“Café Latte “
“ความหวานที่เขาไม่เคยรู้จัก..
กับอีกคนที่เข้ามาเติมเต็มให้รู้จักกับความหมายที่แท้จริงของความหวานนั้นว่า
... มันเป็นอย่างไร ...”
ในเวลายามบ่ายอย่างนี้ แสงแดดสาดส่องผ่านผ้าม่านบางๆเข้ามาทางหน้าต่างทรงสูง สายลมที่พัดอ่อนๆ เข้ามาทำให้ผ้าม่านบางพริ้วไหวเสมือนกำลังเต้นระบำไปกับเสียงเพลง.... บรรยากาศแบบนี้ช่างเป็นเวลาแห่งการพักผ่อนจริง ๆ
ที่นี่เต็มไปด้วยผู้คนมากมายที่กำลังเดินไปเดินมาเพื่อหาหนังสือที่ตัวเองชอบ บางคนก็นั่งฟังเพลงโปรดพร้อมจิบกาแฟร้อนๆในมืออย่างสบายใจ ขณะเดียวกันก็พลางฮัมเพลงเบาๆในลำคอ ช่างดูมีความสุขสำหรับคนความเป็นส่วนตัวซะเหลือเกิน
....... แต่..... คนอย่างอี ซองยอล มานั่งทำอะไรในห้องสมุดที่เต็มไปด้วยหนังสือ ผู้คนที่มีความสุขอยู่กับตัวเองแบบนี้ล่ะ....
เหตุผลน่ะหรอ มีแค่เหตุผลเดียวเท่านั้นที่ทำให้เขา... ยอมนั้นในที่แห่งนี้อย่างไม่อึดอัด
“นัม อูฮยอน” เพราะเขาคนเดียว คนเดียวเท่านั้น
เวลา.. ทำไมช่างผ่านไปเร็วซะเหลือเกิน ไม่รู้ว่านานเท่าไหร่ที่อีซองยอลต้องเข้ามานั่งดูคนคนนี้ในห้องสมุดเป็นประจำ พร้อมกับอเมริกาโน่แก้วโปรดที่เขาชอบดื่ม ถัดไป 4 โต๊ะ ผู้ชายคนหนึ่งกำลังนั่งอ่านหนังสือพร้อมกับรอยยิ้มและ เขาอ่านไปพลางเงยหน้ามองออกไปนอกหน้าต่างบานสูงที่เปิดไว้ต้อนรับแสงแดดในฤดูที่อบอุ่นเช่นนี้
‘อา... เขาคิดอะไรอยู่นะ ทำไมท่าทางเขาดูมีความสุขแบบนั้น’ ซองยอลคิดกับตัวเองที่สงสัยในรอยยิ้มของคนคนนั้นมานาน
แต่เพราะรอยยิ้มนี้ไม่ใช่หรอ รอยยิ้มที่เปรียบเสมือนคาราเมลที่หอม หวาน ละมุน คอยเป็นส่วนเติมเต็มให้กับเขา อีซองยอลผู้ที่ชอบดื่มแต่อเมริกาโน่ ได้รับรู้ถึงความหอมหวานเหล่านั้น และรอยยิ้มนี้เอง.. ที่ทำให้เขาต้องเข้ามานั่งรอชายคนนี้เกือบทุกวัน ที่โต๊ะตัวเดิม..
‘อูฮยอนอา.. รอยยิ้มของนายช่างทำให้โลกสดใสอะไรแบบนี้ เมื่อไหร่นะ เมื่อไหร่ที่นายจะหันมายิ้มให้ฉันบ้าง’
“เฮ้ นาย.. “
“....”
“นายนั่นแหละ ฉันพูดกับนาย”
“เอ่อ.. มะ มีอะไรหรอ?”
“ฮ่า ๆ ๆ เปล่า ไม่มีอะไรหรอก ฉันเห็นนานนั่งจ้องฉันมาหลายครั้งแล้วนะ” คนที่มาเยือนพูดพร้อมฉีกยิ้มสวย ยิ้มนั้น..ที่ซองยอลหลงใหลมันเหลือเกิน
“.....”
“ถ้าไม่รังเกียจ..ฉันจะนั่งตรงนี้นะ” ...นัมอูฮยอน... เขาคือนัมอูฮยอน ผู้ชายที่ซองยอลหวังมาตลอดว่าขอแค่เขาหันมายิ้มให้ แค่ยิ้มให้เท่านั้น
อูฮยอนพูดจบพร้อมกับชี้เก้าอี้ตัวที่อยู่ตรงกันข้ามกับซองยอล ยังไม่ทันที่ร่างบางจะตอบอะไร อูฮยอนก็ถือวิสาสะนั่งลงตรงกันข้ามกับร่างบาง ทำไม... ทำไมเขาถึงมายืนอยู่ตรงหน้าแบบนี้
“นายคือ อีซองยอล ปี 2 เอกภาพยนตร์สินะ ฉัน อูฮยอน ..นัม อูฮยอน เราเรียนเอกเดียวกัน” ยังไม่ทันที่ร่างบางจะเอ่ยถามว่าเขารู้ได้อย่างไร อีกฝ่ายรับรู้ได้ถึงสีหน้าอันเต็มไปด้วยคำถามของร่างบาง เขาหัวเราะเบาๆ พร้อมตอบข้อข้องใจของร่างบางอย่างที่ร่างบางไม่กล้าแม้จะเอ่ยถาม
“ถ้านายจะถามว่าฉันรู้เรื่องของนายได้ยังไง ?.. คำตอบมันอยู่บนสมุดโน้ตของนายไง นั่นน่ะ” อูฮยอนชี้ไปที่สมุดโน้ตเล่มสวยปกสีชมพูอ่อน หน้าปกดูสะอาดสะอ้าน ที่ตรงมุมปกเจ้าของสมุดเล่มนี้ได้แสดงความเป็นเจ้าของไว้โดยการเขียนชื่อพร้อมสาขาที่ตัวเองเรียน
ร่างบางหลุดหัวเราะออกมาอย่างดังกับความคิดของตัวเอง เขาคิดไปไกลแล้วว่าอูฮยอนก็คงจะแอบมองเขาอยู่เหมือนกัน แต่มันไม่ใช่เลย... ทำไมเขาถึงกล้าคิดอะไรน่าอายแบบนี้นะ ทำไมกล้าหวังว่าอีกฝ่ายจะคิดเหมือนตัวเอง
“งั้นหรอกหรอ.. ยินดีที่ได้รู้จักเช่นเดียวกันอูฮยอน” ร่างบางพูดแต่เพียงคำทักทายเท่านั้น
“นั่นนายดื่มแต่ไอ้นี่ทุกวันเลยหรอ มันไม่ขมรึไง ?”
“นี่น่ะหรอ ... ฉันติดน่ะ ดื่มแต่อเมริกาโน่ นายล่ะ ชอบดื่มอะไร?” ร่างบางถามพร้อมกับชี้ไปที่แก้วในมืออีกฝ่าย ที่ร่างบางมักจะเห็นเขาดื่มมันพร้อมรอยยิ้มเสมอ..
“อ๋า... ลาเต้ ฉันชอบดื่มลาเต้ล่ะ มันไม่หวานไปไม่ขมไป ให้ความรู้สึกนุ่มนวลทุกครั้งที่ดื่มเลยล่ะ” ว่าแล้ว..อูฮยอนก็ค่อยๆ ยกแก้วในมือขึ้นชิมรสชาติที่เขาเพิ่งได้บรรยายให้ร่างบางฟัง
“อยากลองมั๊ย มันรสชาติดีทีเดียวล่ะ” อูฮยอนยื่นแก้วในมือให้ร่างบางพร้อมกับทำหน้าเชิญชวน ร่างบางรับแก้วในมือเขามาอย่างลังเล แต่เดี๋ยวนะ.. นี่หมายถึงร่างบางกำลังจะได้จูบกับเขาทางอ้อม !!!! เอ๊ะ.... เมื่อกี้เขาถามว่า ‘ดื่มนี่ทุกวันไม่ขมหรอ’ งั้นหรอ ?? ทุกวัน ??
เขา...รู้ได้ยังไง
“นายรู้ได้ยังไงว่าฉัน .. ฉัน.. ฉันดื่มนี่ทุกวันน่ะ ?”
“.......” ไม่มีคำตอบออกจากปากของอีกฝ่าย มีเพียงรอยยิ้มบาง ๆ บนในหน้าอันแสนมีสเน่ห์นั้นเท่านั้น ให้ตายเถอะ.. ใจของซองยอลเต้นไม่เป็นจังหวะเลย นี่มันอะไรกัน... ซองยอลตัดสินใจยกแก้วของอีกฝ่ายที่อยู่ในมือขึ้นมาดื่มอย่างช้า ๆ แล้วอีกฝ่ายก็พูดประโยคหนึ่งขึ้นมา มันเป็นประโยคที่ซองยอลฟังแล้วเกือบทำให้หัวใจหยุดเต้น....
“เพราะว่า... ฉันก็มองนายอยู่ทุกวันไง”
.........นี่มัน... ...นี่มันอะไรกัน ร่างบางรู้สึกเหมือนตัวเองฝันไป มองทุกวัน ? นี่ความรู้สึกของร่างบางถูกส่งไปถึงอีกฝ่ายจริงๆ หรอ
ขณะเดียวกันอีกฝ่ายก็ยืนขึ้น.. เขาค่อย ๆ โน้มตัวลงมาข้างหน้าอย่างช้า ๆ ใบหน้าของเขาเคลื่อนเข้ามาใกล้กับร่างบางที่ยังอยู่ในสภาพที่ตกตะลึงกับคำพูดที่ร่างบางไม่คิดว่าจะได้ยินจากปากของคนที่ได้แต่เฝ้ามองอยู่ทุกวัน ทั้งๆที่ไม่มีโอกาสได้คุยกันเลย .. ร่างบางสะดุ้งเมื่อรู้สึกได้ถึงปลายจมูกได้รูปสวยงามของอีกฝ่ายที่เคลื่อนมาแตะกับจมูกของตัวเอง ทันใดนั้น..ริมฝีปากอุ่นของอีกฝ่ายก็ค่อยๆประทับลงมาเบา ๆ บนริมฝีปากของร่างบาง
โลกทั้งโลกเหมือนหยุดหมุนไปในฉับพลัน.. เสียงผู้คนรอบข้างเงียบหายไป เสมือนว่าโลกนี้มีเพียงเขาสองคนเท่านั้น แสงแดดอ่อน ๆ ที่ส่องผ่านเข่ามาผ่านบานหน้าต่างสูงบานนี้ พร้อมกับลมที่ผ่านอ่อนเข้ามาทำให้รอบตัวเขาทั้งสองทำให้รู้สึกเหมือนตกอยู่ในภวังค์
อูฮยอนถอนริมฝีปากออกจากร่างบางช้า ๆ พร้อมเอ่ยถามเบา ๆ
“เป็นยังไง ลาเต้.. หวานดีใช่มั๊ย?” ........
มาถึงตอนนี้ไม่คงต้องมีคำพูดใด ๆ ทั้งนั้น ใช่... หวาน มันหวานมากจริง ๆ ร่างบางไม่เคยคิดเลยว่า ลาเต้เพียงแก้วเดียว จะทำให้เขาลืมรสชาติของอเมริกาโน่ไปเสียสนิท
“อื้มมมม.... “ ร่างบางตอบรับพร้อมพยักหน้าอย่างเขินอาย ..... ทั้งสองมองหน้ากันพร้อมหัวเราะเบา ๆ ให้กันอย่างรู้ถึงความรู้สึกของกันและกัน......
“เฮ้ซองยอล...... ซองยอล อีซองยอล !!! “
“หืม...... “
“นาย ตื่นได้แล้ว.. เป็นบ้าอะไรมานั่งหลับในห้องสมุดแบบนี้น่ะ”
“หลับไป... งั้นหรอ?” ร่างบางค่อย ๆ ลืมตาขึ้นช้า ๆ ตามคำเรียกของเพื่อนรัก อีโฮวอน ... เสียงผู้คนอื้ออึงมาจากทั่วทุกสารทิศ สายลมอ่อนพัดมาประทะกับแก้มอิ่มเบา ๆ แสงแดดส่องผ่านม่านบางมาประทะกับดวงตาเป็นสัญญาณปลุกให้ร่างบางตื่นขึ้น
“ดื่มแต่ไอ้นี่ทุกวัน.. แต่แกก็หลับ หลับลงได้ยังไง ตลกมาก” เสียงโฮวอนเพื่อนรักยังคงคอยบ่นอยู่ข้าง ๆ หู เตือนให้เขารู้ว่า
เขา.... ฝันไป ทุกอย่างที่ร่างบางได้สัมผัสเมื่อกี้ ความหอมหวานจากลาเต้แก้วนั้น และความหวานจากสัมผัสนั้นด้วย ทุกอย่าง เขาเพียงแค่ฝันไปสินะ
อี ซองยอล เงยหน้าขึ้นมามองข้างหน้า ไปยังโต๊ะตัวนั้น..โต๊ะตัวที่เจ้าของรอยยิ้มที่ซองยอลเฝ้ามองตลอดมานั่งอ่านหนังสืออย่างมีความสุข ... แน่นอน เขายังอยู่ เขายังคงนั่งอยู่ตรงนั้น.. ที่ที่เขาคนนั้นนั่งอยู่เป็นประจำกับกาแฟแก้วโปรดของเขา และที่สำคัญ กับคนสำคัญของเขา .... คิม ซองกยู .... รุ่นพี่เอกขับร้อง คนรักของเขานัม อูฮยอน ซองยอลนั่งมองเจ้าของรอยยิ้มนั้นยิ้มและพูดคุยหยอกล้อกับคนรักอย่างมีความสุข
‘นี่สินะ.. เหตุผลที่ทำให้เขามีรอยยิ้มที่มีความสุขเสมอ’
สักวัน... ซองยอลได้เพียงหวังต่อไปว่าสักวัน รอยยิ้มอันแสนหอมหวานนั้นจะเป็นของเขาได้จริง ๆ สักวัน
“ฉันว่านะซองยอล นายควรเลิกดื่มนะอเมริกาโน่เนี่ย... ฉันว่ามันแรงเกินไป นายควรเปลี่ยนบ้าง” สิ้นเสียงเพื่อนตัวดีผู้ซึ่งปลุกเขาตื่นจากภวังค์อันแสนหวานนั้น ร่างบางเผลอยิ้มออกมาโดยไม่รู้ตัว
“ความหวานของลาเต้........ งั้นหรอ”
เขาพูดกับตัวเองเบา ๆ แตะริมฝีปากตัวเอง ความรู้สึกหวานติดปากแบบนี้มันคืออะไร ร่างบางยิ้มกับตัวเองเงียบ ๆ
“ห๊ะ... นายว่าอะไรนะ”
“ ได้... ตั้งแต่พรุ่งนี้ไป ฉันจะลองความหวานของ..ลาเต้ ดู”
ไรท์จบได้ฆ่ากันจริงๆเลย โหยยยยยยยยยยยย
สรุปยอลเคะแล้วแอบมองเคะ 555
น่าจะมีต่ออ่ะ
มันค้างๆไงไม่รู้ อิอิ
ไม่ๆๆๆๆๆ ต้องไม่ใช่แบบนั้นสิ
นัมจะทำแบบนั้นได้ยังไงในเมื่อมีกยูอยู่แล้ว
โธ่~ ยอลจ๋า สงสารแกอ่ะ
แต่แกเป็นแบบนี้ก็น่ารักดีน้า แอบมอง ผช ในห้องสมุด 5555
พรอตน่ารักมากเลยค่ะไรเตอร์ เป็นกำลังใจนะคะ แต่งอีกๆๆๆ
กิกิ
โอ่ยยยยยยย ต้องบอกก่อนว่าชอบเพลงของวงนี้อยู่แล้ว และยิ่งเพลงนี้คือ แงๆ
ซองยอลเรื่องนี้พลิกคาแรคเตอร์มากๆ เลยค่ะ จากเด็กประถมที่ดูซนๆ โลนๆ
ก็ดูเงียบๆ แถมยังทำตัวเหมือนสโตรคเกอร์อีกต่างหาก ๕๕๕ น่ารักจังเลยน้า~
นัมอูฮยอนนนนน จริงๆแล้วก็แอบชอบซองยอลเหมือนกันใช่ไหม?
ถึงจะพูดว่าอ่านจากปกสมุดแต่ว่าซองยอลคงไม่เขียนตัวใหญ่เท่าหม้อแกงหรอกจริงไหม?
จริงด้วย! เห็นมั้ย เราว่าแล้ววาอูฮยอนต้องแอบชอบซองยอลแน่ๆ โอ๊ยยยยย น่ารัก >///<
อหหหหหห ลาเต้แก้วนี้คงโคตรจะหวานมากๆแน่เลย เป็นลาเต้ในห้องสมุดที่ซองยอลคงไม่ลืม
อะไรรรรรรรรรรรร อะไรเนี๊ยะะะะะะะะะ ทำไมทำแบบนี้ ที่แท้แค่ฝันไปงั้นหรือ?
แถมอูฮยอนก็มีพี่กยูแล้วด้วย อหหหหหหห โคตรทำร้ายเลยป่ะจ๊ะไรเตอร์ - -
โอ๊ยยยยยยยยย คือมันละมุนมาแต่เริ่มเลยนะ เราหลงยิ้มหน้าบานมาเสียตั้งนาน
แล้วสุดท้าย ชีวิตแค่โดนทำร้ายยยยยยยย~ แงๆ *หนีไปกินลาเต้กับซองยอล*
ขอบคุณสำหรับฟิคฮะ ^^~
ปล.ได้โปรดแต่งภาคต่อเรื่องนี้ให้นัมยอลสมหวังด้วยเถอะค่ะ~!