร็จกิจกามมาหมาดๆหายใจทั่วท้องแทบไม่ทัน ขายาวๆของตัวเองอยู่ดีๆก็รู้สึกหมดเรี่ยวแรงแทบจะคุกเข่าพับเพียบลงไปกับพื้นซะอย่างนั้น
“ม..มาได้ไงวะ”
“เทเลพอร์ตมามั้ง! ถามอะไรโง่ๆเหมือนหน้าตา เห้อะ!” แบคฮยอนเดินเข้าไปใกล้ๆร่างสูงก่อนจะแค่นเสียงใส่
“นายรู้ได้ไงว่าฉันอยู่นี่ ไม่สิ! ต้องถามว่าใครบอกนายว่าฉันอยู่ที่นี่ห้ะ?”
“จะใครบอกก็ไม่สำคัญหรอก เอาเป็นว่าเรื่องนี้ถึงหูแม่นายแน่ๆ” แบคฮยอนว่าพลางยกโทรศัพท์ในมือขึ้นมาขู่ การกระทำนั้นส่งผลให้ชานยอลหน้าซีดลงในทันที
“เห้ย! อย่านะเว้ย...ไรว้ะ! วุ่นวายกับชีวิตจริง” ประโยคหลังชานยอลบ่นเบาๆกับตัวเองแต่ก็ดังพอที่จะทำให้อีกคนได้ยิน คนตัวเล็กตาวาวก่อนจะทำท่ากดโทรออกทำให้ชานยอลรีบพุ่งตัวเข้าไปคว้าโทรศัพท์ในมือของอีกคนทันที
“อ๊ะ!” ด้วยความที่ชานยอลรีบไปหน่อยจนทำให้ชนคนตัวเล็กกว่าอย่างแรง แบคฮยอนเผลอร้องตกใจก่อนจะรีบคว้าร่างสูงมากอดไว้กันตัวเองหงายหลังแต่นั่นยิ่งทำให้แบคฮยอนอยากจะกัดลิ้นตัวเองตาย
กลิ่นเหงื่ออ่อนๆผสมกับผิวขาวๆที่แนบแก้มตัวเองอยู่ทำให้แบคฮยอนเผลอกลั้นหายใจไปพักใหญ่
“กรี๊ดดดดดดด น้องชานยอลไปกอดกับใครน่ะ ออกมาเดี๋ยวนี้เลยนะ!”
นี้สิปัญหาที่แท้จริงของชานยอล...
-TALK
มาต่อไวเว่อร์ คริคริ >< *ยักไหล่เกร๋ๆ*
พี่แพงดีใจมากน้าาที่ทุกคนชอบฟิคนี้อ้ะ เห็นมีเม้นนึงบอกว่าชอบแนวนี้นิ ._.
ฟิคนี้จะไม่ดราม่าเรื่องเม้นนะ ตามมีตามเกิด555555
#แต่อ่านแล้วเม้นหน่อยก็ดีเพราะมันคือกำลังใจของเก๊าเองงง
ขอบคุณทุกคนที่ติดตามฟิคนี้น้าาาาาาา
ไปชวนเพื่อนพี่น้องมาอ่านฟิคนี้กันเยอะๆนะ กลัวแป้ก55555555
มันแป้กป้ะถามจริง? #อย่ามารักษาน้ำใจกันแถวเน้ =.,=
#จะอัพไปเรื่อยๆถ้ายังมีคนอ่านอยู่
+รอฉากเอ็นซีกันอยู่หรือเปล่าาาาา แฮร่~
ความคิดเห็น