ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [ShortFic] EXO (All couple) รวมเรื่องสั้นสุดติสของปามปาดา

    ลำดับตอนที่ #4 : [OS] Your way, my way [Krisyeol]

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 152
      10
      11 มี.ค. 57

                 
                     [OS] Your way, my way 
                     [Couple] Krisyeol
                     [Genre] Drama


                    ... สิ่งสุดท้ายที่ผมได้เห็นและรับรู้ถึงความรู้สึกดีๆที่มีให้กัน มันนานแค่ไหนแล้วก็ไม่รู้ ...

     

                    มันคงนานมากจริงๆที่ผมพยายามเค้นสมองตัวเองให้ตายเท่าไหร่มันก็นึกไม่ออก เท่าไหร่แล้วละ กี่วัน กี่เดือน

    หรือผ่านมาเป็นปีมาแล้ว

     

                     ผมกำลังนั่งอยู่ริมแม่น้ำ บนบันไดหินที่ทอดลงไปสู่ผืนน้ำที่กำลังสะท้อนไฟถนนตอนกลางคืนเป็นแสงระยิบระยับห่างจากผมไปไม่ถึงสิบเมตรก่อนหน้านี่ ที่นี่ เคย’ เป็นที่ๆผมมีความสุข แต่ทุกวันนี้มันไม่ใช่

     

                     ผมเชื่อมาตลอดว่า ไม่ว่าครั้งไหนที่ผมได้กลับมาที่นี่ มันจะทำให้ผมกลับมามีความสุขได้ทุกครั้งไป ... แล้วผมก็ได้พิสูจน์ว่ามันไม่จริงเลย ผมยกกระป๋องเบียร์ขึ้นมาซดเข้าไปอีกอึกใหญ่ นัยหนึ่งก็เพื่อทำให้ร่างกายตัวเองอุ่นขึ้น อีกนัยหนึ่งก็เพื่อทำให้ตัวเองเข้มแข็งพอจะต่อสู้กับสิ่งที่กำลัจะเกิดขึ้นต่อจากนี้ ซึ่งผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าต้องกินเบียร์อีกแค่ไหนมันถึงจะพอ

     

                 “มาถึงนานหรือยัง” เสียงที่ผมคุ้นเคยดังขึ้นจากข้างหลัง ผมหันหน้าไปมองก็พบกับคนที่ผมนั่งรอมาทั้งคืน เขาอยู่ในชุดกางเกงยีนส์ขายาวและเสื้อฮู้ดปิดบังใบหน้าของตัวเองไว้ ผมขยับตัวไปทางขวาเพื่อให้เขาได้นั่งลงทางฝั่งซ้าย

     

                 “ไม่นานนักหรอก” ใช่ ผมตอบไม่ผิดหรอก ถ้าเทียบกับเวลาก่อนหน้านี้ที่ผมรอมา

     

                 “เฮ้อ มีอะไรก็พูดมาสิ” ผมไม่มั่นใจว่านั่นคือคำถาม หรือประโยคบอกเล่า หรืออะไรกันแน่ แล้วผมก็ไม่มั่นใจว่านั่นคือคำพูดของคนที่ได้ชื่อว่าเป็นแฟนจะพูดต่อกันหรือเปล่า

     

                 “แค่อยากจะเจอแฟนตัวเอง มันต้องมีอะไรมากมายด้วยเหรอ

     

                 “ถ้างั้นแล้วพี่เรียกผมมาทำไม” ผมไม่เห็นเลยว่าภายใต้เสื้อฮู้ดตัวใหญ่ในตอนนี้เขามีสีหน้าเป็นแบบไหน แต่ผมว่าเขาอาจจะไม่พอใจที่ผมเรียกเขามาแบบกลางดึกแบบนี้ พร้อมทั้งบังคับว่ายังไงก็ต้องมาให้ได้ด้วย

     

                  “นายหายไปไหนมา” นี่เป็นคำถามที่ผมถามเขามาตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ทั้งทางโทรศัพท์ และทางโปรแกรมแชท และคำตอบที่ผมได้รับส่วนมากคือ

     

                       คำว่า งานยุ่ง’ เลยมาหาไม่ได้ ผมก็ไม่รู้หรอกนะว่าที่ว่างานยุ่งนั่นคืองานอะไร แล้วทำไมถึงหายไปทีค่อนวันค่อนคืน

     

                  “พี่เรียกผมมาเพราะเรื่องแค่นี้เหรอไง

     

                   “ทำไมล่ะ ก็แค่ตอบมาว่าหายไปไหน” ผมเริ่มโมโหกับคำตอบของเขา สำหรับความสัมพันธ์ระหว่างผมกับเขา การหายหน้าหายตาไปมันถือเป็นเรื่องเล็กน้อยอย่างนั้นเหรอ

     

                    “...” เขาไม่ตอบอะไรนอกจากนั่งเงียบ ส่วนผมก็นั่งเงียบ ผมเอามือสองข้างขึ้นมากำไว้แน่น บางทีผมน่าจะรีบทำให้เรื่องๆนี้มันจบไปเพราะถึงยังไง ผมก็รู้ดีว่า วันคืนเก่าๆที่ผ่านไป ยังไงมันก็ไม่มีวันเรียกกลับคืนมาได้อีก

     

                    “นายจำที่นี่ได้ใช่มั๊ย” จู่ๆผมก็เริ่มชวนเขาคุยเรื่องใหม่ ผมเอนหลังลง พลางยกกระป๋องเบียร์ขึ้นซด แล้วผมก็หยิบเบียร์อีกกระป๋องส่งให้เขาบ้าง

     

                     “ได้สิ แล้วมันยังไง” เขายกเบียร์ขึ้นซด น้ำเสียงดูหงุดหงิด

     

                     “ที่นี่มันสวยจริงๆเนอะ” ผมพูดขึ้น สายตามองทอดไปที่อีกฝั่ง ที่มีตึกสูงตั้งอยู่เรียงราย ดวงไฟจากบ้านเรือนเปล่งแสงสลัวๆอยู่ไกลๆ ให้ความรู้สึกผ่อนคลาย

     

                      “ถ้าพี่จะเรียกผมมาเพราะเรื่องแค่นี้ล่ะก็ ผมจะกลับและ” เขาทำท่าจะลุกขึ้น ผมเลยเอื้อมไปคว้ามือเขาเอาไว้ มือข้างเดิมที่ผมเคยจับไว้ตอนมาที่นี่ ภาพพวกนั้นผมยังจำได้ดี ผม กับ เขา และรักของเราที่ไม่เหมือนเดิม

     

                     “...” เขาไม่พูดอะไรนอกจากย่อตัวลงมานั่งตามเดิม เรานั่งเงียบใส่กันอยู่นานสองนาน ผมจ้องเขาที่เอาแต่นั่งก้มซ่อนใบหน้าเอาไว้มืออีกข้างหนึ่งก็ยังจับมือเขาอยู่ เขากำมือผมแน่นมาก ผมขยับตัวเองเข้าไปใกล้ตัวเขามากขึ้น ก่อนจะเริ่มตั้งคำถามที่ผมอยากถามมานานมากแล้ว

     

                      “ตกลงเรายังรักกันอยู่มั๊ย

     

                       “แล้ว...พี่คิดว่ายังไงล่ะ” เขาไม่ตอบอะไรนอกจากตั้งคำถามกลับ ... ตัวผมคิดยังไงงั้นเหรอ ผมว่าผมก็มีคำตอบในใจอยู่แล้วนะ

     

                        ... ว่ายังรัก ...

     

                       “พี่รักนายนะ

     

                        “ผมก็รักพี่ ...” เสียงสั่นไหวที่เบาจนแทบจะกลืนหายไปกับสายลม บ่งบอกความอะไรได้มากมาย ผมเพิ่งเข้าใจก็วันนี้ ที่เขาว่ากันว่า ...

     

                         คำว่ารักในวันที่หมดใจ ไม่ต่างอะไรกับเข็มนับพันทิ่มแทงลงมา

     

                         “ผมว่า ... เราต่างคนต่างจากกันไปแบบนี้เถอะ” เขาดึงฮู๊ดตัวเองลง เผยให้เห็นใบหน้าที่เต็มไปด้วยน้ำตา ผมควรดีใจใช่มั๊ยที่อย่างน้อยเขาก็ยังเสียใจกับเรื่องราวที่เกิดขึ้น

     

                                 ผมดึงเขาเช้ามากอด อ้อมกอดสุดท้ายของความรักระหว่างเขากับผม ก่อนที่จะปล่อยให้เขาเป็นอิสระทั้งตัวและหัวใจ

     

                           “ผมขอโทษ พี่คริสผมขอโทษ” เขาก้มหน้าร้องไห้ตรงอกผม ส่วนผมก็ไม่ได้พูดอะไร ปล่อยให้น้ำตาไหลออกมาแทนคำตอบ

     

                          “ดูแลตัวเองดีๆนะ ...ชานยอล” ผมลูบหัวเขาเป็นการปลอบ นี่คงเป็นสิ่งเดียวที่ผมจะพูดกับเขาได้ ผมไม่หวังอะไรนอกจากให้เขามีความสุข เพราะถ้าอยู่ด้วยกันแล้วต้องทุกข์ มันคงไม่ดีที่ปล่อยให้ความรักกลับมาทำร้ายตัวเอง

     

                                 จากนั้นผมก็ปล่อยให้ตัวเขาเป็นอิสระจริงๆ เราทั้งสองคนลุกขึ้นยืน แล้วมองตากัน เราเข้าใจในสิ่งที่อีกฝ่ายต้องการจะสื่อได้ดีไม่มีใครอยากบอกเลิกใคร ขอแค่นี้ก็เข้าใจ ว่าคงไม่มีคำว่า เรา’ อีกแล้ว เราเลือกที่จะแยกทางกัน ณ สถานที่ๆ เส้นทางของเราเคยมาบรรจบกันผมว่านั่นเป็นสิ่งที่ดีที่สุด ผมยิ้มให้เขา เขายิ้มให้ผม ก่อนที่เราจะหันหลังให้กัน แล้วแยกกันไปคนละทาง … ตลอดไป

     

     

                               FIN


                              ฟิคจากอารมณ์ชั่ววูบอีกแล้ววว แหะๆ ^^;;;

                              ขอบคุณทุกคอมเมนท์ และทุกคนที่เข้ามาอ่านนะค้า ><


     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×