สายใย ตอนที่ 1 - นิยาย สายใย ตอนที่ 1 : Dek-D.com - Writer
×

    สายใย ตอนที่ 1

    สายใยแห่งอดีตจะนำพาเขาและเธอมารักกัน

    ผู้เข้าชมรวม

    176

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    5

    ผู้เข้าชมรวม


    176

    ความคิดเห็น


    0

    คนติดตาม


    0
    จำนวนตอน :  0 ตอน
    อัปเดตล่าสุด :  1 ก.ย. 66 / 17:57 น.
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

              ท้องน้ำทะเลสีครามเป็นระรอกคลื่นสะท้อนแสงแดดระยิบระยับมองดูคล้ายผืนน้ำกำลังเต้นระบำอย่างสนุกสนาน มองออกไปไกลๆ เรือประมงกำลังหาปลา เป็นสิ่งเดียวที่เคลื่อนไหวอยู่กลางทะเลอันเงียบสงบ มีเพียงเสียงคลื่นกระทบชายหาดสีขาวที่ทอดตัวยาวจนสุดลูกหูลูกตาเหมือนมีใครเอาผ้าขาวมาปูลาดไว้ ซึ่งตัดกับท้องทะเลสีคราม แต่ก็ดูเข้ากันได้ดี ธรรมชาติสามารถนำสิ่งที่ต่างกันมารวมกันได้อย่างลงตัว ผมทอดสายตามองดูผู้คนที่กำลังสนุกสนานกับการเล่นน้ำทะเล ผู้คนจากทั่วทุกสารทิศหลั่งไหลมารวมตัวกันเพื่อตักตวงความสุขจากธรรมชาติอันสวยงาม ผมก็เช่นกัน แต่ครั้งนี้พิเศษกว่านั้นเพราะผมมีสิ่งที่สำคัญที่สุดในชีวิตที่ต้องทำ
    นี้คุณ
    เสียงที่คุ้นหูปลุกผมจากความคิด ผมหันไปมองตามน้ำเสียงใสๆ นั้น ยิ้มให้กับเจ้าของเสียง และนี้คือสาเหตุที่ทำให้ผมต้องมาที่นี้
    ฉันเรียกคุณตั้งหลายครั้งไม่ได้ยินหรือไง
    น้ำเสียงที่เปล่งออกมาจากริมฝีปากเรียวบางดูเข้ากับใบหน้ายาวรูปไข ผิวขาวเนียนเรียบออกชมพูระเรื้อที่ดูสะอาดสะอ้านอย่างคนสุขภาพดี เส้นผมที่ดำสนิทปล่อยยาวสลวยถูกลมทะเลพัดปลิวไสวเผยให้เห็นต้นคอขาวระหง ขาที่เรียวยาวในชุดกางเกงขาสั้นที่เข้าชุดกับเสื้อยืดตัวเล็กดูน่ารัก ช่างดูเหมือนภาพวาดตัวการ์ตูนญี่ปุ่น
    ขอโทษครับพอดีผมคิดอะไรเพลินๆ อยู่ เลยไม่ได้ยินเสียงคุณ ผมยิ้มให้กับเธอ
    ช่างมันเถอะ มาคุยกันถึงธุระของเราเถอะ เธอตอบพร้อมกับเดินมาข้างๆ ผม และจ้องมองไปที่ทะเล
    ฉันมีข้อเสนอให้คุณ เธอหยุดหายใจเหมือนจะรวบรวมสมาธิ
    ฉันตกลงจะขายรีสอร์ทให้คุณ แต่มีข้อแม้ว่าคุณต้องให้ฉันยังคงบริหารรีสอร์ท ถ้าภายในหนึ่งปี รีสอร์ทไม่ดีขึ้นฉันก็จะจากไป โดยรีสอร์ทจะตกเป็นของคุณโดยสมบูรณ์ แต่ถ้ารีสอร์ทดีขึ้นคุณต้องขาย รีสอร์ทคืนให้ฉัน เธอสบตากับผมเชิงขอร้องแต่ก็แฝงไว้ด้วยแววตาแห่งความมุ่งมัน และผมก็เชื่อว่าเธอทำได้ แต่โอกาสเช่นนี้ผมไม่ปล่อยให้หลุดมือไปแน่ เพราะว่ารีสอร์ทเป็นเหมือนชีวิตและจิตใจของเธอ มันคือสิ่งเดียวที่พ่อเธอทิ้งเอาไว้ให้พร้อมกับหนี้สินก้อนใหญ่ อันที่จริงรีสอร์ทไม่ใช่เป้าหมายของผม เป้าหมายหลักของผมคือเธอ อัศนียา บวรภักดี ลูกสาวคนเดียวของอาชัยเพื่อนรักของบิดาผม ก่อนที่พ่อของเธอจะจากไปด้วยโรคร้ายได้ฝากฝังให้ผมดูแลเธอ อัสนียา ลูกสาวคนเดียวที่เปรียบได้กับดั่งดวงใจของอาชัยให้ผมดูแล แม่ของอัศนียาเสียไปตั้งแต่เธออายุได้สองขวบ อาชัยจึงทุ่มเทความรักทั้งชีวิตให้กับอัศนียา และผมก็ได้ให้คำมั่นสัญญาแก่อาชัยจะดูแล เธอ ให้ดีที่สุดด้วยชีวิตของผม แต่สิ่งสำคัญที่สุดผมต้องทำให้เธอยอมรับในตัวผมและพร้อมที่จะให้ผมดูแลและอยู่เคียงข้างเธอไปตลอดชีวิต ด้วยแผนการเล็กๆ น้อยๆ ที่ผมวางเอาไว้
    ไม่ตกลง ! ทำไมผมต้องทำตามข้อเสนอคุณด้วยละในเมื่อหนี้สินที่พ่อคุณค้างผมอยู่ ผมสามารถที่จะยึดรีสอร์ทมาเป็นของผมได้ตามกฎหมาย โดยที่ผมไม่ต้องเสียตั่งซื้อด้วยซ้ำไป ผมเริ่มแผนการขั้นที่หนึ่ง
    แล้วคุณจะเอายังไง คุณก็รู้นี้ว่ารีสอร์ทสำคัญสำหรับฉันขนาดไหน เธอกำมือแน่นหน้าแดงกล่ำด้วยความโกรธ
    ในเมือคุณมีข้อเสนอมา ผมก็มีข้อเสนอให้คุณเหมือนกัน ผมตอบพร้อมกับยื้นหน้าเข้าไปใกล้จนได้ยินเสียงหายใจของอีกฝ่าย เธอรีบก้าวถอยหนีผมและด้วยความรีบร้อนจนไม่ทันได้ระวังตัวขาจึงสะดุดเอากิ่งไม้ข้างหลังจนเซถลา เธอร้องเสียงหลงแต่ในช่วงวินาทีที่เธอกำลังจะล้มลงไปกองอยู่กับพื้น มือผมก็คว้าเอวเธอดึงเข้ามากอดก่อนที่เธอจะล้มลงไป ร่างสองร่างแนบชิดกันจนผมรู้สึกได้ถึงเสียงเต้นของหัวใจเธอ สายตาสองคู่ประสานกันและกันก่อเกิดความรู้สึกใหม่ระหว่างหัวใจสองดวง เหมือนต้นไม้ที่ได้รับน้ำเป็นครั้งแรก พร้อมที่จะเบ่งบานอวดความสวยงามของดอกไม้แห่งความรัก
    ปล่อยฉันได้แล้ว เธอเริ่มขยับตัวจนผมต้องปล่อยมือที่กอดเธอแน่น แต่ไม่ละสายตาจากใบหน้าเธอ ที่ตอนนี้เริ่มแดงเหมือนลูกตำลึงสุก
    คุณเจ็บตรงไหนบ้างหรือเปล่า ผมถามออกไปด้วยความเป็นห่วง
    ไม่เป็นไรค่ะ ขอบคุณมากที่ช่วย เธอขยับออกห่างผมเหมือนกลัวว่าจะมีเหตุการณ์ซ้ำรอยเดิมอีก
    ผมอดขำในท่าทางเขินอายของเธอไม่ได้จนเผลอยิ้มออกมา ท่าทางเหมือนเด็กน้อยที่โดนผู้ชายกอดเป็นครั้งแรก ทำให้ผมรู้สึกอยากจะปกป้องและดูแลเธอทุกวินาทีที่อยู่ใกล้ แต่พฤติกรรมผมไม่อาจพ้นสายตาเธอไปได้ในขณะที่ผมกำลังอมยิ้มกับท่าทาง เก้ๆ กังๆ ของเธออยู่ สายตาอันดุดันเหมือนแม่เสือสาวที่รอจะเขมือมเหยื่อ จองมองมาที่ผมเหมือนกับจะกินเลือดกินเนื้อ จนผมต้องหุบยิ้มลงในทันที่
    มีอะไรหน้าขำหรือคุณ น้ำเสียงดุดันแสดงความไม่พอใจ
    ท่าทางเธอในตอนนี้ทำให้ผมนึกถึงเด็กหญิงตัวเล็กๆ ตากลมโตไว้ผมหน้าม้าถักเปียยาวผูกโบสีแดง หน้าตาน่ารักเหมือนตุ๊กตา กำลังงอนพี่ชายที่ไม่ยอมให้ขี่หลังในบางครั้งที่เธอขี้เกียจเดิน แต่สุดท้ายพี่ชายคนนี้ก็ไม่เคยปฏิเสธน้องสาวได้เลยสักครั้ง
    ป่าวผมไม่ได้ขำคุณสักหน่อย ผมรีบปฏิเสธ
    ก็ฉันเห็นคุณหัวเราะนี้ เธอย่นจมูกใส่ผมหน้าตาเอาเรื่อง
    โอเคๆ ผมขำคุณก็ได้ เอาเป็นว่าผมขอโทษก็แล้วกัน มาคุยถึงธุระเรากันต่อดีกว่า ผมรีบตัดบทก่อนที่เจ้าหล่อนจะแหวกอกผมเสียก่อน
    เราคุยกันถึงไหนแล้ว ผมเริ่มถามเธอที่ตอนนี้เริ่มอารมณ์เข้าสู่ภาวะปกติแล้ว
    คุณบอกว่าคุณมีข้อเสนอให้ฉัน เธอตอบโดยที่ไม่หันมามองหน้าผม
    ข้อเสนอผมไม่มากมายอะไร เพียงแค่คุณทำตามข้อเสนอของผม รีสอร์ทจะกลับไปเป็นของคุณพร้อมกับหนีสินจะถูกยกเลิกทั้งหมด ผมหยุดพูดเพื่อดูท่าทีของอีกฝ่าย เธอหันมามองหน้าผมเพื่อจะค้นหาอะไรบ้างอย่างจากตัวผม
    แล้วถ้าฉันไม่ทำตามข้อเสนอของคุณละ เธอถามยั่งเชิงผม ด้วยน้ำเสียงที่เย่อยิ่งเล็กน้อย
    ผมรู้ว่าเธอต้องตั้งคำถามนี้แน่และผมก็เตรียมคำตอบที่เธอไม่สามารถปฏิเสธได้ไว้รออยู่แล้ว
    ผมก็คงต้องยึดรีสอร์ทและอาจจะรื้อทิ้งและเปลี่ยนเป็นห้างสรรพสินค้าหรือไม่ก็ให้ฝรั่งมันเช่าก็น่าสนใจดีนะ ผมหันไปถามความเห็นจากเธอ พร้อมทั้งกับทำหน้าครุ่นคิด มันได้ผลสีหน้าเธอเริ่มคิดหนักเพราะห้างสรรสินค้าและความเจริญจากภายนอกเป็นสิ่งที่เธอเกรียดมากที่สุด เธอเชื่อว่าสิ่งเหล่านี้จะทำลายธรรมชาติและระบบนิเวศให้พังทลายลง และนั้นคือสิ่งที่เธอรับไม่ได้แต่ที่สำคัญที่สุดสิ่งเหล่านั้นจะเกิดบนที่ดินที่เธอห่วงแหนที่สุด และผมก็รู้จุดอ่อนของเธอ
    งันคุณบอกข้อเสนอคุณมา น้ำเสียงของเธอบ่งบอกถึงความกังวล เพราะตอนนี้สถานการณ์เธอตกเป็นรองผมอยู่ และผมก็ไม่ปล่อยให้โอกาสเช่นนี้หลุดมือไป ผมถือคติน้ำขึ้นให้รีบตัก
    เพียงแค่คุณแต่งงานกับผม ทุกอย่างที่เคยเป็นของคุณก็จะกลับไปเป็นของคุณดังเดิม สายตาผมจองมองใบหน้าเธอ ความตกใจและแปลกใจผุดขึ้นบนใบหน้าเธอ
    ผมเริ่มรุกต่อ
    ผมไม่ได้บีบบังคับคุณหรอกนะ เพียงแค่ผมเสนอทางออกให้แก่คุณ ทีนี้ก็แล้วแต่คุณละนะว่าจะเอายังไง ผมละสายตาจากเธอหันกลับไปมองทะเลอย่างเดิม ยิ้มอย่างผู้ที่ถือไพ่เหนือกว่า
    ขอเวลาให้ฉันคิดหน่อยได้ไม น้ำเสียงและท่าทางเธอเริ่มอ่อนลงผิดกับเมื่อกี่ที่เกือบจะกินเลือดกินเนื้อผม
    ได้ แต่ไม่เกินสามวัน ผมรีบบีบบังคับเธอ
    เพราะถ้าคุณให้คำตอบช้าเท่าไร โครงการที่ผมว่างเอาไว้ก็ยิ่งจะเสียหายหลายล้านบาท ผมรับผิดชอบไม่ไหวหรอกคุณ ผมให้เหตุผลเพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือ
    ไม่เร็วไปหน่อยหรือคุณ ฉันต้องคิดให้รอบคอบก่อนซิ นั้นนะชีวิตทั้งชีวิตของฉันเลยนะ และยิ่งแต่งกับคุณด้วยฉันยิ่งต้องคิดหนักกว่าร้อยเท่า เธอทำเสียงประชดผม พร้อมกับท่าทางกวนอารมณ์ และเธอก็ยั่วอารมณ์ผมสำเร็จเสียด้วยซิ นี้ถ้าไม่ติดว่ายังไม่แต่งงานกันนะจะจับเธอจูบให้หายแค้น ไว้แต่งงานกันก่อนเถอะจะคิดบัญชีทั้งต้นทั้งดอกเลย ผมคิดอยู่ในใจ 
    ทำไม แต่งงานกับผมมันเสียหายตรงไหน รู้ไมคุณกำลังจะได้แต่งงานกับหนุ่มหล่อนักธุรกิจที่ได้รับผลโหวตจากนิตยสารชื่อดังให้เป็นหนึ่งในสิบที่ผู้หญิงอยากจะแต่งงานด้วย คุณน่าจะดีใจด้วยซ้ำ ผมอวดสรรพคุณ
    เหวะ จะอ้วก ผู้หญิงในจำนวนนั้นคงไม่ร่วมฉันแน่ๆ เพราะฉันจะไม่โหวตให้คุณแน่นอน เธอเชิดใสหน้าผม
    ให้มันจริงเถอะ พอแต่งงานกันไปขี้กร้านคุณจะติดผมแจ้ ผมทำหน้ากวนอารมณ์เธอ
    ฝันไปเถอะ เธอสวนกลับมาทันควัน
    ผมยิ้มกับท่าทางเอาจริงเอาจังของเธอสงสัยงานนี้ผมคงเหนื่อยไม่น้อย ในการปราบพยศเด็กคนนี้ แต่ก็นั้นเหละความพยายามอยู่ที่ไหนความสำเร็จย่อมอยู่ที่นั้น เพราะผมดันหลงรักแม่สาวน้อยคนนี้แล้วนี้
    เอาเถอะ ขี้เกียจเถียงกับเด็ก ผมตัดบทเพราะไม่งันเรื่องคงยาวแน่
    ใครเป็นเด็กไม่ทราบ เธอแหวใส่ผม
    ก็ใครละถ้าเป็นผู้ใหญ่เขาไม่ทำท่าทางแบบนี้หรอก ผมยี่ตามองเธอแล้วทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ มันยิ่งเพิ่มอารมณ์โมโหให้กับเธอ
    อันที่จริงเธอไม่ใช่เด็กอย่างที่ผมพูดออกไปกลับตรงกันข้ามเธอโตเป็นสาวและสวยจนมีหนุ่มหลายคนมาติดพันจนผมต้องตัดไฟเสียแต่ต้นล่ม จะพูดได้ว่าผมเห็นแก่ตัวก็ได้แต่จะทำไงได้ก็คนมันหวง
    ฉันขอเวลาตัดสินใจหนึ่งเดือน เธอพยายามควบคุมอารมณ์ยื่นข้อเสนอให้ผม
    นานไป ผมให้เวลาได้เต็มที่หนึ่งอาทิตย์ ผมยืนครุ่นคิดก่อนจะตอบเธอออกไป
    ผมไม่อยากปล่อยให้เวลาเนินนานเกินไปเพราะถ้ายิ่งนานกลัวเธอจะเปลี่ยนใจ และอีกอย่างมันตรงกับแผนที่ผมวางเอาไว้
    แต่ถ้าคุณไม่ตกลง งั้นพรุ้งนี้ผมคงต้องให้วิศวกรบริษัทผมมาดูงานว่าจะทำยังไงอาจจะรื้อรีสอร์ททิ้งก่อนเวลาก็เป็นได้ ผมพูดพร้อมกับล้วงโทรศัพท์
    ก็ได้ๆ หนึ่งอาทิตย์ก็หนึ่งอาทิตย์ เธอรีบคว้ามือผมก่อนที่ผมจะกดเบอร์โทรศัพท์ คำขู่ผมได้ผลเกินคาด
    งั้นดีเลยผมลาพักผ่อนมาหนึ่งอาทิตย์พอดี ผมจะพักอยู่ที่บ้านคุณรอคำตอบเลย ดีไม ผมทำหน้าทะเล้นใส่เธอ
    จะบ้าหรือไง บ้านช่องไม่มีจะอยู่หรือไงเที่ยวมาพักบ้านคนอื่นเขา เธหน้างอกระพัดกระเฟี่ยดใส่ผม แต่เป็นภาพที่น่ามองสำหรับผม
    เถอะน่าอีกหน่อยเราแต่งงานกันเราก็อยู่บ้านเดียวกันอยู่แล้ว จะได้คุ่นเคยกันไงเวลาเข้าหอจะได้ไม่เขิน
    บ้า ฉันไม่พูดด้วยแล้ว เธอหน้าแดงกล่ำจากสายตาผมที่จองมองอย่างกรุ่มกริม เธอหันหลังเดินกลับบ้านพักด้วยความเขินอาย
    ถึงจะบ้า ก็บ้ารัก ผมตะโกนไล่หลังเธอไป แต่เธอกลับหันมาแลบลิ้นใส่ผมก่อนจะหันหลังวิ่งกลับไป

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น