ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [ShortFic] EXO (All couple) รวมเรื่องสั้นสุดติสของปามปาดา

    ลำดับตอนที่ #5 : [OS] โอมจงเงย [Krisyeol]

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 156
      9
      11 มี.ค. 57

    [One shot] 'โอมจงเงย'
    [Couple] : Kris x Chanyeol
    [Genre] : Unidentified Fiction
    [Rate] : General 


    ฟิคนี้เป็นฟิคเงียบ(ค่อนเรื่อง) มีแค่ความในใจกับการกระทำเท่านั้นที่เคลื่อนไหว
    ในเรื่องนี้เวลามันหยุดเดินไปแล้วตั้งแต่ทั้งสองมาเจอกัน  .... เน่าเนอะ 555


    ถ้าเป็นคำพูดมีเสียงจะเป็น "..."
    ถ้าไม่มีเสียง เป็นความคิดในใจจะเป็น '...'

    อ่านๆไปเนอะคะ อย่าคิดมาก แหะๆ ^^;;;

    อนึ่ง อ่านแล้วเมนท์ให้หน่อยน้าา บอกอะไรก็ได้ น่ารักไม่น่ารัก อ่านไม่รู้เรื่อง ไม่สนุก 
    อะไรก็ตามแต่ใจเลยค่า เราอยากรู้ Feedback อ่ะค่ะ 

    #กราบ ~ T3T)/

    ป.ล. เปิดเพลง โอมจงเงย ของ พี่แสตมป์ คลอไปด้วยจะดีมาก ~~~~ 



    .
    .
    .


    Start !!


    [[[สถานที่เกิดเหตุ ::: ร้านกาแฟแห่งหนึ่งกลางกรุงโซล]]]


    ชายหนุ่มร่างสูงสองคน คนหนึ่งผมสีน้ำตาลเข้ม อีกคนผมสีทอง บังเอิญเดินชนกันพอดี
    ตรงประตูกระจกทางเข้าร้านกาแฟเจ้าประจำที่ต้องแวะมานั่งก่อนไปทำงานในทุกๆเช้า

    ในมือของทั้งสองกำโทรศัพท์สมาร์ทโฟนอันเขื่องเอาไว้ หน้าจอขนาดใหญ่แสดงผลข้อความ
    ในกรอบสีเขียวอยู่คล้ายๆกัน ชายหนุ่มผมสีน้ำตาลเข้มไม่ได้สนใจแรงกระแทกที่เกิดขึ้น
    จากการชนเท่าไหร่นัก เค้าแค่รีบตั้งตัวให้ตรงดังเดิมแล้วรีบเดินตรงเข้าไปยังเก้าอี้ที่นั่งประจำ
    วางสิ่งของทุกอย่างลงบนเก้าอี้ตัวข้างๆทางซ้ายมือ แล้วก้มหน้าก้มตาใช้นิ้วเรียวจิ้มๆลงไปบน
    หน้าจอกระจกโดยไม่สนใจผู้คนรอบข้าง ชายหนุ่มผมสีทองก็ไม่ได้ใส่ใจกับการชนเมื่อสักครู่
    เท่าใดนักเป็นเรื่องปกติที่คนจะเดินมากระทบกระทั่งกันได้บ้าง เพียงแค่สงสัยนิดหน่อย

    'พูดขอโทษซักคำจะเป็นอะไรมั๊ย'

    ชายหนุ่มผมสีทองเดินตรงไปยังเก้าอี้ตัวประจำเช่นกัน ใบหน้าคมยังคงจ้องมองโทรศัพท์มือถือ
    ในมือไม่วางตา นิ้วโป้งเขี่ยหน้าจอขึ้นลงๆ เพื่อส่องสายตาอ่านตัวหนังสือที่ปลายทางพิมพ์ตอบ
    กลับมาไม่ทันสังเกตหรอกว่าตนเองนั่งอยู่ข้างๆคนที่เพิ่งจะเดินชนกันเมื่อครู่ 

    โต๊ะตัวยาวหน้าเครื่องทำกาแฟของบาริสต้าเต็มไปด้วยผู้คน แต่สองที่ตรงนี้ก็ไม่เคยมีใครมานั่งเลย
    ซักครั้ง ดูเหมือนทุกคนจะรู้ดีว่า ณ จุดๆนี้จะมีคนมานั่งเป็นประจำ ซึ่งเป็นเรื่องที่แปลกมากจริงๆ

    บาริสต้าสาวที่เคาต์เตอร์เมื่อเห็น ชายหนุ่มผู้คุ้นเคยทั้งสองคน นั่งลงบริเวณโต๊ะยาวก็รีบเดินเข้าไป
    ถามไถ่ทักทายอะไรเล็กน้อยก่อนจะตั้งคำถามว่าวันนี้อยากจะกินกาแฟอะไรดี ส่วนใหญ่คนทั้งคู่
    จะกินเหมือนเดิมทุกๆวัน บาริสต้าสาวเมื่อถามคนทั้งคู่เสร็จก็ลงมือบดเม็ดกาแฟและจัดการปรุงแต่ง 
    รสกาแฟอย่างช่ำชอง จัดการนำไปเสิร์ฟ แต่สงสัยจะเป็นเพราะว่าคุ้นชินกับการเสิร์ฟกาแฟให้ลูกค้า
    ประจำแบบเดิมๆ ทำให้คราวนี้ บาริสต้าสาวเสิร์ฟกาแฟผิดคน

    ก็วันนี้สองคนนี้สั่งสลับกันพอดี

    คนผมสีน้ำตาลเข้มส่วนมากจะกินคาปูชิโน่ แต่วันนี้กลับสั่ง เอสเปรสโซ่
    ส่วนคนผมสีทองสั่งเอสเปรสโซ่อยู่ทุกวัน แต่วันนี้ดันอยากลองคาปูชิโน่ ดูบ้าง

    เลยเกิดความสับสนเล็กน้อยขึ้นตรงหัวมุมโต๊ะตัวยาวนั้น

    "เอ่อ ขอโทษนะครับ ผมสั่งคาปูชิโน่ครับ" ชายหนุ่มผมสีทองพูดขึ้นเมื่อเห็นลักษณะกาแฟ
    ในแก้วไม่ได้เป็นอย่างที่สั่งไป 

    "ผมสั่งเอสเปรสโซ่ครับ" คนผมสีน้ำตาลเงยหน้าจากจอโทรศัพท์ขึ้นมาพูดบ้าง บาริสต้าสาวเข้า
    มาแก้ไขสถานการณ์ดังกล่าวด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม

    "อุ๊ย ขอโทษด้วยนะคะ วันนี้คุณสองคนสั่งสลับกันพอดีเลย ฉันเลยสับสนกับวันก่อนๆน่ะค่ะ
    เพราะปกติคุณคนนี้จะสั่งคาปูชิโน่ ส่วนคุณก็จะสั่งเอสเปรสโซ่น่ะค่ะ"
    บาริสต้าสาวพูดกับทั้งสองคน ก่อนจะจัดการสลับแก้วกาแฟให้คนทั้งสอง

    ชายหนุ่มหัวคนละสีทั้งสองคนเหล่มองกันนิดหน่อย ชายหนุ่มผมสีน้ำตาลที่เห็นว่า
    กาแฟถูกเปลี่ยนให้เป็นอย่างที่ตนสั่งแล้ว ก็ยกแก้วกาแฟร้อนขึ้นจิบเบาๆ แต่ด้วยกาแฟที่มีรสขม
    และเข้ม แตกต่างจากกาแฟคาปูชิโน่นมที่ตนเคยกิน ริมฝีปากสีชมพูหวานบิดเบ้ได้อย่างหน้ามอง
    จนชายหนุ่มผมสีทองอดยิ้มไม่ได้

    'กินแค่กาแฟนมมาตลอด พอกินกาแฟขมๆเข้าก็คงไม่ค่อยถูกลิ้นสินะ' 

    ชายหนุ่มผมทองยกแก้วกาแฟที่ผิวหน้าเต็มไปด้วยฟองนมขึ้นซดบ้าง คิ้วเข้มขมวดเข้าหากัน
    นิดหน่อยเพราะความหวานที่แปลกลิ้นจนรู้สึกเลี่ยน

    ฝ่ายชายหนุ่มผมสีน้ำตาลมองกิริยาของอีกฝ่ายก็กลั้นยิ้มบ้างเหมือนกัน เพียงแต่มีเสียงหัวเราะ
    เล็ดลอดออกมานิดหนึ่งจน ชายหนุ่มผมทองต้องหันหน้าไปมอง ชายหนุ่มผมสีน้ำตาลรีบก้มหน้า
    หลบสายตาดุของอีกฝ่าย แสร้งทำเป็นจิ้มๆเขี่ยๆโทรศัพท์มือถือในมืออย่างเร่งรีบ 
    พยายามทำตัวให้นิ่งที่สุดเท่าที่จะทำได้

    'ขำอะไร น่าขำตรงไหน' 

    ชายหนุ่มผมสีทองขมวดคิ้วเข้มเข้าหากันจนแทบจะผูกเป็นโบว์อยู่กลางหน้า 
    มองคนผมทองด้วยอารมณ์หงุดหงิดที่ค่อยๆเพิ่มขึ้น 

    'ทำเป็นเล่นมือถือต่อ ฉันเห็นนะว่าเมื่อกี้แอบขำอ่ะ หึ'

    ชายหนุ่มผมสีทองส่ายหัวไล่อารมณ์หงุดหงิดออกไป ก่อนจะเริ่มกดนิ้วเรียวลงบนแป้นพิมพ์
    เสมือนในหน้าจอโทรศัพท์ แล้วจึงสับเปลี่ยนหน้า Application ไปที่ ตัวเลขหุ้นประจำวัน
    ปรากฏกราฟเส้นหลากสียึกยือ จนชายหนุ่มผมสีน้ำตาลอดใจที่จะเหล่มองบ้างไม่ได้

    'นักธุรกิจหรอกเหรอ มิน่า หน้าตาโคตรดุ' 

    ชายหนุ่มผมสีน้ำตาลเข้มทำปากเบะใส่ด้วยอารมณ์หมั่นไส้ในความขรึมของชายแปลกหน้าที่นั่ง
    อยู่ข้างๆ จากนั้นก็ก้มหน้าลงมามองที่หน้าจอโทรศัพท์ของตัวเองต่อ นิ้วชี้เรียวกดปุ่มกลมๆอันใหญ่ 
    บริเวณด้านล่างของโทรศัพท์ที่ติดสติ๊กเกอร์พลาสติกรูปนกพิโรธตัวแดงๆเอาไว้เพื่อไปที่หน้าจอโฮม 
    แล้วเปลี่ยนไปกด Application เกมส์วิ่งไปให้ไกลวัด ขึ้นมาเล่นเพื่อผ่อนคลายอารมณ์
    มือข้างขวายกแก้วกาแฟขึ้นจิบอีกครั้ง ใบหน้าขาวจุ๋มจิ๋ม นิ่วหน้าอีกครั้ง ด้วยความขมที่ยังคงไม่คุ้นชิน 

    'ขมว่ะ รู้งี้สั่งคาปูชิโน่แบบเดิม กาแฟขมๆคงเหมาะกับไอ้ผู้ชายหน้าดุคนนั้นเท่านั้นแหล่ะ'

    ชายหนุ่มผมสีน้ำตาลเหล่ตามองคนผมทองอีกครั้ง แล้วจึงแตะหน้าจอเพื่อเริ่มเล่นเกมส์ต่อ
    ริมฝีปากสีชมพูเริ่มแย้มยิ้มออกมาบางๆ 

    'วันนี้ขอทำลายสถิติหน่อยเถอะ'

    ชายหนุ่มผมทองละสายตาจากหน้าจอมอง อีกฝ่ายที่กำลังเล่นเกมส์ด้วยท่าทีอยากรู้ 
    ในโทรศัพท์ของเค้าไม่มีเกมส์อยู่เลยแม้แต่เกมส์เดียว ด้วยเหตุผลที่ว่าไม่ชอบเล่นเกมส์

    'มันสนุกตรงไหน ใช้นิ้วเขี่ยๆให้ ตัวการ์ตูนมันวิ่งเนี่ย'

    จ้องไปซักพัก ตัวการ์ตูนที่วิ่งอยู่ก็ชนเข้าไปต้นไม้พอดี ชายหนุ่มผมทองหลุดเสียง
    หัวเราะออกมา จน ชายหนุ่มผมสีน้ำตาลหันมามองจิก

    'ขำไรวะ' 

    ชายหนุ่มผมทองแสร้งมองหน้าจอมือถือต่อ คล้ายว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น

    'มัวแต่นั่งดูหุ้นเมื่อไหร่จะกินฟองนมหมดล่ะนั่น'

    ชายหนุ่มผมสีน้ำตาลเบะปากใส่อีกครั้ง ก่อนจะก้มหน้าก้มตาเล่นเกมส์ต่อ
    คราวนี้มันไปได้ดีจนผ่านหลักล้านไป ริมฝีปากเม้มเข้าหากันด้วยความลุ้น
    ใบหน้าเคลื่อนเข้าหาหน้าจอโทรศัพท์ไม่รู้ตัว จนกระทั่ง ...

    'สำเร็จ วู้ๆๆๆ' 

    ใบหน้าขาวจุ๋มจิ๋มยิ้มหวานเมื่อทำลายสถิติตัวเองลงสำเร็จ มือขวายกแก้วกาแฟขึ้นจิบอีกครั้ง
    แต่คราวนี้เริ่มชินกับรสชาติ แถมยังดีใจกับการเล่นเกมส์ เลยรู้สึกว่ากาแฟมันอร่อยขึ้นอีกเป็นกอง

    ชายหนุ่มผมสีทองมองการกระทำนั่นด้วยความเอ็นดู 

    'ยิ้มน่ารักดีนี่'

    ชายหนุ่มผมสีน้ำตาลเข้มรู้สึกว่ามีใครมองอยู่เลยเงยหน้าขึ้นมามองคนที่นั่งข้างๆ 

    'แอบเหล่กันหรือไง เค้าน่ารักอ่ะดิ๊ หุหุ'

    ชายหนุ่มผมสีน้ำตาลจ้องมองไปที่หน้าจอโทรศัพท์ของอีกฝ่ายบ้าง ที่ตอนนี้กำลัง
    แสดงผมรูปภาพต่างๆใน Application ชื่อดังที่ทุกคนนิยมแชร์รูปภาพลงไป

    ภาพที่กำลังปรากฏนั้นเป็นรูปตุ๊กตาสัตว์สีขาวขนฟูดูน่ารักน่าชัง ที่ตลกคือ ตุ๊กตาตัวนี้
    ใส่แว่นดำและที่คอมีผ้าพันคอสีน้ำเงินพันอยู่ ตุ๊กตาตัวนี้วางอยู่บนตักของชายคนหนึ่ง
    ที่มีผมสีทอง รวบผมทั้งหมดไปข้างหลัง ชายหนุ่มผมสีน้ำตาลลองเพ่งดูอีกทีก็พบว่า
    ผู้ชายในรูปนั้นคือคนๆเดียวกันกับชายผมทองที่นั่งข้างๆ

    'อ๋อ กำลังอัพรูปตัวเองนี่เอง'

    ชายหนุ่มผมสีน้ำตาลชะโงกหน้าเข้าไปใกล้เพื่อดูรูปนั้นให้ชัดยิ่งขึ้น

    'ตุ๊กตาสีขาวนี่น่ารักจังเลยอ่ะ'

    ใบหน้าหวานปรากฏรอยยิ้มขึ้นน้อยๆ

    'อยากได้ซักตัว'

    ชายหนุ่มผมสีทองกำลังอัพรูปตัวเองกับตุ๊กตาอัลปาก้าขึ้นบนเว็บไซต์แชร์รูปภาพยอดฮิต
    ตุ๊กตาตัวนี้เค้าได้มาในงานวันเกิดของตัวเอง เค้าคิดว่ามันน่ารักดีเลยจัดการใส่แว่นดำ 
    พันผ้าพันคอของตัวเองเข้าไป ยิ่งดูยิ่งตลก รูปนี้เป็นรูปที่เค้ากำลังอุ้มมันวางไว้บนตัก
    แล้วเพื่อนที่อยู่ในงานแชะรูปภาพไว้ได้พอดี แล้วส่งมาให้

    'ถ้าลองแชร์รูปดูคนจะกดไลค์กันเยอะมั๊ยนะ'

    ชีวิตของชายหนุ่มผมทองผู้นี้ไม่ค่อยมีอารมณ์จุ๊มุจิ๊มิ แบบนี้มากนักหรอก ลองอัพดูเล่นๆ 
    อยากรู้ว่าทุกคนจะคิดยังไง รอยยิ้มบางๆผุดขึ้นบนใบหน้าด้วยความไม่ตั้งใจ 
    กับการกระทำของตัวเอง

    'รอยยิ้มดูอบอุ่นดีจังแฮะ'

    ชายหนุ่มผมสีน้ำตาลมองรอยยิ้มบนใบหน้าของชายหนุ่มผมสีทองสลับกับรูปในหน้าจอ
    ไม่ได้รู้ตัวเลยว่าตัวเองชะโงกเข้าไปใกล้มากจนอีกฝ่ายเริ่มรู้ตัว

    ชายหนุ่มผมสีทองทำสีหน้าตื่นตกใจเมื่อเห็นว่ามีใครอีกคนชะโงกหน้าเข้ามาใกล้ตัวเค้ามาก
    ชายหนุ่มผมสีน้ำตาลรีบหันหน้ากลับแล้วพยายามจับมือถือของตัวเองขึ้นมาจิ้มๆต่อ
    คล้ายว่ากำลังยุ่งและไม่มีอะไรเกิดขึ้น

    'อะไรของมัน'

    ชายหนุ่มผมสีทองก้มหน้าก้มตาละเลงนิ้วมือลงบนหน้าจอต่อ สายตาแอบเหล่มองอีกฝ่าย
    เป็นพักๆ ว่าจะหันมามองอีกมั๊ย

    'เดี๋ยวถ้ากันกลับไปเล่นมือถือต่อ ต้องแอบเหล่มองอีกแน่ๆ'

    ชายหนุ่มผมสีน้ำตาลใจเต้นตึกตัก ไม่คิดไม่ฝันว่าจะตัวเองเผลอชะโงกเข้าไปดูแบบนั้นจน
    อีกฝ่ายจับได้ หัวใจเริ่มเต้นเร็วและแรง ด้วยความกลัวว่าอีกฝ่ายจะหาว่าเค้าเป็นโรคจิตแอบส่อง
    อะไรเทือกๆนั้น

    พอชายหนุ่มผมสีทองหันไปสนใจมือถือตัวเองต่อ คนผมสีน้ำตาลก็แอบเหล่อีกฝ่ายเป็นพักๆ
    ไม่คิดว่าผู้ชายหน้าดุจะมีโหมดนี้กับเค้าด้วย

    'ผู้ชายหน้าดุ แถมตัวก็ใหญ่ กับตุ๊กตาเนี่ยนะ'

    ใบหน้าจุ๋มจิ๋มยิ้มกับความคิดของตัวเอง เผยให้เห็นรอยบุ๋มลงบนแก้มจนเห็นได้ชัด

    ชายหนุ่มผมทองทันสังเกตเห็นลักยิ้มน่ารักอันนั้นได้อย่างชัดเจน

    'มีลักยิ้มด้วย ไม่เคยเห็นผู้ชายกับลักยิ้มเลย'

    รอยยิ้มละมุนถูกจุดขึ้นที่มุมปากของใบหน้าเข้ม

    'น่ารักนะเรา'

    คราวนี้เป็นตาของคนผมสีทองหันมามองหน้าจอคนข้างๆบ้าง หน้าจอโทรศัพท์ของคนผมสีน้ำตาล
    กำลังขึ้นภาพแมวสีเทาหน้าตาบ้องแบ๊ว คนผมสีน้ำตาลยกมือถือขึ้นมาใกล้ๆปาก แล้วพูดอะไร
    บางอย่างใส่โทรศัพท์แมวสีเทาตัวนั้นก็ขยับปากตาม และด้วยที่คนข้างๆใส่หูฟังอยู่ 
    ชายหนุ่มผมทองเลยไม่รู้ว่าแมวตัวนั้นกำลังพูดอะไร 

    ชายหนุ่มผมทองน่ะไม่รู้หรอกว่าคนผมสีน้ำตาลกำลังเล่นอะไร แต่ที่แน่ๆ เวลาที่คนหน้าหวาน
    พูดอะไรแล้วเป็นต้องหันมาเหล่ หันมามอง แล้วก็ยิ้ม แล้วก็หันไปพูดกับไอ้แมวสีเทานั่นต่อ

    'กำลังนินทากันป่าววะ'

    ชายหนุ่มผมสีน้ำตาลยังคงเล่นสนุกกับตัวเองโดยไม่รู้ตัวเลยว่าอีกฝ่ายยังคงมองอยู่ พูดอะไรเล่น
    กับแมวตัวนั้นอย่างสนุกสนาน ยกมือขึ้นปิดปากบ้างเพื่อปิดเสียงหัวเราะ บางทีก็เอานิ้วจิ้ม
    หน้าแมวเกิดเป็นเสียง ต่อยตีให้แมวมึนงง

    'นี่ แน่ะๆ ดุนักใช่มั๊ย'

    คนผมสีน้ำตาลยกมือถือขึ้นมาพูดต่อ สงสัยจะสนุกมากไปหน่อยจนไม่รู้ตัวเลยว่า
    คนผมสีทองคนข้างๆแอบเลื่อนใบหน้าเข้ามาใกล้ๆ เพื่อดักฟังเสียงอยู่

    "ไอ้หน้าดุ กับตุ๊กตา น่าหมั่นเขี้ยว"

    เสียงนั้นแม้จะเบาแต่ คนผมสีทองก็ได้พอจะเดาได้ไม่ยาก ไม่รู้หรอกว่า คนหน้าหวานนี้
    กำลังพูดถึงใคร แต่ที่แน่ๆ ในใจน่ะ ...

    'มันพูดถึงเราแน่ๆเลย'

    คนผมสีทองยังคง ยื่นหูไปใกล้ๆคนผมสีน้ำตาลอยู่ เจ้ากรรมที่คนผมสีน้ำตาลไม่ได้รู้ตัว
    แม้แต่นิดยังคงพูดๆๆกับแมวสีเทาตัวนั้นต่อไป และคนผมสีทองได้ยินคำพูดพวกนั้นชัดเจน

    "ไอ้หน้าดุ น่าหมั่นเขี้ยวกับกาแฟเอสเปรสโซ่โคตรขม"

    คนผมสีทองงุนงงกับคำพูดของอีกฝ่าย ที่พูดแล้วก็ยิ้ม คล้ายดูจะมีความสุขมากที่ทำแบบนั้น

    'จะด่ากันหรือไง'

    "แต่น่ารักนะ ยิ้มแบบนั้นน่ารักจังเลย ชานยอลชอบ" 

    'ชื่อชานยอลเหรอ'

    "แต่เค้าไม่ยอมเงยหน้าเลย เล่นแต่หุ้น"

    'อย่างกะตัวเองเงยหน้าตลอดงั้นแหล่ะ'

    "อยากทัก แต่ไม่กล้าทัก เค้าน่าดุ ดุมากๆ ชานยอลกลัว"

    'ไม่ต้องกลัวไปหรอก อยากทักก็ทักมาสิ'

    "แต่น่ารักนะ อิอิ"

    ชายหนุ่มผมสีน้ำตาลที่ยังคงอยู่ในโลกส่วนตัวยิ้มกว้างเผยให้เห็นลักยิ้มเล็กๆบนใบหน้า
    ที่ยิ่งเสริมให้แก้มยุ้ยๆนั้นน่ารักมากกว่าเดิม สิบเท่า ร้อยเท่า พันเท่า ล้านเท่า

    "เค้าไม่ยอมเงยหน้าเลยอ่ะคุณแมว ชานยอลควรจะทำยังไงดี"

    'นายนั่นแหล่ะที่ต้องเงยหน้า ฉันเข้ามาใกล้ขนาดนี้แล้วยังไม่รู้ตัวอีก'

    "เดี๋ยวเค้าก็ต้องไปแล้ว พรุ่งนี้จะได้เจอกันอีกมั๊ย"

    'เจอสิ เดี๋ยวจะให้เจอทั้งวันเลย เจอกันทุกวันก็ยังได้นะ'

    ชายหนุ่มผมสีทองยิ้มกว้างกับความน่ารักของคนตรงหน้า ที่ยังคงมีความสุขกับ
    การพูดกับแมวสีเทาในโทรศัพท์มือถือ

    ชายหนุ่มผมสีทองเอียงหน้ามองใบหน้าหวานนั้นด้วยความนึกเอ็นดูในความน่ารัก
    แบบตลกๆของผู้ชายใบหน้าหวานยิ่งกว่ากาแฟที่ตนชิม คนนี้

    'เงยหน้าขึ้นมามองตากันสิ'

    "ชานยอลไม่กล้าคุยกับเค้า เลยต้องมาคุยกับคุณแมวแทน"

    ชายหนุ่มผมสีทองหลุดขำกับอีกฝ่าย คนเป็นๆ พูดได้ยิ้มได้อยู่ข้างๆนี่ไม่รู้จักหันมามอง 
    น่ารักแบบนี้ หอมๆแบบนี้

    'อยากคุยกันไปตลอดทั้งชีวิตมั๊ยล่ะ'

    "ชายยอลอยากรู้จักเค้าจัง เค้าชื่อว่าอะไรน้า"

    "ชื่อคริสครับ"

    End of part 
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×