ลำดับตอนที่ #2
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : On the way..
ตื่นตั้งแต่ตี4..เพื่อมานอนต่อในรถ...
รถไม่ติด..เพราะฉะเชิงเทราไม่ใช่กรุงเทพฯ..
ถึงสนามบินสุวรรณภูมิก็เกือบๆ6โมงเช้า..
.
.
.
07/09/07
ณ เค้าท์เตอร์ Q สายการบินการ์ตาร์แอร์เวย์
เพื่อนๆจากหอวัง มาส่งกันด้วย..ตื้นตันใจมาก โฮะๆ มีทั้งบลู ปีโป้ พี่จิ๋ว เจมมี่ จอมมี่ พีช(ญ) ปู น้ำตาล(สวย) น้ำตาล(เตี้ย)แล้วก็ลี่หง
...โอยยย น้ำตาคลอ
เพื่อนๆแต่ละคนก็มีของที่ระทึกให้คนละอันสองอัน
ทั้งฮาร์ตบีท 1เม็ดของตาลสวย..
โมเดลตัวร้ายจากเรื่องสไปรเดอร์แมน(มันชื่อไรอ่ะ ไม่รู้จัก- -")..
แล้วก็ขนมประหลาดๆ ที่ไม่เคยนึกอยากจะกิน(แต่ก็จะต้องได้กินคราวนี้แหละ)
ตุ๊กตาหมี ที่เพ้นท์เสื้อเอง by พี่ต้อง..ซึ่งอ่านไม่ออกเลย
และอันที่ข้องใจที่สุดคือ กุญแจมือ?!? เพื่อ?? พวกแกให้ชั้นเพื่อ??
..แต่จนแล้วจนรอด ของที่ระลึกทั้งหลายก็ต้องให้พ่อกะแม่เก็บไว้ที่บ้าน หอบไปไม่ไหว..ไปได้แค่บางชิ้น
การเดินทางรอบนี้ มีเพื่อนร่วมชะตากรรมไปจุดกมายปลายทางเดียวกัน 5 คน..
บอล.. หนุ่มเหนือ(เพิ่งจะย้ายจาก กรุงเทพฯไปเชียงใหม่หมาดๆ) จากมงฟอร์ตฯ ใส่แว่น ดูบอบบาง
เจ๊โบ.. สาวผิวเข้ม จากสามเสนฯ ตัวเล็กๆ บอบบาง แอบๆเปรี้ยว
พี่ซัน.. หนุ่มใต้ เงียบๆ ขรึมๆ ..มั้ง?
ป้าจิ๊ก.. แม่สาวเซ็นโยฯ แบบว่า..อวบหน่อยๆ หมวยๆ ..แหะๆ
นอกจากคณะตุรกีแล้ว ก็มีเพื่อนๆเอเอฟเอสที่ไป อังกฤษ กับสเปน ไปด้วย..พวกเค้าต้องไปต่อเครื่องกันที่โดฮา การ์ตา
พอทุกๆคนอำลา พ่อ แม่ พี่ ป้า น้า อา เพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ฯลฯ กันเรียบร้อยแล้ว ก็ร่วมถ่ายรูปกัน ก่อนจะเข้าประตูไป..
ทุกอย่างเหมือนจะผ่านไปด้วยดี
ย้ำว่า..เหมือนจะ
ปรากฏเครื่องที่ออกจากสุวรรณภูมิเกิดดีเลย์ไปครึ่งชั่วโมง
ตอนแรกก็ไม่คิดอะไร ..แถมฝรั่งที่นั่งข้างๆ ก็หน้าตาคล้านจัสติน ทิมเบอร์เลคด้วยเลยไม่เครียด(..เกี่ยวอะไร- -*)
นั่งไปๆชักเบื่อ..ดูได้แต่หนัง เปิดเกมส์ไม่เป็น (T_T)
อาหารก็งั้นๆ แถมไม่มีหมูอีกตะหาก..ที่จริงก็เตรียมใจไว้แล้วล่ะ
พอเครื่องแลนด์ดิ้งที่โดฮา..พวกเราก็นั่งรถขนส่งผู้โดยสารมาที่สนามบิน
ที่นี่แหละที่เราต้องทรานส์มิทเครื่องกัน ..เอาล่ะสิ เพื่อนๆ สเปน อังกฤษก็พากันบ๊ายๆบาย แยกย้ายไป
เหลือพวกเรา.. 5 คน
พอดูในตั๋ว...โอ นรกมีจริง!!!
เอาเข้าแล้วไง..
ตามเวลาเดิมเรามีเวลาทรานส์มิทเครื่อง30นาที ซึ่งเราก็ใช้เวลานั้นไปแล้วจากการดีเลย์ที่ประเทศไทย
สรุป.. เราตกเครื่อง
ตกเครื่อง..
ตกเครื่อง...
ตกเครื่อง.....
โอว...แล้วเราทำไงล่ะ มองซ้ายมองขวา เห็นป้าย ISTANBUL อยู่ในมือของเจ้าหน้าที่คนนึง
เราก็ไม่รอช้ารีบปรี่เข้าไปหา
คุณพี่พนักงานก็บอกว่าเครื่องจากไทยที่ดีเลย์น่ะ ไม่ทันเครื่องที่ไปอิสตั้นบูลรอบนี้แล้ว ต้องไปต่อเครื่องที่ดูไบ แล้วค่อยไปอิสตั้นบูล
พอเค้าบอกว่าไม่เสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม ก็โล่งงงงจาายยยย...ฟิ้ววววว~
(พวกเราสนุกกันมากๆ ต่างกับเจ้าหน้าที่เอเอฟเอสไทย ที่เราโทรไปหา เค้าตื่นกลัวยิ่งกว่าเราเสียอีก อิอิ)
*หมายเหตุ หลังจากเกิดเหตุการณ์นี้แล้ว เอเอฟเอสไทย ก็จัดตั๋วบินตรงให้แก่น.ร.แลกเปลี่ยนประเทศตุรกีเลย 555+
พวกเราก็จัดการเรื่องเปลี่ยนตั๋ว แล้วก็ไปรอรถตู้ที่จะรับไปโรงแรม..เพราะเครื่องที่จะไปดูไบมีอีกทีก็00.50น.
...ตอนรอรถตู้ ก็เป็นอะไรที่สยองขวัญมาก มีลุงคนนึง(ยังไม่แก่เท่าไหร่หรอก)เดินตามพวกเรามาตลอดทาง นั่งรอยังนั่งใกล้ๆพวกเรา ด้วยความที่เอเอฟเอสสั่งสอนมาว่า'อย่าเข้าใกล้คนแปลกหน้าที่ไม่น่าไว้ใจ และห้ามรับฝากของจากคนที่ไม่รู้จัก' ทำให้พวกเราหลอนกันไปใหญ่โต..กลายเป็นโรค Strangerphobia กันไปเลย นอกจากคุณลุงคนนั้น กลุ่มข้างๆก็เป็นคนแขกกลุ่มใหญ่ๆเหมือนจะเป็นกลุ่มแรงงาน(ดูเป็นแขกทมิฬอ่ะ...Y.Y)
สักพักรถตู้ก็มารับ..
เราได้ไปพักที่โรงแรม Moven Pick โรงแรมระดับ4ดาวของที่นั่น
..โอโห อลังการมากค่ะ ไม่คิดว่าจะได้มาพักฟรีๆ มีทั้งจากุซซี่ สระว่ายน้ำโอเพ่นวิว สปา ฟิตเนส ซาลอนฯลฯ
แถมรปภ.ที่นี่ก็เท่มากกกกก เป็นคนผิวหมึก ที่หมึกจริงๆๆๆๆๆ แล้วเครื่องแบบสีขาวจั๊วะ ตัวสูงราวๆ2เมตร และพี่คนนี้ก็ใจดีมากคุยกันถูกคอ ยกให้เป็นไอดอลเราไปเรยยย!!
ที่นี่เราเจอพี่สาวชาวจีนคนนึง เค้าจะไปอิสตั้นบูล เค้าบอกว่าเค้าจะกลับไปแต่งงานกับแฟนเขาที่เป็นคนตุรกี
ที่พักเราได้ชาย1ห้อง หญิง1ห้อง พร้อมอาหาร
อาหารเลิศหรูมาก..แต่ไม่ถูกปาก เพราะยังไม่ชิน
อาหารทะเลที่นี่สดและใหญ่มาก..แต่เค้านึ่งกะเหล้าอ่ะ ..เหม็นๆ ไม่โปรดค่ัะ
คนงานที่นี่มีแต่พม่า(อุตส่าห์หลงดีใจ คิดว่าคนไทย) มีคนสิงคโปร์คนนึงพูดภาษาไทยได้เพราะอยู่ไทยมา2ปี แล้วก็คนไทยที่เป็นเชฟในครัวชั้นล่าง1คน อิอิ..ดีใจจัง
หลังจากสำรวจทั่วทั้งโรงแรม เราก็กลับห้องพักเจ๊โบ กะป้าจิ๊กหลับสลบไสล.. ที่นี่มีทีวีช่องไทยด้วยแหละ
พอถึงเวลาเราก็นั่งรถตู้(เบ๊นซ์) ไปสนามบิน
..เมืองโดฮาแปลก ตอนกลางวันเงียบๆเหมือนร้าง ร้อนก็ร้อน แถมเหนอะหนะตัวอีก แต่ตกหลางคืนผู้คนเดินกันขวั่กไขว่เลยแฮะ
พอถึงสนามบินพี่สาวคนจีนก็ช่วยเรื่องตั๋วแล้วเราก็รอเวลาขึ้นเครื่อง
ออกจากการ์ตาด้วยเครื่องบินโดยสารขนาดเล็ก อึดอัดแฮะ
..ข้างๆเป็นคุณลุงเคราหน้า โพกผ้าด้วย
ช่างเหอะ..หลับดีกว่า
พอถึงดูไบ..ตื่นอัตโนมัติด้วยกลิ่นแป้งที่แอร์โฮสเตสสาวใช้กัน หอมหึ่งจริงๆ
ลงมาที่สนามบินตอนนั้นเวลากี่โมงไม่รู้ แต่ฟ้ายังมืดอยู่..ในสนามบิน โอโห..เค้านอนกันตามพื้นเลยอ่ะ
เราก็จัดการธุระแล้วมานั่งรอหน้าเกท
..ง่วงจัง เห็นเค้านอนหลับกันได้ เราก็ทำมั่งสิ ผลัดเวรกันนอน นอนกันหน้าเกทนี่หล่ะ
จนแล้วจนรอด..เครื่องจากดูไบไปอิสตั้นบูลก็ดีเลย์อีก ครึ่งชั่วโมง อืม..เฉยๆ
รอบนี้ได้เครื่องบินใหญ่ ของสายการบินเตอร์กิซแอร์ไลน์ ก่อนเข้าเครื่องมีแจกนสพ.ภาษาตุรกีด้วย อิอิ หยิบมานะ แต่อ่านไม่ออก
คราวนี้บินยาวเลย.. มาตื่นอีกทีก็ตอน..
" TURKIYE'YE HOS GELDINIZ "
"ยินดีต้อนรับสู่ตุรกีค่ะ"
รถไม่ติด..เพราะฉะเชิงเทราไม่ใช่กรุงเทพฯ..
ถึงสนามบินสุวรรณภูมิก็เกือบๆ6โมงเช้า..
.
.
.
07/09/07
ณ เค้าท์เตอร์ Q สายการบินการ์ตาร์แอร์เวย์
เพื่อนๆจากหอวัง มาส่งกันด้วย..ตื้นตันใจมาก โฮะๆ มีทั้งบลู ปีโป้ พี่จิ๋ว เจมมี่ จอมมี่ พีช(ญ) ปู น้ำตาล(สวย) น้ำตาล(เตี้ย)แล้วก็ลี่หง
...โอยยย น้ำตาคลอ
เพื่อนๆแต่ละคนก็มีของที่ระทึกให้คนละอันสองอัน
ทั้งฮาร์ตบีท 1เม็ดของตาลสวย..
โมเดลตัวร้ายจากเรื่องสไปรเดอร์แมน(มันชื่อไรอ่ะ ไม่รู้จัก- -")..
แล้วก็ขนมประหลาดๆ ที่ไม่เคยนึกอยากจะกิน(แต่ก็จะต้องได้กินคราวนี้แหละ)
ตุ๊กตาหมี ที่เพ้นท์เสื้อเอง by พี่ต้อง..ซึ่งอ่านไม่ออกเลย
และอันที่ข้องใจที่สุดคือ กุญแจมือ?!? เพื่อ?? พวกแกให้ชั้นเพื่อ??
..แต่จนแล้วจนรอด ของที่ระลึกทั้งหลายก็ต้องให้พ่อกะแม่เก็บไว้ที่บ้าน หอบไปไม่ไหว..ไปได้แค่บางชิ้น
การเดินทางรอบนี้ มีเพื่อนร่วมชะตากรรมไปจุดกมายปลายทางเดียวกัน 5 คน..
บอล.. หนุ่มเหนือ(เพิ่งจะย้ายจาก กรุงเทพฯไปเชียงใหม่หมาดๆ) จากมงฟอร์ตฯ ใส่แว่น ดูบอบบาง
เจ๊โบ.. สาวผิวเข้ม จากสามเสนฯ ตัวเล็กๆ บอบบาง แอบๆเปรี้ยว
พี่ซัน.. หนุ่มใต้ เงียบๆ ขรึมๆ ..มั้ง?
ป้าจิ๊ก.. แม่สาวเซ็นโยฯ แบบว่า..อวบหน่อยๆ หมวยๆ ..แหะๆ
นอกจากคณะตุรกีแล้ว ก็มีเพื่อนๆเอเอฟเอสที่ไป อังกฤษ กับสเปน ไปด้วย..พวกเค้าต้องไปต่อเครื่องกันที่โดฮา การ์ตา
พอทุกๆคนอำลา พ่อ แม่ พี่ ป้า น้า อา เพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ฯลฯ กันเรียบร้อยแล้ว ก็ร่วมถ่ายรูปกัน ก่อนจะเข้าประตูไป..
ทุกอย่างเหมือนจะผ่านไปด้วยดี
ย้ำว่า..เหมือนจะ
ปรากฏเครื่องที่ออกจากสุวรรณภูมิเกิดดีเลย์ไปครึ่งชั่วโมง
ตอนแรกก็ไม่คิดอะไร ..แถมฝรั่งที่นั่งข้างๆ ก็หน้าตาคล้านจัสติน ทิมเบอร์เลคด้วยเลยไม่เครียด(..เกี่ยวอะไร- -*)
นั่งไปๆชักเบื่อ..ดูได้แต่หนัง เปิดเกมส์ไม่เป็น (T_T)
อาหารก็งั้นๆ แถมไม่มีหมูอีกตะหาก..ที่จริงก็เตรียมใจไว้แล้วล่ะ
พอเครื่องแลนด์ดิ้งที่โดฮา..พวกเราก็นั่งรถขนส่งผู้โดยสารมาที่สนามบิน
ที่นี่แหละที่เราต้องทรานส์มิทเครื่องกัน ..เอาล่ะสิ เพื่อนๆ สเปน อังกฤษก็พากันบ๊ายๆบาย แยกย้ายไป
เหลือพวกเรา.. 5 คน
พอดูในตั๋ว...โอ นรกมีจริง!!!
เอาเข้าแล้วไง..
ตามเวลาเดิมเรามีเวลาทรานส์มิทเครื่อง30นาที ซึ่งเราก็ใช้เวลานั้นไปแล้วจากการดีเลย์ที่ประเทศไทย
สรุป.. เราตกเครื่อง
ตกเครื่อง..
ตกเครื่อง...
ตกเครื่อง.....
โอว...แล้วเราทำไงล่ะ มองซ้ายมองขวา เห็นป้าย ISTANBUL อยู่ในมือของเจ้าหน้าที่คนนึง
เราก็ไม่รอช้ารีบปรี่เข้าไปหา
คุณพี่พนักงานก็บอกว่าเครื่องจากไทยที่ดีเลย์น่ะ ไม่ทันเครื่องที่ไปอิสตั้นบูลรอบนี้แล้ว ต้องไปต่อเครื่องที่ดูไบ แล้วค่อยไปอิสตั้นบูล
พอเค้าบอกว่าไม่เสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม ก็โล่งงงงจาายยยย...ฟิ้ววววว~
(พวกเราสนุกกันมากๆ ต่างกับเจ้าหน้าที่เอเอฟเอสไทย ที่เราโทรไปหา เค้าตื่นกลัวยิ่งกว่าเราเสียอีก อิอิ)
*หมายเหตุ หลังจากเกิดเหตุการณ์นี้แล้ว เอเอฟเอสไทย ก็จัดตั๋วบินตรงให้แก่น.ร.แลกเปลี่ยนประเทศตุรกีเลย 555+
พวกเราก็จัดการเรื่องเปลี่ยนตั๋ว แล้วก็ไปรอรถตู้ที่จะรับไปโรงแรม..เพราะเครื่องที่จะไปดูไบมีอีกทีก็00.50น.
...ตอนรอรถตู้ ก็เป็นอะไรที่สยองขวัญมาก มีลุงคนนึง(ยังไม่แก่เท่าไหร่หรอก)เดินตามพวกเรามาตลอดทาง นั่งรอยังนั่งใกล้ๆพวกเรา ด้วยความที่เอเอฟเอสสั่งสอนมาว่า'อย่าเข้าใกล้คนแปลกหน้าที่ไม่น่าไว้ใจ และห้ามรับฝากของจากคนที่ไม่รู้จัก' ทำให้พวกเราหลอนกันไปใหญ่โต..กลายเป็นโรค Strangerphobia กันไปเลย นอกจากคุณลุงคนนั้น กลุ่มข้างๆก็เป็นคนแขกกลุ่มใหญ่ๆเหมือนจะเป็นกลุ่มแรงงาน(ดูเป็นแขกทมิฬอ่ะ...Y.Y)
สักพักรถตู้ก็มารับ..
เราได้ไปพักที่โรงแรม Moven Pick โรงแรมระดับ4ดาวของที่นั่น
..โอโห อลังการมากค่ะ ไม่คิดว่าจะได้มาพักฟรีๆ มีทั้งจากุซซี่ สระว่ายน้ำโอเพ่นวิว สปา ฟิตเนส ซาลอนฯลฯ
แถมรปภ.ที่นี่ก็เท่มากกกกก เป็นคนผิวหมึก ที่หมึกจริงๆๆๆๆๆ แล้วเครื่องแบบสีขาวจั๊วะ ตัวสูงราวๆ2เมตร และพี่คนนี้ก็ใจดีมากคุยกันถูกคอ ยกให้เป็นไอดอลเราไปเรยยย!!
ที่นี่เราเจอพี่สาวชาวจีนคนนึง เค้าจะไปอิสตั้นบูล เค้าบอกว่าเค้าจะกลับไปแต่งงานกับแฟนเขาที่เป็นคนตุรกี
ที่พักเราได้ชาย1ห้อง หญิง1ห้อง พร้อมอาหาร
อาหารเลิศหรูมาก..แต่ไม่ถูกปาก เพราะยังไม่ชิน
อาหารทะเลที่นี่สดและใหญ่มาก..แต่เค้านึ่งกะเหล้าอ่ะ ..เหม็นๆ ไม่โปรดค่ัะ
คนงานที่นี่มีแต่พม่า(อุตส่าห์หลงดีใจ คิดว่าคนไทย) มีคนสิงคโปร์คนนึงพูดภาษาไทยได้เพราะอยู่ไทยมา2ปี แล้วก็คนไทยที่เป็นเชฟในครัวชั้นล่าง1คน อิอิ..ดีใจจัง
หลังจากสำรวจทั่วทั้งโรงแรม เราก็กลับห้องพักเจ๊โบ กะป้าจิ๊กหลับสลบไสล.. ที่นี่มีทีวีช่องไทยด้วยแหละ
พอถึงเวลาเราก็นั่งรถตู้(เบ๊นซ์) ไปสนามบิน
..เมืองโดฮาแปลก ตอนกลางวันเงียบๆเหมือนร้าง ร้อนก็ร้อน แถมเหนอะหนะตัวอีก แต่ตกหลางคืนผู้คนเดินกันขวั่กไขว่เลยแฮะ
พอถึงสนามบินพี่สาวคนจีนก็ช่วยเรื่องตั๋วแล้วเราก็รอเวลาขึ้นเครื่อง
ออกจากการ์ตาด้วยเครื่องบินโดยสารขนาดเล็ก อึดอัดแฮะ
..ข้างๆเป็นคุณลุงเคราหน้า โพกผ้าด้วย
ช่างเหอะ..หลับดีกว่า
พอถึงดูไบ..ตื่นอัตโนมัติด้วยกลิ่นแป้งที่แอร์โฮสเตสสาวใช้กัน หอมหึ่งจริงๆ
ลงมาที่สนามบินตอนนั้นเวลากี่โมงไม่รู้ แต่ฟ้ายังมืดอยู่..ในสนามบิน โอโห..เค้านอนกันตามพื้นเลยอ่ะ
เราก็จัดการธุระแล้วมานั่งรอหน้าเกท
..ง่วงจัง เห็นเค้านอนหลับกันได้ เราก็ทำมั่งสิ ผลัดเวรกันนอน นอนกันหน้าเกทนี่หล่ะ
จนแล้วจนรอด..เครื่องจากดูไบไปอิสตั้นบูลก็ดีเลย์อีก ครึ่งชั่วโมง อืม..เฉยๆ
รอบนี้ได้เครื่องบินใหญ่ ของสายการบินเตอร์กิซแอร์ไลน์ ก่อนเข้าเครื่องมีแจกนสพ.ภาษาตุรกีด้วย อิอิ หยิบมานะ แต่อ่านไม่ออก
คราวนี้บินยาวเลย.. มาตื่นอีกทีก็ตอน..
" TURKIYE'YE HOS GELDINIZ "
"ยินดีต้อนรับสู่ตุรกีค่ะ"
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น