ขอขนมชิ้นสุดท้ายจะได้ไหม - ขอขนมชิ้นสุดท้ายจะได้ไหม นิยาย ขอขนมชิ้นสุดท้ายจะได้ไหม : Dek-D.com - Writer

    ขอขนมชิ้นสุดท้ายจะได้ไหม

    โดย Captive

    นายบีม หรือที่ฉันเรียกว่าบ้ากาม ไอ้หมอนี่มันคือศัตรูตลอดกาลของฉัน หน้าตาก็ไม่หล่อยังจะมาเก๊กอีก รู้ไหมตั้งแต่เข้าม.1 มาจนตอนนี้ฉันอยู่ม.4 แล้วมันยังแย่งขนมฉันไม่เลิกแถมยังเฉพาะเจาะจงเอาชิ้นสุดท้ายตลอด

    ผู้เข้าชมรวม

    704

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    2

    ผู้เข้าชมรวม


    704

    ความคิดเห็น


    3

    คนติดตาม


    0
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  5 พ.ย. 50 / 22:53 น.


    ข้อมูลเบื้องต้นของเรื่องนี้
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

      ขอขนมชิ้นสุดท้ายจะได้ไหม

                  น้ำสีขุ่นๆมีเศษพริกเศษผักลอยละล่องอยู่เต็มไปหมด แต่นั่นมันไม่ใช่ประเด็นและไม่ใช่เป้าหมาย เป้าหมายของฉันคือลูกกลมๆที่ลอยอยู่กลางน้ำนั่นต่างหาก ไม้ยาวหนึ่งคู่ค่อยๆเขี่ยเศษพริกเศษผักที่ขวางทางอยู่ให้พ้นทาง ก่อนที่จะง้างออกเพื่อคีบลูกกลมๆนั้นขึ้นมาพร้อมที่จะส่งเข้าสู่โพรงปาก

                      "เมย์พี่เต้เดินมา ด้านหลัง" เสียงที่ไม่รู้ว่าเป็นของใครตะโกนบอก ซึ่งฉันก็ไม่รอช้ารีบหันหลังกลับไปดู

                      โอ้! พระเจ้านั่น ไหนอ่ะพี่เต้ มีแต่นายสมชายน้ำลายยืดส่งยิ้มปัญญาอ่อนมาให้ ใครมาพูดฟ่ะว่าเป็นพี่เต้เดี๋ยวปั๊ดเหนี่ยวเลยนี่ -_-^ ตาถั่วจริง ว่าแล้วก็หันมางับลูกชิ้นเข้าปาก แต่ทำไมมันแข็งอย่างงี้หล่ะ เจ็บฟันง่ะ พอฉันหันหน้าไปทางต้นเสียงที่ตะโกนเมื่อกี้ ไอ้บีม!!! กำลังเคี้ยวลูกชิ้นแก้มตุ่ยแนะยังจะมายักคิ้วให้อีก ไปตายซะไอ้บีบนม(แค่ฉายาอย่าคิดมาก) อันที่จริงฉันก็ไม่หน้าโง่ไปเชื่อมันเลยพี่เต้เหรอจะมาเดินอยู่หน้าร้านก๋วยเตี๋ยวแถวซอยบ้านฉัน

                      "บีมนายเอาลูกชิ้นเราคืนมานะ" ฉันตะโกนสุดเสียง เรื่องอะไรจะยอมหล่ะแย่งลูกชิ้นไปยังไม่พอ มาหลอกให้ดูของที่ทำให้เสียสุขภาพจิตอีก

                      "เธอยังจะเอาอีกหรอ เรากลืนมันไปแล้วนะ" เขาพูดปากก็ยังเคี้ยวตุ้ยๆๆ

                      "นายยังเคี้ยวมันอยู่เลย ไม่ได้กลืนมันซักหน่อย" ฉันเถียงข้างๆคูๆ

                      "งกจริง" บีมสบถอุบ แล้วรีบกลืนลูกชิ้นลงคอ "แค่ก...แค่ก...แค่ก..." บีมสำลัก สงสัยลูกชิ้นติดคอมัน ดูซิควานหาน้ำยกใหญ่เลย สมน้ำหน้าตะกละเอง

                      มาเถอะระหว่างรอบ้ากามหาน้ำเดี๋ยวฉันจะแนะนำบุคคลสามคนให้รู้จัก

                      คนแรก พี่เต้สุดสวาทขาดใจของฉัน เขาเป็นรุ่นพี่ม.5 ป๊อบที่สุดในโรงเรียน ทั้งสูง ขาว หล่อ  ตาตี่ น่ารัก และที่สำคัญนิสัยดีเป็นสุภาพบุรุษมากๆ ฉันปลื้มพี่เค้าตั้งแต่ฉันเข้ามาม.1 มาจนถึงปัจจุบันนี้

                      คนที่สองนายบีม หรือที่ฉันตั้งฉายาให้ว่าบ้ากาม ไอ้หมอนี่มันคือศัตรู คู่ปรับตัวฉกาจตลอดกาลของฉัน หน้าตารึก็ไม่หล่อยังจะมาเก๊กอีก รู้ไหมตั้งแต่เข้าม.1 มาจนตอนนี้ฉันอยู่ม.4 แล้วมันยังแย่งขนมฉันไม่เลิกแถมยังเฉพาะเจาะจงแย่งชิ้นสุดท้ายตลอด แรกๆฉันก็ไม่มีปัญหาอะไรมากจนฉันขึ้นมาม.2 คนที่สามที่ฉันจะแนะนำก็เข้ามา เขาชื่อสมชายอยู่ม.1 แต่ฉันเติมน้ำลายยืดต่อท้ายชื่อให้เป็นฉายา เขาเข้ามาจีบฉันและฉันคงไม่เครียดนักหรอกถ้าน้องเค้าไม่มีลักษณะตรงตามฉายาเป๊ะ คือจะมีน้ำลายย้อยออกจากปากตลอดเวลา ทำไมนะคนสวยอย่างฉัน(ถึงจะไม่สวยเท่าน้ำฟ้าดาวโรงเรียนก็เถอะ) ถึงได้ไม่มีใครมาจีบนอกจากน้องสมชาย ดังนั้นฉันเลยพยายามกินขนมชิ้นสุดท้ายเพราะเคยได้ยินมาว่ากินขนมชิ้นสุดท้ายแล้วแฟนจะหล่อ แต่นายบีมนี่สิกลับมาแย่งขนมชิ้นสุดท้ายของฉันตลอด

                      "เธอแช่งฉันหรอ-_-^" บีมว่าหลังจากที่ดื่มน้ำไปแก้วใหญ่

                      แนะดูสิตะกละเองแท้ๆยังจะมาใส่ร้ายกันอีก

                      "ใครได้แช่งนายกัน เราจะไปโรงเรียนแล้วไม่อยากสาย...ป้าค่ะเก็บเงินด้วยค่ะ"

                      พอฉันจ่ายเงินเสร็จก็รีบเดินจ้ำอ้าวมาโรงเรียน ทำไงได้ก็มันสายแล้วนี่ ยิ่งวันนี้เป็นเวรอาจารย์นฤมลจอมเฮี้ยบเฝ้าประตูเสียด้วย

                      "เฮ้ยัยเซ่อ"

                      ใคร-_-^ ใครมาเรียกฟ่ะ คนยิ่งรีบอยู่ อ๋อ ไอ้บ้ากาม

                      "มีไร" ถ้าเป็นเรื่องไร้สาระนายตาย

                      "ซ้อนจักรยานเราไหม"

                      "ใครจะไปซ้อนย่ะ"

                      "ตามใจวันนี้เวรอาจารย์นฤมลซะด้วยสิ อยากสายก็เชิญ"

                      พูดเสร็จนายบีมก็ตั้งท่าจะขี่จักรยานออกไป เฮ้ยนายจะทิ้งคนสวยไว้คนเดียวรึไง

                "เดี๋ยวๆ เราไปด้วยดิ" ยอมเสียหน้าซักครั้งก็ได้

                      บีมยิ้มที่มุมปากอย่างพอใจ "ขึ้นมาดิยัยเอ๋อ"

                      "ใครเอ๋อไม่ทราบย่ะ"

                      โฮะโฮะ และด้วยเหตุนี้เองฉันเลยไม่ต้องไปโรงเรียนสาย ฉันเดินร้องเพลงหงุงหงิงขึ้นห้องไปอย่างสบายอารมณ์ เอากระเป๋าไปวางที่เก้าอี้ตัวนึงแล้วเริ่มเมาท์แตกกับเพื่อน ก็แหมปิดเรียน เสาร์-อาทิตย์ตั้งสองวันไม่ได้คุยกันเลย

                      "ห้องนี้มีใครชื่อเมฑาพรรึเปล่าครับ"

                      เงาสูงทาบทับบนตัวฉัน ใครซักคนสะกิดไหล่ฉันเบาๆ ชั้นค่อยๆหันกลับไป พระเจ้านั่น

                      "พี่เต้" ฉันกระซิบกับตัวเองเบาๆอย่างไม่เชื่อสายตา

                      "น้องใช่ น้องเมฑาพรรึเปล่าครับ" พี่เค้าถามอย่างยิ้มๆ สงสัยหน้าตาฉันตอนนี้คนตลกมาก แต่โอ๊ย! คนอะไรน่ารักชะมัดยาด

                      "ชะ...ใช่แล้ว...ค่ะ"

                      "ดีจัง^^" พี่เค้ายิ้มอีกแล้ว น่ารักที่สุดเลย

                      "เอ่อคือพี่มีเรื่องจะพูดกับน้องหน่ะครับ" พี่เค้าหยุดพูดกลางคันพลางยกมือขึ้นเกาหางคิ้ว "ข้างนอก...ได้ไหมครับ"

                      "ค่ะ"

                      แล้วพี่เค้าก็หันหลังเดินออกไป หุหุ สงสัยจะเขินน่ารักจัง

                      "คือพี่ชอบ..." ทันทีที่ฉันเดินออกมาประจันหน้ากับพีเต้ พี่เค้าก็พูดออกมาแต่ยังไม่ทันจบประโยกดีกีมีมารเข้ามาขวางเสียก่อน

                      "นี่เมฑาพร เธอมายืนอะไรตรงนี้ ออดเรียนดังตั้งนานแล้วทำไมยังไม่เข้าห้องอีก เธอก็ด้วยนายนาคินทร์ เธออยู่ม.5 ไม่ใช่เรอะมาเดินเตร็ดเตร่อะไรที่ตึกม.4"

                      "คืออาจารย์ครับ ผมมาปรึกษางานกับน้องเค้านิดหน่อยกำลังจะไปแล้วหล่ะครับ" พี่เค้าพูดพลางส่งยิ้มมหาเสน่ห์ไปให้อาจารย์ เล่นเอาอาจารย์แกเคลิ้มไปชั่วขณะก่อนรีบกลับมาปั้นหน้าขรึมเหมือนเก่า "งั้นยืนรออะไรอีกหล่ะเธอ รีบกลับไปเรียนได้แล้วไป๊"

                      "ครับ" พูดเสร็จพี่เต้ก็รีบวิ่งไปเลย รู้สึกตอนพี่เค้าวิ่งผ่านฉันจะกระซิบเบาๆบอกประมาณว่า 'เย็นนี้เลิกเรียนเจอกันหน้าตึก4'

                      ทันทีที่ออดเลิกเรียนดัง เหล่านักเรียนก็พากันกรูออกนอกอาคาร เสียงพูดคุยจ๊อกแจ็กจอแจเหมือนนกกระจอกแต่กรังดังระงมไปทั่ว แต่ไม่รู้ทำไมหูฉันถึงไม่ได้ยินอะไรเลยนอกจากเสียงพี่เต้ทักทายและชวนฉันไปคุยที่สวนสาธารณะหลังโรงเรียน สายตาฉันก็มองไม่เห็นอะไรนอกจากแผ่นหลังกว้างๆของพี่เต้ที่เดินนำหน้าฉัน โอยหัวใจฉันละลายหมดแล้ว

                      "พี่มีเรื่องอะไรจะพูดกับฉันค่ะ" พอนั่งปุ๊บฉันก็เข้าเรื่องปั๊บ ไม่รู้ว่าตอนนี้เอายางอายไปทิ้งไว้ที่ไหนแล้ว

                      "คือพี่ชอบ..."

                      ชอบอะไรค่ะ ฉันลุ้นไปกับมันมาก

                      "พี่ชอบน้องน้ำฟ้าเพื่อนของน้องหน่ะครับ"

                      อึ้ก เหมือนโดนใครเอาอะไรมาทุบหัว ทั้งหัวใจทั้งหน้าแตกสลายไม่เหลือชิ้นดี ฉันพูดอะไรไม่ออกแล้วนอกจากคำว่า "เหรอค่ะ"

                      "ครับ คือพี่ได้ยินว่าน้องเมฑาพรเป็นเพื่อนกับน้องน้ำฟ้าก็เลยอยากจะมาขอให้น้องเอานี่ไปให้น้องน้ำฟ้าหน่อยได้ไหมครับ"

                      พี่เต้พูดพลางยื่นจดหมายฉบับนึงให้ฉัน หน้าซองเขียนด้วยตัวหนังสือสวย เป็นระเบียบและดูคุ้นตาว่า 'ให้น้องน้ำฟ้า'

                      "ความจริงแล้วพี่เคยส่งจดหมายให้น้องน้ำฟ้าเค้าหลายฉบับ ตั้งแต่น้องเค้าอยู่ม.1 พี่ไม่รู้ว่าน้ำฟ้าเค้าจะอ่านไหมและพี่ก็ไม่แคร์ด้วยถ้าน้องเค้าไม่อ่าน แต่จดหมายฉบับนี้ ฉบับที่พี่ฝากน้องเมย์ไป...พี่เรียกอย่างนี้ได้ไหมครับ (ฉันพยักหน้าให้เค้าเล็กน้อย) พี่อยากแน่ใจว่าน้ำฟ้าเค้าจะอ่าน" พี่เต้พูดแล้วส่งยิ้มให้อย่างอ่อนโยน

                      โธ่พี่ค่ะอย่ายิ้มให้ชั้นอย่างนั้นสิ ได้โปรดอย่าทำให้ฉันชอบพี่ไปมากกว่านี้เลย ตอนนี้ฉันจำได้แล้วหล่ะว่าทำไมลายมือพี่เค้าถึงดูคุ้นตาฉันนัก นั่นก็เพราะตอนม.1 มีใครก็ไม่รู้ส่งจดหมายรักมาให้น้ำฟ้า ยายนั่นก็เอามาให้ฉันดูแล้วบอกว่าลายมือดียวกันหมดทุกฉบับ ซ้ำยังถูกส่งมาทุกวัน จนกระทั่งวันนี้ก็ยังมีอีกฉบับในมือฉัน นั่นแสดงให้เห็นว่าพี่เต้จริงจังกับน้ำฟ้ามากแค่ไหน

                      "พี่เต้ค่ะ รู้ไหมว่าน้ำฟ้าหน่ะอ่านจดหมายพวกนั้นทุกๆฉบับ"

                      ฉันไม่รู้ว่าทำไมฉันถึงบอกเรื่องนี้ออกไป ทั้งๆที่ฉันน่าจะหาทางขัดขวางไม่ใช่มาเชื่อมสัมพันธ์ให้นี่นา แต่ฉันก็ยังคงพูดต่อไป

                      "แล้วเธอยังแอบชอบพี่ด้วยนะค่ะ ถ้าเธอรู้ว่าพี่กับคนที่ส่งจดหมายให้เธอเป็นคนเดียวกันเธอคงดีใจตายเลยหล่ะค่ะ" ฉันพูดพลางยิ้มเหมือนคนบ้าแล้วแหงนหน้าขึ้นมองบนฟ้าก่อนกล่าว ต่อว่า "พี่เต้ค่ะฝนคงตกแล้วหล่ะค่ะ"

                      "ฝนอะไรกันครับน้อง"

                      "ไม่หรอกค่ะ ฝนแน่ๆ" ฉันพูดก่อนที่หยดน้ำหยดหนึ่งจะไหลมาตามล่องแก้ม ตอนนี้ฉันไม่รออะไรอีกแล้ว คิดแต่จะวิ่งออกไปจากที่นี่จากที่ที่มีคนชื่อเต้อยู่

                      ฉันเดินร้องไห้ไปเรื่อยเปื่อย ในใจครุ่นคิดแต่เรื่องของพี่เต้ คำพูดของพี่เต้ ทุกสิ่งทุกอย่างที่เกี่ยวกับพี่เต้ อา ฝนเริ่มตกแล้ว สงสัยคำพูดฉันมันศักดิ์สิทธิ์เกินไป บอกว่าจะตกก็ตก แต่...ทำไมมาตกตอนนี้นะ เมื่อกี้เรารึอยากให้ตกจะได้เอาไว้บังไอ้น้ำตาบ้าๆนั่นดันไม่ตก ดูซิไม่มีร่มด้วยเปียกหมดเลย

      'ช่างเถอะจะได้เหมือนทำมิวสิคหน่อย รักเขาแต่เขาไม่รักเรา นางเอกเลยเศร้าใจมาเดินตากฝน' ฉันคิดพยายามที่จะปลอบใจตัวเองเต็มที่

                      "เฮ้ยัยเซ่อ มายืนทำอะไรแถวนี้" เสียงกวนๆที่ฟังดูคุ้นหูดังขึ้นจากข้างหลัง นายบีมนั่นเอง เขาขี่จักรยานมาใกล้ๆฉันแล้วเอื้อมมือมาจับไหล่ฉันเอาไว้

                      "เธอเป็นอะไรรึเปล่า" เสียงบีมฟังดูอ่อนลงชอบกล ฉันไม่ตอบแต่หันกลับไปมองเขาด้วยตาที่แดง บวม ช้ำ และใบหน้าที่นองไปด้วยน้ำตา บีมหน้าเหวอไปเล็กน้อย ฉันรีบสะบัดไหล่ให้หลุดจากมือเขาแล้ววิ่งหนีไป

                      "ยัยบ๊องเธอจะเดินไปไหนหน่ะ...กลับมาก่อน" บีมตะโกนรียกไล่หลังมา แต่ฉันแสร้งทำเป็นไม่ได้ยินเสียและยังคงเดินหนีต่อไปเรื่อยๆ

                      ตอนนั้นหากเธอลองมองหันกลับมามองซักนิด เธอคงได้เห็นแววตาที่เจ็บปวด ร่ำไห้ระคนวอนขอจากนายบีมเป็นแน่แท้

                      พระเจ้าช่วยบอกผมทีเถอะเธอเป็นอะไร ใครทำเธอให้เป็นอย่างนั้น ในสายตาของเธอมีแต่ความเจ็บปวด เธอจะรู้บ้างไหม ยิ่งเธอเจ็บมากเท่าไหร่ ผมก็ยิ่งเจ็บมากกว่าเธอร้อยเท่าพันเท่า อยากให้เธอได้รับรู้ว่า

      ...เธอเพียงคนเดียวเท่านั้นที่เปลี่ยนแปลงโลกทั้งใบให้ดูสดใส เปลี่ยนพายุรุนแรงเป็นแค่ลมที่อ่อนไหว เปลี่ยนความเหงาให้กลายเป็นความสวยงาม...  

                      นั่นไง เธออยู่ตรงนั้นผมพบเธอแล้ว รอก่อนนะเมย์เดี๋ยวบีมจะไปปลอบ หุหุ ^0^

                      "ขนมจีบครับ ขนมจีบร้อนๆ" เสียงพ่อค้าขายขนมจีบข้างทางลอยมาตกกระทบใส่หูผม ผมหันไปมองเมย์ที่ยืนตากฝนอยู่ตรงโน้น เธอต้องยังไม่ได้กินอะไรมาแน่ๆ ผมคิดก่อนที่จะวางจักรยานลงข้างทางแล้วเดินไปหน้าร้านขายขนมจีบนั่น

                      "ชิ้นละเท่าไหร่ครับ" ผมถาม

                      "ชิ้นละสองบาท ห้าชิ้นสิบไอ้หนู" กรำ-_- "ทำไมมันแพงอย่างงี้อ่ะลุง ลูกนิดเดียวเอง แต่ไม่เป็นไรเพื่อเธอผมยอมจ่าย

                      "เอาสี่สิบบาทครับ" พอผมบอกราคาไปปุ๊บลุงแกยิ้มกว้างเลย รีบกุลีกุจอใส่ให้ผม

                      "อ่ะลุงแถมให้หนึ่งลูก" โหลุงน้ำใจประเสริฐมาก แถมให้ตั้งลูกนึง(คงเข้าใจกันนะครับว่าผมประชด) ผมจ่ายเงินไปเป็นธนบัตรสีแดงพร้อมกับรับถุงขนมจีบมา ระหว่างรอลุงเค้าหาเงินทอนผมก็มองไปทางเธอคนนั้นอีกครั้งว่ายังอยู่ไหม อ้อยังอยู่แต่กำลังก้าวข้ามถนนไปอย่างเหม่อลอยสงสัยผมต้องรีบแล้วหล่ะ เดี๋ยวเธอจะหายไปอีก เอ้ย!!! O_o ไม่ใช่ท่าทางการเดินเหม่อลอยแบบนั้นไม่ใช่ท่าทางของคนที่จะเดินข้ามถนนแน่นอน เธอคิดฆ่าตัวตาย รอช้าไม่ได้แล้ว

                      "หนุ่ม เงินทอน" เสียงลุงตะโกนไล่หลังมา

                      "ผมยกให้" ผมตะโกนตอบกลับไป สายตาจ้องมองไปที่เธอเพียงคนเดียว ผมวิ่งตรงไปทางเธอ แล้วจับต้นแขนเธอไว้แน่น 'ผมกลัว กลัวว่าเธอจะหลุดหายไป' ผมหมุนตัวเธอให้มาประจันหน้ากับผม ผมรู้ตัวดีว่าหน้าตาของผมตอนนั้นคงจะดูน่ากลัวมาก ทำไงได้หล่ะ ก็โกรธเธอนี่ เธอทำหยั่งกับว่าผมเป็นคนอื่นคนไกลมีปัญหาก็ไม่ยอมบอกผมซักคำ แล้วยังคิดฆ่าตัวตายอีก ทั้งๆที่เราคบกันแบบเพื่อนมาหลายปีแล้ว

                      "เธอทำบ้าอะไรของเธอหา" ผมตะคอกใส่เธอ

                      "นายอย่ามายุ่งกับเรา" เธอตอบผม เสียงของเธอสั่นเครืออย่างรุนแรง หน้าตาเธอบ่งชัดเลยว่าจะร้องไห้อยู่รอมร่อแล้ว โอ๋คนดีอย่าร้องนะผมไม่ตะคอกแล้ว ยังไม่หยุดทำหน้าอย่างนั้นอีก ผมทนไม่ไหวแล้วนะ ผมกระชากเธอเข้ามากอด เธอขัดขืนผมเล็กน้อยแต่ไม่เป็นไรเรื่องแค่นี้เองธรรมชาติของผู้หญิงผมไม่แคร์

                      "เมย์ เธอเป็นอะไรไป บอกเราได้ไหม" ผมพูดปลอบพลางลูบหัวเธอเบาๆ เธอเลิกพยายามที่จะขืนตัวออกจากอ้อมกอดผมแล้วเงียบไปจนผมชักแปลกใจ จนกระทั่งเธอปล่อยโฮออกมา ผมพูดปลอบ พูดโอ๋ ลูบหัว ลูบหลัง นานเท่าไหร่ไม่รู้จนเธอหยุดร้องไห้

                      "เราจะไม่ถามว่าเธอร้องทำไม ถ้าเธอพร้อมเมื่อไหร่ค่อยบอกเราก็ได้" เท่ไหมหล่ะ ผมปั้นหน้าขรึมเก๊กหล่อแทบตาย แต่ก็ได้ผล เธอช้อนตาขึ้นมามองผมอย่างน่ารัก หน้าผมร้อนผ่าวไปหมด โชคดีที่ได้ความมืดช่วยบังความแดงไว้ ไม่งั้น....

                      และเพื่อกลบเกลื่อนความอายผมแสร้งพาเธอไปหลบฝนที่ชายคาร้านค้าแถวนั้นซักร้าน(ทั้งที่ฝนหยุดตกแล้ว) แล้วรีบเดินไปเอาจักรยานที่ลืมทิ้งไว้ตรงโน้น ผมลากมันมาตรงที่เธอยืนหลบฝนอยู่แล้วค้นของในกระเป๋าซักพัก

                      "นี่ เอาไปเช็ดซะ" ผมพูดเสียงอ้อมแอ้ม แล้วโยนผ้าขนหนูผืนเล็กที่ใช้เช็ดเหงื่อตอนเล่นบอล "กลิ่นมันคงจะไม่โสภาเท่าไหร่นะ เพราะเราใช้เช็ดเหงื่อตอนเล่นบอล" เธอทำจมูกย่นเล็กน้อยเมื่อได้ยินแต่ก็ยังรับไปอย่างว่าง่าย "แล้วนี่ขนมจีบเธอคงหิวเพราะฉะนั้นกินซะ มันคงจะชืดไปหน่อยเหลือตั้งแต่เที่ยงแล้ว" ผมโกหกไปคำโต เธอคงจะไม่เชื่อว่าขนมจีบที่ไหนเหลือตั้งแต่เที่ยงแล้วยังอุ่นอยู่

                      "ขอบคุณนะ" ผมได้ยินเธอพูดเบาๆ แค่นี้ก็ชื่นใจแล้ว

                      "ไม่เป็นไร" ผมพึมพำตอบกลับไป แล้วเราสองคนก็เงียบกันไป มีเพียงเสียงโซ่รถจักรยานที่หมุนไปตามแรงปั่น เอาหล่ะบีมตอนนี้โอกาสดีแล้ว มีเพียงเราสองคน ในซอยเปลี่ยวไร้ผู้คน บอกความในใจไปเลย

                      "นี่" ผมเริ่มเปิดฉากบทสนทนา

                      "หือ?" เธอเลิกคิ้วพลางทำเสียงสูงในลำคอ ตายละเห็นหน้าเธอแล้วพูดไม่ออก ทำไงดี

                      "คือ... คือ...อย่าลืมเหลือขนมจีบชิ้นสุดท้ายให้เราด้วยนะ" เยสผมพูดออกไปแล้ว เอ้ย! ผมต้องบอกรักเธอไม่ใช่มาขอขนมจีบชิ้นสุดท้าย ดูเธอมองผมซิเหมือนจะมองว่าผมเป็นพวกโรคจิตโรคประสาทอะไรทำนองนั้น

                      "นี่ นายอยากได้แฟนหล่อขนาดนั้นเลยหรอ" เธอถามขึ้นมาลอยๆ แต่เล่นเอาผมฉุนกึก ทำไมเธอยังไม่เข้าใจอะไรๆซักทีนะ โอ๊ย! ผมไปชอบผู้หญิงซื่อบื้ออย่างนี้ได้ไงเนี่ย

                      "ไม่ใช่ซักหน่อย" ด้วยความงอนน้ำเสียงผมถึงได้ดูเย็นชาและห้วนขนาดนั้นจนเธอเงียบไปเลย อยากเขกหัวตัวเองแรงๆซักทีแต่ไม่ได้เดี๋ยวเจ็บ

                      พอถึงบ้านเธอปุ๊บเธอรีบกระโดดลงทันที สงสัยยังโกรธไม่หายแฮะ เธอกำลังจะเดินเข้าบ้านไปแล้ว บีมนายจะปล่อยเธอไปเหรอ? นายจะปล่อยโอกาสดีๆให้ลอยหายไปเหรอ? คำถามพวกนี้ดังก้องไปก้องมาอยู่ในหัวผม

                      "เมย์" ผมเรียกเธอและเธอก็กันมามองผมแล้ว

                      "รู้ไหมทำไมเราชอบแย่งขนมชิ้นสุดท้ายของเธอ นั่นก็เพราะเรารักเธอไงหล่ะ" หน้าตาเธอดูตื่นตกใจ ตากลมโตของเธอเบิกค้างกว้างตลกชะมัดเลย ถ้าเป็นเวลาปกติผมคงหัวเราะเยาะเธอเสียงดังไปแล้วหล่ะ

                      "เราไม่อยากให้เธอมีแฟนหล่อ แต่มีแฟนเป็นคนหน้าตาธรรมดาแทนได้ไหม คบกับเรานะ" ผมพูดต่อแล้วก็ยืนนิ่งรอคอยคำตอบจากเธอ ไม่รู้ทำไมใจผมกลัวคำตอบที่จะได้รับนัก

                      "ขอโทษนะ"

                      ทุกอย่างเงียบเสียงลงอีกครั้ง ขอบตาผมร้อนผ่าวไปหมด น้ำตาเริ่มปริ่มออกมาจวนจะไหลอยู่แล้ว ไม่ได้ผมจะไม่ยอมแสดงความอ่อนแอออกมาให้เธอได้เห็นเด็ดขาด ผมพลิกจักรยานเตรียมตัวจะขี่กลับบ้าน

                      "ขอโทษนะที่ทำให้วุ่นวายให้สับสน คือ...เรา...เรา...กลับละนะ" ผมพูดทั้งที่ยังนั่งหันหลังให้เธออยู่ เสียงผมสั่นมากเลย เธอต้องรู้แน่ๆว่าผมร้องไห้

                      "เดี๋ยว" เธอเปิดปากพูดเป็นครั้งแรก หลังจากที่เงียบมาตั้งแต่ผมบอกรักเธอ "ขนมจีบชิ้นสุดท้ายเราให้นาย"

                      "ไม่เป็นไร เราไม่เอาแล้ว" ผมพูด

                      "แต่เราไม่อยากมีแฟนหล่อนี่ เราชอบคนหน้าตาธรรมดามากกว่า" เธอพูดออกมาอย่างยิ้มๆ สงสัยหน้าผมคงตลกมากเลย

                      "จะ...จริงหรอ" ผมพูดตะกุกตะกัก ดูเธอสิยังหัวเราะอยู่เลย หน้าผมตลกขนาดนั้นเชียวเหรอ

                      "จริงสิ" เธอพูดแล้วฉีกยิ้มกว้าง "ถึงแม้เราจะไม่ค่อยแน่ใจเท่าไหร่ แต่เราก็คงชอบนายมั้ง"

                      แล้วเราสองคนก็โผเข้ากอดกันแล้วยิ้มให้กันอย่างมีความสุข

                      ถึงแม้ตอนนี้เธอจะยังไม่แน่ใจในความรู้สึกนั้นก็ตาม แต่ซักวันหนึ่งเราจะทำให้เธอมั่นใจว่าเธอรักเรา รักผู้ชายหน้าตาธรรมดาคนนี้ แต่ตอนนี้อยากให้เธอรู้ว่า                             

                                      บีมรักเมย์ที่สุดในโลก

                                      แม้เมย์จะรู้สึกแค่เพียงชอบไม่ใช่รักก็ตาม

                                      สายสัมพันธ์ของเราแบบนี้จะยามนานแค่ไหนก็ไม่รู้

                                       แต่บีมจะรอ รอจนกว่าเมย์จะพูดว่ารักบีมอย่างเต็มปาก               

                     

        _____________________________________________________________________

      โฮะ โฮะ เป็นไงบ้างจ๊ะเรื่องสั้นเรื่องแรกในชีวิตเรา ชอบไม่ชอบก็เมนท์ติชมกันได้นะ 


                     

                     

      นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      คำนิยม Top

      ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้

      คำนิยมล่าสุด

      ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้

      ความคิดเห็น

      ×