ไออุ่นจากน้ำแข็ง - ไออุ่นจากน้ำแข็ง นิยาย ไออุ่นจากน้ำแข็ง : Dek-D.com - Writer

    ไออุ่นจากน้ำแข็ง

    ในความคิดของคุณจะมีไหมที่ใครคนนึงจะเข้ามาแทนที่คนที่คุณรักเขาจนหมดหัวใจ

    ผู้เข้าชมรวม

    217

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    0

    ผู้เข้าชมรวม


    217

    ความคิดเห็น


    2

    คนติดตาม


    0
    หมวด :  ซึ้งกินใจ
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  20 ก.ค. 49 / 18:59 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

      ไออุ่นจากน้ำแข็ง

      ในวันที่ท้องฟ้าทอแสงสีทองของรุ่งอรุณในยามเช้า ชายหนุ่มคนหนึ่งก็ตื่นขึ้นมาใช้ชีวิตเหมือนปกติธรรมดาทั่วไปเหมือนอย่างทุกวัน แต่วันนี้เขาคิดที่จะออกไปวาดภาพ ณ สถานที่แห่งหนึ่ง ชายหนุ่มคนนี้มีชื่อว่าเซ่อน เขาเป็นจิตกรหนุ่มอิสระที่มีฝีมือในการวาดภาพเขาเป็นคนที่มีจิตใจดีร่าเริงแจ่มใส และยังมีน้ำใจกับผู้อื่น วันนี้เขาเดินทางไปที่สวนสาธารณะแห่งหนึ่ง บรรยากาศของที่นี่สวยงามมาก เป็นสวนสาธารณะที่มีบรรยากาศร่มรื่นสวนดอกไม้นานาชนิดที่ห้อมล้อมไปด้วยแมกไม้นานาพันธุ์ และเก้าอี้สีขาวมันเป็นภาพที่สวยงามเหลือเกิน ในขณะที่เซ่อนกำลังวาดภาพอยู่นั้นก็มีหญิงสาวผู้น่ารักคนหนึ่งมานั่งที่เก้าอี้สีขาวที่เซ่อนกำลังวาดอยู่

      เมื่อเซ่อนเงยหน้าขึ้นมาก็พบหญิงสาวผู้น่ารักคนนั้น เพียงแค่เสี้ยววินาทีที่เซ่อนเห็นหน้าหญิงสาวคนนั้น เซ่อนก็มีความรู้สึกว่าชอบหญิงสาวผู้นั้น เซ่อนจึงวาดภาพของเธอคนนั้นไว้ในภาพด้วย

      ส่วนหญิงสาวคนนั้นเธอมีชื่อว่าหลิงอันเธอผู้นี้เป็นนักเขียนมือสมัครเล่น แต่เธอก็สามารถเขียนเรื่องดีๆที่น่าสนใจไว้หลายเรื่อง แต่หลิงอันก็ไม่เคยที่จะนำเรื่องที่เธอแต่งไว้ไปให้กับสำนักพิมพ์แห่งใดเลย วันนี้หลิงอันมาที่สวนสวนสาธารณะแห่งนี้เพื่อใช้ความคิดที่จะแต่งนิยายเรื่องใหม่ แต่เธอยังไม่มีความคิดเลยว่าจะแต่งเกี่ยวกับอะไร แต่เมื่อเธอพบกับเซ่อนซึ่งกำลังวาดภาพอยู่นั้นเธอจึงคิดที่จะแต่งเรื่องเกี่ยวกับจิตกรหนุ่ม ต่างคนก็ต่างทำงานในสิ่งที่ตัวเองชอบจนกระทั่งทั้งสองเงยหน้าขึ้นมาพร้อมกันจึงทำให้ทั้งสองต้องสบตาซึ่งกันและกัน ทั้งสองมีความรู้สึกว่าต่างฝ่ายก็ชอบอีกฝ่ายหนึ่งเช่นกันแต่ก็ไม่กล้าแสดงอาการออกมาให้เห็นมากนัก

      เวลาผ่านไปไม่นานนักฝนก็ตกลงมาทำให้ทั้งสองคนต้องเก็บของและหาที่หลบฝน เนื่องจากว่าเซ่อนมีอุปกรณ์ที่จะต้องเก็บเป็นจำนวนมาก ด้วยความหวังดีหลิงอันจึงเข้ามาช่วยเซ่อนเก็บ เมื่อเก็บของเสร็จแล้วทั้งสองก็ไปหลบฝนที่เดียวกัน เวลาผ่านไปฝนก็ตกอย่างไม่มีทีท่าว่าจะหยุดตกบ้างเลย อากาศก็เริ่มหนาวเพราะความเย็นจากไอฝนและละอองฝน

      หลิงอันรู้สึกหนาวเซ่อนดูท่าทางของหลิงอันก็รู้ว่าเธอหนาว เซ่อนจึงถอดเสื้อคลุมให้กับหลิงอันใส่เพื่อที่จะได้คลายความหนาวเย็น ทั้งสองคนเริ่มทำความรู้จักกัน เป็นเรื่องบังเอิญอย่างมากเพราะว่าทั้งสองคนเรียนอยู่ที่มหาลัยเดียวกันแต่ทั้งสองคนไม่เคยพบหน้ากันมาก่อน( คนแต่งตั้งใจไม่ให้เจอกันต่างหาก หุหุ )เมื่อฝนหยุดตกเซ่อนก็เดินไปส่งหลิงอันที่บ้าน เมื่อถึงหน้าบ้านของหลิงอันก่อนที่หลิงอันจะเข้าบ้านเซ่อนก็พูดขึ้นมาว่า "จะรังเกียจไหมหากฉันจะมอบภาพวาดนี้ให้กับเธอ" ( แหมม ๆๆ ใครจะรังเกียจภาพของคนที่ตัวเองชอบอยู่ละจ๊ะ ) เซ่อนนำภาพที่วาดตอนอยู่ที่สวนสาธารณะให้กับหลิงอัน หลิงอันก็รับไว้ด้วยความเต็มใจและยินดี

      เมื่อเซ่อนกลับไปถึงบ้าน ด้วยเพราะเหตุใดก็ไม่รู้จึงทำให้เซ่อนยิ้มได้ตลอดเวลา อาจเป็นเพราะว่าเซ่อนได้พบรักแรกในชีวิตของเขาแล้วก็เป็นได้ ส่วนทางด้านหลิงอันก็รู้สึกประทับใจในตัวของเซ่อนเช่นกันอีกทั้งยังเป็นปลื้มที่ได้ภาพที่แสนสวยจากเขาอีก

      หลายวันต่อมาเซ่อนก็ได้พบกับหลิงอันที่มหาลัยเขาทั้งสองก็ทักทายกันตามประสาคนรู้จัก เวลาผ่านไปความสัมพันธ์ของคนทั้งสองก็เติบโตขึ้นจนกลายเป็นความรัก ทั้งสองคนก็ใช้ชีวิตเหมือนกับคู่รักคู่อื่นๆทั่วไป คือไปไหนมาไหนด้วยกัน เวลาเดินก็จับมือกันไป แต่ช่วงเวลาแห่งความสุขมักผ่านไปอย่างรวดเร็วเสมอ

      วันนึงซึ่งเหมือนกับวันปกติธรรมดาอย่างทุกวัน คือ เซ่อนต้องเดินไปส่งหลิงอันกลับบ้าน แต่ในระหว่างทางหลิงอันอยู่ดีๆก็เป็นลมหมดสติไปเฉยๆ เซ่อนอุ้มหลิงอันแล้วก็รีบพาไปส่งโรงพยาบาล เมื่อไปถึงโรงพยาบาลเซ่อนถึงกับช๊อคเพราะผลตรวจออกมาว่าหลิงอันเป็นมะเร็งในเม็ดเลือดขาว และเธออาจมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่เกิน 1 เดือน เมื่อได้รู้อย่างนี้แล้วเซ่อนก็รีบไปหาหลิงอันที่นอนพักฟื้นอยู่เซ่อนกุมมือของหลิงอันไว้แน่น เซ่อนได้แต่กลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่ให้มันไหลออกมา แม้ว่าตอนนี้เขาเจ็บจนหัวใจแทบจะหยุดเต้นอยู่แล้ว เพื่อที่หลิงอันตื่นขึ้นมาจะได้พบแต่เซ่อนที่ยิ้มไม่ใช่เซ่อนที่ร้องไห้ เมื่อหลิงอันตื่นขึ้นมาเธอก็ถามว่าเธอเป็นอะไร แต่ทว่าเซ่อนไม่ได้บอกความจริงแต่บอกไปว่าหลิงอันแค่เป็นลมไปเฉยๆก็เพราะว่าอากาศร้อนก็เท่านั้น

      เซ่อนอยากใช้ช่วงเวลาที่เหลืออยู่กับหลิงอันให้มากที่สุด พออาการของหลิงอันเริ่มดีขึ้นเซ่อนจึงพาหลิงอันออกจากโรงพยาบาล

      เซ่อน : รู้สึกอย่างไรบ้าง วันนี้ไม่ต้องไปส่งภาพกับฉันก็ได้ไว้ค่อยไปให้เขาวันอื่นก็ได้วันนี้ฉันอยากอยู่กับเธอนานๆ

      หลิงอัน : อ้าว ทางร้านเขาให้ส่งภาพวันนี้ไม่ใช่หรอ ผิดนัดเขาไม่ดีนะ

      เซ่อน :ไม่เป็นไรหรอก อะไรสำคัญไปกว่าเธอละ

      หลิงอัน : ตกลง ฉันไม่ได้แค่เป็นลมใช่ไหม

      เซ่อน : เปล่านะ เปล่าซะหน่อย วันนี้แค่อยากอยู่ใกล้ๆเธอยังไงก็ไม่รู้

      หลิงอัน : ก็ได้ ๆ เชื่อแล้ว ๆ จ้า

      เซ่อน : เดี๋ยวฉันไปส่งเธอที่บ้านนะ

      พอเซ่อนไปส่งหลิงอันที่บ้านแล้วเซ่อนก็ยังไม่กลับ เซ่อนเฝ้ามองที่ห้องของหลิงอัน จนกระทั่งหลิงอันดับไฟจากนั้นเซ่อนก็ค่อยกลับบ้าน

      วันรุ่งขึ้นเซ่อนก็มาเฝ้ารอรับหลิงอันที่หน้าบ้านแต่เช้า เพื่อที่จะรับหลิงอันไปมหาลัยด้วยกัน ช่วงเวลานี้เซ่อนคอยดูแลหลิงอันไม่ห่าง พอเลิกเรียนก็พาหลิงอันไปดูหนังฟังเพลงมันเป็นเรื่องที่ดีก็จริงอยู่ แต่ทว่ามันก็ยิ่งทำให้หลิงอันสงสัยมากขึ้น เพราะปกติแล้วเซ่อนจะไม่ค่อยชอบไปดูหนังสักเท่าไหร่ แต่ว่าพักนี้เซ่อนชวนหลิงอันไปดูหนังหลังเลิกเรียนเกือบทุกวันเลย ทุกวันนี้เซ่อนก็ต้องฝืนยิ้มทั้งที่หัวใจของเขาร้องไห้อยู่ เพื่อไม่ให้หลิงอันรู้ความจริง แต่แล้ววันนึงหลิงอันก็ตัดสินใจถามเซ่อนขึ้นมาว่า "ความจริงแล้วมันคืออะไรกันแน่" เซ่อนไม่พูดอะไรแต่เซ่อนกลับจับมือของหลิงอันขึ้นมาพร้อมกับถามหลิงอันว่า "เธอรักฉันไหม" หลิงอันไม่พูดอะไรได้แต่ทำท่าทางสงสัยกับท่าทางและคำพูดของเซ่อน แล้วเซ่อนก็พูดขึ้นมาว่า "ถ้าเธอไม่ตอบฉันจะคิดเองนะว่าเธอรักฉัน"

      เซ่อน : ไปกับฉันหน่อยได้ไหม ?

      หลิงอัน : ไปไหนหรอ?

      เซ่อน : อย่าถามเลยได้ไหม ขอแค่ไปกับฉันก็พอ

      หลิงอัน : ก็ได้ ฉันเชื่อใจเธอ

      แล้วเซ่อนก็พาหลิงอันไปที่ร้านลองชุดแต่งงาน เซ่อนขอร้องให้หลิงอันลองชุดเจ้าสาว หลิงอันแต่งชุดเจ้าสาวแล้วเธอดูสายมาก และเซ่อนยังขอให้ถ่ายรูปคู่ในชุดเจ้าบ่าวเจ้าสาวด้วย หลังจากที่ลองชุดเสร็จแล้วเซ่อนก็จูงมือหลิงอันเดินกลับบ้าน

      หลิงอัน : แล้วจะบอกความจริงได้หรือยัง ?

      เซ่อน : เอ๋.... ! เรื่องอะไร ?

      หลิงอัน : อย่าโกหกฉันอีกเลยนะ บอกความจริงฉันมาเถอะ

      เซ่อน : เออ...ความจริงก็คือ..."ฉันรักเธอ" แต่งานกับฉันเถอะนะหลิงอัน

      หลิงอัน : เธอพูดว่าอะไรนะ ?

      เซ่อน : แต่งงานกับฉันเถอะ หรือว่าเธอไม่รักฉัน ?

      หลิงอัน : เปล่านะ !! ........ตกลงก็ได้จ้า

      เซ่อน : จริงๆนะ ไชโย !! ดีใจจังหลิงอันยอมแต่งงานกับฉันแล้ว

      เมื่อเรื่องนี้เกิดขึ้นก็เลยทำให้หลิงอันกับเซ่อนลืมเรื่องต่างๆไปเลย เซ่อนเป็นคนที่เอาใจใส่หลิงอันอยู่แล้วเพราะฉะนั้นเซ่อนจึงรู้ทุกอย่างว่าหลิงอันชอบหรือไม่ชอบอะไร และเซ่อนก็แอบไปซื้อแหวนคู่เพื่อเป็นการยืนยันว่าเซ่อนจะมีเพียงหลิงอันเพียงคนเดียว เช้าวันรุ่งขึ้นเซ่อนก็มาเฝ้ารอหลิงอันที่หน้าบ้านอย่างเคย ระหว่างทางที่ไปมหาลัยเซ่อนขอให้หลิงอันหยุดพร้อมกับหลับตา

      หลิงอัน : มีอะไรหรอ?

      เซ่อน : เถอะน่าาา....

      หลิงอัน : Ok จ้า Ok

      เซ่อน : ห้ามลืมตาก่อนที่ฉันจะบอกนะ

      หลิงอัน : จ้า

      เซ่อนนำแหวนคู่ของหลิงอันขึ้นมาแล้วก็พูดว่า "ขอมือซ้ายหน่อยได้ไหม ห้ามลืมตาด้วยนะ" และแล้วเซ่อนก็สวมแหวนไว้ที่นิ้วนางของหลิงอัน แล้วเซ่อนก็บอกกับหลิงอันอีกว่า "ขอจองไว้ก่อนแล้วกันน้า"หลิงอันถึงกับน้ำตาซึมในการกระทำของเซ่อน ถึงแม้ว่าจะเป็นการกระทำที่เหมือนๆกับคู่รักคู่อื่นๆก็ตามแต่หลิงอันสัมผัสได้ถึงความจริงใจและความมั่นคงของเซ่อน และเมื่อไปถึงงมหาลัยทั้งสองก็เข้าเรียนตามปกติ แต่เมื่อถึงตอนพักเที่ยงเซ่อนก็มากับหลิงอันเพื่อที่จะไปทานข้าวที่โรงอาหาร แต่ก่อนที่ทั้งคู่จะไปสั่งอาหารเซ่อนเกิดหยุดอยู่ที่กลางโรงอาหารแล้วตะโกนขึ้นมาว่า "ฉันรักหลิงอัน" 3 ครั้งทำให้ผู้คนทั้งโรงอาหารหันมามองเซ่อนกับหลิงอัน และส่งเสียงในทำนองแซวทั้งคู่อีกด้วย หลิงอันอายมากและโกรธเซ่อนด้วย ( แต่ในใจปลื้มใจที่สุดเลย หุ หุ )หลิงอันจึงเดินหนีเซ่อนออกไปนั่งที่โต๊ะหินข้างนอกเซ่อนก็รีบตามมาง้ออย่างรวดเร็ว ( หุ หุ ) และแล้วก็เป็นไปตามระเบียบหลิงอันก็ต้องยอมยกโทษให้เซ่อน(ใช่แล้วต้องเป็นอย่างนี้แหละ เนอะ) แต่หลิงอันสงสัยว่าทำไมเซ่อนถึงกล้าพูดในสถานการณ์แบบนั้น หลิงอันจึงถามเซ่อน เซ่อนก็ตอบว่า "พวกเขาเหล่านั้นจะได้เป็นพยานว่าฉันรักเธอ"

      หลังเลิกเรียนเซ่อนก็รีบพาหลิงอันไปส่งบ้าน พร้อมกำชับไว้ว่าหากรู้สึกว่าไม่สบายหรือเป็นอะไรให้โทรหาเขาทันที และยังบอกน้องสาวของหลิงอันให้ดูแลพี่สาวให้ดี ถ้ามีอะไรให้รีบโทรหาพี่เซ่อนนะ (อ่อ ลืมบอกไปว่าหลิงอันอยู่กับน้องสาว พ่อแม่ของเธอเสียชีวิตไปแล้ว)

      เมื่อส่งหลิงอันกลับบ้านแล้วเซ่อนก็ไปหาเลือกซื้อแหวนหมั่น เซ่อนเห็นแหวนวงหนึ่งซึ่งสวยมากและหลิงอันต้องชอบแน่ๆ แต่ราคาของมันแพงมากเซ่อนถึงกับยอมใช้เงินเกือบทั้งหมดของเขาซื้อแหวนเพรชวงนี้ เซ่อนรู้ดีว่าเวลาของเขากับหลิงอันเหลือน้อยเต็มทีแล้ว

      เซ่อนจึงของหมั่นหลิงอันในวันเสาร์ที่ 15 ซึ่งก็เหลืออีกเพียงแค่ 3 วันเท่านั้น เวลาผ่านไป 1 วันเซ่อนก็เกิดเปลี่ยนความคิดขึ้นมา เซ่อนขอกับหลิงอันให้วันนั้นเป็นทั้งวันหมั่นและวันแต่งงานเลยได้ไหม เพราะเซ่อนหวั่นใจยังไงไม่รู้ แต่ยังไงเซ่อนก็คิดว่าวันนั้นจะเป็นวันที่เขาและหลิงอันมีความสุขที่สุด( แต่เขาไม่รู้หรอกว่าวันนั้นมันจะเป็นวันที่.... ไม่บอกดีกว่า อ่านต่อเองจ้า )และแล้ววันนั้นก็มาถึง ทั้งสองคนนัดกันไว้ว่าจะไม่ไปด้วยกันให้ต่างฝ่ายต่างแต่งชุดแต่งงานแล้วไปที่โบสถ์ในตอนเช้า แต่ทว่ามีเหตุที่ทำให้เซ่อนต้องมาช้ากว่าที่นัดไว้หลายชั่วโมง ( โฮ้ ขนาดวันสำคัญยังมาสายเลย แย่จัง ) เซ่อนมาถึงโบสถ์ในตอนบ่าย แต่ยังดีที่ว่าหลิงอันยังรอเขาอยู่ เธอนั่งรอเซ่อนอยู่เพียงคนเดียวในโบสถ์ เซ่อนรู้สึกตื้นตันใจเป็นอย่างมากที่หลิงอันยังรอเขาอยู่ หากว่าเป็นคนอื่นเขาคงไปนานแล้วล่ะ ( น่ารักจังเลยหลิงอันเนี่ย ) เซ่อนก็เขามาขอโทษกับหลิงอันที่มาช้า หลิงอันไม่ได้โกรธอะไรเซ่อนเลยเพราะรู้ว่า ไม่ว่าอย่างไรเซ่อนก็ต้องมาเธอเชื่อแบบนั้น เพื่อเป็นการขอโทษเซ่อนจึงบอกว่า "นับต่อแต่นี้ไปชายคนนี้จะขอดูแลผู้หญิงคนนี้จนกว่าจะหมดลงหายใจ ( หือ ๆ แต่งเองยังซึ้งเองเลย เฮ้ย... )

      จากนั้นทั้งสองก็เข้าพิธีแต่งงานโดยไม่มีสักขีพยานสักคนหรือแม้แต่หลวงพ่อบาทหลวงก็ไม่มี (โฮ้ย น่าสงสารจัง) และในวินาทีนั้นเองในขณะที่เซ่อนกำลังสวมแหวนหมั่นที่เขาใช้เงินเกือบทั้งหมดของเขาซื้อมันมา หลิงอันก็สิ้นลมหายใจในตอนที่เซ่อนสวมแหวนหมั่นเสร็จพอดี (หือๆ น่าสงสารเซ่อนจังเลยอะ) เซ่อนพยายามที่จะไม่เสียใจต่อหน้าหลิงอัน เพราะเขากลัวว่าวิญญาณของหลิงอันจะเป็นทุกข์ที่เห็นเซ่อนร้องไห้ เซ่อนดึงร่างอันไร้วิญญาณของหลิงอันมาซบไว้ที่ไหล่ของเขาพร้อมกับพุดขึ้นว่า "หลับให้สบายนะเจ้าหญิงของหม่อมฉัน แต่นี้ไปองครักษ์คนนี้ไม่สามารถปกป้องดูแลเจ้าหญิงได้อีกแล้ว เจ้าหญิงต้องดูแลตัวเองดีๆนะ" เซ่อนไม่สามารถที่จะสั่งให้น้ำตาหยุดไหลได้ถึงแม้ตั้งใจไว้ว่าจะไม่เสียน้ำตาเลยก็ตาม (เหย...แหมมเป็นใครก็ต้องเสียใจอยู่แล้วละเนอะ หือๆๆ)

      ในวันที่ฝังศพของหลิงอัน เซ่อนได้ถอดแหวนคู่ของหลิงอันมาคล้องไว้กับสร้อยคอของเขา แต่เขาไม่ได้ถอดแหวนหมั่นออกจากนิ้วของหลิงอัน ใครๆ ก็บอกให้ถอดแหวนเพรชนั้นออกมาเถอะเพราะแหวนเพรชนั้นราคามันแพงมากจะมาฝังพร้อมกับคนที่ตายไปแล้วมันน่าเสียดาย

      เซ่อน : หลิงอันไม่ได้ตาย เธอยังมีชีวิอยู่ในหัวใจของผมต่างหาก และแหวนหมั่นวงนี้จะเป็นหลักฐานว่าผมจะรักเพียงแต่เธอ

      เซ่อนก็ฝังแหวนหมั่นไปพร้อมกับหลิงอันส่วนแหวนคู่ของเซ่อน เซ่อนก็ไม่เคยถอดมันออกเลย เซ่อนเก็บแหวนคู่ของหลิงอันไว้เป็นตัวแทนของเธอ จากนั้นมาเซ่อนก็กลายเป็นคนเย็นชากับทุกสิ่งทุกอย่าง

      3 ปีผ่านไป เซ่อนเรียนจบมหาลัยแล้วแต่เขาก็ยังไม่เคยถอดแหวนคู่ของเขาออกเลยและแหวนคู่ของหลิงอันที่คล้อยกับสร้อยคอของเขา เซ่อนก็ไม่เคยถอดให้ห่างกายของเขาเลยเช่นกัน ช่วงเวลา 3 ปีที่ผ่านมาเซ่อนต้องมาหาหลิงอันที่หลุมศพของเธอทุกวัน เซ่อนซื่อสัตย์และมั่นคงต่อหลิงอันเป็นอย่างมาก แม้ว่าช่วงเวลาที่ผ่านไปจะมีหญิงสาวมากหน้าหลายตาผ่านเข้ามาในชีวิตของเซ่อน แต่เซ่อนไม่เคยแม้แต่จะเหลียวมองหญิงใดเลย ในสายตาของเซ่อนโลกใบนี้ก็คงจะมีเพียงแต่สีเทาเท่านั้นที่เขาเห็น เซ่อนทำเย็นชากับผู้หญิงทุกๆคนที่เข้าใกล้เขา แม้กระทั่งเวลาเดินเขายังเดินแบบแข็งๆทำตัวเชื่องช้า ( เหมือนมัมมี่อะไรประมาณนั้น ) รวมทั้งผลงานของเขาก็แสดงออกถึงความเย็นชาและความเศร้า

      จนกระทั่งถึงวันครบรอบวันที่เซ่อนพบหลิงอัน เซ่อนจึงไปเยี่ยมหลิงอันที่หลุมศพจากนั้นเซ่อนก็เดินทางไปที่สวนสาธารณะที่เซ่อนพบหลิงอันเป็นครั้งแรก เซ่อนคิดไว้ว่าจะไปลำลึกภาพความทรงจำ ด้วยการวาดภาพสวนสาธารณะแห่งนั้นอีกครั้ง

      สวนสาธารณะแห่งนี้ยังเหมือนเดิมทุกอย่าง แต่ที่เปลี่ยนไปก็คือสวนสาธารณะแห่งนี้จะไม่มีภาพของหลิงอันมานั่งที่ ณ เก้าอี้สีขาวตัวนี้อีกแล้ว เซ่อนมานั่ง ณ จุดเดิมที่เขาเคยมานั่งวาดภาพของสถานที่แห่งนี้

      และภาพความทรงจำของเซ่อนเมื่อ 3 ปีที่แล้วก็ปรากฎขึ้นอีกครั้ง มีผู้หญิงคนหนึ่งเข้ามานั่งที่เก้าอี้สีขาวที่หลิงอันเคยนั่ง เมื่อสังเกตหน้าของผู้หญิงคนนั้นดีๆเซ่อนก็ต้องตกใจอย่างมาก เพราะเธอคนนั้นมีหน้าตาและท่าทางที่เหมือนหลิงอันมาก ในวินาทีนั้นก็ทำให้เซ่อนสับสนอย่างมากทั้งที่อยากเข้าไปพูดคุยกับเธอ แต่อีกใจก็คิดว่าเธอคนนั้นก็มีเพียงแค่หน้าตาที่เหมือนแต่เธอคนนั้นจะไม่มีทางเข้ามาแทนที่หลิงอันคนนี้ในหัวใจของเซ่อนหรอก เซ่อนคิดเรื่องราวต่างๆแต่มือของเขาก็กุมแหวนของหลิงอันไว้แน่น ภาพความทรงจำในอดีตยิ่งปรากฎชัดเจนขึ้นอีก เมื่อฝนตกลงมาเธอคนนั้น( เธอคนนี้มีชื่อว่า อันอัน )ก็เขาไปหลบฝนที่ ณ ที่เซ่อนกับหลิงอันเคยเข้ามาหลบฝนด้วยกันและเซ่อนก็ตามเข้ามาหลบฝนด้วยเช่นกัน เมื่อเซ่อนยิ่งเข้ามาใกล้เธอคนนี้มากขึ้นมันยิ่งทำให้เซ่อนมีความรู้สึกว่าเธอคนนี้เหมือนหลิงอันมากเหลือเกินมากมากซะจนเซ่อนเริ่มกลัวความรู้สึกของตนเอง

      และเมื่อฝนซาลงเธอคนนี้ก็เดินจากไป แต่เธอทำไดอารี่เล่มเล็กๆของเธอตกแต่เธอไม่ทันเห็น เซ่อนตะโกนเรียกเธอคนนั้นแต่เธอก็ไม่ได้ยิน เซ่อนจึงเก็บไดอารี่เล่มนั้นขึ้นมา จากนั้นฝนก็หยุดตกเซ่อนจึงเดินทางกลับบ้าน ในความคิดครั้งแรกของเซ่อน เซ่อนจะนำไดอารี่ไปส่งให้สถานีตำรวจเพื่อที่จะได้ส่งคืนเจ้าของโดยที่จะไม่เปิดอ่านไดอารี่นั้น แต่แล้วความสงสัยภายในใจของเซ่อนก็ชนะความเย็นชาของเขาเอง เซ่อนก็เลยเปิดไดอารี่อ่านจนเซ่อนได้รู้ว่าเจ้าของไดอารี่นี้มีชื่อว่า อันอัน แม้แต่ชื่อก็มีส่วนที่คล้ายกับหลิงอันเลย เมื่อเซ่อนยิ่งอ่านเนื้อหาในไดอารี่ ยิ่งทำให้เซ่อนได้รู้ว่าเธอคนนี้เหมือนหลิงอันทุกๆอย่างแม้แต่ควาวมรู้สึกนึกคิดหรือจะเรียกได้ว่าเธอคนนี้เสมือนหลิงอันเลยก็ว่าได้ และสิ่งนี้เองที่ทำให้เซ่อนยิ่งสับสนกับสิ่งที่เกิดขึ้น หรือว่าเธอคนนี้จะเป็นคนที่หลิงอันส่งมาแทนตัวเธอ

      เช้าของอีกวันเซ่อนตัดสินใจจะนำไดอารี่ไปส่งคืนอันอันด้วยตัวเอง ระหว่างทางที่เซ่อนกำลังจะนำไดอารี่ไปคืนอันอัน เซ่อนเกือบถูกรถจักรยานชน แต่ผู้หญิงที่ขี่รถจักรยานนั้นหยุดรถนั้นได้ก่อนแต่รถก็เสียหลักลงล้มไป เซ่อนเข้าไปถามผู้หญิงคนนั้นว่าเป็นอะไรบ้างเมื่อผู้หญิงคนนั้นหันหน้ามาทางเซ่อน เธอคือ "อันอัน"

      อันอัน : ฉันไม่เป็นไร  เอ๋...ใช่คุณคนเมื่อวานนี้ที่หลบฝนที่สวนสาธารณะใช่ไหมค่ะ

      เซ่อน : ใช่

      อันอัน : แล้วคุณเห็นไดอารี่เล่มเล็กๆของฉันไหมค่ะ

      เซ่อน : ใช่เล่มนี้หรือเปล่า ( เซ่อนพูดพร้อมกับหยิบไดอารี่ขึ้นมา )

      อันอัน : ใช่ค่ะ ขอบคุณมากที่เก็บไว้ให้นะค่ะ

      เซ่อน : ฉันขอถามอะไรเธอหน่อยได้ไหม ?

      อันอัน : ค่ะ ได้สิ

      เซ่อน : เธอรู้จักคนที่ชื่อ หลิงอันหรือเปล่า ไม่สิเธอมีพี่น้องหรือเปล่า ?

      อันอัน : ไม่รู้จักค่ะ และฉันก็ไม่มีพี่น้องด้วย แล้วคุณถามทำไมหรือ ?

      เซ่อน : แล้วทำไมเธอถึงได้........

      อันอัน : อะไรหรือ ? ทำไมคุณชอบทำให้ฉันสงสัยจังเลย

      เซ่อน : ไม่มีอะไรหรอก ฉันคงเข้าใจอะไรบางอย่างผิดไปก็เท่านั้น

      อันอัน : ถึงยังไงก็ขอขอบคุณอีกครั้งและกันนะค่ะ

      เซ่อน : ไม่เป็นไรหรอก

      อันอัน : บายค่ะ โชคดีนะค่ะ

      จากนั้นอันอันก็จากไปเหลือทิ้งไว้แต่ความสงสัยและสับสนให้เซ่อนต้องคิดต่อไป เซ่อนพยายามที่จะไม่คิดถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นแต่แล้วเซ่อนก็.... เซ่อนไปหาหลิงอันที่หลุมศพแล้วเซ่อนก็เล่าเรื่องราวต่างๆให้หลิงอันฟังแล้วเซ่อนก็ถามหลิงอันว่า "เขาเป็นใคร ? ทำไมเขาถึงได้มีทุกอย่างที่เหมือนกับหลิงอันล่ะ หลิงอันเธอเป็นคนส่งเขามาใช่ไหม ? "จากนั้นเซ่อนก็กลับบ้านและตั้งใจจะลืมเรื่องราวทุกอย่างที่เกิดทำเหมือนว่าไม่ได้เกิดอะไรขึ้น

      หลายวันต่อมาเซ่อนก็เจอกับอันอันอีก อันอันก็เข้ามาทักทายเซ่อนแต่เซ่อนกลับหลบหน้าอันอัน แต่ว่าอันอันก็ไม่ได้ว่าอะไรเพราะคิดว่าเซ่อนอาจจะจำเธอไม่ได้ ขณะที่อันอันกำลังจะข้ามถนนเธอได้ทำของตกเธอก็จะเข้าไปเก็บแต่ก็มีรถยนต์ที่ขับมาด้วยความเร็วพอสมควรถึงจะเบรคก็คงชนอันอันอยู่ดี เซ่อนที่ดูเหตุการณ์อยู่ห่างก็เข้ามาช่วยอันอันไว้แต่เขาก็ได้รับบาดเจ็บคือขาของเซ่อนหักและบาดแผลเล็กน้อย อันอันพาเซ่อนไปรักษาที่โรงพยาบาลอันอันดูแลเซ่อนเป็นอย่างดีคอยทำทุกๆอย่างให้กับเซ่อน แต่เซ่อนก็ยังคงเย็นชากับอันอันอยู่ดีอันอันก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมเซ่อนต้องเย็นชาใส่เธอด้วย

      เซ่อนอยู่ที่โรงพยาบาล 2 วันจากนั้นเขาก็ออกจากโรงพยาบาล อันอันก็เป็นคนพาเซ่อนกลับบ้านทั้งที่เซ่อนบอกว่าไม่ต้องไปส่งแต่อันอันก็ยังดื้อไปส่งเซ่อนจนได้ เมื่อไปถึงหน้าบ้านของเซ่อน

      เซ่อน : กลับบ้านไปได้แล้วฉันไม่เป็นอะไรแล้ว

      อันอัน : แหมม คำขอบคุณซักคำก็ไม่มี ( อันอัน บ่นงึมงำ )

      เซ่อน : อะไรนะ เธอพูดว่าอะไร

      อันอัน : เปล่านี่

      เซ่อน : ขอบคุณนะ ( เซ่อนพูดด้วยเสียงค่อยๆ )

      อันอัน : อะไรนะ เธอพูดว่าอะไรหรอ

      เซ่อน : ก็ขอบคุณไง ( ดังขึ้นมาอีกนิดนึง )

      อันอัน : อะไรนะฉันไม่ได้ยิน ( อันอัน แกล้งเซ่อน )

      เซ่อน : ก็ขอบคุณที่ช่วยดูและฉัน( ยังพูดเบาอยู่ดี )

      อันอัน : แหมม คำขอบคุณสำหรับนายมันพูดยากมากเลยหรือไง

      เซ่อน : ก็ขอบคุณแล้วก็กลับบ้านไปได้แล้ว

      อันอัน : คนไร้น้ำใจคนเขาอุตสาห์เป็นห่วงดูแลตั้งนาน จะชวนเข้าบ้านซักหน่อยก็ไม่มี

      เซ่อน : ก็ได้ เข้ามาก่อนสิ แต่เข้าไปแล้วอย่าบ่นนะ ว่ารก

      อันอัน : จ้า

      เมื่อเข้าไปภายในบ้านของเซ่อนสภาพภายในบ้านก็เป็นเหมือนที่เซ่อนบอกไว้ โดยเฉพาะในห้องของเซ่อนที่รกมากซึ่งภายในห้องเต็มไปด้วยภาพวาดที่สื่อออกมาแต่ความเศร้าและภาพวาดของหลิงอัน

      อันอัน : นายอยู่ได้ยังไงเนี่ย

      เซ่อน : ก็บอกแล้วไงว่าอย่าบ่น ถึงยังไงมันก็บ้านของฉันไม่ใช่บ้านของเธอซักหน่อย

      *เมื่ออันอันเห็นรูปของหลิงอัน*

      อันอัน : นี่นาย ! แอบวาดรูปฉันหรอ ?

      เซ่อน : ไม่ใช่รูปของเธอซักหน่อย

      อันอัน : อ้าว ก็นี่มันรูปฉันชัดๆเลยเนี่ย

      เซ่อน : คนในภาพวาดนี้ไม่ใช่เธอซักหน่อย แต่เขาเป็นคนรักของฉันเอง

      อันอัน : นี่ ! ฉันไปเป็นคนรักของเธอตั้งแต่เมื่อไร ?

      เซ่อน : ก็บอกแล้วไงว่าไม่ใช่เธอ !!!

      อันอัน : ก็บอกดีๆก็ได้นี่ ทำไมจะต้องดุด้วยล่ะ แต่เอ่...ทำไมคนรักของนายถึงหน้าตาเหมือนฉันจังเลย

      เซ่อน : ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน ฉันถึงถามเธอวันนั้นว่าเธอมีพี่น้องหรือเปล่า

      อันอัน : อ๋อ.......

      เซ่อน : อ๋อ อะไร

      อันอัน : เปล่า

      เซ่อน : นี่ อย่ามาทำให้ฉันสงสัยไปมากกว่านะ

      อันอันไม่พูดอะไร แต่ทำหน้าทะเล้นใส่เซ่อนในตอนนี้รู้สึกเหมือนว่าเซ่อนจะลดความเย็นชาไปมากอาจจะเป็นเพราะเธอคนนี้ก็เป็นได้ ด้วยความหวังดีอันอันจึงอาสาเป็นคนเก็บกวาดห้องให้กับเซ่อน เซ่อนเองก็ปล่อยให้อันอันทำทั้งที่เมื่อก่อนไม่เคยแม้แต่จะอนุญาตให้ผู้หญิงคนใดเข้ามาในห้องของเขาเลย

      อันอันขึ้นเหยียบเก้าอี้เพื่อที่จะเก็บของบนหลังตู้หนังสือแต่เธอเสียหลักล้มลงมาแต่ทว่าเซ่อนเอาตัวเข้ามารับตัวอันอันไว้จึงทำให้เขาทั้งสองคนล่วงไปกองกับพื้น อันอันอยู่ในท่าทางประมาณว่าอยู่ในอ้อมกอดของเซ่อนทั้งสองคนมองตาซึ่งกันและกัน จากนั้นอันอันก็รีบลุกขึ้นมาพร้อมกับอาการขัดเขินเล็กน้อย ไม่นานนักอันอันก็ทำความสะอาดบ้านของเซ่อนเสร็จและเธอก็ขอตัวกลับบ้าน เซ่อนออกมาส่งอันอันที่หน้าบ้านพร้อมกับยิ้มให้กับอันอันถึงแม้จะเป็นรอยยิ้มที่เย็นชาก็เถอะแต่มันก็เป็นรอยยิ้มแรกนับจากวันที่หลิงอันตายไป

      วันต่อๆมาอันอันก็มาดูแลเซ่อนทุกวันเธอบอกว่าที่เซ่อนต้องเป็นแบบนี้ก็เพราะว่าเธอเป็นต้นเหตุเพราะอย่างนั้นเธอจะต้องมาดูแลเซ่อนเพื่อเป็นการรับผิดชอบ ( ลึกๆภายในใจแล้ว เธออยากที่จะใกล้ชิดกับเซ่อน แต่เธอเองก็ไม่รู้ถึงความรู้สึกนี้ ) เมื่ออาการของเซ่อนเริ่มดีขึ้นจนพอที่จะช่วยเหลือตัวเองได้แล้วเซ่อนก็บอกกับอันอันว่าไม่ต้องมาดูแลเขาแล้ว แต่อันอันก็ยังดื้อรั้น ( เหมือนใครบางคนเลย ...ขอนอกเรื่องนิดนึง.. )ไม่เชื่อเซ่อนเธอยังมาดูแลเซ่อนเหมือนเดิมจนกระทั่งเซ่อนหายดี และเธอก็ไม่มีเหตุผลที่จะต้องมาหาเซ่อน ( แต่ตอนนี้อันอันเริ่มรู้ความรู้สึกของตัวเองแล้วว่า เธอชอบเซ่อน )หลังจากนั้นมาอันอันก็แอบมาแถวบ้านของเซ่อนบ่อยๆโดยไม่ให้เซ่อนรู้ เธอไปถามเพื่อนบ้านของเซ่อน

      อันอัน : ทำไมเซ่อนถึงเป็นคนเย็นชานัก

      เพื่อนบ้านของเซ่อน : เดิมทีเซ่อนไม่ได้เป็นคนเย็นชาหรอก

      อันอัน : เอ๋....?

      เพื่อนบ้านของเซ่อน : แต่ก่อนนี้เขาเป็นจิตรกรหนุ่มที่ร่าเริงมีน้ำใจต่อทุกๆคน

      อันอัน : แล้วทำไมเซ่อนถึงเปลี่ยนไปละค่ะ ?

      เพื่อนบ้านของเซ่อน : นับตั้งแต่คนรักของเขาตายไปเมื่อ 3 ปีก่อนตั้งแต่วันนั้นมาเขาก็กลายมาเป็นแบบนี้

      อันอัน : หรอค่ะ. ....!!?

      เพื่อนบ้านของเซ่อน : ตอนแรกฉันก็ตกใจเข้าใจผิดไปเหมือนกันนึกว่า วิญญาณหลิงอันกลับมาหาเซ่อน

      อันอัน : เธอมีชื่อว่า หลิงอันหรอค่ะ ?

      เพื่อนบ้านของเซ่อน : ใช่ ทำไมหรอ ?

      อันอัน : เปล่าค่ะ แค่สงสัยว่าทำไมหน้าตาของเราสองคนถึงเหมือนกัน อีกทั้งชื่อของเรายังใกล้เคียงกันอีก ทั้งๆที่ฉันก็ไม่มีพี่น้อง

      เพื่อนบ้านของเซ่อน : เธออาจจะเป็นคนที่หลิงอันเลือกให้มาเป็นตัวแทนของเขาก็ได้ละมั้ง

      หลายวันต่อมาอันอันต้องมาทำธุระแถวๆบ้านของเซ่อน เมื่อเธอทำธุระเสร็จแล้วเธอจึงกลับบ้านแต่ก่อนที่จะกลับอันอันเดินผ่านมาทางบ้านของเซ่อน เธอกวาดสายตามองหาเซ่อนแต่ก็ไม่พบ ในช่วงที่เธอเหม่อลอยอยู่นั้นก็มีพวกอันธพาลเข้ามาหาอันอัน และทำท่าทีที่ไม่สุภาพกับเธอ แต่ทว่าเซ่อนเข้ามาช่วยไว้ได้อย่างทันถ่วงทีแต่เซ่อนเองก็ได้รับบาดเจ็บเป็นแผลยาวเพราะถูกปลายมีดของพวกอันธพาล อันอันจะพาเซ่อนไปโรงพยาบาลแต่เซ่อนไม่ยอมไป

       เซ่อน : แผลแค่นี้เองไม่เป็นอะไรมากหรอก

      อันอัน : แค่นี้เองที่ไหนล่ะ ดูซิเลือดไหลไม่ยอมหยุดเลย

      เซ่อน : ก็บอกแล้วไงว่าไม่เป็นอะไร

      อันอัน : อย่าดื้อนักได้ไหม !!! ( สม ! โดนซะบ้างก็ดี คนเขาอุตสาห์เป็นห่วง )

      เซ่อน : แล้วมันเรื่องอะไรของเธอล่ะ !

      อันอัน : แล้วนายมาช่วยฉันทำไมล่ะ ?

      เซ่อน : ก็..........

      อันอัน : ไปเถอะน่าาาา

      เซ่อน : ก็ได้ๆๆ เธอนี่ยุ่งจริงๆเลย

      อันอัน : ก็ฉันเป็นของฉันอย่างนี้มาตั้งนานแล้วนี่หน่า ( เธอพูดพลางยิ้ม )

      เซ่อน :  ............. ( เซ่อนบ่นอะไรก็ไม่รู้งึมงำๆ )

      เมื่อถึงโรงพยาบาล อันอันก็พาเซ่อนไปทำแผลเซ่อนต้องเย็บบาดแผลถึง 10 เข็ม พอทำบาดแผลเสร็จแล้วอันอันก็บ่นเซ่อนต่อหน้าคุณหมอ

      อันอัน : นี่ ! ถ้านายไม่มาทำแผลสงสัยเลือดไหลหมดตัวแน่

      เซ่อน : รู้แล้วน่าไม่ต้องบ่นได้ไหม

      อันอัน : ทำไมล่ะ ก็เป็นห่วงนิ

      เซ่อน : รู้แล้ว ไม่ต้องพูดแล้ว ( เซ่อนพูดด้วยเสียงเบาๆ )

      อันอัน : แล้วเย็นนี้มีอะไรทานหรือเปล่า ? ถ้าไม่มีเดี๋ยวจะไปทำให้ทานนะ

      เซ่อน : ไม่ต้องหรอกน่า

      อันอัน : โถ่ นะๆ

      คุณหมอ : แหมม น่ารักจังเลยแฟนคุณเนี่ย  ( คุณหมอพูดพร้อมกับยิ้ม )

      เซ่อนทำหน้าตางงๆแบบว่าจะปฏิเสธแต่ก็กลัวอันอันจะเสียหน้า จากนั้นทั้งสองคนก็ออกจากโรงพยาบาล อันอันไปส่งเซ่อนที่บ้านอันอันถามเซ่อนว่าที่บ้านมีอะไรทานหรือเปล่า ถ้าไม่มีเธอจะได้ทำให้ทาน อันอันดีกับเซ่อนมากแต่ทว่าเซ่อนก็ยังคงมีความคิดที่ว่าจะไม่มีใครเข้ามาแทนที่ของหลิงอันภายในหัวใจของเขาได้ แต่แล้วความปั่นป่วนในใจของเขาก็เกิดขึ้นอีกครั้ง เมื่ออันอันมาบอกกับเขาว่า

      อันอัน : ฉันคิดว่าฉันรักเธอนะเซ่อน ฉันไม่รู้หรอกนะว่าเธอคิดยังไงกับฉัน เพราะเธอเย็นชากับฉันเหลือเกินจนฉันดูไม่ออกเลยว่าเธอคิดกับฉันยังไงกันแน่ แล้วเธอจะบอกได้ไหมว่าเธอคิดยังไงกับฉัน ?

      เซ่อนไม่ยอมพูดอะไรเพราะว่าตอนนี้เขาเองก็ไม่แน่ใจตัวเองเหมือนกัน ถึงแม้ว่าเขาจะบอกกับตัวเองซักกี่ครั้งว่าจะไม่มีใครมาแทนที่หลิงอันในใจของเขาได้ และเซ่อนก็หันหลังเดินหนีอันอันไป แต่อันอันตะโกนขึ้นมาว่า

      อันอัน : ฉันจะรอคำตอบของนายอีก 7 วันนะ ฉันจะต้องไปเรียนต่อที่ต่างประเทศถ้าหากว่านายรักฉันและขอให้ฉันอยู่ที่นี่ฉันก็จะไม่ไป แต่ถ้านายไม่มาฉันก็จะจากไปจากชีวิตของนาย

      เซ่อนจากไปทิ้งให้อันอันต้องนั่งร้องไห้เสียใจอยู่เพียงลำพัง เซ่อนรู้สึกว่าถ้าหากรักอันอันเขาก็จะผิดต่อหลิงอันแต่เซ่อนมีความรู้สึกว่าตอนนี้เขาเองก็รักเข้าแล้วอันอันเหมือนกัน เซ่อนไม่รู้จะทำอย่างไรเหมือนกันฉะนั้นเขาจึงหาทางออกโดยการดื่มเหล้าแต่เซ่อนเองไม่เคยดื่มเหล้ามาก่อนเซ่อนเมาจนไม่ได้สติและเขาก็ฟลุบหลับไป เมื่อเขาลืมตาขึ้นมาเขาก็เห็นหลิงอัน

      เซ่อน : หลิงอันนั่นเธอใช่ไหม ?

      หลิงอัน : เธอแน่ใจหรือว่าฉันคือหลิงอัน

      เซ่อน : อันอันหรอ ?

      หลิงอัน : เห็นไหมเเค่นี้เธอก็ยืนยันด้วยความมั่นใจไม่ได้

      เซ่อน : หลิงอันใช่ไหม  ? ฉันขอโทษฉันคิดว่าฉันคงจะรักเขา

      หลิงอัน : เซ่อน เธอไม่ได้เเค่คิดหรอก เธอนะรักอันอัน

      เซ่อน : ไม่ๆๆ  ฉันจะทำอย่างนี้ไม่ได้ ถ้าฉันทำอย่างนั้นมันก็จะผิดต่อเธอนะซิ

      หลิงอัน : แล้วเธอจะรักฉันที่เป็นเพียงสิ่งที่ไม่มีตัวตนอย่างนี้ไปตลอดชีวิตเลยหรอ

      เซ่อน : ..................

      หลิงอัน : ถ้าอย่างนั้นฉันก็คงคิดผิดที่ส่งอันอันที่เป็นส่วนหนึ่งของฉันมาดูแลเธอแทนฉัน

      เซ่อน : หลิงอัน !!

      หลิงอัน : ก็ฉันทนเห็นคนที่ฉันรักเสียใจไม่ได้นิ รู้ไหมว่าฉันปวดใจมากขนาดไหนที่เห็นเธอเป็นแบบนี้

      เซ่อน : ............ ( เซ่อนไม่ได้พูดอะไรแต่น้ำตาของเขามันก็ไหลออกมา )

      หลิงอัน : อย่าเสียใจเพื่อฉันอีกเลยนะ ฉันขอบคุณที่เธอรักฉันขอบคุณมากที่ยึดมั่นเพื่อคนอย่างฉัน ฉันจะเก็บหัวใจรักที่เธอมีให้ฉันไว้อย่างนี้ตลอดไปน่ะ แต่ต่อไปนี้เธอจะต้องรักอันอันให้มากๆนะ ( หลิงอันพูดทั้งน้ำตาที่ไหลริน )

      เซ่อน : ฉันจะไม่มีวันรักใครได้มากกว่าเธออีกแล้ว ถึงแม้ว่าอันอันจะเป็นส่วนหนึ่งของเธอก็ตาม ฉันจะไม่มีวันที่นำใครมาเเทนที่เธอในหัวใจของฉันเป็นอันขาด

      หลิงอัน : เธออย่าพันธนาการฉันด้วยรักได้ไหม ฉันไม่อยากให้เธอต้องเสียใจอีก

      เซ่อน : ถ้าเธอบอกมาคำเดียวว่าให้ฉันไปรักอันอัน ฉันก็จะไป เพียงแค่เธอพูดมาว่าเธอไม่รักฉันแล้ว

      หลิงอัน : "ฉันไม่ได้รักเธอแล้ว" ( ทั้งที่หัวใจไม่แม้แต่ที่จะคิด )

      เซ่อน : ถ้าเธอต้องการให้มันเป็นเช่นนี้ก็ได้ฉันจะรักอันอัน แต่จะไม่มีวันรักมากกว่าเธอ เธอจะอยู่ในหัวใจของฉันตลอดไป ( และเซ่อนที่ไม่เคยร้องไห้มาเป็นเวลา 3 ปี ก็ต้องเสียน้ำตาอีกครั้ง )

      หลิงอัน : ฉันรักเธอนะเซ่อนและจะรักตลอดไป ( หลิงอันพูดในใจ ) ฉันต้องไปแล้วนะ ฉันได้ทำหน้าที่สุดท้ายเรียบร้อยแล้ว ลาก่อน

      เซ่อน : ลาก่อนหัวใจของฉัน

      เซ่อนก็ต้องสะดุ้งตื่นขึ้นเพราะเรื่องเมื่อกี้เป็นเพียงแค่ความฝัน เซ่อนตื่นขึ้นมาก็ดูปฏิทินและวันนี้เองจะเป็นวันที่อันอันไปเรียนต่อที่ต่างประเทศ เซ่อนรีบไปที่หลุมศพของหลิงอันเมื่อถึงที่นั่น เซ่อนพูดต่อหน้าหลุมศพของหลิงอัน

      เซ่อน :เรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดเป็นเรื่องที่เธอทำให้เกิดขึ้นใช่ไหม ? มันจริงหรอเปล่า ?? บอกฉันทีเถอะ

      *และสายลมที่เยือกเย็นก็พัดผ่านร่างกายของเซ่อน *

      เซ่อน : หลิงอันใช่ไหม ? ช่วยตอบฉันหน่อยได้ไหม ?

      *สายลมนั้นก็พัดวนเวียนอยู่ที่เซ่อน*

      เซ่อน : เป็นเรื่องจริงใช่ไหม ฉันเข้าใจแล้ว แต่ไม่ว่าอย่างไรฉันขอยืนยันคำเดิม

      จากนั้นเซ่อนก็ถอดแหวนคู่ของเขาเองมาคล้องรวมกับแหวนของหลิงอัน "ฉันจะไม่มีวันทิ้งแหวนคู่นี้เป็นอันขาด" และเซ่อนก็ใส่สร้อยที่มีแหวนของเขาและหลิงอัน แต่แล้วเซ่อนก็ทำตามสัญญาที่ให้ไว้กับหลิงอัน เซ่อนรีบไปที่สนามบินเพื่อที่จะไปตามอันอัน เมื่อไปถึงสนามบินเซ่อนก็รีบตามหาอันอันแต่หาเท่าไหร่ก็ไม่เจอ จนกระทั่งเซ่อนไปหาทางแถวที่ตรวจบัตรต่างๆ เขาจึงพบกับอันอัน เซ่อนวิ่งเข้าไปกอดอันอันไว้แน่น

      เซ่อน : ฉันเข้าใจทุกๆอย่างแล้ว

      อันอัน : ฉันก็เข้าใจแล้วเหมือนกัน

      เซ่อน : เธอคือคนที่เขา( หลิงอัน )ส่งมาเป็นตัวแทนของเขา

      อันอัน : ฉันรู้เรื่องทุกๆอย่างแล้วละ เธอ( หลิงอัน )มาบอกฉันแล้ว ฉันน่ะ .......อยากเป็นหลิงอันรู้ไหม ?

      เซ่อน : ทำไมหรอ ?

      อันอัน : ก็เขาเป็นคนที่ได้หัวใจทั้งหมดของเธอนะซิ แล้วเธอจะให้ฉันเข้าไปแทนที่เขาหรือยังไง ?

      เซ่อน : ไม่มีทางที่จะเป็นไปได้อยู่แล้ว แต่ฉันจะขอเก็บเธอทั้งสองคนไว้ในหัวใจของฉันต่างหาก ถึงแม้ว่ามันจะเป็นการเห็นแก่ตัวก็เถอะ

      อันอัน : ฉันรักเธอนะเซ่อน แต่เธอจะเป็นคนเพียงคนเดียวในหัวใจของฉัน

      เซ่อน : ถึงแม้ว่าฉันจะมีเธอเพียงคนเดียวในหัวใจไม่ได้ แต่ฉันก็จะขอดูแลเธอ ถึงแม้ว่าฉันจะไม่เหมือนเดิมก็ตาม ( เซ่อนหมายความว่า เซ่อนคนเดิมที่ร่าเริงแจ่มใส่ได้ตายไปจากโลกแล้ว )

      อันอัน : ไม่ว่าเธอจะเป็นอย่างไร ฉันก็รักเธอนะ ถึงแม้ว่าความอบอุ่นของน้ำแข็งจะไม่ แต่ฉันมั่นใจว่าน้ำแข็งก้อนนี้มีความอบอุ่นมากพอที่จะให้ความอบอุ่นฉันได้

      เซ่อน :  ฉันรักแธอนะ อันอัน ถึงแม้ว่าฉันจะรักเธอได้ไม่เท่ากับหลิงอันก็ตาม

      อันอัน : ฉันรู้ว่าฉันไม่สามารถแทนที่หลิงอันได้

      จากนั้นมาเซ่อนก็เริ่มรักอันอันมากขึ้นจนตอนนี้เขาไม่สามารถบอกได้ว่าเขารักหลิงอันหรืออันอันมากว่ากัน และแล้วก็มาถึงบทสรุปของเรื่อง เซ่อนใช้ชีวิตคู่กับอันอันอย่างมีความสุขแต่ถึงอย่างไรหลิงอันก็ยังคงมีชีวิตอยู่ในหัวใจของเซ่อน และจะเป็นเช่นนี้ตลอดไป

                ขอมอบสิ่งนี้เป็นของขวัญให้กับคนพิเศษคนนึงที่เกิดในวันนี้ ขอให้มีความสุขมากๆนะจ๊ะ ปลาทองน้อย สุขสันต์วันเกิดจ้า
                

      และต้องขออภัยที่ เรื่องนี้เพิ่งจะเสร็จสมบูรณ์ทั้งที่โพสลงไปตั้งนานแล้ว

      และต้องขออภัยที่ เรื่องนี้เพิ่งจะเสร็จสมบูรณ์ทั้งที่โพสลงไปตั้งนานแล้ว

      และต้องขออภัยที่ เรื่องนี้เพิ่งจะเสร็จสมบูรณ์ทั้งที่โพสลงไปตั้งนานแล้ว

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×