ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    x love รักแล้วไง

    ลำดับตอนที่ #3 : Chap 2 อดีต 2 [100 %]

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 14
      0
      25 เม.ย. 56

    Hangeng_

    ปีที่แล้ว

    หานเกิงลูกประธานบริษัท HH38 Ent.

    เช้าวันเสาร์ วันนี้อากาศดีมาก และเป็นวันที่ดีของหานเกิงเช่นกันวันนี้เป็นวันที่เขาจะได้ไปเยี่ยมก่องถ่ายละครฟอร์มยักษ์แห่งปีที่ได้ค่ายดังจากเกาหลีมาร่วมด้วยถือเป็นสัมพันธภาพที่ดี เขาเลยต้องไปกับพ่อของเขา

    หานเกิงไปกันลูกถึงเวลาแล้ว ไปกันหานเกิงขึ้นรถไปพร้อมกับความคิดเรื่อยเปื่อย

    ความจริงเขาก็ไม่อยากไปหรอก นี่เป็นวันหยุดในรอบปีของเขาเลยก็ว่าได้ ถึงเขาจะเป็นถึงลูกชายคนเดียวของประธานแต่เขาก็ต้องทำงานหนัก ทั้งต้องเป็นนักร้องของบริษัทแถมยังต้องคอยเรียนรู้งานบริหารอีก

    ณ กองถ่าย

    หานเกิง ถึงกองถ่ายแล้วยิ้มหน่อยลูก พ่อรู้ว่าลูกเหนื่อยแต่มันเป็นงานสำคัญมากนะงานนี้

    ครับหานเกิงรับคำแล้วยิ้มออกมา เมื่อเข้าไปก็มีคนล้อมหน้าหลังมากมาย เขาทักทายกับประธานบริษัทจากเกาหลีที่ลงทุนนั่งเครื่องมาเพื่องานนี้โดยเฉพาะ เพราะบริษัทของพ่อเขาก็ใช่เล่นจัดเป็นบริษัทแนวหน้าของจีนก็ว่าได้ หลังจากทักมายกันเรียบร้อยเขาก็ปลีกตัวออกมามาโดยอ้างว่าอยากดูการทำงาน ความจริงแล้วเขาอึดอัดมากกว่า

    เขาเดินไปเรื่อย ๆ มีคนทักเขาบ้าง หานเกิงเดินเซ็ง ๆ จนเขาได้เห็นเหตุการณ์บางอย่าง มาจากห้องแต่งตัว

    อ้าวทุกคนไปเปลี่ยนชุดได้แล้ว จะได้ถ่ายฉากต่อไป เร็ว ๆ ด้วยนะทุกคน

    สิ้นเสียงสั่งตาของเขาได้ไปสะดุดเข้ากับเด็กผู้หญิงตัวบาง ผิวขาวยังกะนีออน ปากเล็กสีแดงระเรื่อนั้นทำให้ถึงกับตะลึง

    สวย สวยจริง ๆ  เขาเพ้อกับตัวเอง สติของเขากลับมาเมื่อร่างบางเดินเข้าไปในห้องเปลี่ยนเสื้อ หานเกิงนายเป็นอะไร แต่ผู้หญิงคนเดียวทำไมทำเอาเขาสติไม่อยู่กับเนื้อกับตัวแบบนี้

    หึ ! ผู้ชายอะไรตัวบางบางยังกะผู้หญิง ทำตัวเหมือนผู้หญิงอีก ตุ๊ดชัด ๆ เสียงเล็กแหลมของดาราสาวที่ยืนอยู่หน้าห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าพูดกระทบกระแทกแดกดันคนที่อยู่ภายใน

    ผู้ชายหรอ ?? หานเกิงเริ่มสับสน คนเมื่อกี๊เป็นผู้ชายงั้นหรอ ทำไมถึง...ได้สวยขนาดนั้นนะ

    ใช่ หน้าอย่างนี้อย่าเกิดมาเป็นผู้ชายดีกว่าเสียชาติเกิด เป็นเด็กใหม่แท้ ๆ แต่ได้มาแสดงบทสำคัญแบบนี้คงเอาตัวเข้าแลกล่ะสิ คงใช่เต้าไต่ อุ๊ยไม่มีเต้าลืมไป คงไปเข้าตาพวกป๋าดันเข้าล่ะสิ ดาราสาวอีกคนพูดเสริม

    ปัง ! เสียงเปิดประตูด้วยอารมณ์ของคนที่โดนแดกดันที่เต็มไปด้วยอารมณ์โกรธ ฮยอกแจมองหน้าดาราสาวด้วยความโกรธแต่ทำอะไรไม่ได้

    ปัง ! เสียงเปิดประตูด้วยอารมณ์ของคนที่โดนแดกดันที่เต็มไปด้วยอารมณ์โกรธ ถ้าไม่ติดว่าคนที่พูดเป็นผู้หญิงเขาจะอัดไม่ให้น่วมเลย ถ้าไม่ติดว่าเขาเป็นลูกของคนใหญ่คนโตที่ใครก็เคารพเกรงกลัวเขาคงจะด่ากลับและทำให้เสียโฉมไปเลย

    ใครจะรู้บางล่ะว่าลูกผู้มีอิทธิพลอย่างเขาต้องอดทนอดกลั้นแค่ไหนกว่าจะได้มาทำงานที่ตัวเองชอบ ซ้ำร้ายพอได้มาทำงานที่ฝันยังต้องมาถูกนินทาว่าร้ายอีก ก็ด้วยความสามารถของเขาทำให้เขาข้ามหน้าข้ามตาดารารุ่นพี่หลายคน ทำให้ถูกว่าว่าใช้เส้น แต่ก็ยังดีที่ทางผู้ใหญ่ก็รู้กันอยู่ว่าพ่อของเขาไม่ชอบงานแบบนี้และไม่เคยคิดจะสนับสนุน

    ด้วยความโกรธฮยอกแจจึง...

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    พูดว่าขอทางด้วยครับ ฮยอกแจพยายามพูดด้วยน้ำเสียงที่เรียบที่สุด เก็บอารมณ์ไว้ฮยอกแจ ฮยอกแจได้บอกตัวเองอย่างนั้นซ้ำไปซ้ำมา

    แอ๊บ !’ ยังไม่ทันที่ฮยอกจะก้าวพ้นประตูเสียงเล็กแหลงก็ดังขึ้น

    ขอทางด้วยนะคะดาราสาวพูดด้วยน้ำเสียงล้อเลียน แล้วเดินเบียดฮยอกแจจนชิดขอบประตู

    มือบางของฮยอกแจที่ชนเข้ากับเหลี่ยมประตู แล้วขูดตามแรงเบียดของดาราสาวทั้งสอง

    .

    หานเกิงที่ยืนมองเหตุการณ์อย่างเงียบ ๆ เดินไปหวังจะช่วยคนตัวเล็ก

    เป็นอะไรมากมั๊ยครับหานเกิงถือวิสาสะจับมือฮยอกแจขึ้นมาดู มีเลือดไหลออกมาจากแผลด้วยหานเกิงหยิบผ้าเช็ดหน้าของเขาขึ้นว่าหวังจะซับเลือด แต่แขนเล็กนั้นกลับสะบัดมือของเขาออก

    ผมไม่เป็นไร ขอบคุณ...ครับ ผมขอตัวฮยอกแจรีบเดินออกไป เขาไม่อยากให้ใครเห็นน้ำตาของเขา ไม่อยากให้ใครว่าเขาอ่อนแอ แต่โดนมือหน้ารั้งไว้

    เพราะแบบนี้สินะ ดาราคนอื่นถึงทำกับคุณแบบนั้น ผมอุตสาห์สงสาร

    งั้นก็เก็บความสงสารคุณไว้ใช้กับพวกเธอเถอะ ผมไม่ต้องการความสงสารจากใคร คุณไปเถอะฮยอกแจพูดเสียงสั่น

    ผมไปอยู่แล้วไม่ต้องไล่

    .

    .

    เป็นไงบ้างลูก ไปเดินทัวร์กองถ่ายมาพ่อของเขาถามด้วยใบหน้ายิ้มแย้มท่าทางงานครั้งนี้คงไปได้สวย

    ก็ดีครับ โลกแห่งมายาก็อย่างนี้แหละ

    พูดอะไรแปลก ๆ กลับได้แล้วล่ะวันนี้ ไปลาคุณวอนบินสิลูกหานเกิงเดินไปลาคุณวอนบินหรือเจ้าของค่ายยักษ์จากเกาหลีนั่นแหละ ได้ยินข่าวว่าก่อนจะมาเปิดบริษัทนี้ คุณวอนบินก็เป็นนักแสดงชื่อดังมาก่อน

    ระหว่างนั่นรถกลับบ้าน หานเกิงเอาแต่เม่อ เขาเอาแต่นึกถึงผู้ชายหน้าสวยคนนั้นทำไมนะ ทำไมถึงถูกว่าถูกกระทำอย่างโหดร้ายอย่าง แต่ก็คงเพราะนิสัยสินะ แต่แปลกที่คือทำไมไม่ได้ตอบโต้เลยที่โดนด่าเพราะกับเขาคนที่ไม่รู้จักยังพูดได้ถึงขนาดนี้ รึว่าเรื่องที่ดาราพวกนั้นพูดจะเป็นจริง เมื่อกลับถึงบ้านเขาได้ขอพ่อดูแฟ้มประวัติของนักแสดง แล้วก็ได้รู้ว่าผู้ชายหน้าหวานคนนั้นชื่อ อี ฮยอกแจ

    หานเกิงสั่งให้คนไปสืบประวัติฮยอกแจทันที เขาไม่เข้าใจตัวเองเลยว่าทำไมต้องสนใจคนแบบนั้นด้วย แต่ยิ่งเขารู้ประวัติของฮยอกแจเขายิ่งสงสัยในตัวผู้ชายคนนี้ ฮยอกแจถูกฝากเข้ามาจากผู้ใหญ่ท่านหนึ่งในวงการ ประวัติของฮยอกแจมีเพียงเท่านี้ ไม่มีการพูดถึงพ่อแม่เลย แต่ข่าววงในบอกว่าฮยอกแจเป็นหลานแท้ ๆของดาราผู้ใหญ่ท่านหนึ่งที่ตอนนี้ไปทำงานเบื้องหลังแล้ว

    ฉันพอจะเข้าใจแล้วล่ะ นายคงโดนเข้าใจผิดสินะ แล้วก็คงไม่อยากให้ใครเห็นน้ำตาลูกผู้ชายของนาย ความจริงแล้วหานเกิงฟังเสียงของฮยอกแจออก เสียงสั่นแบบนั้น ตาแดงแบบนั้น ใครจะดูไม่ออกกันล่ะ

    หานเกิงตัดสินใจส่งข้อความไปหาคน ๆ นึง ใครหรอ คนสวยไงล่ะ

    นายคงอยากพิสูจน์ล่ะสิ ว่านายใช้ความสามารถถึงได้ทำงาน ไม่ได้ใช้อย่างอื่น รับคำท้าฉันสิ ฉันช่วยนายได้ ไม่เชื่อนายลองหาชื่อของฉันในอินเตอร์เน็ตสิจากคนที่นายไม่ยอมรับความช่วยเหลือ หานเกิง

    .

    .
    .

    .



    Talk:
    อีกครึ่งนึงตรวจคำผิดอยู่นะจ๊ะ เดี๋ยวมาอัพ เร็วนี้ ๆ ^^



    .

    .
    .

    .

    Leeteuk_

    ว้าว ฮยองห้องสวยจังเลย ต่อไปเราจะมาอยู่ที่นี้หรอครับเด็กหนุ่มมัธยมปลายพูดพร้อมกับเดินไปทั่วห้อง สำรวห้องใหม่จุกซอกทุกมุม โดยมีพี่ชายแสนสวยเดินตาม

     

    ใช่แล้วซองฮยอนต่อไปนี้เราจะมาอยู่ที่นี่กัน ชอบใช่ไหมล่ะ แล้วเรื่องโรงเรียนฮยองจัดการให้เรียบร้อยแล้วนะ อีกสองอาทิตย์ก็เปิดเทอมแล้วนายไปเรียนได้เลยพี่ชายคนสวยพูดพร้อมกับลูบหัวน้องชายอย่างอ่อนโยน

     

    แล้วเรื่องอุปกรณ์ล่ะครับเด็กหนุ่มถามขึ้นด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม

     

    เอ่อ เดี๋ยวเพื่อนพี่เอามาให้ นายคงใส่ได้ใช่ไหม มันเป็นของน้องชายเพื่อนพี่อีกที ตัวเท่า ๆ ซองฮยอนเลยใบหน้าสวยหุบยิ้ม เขาไม่มีเงินพอที่จะไปซื้อเสื้อใหม่ให้น้องชายได้

     

    เขาย้ายมาที่โซลได้เป็นปีแล้ว  เขามาหางานทำเพื่อส่งน้องเรียน เดิมทีน้องชายของเขาก็ไม่ได้อยู่ด้วยหรอก น้องชายเขาอาศัยอยู่กับป้าที่ต่างจังหวัด แต่เมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมาครอบครัวของป้ามีปัญหา ธุรกิจเล็กสวนผลไม้ ๆ ที่ทำโดนนายหน้าโกงจนเป็นหนี้  ทำให้ต้องย้ายไปอยู่ไต้หวันตามสามี ทีแรกป้าบอกให้เขาและน้องชายตามไปอยู่ด้วย แต่เขาไม่อยากเป็นภาระให้ครอบครัวป้า

     

    ตั้งแต่จำความได้เขาก็มีแต่ป้ากับยายนี่แหละที่เลี้ยงดูมาเพราะแม่ของเขาหายตัวไป !  แต่ก็มีบางคนบอกว่าแม่ของเขาหนีตามสามีใหม่ ตอนเด็ก ๆ พ่อของเขาคอยส่งเงินมาให้ แต่พอเขาเริ่มโตขึ้นพ่อของเขาก็หยุดส่งเงินมาและหายไปอีกคน นี่เป็นอีกเหตุผลที่ทำให้เขาไม่อยากไปจากเกาหลี เขาอยากเจอหน้าพ่อแม่อีกครั้งแม้เขาจะมีเพียงรูปถ่ายเมื่อสิบปีก่อนใบเดียวเป็นเบาะแสก็ตาม

     

    ไม่เป็นไรครับฮยองเด็กน้อยยิ้มพร้อมกับจับมือพี่ชาย เขารู้ว่าภายใต้รอยยิ้มแสนอบอุ่นนี้พี่ชายของเขาทุกข์ใจแค่ไหน

     

    เออ ซองฮยอนอยู่คนเดียวไปก่อนนะ พี่ต้องรีบไปทำงานแล้ว วันนี้พี่ทำงานแค่ตอนกลาง  วันเย็น ๆ ก็กลับมาแล้วอีทึกยกนาฬิกาขึ้นดูพบว่าถึงเวลาทำงานแล้ว เขาสลัดความเศร้าออกจากหัว พร้อมบอกลาน้องชาย

     

    เอ่อ ฮยองผมอยากทำงานช่วยฮยองบ้างได้ไหมครับเด็กหนุ่มอยากจะช่วยพี่ชายเขาเพิ่งรู้เมื่อไม่นานว่าพี่ชายหน้าสวยและดูบอบบางคนนี้ทำงานทั้งวันทั้งคืนเพื่อส่งเขาเรียนจะช่วยป้า ตอนนี้เขามาอยู่กับพี่ชายแล้วก็อยากจะช่วยอะไรบ้าง


    นายตั้งใจเรียนก็พอแล้ว จะได้ทำงานดี ๆ ไง แค่นี้ก็ช่วยพี่ได้มากแล้วอีทึกยิ้มให้น้องชายและเดินออกจากห้องไป

     

     

     

    หนึ่งทุ่ม

     

    ทำไมฮยองยังไม่กลับมาอีกนะ ไหนว่าวันนี้ไม่ทำงานกลางคืนซองฮยอนเดินไปเดินมาหน้าประตู นี่ตั้งนานแล้วพี่ชายของเขาหายไปไหนกัน เขาเริ่มหิวแล้วด้วย ซุปกิมจิที่ทำไว้ก็จะเย็นแล้ว ทำไมพี่ชายของเขาไม่กลับมาซักที

     

    จะโทรหาก็ไม่ได้ เขาเพิ่งขายโทรศัพท์ไปเมื่อไม่นานมานี้ ซองฮยอนตัดสินใจเปิดประตูออกไปหวังจะไปขอใช้โทรศัพท์ที่เคาท์เตอร์ แต่ยังก้าวไม่พ้นประตู เขาก็โดนผลักเขาห้องเสียแล้ว

     

    คนตัวโตโผล่มาจากไหนไม่รู้ ผลักเขาเข้ามาในห้องแล้วล็อคห้องของเขาทันที ตามร่างกายมีบาดแผล ที่หางคิ้วมีเลือดออก ที่แขนด้วยเสื้อขาดมาเลย คงเพิ่งมีเรื่องมาแน่ ๆ แผลยังใหม่ ๆ แต่ประเด็นคือผู้ชายคนนี้อันตรายแน่นอน จุนซางหยิบของที่ใกล้มือที่สุด คือไม้ถูพื้น ==; เพื่อเอามาป้องกันตนเอง

     

    นี่นาย ออกไปเดี๋ยวนี้นะ !’ ซองฮยอนพยายามทำเสียงให้น่ากลัวที่สุดเพื่อไล่คนตัวโตออกไปจากห้อง

     

     

    ขอหลบหน่อยไม่ได้รึไง นายดูสภาพฉันสิคนตัวโตพูดอย่างไม่เกรงใจ

     

    แล้วมันเรื่องอะไร ออกไปได้แล้ว อย่ามาทำให้ฉันเดือดร้อนซองฮยอนชี้ไม้กวาดที่หน้าคนตัวโต

     

    Knock knock ซองฮยอนฮยองกลับมาแล้ว โทษทีที่กลับช้าพอดีพี่ทำงานเพลินไปหน่อย

     

    เอ่อพี่อีทึกครับ หยะ อุ๊บส์ คนตัวโตใช้มือหน้าปิดปากคนตัวเล็กกว่าอย่างถือวิสาสะ แล้วจับไม้ถูพื้นโยนลงพื้น พลางดันคนตัวเล็กไปเปิดประตู

    อย่าบอกพี่นายว่าฉันอยู่ในนี้ บางทีพี่นายอาจถูกใครใช้มาก็ได้ แล้วก็ดูให้ดีด้วยว่าพี่ชายนายมาคนเดียว ไม่ได้มีใครตามมาด้วยคนตัวโตกว่ากระซิบ แล้วโชว์ปืนขู่ แล้วไปหลบในห้องน้ำ อย่างนี้ใครจะกล้าขัด

     

    ซองฮยอนเปิดประตูออกไปพร้อมมองซ้ายมองขวา เขาพอจะเดาออกว่าไอ้หมียักษ์ที่อยู่ก็เขามาในห้องเขาแบบนี้น่าจะโดนรุมแล้วหนีมา กลัวคนตามมาแล้วตัวเองจะซวยล่ะสิ เลยมาแบ่งความซวยให้เขาและพี่ชายแบบนี้

     

    ฮยองมาคนเดียวหรอซองฮยอนพยายามส่งสายตาไล่พี่ชาย แต่ไม่เป็นผล

     

    คนเดียวสิ ฮยองจะมากับใครได้ล่ะ นายทำซุปกิมจิรึเปล่าพี่ได้กลิ่น หอมเชียวอีทึกเดินเข้าไปไหนห้อง แล้วสูดกลิ่นซุปกิมจิ

     

    ใครน่ะ ซองฮยอนอีทึกเอ่ยด้วยน้ำเสียงตกใจเมื่อเห็นคนตัวโตเดินออกมาจากห้องน้ำ

     

    เอ่อ เขาคือยังไม่ทันที่ซองฮยอนจะได้ตอบ คนตัวโตก็สลบไปแล้ว

    ฮยองไม่มีใครแปลก ๆ อยู่นอกห้องใช่ไหม ถ้าใช่ผมว่าเรารีบเอาให้หมียักษ์นี่ออกไปจากห้องเราเถอะซองฮยอนพูดอย่างรีบร้อนพลางใช้ไม้ถูกพื้นดันร่างคนตัวโต

     

    นี่มันอะไรกัน ซองฮยอน ฮยองงงไปหมดแล้ว

     

    เรื่องมันยาวฮยอง ถ้าไม่มีคนแปลก ๆ ก็รีบเอาไอ้หมียักษ์ออกไปเถอะซองฮยอนพยุงคนตัวโตขึ้นมาเพื่อจัดการเอาออกไปจากห้อง

     

    อีทึกรีบช่วยน้องชายพยุงอย่างช่วยไม่ได้คนอะไร ตัวยักษ์ยังกะหมีควาย เขาเป็นผู้ชายแม้ ๆ แต่กลับตัวบางกว่าอย่างเห็นได้ชัด

     

    หลังจากพยุงคนตัวโตออกไปนอกห้องได้สำเร็จ จุนซางก็เล่าเรื่องราวทั้งหมดให้อีทึกฟัง

     

    ดีนะที่ไอ้พวกที่ตามนายนั่นมาไม่ตามมาถึงห้องเราไม่งั้นเราซวยแน่ ฟาดเคราะห์ไป เป็นเพราะฮยองผิดเวลาด้วยแหละ น้องชายฮยองเกือบแย่แล้ว ฮยองไม่ดีเลย อีทึกหน้ามุ่ย ถ้าโชคไม่ดีเขาคงไม่ได้มานั่งคุยกับน้องชายในสภาพดี ๆ อย่างนี้แน่

     

    ฮยองอย่ากังวลไปเลย ไปกินซุปกิมจิดีกว่า เดี๋ยวผมไปอุ่นให้ซองฮยอนเปลี่ยนเรื่องเขาไม่อยากให้พี่ชายคิดมาก ความจริงเขาตกใจยังไม่หายด้วยซ้ำ เขากลัวเขาจะไม่มีชีวิตรอดได้อยู่กับพี่ชาย กลัวไม่ได้เจอหน้าพ่อแม่ที่เขายังไม่เคยเห็นด้วยซ้ำ

     

    อ่าดีเลย ฮยองหิวจะตายแล้ว อาเดี๋ยวพี่ไปทำความสะอาดที่ประตูก่อน นายนั่นเขามาของล้มหมดเลย มีดินด้วยดีที่ไม่มาตายที่ห้องอีก เฮ้ออีทึกพูดอย่างเซ็ง ๆ อยู่โซลมาเป็นปีเพิ่งเคยเจอเรื่องแบบนี้ ถ้าเขาอยู่คนเดียวก็ไม่น่าห่วงหรอก แต่น้องชายมาอยู่ด้วยนี่สิ ถ้าน้องชายเป็นอะไรไปเขาจะไม่ให้อภัยตัวเองแน่

     

    งั้นเดี๋ยวผมอุ่นซุปกิมจิรอนะครับ

    ขณะที่อีทึกทำความสะอาดอีทึกก็เหลืบไปเห็นนามบัตรเปื้อนเลือดตกอยู่

     

    อไรนี่ คังอินหรอ อะไร โอ้ยอ่านไม่ออกไปรบมารึไงทั้งเลือดทั้งดินเต็มไปหมดอีทึกทิ้งนามบัตรและแล้วถูพื้นจนสะอาดก่อนจะนำขยะออกไปทิ้ง   ‘อย่าได้เจอกันอีกเลย คังอินอีทึกเอ่ยพร้อมกับโยนขยะทิ้งไป




    ขอบคุณธีมสวย ๆ จาก :)  Shalunla
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×