คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : ตอนที่ 1 ดอกไม้แห่งรักเบ่งบาง (Rewrite 2)
ณ โพนี่วิลล์
วันนี้สภาพอากาศในโพนี่วิลล์นั้นช่างแจ่มใสและเหมาะแก่การปิกนิกจริงๆ เหล่าโพนี่มากมายพากันออกมาปิกนิกกันที่เนินเขาหลังเมืองอย่างสนุกสนาน แต่ก็โพนี่ส่วนใหญ่เลือกจะอยู่แต่ในบ้านของตัวเองเพราะสภาพอากาศแบบนอกจากจะเป็นวันที่เหมาะจะปิกนิกแล้วยังเป็นวันที่เหมาะที่จะนอนหลับชิวๆเป็นอย่างดีเลยด้วย มันเป็นวันที่สงบอีกวันหนึ่งของโพนี่วิลล์.......................หรือเปล่านะ?
ตูม!!!
"!?" โพนี่ทุกตัวในเมืองสะดุ้งแทบพร้อมกันเมื่อจู่ๆก็เกิดเสียงระเบิดขึ้นดังไปทั่วโพนี่วิลล์ แต่น่าแปลกที่โพนี่ทุกตัวแทนที่จะวิ่งหนีหรือโหวกเหวกโว้ยว้ายกัน กลับหันมองไปจุดที่เป็นต้นกำเนิดเสียงเมื่อกี้อย่างพร้อมเพรียงด้วยสายตาเบื่อหน่ายและเหนื่อยใจจนบางตัวยังยกมือขึ้นมากุมขมับ
"พิงค์กี้พาย!!! หยุดเดี๋ยวนี้น่าาาาาาาาาาา =[]=*"
"ฮ่าๆๆๆๆ ตามมาให้ทันสิ แดชชี่ ฮ่าๆๆๆ ^[]^"
ซักพักก็มีเสียงโพนี่สองตัวดังมาจากถนนเส้นนึงและเป็นทางที่เกิดระเบิดด้วย ไม่นานก็มีโพนี่สองตัวกำลังวิ่งไล่กันตามถนนเส้นนั้น โพนี่ตัวนึงเป็นเอิร์ธโพนี่สาวขนสีชมพู่อ่อน ผมและหางฟูฟองเป็นสีชมพู่เข้ม มีคิวตี้มาร์คเป็นรูปลูกโป่งสามลูก ส่วนอีกตัวเป็นเพกาซัสโพนี่หญิงตัวสีฟ้าอ่อน ผมและหางเป็นสีรุ้งสวยสดงดงาม มีคิวตี้มาร์คเป็นรูปฟ้าผ่าสีรุ้งแหละตอนนี้หน้าของโพนี่ตัวนี้ ก็เลอะไปด้วยครีมของพาย
เอิร์ธโพนี่สาวคือผู้สร้างเสียงหัวเราะ ความสนุกสนานและจอมป่วนแห่งโพนี่วิลล์ ชื่อของเธอคือพิงกามิน่า ไดแอน พายหรือพิงค์กี้พาย
เพกาซัสโพนี่สาวคือผู้ที่บินเร็วที่สุดในโพนี่วิลล์ ชื่อของเธอคือ เรนโบว์แดช
โพนี่บางตัวที่เห็นทั้งสองตัวก็ต่างยิ้มขำๆ บางตัวก็ส่ายหน้าเบาๆอย่างเหนื่อยใจ ไม่ก็พึมพำว่า "เอาอีกแล้วคู่นี้นี่นา" ทั้งคู่มักจะแกล้งกันเองเสมอ แรงบางเบาบางเป็นบางครั้งคราว ดูเหมือนคราวนี้ฝ่ายที่ถูกแกล้งจะเป็นเรนโบว์แดช เธอถูกพายของพิงกี้พายโบะหน้าเข้าตอนที่กำลังนอนอยู่บนเมฆ ถ้าโบะธรรมดาละก็คงไม่โกรธมากหรอก...แต่ยัยตัวแสบอย่างพิงกี้มีรึจะโบะธรรมดา...........นางดังใช้วิธีพายโบะหน้าด้วยการยิงจากปืนใหญ่ปาร์ตี้ใส่หน้าเรนโบว์ในระยะเผาขนเนี่ยสิ!!
"ฉันบอกให้หยุดไง! พิงกี้!" เรนโบว์ตะโกนบอกพิงกี้ให้หยุดอย่างหงุดหงิดก่อนที่จะเปลี่ยนจากการวิ่งไล่เป็นบินไล่ตามความถนัดของเธอแทน พิงกี้พายก็ยังคงวิ่งหนีเรนโบว์แดชต่อไปโดยไม่มีทีท่าว่าจะหยุดวิ่งแถมยังยิ้มกว้างจนแทบถึงหูอีกด้วย
'สงสัยคราวนี้คงอีกยาวแน่ๆ' โพนี่ทุกตัวที่อยู่แถวนั้นต่างคิดเมื่อกันโดยไม่ได้นัดหมายแต่พวกเขาก็ยิ้มออกมาอย่างมีความสุข เพราะถ้าไม่มีคู่นี้อยู่ในโพนี่วิลล์ล่ะก็.........เมืองนี้คงน่าเบื่อแย่แน่ๆ
ณ ร้าน Carousel Boutique
ตอนนี้ข้างในร้านมีโพนี่ตัวเดียวที่อยู่ในร้านกำลังหาอะไรบางอย่างอยู่ด้วยความร้อนใจ โพนี่ตัวนี้เป็นยูนิคอร์นโพนี่สาวตัวสีขาว ผมและหางม้วนสีม่วงเข้ม มีคิวตี้มาร์ครูปเพรชสีม่วงสามชิ้น
เธอจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากเจ้าของร้าน Carousel Boutique นักออกแบบแฟชั่นที่เก่งที่สุดในโพนี่วิลล์ ชื่อของเธอคือ แรรีตี้
"ไม่มี! นี่ก็ไม่มี! น่าจะอยู่แถวๆนี่นา!" แรรีตี้พึมพำเบาๆแล้วใช้เวทมนต์ยูนิคอร์นหาของตามชั้นวางของ ลิ้นชักและห้องเก็บอุปกรณ์ไปด้วยสายตาร้อนรน ในร้านตอนนี้มีสภาพที่เละเทะพอสมควร ข้าวของกระจัดกระจายเต็มพื้นไม่ก็ไปแขวนอยู่บนหุ่นโชว์ชุดจนไม่น่ามองเลยที่เดียวแต่เจ้าของร้านกลับไม่สนใจเอาแต่หาของอยู่อย่างเดียว ตอนนั้นเองที่ประตูร้านเปิดออกแล้วมียูนิคอร์นโพนี่ตัวเล็กกว่าแรรีตี้เล็กน้อย ตัวสีขาวเหมือนแรรีตี้แต่ผมเป็นสีม่วงอ่อนกว่า ยังไม่มีคิวตี้มาร์คเป็นของตัวเอง
โพนี่ตัวน้อยตัวนี้คือน้องสาวแท้ๆของแรรีตี้ ชื่อของเธอคือ สวีทตี้เบลล์
"กำลังทำอะไรอยู่นะคะ พี่แรรีตี้?" สวีทตี้เบลล์ถามแรรีตี้ด้วยสายตาเหนื่อยใจปนสงสัยในขณะที่เธอมองดูสภาพร้านของพี่สาวที่เละเทะสุดๆ แต่แรรีตี้ก็ไม่ได้สนใจคำถามสวีทตี้เบลล์ซักนิดแล้วหันไปรื้อห้องที่เก็บชุดเก่าๆไว้ด้วยท่าทางเร่งรีบ
"เฮ้อ" สวีตตี้เบลล์ถอนหายใจเบาๆเมื่อเห็นว่าพี่สาวไม่สนใจที่เธอถามแต่เธอกก็ชินกับการที่แรรีตี้ไม่ค่อยสนใจเธอแล้วล่ะนะ เธอเดินเก็บของที่พี่สาวรื้อตามพื้นและบนตัวหุ่นโชว์ด้วยสีหน้าไม่เต็มใจนัก เธอเก็บตั้งแต่แถวหน้าประตูทางเข้าไปเรื่อยๆจนมาถึงบนโต๊ะทำงานของแรรีตี้ ระหว่างที่เอาของที่อยู่บนโต๊ะออก เธอก็เจอกล่องไม้เล็กๆวางอยู่บนโต๊ะ
"หือ? กล่องไม้นี้มาจากไหนเนี่ย?" สวีตตี้เบลล์พูดแล้วหยิบกล้องไม้ขึ้นมาดูใกล้ๆด้วยสายตาสงสัย หูแรรีตี้กระดิกทันทีที่ได้ยิน เธอก็รีบวิ่งไปที่โต๊ะแล้วคว้ากล่องไม้ในมือสวีทตี้เบลล์มาดูใกล้ๆอย่างรวดเร็วจนสวีตตี้เบลล์สะดุ้ง
"อยู่นี่เอง! เล่นให้หน้าตั้งนานที่แท้ก็อยู่ตรงนี้มาตลอดเองเหรอเนี่ย" แรรีตี้พูดด้วยทางท่าดีใจแล้วใช้เวทมนตร์ถือกล่องไม้วิ่งเข้าห้องทำงานไปโดยไม่สนใจสวี้ทตี้เบลล์ที่กำลังยืนมองอย่างสงสัยอยู่เลยสักนิดเดียว
"เป็นอะไรของเขาละเนี่ย =_=;;;;" สวี้ทตี้เบลล์พูดออกมาอย่างสงสัยกับท่าทางของพี่สาวตัวเอง แต่ก็สงสัยแค่แป็บเดียวก่อนยักไหล่แล้วหันกลับมาเก็บของที่พี่สาวรื้อทิ้งไว้ไปเก็บในที่ที่ควรอยู่ ทางด้านแรรีตี้หลังจากที่วิ่งเขาห้องไปนั้น เธอกำลังใช้เวทมนต์เตรียมอุปกรณ์เย็บผ้า เช่น เข็ม ด้าย ผ้าสำหรับตัดชุด หุ่นลองชุด เป็นต้น
เมื่อเตรียมอุปกรณ์เสร็จเธอก็ใช้เวทมนต์หยิบกล่องไม้ใบเดิมลอยขึ้นมาอยู่ตรงหน้าก่อนจะเปิดฝากล่องออกช้าๆ สิ่งที่อยู่ในกล่องใบนั้นมันก็คือ แว่นตาสีแดง เธอใช้เวทย์ให้แว่นลอยขึ้นมาใส่ที่ใบหน้า
"อือ ทีนี้เราก็ทำงานได้แล้ว" แรรีตี้ใช้กีบเท้าหน้าดันแว่นให้เขาที่แล้วเริ่มตัดเย็บชุดที่ลูกค้าสั่งไว้และชุดตามฤดูกาลของปีนี้เพื่อนำไปขายที่ร้านสาขาต่างๆของเธอ
ณ หอสมุดโกลเด้นท์โอ๊ก
จากเมื่อก่อนที่แทบจะไม่มีโพนี่ตัวไหนเข้ามาอ่านหนังสือ อย่าว่าแต่เข้าไปข้างในเลยโพนี่บางตัวแทบไม่เฉียดเข้าใกล้ด้วยซ้ำไปจนมันถูกทิ้งร้าง แต่ตอนนี้ที่หอสมุดประจำเมืองโพนี่วิลล์แห่งนี้กลับเต็มไปด้วยโพนี่มากมายที่พากันเข้าไปอ่านหนังสืออยู่ข้างใน ข้างในเปลี่ยนไปมากกว่าเมื่อก่อนมากจากที่กลางห้องเป็นพื้นที่ว่างเปล่า ตอนนี้มีโต๊ะไม้สี่ ห้าตัวให้เหล่าโพนี่ยืนหรือนั่งอ่านหนังสือกันและมีบรรณารักษ์ประจำอยู่ที่หน้าประตูหอสมุดคอยต้อนรับเหล่าโพนี่และค่อยดูแลหนังสือที่นี่
กริ๊งๆ
ประตูหอสมุดออกแล้วมีโพนี่สาวตัวนึงเดินเข้ามา โพนี่สาวที่เข้ามาเป็นอัลลิคอร์น ตัวสีม่วงอ่อน ผมและหางสองสีสีน้ำเงินกับสีม่วงเข้มเข้มและมีมาเจนต้าแทรกอยู่เล็กน้อย มีคิวตี้มาร์คเป็นรูปดาวที่ส่องประกายที่รายรอบไปด้วยแสงสว่างเล็กๆหกจุด เมื่อก่อนเธอคือผู้อยู่อาศัยกับดูแลรักษาที่นี่มาก่อน ตอนนั้นเธอยังเป็นแค่ยูนิคอร์นธรรมดาๆทั่วไปแต่ตอนนี้....เธอต่างเป็นที่เคารพรักของเหล่าโพนี่
ในฐานะหนึ่งในสี่เจ้าหญิงแห่งเอเควสเทรียโพนี่ผู้ทรงปัญญาที่สุดและงดงามรองลงมากจากเจ้าหญิงอีกสามองค์ เธอคือเจ้าหญิงแห่งมิตรภาพ ชื่อของเธอคือ ทไวไลท์ สบาร์เคิล
"ยินดีต้อนรับเพค่ะ เจ้าหญิงทไวไลท์ ^-^" โพนี่ที่มาบรรณารักษ์ประจำหอสมุดแทนทไวไลท์พูดต้อนรับอย่างอ่อนน้อม ทไวไลท์พยักหน้าให้กับบรรณารักษ์พร้อมกับยิ้มให้เธออย่างอ่อนโยน พอบรรณารักษ์สาวเห็นรอยยิ้มของเจ้าหญิงตรงหน้าเธอแล้วก็อดตื่นเต้นไม่ได้แก้มของเธอแดงขึ้นมาจางๆ
ทไวไลท์เห็นว่าบรรณารักษ์สาวพูดอะไรต่อแล้ว เธอก็เดินผ่านไปด้วยท่าทางสง่างามโดยที่มีสายตาจากเหล่าโพนี่ต่างมองเธออย่างไม่กระพริบตาเพราะปกติเจ้าหญิงแห่งมิตรภาพจะไม่ค่อยจะออกมาจากปราสาทของตัวเองเท่าไรนัก เธอเดินไปเรื่อยๆจนมาถึงห้องๆนึงที่อยู่ด้านในสุดของหอสมุด เธอยืนมองประตูอยู่ซักพักแล้วเคาะประตูเบาๆจากนั้นประตูก็เปิดออก เธอเดินเข้าไปประตูไปจากนั้นก็จะปิดให้
ทไวไลท์เข้ามาในห้องที่เคยใช่เป็นห้องนอนและห้องทำงานวิจัยต่างๆ เธอมองไปรอบๆด้วยสายตาคิดถึงและนึกย้อนถึงเมื่อก่อน ตอนนี้มันกลายเป็นห้องเก็บหนังสือจากอาณาจักรต่างๆที่ยังไม่ได้แปลเป็นภาษาโพนี่ เมื่อมองรอบๆจนพอใจเธอก็หันมามองที่โต๊ะทำงานตัวหนึ่งที่มียูนิคอร์นโพนี่สาวกำลังก้มหน้าแปลภาษาหนังสือที่อยู่บนโต๊ะอย่างตั้งอกตั้งใจโดยไม่รู้สึกถึงการมาของทไวไลท์เลย เธอมองยูนิคอร์นโพนี่ตอยู่นานจนโพนี่ตัวนั้นรู้สึกตัวแล้วเงยหน้าขึ้นก่อนจะยิ้มบางๆเมื่อเห็นว่าเป็นใคร
"สวัสดีและยินดีต้อนรับนะ ทไวไลท์ ^-^" ยูนิคอร์นโพนี่สาวทักทายทไวไลท์อย่างสนิทสนมกว่าพวกโพนี่ข้างออกห้อง ยูนิคอร์นโพนี่ตัวมีลำตัวสีส้มอ่อนๆ ผมและหางสีแดงเข้มสลับเหลือง มีคิวตี้มาร์คเป็นรูปพระสีแดงและสีเหลืองข้างละครึ่ง เมื่อก่อนเธอคือผู้ได้ชื่อว่าเป็นศิษย์เอกขององค์เซเลสเทรียแต่ได้แอบหนีไปอีกมิติหนึ่งและเคยคิดจะขโมยมงกุฏของทไวไลท์เพื่อจะยึดเอาครองเอเควสเทรียแต่ตอนนี้เธอเธอกลับใจเป็นโพนี่ที่ดีและเป็นศิษย์ของทไวไลท์
เธอคือโพนี่ที่ทรงปัญญาเกือบเท่าเทียบเจ้าหญิงแห่งมิตรภาพอีกตัวและเป็นหนึ่งในหกเพื่อนสนิทของทไวไลท์ ชื่อของเธอคือ ซันเซ็ตชิมเมอร์
"สวัสดีเหมือนกัน ซันเซ็ต" ทไวไลท์พูดด้วยสีหน้าสดใสแล้วเดินมานั่งที่เก้าอี้หน้าโต๊ะ เธอเหล่มองไปที่กองหนังสือที่ยังไม่ได้แปลมีเหลือสองร้อยกว่าเล่ม ซันเซ็ตชิมเมอร์ลุกขึ้นแล้วเดินไปใข้เวทย์ยูนิคอร์นหยิบถ้วยเปล่าสองใบจากนั้นก็รินชาใส่แก้วทั้งสองใบ เธอเดินมาวางไว้ตรงหน้าทไวไลท์แล้วกลับมานั่งหลังโต๊ะ
"งานใหม่เธอดูะไปได้สวยดีนะ" ทไวไลท์พูดพร้อมมองกองหนังสือที่แปลเสร็จแล้ว เท่าที่ดู...ทั้งหมดก็น่าจะเจ็ดร้อยกว่าเล่ม ซันเซ็ตชิมเมอร์ได้ยินก็ยิ้มให้ทไวไลท์อย่างภาคภูมิใจ ถึงจะลำบากไปหน่อยที่ต้องมาค่อยแปลภาษาของอาณาจักรต่างๆก็เถอะ
"ก็นะ ก็ถือว่าได้อ่านอะไรๆสนุกก่อนใครด้วย" ซันเซ็ตชิมเมอร์ยิ้มขำๆพร้อมใช้เวทย์หยิบแก้มชาขึ้นมาจิบ ทไวไลท์ยิ้มนิดๆกับคำพูดของเพื่อนก่อนจะใช้เวทย์ยกแก้วชาขึ้นมาจิบด้วยท่าทางสง่างาม
"แล้วที่เธอมานี้คงมาเอา"ไอ้นั้น"ใช้ไหมทไวไลท์" ซัมเซ็ตชิมเมอร์วางแก้วลงพร้อมพูดก่อนจะมองดูท่าทางของทไวไลท์ ทไวไลท์ที่ได้ยินที่ซันเซทชิมเมอร์ถามก็ไม่ได้ตอบอะไรแต่พอเธอวางแก้วลงก็พยักหน้าเบาๆ เมื่อซันเซทชิมเมอร์เห็นคำตอบก็ยิ้มบางๆจากนั้นก็ใช้เวทมนต์เปิดลิ้นชักออกมาแล้วหยิบซองกระดาษสีน้ำตาลขึ้นมาวางตรงหน้าทไวไลท์ ทไวไลท์มองซองตรงหน้าก่อนหยิบขึ้นมาเปิดดูของข้างใน
"เธอนี่ไม่เคยทำให้ฉันผิดหวังเลยนะ ซันเซ็ต" ทไวไลท์ยิ้มอย่างถูกใจเมื่อเห็นของข้างใน เธอปิดซองลงแล้วใช้เวทมนต์เทเลพอร์ตย้ายซองกลับไปที่ปราสาร
"หึ ต้องขอบใจแฟนสาวแสนฉลาดของฉันล่ะนะ" ซันเซ็ตยืดอกอย่างภูมิใจก่อนจะเลื่อนสายตาไปมองกรอบรูปใบหนึ่งที่เป็นรูปมนุษย์ผู้หญิงที่สีผมและสีตาเหมือนทไวไลท์ทุกอย่างยกเว้นแค่ใส่แว่นสีดำ กำลังยืนยิ้มพร้อมอุ้มลูกหมาตัวเล็กอยู่ด้านมีเธอในร่างมนุษย์ยืนกอดจากด้านหลังพร้อมกำลังจะหอมแก้ม เธอคือทไวไลท์ในมิติอื่น...และเป็นแฟนกับซันเซ็ตชิมเมอร์
"เธอเป็นคนที่ทั้งสวยและฉลาดจริงๆน่า"
"แหม อยากชมกันสิ...ฉันเขินนะ"
"ฉันไม่ได้หมายถึงเธอย่ะ!"
"อ้าวเหรอ :3" ทไวไลท์ยิ้มล้อเล่นใส่ซันเซ็ตเพื่อกวนเล่นๆ ซันเซ็ตมองอย่างไม่พอใจนิดๆก่อนจะถอนหายใจเบาๆแล้วเมื่อเสร็จธุรหลักแล้วทั้งสองตัวก็เริ่มคุยเรื่องทั่วไปกันอย่างสนุกสนาน
ณ ไร่สวีทแอปเปิ้ลเอเคอร์
ที่นี่ถือว่าเป็นสถานที่สำคัญอีกแห่งในโพนี่วิลล์ ไม่สิ ต้องเป็นสถานที่สำคัญแห่งเอเควสเทียต่างหากเพราะที่นี่เป็นแหล่งผลิตแอปเปิ้ลคุณภาพและมีพายแอปเปิ้ลที่ดีที่สุดส่งขายไปทั่วเอเควสเทีย สถานทางการเงินของครอบครัวแอปเปิ้ลตอนนี้...คงพูดได้เต็มปากเต็มคำว่ารวยเละเลยล่ะ
"แอปเปิ้ลแจ็ค! แอปเปิ้ลแจ็ค! หลานอยู่ไหน!!" ใต้ระเบียงบ้านไม้หลังใหญ่ที่ถูกต่อเติมเพิ่มจนใหญ่โตกว่าเมื่อก่อน มีเอิร์ทโพนี่แก่ๆตัวนึงกำลังนั่งใช้โทรโข่งเรียกหาโพนี่ที่ชื่อแอปเปิ้ลแจ็ค เอิร์ธโพนี่ตัวนี้มีลำตัวสีเขียวอ่อนๆ ผมและหางมีแต่หงอกขนขาวจั๊วะ มีผ้าพันคอสีส้มลายเป็นรูปหัวใจพันอยู่ที่คอ มีคิวตี้มาร์คเป็นรูปแอปเปิ้ลพาย
เอิร์ทโพนี่ที่อายุมากที่สุดและรอบรู้แทบจะทุกเรื่อง...ถึงจะทำตัวแปลกๆไปบ้างก็เถอะ เธอคือคุณยายสมิธ
"ค่าๆ มาแล้วค่า" สักพักก็มีเสียงของโพนี่สาวตัวดังออกมาจากในบ้านจากนั้นก็มีเอิร์ธโพนี่ตัวสีส้มอ่อน ผมและหางสีเหลืองไข่ สวมหมวกคาวบอยสีน้ำตาลเข้ม คิวตี้มาร์ครูปแอปเปิ้ลสามรูป เดินออกมาพร้อมถือพายแอปเปิ้ลที่พึ่งอบเสร็จใหม่ๆแล้วมองยายสมิธอย่างสงสัย
เธอคือเอิร์ทโพนี่ที่ขยันและซื่อสัตย์ที่สุดในเอเควสเทีย เธอชื่อแอปเปิ้ลแจ็ค
"มีอะไรเหรอคะ คุณยาย?"
"เมื่อกี้ไปรษณีย์เอาจดหมายมาส่ง...เห็นบอกว่าองค์หญิงเซเลสเทียส่งมาให้หลานแหน่ะ"
"จดหมายจากองค์หญิงถึงหนู?" แอปเปิ้ลแจ็ดวางพายแอปเปิ้ลไว้ริมหน้าต่างแล้วเดินมายืนข้างๆยายสมิธ คุณยายยื่นจดหมายที่ตราเอเควสเทียในมือให้แอปเปิ้ลแจ็ค แอปเปิ้ลแจ็ครับจดหมายมาแล้วเปิดอ่าน
'ถึงแอปเปิ้ลแจ็ด เราส่งจดหมายมาในวันนี้เพื่อขอให้ช่วยส่งแอปเปิ้ลจากสวนของเธอมาให้ซักสองร้อยลังภายในอาทิตย์หน้าหน่อยได้ไหม เพราะแอปเปิ้ลของเธอตอนนี้กำลังเป็นที่นิยมกันมากในแคทเทอร์ล็อค ปล.ลูน่าฝากบอกมาว่าคิดถึงพวกแอปเปิ้ลบลูมและอาจจะแวะไปหาในฝันนะ จากเซเลสเทีย'
"สองร้อยลังภายในอาทิตย์หน้าเรอะ!! แบบนี้ต้องรีบแล้ววววววววววววววววว!!!" แอปเปิ้ลแจ็ดตะโกนอย่างตกใจก่อนจะโยนจดหมายให้ยายสมิธแล้ววิ่งไปทางไร่แอปเปิ้ลเพื่อเริ่มเก็บเกี่ยวแอปเปิ้ลทันที แต่แอปเปิ้ลแจ็ดเบรกตัวแล้วหันมามองยายสมิธเมื่อเห็นบางอย่างไม่อยู่ในสวนหรือบริเวณบ้าน
"จะว่าไป...คุณยายเห็นบิ้กแม็กมั้ยคะ? หนูไม่พี่เขาตั้งแต่เช้าเลย? -_-"
"อ้อ เห็นว่าจะออกไปซ่อมรั้วให้ฟลัตเตอร์ชายน่ะนะ อาจจะกลับมาช้าหน่อย" ยายสมิธพูดพร้อมวางจดหมายที่พึ่งอ่านจบลงบนตักแล้วยืนแขนไปหยิบพายแอปเปิ้ลมากินอย่างสบายใจ
"โธ่∼ ในเวลาสำคัญแบบดันไม่อยู่ซะได้ ไอ้พี่บ้าาาาาาาาาา!!! []"
ณ บ้านหลังหนึ่งที่ชานเมืองโพนี่วิลล์ใกล้ป่าเอเวอร์ฟรี
ที่นี่เป็นทั้งที่พัก ที่ให้อาหารกับสถานที่ที่รักษาของเหล่าสัตว์น้อยใหญ่ที่ต่างมาร่วมตัวกันมากมาย โดยทุกตัวจะมาหาโพนี่ที่ให้ความสำคัญกับเข้าใจภาษาสัตว์ทุกตัวเลยเป็นที่ไว้ใจถึงที่สุด
"ฮึบ!" ที่หลังบ้านมีเอิร์ธโพนี่ตัวใหญ่ๆสีแดงเข้ม ผมและหางเป็นสีส้มอ่อน ที่คอสวมที่ลากเกวียนอันใหญ่ มิวคี้มาร์ครูปแอปเปิ้ลสีเขียวผ่าครึ่ง กำลังใช้กีบกดเสาให้จมดินอย่างง่ายดายก่อนจะหยิบไม้มาตอกลงไปให้กลายเป็นรั้ว
เขาคือโพนี่แข็งแรงรองลงมาและเป็นพี่ชายของแอปเปิ้ลแจ็ค เขามีชื่อบิ๊กแม็กอินทอชหรือบิ๊กแม็ก
"ขอบคุณนะคะ ที่อุตส่าห์มาทำรั้วให้ บิ๊กแม็ก"
"..." บิ๊กแม็กเงยหน้าขึ้นแล้วหันมามองตามเสียงที่ดังมาจากข้างหลัง เขาเจอเพกาซัสโพนี่สาวตัวสีเหลืองอมขาว ผมและหางเป็นสีชมพู่สดใส คิวตี้มาร์ครูปผีเสื้อสายตัว ยืนอยู่ข้างหลังด้วยรอยยิ้มสดใสพร้อมลูกหมูสี่ถึงห้าตัวยืนประกบอยู่ข้างๆ
เธอคือโพนี่ที่สามารถคุยกับสัตว์ได้ทุกชนิดและเป็นคนที่ใจดีและเมตตา เธอชื่อฟลัตเตอร์ชาย
"ไม่เป็นไร" บิ๊กแม็กพูดเบาๆแล้วหันกลับมาลองขยับไม้ที่พึ่งปักลงไปดูว่ามันแข็งแรงพอมั้ย
"เอาล่ะจ้ะ บ้านใหม่ของพวกเธอเสร็จแล้วนะ เข้าไปเลย" ฟลัตเตอร์ชายเดินไปเปิดประตูรั้วใหม่ให้เหล่าหมูวิ่งเข้าไป เธอปิดประตูรั้วเมื่อหมูตัวสุดท้ายเข้าไป
"งั้นเธอจะดื่มอะไรก่อนมั้ยคะ? เดี๋ยวไปเอามาให้ ^-^"
"น้ำเปล่า" บิ้กแม็กพูดสั้นๆแล้วหันกลับมาเก็บกล่องเครื่องมือพกมาที่แทบจะไม่ได้ใช้อย่างช้าๆ ฟลัตเตอร์ชายได้ยินก็พยักหน้าเบาๆแล้วเดินหายเข้าไปในบ้านซักพักนึงก่อนจะเดินกลับมาพร้อมน้ำแก้วนึงจากนั้นก็ยื่นให้บิ๊กแม็ก
"ได้แล้วค่ะ"
"ขอบใจ" บิ๊กแม็กรับแก้วมาแล้วดื่มจนหมดจากนั้นก็ยื่นแก้วคืนให้ฟลัตเตอร์ชาย เธอยื่นกีบขึ้นเพื่อรับแก้วแต่ในระหว่างที่กำลังจะรับแก้วจากเขานั้นเอง จู่ๆก็มีบางอย่างมาชนขาเธออย่างแรงจนล้มลงไปทับบิ๊กแม็กไปแบบไม่ทันตั้งตัว
"ว้าย!/เฮ้ย!" ทั้งสองอุทานขึ้นอย่างตกใจบิ๊กแม็กรีบคว้าตัวฟลัตเตอร์ขายไว้แล้วใช้ตัวรองรับเธอไว้
"เจ็บๆ แองเจิล? จู่ๆเธอมาชนขาฉันทำมั้ยเนี่ย?" ฟลัตเตอร์ชายหันไปด้านหลังแล้วเจอกระต่ายตัวโปรดของเธอที่ชื่อแองเจิลโดยมีข้างๆตัวมีกระต่ายอีกตัวยืนอยู่ใกล้ๆด้วยความเป็นห่วง แองเจิ้ลไม่ได้สนใจฟลัตเตอร์ชายเลยซักนิดเอาแต่คุยกับกระต่ายตัวนั้นอย่างเดียว ฟลัตเตอร์ชายเห็นว่าแองเจิลไม่สนใจก็ถอนหายใจเบาๆแล้วหันมาไปมองบิ๊กแม็กที่นอนอยู่ใต้ตัว
"ไม่เป็นไรใช่มั้ยคะ บิ๊ก-" ฟลัตเตอร์ชายกำลังจะถามก็ชะงักกึกเมื่อหันกลับมาแล้วจมูกของเธอและบิ๊กแม็กก็ชนกัน จากนั้นสายตาของทั้งสองก็ประสานกัน บิ๊กแม็กที่ถูกฟลัตเตอร์ชายทับอยู่มองลึกลงไปในดวงตาสีเขียวน้ำทะเลนั้นด้วยความหลงใหลบวกกับแสงอาทิตย์ลอยมาอยู่หลังหัวฟลัตเตอร์ชายพอดจึงทำให้หัวใจของบิ๊กแม็กเต้นรั่ว ส่วนฟลัตเตอร์ชายเองก็ไม่ต่างกันแทนที่จะลุกขึ้นเธอกลับยังนอนทับบิ๊กแม็กไว้พร้อมกับมองลึกลงไปในดวงตาสีเขียวอ่อนที่ดูอ่อนโยนด้วยความรู้สึกหลงใหลเช่นกัน
"เอ่อ...ฟลัตเตอร์ชายเธอช่วยลุกไปก่อนได้มั้ย? =///="
"?!" ฟลัตเตอร์ชายสะดุ้งแล้วกลางปีกออกจากนั้นก็สะบัดปีกสองสามครั้งแล้วบินขึ้นมายืนอยู่ข้างๆแทน บิ๊กแม็กก็รีบลุกขึ้นแล้วเดินไปหยิบกล่องเครื่องมือของตัวเองโดยพยายามจะไม่มองฟลัตเตอร์ชายสุดๆ
"จะ..จะกลับแล้ว ใช่มั้ย -///-"
"e...yup =///=" บิ๊กแม็กตอบเสร็จก็รีบวิ่งออกไปจากบริเวณบ้านของฟลัตเตอร์ชายทันทีพร้อมใบหน้าแดงแปร๋ด ส่วนฟลัตเตอร์ชายยังคงยืนอยู่ที่เดิมแล้วทิ้งตัวนั่งลงพร้อมยกมือกุมหน้าตัวเองที่ตอนนี้กำลังแดงจัดเหมือนแอปเปิ้ลลูกหนึ่งเลยทีเดียว
"หัวใจฉัน/หัวใจเราเป็นอะไรไปแล้วละเนี่ย >///< =///="
ความคิดเห็น