ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [FIC] My dear EX (Chanhun) ft. Kris

    ลำดับตอนที่ #7 : Part 6 ::: Change the thought [100%]

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 918
      2
      15 ธ.ค. 56

                   

                     Part 6



                     “ชิบหายและ ไอ้ชานยอลร่างเตี้ยๆรีบวิ่งเข้ามาในห้องของเพื่อนสนิท ชานยอลที่นั่งอยู่ตรงโต๊ะหันไปมองตามเสียงโวยวายนั้นด้วยความตกใจ

                    ทำไม เกิดไรขึ้น โวยวายเสียงดัง

                    ก็มีลูกค้าโทรเข้ามาให้ไปแก้งานด่วนอ่ะดิ โอยเพคฮยอนยกสองมือขึ้นขยำหัวตัวเองด้วยความเครียด

                    แล้วมันน่าโวยวายตรงไหน แก้แบบมึงก็ไปแก้สิชานยอลกรอกตาไปมา มันน่าตกใจแค่ไหนกับอีแค่ออกไปแก้งานให้ลูกค้า ก็ทำเป็นปกติอยู่แล้วนี่นา

                    เรื่องใหญ่สิ ก็วันนี้กูมีนัดพาเซฮุนกับพี่คริสไปร้านเสื้อนะเว้ย

                    มึงก็โทรไปบอกร้านเสื้อว่าให้เตรียมตัวไว้ ให้เบอร์ไป แล้วก็ให้เขาไปกันเองสิ แล้วมึงก็ออกไปแก้งานให้ลูกค้า มันยากตรงไหนเนี่ย ออกไปๆๆเลยไปชานยอลโบกมือไล่เพคฮยอนให้ออกไปนอกห้อง แต่เพคฮยอนไม่ยอมออก

                    แต่เขาจ้างเรามาแล้วนะเว้ย เราก็ต้องทำเต็มที่ดิเพคฮยอนทำหน้าจริงจัง ชานยอลเงยหน้ามองเพื่อนสนิทด้วยความไม่เข้าใจ ... ดูมึงจะทุ่มเทให้กับงานนี้มากเลยนะ มากเกินไป มากจนดูผิดปกติ

                    มึงนี่ดูเป็นห่วงงานนี้มากเลยนะ ....กูเห็นงานอื่นมึงไม่แทคแคร์ลูกค้าขนาดนี้เลยชานยอลจ้องหน้าเพคฮยอนอย่างมีเลศนัย เพคฮยอนดูอึ้งๆไปที่ถูกจับไต๋ได้ อะไร บ้าน่า เขาก็แค่ดูแลลูกค้าดีแค่นั้นเองนะ ลูกค้ารายไหนเขาก็ดูแลดีหมดแหล่ะ จริงๆนะเฮ้ย

                    ก็ ... ก็ นี่มันงานของเซฮุนนี่ งานของเซฮุนเลยนะเว้ย

                    อ้อ เหรอ ...... อืม ช่างเถอะ แล้วมึงจะเอายังไงล่ะ มึงจะเลือกไปไหน แล้วลูกค้าแก้งานนี่ไม่รีบเหรอชานยอลถามย้ำเรื่องเดิม ยังไงงานลูกค้าที่รอแก้ก็คงรอไม่ได้เหมือนกัน

                    หรือว่าจะเลื่อนนัดร้านเสื้อไปก่อนเพคฮยอนเสนอความคิดเห็น แต่ชานยอลไม่เห็นด้วยเท่าไหร่

                    “เลื่อนไม่ได้หรอก งานพี่คริสรีบมากนะ ถ้าเลื่อนตอนนี้แล้วร้านเสื้อไม่ว่างล่ะเพคฮยอนเห็นด้วยกับประโยคนั้น ที่จริงเขาจะทำตามแบบชานยอลว่า คือโทรไปแจ้งร้านเสื้อแล้วให้คู่รักไปกันเองก็ได้ แต่ว่าใจเขามันอยากไปด้วยนี่สิ

                    ก็น่านไง เพราะว่ามันเลื่อนนัดร้านเสื้อไม่ได้ไง ชานยอลมึงช่วยกูหน่อบสิ มึงออกไปแก้แบบลูกค้าแทนกูหน่อยสิเพคฮยอนทำหน้าออดอ้อนเพื่อนสนิทให้ยื่นมือช่วย นะ นะ นะ ช่วยหน่อย

                    เฮ้ย บ้า งานมึงทำ มึงต้องเป็นคนแก้สิ ให้คนอื่นแก้เดี๋ยวงานมันก็รวนหมดดิวะ

                    ชานยอลลล มึงเก่งจะตาย งานแค่นี้เอง นะ มึงไปหน่อยเหอะ

                    ไม่เอาเว๊ย จะทำงานต่อ งานเยอะจะตายห่าแล้วเนี่ยชานยอลไม่สนใจ ก้มหน้าก้มตาดูภาพบนจอคอมพิวเตอร์ต่อ เพคฮยอนเริ่มเบะปากทำท่าทางจะร้องไห้ครางหงิงคล้ายลูกสุนัข ... ชานยอลกรอกตาอย่างเหนื่อยใจ นี่มันเอาจริงเหรอวะเนี่ย

                    มึงเป็นเชี่ยไรเนี่ยไอ้หมาเพค

                    “ก็กู ... ชานยอล มึงช่วยกูหน่อยนะเพคฮยอนครางหงิง สายตาเว้าวอน ชานยอลถอนหายใจ เฮ้อ ลองว่าไอ้เพคฮยอนงัดไม้นี้ออกมาเขาก็แพ้อยู่ดี ก็อยากช่วยอยู่หรอกนะ แต่งานรออยู่บึมเลยเนี่ยสิ

                    คือกูก็อยากช่วยนะ แต่งานกูแม่งก็เร่งว่ะ สงสัยมึงต้องเลือกแล้วแหล่ะเพคฮยอนทำหน้าหมาหงอยยิ่งกว่าเดิม เฮ้อ ทำไมนะทำไม ทำไมต้องมาแก้งานตอนนี้ด้วย วันนี้อุตส่าห์ตั้งใจไว้แล้วว่าต้องได้เจอพี่คริสแน่ๆน่ะ

                    เอ๊ย ไม่ใช่ดิ อยากจะไปร้านเสื้อน่ะ ...

                กูขอโทษนะไอ้หมาเพคชานยอลพูดขอโทษ เพคฮยอนส่ายหน้าประมาณว่าไม่เป็นไร มันคงเป็นเคราะห์กรรมของเขาเองนั่นแหล่ะ

                    เออ ไม่เป็นไรเพคฮยอนเดินคอตกออกจากห้องไป ฮือ ... อยากเจอพี่คริสจัง

                    ... ไม่ดิ ไม่ช่ายแล้วววววววว...

     

                .

                    .

                    .

                    “อะไรนะครับ พี่คริสมาไม่ได้แล้วเหรอครับเสียงที่กรอกลงไปหาปลายสายฟังแล้วเต็มไปด้วยความผิดหวังอย่างชัดเจน หลังจากที่ว่าที่คู่ครองในอนาคตโทรมาบอกว่าติดงานด่วน... เซฮุนอดน้อยใจไม่ได้ที่พอคริสกลับมาที่โซลปุ๊ป ก็ยุ่งกับงานปั๊ป ... หลังจากขอแต่งงาน เวลาที่เคยมีให้กันก็เริ่มลดน้อยลงไปทุกที

                    ขอโทษนะเซฮุน แต่เดี๋ยวยังไงพอพี่เคลียร์งานเสร็จแล้วพี่จะไปหานะ พี่รักเซฮุนนะครับเสียงปลายสายตอบกลับมา ร่างบางคลี่ยิ้มออกบางๆ คำว่ารักที่บอกมานั่นทำเอาเขาอดเขินอายไม่ได้ ... ก็ไม่รู้สิ ฟังแล้วมันอบอุ่นหัวใจอย่างบอกไม่ถูก

                    ครับ ผมก็รักพี่คริสครับเซฮุนกดวางสายหลังจากพูดเสร็จ เขากระชับกระเป๋าสะพายขึ้นบนบ่า มองซ้ายมองขวาเพราะไม่รู้จะไปทางไหนต่อให้ตายสิ ก็ลืมไปเลยว่าถ้าพี่คริสไม่มารับ เขาก็ไม่รู้ว่าวันนี้จะไปต่อยังไง

                    เมื่อวานเพคฮยอนโทรมาหาเขาแต่เช้าว่าวันนี้มีนัดกับห้องเสื้อเรื่องชุดในงานแต่ง ตอนแรกก็นัดไว้แล้วว่าพี่คริสจะขับรถไปรับแพคฮยอนที่บริษัท ... ที่ทำงานเก่าของเขานั่นแหล่ะ แล้วนี่พี่คริสไม่มาแล้ว หมายความว่าเขาก็ต้องไปที่บริษัทคนเดียวน่ะเหรอ จะทำยังไงดีล่ะ ถ้าไม่ไปก็ไม่ได้อีก

                    เอาวะ ... ไปก็ไป ยืนรอหน้าบริษัทแล้วโทรเรียกให้เพคฮยอนออกมาก็แล้วกัน

                    .

                    .              

                    .

                    เพคฮยอนมือสั่นนิดๆตอนกดโทรหาใครบางคน หลังจากเสียงสัญญาณดังไปได้สองสามครั้งกดรับ ... เสียงทุ้มใหญ่ปลายสายดังขึ้นยิ่งทำให้ใจเต้นแรงขึ้น ... นี่เขาคิดถึงเสียงนี้ขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย

                    ฮัลโหลครับ คุณเพคฮยอนปลายสายตอบกลับมา พร้อมกลับเรียกชื่อ ... เพคฮยอนอยากจะบ้า นี่คนๆนี้เมมเบอร์โทรศัพท์เขาไว้ด้วยเหรอเนี่ย

                    ครับ คะ คุณคริสบ้า บ้า บ้า ใจเต้นแรงแบบนี้จะพูดได้ยังไงกัน

                    มีอะไรหรือเปล่าครับ อ้อ เรื่องตอนบ่ายที่จะไปห้องเสื้อกันคือผมจะบอกว่า...

                    “ผมไปไม่ได้แล้วครับ/ผมไปไม่ได้แล้วครับอยู่ดีๆทั้งสองคนก็พูดพร้อมกันโดยมิได้นัดหมาย เพคฮยอนชะงักไปนิดหน่อยที่ได้ยินแบบนั้น ห๊า อะไรนะ ไปไม่ได้แล้วเหรอ ก็ดีน่ะสิ จะได้นัดกันใหม่

                    อ่อ คุณคริสไปไม่ได้แล้วเหรอครับ โชคดีจังครับ ผมก็ติดงานด่วนพอดีเพคฮยอนฉีกยิ้มกว้างใส่โทรศัพท์

                    อ่า ใช่ครับ ... ฮ่าๆ พูดพร้อมกันพอดีเลยเสียงหัวเราะปลายสายทำเอาเพคฮยอนเขินนิดๆ บ้าน่า พูดพร้อมกันแบบนี้นี่บอกได้คำเดียวว่า เนื้อคู่ !!!

                    เฮ้ย ไม่ใช่ดิ

                    อ้อ งั้นก็ดีเลยครับ ผมจะได้เลื่อนนัดออกไปก่อน อาจจะเป็นพรุ่งนี้หรือวันมะรืน

                    “อ้าว เหรอครับ แต่ผมเพิ่งโทรหาเซฮุนเมื่อกี้ เห็นว่าเซฮุนกำลังไปหาเพคฮยอนที่บริษัทนะครับสิ่งที่ปลายสายพูดมาทำเอาร่างเตี้ย(?)ตกใจ หา! ไปที่บริษัท นี่เขาก็ออกมาจากบริษัทแล้วนะ รู้งี้โทรหาเซฮุนก่อนดีกว่า ...

                    เหรอครับๆ นี่ผมก็ออกมาจากบริษัทแล้วด้วย

                    “อืม ตอนนี้เซฮุนอาจจะไปถึงบริษัทแล้วก็ได้ เอางี้ เดี๋ยวผมโทรบอกเซฮุนเองว่าคุณเพคฮยอนไม่ว่างแล้วจะเลื่อนนัด

                    “อ้อ ขอบคุณมากๆเลยนะครับคุณคริส ขอโทษนะครับที่ต้อเลื่อนนัดออกไป

                    ไม่เป็นไรหรอกครับ เพราะผมเองก็ไม่ว่างเหมือนกัน ยังไงก็ต้องขอโทษคุณเพคฮยอนเหมือนกันนะครับเพคฮยอนฉีกยิ้มกว้างใส่โทรศัพท์อีกครั้ง ฮอลลลล ฟังแล้วเคลิ้มจังเลย

                    มะ ไม่ ไม่เป็นไรครับ ...

                    ครับ ... แล้วเจอกันนะครับ เพคฮยอนปลายสายพูดเสร็จก็วางสายไป ส่วนเพคฮยอนก็ได้แต่ยืนหน้าแดงก่ำอยู่ตรงนั้น ... ฟะ ฟะ ฟินแท้ๆ TT …

                    -RRRRRRRRRRRRRRRRRRRRRRRRRRRRRRR-

                    ในขณะที่เพคฮยอนกำลังยืนฟิน เสียงโทรศัพท์ของเขาก็ดังขึ้นอีกครั้ง มือเล็กยกโทรศัพท์ขึ้นมาดู ก็เห็นเป็นชื่อของคนที่เขาต้องโทรหาเป็นคนต่อไปพอดี

                    เพคฮยอนๆๆๆยังไม่ทันที่เพคฮยอนจะได้พูดอะไร ปลายสายก็เป็นฝ่ายพูดขึ้นมาก่อน

                    เพคฮยอนๆ ฉันมาถึงหน้าบริษัทแล้วนะ นี่นายจะไปเหรอยังล่ะปลายสายไม่ได้เว้นช่องว่างให้เพคฮยอนตอบเลยสักนิด เซฮุนที่ยืนอยู่หน้าบริษัทเอาแต่รัวคำพูดใส่จนไม่ได้ฟังอีกคนเลย

                    เซฮุนๆ ฟังฉันก่อน ตอนนี้นายอยู่หน้าบริษัทแล้วเหรอ

                    ใช่ๆๆ เพคฮยอน นายออกมารับฉันหน่อย พี่คริสมาไม่ได้แล้ว ฉันต้องไปคนเดียว เพคฮยอนนา รีบออกมาเร็วๆนะ

                    อ้าว เฮ้ย เซฮุน ฉันขอโทษด้วย ฉันโทรบอกนายไม่ทันว่าฉันเองก็ติดงานไปไม่ได้แล้วเหมือนกันเพคฮยอนรีบพูดขอโทษเซฮุนที่โทรบอกไม่ทัน ... ก็นะ มัวแต่ไปโทรหาอีกคนอยู่นี่

                    อ้าว ... จริงเหรอเพคฮยอน แล้วฉันจะไปยังไงล่ะโลกของเซฮุนเหมือนจะถล่มอยู่ตรงหน้า ทำไมผิดนัดกันหมดเลยละเนี่ย นี่เขามาเก้องั้นเหรอ

                    โอย ฉันขอโทษนะเซฮุน พอดีลูกค้าอีกคนเรียกแก้งานด่วนน่ะ เซฮุนนายไปที่ร้านเองได้หรือเปล่า นายบอกว่านายรู้จักร้านใช่มั๊ยเพคฮยอนตอบกลับไป เซฮุนทำหน้าลังเลกับตัวเอง ที่บอกว่ารู้จักมันก็รู้จักหรอก แต่ที่บอกว่ารู้จักเนี่ย คือรู้จักแต่ชื่อนะ

                    คือ ฉันเคยไปร้านนี้นะ แต่เคยไปแค่ครั้งเดียวเอง แล้วก็ ...

                    เออ นี่ เซฮุน ไอ้ชานยอลมันอยู่ที่บริษัทนะ ลองขอให้มันพาไปดูสิเพคฮยอนพุดไปเพราะคิดอะไรไม่ออกอีกแล้ว เซฮุนที่ได้ยินถึงกับอึ้งไป

                    ห๊า อะไรนะ ไม่นะ เพคฮยอน ...

                    “โทษทีนะเซฮุน ลูกค้าเรียกแล้ว ฉันต้องไปก่อน เจอกันนะเพคฮยอนตัดสายไปแล้ว ทิ้งให้เซฮุนยืนเงิบอยู่หน้าบริษัท(เก่า)ของตัวเอง ร่างบางคิดอะไรไม่ออกแล้ว จะให้กลับบ้านเหรอ นี่เขาก็ออกมาแล้วนะ ... แต่จะให้ไปกับชานยอลก็ไม่มีทางซะหรอก หัวเด็ดตีนขาดก็ไม่มีทาง เขายอมไปหลงคนเดียวยังดีกว่า



                    เซฮุนยืนมองทางเข้าบริษัทที่ทำจากหินอ่อนสีขาวที่แต่ก่อนเขาเดินผ่านอยู่เป็นประจำ ประตูทางเข้าตัวออฟฟิสเป็นกระใสที่เลื่อนปิดเปิดอัตโนมัติ ทางขวาเป็นน้ำพุ ส่วนทางซ้ายเป็นป้ายบริษัทที่ทำจากแผ่นโลหะสีเงิน ที่มีตัวอักษรเป็นสีทอง ... เขาไม่เคยคิดเลยด้วยซ้ำว่าวันหนึ่งเขาจะได้กลับมาที่นี่อีก กลับมาอยู่ในสถานะลูกค้าของบริษัทด้วยนะ

                    มารอไอ้เพคฮยอนมันเหรอเสียงๆหนึ่งดังขึ้นจากข้างหลัง ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเป็นใคร เซฮุนกรอกตาไปมา ก่อนจะหันหลังกลับไปมอง

                    ใช่เซฮุนตอบห้วนๆ

                    มันไม่อยู่หรอก นี่มันไม่ได้โทรบอกเหรอว่าให้ไปที่ร้านเสื้อเอง

                    “บอก

                    “ถ้าบอกแล้วมาที่นี่ทำไม แล้วนี่พี่คริสล่ะอยู่ไหน

                    พี่คริสติดงานเใบหน้าหวานดูเศร้าลงถนัดตา ชานยอลที่เห็นแบบนั้นก็ได้เหลือกตาขึ้นมองบนฟ้าอย่างจนใจ ... นี่ไม่ได้ใจอ่อนอะไรเลยสักนิดนะ

                    แล้วนี่จะไปยังไงชานยอลถามเสียงเรียบๆ

                    ไม่รู้เซฮุนยังคงพูดสั้นและห้วน เขาก้มหน้าลงมองพื้น ชานยอลมองกุญแจรถในมือตัวเอง นี่เขาก็เพิ่งกลับมาจากกินข้าวนะ แต่จะออกไปอีกสักรอบคงไม่เป็นไรหรอก

                    เห็นว่านายเป็นลูกค้าหรอกนะ ... ฉันไปส่งให้ก็ได้

                    ไปส่งให้ก็ได้งั้นเหรอ ... ถ้านายไม่เต็มใจก็ไม่ต้องหรอก ฉันไปเองได้เซฮุนปรี๊ดแตกทันทีที่ได้ยินประโยคนั้น เขาไม่ได้ต้องการความช่วยเหลือจากคนตรงหน้าเลยซักนิด ไปร้านเสื้อแค่นี้เขาไปเองก็ได้

                    เหอะ ไปเองเหรอ ไปถูกเหรอไง อย่าเรื่องมากเลยน่ะ

                    “ไม่ต้องหรอก ฉันไม่อยากรบกวนเวลาทำงานอันมีค่าของนายพูดเสร็จเซฮุนก็รีบเดินหนี แต่ถูกอีกฝ่ายคว้าข้อมือเอาไว้เสียก่อน

                    อย่าดื้อได้มะ บอกว่าไปส่งก็คือไปส่งไง มานี่ชานยอลออกแรงลากเซฮุนไปที่รถของตัวเอง เซฮุนพยายามแกะมือนั้นออกแต่ทำไม่สำเร็จ จนสุดท้ายก็ถูกยัดหัวเข้าไปในรถ

                    ปล่อยๆๆ ปล่อยฉันเดียวนี้นะชานยอล"

                    “นั่งอยู่เฉยๆชานยอลชี้ใบหน้าหวานอย่างคาดโทษ จนร่างบางได้แต่นั่งนิ่งไม่กล้าขยับหรือพูดอะไรอีก ชานยอลรีบเดินไปฝั่งคนขับ รีบสตาร์ทรถและขับออกไปด้วยความชำนาญ เซฮุนหันไปมองคนที่นั่งฝั่งคนขับช้าๆ นานแล้วนะที่เขาไม่ได้นั่งที่นั่งนี้ ที่ๆแต่ก่อนเขานั่งมันทุกวันเช้าเย็น

                    เป็นอะไรไป ทำไมเอาแต่นั้งเงียบรถแล่นออกมาได้ซักพัก ชานยอลก็เริ่มต้นบทสนทนา ใบหน้าหวานมองค้อนน้อยๆ ก็ไหนบอกให้เขานั่งอยู่เฉยๆไง

                    ก็นายบอกให้นั่งอยู่เฉยๆพูดเสร็จก็สะบัดหน้าหนี ชานยอลส่ายหน้าไปมาพลางยิ้มน้อยๆ

                    ขี้ประชดเหมือนเดิมไม่เปลี่ยน

                    “อะไร ใครประชดเซฮุนหันมามองตาขวาง ส่วนชานยอลได้แต่ยักไหล่ไม่รู้ไม่ชี้

                    “เหอะๆ ไม่มีหรอก ฉันก็พูดไปงั้นแหล่ะ ... ว่าแต่ พี่คริสไปไหนล่ะ ทำไมถึงมาไม่ได้ชานยอลแค่ตั้งใจจะหาเรื่องอื่นคุย แต่ไม่คิดว่าจะไปดันทำให้คนที่นั่งฝั่งข้างคนขับรู้สึกแย่ลง ดวงตาเรียวฉายแววเศร้าจนร่างสูงสัมผัสได้ ชานยอลเหล่มองเซฮุนด้วยหางตา แล้วจู่ๆก็ทำให้เขานึกถึงวันเก่าๆ วันที่เขากับเซฮุนยังเป็นแฟนกันอยู่ วันที่พวกเขาเคยทะเลาะกันบนรถคันนี้ แล้วเซฮุนก็นั่งหน้าเศร้าๆแบบนี้ ... แล้วสุดท้ายเขาก็ต้องง้อ

                    แล้วนี่วันนี้เขาก็ต้องง้อเหมือนกันใช่หรือเปล่า

                พี่คริสติดงานด่วน ฉันก็เลยมาคนเดียวเซฮุนตอบอย่างเสียไม่ได้ รู้สึกเสียหน้าด้วยที่ต้องมาตอบคำถามแบบนี้กับคนรักเก่าของตัวเอง

                    แล้วไอ้เพคฮยอนก็ดันไม่ว่างอีกชานยอลพูดแล้วก็ตลก เผลอหลุดก๊ากออกมา กว่าจะรู้ตัวว่าไม่ควรขำ เซฮุนก็หน้าบูดเป็นตูดไปแล้ว

                    ขำอะไร อ๋อ สมเพชฉันล่ะสิ ที่โดนทิ้งไว้คนเดียวน่ะ จอดรถเลย ฉันจะลงแล้ว ฉันไปเองก็ได้ ไม่เห็นต้องง้อนายเลยเซฮุนพูดพลางฟาดมือลงบนต้นแขนชานยอลที่กำลังขับรถอยู่ ชานยอลทำไรไม่ได้มากนอกจากพยายามปัดมือนั้นออก

                    เฮ้ยๆ เดี๋ยวๆ ฉันขับรถอยู่นะ

                    “นายมาขำฉันทำไมล่ะ ถ้าไม่อยากไปส่งฉันก็ไม่ต้องไปส่ง ฉันไปเองได้

                    “ยังไม่ได้บอกเลยว่าไม่ได้จะไปส่ง อยู่นิ่งๆได้มั๊ยเนี่ย โอ๊ย

                    “จอดๆๆๆ ฉันจะลง

                    “โอเซฮุนชานยอลหันไปตวาดเซฮุนเสียงดังลั่นรถ จนร่างบางกลับไปนั่งกอดอกหน้าบูดตามเดิม จากนั้นคนในรถก็เงียบไปนาน จนเข้าเขตของย่านที่มีร้านรวงต่างๆตั้งอยู่ริมสองฝั่งถนน

                    ชานยอลชะลอความเร็วรถลงเล็กน้อย เพื่อมองสองข้างทาง เซฮุนมองออกไปนอกหน้าต่างรถซ้ายขวาด้วยความสนใจ เพราะเขาไม่ได้มาที่นี่นานแล้ว สองข้างทางดูไม่เปลี่ยนแปลงไปจากเดิม จะว่าไปตอนที่เขายังทำงานอยู่บริษัทเดียวกับชานยอลเขามาที่นี่อยู่บ่อยๆ ส่วนมากก็มาหาไรกิน ไม่ก็เที่ยวตอนเย็นๆนะ ... อืม ก็มากับไอ้คนที่ขับรถพาเขามาร้านเสื้อเนี่ยแหล่ะ

                    ขับรถมาได้อีกหน่อยชานยอลก็เลี้ยวรถเข้าซอยๆหนึ่งที่ด้านหน้าเป็นร้านกาแฟ และร้านดอกไม้ แต่เซฮุนที่นั่งอยู่ข้างๆกลับร้องท้วงขึ้นมา

                    นี่ ถึงแล้วเหรอ มันต้องเลี้ยวซอยโน้นไม่ใช่เหรอเซฮุนชี้นิ้วไปที่ซอยถัดไป ชานยอลกระตุกยิ้มมุมปาก นี่ก็ยังขี้ลืมไม่เปลี่ยนเหมือนเดิม

                    ซอยนี้นั่นแหล่ะถูกแล้ว ไหนว่าเคยมาไง แล้วทีแรกบอกจะมาเอง นี่ถ้าปล่อยให้นายมาเอง ฉันว่าพรุ่งนี้นายก็ยังไม่ถึงร้านหรอก

                    "หุบปากไปเลยชานยอล" เซฮุนรู้สึกขายหน้าชะมัด ยิ่งมาหน้าแตกต่อหน้าแฟนเก่าแบบนี้ยิ่งรู้สึกแย่ ทำไมพี่คริสกับเพคฮยอนต้องมาติดงานด่วนวันนี้ด้วยนะ และที่สำคัญคือ ทำไมเขาต้องดันมาเจ๊อะกับชานยอลด้วยนะ !!!!

                    "นี่ไงถึงแล้ว" เลี้ยวรถเข้าไปในซอยไม่ถึงร้อยเมตรชานยอลก็เทียบรถเข้าไปจอดที่หน้าร้านเสื้อร้านหนึ่งที่ด้านหน้าร้านตกแต่งด้วยสีขาว


                    เข้าไปกันเถอะชานยอลหันไปเรียกให้เซฮุนที่เพิ่งลงมาจากรถให้เดินตามเข้าไปในร้าน ห้องเสื้อที่นี่เป็นห้องเสื้อที่มีฝีมือมากที่หนึ่ง คิวตัดเสื้อของทางร้านก็แน่นเอี๊ยดไม่แพ้กัน แต่ด้วยบริษัทจัดงานแต่งของชานยอลก็ดีลงานกับที่นี่มานาน การที่จะขอแทรกคิวให้ช่วยรีบตัดเสื้อสักตัวสองตัวก็ไม่ใช่เรื่องยากอะไร

                อ้าว คุณชานยอล วันนี้มาที่ร้านเองเลยเหรอคะผู้หญิงเจ้าของร้านเดินเข้ามาหาคนทั้งคู่ด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม ชานยอลยิ้มตอบกลับไปตามมารยาท

     

                    “อ่า ใช่ครับ รบกวนด้วยนะครับ

                    อ่า ... นี่คุณชานยอลพาแฟนมาตัดชุดเหรอคะประโยคถัดมาของคุณเจ้าของร้านเล่นเอาทั้งชานยอลกับเซฮุนต้องหันมามองหน้ากันโดยไม่ได้นัดหมาย ชานยอลหันกลับไปมองหน้าเจ้าของร้าน พยายามจะพูดอะไรซักอย่างแต่ก็พูดไม่ออก

                    งั้นงานแต่งที่ทางบริษัทโทรมาขอคิวไว้ก็เป็นงานแต่งของคุณชานยอลเองเหรอคะเนี่ย ทำไมไม่บอกกันเลย จะตัดให้สุดฝีมือเลยค่ะเจ้าของร้านฉีกยิ้มกว้างจนแทบจะถึงรูหู เซฮุนได้แต่ก้มหน้า รู้สึกอึดอัดอย่างบอกไม่ถูก จะพูดแก้ตัวดีหรือเปล่านะ ... ใบหน้าหวานเหล่มองชานยอลด้วยหางตา แปลกใจที่อีกฝ่ายก็ไม่เห็นพูดแก้ต่างอะไรเลย

                    ... เราเป็นอดีตคนรักกันไปแล้วนะ ลืมแล้วเหรอ ...

                    “เอ่อ คือว่าชานยอลทำท่าจะพูดอะไรบางอย่าง แต่ก็ไม่ทัน

                    งั้นตามฉันมาทางนี้เลยค่ะยังไม่ทันได้ฟังอะไรคุณเจ้าของร้านก็เดินหายเข้าไปข้างในเสียแล้ว ชานยอลหันไปมองหน้าเซอุนอีกครั้ง ต่างฝ่ายต่างไม่พูดอะไร ชานยอลเลยตัดสินใจเดินนำหน้าเซฮุนเข้าไปข้างในก่อน

                    เห็นว่าทางลูกค้าอยากได้ชุดเป็นเสื้อเชิ้ตสีขาว ทางร้านก็เลยลองเลือกๆเสื้อเชิ้ตสีขาวที่เคยตัดไว้แล้วบ้างมาให้ดูก่อน เผื่อว่าชอบแบบไหนจะได้ตัดตามนั้นเลยพนักงานภายในร้านคนหนึ่งรีบยกราวเสื้อที่แขวนเต็มไปด้วยเสื้อเชิ้ตสีขาวมาตั้ง ส่วนพนักงานอีกคนก็ยกราวแขวนกางเกงมาตั้งข้างๆกัน เซฮุนที่เห็นว่าพนักงานนำเสื้อออกมาให้ดูก็รีบเข้าไปจับเสื้อออกมาดูทีละตัวๆ

                    เลือกดูได้ตามสบายเลยนะคะ ถ้ามีอะไรเรียกเด็กในร้านได้เลยนะคะ เดี๋ยวฉันขอตัวไปดูแลแขกอีกท่านก่อน เดี๋ยวกลับมาค่ะ คุณชานยอลเลือกดูกับแฟนได้ตามสบายใจเลยนะคะคำว่าแฟนที่เจ้าของร้านย้ำขึ้นมาอีกครั้งทำเอาเซฮุนสะดุ้งสุดตัว เออ น่านสิ ทำไมถึงยังไม่มีใครแก้ตัวเลยล่ะ จะปล่อยให้เขาเข้าใจผิดไปแบบนี้หรือไง

                    เอ่อ คือ ว่า ...เซฮุนพยายามจะพูดขึ้นบ้าง แต่ก็ไม่ทันอีกแล้ว

                    อ๊าว ไม่ฟังกันบ้างเลยร่างบางพึมพำกับตัวเอง ส่ายหน้าเบาๆแล้วก็ก้มหน้าดูเสื้อต่อ ชานยอลที่ยืนเก้ๆกังๆอยู่ข้างหลังเลยขอเข้าไปหยิบจับเสื้อบ้าง

                    นายไม่คิดจะบอกเขาหน่อยหรือไงว่าเราไม่ได้เป็น ... แฟนกันแล้วน่ะเป็นชานยอลที่พูดขึ้นก่อน เขาเหล่หางตาไปมองเซฮุนน้อยๆ แล้วก็ทำเป็นดูกางเกงต่อ

                    ก็จะพูดอยู่ แล้วทำไมนายไม่พูดล่ะเซฮุนหันไปต่อว่าชานยอลบ้าง ใบหน้าขาวดูอารมณ์เสียไปทันที ก็อยากจะพูดอยู่ แต่มันพูดไม่ออกนี่นา

                    ฉันก็จะพูด แต่คุณเจ้าของร้านเขาไม่ฟังเลยน่ะสิ

                    “ฉันก็เหมือนกับนายแหล่ะ เขาก็เดินหนีฉันไปก่อน

                    เฮ้อ เรื่องนั้นเอาไว้ก่อนแล้วกันชานยอลเสยผมขึ้นลวกๆ ก่อนจะพูดต่อ แล้ววันนี้นายจะวัดตัวเลยมั๊ยชานยอลหยิบเสื้อขึ้นมาดูบ้าง เสื้อเชิ้ตสีขาวนวลทำจากผ้าฝ้ายเนื้อดี ชายหนุ่มลูบมือไปตามเนื้อผ้านุ่มมือ สีขาวแบบนี้แหล่ะที่เหมาะกับงานแต่งงานที่สุด ...

                    ตอนแรกก็ตั้งใจแบบนั้น แต่พี่คริสไม่ได้มาด้วยเนี่ยสิเซฮุนตอบ มือเล็กหยิบเสื้อขึ้นมาดูทีละตัว จับซ้ายจับขวาดูทุกตัวอย่างละเอียด จากนั้นก็เริ่มแยกเสื้อที่เขาสนใจไว้ฝั่งหนึ่ง แล้วจึงหยิบเอาเสื้อขึ้นมาดูทีละตัวอีกรอบ

                    อืม งั้นก็เลือกแบบไว้ก่อน แล้วค่อยให้พี่คริสมาวัดตัวอีกรอบก็ได้ ส่วนนายก็วัดไปก่อนชานยอลพูดขึ้น พลางหยิบเสื้อฝั่งที่เซฮุนเลือกไว้ขึ้นมาดูบ้าง

                    เอาผ้าประมาณไหนดีน้า ทะเล ทะเล ทะเลเซฮุนบ่นพึมพำกับตัวเองแบบที่ชอบทำเป็นประจำ ซึ่งเป็นเรื่องที่ชานยอลไม่แปลกใจเลย

                    ถ้าเป็นทะเล เลือกพวกผ้าที่ใส่แล้วเย็นหน่อยก็ดีนะ ช่วงนี้เป็นหน้าร้อน ใส่ผ้าหนาๆไปคงไม่ดีชานยอลออกความเห็น เขาหยิบเสื้อตัวหนึ่งขึ้นมาจากราวแล้วส่งให้คนที่ยืนอยู่ข้างๆดู

                    “แต่ฉันไม่ชอบแบบนี้เลยอ่ะ ฉันอยากได้ทรงประมาณนี้มากกว่า แล้วก็ปักชื่อด้ายสีน้ำเงินตรงนี้เซฮุนจิ้มนิ้วลงไปบนหน้าอกเสื้อ

                    ก็เอาผ้าแบบนี้ แล้วให้ทางร้านตัดทรงนี้สิ หรือจะเปลี่ยนตรงไหนก็ได้

                    “น่านสินะ ลืมไปเลยเซฮุนทำแก้มป่องพองลม ชานยอลส่ายหน้าเบาๆ บนใบหน้าแต้มด้วยรอยยิ้มบางๆ บทจะ งุ๊งงิ๊งก็ไม่มีใครเกินเซฮุนคนนี้เลย

                    หรือถ้าเป็นผ้าสีขาวครีม ฉันว่าก็โอเคอยู่นะ สีคล้ายๆเม็ดทรายริมทะเลชานยอลหยิบเสื้อเชิ๊ตสีขาวครีมตัวหนึ่งออกมาจากราวแล้วส่งให้เซฮุน

                    ก็ดีเหมือนกันน้าเซฮุนรับเสื้อตัวนั้นมาดูพลางยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ มือเรียวไล้ไปตามเนื้อผ้าสีขาวที่ค่อนข้างลื่นเมื่อเทียบกับผ้าตัวอื่น ดวงตาเรียลเล็กเป็นประกายวาววับด้วยความสุข หัวกลมเอียงซ้ายเอียงขวา จ้องมองเสื้อตัวนั้นด้วยท่าทางเอ็นดู เหมือนเด็กที่กำลังเล่นกับตุ๊กตา ชานยอลจ้องมองการกระทำนั้นไม่ตาไม่กระพริบ ... จนสุดท้ายก็เผลอหลุดยิ้มหวานออกมาไม่รู้ตัว

                    แต่ก่อน ตอนที่เซฮุนยังทำงานอยู่ที่บริษัท เวลานั่งออกแบบกันในห้องทำงาน เซฮุนมักจะยกกระดาษเขียนแบบขึ้นมากางดูเสมอๆ ก็เหมือนตอนนี้เลย แต่เปลี่ยนจากกระดาษวาดแบบเป็นเสื้อตัวนึง แล้วชานยอลก็ชอบมาก เขาชอบอาริยาบทแบบนี้ของเซฮุน เขาเคยชอบที่จะมองเวลาเซฮุนทำแบบนี้ ดวงตาของเซฮุนจะเป็นประกายราวกับว่าของที่อยู่ในมือนั้นคือขนม นิ้วเล็กๆจะไล้ไปตามสิ่งของที่ถืออยู่ ริมฝีปากเม้มเข้าหากันบ้าง ขมวดคิ้วบ้าง แต่สุดท้ายกะฉีกยิ้มออกมาน้อยๆ เหมือนย้อนเวลากลับไปเลย ... ชานยอลควบคุมความคิดตัวเองไม่ได้ซะแล้ว

                    ... ถ้านี่เป็นงานแต่งของเขากับเซฮุนก็คงจะดีสินะ ...

                    เอาผ้าแบบนี้แหล่ะ เนอะ ชานยอลเซฮุนอึ้งไปเล็กน้อยตอนที่หันไปมองชานยอลกำลังจ้องมาที่เขาพร้อมกับรอยยิ้มบางๆบนใบหน้า ใบหน้าหวานมองตาคู่นั้นแล้วจู่ๆก็เกิดหัวใจเต้นแรงขึ้นมา สายตาแบบนั้น จำไม่ได้แล้วจริงๆว่าเห็นครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่ สิ่งเดียวที่ยังจำได้คือทุกครั้งที่ชานยอลมองมาที่เขาด้วยสายตาแบบนี้ ใจเขามันจะเต้นแรงจนแทบจะหลุดจากหน้าอก ... ทะ ทำไมถึงมองแบบนั้น

                    ชานยอล ...เสียงครางเบาหวิว ชานยอลสะดุ้งสุดตัวเหมือนคนที่เพิ่งหลุดจากภวังค์ เมื่อกี้เขาเผลอคิดอะไรน่ะ ย้อนเวลากลับไปแต่ก่อนเหรอ ตอนนี้ที่เขาชอบมองเซฮุนแบบนี้น่ะเหรอ ... บ้าไปแล้ว เขาต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ

                    เอ่อ ... คือ ... เมื่อกี้นายจ้องอะไรเหรอเซฮุนถามชานยอลด้วยความสงสัย ทั้งที่ใจยังคงเต้นรัว ชานยอลกระพริบตาถี่ๆ พยายามสะบัดความคิดบ้าๆออกจากหัวสมอง

                    “รีบๆเลือกเถอะ จะได้รีบกลับ อย่าเรื่องมากนักเลยจู่ๆชานยอลก็พูดเสียงแข็งขึ้นมาซะงั้น ไม่รู้ว่าหงุดหงิดเซฮุนที่ชักช้า หรือว่าหงุดหงิดที่ตัวเองกันแน่

                    อ่า เป็นไงบ้างคะ พอจะเจอที่ถูกใจบ้างมั๊ยคะแล้วคุณเจ้าของร้านก็เดินกลับมาพอดี เซฮุนรีบหยิบแบบเสื้อตรงดิ่งเข้าไปหาหญิงสาวเจ้าของร้านคนนั้นด้วยท่าทีลุกลี้ลุกลน ส่วนชานยอลก็รีบเดินไปนั่งที่โซฟาภายในห้อง ก่อนจะหยิบเอามือถือมานั่งกดเล่น ด้วยอาการเหงื่อแตกทั้งใบหน้า

                    ก็พอได้อยู่ครับ ... คือผมอยากดูเสื้อสีขาวครีมน่ะครับ ทางร้านพอจะมีแบบผ้าให้ดูอีกมั๊ยครับเซฮุนร้องขอให้ทางร้านเอาแบบเสื้อมาให้ดูเพิ่ม พนักงานในร้านผายมือเป็นสัญญาณว่าให้เชิญเข้าไปในอีกห้องหนึ่ง

                    อ้าว คุณชานยอลไปดูแบบด้วยกันสิคะ จะได้ช่วยแฟนเลือก แล้วจะได้วัดตัวด้วยเลยคุณเจ้าของร้านหันไปเรียกชานยอลด้วยความหวังดีว่าให้ไปเลือกแบบด้วยกัน ... แต่มันกลับทำให้ชานยอลหงุดหงิดกว่าเก่า ... แฟนบ้าแฟนบออะไร เลิกกันไปก็ตั้งนานแล้ว มันจบไปแล้ว มันเป็นอดีตไปแล้ว แล้วเซฮุนก็กำลังจะแต่งงานกับใครอีกคนที่ไม่ใช่เขาแล้ว

                    “เอ่อ คืองี้นะครับ เซฮุนเขาไม่ใช่แฟนผมแล้ว ผมแค่พาเขามาส่งเท่านั้น ยังไงผมขอตัวกลับเลยดีกว่า ... เซฮุน นายเรียกแท็กซี่กลับบ้านเองแล้วกันพูดจบชานยอลก็เดินออกจากห้องไปท่ามกลางสายตาที่ตกตะลึงของคนตรงนั้น รวมถึงเซฮุนด้วย

                    ... ไอ้หมาบ้าชานยอล อะไรของนายเนี่ย ...

     

                    TBC.

               
    ยิ่งแต่งก็ยิ่ง งง กับ ตัวเองค่ะ บอกตรงๆ ทำไมแลดู เนื้อเรื่องมันชอบกลๆ
                   เพราะเราก็ยอมรับว่าเราแต่งฟิคไม่เก่งนะ คิดพล็อตไรก็ไม่เก่ง ยิ่งฉากรักนี่ไม่เอาอ่าวซะเลย
                   ผูกเรื่องก็งงๆไปบ้าง ยังไงก็ขอกราบขอโทษมา ณ ที่นี้นะคะ ;___;

                   ถ้าชอบ สกรีมแท็กฟิค #ฟิคคนเคยรัก ได้นะคะ หรือเมนท์อะไรก็ได้ ทุกคอมเมนท์ ทุกคำกล่าวถึง
                   นี่ก็เป็น ยาขนานเอกบำรุงหัวใจให้เราสู้ต่อได้มากกกกกกกกกกกกกก ค่ะ TT

                    ขอบคุณทุกๆคนที่เข้ามาอ่านฟิคเรื่องนี้มากๆเลยนะคะ 

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×