Kyumin รักอลวนกับสองนายสองแบบ
เมื่อฝาแฝดสองพี่น้องสองบุคลิค คลิกรักนักเรียน(กลับจาก)นอก อย่างลีซองมิน หนุึ่งหนุ่มอ่อนโยน กับอีกหนึ่งหนุ่มแสนเย็นชา ....ติดตามได้ในเรื่องเลยจ้า ^^
ผู้เข้าชมรวม
17,093
ผู้เข้าชมเดือนนี้
1
ผู้เข้าชมรวม
ข้อมูลเบื้องต้น
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
....รักอลวนกับสองนายสองแบบ ....
คยูมิน ...ตอนที่ 1...
“สายแล้วๆ ไปไม่ทันอีกแน่เลย” เด็กหนุ่มหน้าตาน่ารักพึมพำกับตัวเองในขณะที่ออกแรงวิ่งสุดฝีเท้าไปที่โรงเรียนที่อยู่ไม่ไกลจากบ้านเท่าไหร่นัก ปากก็คาบขนมปังสอดไส้ไข่ดาวไว้ด้วย วันนี้พึ่งย้ายมาเข้าโรงเรียนวัน แถมมาสายอีกต่างหากโดนดุแหงๆเลย T ^ T ....
....
.
“มัวแต่ทำอะไรอยู่หา แบบนี้ไม่เรียกมาสายแล้ว มันมาจะเที่ยงแล้วเนี่ย ให้ฉันรออยู่ตั้งนาน” เป็นจริงดังคาด เมื่อเข้ามาถึงห้องพักครู ก็ถูกอาจารย์ฮยอกแจหรือเรียกอาจารย์อึนฮยอกก็ได้ ซึ่งจริงๆแล้วก็เป็นคนฝากเข้าโรงเรียนนี้นี่แหละ ถ้าเทียบศักดิ์ก็เป็นญาติกัน เด็กหนุ่มนับถือคนๆนี้เหมือนพี่
“ขอโทษครับ ผมไม่ได้ตั้งใจจริงๆ จะไม่ทำอีกแล้วครับ” เด็กหนุ่มก้มหัวปะหลกๆทั้งๆที่เหงื่อโชกเต็มตัวจนเส้นผมสีน้ำตาลอ่อนกระพือขึ้นลงตามแรงนั้น
“อย่าให้มีคราวหน้าอีกก็แล้วกัน ฉันจะพาไปแนะนำเพื่อนในห้องก่อน ตามมา” พูดจบก็ลุกพรวดขึ้นแล้วเดินออกไปอย่างรวดเร็ว จริงๆแล้วอาจารย์ฮยอกแจก็ใจดีนี่แหละ ออกจะขี้เล่นด้วยซ้ำ อายุก็เพิ่งจะ 20 กว่าๆ แต่พออยู่ที่โรงเรียนก็เลยต้องสวมมาดโหดนิดหน่อย
......
.
.
“น่ารักจังเลย ผู้หญิงหรือผู้ชายน่ะ”
“เจ้าโง่ เห็นๆอยู่ว่าผู้ชายไม่งั้นจะเข้าโรงเรียนชายล้วนได้เหรอ”
“หน้าเหมือนกระต่ายเลยว่ะ”
“มีแฟนหรือยังนะ”
เสียงฮือฮาเซ็งแซ่ขึ้นทันทีเมื่อเด็กหนุ่มเดินเข้ามาในห้องเรียนพร้อมอาจารย์ฮยอกแจ นักเรียนในห้องต่างให้ความสนใจมาที่เด็กหนุ่มคนนี้ ด้วยรูปร่างหน้าตาที่น่ารัก ดวงตากลมใสเหมือนกระต่าย ริมฝีปากสีชมพูสวยที่ยิ้มทีทำเอาหัวใจหลายๆคนละลายได้เลย เส้นผมสีน้ำตาลอ่อนระต้นคอเข้ากับใบหน้านั้นอย่างไม่มีที่ติ ร่างกายก็ดูบอบบาง ถ้าจับแต่งหญิงคงจะเข้าไม่น้อยเลยทีเดียว เลยทำให้ทุกคนต่างให้ความสนใจกันมากจนออกนอกหน้า
“เงียบๆกันหน่อย” เสียงอาจารย์ยอกแจพูดคำเดียวทั้งห้องก็เงียบกริบทันที
“เอาล่ะ แนะนำตัวกับเพื่อนๆสิ”
“สวัสดีครับ ผมลีซองมินครับ พึ่งกลับมาจากอังกฤษเมื่อวาน ยังต้องเรียนรู้อะไรอีกมาก ขอฝากตัวด้วยนะครับ” พูดจบก็ยิ้มออกมาอย่างน่ารัก
“แน่น้อนนน จะดูแลอย่างดีเล้ยยย”
“ฝากตัวฝากหัวใจด้วยก็ด๊ายยย”
“มาอยู่ด้วยกันเลยมั้ยจะได้ดูแลได้ตลอดเวลา”
เสียงโห่ฮาดังขึ้นอีกระลอก เด็กหนุ่มนามลีซองมินได้แต่ยิ้มตอบคำแซวเหล่านั้นอย่างเขินๆ
“อย่าแซวมาก เพื่อนพึ่งมาเหนื่อยๆ อย่ากวนกันมากล่ะ”
“คร้าบบบบบ” เกือบทั้งห้องรับคำพร้อมกัน
“เอาล่ะซองมิน ไปนั่งข้างหัวหน้าห้องละกันนะ ว่างอยู่พอดีเลย” อาจารย์ฮยอกแจชี้ไปทางที่นั่งตัวหนึ่งซึ่งยังว่างอยู่ที่ริมหน้าต่าง
“กงยู ฝากดูแลซองมินด้วยนะ” สิ้นคำของอาจารย์ เด็กหนุ่มที่นั่งข้างๆกับที่นั่งของซองมินก็ลุกขึ้นมา เป็นเด็กผู้ชายที่จัดได้ว่าหน้าตาดีมากทีเดียว ดวงตาดูอ่อนโยน ริมฝีปากได้รูป เห็นแล้วทำเอาซองมินใจเต้นไปนิดหน่อยเหมือนกัน “ครับ” เขารับคำ
“กงยูเป็นหัวหน้าห้องนะซองมิน มีอะไรก็ถามเขาได้นะ” อาจารย์อึนฮยอกบอกก่อนจะออกจากห้องไป เพราะอาจารย์ลีดงแฮกำลังรอสอนอยู่
“เอาล่ะ ทุกคนหยิบหนังสือขึ้นมาแล้วเปิดไปหน้า 137”อาจารย์ลีดงแฮบอก ก่อนจะหันไปเขียนกระดานอย่างขะมักเขม้น
“ดูกับผมก่อนก็ได้นะ” กงยูบอกกับร่างบางเพราะวันนี้เป็นวันแรกซองมินจึงยังไม่มีหนังสือเรียน เสื้อผ้าที่ใส่ยังเป็นชุดไปรเวทเลย
“ขอบคุณมากนะ” พูดจบชายหนุ่มก็ขยับโต๊ะไปนั่งติดกับร่างบางที่หน้าต่าง ทำเอาหลายๆคนในห้องอิจฉาไม่น้อย เพราะต้องเรียนต่อเลยไม่มีเวลาทำความรู้จักกับซองมินเลย แต่เพราะเจ้ากงยูเป็นหัวหน้าห้องเลยได้นั่งใกล้ชิดแถมได้เป็นคนคอยให้คำปรึกษาซองมินอีกต่างหาก
“เอาล่ะ ได้ข่าวว่าวันนี้มีนักเรียนย้ายมาใหม่ใช่มั้ย ลีซองมิน ตอบคำถามข้อนี้หน่อยสิ” อาจารย์ลีดงแฮที่เขียนโจทย์คณิตบนกระดานหันมาถามซองมิน ร่างบางที่ยังไม่ทันตั้งตัวมาวันแรกก็โดนเรียกซะแล้วลุกพรวดขึ้นทันที ดงแฮยิ้มอยู่ในใจ เด็กคนนี้น่ะเด็กฝากเข้าของเจ้าฮยอกแจสินะ หึ ขอแก้แค้นสักนิดสักหน่อยเถอะ แค่นี้ก็ยังดี
ร่างบางยังเงอะงะเพราะโจทย์นั้นยาวถึงสองบรรทัดเป็นเรื่องของการอินทิเกรตแถมยังมีการเทคล็อกอีกต่างหาก ทั้งห้องต่างเงียบกริบเพราะรู้ดีว่าอาจารย์ดงแฮไม่ถูกกับอาจารย์ฮยอกแจ ซองมินที่เป็นญาติกับอาจารย์ฮยอกแจเลยพลอยซวยตั้งแต่วันแรกแบบนี้แหละ
“ว่าไง ตอบได้มั้ย ไปเรียนที่อังกฤษมาไม่ใช่หรอ แค่นี้ไม่น่าจะยากนะ” พูดอย่างดูถูกเล็กๆ ซองมินยังนิ่งเงียบไม่พูดอะไร กงยูที่นั่งอยู่ข้างๆรีบช่วยคิดจนเกือบจะได้คำตอบแล้ว ร่างบางก็พูดออกมาเสียงดัง
“ 0.279 ครับ” ตอบออกมาอย่างมั่นใจ ทำเอาทั้งห้องอึ้งอีกรอบ คนที่เป็นอาจารย์ก็อึ้งเช่นกัน คิดในใจว่าตอบถูกได้ยังไงวะ ตรงเป๊ะเลย เจ้าเด็กนี่คิดในใจได้เร็วถึงขนาดนี้เชียวเหรอเนี่ย
“ดีมาก นั่งลงได้” รีบบอกรับอย่างห้วนๆหลังจากอึ้งไปชั่วครู่ ก่อนจะวางฟอร์มแล้วหันกลับไปเขียนกระดานต่อไป เจ็บใจอยู่ไม่น้อย หึ กะเอาไปพูดให้เจ้าอาจารย์อึนฮยอกเสียหน้าสักหน่อย คราวหน้าเอาใหม่ก็ได้
ทั้งห้องพร้อมใจกันปรบมือโดยไม่รู้ตัว โจทย์ข้อนี้กงยูหัวหน้าห้องขึ้นชื่อว่าเรียนเก่งที่สุดแล้วยังคิดให้ไม่ทัน แต่ซองมินคิดในใจแล้วกลับตอบได้ถูกต้องแถมเป็นทศนิยมอีกต่างหาก สมแล้วที่เรียนที่ประเทศอังกฤษมา ... แต่พอเจอสายตาของอาจารย์ลีดงแฮส่งมาทั้งห้องเลยต้องเป็นอันเงียบพร้อมกันอีกรอบ
“เก่งมากๆเลยนะ ผมยังคิดไม่ทันเลย” กงยูหันมาพูดด้วยเบาๆเมื่อร่างบางนั่งลงแล้ว
“เก่งเฉพาะวิชาเลขกับอังกฤษเท่านั้นแหละครับ นอกนั้นก็แทบไม่ได้เรื่องเลย” ซองมินบอกอย่างถ่อมตัว
“เก่งแล้วยังน่ารักด้วยนะ” กงยูยิ้มรับอย่างใจดี ทำเอาหัวใจกระต่ายน้อยกระตุกวูบขึ้นมาอย่างไม่มีสาเหตุ เป็นอะไรของนายนะ ซองมิน
เวลาผ่านไปจนหมดคาบก็ถึงเวลาพักเที่ยงพอดี ทุกคนในห้องต่างกรูกันเข้ามารุมล้อมซองมินเป็นการใหญ่ ถามนู่นถามนี่จนร่างเล็กตอบแทบไม่ทัน เพราะซองมินอัธยาศัยดีด้วยล่ะมั้งก็เลยคุยกับทุกคนในห้องได้ง่ายแล้วก็สนุกด้วยเลยยิ่งเป็นที่ชื่นชอบ ผ่านไปชั่วครู่พอกินข้าวเสร็จซองมินก็ขอตัวไปเข้าห้องน้ำ จริงๆแล้วก็เพราะจะไปสำรวจโรงเรียนต่างหาก แต่ถ้าให้กงยูมาด้วยก็ยังไงๆอยู่ วันนี้อยากตะลุยคนเดียวมากกว่า ร่างบางเดินลัดเลาะไปเรื่อยดูนู่นดูนี่ยิ้มให้กับคนในโรงเรียนที่มองมาเพราะซองมินใส่ชุดไปรเวทก็เลยเด่นพอสมควร ถึงจะเป็นเสื้อผ้าสีสุภาพก็ตาม หลายคนยิ้มตอบเพราะความน่ารักร่างบาง กระต่ายน้อยเดินไปเรื่อย จนมาถึงดาดฟ้าของโรงเรียน มีมุมหนึ่งเป็นสวนต้นไม้เล็กๆอยู่ด้วย โรงเรียนนี้แปลกดีจัง ซองมินเดินเข้าไปดูใกล้ๆถึงได้เห็นว่ามีผู้ชายคนหนึ่งนั่งอ่านหนังสืออยู่ใต้ต้นไม้และสนามหญ้าจำลองขนาดย่อมนั่น ชายหนุ่มเงยหน้าขึ้นมามองซองมินทันที
“อ้าว กงยูนี่นา มาอ่านหนังสือตั้งแต่เมื่อไหร่ล่ะเนี่ย” ร่างบางร้องทักเมื่อเห็นหน้าได้ชัดๆ ชายหนุ่มสายตากระตุกขึ้นมาวูบหนึ่ง ก่อนจะตอบกลับด้วยน้ำเสียงเรียบๆ
“เมื่อไหร่ก็เมื่อนั้นแหละ” ตอบกลับมาแบบกวนๆ ร่างบางก็ไม่ได้ถือสาอะไร
“ขอฉันนั่งด้วยได้มั้ย”
“ตามสบาย” สิ้นคำ ร่างบางก็นั่งแปะลงไปข้างๆกงยูอย่างอารมณ์ดี
“กงยูมาอ่านหนังสือบนนี้ทุกวันเลยเหรอ ดีจังเลยนะ มีสวนเล็กแบบนี้ด้วย ที่อังกฤษไม่มีแบบนี้เลยล่ะ”
“พูดมาก”
“ห..หา”
“ฉันบอกว่าพูดมาก เงียบๆหน่อยไม่ได้หรือไง จะอ่านหนังสือ” น้ำเสียงที่พูดมาเย็นชาซะจนร่างบางอึ้งพูดไม่ออก เสียงหวานน่าฟังที่พูดเจื้อยแจ้วอยู่เงียบไปอย่างรวดเร็ว ทำไมไม่เห็นสุภาพเหมือนตอนที่อยู่ในห้องเลย
“ข..ขอโทษที” ร่างบางบอกด้วยสีหน้าเจื่อนๆ โดนว่าตรงๆแบบนี้ก็ทำเอาพูดลำบากเหมือนกัน
“เออ รู้แล้วก็ดี” ตอบรับอย่างเสียไม่ได้เท่าไหร่ ทำเอาคนตัวเล็กกว่าหน้ามุ่ยทันที คนอะไร ทีอยู่ในห้องล่ะสุภาพ พออยู่นอกห้องเป็นอีกคน แบบนี้มันสองบุคลิกนี่หว่า น่าเกลียดที่สุดเลย ซองมินนั่งหน้ามุ่ยอยู่เงียบๆ แต่พอมองหน้ากงยูที่นั่งอ่านหนังสือไม่สะทกสะท้านอะไรแบบนี้ก็ดูแปลกไปอีกแบบ บุคลิกในห้องดูอ่อนโยน บุคลิกแบบนี้ก็ดูเย็นชา แววตาตอนนี้ดูแล้วเฉียบคมเหมือนหมาป่าเลย ดูไปดูมาก็ต้องสะดุ้งเมื่อดวงตานั้นเลื่อนจากหนังสือมาสบตาตัวเอง แก้มนวลแดงเรื่อขึ้นมาอย่างไม่มีสาเหตุ กระต่ายน้อยรีบหันหน้าไปอีกทางทันที
“มาจ้องหน้าคนอื่น เสียมารยาท”
“ไม่ได้จ้องสักหน่อย หลงตัวเอง”
“มีเบอร์หรือเปล่า”
“หา”
“ได้ยินชัดนี่ ไม่เห็นต้องถามซ้ำ มีเบอร์หรือเปล่า”
“มี แต่นายจะเอาไปทำอะไรล่ะ”
“ก็ฉันเป็นหัวหน้าห้อง เผื่อมีอะไรขึ้นมานายจะได้โทรถามไม่ก็ฉันจะได้โทรหานายได้สะดวก คิดอะไร คิดว่าฉันจะจีบนายหรือไง หลงตัวเองไปหน่อยมั้ง” คำพูดเจ็บๆแถมด้วยรอยยิ้มรู้ทัน แทงใจร่างบางดังจึ้กที่เผลอคิดไปแบบนั้น
“จะ..จะบ้าหรือไง...ฉันไม่ได้คิดแบบนั้นเลยนะ เจ้าคนสองบุคลิคนิสัยไม่ดี ชิ” พูดจบก็เผลอทำแก้มป่องพองลมไม่พอใจแบบที่ทำเป็นนิสัยอย่างลืมตัว ก่อนจะยื่นโทรศัพท์ให้แล้วให้ร่างสูงจัดการเอาเอง
“พูดขอบใจซะสิ” ร่างสูงบอกในขณะที่ยื่นโทรศัพท์คืนให้
“นายพูดอะไร”
“พูดขอบใจฉันซะสิ ที่อุตส่าห์เก็บเบอร์นายไว้เนี่ย” คำพูดสุดแสนจะกวนโมโหทำเอาร่างบางหงุดหงิดได้ที่ทันที
“อะไรของนาย นายต้องขอบใจฉันไม่ใช่หรือไง นายเป็นคนขอฉันนะ” บอกแล้วมองร่างสูงอย่างเอาเรื่อง แต่กงยูก็ไม่ได้มีอาการอะไรสักนิด แค่ยิ้มเจ้าเล่ห์ที่มุมปากส่งมาให้เท่านั้น
“งั้นเหรอ คงจะยังงั้น ขอบใจ” พูดจบก็ลุกพรวดขึ้นทันที “แล้วเจอกันที่ห้องนะ” จากนั้นก็เดินออกไปเลย โดยปล่อยให้ร่างบางนั่งเก้ออยู่คนเดียว ชายหนุ่มร่างสูงเดินยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ออกไป จริงๆก็ไม่ได้อะไรหรอก แต่เห็นหน้าตาแล้วยังกะกระต่ายเลยอยากแกล้งเท่านั้นเอง
...
.
.
.
กริ๊งงงงงง เสียงสัญญาญออดดังขึ้นเมื่อเป็นเวลาเข้าเรียน
“อ้าว ซองมิน หายไปไหนมา ผมหาตั้งนาน” กงยูเดินเข้ามาหาอย่างสุภาพ
แต่ร่างบางกลับไม่ได้ตอบอะไรสักนิด แค่มองตาขวางกลับไปเท่านั้น หนอยแน่ ตีสองหน้าเก่งนักนะ ทีเมื่อกี้ล่ะกวนประสาทเหลือเกินที่ตอนนี้ทำมาอ่อนโยนเหรอ ทั้งๆที่พึ่งว่าฉันพูดมากไปแหม็บๆเนี่ยนะ
ชายหนุ่มหน้าเหวอไปนิดหน่อยเมื่อถูกสายตาของซองมินมองมา ซองมินนั่งเรียนกับกงยูเงียบๆและไม่พูดอะไรเลยจนเลิกเรียน ชายหนุ่มได้แต่มองด้วยสายตาที่ไม่เข้าใจเท่าไหร่นัก
“ซองมินจะกลับแล้วเหรอ” กงยูร้องถามเมื่อเห็นร่างบางเริ่มเก็บกระเป๋า
“อือ” ซองมินตอบรับสั้นๆ
“กลับด้วยกันนะ” บอกด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนผิดกลับคนที่ดาดฟ้าอย่างสิ้นเชิง
“ก็ได้” ซองมินตอบรับอย่างงอนๆ ใครจะหายโกรธง่ายๆกวนประสาทซะขนาดนั้น แถมยังเล่นละครไม่เลิกอีก
“งั้นซองมินไปรอที่ประตูหน้าโรงเรียนก่อน เดี๋ยวผมทำเวรเสร็จแล้วตามไปนะ”
“อือ” ซองมินรับคำอย่างว่าง่าย กลับกับเพื่อนก็คงไม่เป็นไร จะได้กระชากหน้ากากนายนี่ให้แน่ใจด้วย ว่าเป็นคนยังไงกันแน่ ร่างบางเดินมาที่หน้าประตูโรงเรียน
“อ้าว เล่นอะไรของนายเนี่ย มาก่อนแล้วจะให้ฉันเดินมารอทำไม” ร่างบางร้องถามเมื่อเห็นกงยูยืนอยู่หน้าโรงเรียน
“ใครให้นายเดินมารอ จะบ้าหรือเปล่า” ชายหนุ่มถามอย่างเอาเรื่อง แววตาเป็นแบบเมื่อตอนกลางวันอีกแล้ว
“ก็นายนั่นแหละบอกให้มารอหน้าประตูโรงเรียน แล้วมายืนดักรอก่อนเนี่ยนะ แถมยังมาว่าฉันอีก ไม่มีอะไรจะเล่นหรือไง”
“ใครกันแน่ที่บ้า ฉันยืนของฉันเฉยๆแล้วนายก็มาบอกว่านัดฉันไว้เนี่ยนะ หน้าตาก็ไม่ดีแล้วยังสติไม่ดีเหมือนหน้าตาอีกเหรอ” สวนกลับอย่างเจ็บแสบเอาการ ทำเอาเส้นโมโหของกระต่ายกระตุกขึ้นมาอีกรอบจากรอบกลางวัน
“เรื่องอะไรมาว่าฉันแบบนี้ อย่างกับตัวเองหน้าตาดีตายงั้นแหละ ทุเรศจะตาย หน้ายังกะหมา!!! (ป่า)” สวนกลับไปบ้างทำเอาคนถูกว่าก็เริ่มหงุดหงิดขึ้นมาเหมือนกัน กล้าดียังไงมาว่าเขาหน้าเหมือนหมาเนี่ย
“กล้าเหลือเกินนะ ปากดีกว่าที่คิดซะด้วย”
“แล้วจะทำไม”
“จะทำไมเดี๋ยวก็รู้กัน” พูดจบก็กระตุกแขนร่างบางแล้วรั้งตัวเข้ามาในอ้อมกอดจนแนบชิด ไม่สนใจสายตาคนรอบข้างสักนิด แล้วก็ดูเหมือนคนรอบข้างจะทำเป็นไม่สนใจโดยไม่ได้นัดหมายด้วยสิ นี่มันหมายความว่ายังไงกันนะ
“จะทำอะไรน่ะ ปล่อยนะ” ซองมินดิ้นขลุกขลักในอ้อมกอดนั้นทันที ความร้อนสูบฉีดขึ้นที่หน้าจนหน้าแดงอีกแล้ว
“คิดว่าจะทำอะไรล่ะ ปากดีแบบนี้หาอะไรปิดปากบ้างก็ดีมั้ง”สิ้นคำร่างสูงก็คว้าหมับเข้าที่ใบหน้าของร่างบาง ใบหน้าหล่อเหลาได้รูปโน้มลงมาใกล้ ใกล้มาก จนริมฝีปากจะแตะกันอยู่แล้ว...แต่ว่า...
“ซองมิน...” เสียงร้องเรียกดังมาจากด้านหลัง ร่างบางหันไปดูทันที แล้วก็ต้องตาเบิกกว้างด้วยความตกใจ หันไปดูหน้าคนที่เรียกและคนที่กำลังกอดตัวเองอยู่สลับไปมา...
.
...
.
ทำไมกงยูมีสองคน !!
ผลงานอื่นๆ ของ จิ้งจอกขนปุย(Whitewoolfox) ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ จิ้งจอกขนปุย(Whitewoolfox)
ความคิดเห็น