ผมทำเลวมาเยอะ... จาก เฉินก้วนซี

ข้อมูลเบื้องต้น

เป็นถึงลูกศิษย์ของนักแสดงดังอย่าง เฉินหลง 
ที่ตัวเฉินหลงเห็นเขาเหมือนเป็นหลานแท้ๆ 
และเค้าก็เป็นนักแสดงชื่อดังที่มีฝีมือด้านการแสดงหนังแนวแอ็คชั่นที่ดี 
แต่กลับมีภาพเหล่านี้หลุดรอดออกมามากมาย 
ทำให้แฟนคลับ พ่อแม่ และคนหลายๆ คนที่เชื่อใจตัวเค้า ต้องหมดความหวังไป... 
หรือวงการบันเทิงฮ่องกง ต้องเสียนักแสดงชื่อดังไปอีกคนเพราะข่าวฉาว...

เนื้อเรื่อง

○ประวัติโดยร่วมของเฉินก้วนซี○

                เฉินก้วนซี หรือ เอดิสัน เฉิน เพลย์บอยตัวจริงแห่งเกาะฮ่องกง มีชื่อเล่นว่า เอ็ดดี้ หรือ อิลล์คิด สูง 179 เซนติเมตร หนักประมาณ 66 กิโลกรัม เป็นหนุ่มราศีตุล เกิดเมื่อ 7 ตุลาคม ค.ศ.1980 ที่แวนคูเวอร์ ประเทศแคนาดา มีคุณปู่เป็นลูกครึ่งโปรตุเกส

                เขาเป็นลูกชายคนเล็กของ เฉินเจ๋อเหวิน นักธุรกิจมหาเศรษฐีคนดังของฮ่องกง มีพี่สาว 2 คน คนโต "โอลิเวีย เฉิน" ส่วนคนรอง "ทริเซีย เฉิน" หรือ "เฉินเจี้ยเฟย" นางแบบ นักร้อง และนักแสดงชั้นแนวหน้าคนหนึ่งของฮ่องกง

                เรื่องสถานศึกษาหนุ่มเฉินย้ายไปมา ระหว่าง แคนาดา อเมริกา และ ฮ่องกง หลังจบเกรด 11 ที่ฮ่องกง อินเตอร์เนชั่นแนล สคูล เขาได้บินไปใช้ชีวิตส่วนใหญ่อยู่ที่ แวนคูเวอร์ และนิวยอร์ก เฉินเคยพูดไว้ว่าเรื่องเรียนเป็นสิ่งหนึ่งที่เขาทำให้พ่อกับแม่ผิดหวัง ส่วนเรื่องที่พอจะทดแทนกันได้ก็เห็นจะเป็นความสำเร็จในหน้าที่การงานอย่างทุกวันนี้ เขาสามารถพูดได้ถึง 4 ภาษา คือ กวางตุ้ง ญี่ปุ่น อังกฤษ และจีนกลาง

                ปัจจุบันอาศัยในคฤหาสน์หลังงามของครอบครัวในเนื้อที่ 333 ตารางเมตร ลือกันว่ามูลค่าถึง 2,000 ล้านเหรียญฮ่องกง ในย่านถนนโรบินสัน ฮ่องกง

                มีแมวมองพาเข้าวงการเมื่อปีค.ศ.1999 ประเดิมด้วยงานโฆษณาทางโทรทัศน์ และด้วย รูปลักษณ์ ที่สะดุดตา บุคลิกของวัยรุ่นหัวรั้น และหนุ่มนัยน์ตาแสนซน ส่งให้ชื่อเสียงของเขา หอมหวานในวงการบันเทิง โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับบรรดาสาวๆ
                งานภาพยนตร์เรื่องแรกคือ "เดธ ออร์ อไลฟ์ 2" ซึ่งเป็นหนังญี่ปุ่น ออกมาเมื่อปี 2000 และในปีเดียวกันเขาก็มีเรื่อง "เจน-วาย คอร์ป : ตำรวจพันธุ์ใหม่" หนังฮ่องกง ตามออกมาอีก ซึ่งเฉินบอกว่าเรื่องนี้เป็นงานแสดงที่เขาประทับใจที่สุด เพราะได้เล่นฉากเสี่ยงตายเองทุกฉาก

                เฉินก้วนซี เคยรับบทเด็กเสิร์ฟ ในภาพยนตร์ฮอลลีวู้ด "เดอะ เมดัลเลี่ยน" หรือ "ฟัดอมตะ" แต่เนื่องจากฉากที่เขาแสดงได้ออกฉายอยู่แค่เพียง 1-2 วินาที เท่านั้น คนจึงจำไม่ได้ ส่วนภาพยนตร์ฮอลลีวู้ดที่ เฉินก้วนซี รับบทเด่นเรื่องแรกคือหนังเขย่าขวัญ "เดอะ กรัดจ์ 2 : โคตรผีดุ 2" และกำลังจะมีงานชิ้นใหม่ "แบ๊ตแมน เดอะ ดาร์ก ไนต์" ออกฉายปีนี้ (โดนปลดแล้ว)

                งานสร้างชื่อของ เฉินก้วนซี ในบ้านเรา เห็นจะเป็น อินเฟอร์นอล แอฟแฟร์ส (2 คน 2 คม ภาค 2), เดอะ ทวินส์ เอฟเฟ็กต์, อินนิเชี่ยล ดี

                นอกจากงานแสดง เฉินก้วนซี เริ่มต้นทำเพลงกับ อีอีจี กรุ๊ป บริษัทบันเทิงยักษ์ใหญ่แห่งเกาะฮ่องกง มี งานเพลงอัลบั้มแรกชื่อ "เอดิสัน เฉิน" ออกมาเมื่อ พฤศจิกายน ปี 2000 ซึ่งประสบความสำเร็จด้วยดี จนมีงานเพลงอัลบั้มอื่นๆ ตามมา อาทิ พีช แอนด์ เลิฟ, ทรานซิชั่น, ฮิตส์ แอนด์ มิสเซส

                เป็นนายแบบโฆษณาสินค้าดังหลายชนิด อาทิ ลีวายส์, รองเท้าอาดิดาส, เครื่องดื่มเป๊ปซี่

                เขาหันเหเข้าสู่วงการแฟชั่นเมื่อปี 2003 ด้วยการเปิดบริษัท คล็อท ทำร้านขายเสื้อผ้าเจาะกลุ่มวัยรุ่น ร่วมกับเพื่อนอีก 2 คน ซึ่งมีช็อปเปิดขายทั้งในฮ่องกง และจีนแผ่นดินใหญ่ เดือนกุมภาพันธ์ ปี 2007 เขาลงทุนด้วยเงิน 10 ล้านเหรียญฮ่องกง เปิดบริษัทบันเทิงในนาม คล็อท มีเดีย ดิวิชั่น เพื่อผลิตภาพยนตร์ โฆษณา และงานเพลง และในเดือนกรกฎาคม ปีเดียวกัน เขาได้ออก อัลบั้มเพลงภาษาจีนกลาง ในชื่อว่า "อัลลาว มี ทู รีอินโทรดิวซ์ มายเซลฟ์" ซึ่งเพลง "รีเมมเบอร์ มี?" ในอัลบั้มนี้พาดพิงไปถึง อีอีจี กรุ๊ป ต้นสังกัดเดิมของเขาด้วย

                เขาเคยถูกเด็กวัยรุ่น 2 รายรุมสกรัม เมื่อเดือนมีนาคม 2004 แต่ เฉินก้วนซี ไม่ยอมเจ็บฟรี คราวนั้นเขาวิ่งตามและจับสองวายร้ายส่งตำรวจได้สำเร็จ แต่สุดท้ายก็ไม่ได้ติดใจเอาความอะไรต่อกัน เชื่อกันว่าเหตุการณ์รุมกระทืบหนุ่มเฉินคราวนั้นเกิดจากคดีหมั่นไส้เพียงอย่างเดียว เพราะไม่มีทรัพย์สูญหาย แถมก่อนลงมือ 2 หนุ่มยังตะโกนเรียกชื่อ เฉินก้วนซี เพื่อให้แน่ใจอีกด้วยว่าไม่ผิดตัว

                ส่วนเรื่องภาพฉาวว่อนเน็ตที่เพิ่งเกิด เฉินก้วนซี ได้ออกแถลงการณ์ผ่านเว็บไซต์ เพื่อขอโทษสาวทุกรายที่มีข่าวเกี่ยวพัน พร้อมทั้งขอร้องให้ทุกคนที่มีภาพลับอยู่ในมือได้โปรดทำลายมันทิ้งแทนที่จะส่งต่อแต่ดูเหมือนคำขอของเขาจะไม่สัมฤทธิผล

                เมื่อสองเดือนกว่าๆ ที่แล้ว...คงไม่มีข่าวไหนจะคาวเท่าข่าวองหนุ่มตี๋ เฉินก้วยชี หรือ เอดิสัน เฉิน เพราะได้มีภาพวาบหวิวกับนักร้องดังกับนักร้องสาว อาเจียว แห่ง Twins หลุดออกมามากมายและไม่ใช่แค่ภาพลับที่ถ่ายคู่กับอาเจียวเท่านั้น ยังมีภาพที่เขาถ่ายกับ จางป๋อจือ และเฉินเหวินหยวน หลุดออกมาอีกด้วย ที่นี้เลยกลายเป็นประเด็นร้อนที่คนวิพากษ์วิจารณ์ไปทั่วเอเชีย

                บ่ายวันที่ 27 มกราคม ได้เกิดเรื่องวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักเพราะภาพคู่ของเฉินก้วนซีและอาเจียวที่ถ่ายเล่นกันอยู่บนเตียง ถูกมือดีนำออกมาตีแผ่ หลังจากนั้น บ่ายวันที 28 ก็ยังมีรูปลักษณะเดียวกัน แต่... ผู้หญิงในรูปดูคล้ายกับเฉินเหวินหยวน (โบโบ้) ส่วนผู้ชายก็ยังคงเป็นเฉินก้วนซีเหมือนเดิม ทางด้าน

อาเจียวพอได้รู้ข่าวก็ส่งผู้จัดการส่วนตัวไปแจ้งความว่าภาพที่ถูกแพร่ออกมาเป็นการตัดต่อ แต่เรื่องก็ไม่ได้หยุดแค่นั้น เพราะบ่ายวันที่ 29 มือดียังเผยภายเฉินก้วนซีกับจางป๋อจือออกมาอีก แถมยังบอกอีกว่า ยังมีคลิปความยาว 13 นาที ระหว่างจางป๋อจือและเฉินก้วนซีอยู่ในมืออีกด้วยซึ่งเฉินก้วนซีนั้นได้มีการว่าจ้างทนายเตรียมไว้แล้ว

                ทางด้าน วินซี่ (หยงหย่งชิง) แฟนสาวปัจจุบันของเฉินก้วนซีที่กำลังเรียนอยู่ที่บอสตันเมื่อได้รู้ข่าวเรื่องนี้ เธอบอกว่าไม่เอามาใส่ใจ เพราะไม่ว่าข่าวนั้นจะเป็นเรื่องจริงหรือเรื่องที่แต่งขึ้น มันก็เป็นเรื่องในอดีตทั้งนั้น และที่สำคัญ เธอไม่เคยสนใจวงการบันเทิงฮ่องกงอยู่แล้ว เพื่อนของเธอยังบอกอีกว่า วินซี่ ยังคงไปเรียนและใช้ชีวิตตามปกติเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

                ก็เล่าถึงเหตุการณ์ฉาวๆ กันแค่พอหอมปากหอมคอ มาลองฟังสัมภาษณ์จากปากเฉินก้วนซีกันดีกว่า

○อยากขอโทษพ่อแม่○

                “ทำตัวไม่ดีกับพ่อแม่ เอาแต่ใจตัวเอง ขโมยเงินพ่อแม่ วันๆ เอาแต่เที่ยวกลับดึกๆ” ประโยคเหล่านี้เป็นคำพูดที่เฉินก้วนซีแต่งออกมาเป็นเพลงเพื่อขอโทษพ่อแม่ของเขา

                แต่ทำไมต้องขอโทษล่ะ? “ผมทำไม่ดีเอาไว้เยอะ ตั้งแต่สิบขวบจนสิบเก้า ผมทำตัวไม่ดีเลย มีแต่เรื่องที่ทำให้พ่อแม่เสียใจ โดดเรียนเป็นประจำ แม่บอกให้กลับบ้านไม่เกินสี่ทุ่ม ผมก็เที่ยวจนตีห้า ผมไม่รู้จักพูดแม้แต่คำว่าขอโทษด้วยซ้ำ แต่ตอนนี้ผมปรับปรุงตัวแล้ว”

                ตอนเฉินก้วนซีอายุสิบขวบ เขากับพ่อกลับจากแวนคูเวอร์มาอยู่ที่ฮ่องกงชั่วคราว เนื่องจากพ่องานยุ่งมากและแม่ไม่ได้อยู่ด้วย เค้าจึงใช้ชีวิตอย่างอิสระ “ผมว่าตั้งแต่ผมอายุสิบสองจนสิบเก้า พ่อแม่ไม่เคยมีความสุขเลย ผมคิดว่าไม่มีอะไรที่จะทำให้พวกท่านภาคภูมิใจได้ และผมเองก็ไม่ได้ภาคภูมิใจในตัวเองเลย ตอนอยู่ที่แคนนาดา วันๆ ผมก็เอาแต่ไปเที่ยว สิ่งเดียวที่ผมพูดกับพ่อคือขอเงิน บางทีก็ขโมยเงินแม่ เชื่อไหมว่ากระเป๋าเงินผมไม่เคยมีเงินต่ำกว่าหนึ่งพันดอลล่าร์ ผมไม่เคยสนหรอกว่าพวกเค้าจะให้ผมเองหรือผมจะขโมยมา จนผมอายุสิบเก้าถึงได้เริ่มรู้สึกว่า ต้องเริ่มปรับปรุงตัวโดยเริ่มทำงาน พอผมเข้าทำงานในวงการบันเทิง มันทำให้ผมได้เรียนรู้อะไรมากมาย มีหลายอย่างที่เงินซื้อไม่ได้ ผมเริ่มสำนึกบุญคุณที่พ่อแม่เลี้ยงผมมา ผมเริ่มส่งเงินให้พ่อแม่และน้องสาวสองคน ผมโตขึ้นแล้ว และรู้ว่าตัวเองทำไม่ดีไว้มาก ผมอยากขอโทษกับพ่อแม่”

เฉินก้วนซีเริ่มเข้าใจถึงความสำคัญของคนในครอบครัว หลายปีมานี้เข้าจึงส่งเงินให้พ่อแม่และน้องสาวใช้ตลอด

○หาตัวเองเจอ○

                ตอนนี้เป็นทั้งเถ้าแก่ CLOT แล้วยังเป็น CEO ของ Medai Division ด้วย แต่ใครจะรู้ว่าตอนแรกที่เฉินก้วนซีเข้าวงการมานั้นเขาไม่ได้สนใจเกี่ยวกับวงการบันเทิงเลย “ผมไม่ได้เข้าวงการบันเทิงมาเพราะสนใจ แต่เป็นเพราะห่วงอนาคตตัวเอง เริ่มคิดว่าอีกหน่อยจะทำงานอะไร ตอนนั้นผมอายุ 18 แต่รู้สึกหมดหวังไปทุกอย่างเมื่อกลับมาฮ่องกง แล้วมีแมวมองมาชวนไปทำงาน เลยคิดว่าถ้างั้นก็ลองดูซักตั้ง แล้วผมก็ได้แสดงเรื่อง Gen Y Cops (ตำรวจพันธุ์ใหม่) ซึ่งหนังเรื่องนี้เพอร์เฟ็คมากครับ”

                “พอหลังได้ลองงานมากขึ้นเรื่อยๆ ทั้งงานแสดงและงานเพลง ผมก็เริ่มสนใจมากขึ้น ได้ทำเพลงในแบบที่ตัวเองชอบ  ได้แสดงหนัง ผมก็เริ่มสนใจและรักงานที่ผมทำ ตอนนี้มีคนมากมายที่ไม่ชอบงานที่ตัวเองทำอยู่  ไม่รู้ว่าตัวเองต้องการอะไร แต่ผมสามารถพูดได้อย่างเต็มปากว่าผมรักงานที่ทำอยู่และมีความสุขกับวงการบันเทิง”

○มาทำงานเบื้องหลัง○

                สี่ปีก่อนเฉินก้วนซีควักกระเป๋าไปร่วมหุ้นเปิดบริษัทมีเดีย CLOT ที่นับวันยิ่งดังขึ้นเรื่อยๆ เขาเริ่มเปลี่ยนจากนักแสดงมาเป็นนักธุรกิจ “ผมคิดว่าถ้าหาเงินได้มากพอแล้ว ผมจะหยุดทำงานเบื้องหน้า แต่งานที่ CLOT ผมยังคงจะทำต่อไปเรื่อยๆ อีกหน่อยพนักงานในบริษัทต้องมีมากกว่า 50 คน ถึงตอนนั้นผมอาจจะทำอย่างอื่นด้วย เช่นไปเป็นผู้กำกับ ไปถ่ายโฆษณาบ้าง หรืออาจออกอัลบั้มเพลง ผมเริ่มแก่แล้ว เดี๋ยวนี้ดาราอายุน้อยๆ สิบห้าสิบหกทั้งนั้น ทุกวันนี้เงินผมที่ได้จากบริษัทผมไม่เคยถอนออกมาใช้เลย ผมคิดว่าผมจะเก็บไว้ใช้ตอนผมแก่ ผมตั้งเป้าไว้ปี 2012  ผมจะเก็บได้ตามจำนวนที่ผมต้องการ (เขาบอกว่าจำนวนนั้นคือ 20 ล้านดอลล่าร์อเมริกา )  ตอนนั้นผมก็อายุ 32 แล้ว อาจต้องมีแผนลาจากงานเบื้องหน้าจริงๆ ตอนนี้ CLOT ก็ไปได้สวย แล้วเราก็มีแผนงานต่ออีกมากมาย ผมว่าเราประสบความสำเร็จแล้ว”

○ไม่อยากทำให้แฟนรู้สึกกดดัน○็็็้้้่ีาอ

                ที่คุณบอกว่าหาเงินได้ตามเป้า หมายถึงว่าคุณวางแผนแต่งงานกับสาววินซี่หรือเปล่า? “ทุกครั้งนักข่าวมักถามคำถามนี้กับผม ที่จริงแล้วเข้าใจผิด เขาพากันพูดที่ผมตั้งใจเก็บเงินก็เพื่อแต่งงาน แต่ที่ผมพูดคือ ถ้าผมเก็บเงินได้ 20 ล้านดอลล่าร์ ผมจะไม่คิดเรื่องแต่งงาน เพราะถ้าผมไม่มีเงินผมจะรู้สึกไม่อุ่นใจ ส่วนเรื่องแต่งงาน เธอยังเด็กมาก ปีนี้อายุแค่ 19 เอง ผมไม่อยากให้เธอรู้สึกกดดัน ดังนั้นเราจึงไม่เคยพูดเรื่องแต่งงานกันเลยครับ” แต่เฉินก้วนซีจะพูดอย่างนั้นแต่เค้าก็ได้วาดภาพชีวิตหลังแต่งงานเอาไว้แล้ว “ผมหวังว่าจะมีบ้านหลังใหญ่ให้พ่อแม่อยู่ส่วนหนึ่ง ผม ภรรยา และลูก ก็อยู่อีกส่วนหนึ่งภายใต้หลังคาเดียวกัน”

                พอถามถึงความรู้สึกที่เขามีต่อแฟนสาวตอนนี้ เขาก็ถึงกับหุบยิ้มไม่อยู่แล้วตอบว่า “ตอนนี้ทุกอย่างลงตัวมากครับ เราเข้าใจกันดีมาก ถึงแม้จะยังไม่ได้แต่งงานกันก็ตาม” ในบรรดาผู้หญิงที่คุณเคยคบ คุณชอบคนนี้มากที่สุดหรือเปล่า?  “แน่นอน! อีกอย่างพ่อแม่ผมก็รู้จักเธอแล้ว” คุณพาแฟนทุกคนที่คุณคบไปหาพ่อแม่เหรอ? “ไม่ครับ ถ้าขืนพาไปหมดคงเยอะมาก แค่คนที่ผมจริงจังด้วยเท่านั้น สำหรับผมแล้วการยอมรับของพ่อแม่เป็นเรื่องสำคัญมาก...” แล้วพวกท่านยอมรับเธอไหม? “พวกท่านเห็นด้วยอย่างมาก”

                เฉินก้วนซียังเผยอีกว่าวินซี่กับคุณแม่ของเขาส่งเมล์หากันเป็นประจำ “พ่อผมบอกว่าวินซี่หน้าเหมือนแม่ผม แต่ผมไม่คิดอย่างนั้น แม่ผมชอบเธอ แม่คุยกับเธอทางเมล์เป็นประจำ ผมไม่รู้หรอกว่าเค้าคุยอะไรกัน แต่บางทีเธอจะมาบอกผมว่า ‘วันนี้ฉันคุยกับแม่เธอมา’ ผมให้อิสระกับแฟนผมมาก เธออยากทำอะไร เธออยากพูดอะไร ผมปล่อยเธอ ผมจะเป็นห่วงแค่ว่า เธอมีความสุขหรือเปล่าเท่านั้นครับ”

เฉินก้วนซีและวินซี่ต่างพบกับพ่อแม่ทั้งสองฝ่าย เรียบร้อยแล้ว เห็นได้ชัดว่าทั้งคู่คบกันอย่างจริงจัง

○หญิงสาวที่เฉินก้วนซีเคยควง○

 ปี 2000

                Maggie Q ได้ร่วมงานกันในเรื่อง Gen Y Cops (ตำรวจพันธุ์ใหม่) และเฉินก้วนซีก็หลงรักเธอเข้าอย่างจัง

                เซียวย่าซวน นักข่าวแอบรู้มาว่าทั้งสองแอบคบกันลับๆ

                Amanda S ตอนแสดงเรื่อง Final Romance ด้วยกัน ทั้งคู่ก็มีข่าวว่าคบกันอยู่

 ปี 2001

                จงชินถง (อาเจียว) เฉินก้วนซีและอาเจียวอยู่สังกัดเดียวกัน หลีงจากที่ถ่ายทำงาน MV ด้วยกันก็มีข่าวว่าเค้าตามจีบอาเจียวอย่างจริงจัง

                หลีไฉ่หัว หลังจากได้พบกันในงานๆ หนึ่ง ก็มีข่าวว่าเฉินก้วนซีตามจีบเธออยู่

                เฉินเหวินหยวน มีข่าวว่าเฉินก้วนซีขับรถไปรับเธอตอนดึก ความสัพันธ์ของทั้งคู่จึงถูกปิดได้ถึง 3 ปี แต่สุดท้ายก็มีคนรู้

 ปี 2003

                จางป๋อจือ ปีนั้น หลังจากที่จางป๋อจือเลิกกับเซียะถิงฟง เธอก็มีข่าวกับเฉินก้วนซี ที่เด็ดกว่านั้นคือ พวกเขาไปเที่ยวญี่ปุ่นกันสองต่อสองด้วย

 ปี 2004

                เจิงลี่ซิน ทั่งคู่เคยถูกนักข่าวถ่ายภาพได้ตอนเดินออกจากโรงแรมแห่งหนึ่งที่ไต้หวันด้วยกัน

                โรซาน [2R] สำหรับคู่นี้ไม่ได้ไปถึงไหนเพราะเธอยืนยันว่าเขาและเธอไม่มีทางเป็นไปได้

 ปี 2005

                ไช่อี้หลิน หลังจากเป็นพรีเซ็นเตอร์เป๊ปซี่ร่วมกันแล้ว ตอนหลังโจลิน ตามตัวเฉินก้วนซีมาเป็นพระเอก MV เพลง Mr.Q ให้เธอ ความสัมพันธ์ทั้งคู่นั้นแนบแน่นสุดๆ

                หยางเชี่ยนหัว ฝ่ายหญิงยืนยันว่าเขาและเธอไม่มีอะไรเกินเลยนอกจากความเป็นพี่น้อง

 ปี 2006

                วินซี่ (หยางหย่งชิง) พวกเขาถูกปาปาฯ ถ่ายภาพตอนจูบกันในที่สาธารณะมาเผยแพร่ วินซี่เป็นผู้หญิงคนแรกที่เฉินก้วนซียอมรับว่าเป็นแฟน ทั้งคู่คบกันมาปีกว่าแล้ว

ลองให้อภัยเค้าซักครั้งนะค่ะ

คิดว่าเค้าเป็นคนดีและนักแสดงที่ยอดเยี่ยมกว่าเดิมแน่

ไม่เช่นนั้นเค้าคงไม่ออกมาพูดถึงสิ่งที่เค้าทำผิดเป็นอันขาด

 แต่หลังจากนี้เฉินก้วนซีก็ไม่รู้ว่าเป็นไงต่อ เพราะประกาศลาออกจากวงการบันเทิงไปแล้วนี้... ถ้ายังไงมีข่าวคืบหน้าจะเอามารายงานน่ะค่ะ