ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เทพบุตรร้อยล้าน

    ลำดับตอนที่ #14 : ตอน 14

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 225
      3
      27 มี.ค. 56

    สวยไหม รึว่าตัวนี้สวยกว่า นภาสิริถามด้วยน้ำเสียงครุ่นคิด สองตาพินิจแต่ละหน้าของหนังสือเล่มอ้วนอย่างตั้งใจ นิ้วเรียวลากผ่านแต่ละบรรทัดราวกับเกรงว่าจะอ่านข้ามลายละเอียดบางอย่างไป

    ตัวอย่างการ์ดสีหวานและของชำร่วยร่วมสิบแบบกองอยู่เต็มโต๊ะ ว่าที่เจ้าสาวจดรายการสิ่งที่ต้องทำยาวเป็นหางว่าว แต่ยังไม่มีทีท่าว่าจะเหน็ดเหนื่อย

    ริมฝีปากแดงมีรอยยิ้มสุขใจแทบตลอดเวลา ยิ้มกับตัวเองราวกับเป็นคนบ้า จนคนเป็นพี่ได้แต่มองอย่างปลงตก

    ว่าไงพี่ชนา แบบไหนสวยกว่ากัน น้องถามความเห็นอีกครั้งพร้อมกับชูการ์ดสีชมพูอ่อน กับชมพูเข้มปรี๊ดให้ดู

    สุชนาตั้งใจเต็มที่จะไป จัดการกับน้องให้รู้เรื่องโทษฐานวุ่นวายไม่เข้าเรื่อง ชักศึกนามว่าภาษิตมาให้หล่อนปวดหัว แต่สุดท้ายก็ทำไม่ลงอยู่ดี

    น้องหล่อนทำตัวเหมือนนกรู้ คือรู้อยู่ รู้เวลา เวลาอยากพบ หาตัวแทบตายก็เป็นอันว่าไม่มีทางจะเจอ ส่วนมากจะออกไปกับพุทธ หล่อนจะถ่างตารอให้กลับมาก็ไม่ได้เจอสักทีเพราะน้องกลับดึกเหลือเกิน

    ส่วนเวลาที่ไม่อยากเจอ อยากจะทำใจลืมๆ ไปซะ น้องสาวกลับมานั่งตากลมอมยิ้มกวนประสาทใส่อย่างเช่นตอนนี้

    ทำไมอยู่ๆ ถึงลุกขึ้นมาเตรียมงานแต่ง

    หล่อนถามเพราะไม่เข้าใจเลยแม้แต่น้อย ก่อนหน้านี้น้องสาวยังร่ำไห้จะเป็นจะตายเพราะคุณยายน้อยไม่ยอมให้แต่ง ตราบใดที่พี่สาวยังอยู่ในภาวะสุ่มเสี่ยง

    คนจะขึ้นคานอย่างสุชนาก็ได้แต่ปวดหัว ต้องยอมให้น้องมาวุ่นวายทำตัวเป็นแม่สื่ออยู่นี่ไง สุดท้ายถึงได้พูดไม่ออก จะไปตำหนิน้องก็เกรงจะขว้างงูไม่พ้นคอจนได้

    พี่คิดว่าเธอจะมากดดันพี่ให้มีแฟนเร็วๆ ซะอีก

    ไม่เห็นต้องกดดัน นภาสิริพูดไปยิ้มไป ก็เห็นอยู่ว่าพี่ชนากำลังจะลงจากคาน

    คนจะขึ้นคานทำหน้าหงิกใส่น้องสาว อดไม่ได้ที่จะทำเสียงขุ่นใส่

    เรื่องนี้ก็เหมือนกัน มันเรื่องอะไรของเธอนะถึงได้ไปดึงผู้ชายคนนั้นเข้ามาด้วย พี่ไม่อยากเจอเขาเธอไม่รู้รึไงหล่อนย่นจมูกใส่น้องให้รู้บ้างว่าไม่อยากเจอเขามากขนาดไหน

    แหม ฟังดูห่างเหินจังเลยนะ ผู้ชายคนนั้น นภาสิริล้อด้วยสีหน้าขี้เล่น ให้เขาไปรับไปส่งตั้งเป็นอาทิตย์แล้วยังเรียกผู้ชายคนนั้นอีก น่าน้อยใจแทนพี่เค้าจัง

    พี่ไม่ได้อยากไปไหนมาไหนกับเขาเธอก็รู้ แล้วถ้าเธอไม่ขับรถพี่ไปชนกับมอเตอร์ไซค์ คิดเหรอว่าพี่จะยอมไปกับเขา

    หล่อนเถียงน้องเสียงขุ่น ทั้งที่ในใจย่ะรู้ดีที่เดียว... ต่อให้รถยนต์ของหล่อนยังปกติดีทุกอย่าง ภาษิตก็คงหาเรื่องมารับส่งไปทำงานได้อยู่ดีนั่นล่ะ

    นภาสิริหัวเราะกับเหตุผลของพี่สาว นึกถึงวีรกรรมตัวเองแล้วก็อดขำไม่ได้ แต่พอเห็นแววตาดุและจริงจังของพี่แล้วก็ต้องตีหน้าโศกใส่

    แหม อุบัติเหตุมันเกิดขึ้นได้นี่ สิรีจะเลี้ยวแต่มอเตอร์ไซค์แซงขวามาใครจะหลบทัน ดีเท่าไหร่แล้วที่ไม่มีใครบาดเจ็บ เดี๋ยวรถซ่อมเสร็จเมื่อไหร่ เขาก็เอามาส่งเองนั่นล่ะ

    ถึงจะรู้ว่าน้องสาวอาจจะแกล้งถ่วงเวลา แต่ก็ยังอดไม่ได้ต้องรีบบอก

    ดีเหมือนกันรถซ่อมเสร็จแล้ว พี่จะได้ขับรถไปทำงานเองไม่ต้องพึ่งใคร

    สิ้นเสียงพี่สาว นภาสิริก็โยนการ์ดในมือลงบนโต๊ะด้วยความไม่พอใจ นี่ถ้ากระดาษสีหวานมีน้ำหนักมากกว่านี้สักหน่อยคงมีเสียงปังตามมาแล้ว

    พี่ชนาสัญญาแล้วนะ จะผิดคำพูดเหรอ น้องสาวทวงคำเสียงขุ่น มองหน้าพี่สาวเหมือนคนทรยศ

    คำสัญญาระหว่างพี่น้องยังไม่มีใครลืมเลือนไปโดยง่าย คนหนึ่งกดดัน อีกคนรับปาก เพราะไม่คิดว่ามันจะเป็นจริงได้

    ไม่จำเป็นต้องทวนย้ำว่าสัญญาอะไรไว้ สุชนาก็จำได้ขึ้นใจเพียงแค่ยังไม่อยากจะยอมรับอยู่ดี

    แต่พี่ว่ามันยังเร็วเกินไปที่จะ... หล่อนไม่ทันได้พูดต่อนภาสิริก็เริ่มตาแดงก่ำ

    เพียงชั่วพริบตา ใบหน้านวลๆ ของน้องก็มีหยาดน้ำตาหยดแหมะลงมาราวกับสั่งได้

    สิรีรักพี่พุทธ สิรีอยากแต่งงานกับพี่พุทธเร็วๆ พี่ชนาเข้าใจบ้างไหม ถ้าพี่พุทธทนรอไม่ไหว ไปคว้าผู้หญิงที่ไหนไม่รู้มาเป็นเมีย สิรีจะทำยังไง

    สุชนาตกใจไม่น้อยที่อยู่ๆ น้องสาวก็น้ำตาร่วง ถึงจะรู้ว่าน้องขี้แยมากแค่ไหน แต่ก็ไม่คิดว่าจะเปลี่ยนจากคนมีความสุขยิ้มแย้มทั้งวันมาร้องไห้ได้ในพริบตา

    อย่าคิดมากสิ ดูพุทธออกจะเป็นคนดี เค้าคงไม่ทำให้สิรีผิดหวังหรอก

    ว่ากันได้หรอพี่ชนา สมัยนี้ผู้หญิงหน้าด้านมีถมไป สิรีพบคนที่สิรีรักแล้วก็รักสิรีแล้ว ไม่อยากรออีกแล้ว พี่ชนาเข้าใจสิรีบ้างได้ไหม

    พี่เข้าใจ เพียงแต่จะให้พี่ตะครุบผู้ชายคนแรกที่ก้าวเข้ามา มันไม่เกินไปหน่อยเหรอ

    แล้วเขาไม่ดีตรงไหน น้องจี้ถามเสียงแข็ง ก่อนจะใช้หลังมือปาดน้ำตาทิ้ง ไหนพี่ชนาลองบอกสิรีมาสิว่าเขาไม่ดียังไง ถึงจะหนีเขาท่าเดียว

    มันก็ไม่ใช่ว่าเขาไม่ดีพี่สาวตอบเสียงอ่อย

    งั้นอะไร

    พี่ไม่แน่ใจ คือพี่...

    เขาขาดคุณสมบัติข้อไหนของพี่ชนาหรอ ถึงจะปฏิเสธเขา

    นั่นสิ... เขาบกพร่องตรงไหนกัน หล่อนถึงยืนกรานไม่อยากเข้าใกล้เขา

    คุณสมบัติมากมายที่บรรจงเขียนขึ้นกลับไปตรงกับตัวเขาอย่างประหลาด แล้วหล่อนยังจะมีเหตุผลข้อไหนมาปฏิเสธเขาได้อีกหรือ...

    หรือว่า คู่กันแล้วไม่แคล้วกันหรอกยังเป็นจริงเสมอ

    เปล่า ไม่ใช่อย่างนั้น หล่อนตอบได้ไม่เต็มเสียงนัก

    ใช่ หล่อนยอมรับอยู่หรอก เขาเป็นผู้ชายที่ยากจะปฏิเสธ แต่มันเหมือนผงเข้าตาที่เขี่ยไม่ออก ถึงยังเคืองตาไม่หาย

    งั้นก็ไม่มีปัญหาสินะ นภาสิริสรุปความด้วยรอยยิ้มที่มุมปาก สีหน้าเศร้าสร้อยก่อนหน้ามลายหายภายในพริบตา สิรีจะได้ลองพูดเรื่องแต่งงานกับคุณยายได้อย่างสบายใจซะที รับรองได้จัดงานใหญ่แน่ทีนี้

    สุชนาเห็นสีหน้ามีความสุขจนน่าหมั่นไส้ของน้องสาวแล้วก็ได้แต่ยิ้มรับ รู้หรอกว่าโดนน้องแกล้งอีกตามเคย แต่ถึงอย่างไรก็อยากให้น้องมีความสุขมากกว่าน้ำตาร่วงไม่ใช่หรือ

    พี่จะรอดู

    แล้วพี่ชนาก็ไม่ต้องห่วงนะ สิรีจะเชียร์เต็มที่นภาสิริบอกอย่างใจป้ำเต็มที

    ไม่ต้องเชียร์นักก็ได้ แค่นี้พี่ก็แย่พอแล้ว

    อะไรแย่ พี่เค้าออกจะดี

    ดีแต่ทำให้พี่ขายหน้าน่ะสิ หล่อนว่าเสียงเหนื่อยหน่าย รู้ไหม วันก่อนเขาถือกุหลาบแดงช่อใหญ่ไปรอรับพี่ที่โรงเรียนตั้งแต่โรงเรียนยังไม่เลิก ทั้งครู ทั้งนักเรียน ทั้งผู้ปกครองมองกันทั้งโรงเรียนจนพี่ไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ไหนแล้ว

    ต๊าย... พี่ภาษิตนี่โรแมนติกเหมือนกันนะเนี่ย ตอนแรกสิรีคิดว่าเขาจะขรึมๆ ซะอีกที่ไหนได้ ร้ายไม่เบาเลยนะ

    ยังจะไปเห็นดีกับเค้าอีกนะเรา

    ก็มันดีจริงๆ นี่ ถ้าพี่พุทธทำให้บ้างก็คงจะดี นภาสิริพูดด้วยน้ำเสียงชวนฝัน อะไรที่เกี่ยวกับแฟนหนุ่มนับว่ามีแต่เรื่องดีทั้งนั้น อ้อ ไม่ต้องห่วง ถ้าไม่ชอบเดี๋ยววันหลังเจอเค้า สิรีจะบอกให้ก็ได้ว่าพี่ชนาขี้อาย อย่าทำอะไรประเจิดประเจ้อ

    น้องบอกด้วยความหวังดี แถมยังหัวเราะตบท้ายคนเป็นพี่เลยได้แต่หลุดปากออกไป

    เด็กบ้า สุชนายังคงหน้าหงิก ไม่ค่อยอยากเชื่อน้องสาวนักหรอก แล้วมันเรื่องอะไรเธอถึงเอาสมุดเล่มนั้นไปให้เค้าดู

    สมุดไหนอีก นภาสิริถามพาซื่อ อ๋อ ไอ้สเปคผู้ชายหนึ่งร้อยข้อของพี่ชนาน่ะหรอ

    สุชนาฟังแล้วนึกอยากยกมือกุมขมับ น้องไม่รู้เลยสักนิดว่าหล่อนอับอายขนาดไหนกับเรื่องนี้ มิหนำซ้ำยังพูดเป็นเรื่องสนุกเสียอีก

    ไม่ถึงร้อยข้อซะหน่อยหล่อนบ่นอุบ รู้อย่างนี้ไม่น่าเขียนเลย

    เขียนน่ะดีแล้ว ดีกว่าที่สิรีคิดไว้ซะอีก อย่างน้อยก็จะได้รู้ไปเลยว่าผู้ชายคนนี้เป็นยังไงรับได้ไหม บอกตามตรงนะพี่ชนา ตอนแรกสิรีเห็นก็ตกใจ คิดว่าพี่ชนาแกล้งทำ แต่กลายเป็นว่าทำแบบนี้แล้วก็เหมือนลองใจผู้ชายดีเหมือนกันนะ ถ้ารับได้ก็รับ รับไม่ได้ก็ไม่ต้องเสียเวลา เยี่ยมที่สุดพี่สาว

    คนเยี่ยมไม่ได้ปลาบปลื้มไปกับคำชมเลยแม้แต่น้อย หล่อนเขียนมันขึ้นมาเพื่อให้น้องเลิกยุ่งกับเรื่องส่วนตัวของหล่อนซะที แต่กลายเป็นว่าสมุดเล่นเดียวกลับเป็นคู่มือสำคัญในการเฟ้นหาผู้ชายมาให้ไปซะแล้ว

    เธอสนุกแต่พี่ไม่สนุกด้วยนะ

    สิรีไม่ได้สนุก ก็บอกแล้วไงว่าสิรีคุยแล้ว ท่าทางพี่เค้าใช้ได้เลยล่ะ แล้วรู้ไหม สิรีว่านะ พี่เค้าเหมือนเทพบุตรในฝันถอดแบบออกมาจากสมุดของพี่ชนาเลยดีกว่า ตรงทุกข้อ ไม่พอใจยินดีคืนเงิน

    เจ้าของสมุดฟังแล้วก็ได้แต่ส่ายหน้าอย่างระอากับสโลแกนบ้านๆ ของน้องสาว นอกจากหล่อนจะต้องอับอายแล้ว ตัวต้นเหตุยังไม่รู้สึกรู้สาเสียด้วยซ้ำ

    อย่าทำแบบนี้อีกนะสิรี อย่าเอาสมุดเล่มนั้นไปให้ใครดูอีก พี่อายเค้า

    คนผิดไม่มีสลด พูดต่อหน้าตาเฉย โอ๊ย ไม่ทำแล้ว ทำไปทำไม ก็พี่ชนาเจอตัวจริงแล้วนี่

    จะบ้าหรอ หล่อนค้านทันที ตัวจริงอะไร พี่ไม่ได้คิดอะไรกับเขาเลย

    หรอ... น้องลากเสียงถาม หูตาแพรวพราวไม่น้อย

    ใช่ หล่อนยืนกรานเสียงแข็ง เขาไม่จริงใจ

    คิดมากไปแล้วพี่ชนา

    พี่พูดจริงๆ นะสิรี ผู้ชายอย่างเขาน่ะ เข้าข่ายเทพบุตรเลยดีกว่า มีหรือจะมาสนใจผู้หญิงอย่างพี่ ยังไงพี่ก็ไม่เชื่อหรอก มันต้องมีเหตุผลอะไรสักอย่าง

    นภาสิรินิ่งไปเล็กน้อย สีหน้าเหมือนครุ่นคิดอะไรบางอย่างอยู่เป็นชั่วครู่ก่อนจะพยักหน้ารับอย่างเห็นด้วยเต็มร้อย

    นั่นสิ เขาต้องมีเหตุผลอะไรสักอย่างแน่ๆ เลย

    พี่ก็ว่างั้น ถึงได้ไม่อยากเจอเขานี่ไง

    พี่ชนาเคยได้ยินคำนี้ไหม

    อะไร

    รักแรกพบ

     

    ว้าวุ่น... มีคำไหนจะเหมาะไปกว่านี้อีกไหม สุชนาได้แต่ถามตัวเองอยู่บ่อยๆ ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา

    จะว่าหล่อนนอนไม่หลับเพียงเพราะเรื่องสาระที่เรียกว่า ความรัก ก็คงไม่ผิดนักหรอก

    มันน่าคิดอยู่ไม่ใช่หรือ ในเมื่อคุณครูที่มีตารางกิจวัตรประจำวันซ้ำเดิมมาตลอดหลายปีกลับต้องรวนเรไปหมดเพราะเขาคนเดียว

    จะไปทำงานก็เป็นอันว่าต้องรอเขามารับ ตอนเที่ยงก็ยังต้องรับโทรศัพท์กวนประสาทของเขาที่พร่ำบอกว่าคิดถึงและอยากให้ถึงเวลาห้าโมงเย็นเร็วๆ จะกลับบ้านก็มีเขาคอยมาส่ง

    แถมเขายังเพิ่มกิจกรรมทานข้าวนอกบ้านตอนหัวค่ำให้อีกแทบทุกวัน แม้แต่วันหยุดเขาก็ยังหาเรื่องพาหล่อนออกไปข้างนอกจนได้ แม้จะคัดค้านอย่างไรก็ไม่สำเร็จสักที

    มีครั้งหนึ่งหล่อนเคยถามอย่างไม่เกรงใจ

    คุณไม่มีงานการทำรึไง ฉันเพิ่งรู้ว่านักบินเขาไม่ต้องไปทำงานบ่อยๆ

    เขายิ้มอีก ไม่มีทีท่าจะเดือดร้อนเลยด้วยซ้ำ

    ไม่อยากให้ผมมารึไง คอยดูเถอะ วันไหนผมไม่มาคุณนั่นล่ะจะชะเง้อคอคอย

    ไม่มาสิดี ฉันก็อยู่ของฉันแบบนี้ดีอยู่แล้ว ไม่เห็นจะต้องมีใครมาหา

    ผู้หญิงปากแข็ง

    ผู้ชายเจ้าชู้

    กล่าวหา เขาทำเสียงสูงใส่ ผมก็มีคุณคนเดียว มีแต่คุณเท่านั้นแหละที่ไม่ยอมรับซะที

    หล่อนจำไม่ได้หรอกว่าตอบเขาไปว่ายังไง รู้แต่ว่ายิ่งนับวันเขาก็ยิ่งจะวุ่นวายกับหล่อนมากขึ้นทุกที และยิ่งจะหาเหตุผลสักข้อเพื่อจะไล่เขาไปให้ไกล สุดท้ายก็ยังได้แค่ความว่างเปล่า

    ก็หล่อนไม่มีหลักฐานอะไรจะไปกล่าวหาเขาได้เลยนี่ หรือจะจริงอย่างที่เขาว่า.. มีแต่หล่อนคนเดียวเท่านั้นที่ไม่ยอมรับสารที่เขาส่งมา...

    หรือถึงเวลาแล้วที่จะต้องเปลี่ยนแปลงตัวเองสักที...

     

    เสียงโทรศัพท์มือถือหล่อนดังขึ้น หญิงสาวหยิบขึ้นมาดูก็ปรากฏหมายเลขเดิมที่มักจะโทรเข้ามาก่อกวนอยู่บ่อยครั้ง

    หล่อนเผลออมยิ้มกับตัวเองก่อนจะกดรับสายพร้อมกับย้ำกับตัวเองอีกครั้งว่าเบื่อจะแย่ ไม่ได้อยากรับสายเลยสักนิด

    เพียงแค่กรอกเสียงทักทายสั้นๆ ลงไป ภาษิตก็ตอบกลับทันที

    ข้อหกสิบสาม ผมมีบ้านพักตากอากาศที่บาหลีอยู่หลัง เอาไว้จะพาคุณไปฮันนีมูน ตกลงไหม

    คะ หล่อนร้องถามงงๆ ไม่ได้คิดจะตอบรับอะไรเขา

    แปลวาตกลงใช่ไหม เขาถามด้วยน้ำเสียงสนุกสนาน

    เปล่าค่ะ ฉันแค่อยากจะถามว่าคุณพูดเรื่องอะไรของคุณ

    อ้าวคุณนี่ขี้ลืม ก็หนึ่งร้อยของคุณไง ผมนั่งดูอยู่ อยากรู้ว่าได้กี่คะแนนจัง

    เจ้าของสมุดรวมคุณสมบัติหนึ่งร้อยข้อถึงกับพูดไม่ออกไปชั่วอึดใจ มิน่าเล่านภาสิริถึงรับปากเป็นมั่นเหมาะว่าจะไม่ให้ใครดูสมุดเล่มนี้อีก

    จะให้ดูได้อย่างไรเล่าในเมื่อมันยังอยู่ในมือเขา... ผู้ชายปากหวานยากจะไว้ใจได้คนนี้

    ไม่ถึงร้อยข้อซะหน่อย หล่อนบ่นพึมคำเดิม แต่ดุเหมือนจะไม่มีใครสนใจอีกตามเคย

    ข้อหกสิบสี่ บ้านผมไม่มีความผิดปกติทางพันธุกรรม ไว้ผมจะพาคุณมาพบพี่น้องผม

    นี่คุณจะบ้าหรอ ฉันไม่ได้...หล่อนหยุดพูดเพียงเท่านั้น ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าจะอธิบายอย่างไรให้เขาเข้าใจ ในเมื่อหล่อนไม่ได้ตั้งใจจะจริงจังกับทุกข้อที่เขียนลงไปเลยแม้แต่น้อย

    ข้อหกสิบห้าผมเต้นรำได้ แม้แต่จังหวะวอล์ซ หกสิบหก ผมเคยเลี้ยงหมาไซบีเรี่ยนสองตัวตอนสมัยอยู่ปอหก ถือว่าสอบผ่านใช่ไหม

    สุชนาทำหน้าเจื่อนใส่โทรศัพท์ ไม่นึกอยากตอบคำถามเขาเลยแม้แต่น้อย เขาจะรู้บ้างไหมว่าสมุดเล่มนั้นถือเป็นความผิดพลาดอย่างหนึ่งในชีวิตของหล่อน แต่เขากลับถือเป็นเรื่องสลักสำคัญขึ้นมา

    พอทีเถอะค่ะคุณภาษิต ฉันเขียนเล่นๆ จะแกล้งน้อง ไม่ได้จริงจังอะไรขนาดนั้น

    ดูเหมือนเขาจะไม่ได้ยินที่หล่อนพูดเลยแม้แต่คำเดียว เขายังคงตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงรื่นรมย์

    หกสิบเจ็ด มีใบอนุญาตขับเครื่องบิน

    หล่อนได้ยินเสียงเขาหัวเราะเหมือนขันเสียเต็มประดา เพียงเท่านี้มันก็มากพอแล้วที่จะทำให้สองแก้มรู้สึกร้อนผ่าว... เพราะโกรธหรอก ไม่ใช่อะไร

    คุณได้ฟังที่ฉันพูดบ้างไหม ฉันเขียนมันเพื่อประชดน้องสาว ไม่ได้คิดจะหาพ่อเทพบุตรมาจากไหน คุณไม่จำเป็นจะต้องจริงจังกับมันขนาดนั้นก็ได้

    เสียใจด้วยนะสุชนา เขาตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงจริงจังทีเดียว ผมมาไกลเกินกว่าจะถอยหลังกลับแล้ว

    ว่าไงนะคะ

    ปลายสายนิ่งไปเล็กน้อยก่อนจะตอบกลับมาด้วยเสียงกลั้วหัวเราะ

    คุณไม่จริงจังไม่ได้ เพราะว่าผมจริงใจ

    น้ำเน่า หล่อนเบ้ปากใส่โทรศัพท์

    ข้อหกสิบแปด มีเชื้อเจ้า เขายังคงอ่านต่อ ข้อนี้คุณทำให้ผมอึ้งนะเนี่ย

    หล่อนเผลอหัวเราะคิกใส่หูโทรศัพท์ไปด้วย ก่อนจะย้อนถาม แล้วทำได้ไหมละคะข้อนี้

    คุณคงไม่รู้ แต่คุณแม่ผมเป็นหลานสาวคนเดียวของหม่อมราชวงศ์... เขาพูดไม่ทันจบหญิงสาวก็เอ่ยแทรกขึ้น

    นี่คุณจะบอกว่าคุณมีเชื้อเจ้าจริงๆ หล่อนร้องถามด้วยน้ำเสียงตกใจ

    มันเริ่มต้นจากการเขียนอะไรเล่นๆ เล็กน้อย เพื่อให้น้องสาวเลิกยุ่งกับหล่อนซะที แต่มันกลายเป็นว่าทุกอย่างรวมอยู่ในตัวเขาเช่นนั้นหรือ...

    เจ้าปลายแถว พูดแล้วเขาก็หัวเราะเสียเอง ก่อนจะเปลี่ยนเรื่องพูดหน้าตาเฉย ไปทะเลกันไหมครับ

    คะ หล่อนร้องถามงงๆ อีกครั้ง

    ตกลงใช่ไหม ดีจัง เสาร์นี้ผมจะไปรับนะ ชวนน้องสาวคุณไปด้วยก็ได้ จะได้มีพยาน

    พยานอะไร หล่อนถามเท่านั้น เพราะสงสัยมากกว่าอย่างอื่น

    เขาหยุดพูดเล็กน้อย ราวกับรู้ว่าหญิงสาวกำลังตั้งใจฟัง และเหมือนอยากจะแกล้งกัน แต่วินาทีถัดมาเสียงนุ่มๆ ก็ดังขึ้น ก่อนที่สายจะตัดไป

    พยานรัก

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×