ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    My Little Pony : Fluttershy x Big Macintosh

    ลำดับตอนที่ #3 : ตอนที่ 2 จะปรึกษาใครดี? (Rewrite)

    • อัปเดตล่าสุด 18 ธ.ค. 62


    "แม็ก....บิ๊กแม็ก....ไอ้พี่บิ๊กแม็ก!!! []"

    "หะ......หา?"บิ๊กแม็กสะดุ้งแล้วหันไปมองแอปเปิ้ลแจ็คที่กำลังมองเขาด้วยสายตาเป็นห่วง

    "พี่เป็นอะไรของพี่เนี่ย? เห็นเหม่อแบบนี้มาตั้งแต่เมื่อวานแล้วนะไม่สบายหรือเปล่า" แอปเปิ้ลแจ็คยื่นมือมาแตะหน้าผากของบิ๊กแม็กแล้วมองเขาด้วยสายตาเป็นห่วง

    บิ๊กแม็กมองน้องสาวของตัวเองตั้งแต่หัวจรดเท้าแล้วมองลึกเข้าไปในดวงตาสีเขียวอ่อนๆของแอปเปิ้ลแจ็คแต่จู่ๆภาพของฟลัตเตอร์ชายกำลังยิ้มให้เข้าอย่างอ่อนโยนก็มาซ้อนทับกับแอปเปิ้ลแจ็ค บิ๊กแม็กมองภาพตรงหน้าอย่างไม่ละสายตาด้วยตกใจและแก้มแดงจางๆ บิ้กแม็กจ้องเรื่อยๆจนแอปเปิ้ลรู้สึกตัว

    "พี่มองหน้าฉันทำไม? -_-"

    "n-nope" บิ๊กแม็กสะดุ้งอีกครั้งพร้อมกับภาพของฟลัตเตอร์ชายที่ซ้อนทับกับแอปเปิ้ลแจ็คหายไปเขารีบสะบัดหน้าหันกลับไปทำงานและพยายามไล่ความคิดที่กำลังฟุ้งซ่านอยู่ในหัวออกไป แอปเปิ้ลแจ็คอยู่มองบิ๊กแม็กด้วยความสงสัยสักพักก่อนจะเลิกสนใจแล้วหันกลับไปเก็บแอปเปิ้ลต่อ

    'นี้เราเป็นบ้าอะไรไปเนี่ยถึงได้เห็นภาพหลอนซ้อนทับกับแอเปิ้ลแจ็คไปได้? สงสัยเราจะไม่สบายอย่างที่แอปเปิ้ลแจ็คพูดแล้วสิ พอเสร็จงานแล้วเราลองไปหาหมอดูหน่อยดีกว่า' บิ๊กแม็กคิดสักพักแล้วรีบส่ายหน้าไล่ความคิดไปจากนั้นเขาก็รีบทำงานที่องค์เซเลสเทียสั่งมาตั้งแต่เมื่อวานให้เสร็จให้เร็วที่สุดเขาจะได้ไปหาหมอสักที

    ณ ปราสาทสปาร์เคิล

    "ส่วนนี้เป็นแบบนี้ ส่วนนี้ก็ใช้งานอย่างนี้ แหละไอ้ส่วนนี้มันใช้งานยังไงละเนี่ย?" ทไวไลท์กำลังนั่งแยกชิ้นส่วนและศึกษาบางอย่างอยู่บนโต๊ะที่ทำจากคริสตัลอย่างเอาเป็นเอาตาย

    ก๊อกๆ มีเสียงเคาะมาจากประตูทางเขาทไวไลท์เงยหน้ามองประตู เธอมองมันสักพักก็ก้มหน้าแยกชิ้นส่วนและศึกษาต่อโโยไม่สนใจว่าใครเป็นคนเคาะประตู

    ตึง!ๆๆ คราวนี้จากเสียงเคาะประตูกลายเป็นเสียงทุบประตู ทไวไลท์พยายยามไม่สนใจเสียงทุบจากประตูแต่ยิ่งเธอปล่อยไว้เสียงมันยิ่งดังขึ้นดังขึ้นไปอีก

    "โอ้ยยยยย! จะทุบอะไรนักหนา!! คน(โพนี่)ยิ่งยุ่งๆอยู่ =*=" สุดท้ายทไวไลท์ก็ทนต่อไปไม่ไหวเธอลุกขึ้นแล้วเดินไปเปิดประตู แต่ก่อนที่ทไวไลท์จะเปิดประตูเธอหายใจลึกๆแล้วเธอค่อยๆปล่อยออกมาแล้วเธอก็เปิดปรตู

    "นั้นใค- นายเองเหรอเข้ามาสิ" ทไวไลท์ปิดประตูหลังจากที่ปล่อยให้มังกรหนุ่มรูปหล่อมีผิวและปีกสีม่วงอ่อน มีเกล็ดสีเขียวเข้ม เดินเข้ามาในห้องแล้วเดินไปลากเก้าอี้ที่อยู่มุมห้อง

    เขาผู้ช่วยมือหนึ่งของทไวไลท์และยังเป็นมังกรตัวเดียวที่อาศัยอยู่ในโพนี่วิลล์ ชื่อสไปค์

    "ทำไมเธอถึงมาเปิดประตูช้าอย่างนี้ละ ทไวไลท์?" สไปค์นั่งลงบนเก้าอี้ ทไวไลท์เดินอ้อมมานั่งหลังโต๊ะของเธอ

    "ฉันกำลังวิจัยของสำคัญอยู่นะ ฉันเลยไปเปิดประตูช้า"

    "วิจัย?" สไปค์มองบนโต๊ะแล้วเห็นซากของอะไรสักอย่างกระจายอยู่บนโต๊ะเต็มไปหมด สไปค์หยิบชิ้นส่วนชิ้นหนึ่งขึ้นมามองให้ชัด

    "ไอ้นี้มัน...ใช้โทรศัพย์จากโลกมนุษย์หรือเปล่า?"

    "ใช้ ฉันให้ชิมเมอร์ไปซื้อมาจากร้านขายโทรศัพย์ในโลกมนุษย์" ทไวไลท์ก้มมองซากของโทรศัพย์แล้วใช้เวทมต์ประกอบมันขึ้นมาใหม่ พอเธอประกอบเสร็จเธอก็เดินไปหยิบกระดาษแผ่นใหญ่สีฟ้ามาวางไว้บนโต๊ะ

    "เธอจะเขียนพิมพ์เขียวอีกแล้วเหรอ?"

    "ใช้ ทำไม?" ทไวไลท์หยิบปากกาขนนกสีแดงมาเขียนลงไปบนกระดาษอย่างตั้งใจ ส่วนสไปค์ก็ไม่ได้พูดอะไรอีก

    "แล้วที่นายมาหาฉันนี่มีธุระอะไรสไปค์?" ทไวไลท์วางปากกาลงหลังจากที่เธอเขียนไปได้ครึ่งนึงของหน้ากระดาษ

    "ฉันมาขอค่าแรงเพิ่มให้คนงานของฉัน" สไปค์มองทไวไลท์ด้วยสายตาจริงจังสไปค์ตอนนี้ไม่ได้เป็นแค่ผู้ช่วยของทไวไลท์เท่านั้นตอนนี้เขายังเป็นหัวหน้าขุดเหมืองเพชร

    เหมืองเพชรที่สไปค์และคนงานของเขาไปขุดมานั้นส่วนมากจะเป็นเพชรคุณภาพเกรดดีๆทั้งนั้น แต่มีบางครั้งบางคราวพวกเขาจะขุดได้เพชรเกรดแย่ๆมาบ้าง ส่วนมากสไปค์จะนำเพชรเกรดดีๆไปให้ร้านตัดเสื้อหรือร้านเครื่องประดับ ส่วนพวกเพชรเกรดแย่ๆสไปค์จะเก็บไว้กินเองบ้างเอาไปแจกให้เพื่อนๆมังกรบ้างเป็นบางครั้ง

    "อีกแล้วเหรอสไปค์!! เมื่อวานนายพึ่งขอฉันไปเองนะ!! แล้วนี้ยังมีหน้ามาขออีกเหรอ!! =*="

    "โธ้∼มันช่วยไม่ได้นะทไวไลท์ ก็อุปกรณ์มันพังจะให้ฉันทำยังไงกันเหล่า -_-;;" ทไวไลท์มองสไปค์ด้วยสายตาจับผิดสไปค์ที่ถูกจ้องก็สะบัดหน้าหลบทไวไลท์ ที่ทไวไลท์ต้องจับผิดสไปค์อุปกรณ์ขุดที่ส่งไปทั้งหมดนั้นเธอเป็นคนคัดเองทั้งหมดไม่มีทางที่มันจะพังภายในค้างคืนเด็ดขาด ยกเว้นว่า...ที่สไปค์พูดมาเมื่อกี้มันเป็นการโกหก!

    "นายไปเรียกคนงานของนายมาหาฉันซิ" ทไวไลท์ลุกขึ้นแล้วเดินไปที่หน้าต่างเพื่อเช็ดว่ามีคนงานของสไปค์มาด้วยหรือเปล่า ปรากฏว่ามีโพนี่สามตัวกำลังยืนรออยู่หน้าปราสาร

    "อ..อะไรนะ? -_-;;"

    "ฉันบอกว่าให้นาย-ไป-เรียก-คน-งาน-ของ-นาย-มา-หา-ฉัน-ซิ!!" ทไวไลท์พูดเน้นพร้อมหันกลับมามองสไปค์ด้วยสายตาไม่พอใจแบบสุดๆสไปค์ที่เห็นสายตาของทไวไลท์แล้วก็สะดุ้งตกเก้าอี้แล้วรีบลุกแหละวิ่งออกไปตามคนงานของตัวเองมาหาทไวไลท์

    5 นาทีต่อมา

    "ถวายบังคม องค์หญิงทไวไลท์" โพนี่ทั้งสามตัวก้มตัวตรงหน้าโต๊ะของทไวไลท์ ด้านหลังของทั้งสามตัวมีสไปค์กำลังยืนเหงื่อแตกเป็นน้ำตก

    "ฉันมีเรื่องจะถามพวกนายหน่อย" ทไวไลท์มองโพนี่ทั้งสามด้วยสายตาจริงจัง

    "พระองค์อยากรู้เรื่องอะไรขอรับ"

    "เรื่องอุปกรณ์ขุดที่ฉันส่งไปให้นะ" ทไวไลท์เหล่มองสไปค์ สไปค์สะดุ้งแล้วก้มหน้ามองพื้น ทไวไลท์หันสายตากลับมามองโพนี่ทั้งสาม

    "หัวหน้าพวกนายเขาบอกฉันว่าอุปกรณ์เครื่องใหม่ที่ส่งไปให้เมื่อวานนี้พังแล้ว จริงหรือเปล่า?" โพนี่ทั้งสามต่างหันมองกันและกันด้วยสายตาไม่เข้าใจ

    "เครื่องใหม่? มันก็ยังดีอยู่นี้เพค่ะ"

    "แหละเรายังใช้แต่อุปกรณ์อันเก่าของอาทิตย์ก่อนอยู่เหรอขอรับ"

    "อีกอย่างองค์หญิงยังเคยบอกพวกเราว่า “ถ้าอุปกรณ์เก่ายังซ่อมได้ก็ให้รีบไปซ่อมซะ ส่วนพวกของใหม่ก็คอยใช้หลังจากที่ของเก่าพังก็ได้”ไม่ใช้หรือขอรับ"

    พอโพนี่ตัวสุดท้ายพูดจบทั้งห้องก็เงียบกริบเงียบจนทำให้สไปค์กลัวเขาจึงย่องไปที่ประตู แต่จู่ๆปราสารทั้งหลังก็สั่นสะเทือนขึ้นโพนี่ทั้งสามรีบหาที่เกาะกันวุ่นวาย ส่วนสไปค์ที่ย่องใกล้ถึงประตูก็ล้มหน้ากระแทกพื้น

    "โอ้ยยยยยยย เจ็บๆๆๆ _o"

    "สไปค์!" สไปค์สะดุ้งแล้วค่อยๆหันไปข้างหลังช้าๆ ทไวไลท์ที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ค่อยๆลุกขึ้นช้าๆตอนนี้รอบๆตัวของเธอมีออร่าเวทมนต์สีดำเข้มคลุมไปทั้งตัว สไปค์พอเห็นออร่านั้นหน้าก็ซีดลงเป็นไก่ต้ม

    ทไวไลท์เดินไปหาสไปค์แบบช้าๆทีละก้าวทีละก้าว สไปค์คิดได้อย่างเดียวตอนนี้คือ 'หนี ต้องรีบหนีให้เร็วที่สุด!!' สไปค์รีบหันหลังไปที่ประตูแล้วยืนมือไปที่ประตูที่เป็นทางรอดทางเดียวของเขาตอนนี้

    ตึง!! แต่ก่อนที่มือของสไปค์จะสัมผัสกับประตูเก้าอี้ตัวที่ทไวไลท์นั่งเมื่อกี้ก็ลอยข้ามหัวเขาแล้วกระแทกประตูจนปิดสนิด ถ้าประตูปิดก็หมายความทางรอดของสไปค์หมดลงแล้ว สไปค์ไปหันกลับไปมองทไวไลท์ตอนเธอยังเดินมาแบบช้าๆอยู่แต่อีกไม่กี่ก้างเท่านั้น

    "ท...ท...ท...ทไวไลท์ใจเย็นๆก่อนฉันอธิบายได้น่ะ ^-^;;;"

    "งั้นไว้นายอธิบายหลังจากที่ฉันทำโทษนายเสร็จก่อนก็แล้วกัน!! =*="

    "จ๊ากกกกกกกกกกกกก ใครก็ได้ช่วยมังกรรูปหล่อคนนี้ที่∼ T0T"

    [มันจะโดยทไวไลท์ฆ่าอยู่ยังมีหน้ามาหลงตัวเองอีก -_- by ไรเตอร์]

    "เธอว่าหัวหน้าจะรอดไหม?"

    "ฉันว่าไม่น่ารอดน่ะ แล้วนายละ"

    "ผมก็เห็นด้วย"

    "อ้ากกกกกกกกกกกกก ใครก็ได้ช่วยฉันที องค์หญิงแห่งมิตรภาพกำลังจะฆ่าฉ้านนนนนนนนนนน T0T" โพนี่ทั้งเลิกซุกซิบแล้วหันไปมองสไปค์ที่ตอน สะบักสะบอมไปทั้งตัวแถมยังโดยทไวไลท์จับมัดด้วยเชือดที่เอามาจากไหนไม่มีใครรู้ทั้งตัวและกำลังโดนทไวไลท์ใช้เวทมนต์ให้ลอยไปที่หน้าต่าง

    "องค์หญิงใจเย็นๆก่อนเพค่ะ/ขอรับ -_-;; " โพนี่ทั้งสามรีบเข้าไปห้ามทไวไลท์ ทไวไลท์มองทั้งสามคนด้วยสายตาหน้ากล้ว โพนี่ทั้งสามเห็นสายตาของทไวไลท์แล้วมันอดกลัวไม่ได้

    ตุบ แต่เธอก็ปล่อยสไปค์ลงพื้นแล้วเดินไปที่หน้าประตูแล้วหยิบเก้าอี้ที่ตัวเองโยนใส่ประตู ทไวไลท์เดินกลับมาที่โต๊ะแล้วเธอก็นั่งลง

    "ครั้งนี้ฉันจะปล่อยนายไปก่อนนะสไปค์ แต่ถ้าคราวหน้านายโกหกฉันอีกละก็....เตรียมเขียนจดหมายสั่งลาแรรีตี้ได้เลย! เข้าใจที่ฉันพูดใช้ไหม =_=*" สไปค์รีบพยักหน้ารั่วๆ ทไวไลท์พอได้คำตอบแล้วเธอหันไปกดปุ่มหนึ่งบนโต๊ะ

    จากนั้นสักพักหนึ่งก็มีโพนี่เข้ามาเป็นโพนี่หญิงผิวสีน้ำตาลอ่อน ผมและหางเป็นสีดำอ่อน คิวตี้มาร์คเป็นรูปหนังสือหน้าปกเป็นรูปนกฮูก

    เธอคือผู้ช่วยมือสองของทไวไลท์และยังเป็นสัตว์เลี้ยงของทไวไลท์ ชื่อ อาววอยลิเซียส

    "มีอะไรเหรอทไวไลท์ อยากได้หนังสือเล่มไหนหรืออยากได้ชาละ ฮู"

    "เปล่า อาววอย ฉันอย่างให้เธอพาสไปค์ไปทำแผลหน่อยนะ" อาววอยลิเซียสหหันไปมองสไปค์ที่ตอนนี้สะบักสะบอม

    "อือ ได้เลย แล้วอย่างได้อะไรเพิ่มไหนจะได้เอามาให้ ฮู?"

    "ไม่เป็นไร ตอนนี้ฉันยังไม่หิวนะและฉันกำลังจะออกไปข้างนอกพอดีด้วย" ทไวไลท์เก็ยโทรศัพย์และแผ่นกระดาษใส่ลิ้นชักแล้วเดินสวนกับอาววอยลิเซียน

    "จะไปไหนเหรอ ทไวไลท์ ฮู"

    "บ้านฟลัตเตอร์ชายนะ"

    ณ หน้าโรงพยาบาล

    บิ๊กแม็กเดินออกมาจากโรงพยาบาลหลังจากให้หมอตรวจแล้วผลปรากฏว่าไม่มี่อะไรผิดปกติทุก บิ๊กแม็กทำสีหน้าสงใสและไม่เข้าเลยสักนิด

    'ถ้าเราปกติแล้วไอ้ภาพหลอนเมื่อเช้านี้ มันคืออะไรกันละ' บิ๊กแม็กก็เดินไปคิดไปอะไรต่างๆน่าๆด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความสงใส

    "บิ๊กแม็ก? นายมาทำอะไรแถวนี้ละเนี่ย?" บิ๊กแม็กมองขึ้นข้างบนเขาเจอเพกาซัสโพนี่หนุ่มผิวสีส้มเข้ม ผมสีฟ้า คิวตี้มาร์คเป็นรูปโล่สายฟ้า กำลังบินอยู่เหนือหัวบิ๊กแม็ก ในมือเขาเต็มไปด้วยของอีกมากมาย

    เขาเป็นหนึ่งในรอยัลการ์ดและยังเป็นว่าที่คู่หมั้นของทไวไลท์(หรือเปล่า)ชื่อ แฟลซเซนทรี่

    "แฟลซ? นายนั้นแหละมาอยู่ที่โพนี่วิลล์ได้ไง? นายต้องอยู่ที่เมืองคลิสตัลไม่ใชเหรอไง?"

    "ฉันมาพักร้อนนะ ที่จริงฉันกระว่าจะไปพักที่ Cloudsdale แต่พี่ไชนิ่งอาเมอร์เขาบอกว่าให้มาพักร้อนที่นี้ดีกว่านะ" แฟลซลงพื้นแล้วเดินไปด้วยกันกับบิ๊กแม็ก

    "ว่าแต่น่ายยังไม่ตอบฉันเลยนะ ว่านายมาทำอะไรแถวนี้?"

    "ก็..." บิ๊กแม็กเล่าเรื่องเมื่อเช้า(แต่ไม่ได้บอกว่าภาพหลอนเป็นใคร)กับเรื่องที่ไปหาหมอมาเมื่อกี้นี้

    "อือ อาการของนายก็ประหลาดจริงๆนั้นแหละ"พอแฟลสฟังจบก็พยักหน้าเข้าใจทันที

    "ฉันไม่รู้แล้วว่าจะปรึกษาใครดี" บิ๊กแม็กเงยหน้ามองท้องฟ้า แฟลซมองบิ๊กแม็กแล้วก็ถอนหายใจ

    "งั้นมาปรึกษาฉันไหมละ?" บิ้กแม็กหันมามองแฟลซมองตั้งแต่หัวจรดเท้าแล้วหันกลับแล้วถอนหายใจออกมาดังๆ

    "นี้!! นายไม่เชื่อใจฉันเหรอไงกัน!? หา!!"

    "yup" บิ๊กแม็กเดินต่อไปโดยไม่สนใจแฟลซที่กำลังโวยวายอยู่ข้างหลัง แฟลซหยุดเดินพอเห็นว่าบิ๊กแม็กเดินไปไกลนิดหนึ่ง แฟลซก็แอบยิ้มเล็กน้อย

    "อาการของนายนะ....ฉันเองก็เคยเป็นเหมือนกันนะบิ๊กแม็ก" แฟลซพึมพำกับตัวเองแล้วรีบวิ่งตามบิ๊กแม็กที่เดินไปไกลแล้ว

    ณ บ้านฟลัตเตอร์ชาย

    ทไวไลท์นั่งอยู่ตรงโต๊ะไม้ในบ้านรอฟลัตเตอร์ชายเพราะตอนนี้ออกไปทำงานอยู่

    ตึง!! พอรอไปสัก 2-3 ชั่วโมง ฟลัตเตอร์ชายก็เปิดปรตูบ้านเข้ามาแบบเต็มแรง

    "แฮ่กๆๆ ข..ขอโทษนะ แฮ่กๆๆ ท..ทไวไลท์ ท..ที่ต้องให้เธอมารอฉันตั้ง 2-3 ชั่วโมง ท..ทั้งๆที่เธอก็มีงานในฐานเจ้าหญิงอยู่แท้ๆ แฮ่กๆๆ" ฟลัตเตอร์ชายยืนหอบอยู่หน้าประตู ทไวไลท์มองฟลัตเตอร์ชายที่ตอนนี้ใส่ชุดแพทย์สีขาวสะอาดที่หลังเสื้อมีรูให้ปีกออกมาได้ แถมฟลัตเตอร์ชายยังใส่แว่นตากรอบสีชมพูซึ่งมันเข้ากับชุดมากๆ ผมที่เคยปล่อยไว้ตอนนี้ก็มัดรวมกันเป็นหางม้า

    งานของฟลัตเตอร์ชายนอกจากคอยฝึกสัตว์ตอนนี้ฟลัตเตอร์ชายกลายเป็นหมอประจำโรงพยาบาลที่ชายแดนระหว่างCanterlot และCrystal Empire โรงพยาบาลแห่งนี้รับทั้งเอิร์ธโพนี่ เพากซัสโพนี่และยูนิคอนโพนี่ รวมถึงพวกกริฟฟินและสิ่งมีชีวิตอื่นที่ไม่ใช้โพนี่อย่างพวกเชลลิ่งด้วยเช่นกัน ส่วนแผนกที่ฟลัตเตอร์ชายประจำอยู่คือ แผนกศัลยกรรมทั่วไป*จนถึงฉุกเฉิน และ แผนกกุมารเวชกรรม*

    ทไวไลท์มองแล้วชื่นชมฟลัตเตอร์ชายอยู่ในใจ เพราะขืนชมตรงๆฟลัตเตอร์ชายไดอายแล้วถอนชุดแน่ๆ ฟลัตเตอร์ชายพอหายเหนื่อยแล้วก็มานั่งฝั่งตรงข้ามทไวไลท์

    "แล้วที่เรียกฉันมาเนี่ยเรื่องอะไรงั้นเหรอ?"

    "ค..ค..คือฉันมีเรื่องอยากจะปรึกษาหน่อยนะ -///-" จู่ๆฟลัตเตอร์ชายก็หน้าแดงขึ้นมา ทไวไลท์มองหน้าฟลัตเตอร์ชายอย่างสงใสว่าทำไมฟลัตเตอร์ชายถึงหน้าแดง

    "แล้วเรื่องที่จะปรึกษาเนี่ยเรื่องอะไรละ?" ทไวไลท์หยิบถ้วยชาแล้วจิบนิดหนึ่งแล้ววานลง ฟลัตเตอร์ชายหันซ้ายหันขวาไปมา

    "ค..ค..คือตั้งแต่เมื่อวานแล้วที่ฉันมักจะคิดถึงเขาและมักจะเห็นหน้าเขาซ้อนทับกับโพนี่ชายทุกตัวที่ฉันพูดด้วยเสมอ -///-" ทไวไลท์ฟังแล้วรู้สึกขุ้นๆกับไอ้อาการแบบนี้ยังไงไม่รู้ เธอหยิบถ้วยชาขึ้นมาจิบอีกครั้ง

    "และพ..พ..พอฉันนึกถึงเขาแล้ว...ห...ห...หัวใจฉันมันก็เต้นรั่วจนหยุดไม่ได้เลยล่ะ เธอพอรู้ไหมว่าฉันเป็นอะไร" ทไวไลท์มองฟลัตเตอร์ชายด้วยสายตาเฉยๆแล้วหยิบชาขึ้นมาจิบอีกรอบ

    [ตกลงจะจิบอีกกี่ครั้งกันละนั้นนะ? by ไรเตอร์]

    เธอฟังแค่นั้นก็รู้แล้วว่าที่ฟลัตเตอร์ชายเป็นนะอาการอะไร แต่ทไวไลท์เลือกจะไม่บอกตรงๆเพราะอยากให้ฟลัตเตอร์ชายรู้ด้วยตัวเองมากกว่าเลยคิดจะบอกแบบอ้อมๆ

    "ฉันพอรู้อยู่หรอก"

    "จริงเหรอ ^-^"

    "อืม ไอ้อาการอย่างนี้นะมันแก้ไม่ยากนั้นหรอก"

    "ยังไงเหรอทไวไลท์? o_o" ฟลัตเตอร์ชายยืนหน้ามามองทไวไลท์แบบหน้าแทบจะชนกัน

    "ก็...รอเวลา"

    "อะไรนะ o_o?" ฟลัตเตอร์ชายยืนหน้าเข้าไปหาทไวไลท์มากกว่าเดิม ทไวไลท์ทนไม่ไหวเธอดันตัวฟลัตเตอร์ชายออกไปแลัวจับนั่งลงเก้าอี้

    "ฉันบอกว่าแค่รอเวลาเดียวมันก็หายเองละน่า" ทไวไลท์ลุกขึ้นแล้วเดินไปเปิดประตู

    "ฉันบอกเธอได้แค่นั้นแหละ อ้อ พรุ่งนี้พวกเรามีประชุมโครงการใหม่ที่ปราสารรีบมาละ ไปน่ะ" ทไวไลท์บินขึ้นฟ้าไป ส่วนฟลัตเตอร์ชายยังมองที่ประตูแล้วเธอก็เอียงคอด้วยความสังใส

    "หมายความว่าไง? =_=?"

    ___________________________________________________________________________________________

    เกร็ดความรู้จากไรเตอร์จ้า

    [ศัลยกรรม(surgery) เป็นการแพทย์เฉพาะทางที่เกี่ยวข้องกับการใช้หัตถการหรือเครื่องมือในการผ่าตัดเข้าในร่างกายผู้ป่วยเพื่อสืบค้นอาการ และหรือรักษาความผิดปกติ เช่นโรคหรืออาการบาดเจ็บต่าง ๆ เพื่อช่วยในการแก้ไขการทำงานหรือรูปลักษณ์ของร่างกาย หรือด้วยเหตุผลอื่น ๆ เรียกแพทย์ที่ศึกษามาเฉพาะทางศัลยศาสตร์ว่าศัลยแพทย์(surgeon)ศัลยแพทย์ในประเทศไทยต้องสำเร็จการศึกษาแพทย์ศาสตร์บัณฑิตและสำเร็จการศึกษาแพทย์ประจำบ้านด้านศัลยศาสตร์แล้วได้ผ่านการสอบเพื่อวุฒิบัตรและหนังสืออนุมัติเป็นผู้มีความรู้ความชำนาญในการประกอบวิชาชีพเวชกรรม สาขาศัลยศาสตร์ ของแพทยสภา และเป็นสมาชิกของราชวิทยาลัยศัลยแพทย์แห่งประเทศไทย]

    [กุมารเวชกรรมpediatrics, paediatricsเป็นสาขาวิชาหนึ่งของแพทย์ศาสตร์ที่เกี่ยวข้องกับการดูแลทางการแพทย์แก่ทารก, เด็ก, และวัยรุ่นกล่าวคือตั้งแต่แรกเกิดจนถึงอายุประมาณ 14-18 ปีขึ้นกับเกณฑ์ของแต่ละสถานที่และประเทศ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านกุมารเวชศาสตร์จะเรียกว่า กุมารแพทย์(pediatrician) ซึ่งต้องสำเร็จการศึกษาแพทย์ศาสตร์บัณฑิตและแพทย์ประจำบ้านด้านกุมารเวชศาสตร์ แล้วได้ผ่านการสอบเพื่อวุฒิบัตรและหนังสืออนุมัติเป็นผู้มีความรู้ความชำนาญในการประกอบวิชาชีพเวชกรรม สาขากุมารเวชศาสตร์ ซึ่งในประเทศไทยออกให้โดยแพทย์สภา]

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×