My story in love ^^ ตอน2
ต่อจาก My story in love
ผู้เข้าชมรวม
228
ผู้เข้าชมเดือนนี้
1
ผู้เข้าชมรวม
เนื้อเรื่อง
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
“ก็พี่น่ะสิ เนตรเพิ่งบอกกับฟ้าไปว่า เดี๋ยวต้องโดนพี่หนุ่มไม่ก็พี่สุชัย ใครสักคนแซวแน่ ๆ ถ้ากลับมาถึง” พี่หนุ่มแยกเขี้ยวใส่เนตรที่ช่างต่อล้อต่อเถียงกับรุ่นพี่
“มา ๆ มาคุยกันต่อ กำลังสนุกเชียว เมื่อกี้ป่านกับนัคเพิ่งคุยกันตอนสมัยเรียนไปเอง ป่านนี่ก็ท่าทางเฟี้ยวใช่เล่น แล้วฟ้าล่ะมีอะไรมาเล่าให้พวกพี่ฟังกันบ้างไหม” พี่จอยหันมาถามฟ้า
วงสนทนาถูกจัดโดยยกโต๊ะทำงาน 4 ตัวมาตั้งติดกัน แล้วทุกคนก็นั่งล้อมวงอย่างเป็นกันเอง ฟ้าจึงถูกจัดให้นั่งฝั่งตรงข้ามกับนัคพอดี ป่านนั่งข้าง ๆ นัค ส่วนเนตรนั่งข้างป่าน ถัดมาเป็นพี่หนุ่ม พี่สุชัย พี่จอยและพี่ขวัญนั่งข้างกัน ส่วนบอสนั้นเมื่อทานข้าวเสร็จก็ขอตัวออกไปประชุมต่อ บรรดาลูกน้องจึงล้อมวงกันคุยเล่น เมื่อยังเหลือเวลาอีก
“ฟ้าเขาเรียบร้อยจะตายครับ” นัคเอ่ยออกมา ฟ้ามองหน้าชายหนุ่มนิ่ง
“ใช่ ๆ ฟ้าเรียบร้อยจริง ๆ” ป่านพูดสนับสนุน เนตรอดไม่ได้ที่จะบอกว่า
“ก็รู้อยู่แล้ว อยู่ที่นี่ป่านก็เรียบร้อย ทุกคนก็รู้”
“ใช่” พี่ขวัญสนับสนุน
“เรียบร้อยเกินไปด้วย” พี่สุชัยเห็นด้วย
“แล้วไม่มีอะไรตื่นเต้นบ้างหรอ” พี่หนุ่มอดถามต่อไม่ได้
“อย่างเช่น
ใช่แล้ว อย่างเช่นเรื่องแฟน เอาอย่างนี้ดีกว่า วันนี้เรามาคุยกันเรื่องแฟนตอนสมัยเรียนดีกว่า” พี่จอยยกหัวข้อสนทนาขึ้นมา
“งั้นเริ่มที่เธอก่อนเลย” พี่หนุ่มบอก
“โธ่ ฉันน่ะแฟนเยอะจะตาย ถ้าให้พูดนะไม่รู้ว่าวันนี้จะพูดจบหรือเปล่า” พี่จอยคุยทับ ทำเอาพี่หนุ่มกับพี่สุชัยอดทำท่าอ้วกไม่ได้
“งั้นเริ่มที่นายก่อนเลย นายสุชัย” พี่จอยแยกเขี้ยวใส่
“ได้เลย กลัวที่ไหน แฟนคนแรกเลยนะตอนฉันอยู่ ม.2 กำลังวัยรุ่นเพิ่งแตกเนื้อหนุ่ม” พี่จอยแขวะต่อว่า
“ตอนนี้กำลังแตกเนื้อเหมือนกัน แต่เป็นเนื้อแก่นะ” แล้วทุกคนก็หัวเราะกันลั่น
“เกินไปไอ้จอย แหม! เล่าต่อดีกว่า แล้วทุกคนจะต้องอึ้งเพราะว่าผู้หญิงมาบอกชอบฉันก่อนนะโว้ย” พี่จอยทำหน้าไม่ค่อยเชื่อแต่ก็ไม่ได้ขัดอะไร
“แล้วเธอก็น่ารักดี เราก็เลยตกลงเป็นแฟนกัน แต่ว่าคบกันได้ไม่เท่าไรเธอก็ย้ายตามพ่อไปต่างจังหวัด แล้วเราก็ไม่เจอกันอีกเลย พูดแล้วเศร้า และจนป่านนี้ก็ยังไม่มีแฟนอีกเลย แค่นี้ล่ะ ต่อไปใครล่ะ” พี่สุชัยพูดจบก็หันมาถามเพื่อน ๆ ต่อ พี่หนุ่มยกมือ
“ข้าเอง แฟนคนแรกน่ะเร็วกว่าเอ็งอีก มีความรักครั้งแรกตอน ป.6 แหม! กำลังเด็ก ๆ เลย ผู้หญิงคนนั้นเขาน่ารักดี เป็นอาหมวย แต่น่ารักนะ แล้วแฟนคนที่สอง ก็ ตอน ม.1 คนที่สามตอน ม.2 คนที่สี่ตอน ม.3 ส่วน
” พี่จอยยกมือขึ้นก่อนจะถามว่า
“นี่มีแฟนปีละคนเลยหรอ ใช้ผู้หญิงเปลืองชะมัดเลยนะหนุ่ม” พี่หนุ่มแยกเขี้ยวใส่ก่อนจะบอกว่า
“ยังเล่าไม่จบเลย ชอบแทรกแซงนะไอ้จอย ฟังให้จบก่อนสิ เอาอย่างนี้ดีกว่าต่อไปถ้าใครกำลังเล่าห้ามมีใครพูดแทรกนะเข้าใจมั้ย” ทุกคนพยักหน้ารับ แล้วพี่หนุ่มก็พูดต่อว่า
“คนที่คบตอนม.3 น่ะ ก็คบกันมาเรื่อย ๆ จนแต่งงานเป็นคนปัจจุบันเนี่ยล่ะ เอ้า! จบแล้ว” พี่จอยเลยให้พี่ขวัญเล่าต่อ
“โอ้ย ! ฉันน่ะมีกับเขาที่ไหนพวกเธอก็
” พี่ขวัญเริ่มหน้าแดง ทำเอาพี่หนุ่มอดแหย่ไม่ได้
“นึกดี ๆ สิขวัญไม่มีเลยหรอ เสียชาติเกิดแย่ ถ้าไม่มีใครจีบ แต่หยวนให้ว่าไปจีบเขาก่อนก็ได้” พี่ขวัญค้อนใส่พี่หนุ่มแล้วก็ทำท่านึก ก่อนจะพูดว่า
“นึกออกแล้ว มีตอน อนุบาลน่ะ เขาให้อมยิ้มฉัน 1 อัน” แล้วพี่ขวัญก็เงียบไป จนพี่จอยถามขึ้นมาว่า
“แล้วไงต่อ” พี่ขวัญมองหน้าทุกคนก่อนจะบอกว่า
“ก็ไม่แล้วไง แค่นี้ล่ะ ได้อมยิ้มมาอันหนึ่ง แล้วก็ไม่ได้อีกเลย จนถึงทุกวันนี้” พี่สุชัยกับพี่หนุ่มหัวเราะขึ้นมา
“โธ่เอ้ย! ลุ้นแทบตาย สุดท้ายก็แค่นี้” พี่สุชัยพูดขึ้นมา พี่จอยค้อนแทนพี่ขวัญก่อนจะบอกว่า
“อย่าทับถมนะเพื่อน ขอร้อง” แต่พี่ขวัญกลับยิ้มแล้วตอบว่า
“ไม่เป็นไร ฉันไม่คิดมากหรอก แค่นี้เอง ไม่มีแฟนก็ไม่เห็นจะตายนี่นา เพราะแฟนไม่ใช่ปัจจัยสำคัญในการดำรงชีวิต” ทุกคนปรบมือให้เมื่อพี่ขวัญพูดจบ
“เยี่ยมมากเลยขวัญ จริงด้วยสินะ แฟนไม่ใช่ปัจจัยสำคัญ
แต่มีก็ดีนะเธอ เพราะจะได้ทำให้หัวใจเรากระชุ่มกระชวยไง แต่คิดอีกทีไม่มีก็ดีเหมือนกันนะ” พี่จอยพูดวกไปวนมาจนพี่หนุ่มต้องบอกว่า
“นี่ไอ้จอย จะปลอบใจตัวเองล่ะสิท่า ไม่เอาล่ะมาคุยกันต่อ ต่อไปก็เธอละกัน แล้วทีนี้เด็ก ๆ จะได้พูดบ้าง”
“ฉันน่ะหรอ ก็ได้ คือว่าแฟนคนแรกเลยนะเขาอายุมากกว่าฉัน 6 ปี แม่บอกว่าเขามานั่งเฝ้าฉันตั้งแต่ฉันยังแบเบาะ แล้วก็บอกกับแม่ฉันว่าถ้าฉันโตขึ้นเขาจะขอฉันไปเป็นเจ้าสาว แต่แล้วเขาก็ย้ายบ้านไปก่อนที่ฉันจะหัดคว่ำเสียอีก
อย่าหัวเราะสิสุชัย” พี่จอยหันมาว่าพี่สุชัยเมื่ออีกฝ่ายหัวเราะออกมา ส่วนพี่หนุ่มก็พยายามกลั้นหัวเราะอยู่
“เล่าต่อดีกว่า แล้วพอฉันจำความได้นะก็มีคนมาจีบตอนฉันอยู่ ม.4 แบบว่ากำลังเป็นสาวไง แล้วความสวยก็เริ่มฉายแวว หนุ่ม ๆ ก็เลยเข้ามาติดกันตรึม แต่พอดีฉันหยิ่งเกินไป ก็เลยกินแห้ว อ้ะ แต่ยังไม่หมดนะ เพราะว่าพออยู่มหาวิทยาลัยก็มีคนมาจีบนะ เป็นรุ่นพี่อีกคณะหนึ่ง เขาบอกฉันว่าฉันแปลกดี เลยชอบ” พี่จอยหยุดพูด ทำเอาพี่หนุ่มที่ลุ้นอยู่อดถามไม่ได้
“แล้วไงต่อละ” พี่จอยมองหน้าพี่หนุ่มแล้วก็บอกว่า
“ฉันก็เลยด่าไปว่า ฉันแปลกตรงไหน ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้นหรอกแค่เขาเดินจากไป เศร้าจัง” พี่จอยพูด แต่ยังไม่วายทำหน้าทะเล้น ทำเอาสมาชิกที่เหลือหัวเราะร่วน
“ฉันว่าเธอไม่เห็นจะเศร้าเลยนะ” พี่ขวัญว่าพลางหัวเราะต่ออีกยก
“ทีนี้ก็เด็ก ๆ แล้วล่ะ เริ่มที่ใครก่อนดี ยัยเนตรเลยละกัน” พี่สุชัยเอ่ยออกมา ทำเอาเนตรนภัสหน้าเหยเก ก่อนจะบอกว่า
“โห! อะไรเนี่ยพี่ แก้แค้นส่วนตัวหรือเปล่า” พี่หนุ่มกับพี่สุชัยมองหน้ากัน แล้วส่ายหน้า
“เปล่า แต่เห็นว่าท่าทางจะน่าสนใจที่สุดไงน้องเอ๋ย” พี่สุชัยเฉลยออกมา เนตรนภัสเชิดใส่ก่อนจะบอกว่า
“ก็ได้พี่ แฟนคนแรกก็ตอนเรียนมหา’ลัย แล้วก็คบจนถึงปัจจุบันนี้ จบข่าวค่ะ” เนตรนภัสยิ้มให้ทุกคน แต่พี่หนุ่มและพี่สุชัยไม่ยอม
“อะไร แค่นี้หรอ ขอรายละเอียดหน่อยสิน้อง” พี่หนุ่มว่า
“แหมพี่! มันเขินนะ
ก็ได้ ๆ ไม่ต้องมองหน้าหนูขนาดนั้นหรอก” เนตรนภัสยอมเล่าหลังจากทุกคนหันมาจ้องหน้าแบบบังคับว่าต้องเล่าให้ได้
“ก็เจอกันครั้งแรกตอนที่ปฐมนิเทศนักศึกษาใหม่ ตอนนั้นเนตรไปสายเลยรีบไปหน่อย ส่วนเขาก็สายเหมือนเนตร เราวิ่งมาชนกัน แบบอุบัติเหตุรักเลยนะพี่ แล้วทีนี้ก็บังเอิญหยิบหนังสือคู่มือนักศึกษาสับกันคนละเล่ม ของเนตรเขียนชื่อไว้ไง แต่ของเขาไม่ได้เขียน แล้วเราก็บังเอิญอยู่คณะเดียวกัน เลยเจอกัน เขาก็คืนให้เนตร แต่ขอบอกเลยนะว่าเนตรจำหน้าเขาไม่ได้หรอก เพราะพอดีวันนั้นเนตรไม่ได้ใส่แว่นไปไง ส่วนเขาก็จำเนตรไม่ได้เหมือนกัน แต่ว่าเพื่อนเขารู้จักกับเนตรก็เลยมาเจอกันได้ เขาก็บอกว่าจำเนตรไม่ได้เพราะวันนั้นเนตรไม่ได้ใส่แว่น แต่พอใส่แล้วก็น่ารักดี เล่นเอาเนตรอายม้วยเลยล่ะ แต่อย่าคิดว่าจะจบแค่นั้น ขอโทษนะคะ ด้วยเสน่ห์อันแรงของสาวน้อยพราวเสน่ห์อย่างเนตร มีหรือจะจบ เราบังเอิญต้องโคจรมาพบกันบ่อย ๆ ก็บอกแล้วว่าอยู่คณะเดียวกัน หนีกันไม่พ้นหรอก เขาบอกว่าเนตรตลกดี นึกว่าคนใส่แว่นจะเรียบร้อย แต่เนตรตรงกันข้าม เขาก็เลยจีบเนตรไง” เนตรหยุดพูด หันมาดื่มน้ำก่อนจะเล่าต่อว่า
“แล้วทีนี้ตอนแรกเนตรก็ว่าจะเล่นตัว แต่พอดีเพื่อนบอกว่า เฮ้ย! นาน ๆ หลุดมาสักคน อย่าให้หลุดมือนะ เนตรก็คิดตาม เออ ก็จริงนะ ถ้าหลุดไปแล้วไม่มีมาอีก เห็นทีชีวิตนี้จะขึ้นคานแน่เรา ก็เลยตกลง” พี่จอยถามต่อว่า
“เขาจีบนานมั้ย กว่าเนตรจะตกลง” เนตรนภัสทำท่าคิดสักครู่ก่อนจะบอกว่า
“ก็นานนะพี่ ประมาณ 15 นาที” พี่ขวัญหัวเราะลั่น ทำเอาทุกคนหัวเราะตาม
“โถ ๆ ยัยเนตร ท่าทางจะกลัวขึ้นคานขนาดหนัก แค่ 15 นาทีเนี่ยนะ ฉันก็นึกว่าสักสองสามวัน” พี่ขวัญพูดไปขำไป
“ไม่ได้นะพี่ สองสามวันนานไป แค่ 15 นาทีก็นานแล้ว เดี๋ยวเขาเปลี่ยนใจ” เนตรนภัสทำเสียงสูง
“จ๊ะ ๆ แหม! เธอนี่จริง ๆ เลย แต่ก็ขายออกล่ะนะ” พี่หนุ่มพูดพลางมองมาที่พี่ขวัญกับพี่จอย พี่จอยค้อนให้เพราะรู้ว่าหมายถึงตัว
“ต่อไปตาใครล่ะ
ป่านละกัน” พี่ขวัญหันมาบอก ป่านส่ายหน้ายิ้ม ๆ
“ไม่เอาหรอกพี่” พี่สุชัยคะยั้นคะยอ
“เล่าหน่อยสิน้องป่าน พวกพี่ ๆ รอฟังอยู่ ห้ามเบี้ยวนะ” ทุกคนพยักหน้า
“เล่าเถอะป่าน” นัคบอกเพื่อนสาว พลางมองมาที่ฟ้า ยิ้มนิด ๆ ที่มุมปาก
“ก็ได้ค่ะ แต่ป่านเล่าไม่เก่งนะ” ป่านออกตัวก่อนจะเล่าว่า
“แฟนคนแรกก็ประมาณ ป.5 ถ้าจำไม่ผิดนะคะ แล้วพอขึ้นมัธยมก็ไม่มีแล้ว จะมีก็คือป่านไปชอบเขาก่อน แต่เขาคงไม่ชอบป่านหรอก เพราะว่าเขามีคนชอบเยอะ ป่านก็ไม่ได้คิดมากอะไรเพราะยังไงป่านกับเขาก็เป็นเพื่อนกันได้ มามีอีกทีก็ตอนอยู่ปี 3 เป็นรุ่นพี่ที่อยู่อีกคณะ คบกันได้ปีกว่า ๆ ก็เลิกกันเพราะเขานอกใจป่าน พอเลิกกับพี่เขาแล้วก็มีคนมาจีบบ้างเหมือนกัน แต่ตอนนั้นป่านตั้งใจว่าจะเรียนอย่างเดียว ก็เลยไม่มีอีกเลย จนถึงทุกวันนี้” ป่านพูดพลางมองหน้าทุกคนแล้วก็มาหยุดที่นัค
“ไม่เป็นไรน้องป่าน น่ารักแบบน้องเดี๋ยวก็ต้องมีคนมาจีบแน่ ๆ ไม่ต้องกลัวหรอก” พี่สุชัยปลอบ ป่านยิ้มให้
“ป่านไม่คิดหรอกค่ะ เรื่องแฟน มีก็ได้ ไม่มีก็ดี เพราะถ้าไม่ใช่คนที่เราชอบ และเขาก็ชอบเรา ป่านว่าคงยากที่จะมีนะคะความรักที่สมบูรณ์แบบนั้น เขาและเรารักกัน หัวใจตรงกัน หรือไม่ป่านอาจไม่เคยทำบุญร่วมกับใครก็ได้” ป่านพูด แววตาเศร้าเล็กน้อย ทำเอาทุกคนอดเศร้าไปด้วยไม่ได้ พี่จอยทำลายความเงียบ
“อย่าคิดมากน่า น้อง ๆ ยังอายุน้อยอยู่เลย พี่ ๆ สิเนี่ยปาเข้าไปจะ 40 อยู่แล้วยังไม่คิดมาก ไม่รู้รถไฟขบวนสุดท้ายจะจอดเทียบชานชาลาหรือเปล่า หรือว่าขับเลยไปแล้วก็ไม่รู้” เรียกเสียงหัวเราะขึ้นมาได้
“ต่อไปถึงคราวฟ้าแล้วนะ” พี่หนุ่มพูด แต่ฟ้าส่ายหน้า
“ของฟ้าไม่มีหรอกค่ะ” ฟ้าปฏิเสธ นัคพูดขึ้นมา
“ไม่ใช่ว่ามี แต่ไม่เล่าหรอฟ้า” ฟ้ามองหน้าเพื่อนชายนิ่ง แล้วก็พูดขึ้นมาว่า
“จะว่ามีก็ได้ แต่คิดอีกทีไม่มีน่าจะเหมาะมากกว่า” พี่จอยสงสัยอดถามไม่ได้ว่า
“พวกพี่งงนะฟ้า ยังไงกันแน่ เล่าให้ฟังหน่อยน่า” ฟ้ามองหน้าเพื่อน ๆ พี่ ๆ แล้วก็ถอนหายใจก่อนจะพูดขึ้นว่า
“ก็ได้ค่ะ คือว่าเขาตายไปแล้ว และฟ้าไม่อยากพูดถึงเขาอีก ขอร้องนะคะ” ฟ้ามองหน้าทุกคน ท่าทางเงียบขรึม ทำเอาทุกคนไม่กล้าพูดต่ออีก แล้วเนตรนภัสก็พูดขึ้นว่า
“โอเค. ของฟ้าจบแล้ว ต่อไปก็นัค คนสุดท้ายแล้วล่ะ พวกเราจะได้ทำงานกันต่อ เดี๋ยวบอสว่าเอา นี่ก็เลยเวลามามากแล้ว” แต่พี่สุชัยแย้งว่า
“โอ้ย! บอสไม่ว่าหรอก เขาบอกพวกพี่ว่า วันนี้ยกให้วันหนึ่ง ก็เธอไปเข้าห้องน้ำเสียนาน เลยไม่รู้ละสิ” เนตรนภัสมองหน้าเชิงถามว่า อย่างนั้นหรอกหรอ แล้วทุกคนก็หันมาเตรียมฟังเรื่องของนัคต่อ
“ของผมก็ไม่มีอะไรตื่นเต้นหรอกครับพี่ ผมแค่ไปชอบเพื่อนคนหนึ่งตอนขึ้น ม.1 ก็พยายามทำให้เขารู้ว่าชอบ แต่เขาทำเป็นไม่รู้ หรือเขาไม่รู้จริง ๆ ผมก็ไม่แน่ใจ เพื่อนผมก็พยายามช่วยโดยการแสดงออกเป็นนัย ๆ บางทีก็พูดให้เขาได้ยินแต่เขาก็ยังไม่สนใจ เขานั่งข้างหลังผม โต๊ะตรงกัน แต่พอเห็นว่าเขาเริ่มไม่สนใจ ผมก็เลยย้ายโต๊ะกับเพื่อน จน ม.2 ผมมีเรื่องกับเพื่อนในห้อง เกิดการชกต่อยกัน ผมแพ้ หน้าผมเยินเชียวล่ะ ผมจำได้ว่าเขาเมินใส่ผม แต่ในความรู้สึกผมเขาก็ยังน่ารักอยู่ พอขึ้น ม. 4 เราก็แยกกันเรียนคนละห้อง ตอนนั้นผมสอบไม่ผ่านเลยต้องซ้ำชั้น ม. 6 อีก 1 ปี ส่วนเขาพอเรียนจบเขาก็ไปเรียนต่อที่มหา’ลัยแห่งหนึ่ง เขาเคยแวะมาโรงเรียนหลังจากเรียนจบไปได้ 3 เดือน เขาใส่ชุดมหาวิทยาลัยมา เขาเดินผ่านมาตอนที่ผมกำลังเล่นบาสอยู่ เขาไม่สนใจผม ผมก็เลยทำเป็นไม่สนใจเขา แล้วเราก็ไม่เจอกันอีกเลย จนผมมาเรียนต่อที่มหา’ลัยเดียวกับเขา ผมก็พอรู้มาบ้างว่าเขาเรียนที่นั่น แต่ไม่นึกว่าจะเจอกัน เขาก็คงไม่นึกเหมือนกัน จนเราได้พบกัน ผมเป็นรุ่นน้องเขาหนึ่งปี เราได้อยู่ชมรมเดียวกัน ตลกดีนะครับ เขาทำเป็นไม่รู้จักผม ผมก็เลยทำเป็นไม่รู้จักเขาเช่นกัน ตอนนั้นเพื่อนเขาก็รู้จักผม เพราะเราเคยเรียนมัธยมที่เดียวกัน ผมเลยเล่าเรื่องของผมกับเขาให้เพื่อนคนนั้นฟัง เพื่อนคนนั้นเลยวางแผนแกล้งเป็นแฟนกับผม หวังให้เขาหึง แต่เขาก็มีสีหน้าเฉย ๆ จนครั้งหนึ่งชมรมเราจัดไปเที่ยวน้ำตก เขากำลังเดินมาขึ้นรถกับเพื่อน ๆ ผมเดินลงมาจากรถทัวร์พอดี ผมมองหน้าเขา เขาก็มองหน้าผม แต่ก็เดินเลยขึ้นรถไป ผมก็ขึ้นตามไปนั่งกับเพื่อนเขา ใคร ๆ ในชมรมก็ถามว่าเป็นแฟนกันหรอ ผมก็บอกกับทุกคนว่าผมกับเพื่อนเขาเป็นแฟนกัน พอไปถึงน้ำตก เขาก็ยังไม่คุยกับผม ผมก็ม
องหน้าเขา หวังว่าเขาจะหันมาสนใจผมบ้าง ที่ไหนได้ เขาไม่สนใจผมสักนิด จะมีมองมาบ้างแล้วก็หันกลับ แน่นอนว่าผมเศร้า แต่ตอนกลับผมแอบเห็นนะว่าเขาก็มองตามผมมา แล้วงานเลี้ยงรุ่นที่เขาเรียนจบผมก็ไปร่วมงานในฐานะแฟนเพื่อนเขา ผมนั่งตรงข้ามเขา สักพักเขาก็ลุกขึ้นกลับบ้านไปเลย วันนั้นผมดื่มเหล้าด้วยพี่ และตั้งใจว่าจะตัดใจ” นัคหยุดพูดหันมามองหน้าพี่ ๆ ทุกคน นัยน์ตาแดงก่ำ เหมือนพยายามกลั้นน้ำตา
“แล้วผมก็เจอเขาอีกจนได้ แต่คราวนี้ผมทำสำเร็จ ผมพยายามไม่สนใจเขา แต่ก็มีบ้างที่อดไม่ได้ที่จะมอง เขาก็ไม่สนใจผมเหมือนเดิม
แต่พอผมทำใจได้ รู้สึกว่าเขาจะเริ่มสนใจผมขึ้นมาแล้ว ผมสังเกตเห็นเขาลอบมองผมบ่อยขึ้น แต่ผมก็ไม่อยากสนใจเขา
” นัคมองหน้าทุกคน บางคนกำลังอึ้งกับเรื่องที่นัคเล่า พี่หนุ่มตั้งสติได้ก่อน
“แล้วยังไงต่อหรอนัค”
“ไม่มีอะไรมากหรอกพี่ แค่นี้ละกันครับ ดูสิ อินกันใหญ่เลย ท่าทางผมจะเล่าเก่งนะเนี่ย” นัคพูดพลางหัวเราะเหมือนกลบเกลื่อนความรู้สึกของตนเอง
“งั้นเราก็แยกย้ายไปทำงานกันต่อดีกว่า เอ้า! ขยันกันหน่อย” พี่สุชัยบอก ทุกคนจึงช่วยกันเก็บโต๊ะและแยกย้ายกันไปทำงานต่อ
TTTTTTTTTTTTTTT
ผลงานอื่นๆ ของ oyozang ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ oyozang
ความคิดเห็น