คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #14 : ตอนที่ 7 เพื่อนสนิทจากกริฟฟินสโตน [1/2] (Rewrite)
เช้าวันต่อมา
“อืม~” บิ๊กแม็กลืมตาขึ้นช้าๆอย่างงัวเงียก่อนจะลุกขึ้นนั่งแล้วหันไปมองรอบๆจากนั้นก็ทำท่าบิดขี้เกียจคลายความเมื่อยแล้วเขากำลังจะลุกขึ้นจากโซฟาแต่สายตาก็ไปสะดุดกับของบนโต๊ะเข้า สิ่งที่อยู่บนโต๊ะก็คือแก้วไม้ที่ใส่น้ำแอปเปิ้ลอุ่นๆและข้างๆแก้วมีขวดน้ำผึ้งกับช้อนวางไว้ ถัดมาคือจานใส่ขนมปังปิ้งที่ยังร้อนๆและข้างๆจานมีขวดแยมแอปเปิ้ลกับมีดที่ไม่คมมากนักวางอยู่ใกล้ๆ
"..." บิ๊กแม็กมองอาหารบนโต๊ะด้วยสายตานิ่งๆสักพักเขาก็อมยิ้มให้กับอาหารที่อยู่ตรงหน้าก่อนที่สายตาจะเหล่ไปเห็นกระดาษโน๊ตสีเหลืองที่แปะไว้บนขวดแยม เขายื่นกีบเท้าไปหยิบโน๊ตขึ้นมาอ่านอย่างสงสัย เนื้อหาในโน๊ตมีอยู่ว่า
‘ถึงบิ๊กแม็ก ขอโทษนะที่ฉันไม่ได้ปลุกเธอ พอดีวันนี้มีผู้ป่วยฉุกเฉินเข้ามาฉันก็เลยต้องรีบออกไป...แต่ฉันก็ทำข้าวเช้าทิ้งไว้ให้แล้วนะ ถึงมันจะน้อยไปหน่อยก็เถอะ ฉันไม่รู้ว่าเธอชอบน้ำแอปเปิ้ลแบบใส่น้ำผึ้งหรือไม่ใส่ก็เลยวางไว้ให้ ทานให้อร่อยนะ จากฟลัตเตอร์ชาย’
“...หึ” บิ๊กแม็กอ่านจบจากที่อมยิ้มอยู่ก็เปลี่ยนเป็นยิ้มกว้างออกมาแบบปิดไม่มิดให้กับข้อความในโน๊ตของฟลัตเตอร์ด้วยสายตาขำๆและมีความสุข เขามองอาหารตรงหน้าก็จะทำหน้าปิ๊งไอเดียบางอย่างก่อนจะก้มตัวลงไปเปิดลิ้นชักใต้โต๊ะแล้วหาบางอย่าง สักพักเขาก็เอาปากกาขนนกและขวดหมึกขึ้นมาวางไว้บนโต๊ะจากนั้นก็ผลิกกระดาษโน๊ตด้านหลังขึ้นมาแล้วเขียนบางอย่างลงไป สักพักบิ๊กแม็กเขียนเสร็จก็แปะไว้บนโต๊ะก่อนจะเก็บปากกากับขวดหมึกกลับเข้าลิ้นชักแล้วเริ่มกินมื้อเช้า
"...อร่อยแฮะ"
ณ โรงพยาบาลเขตชายแดนระหว่างแคนเทอร์ล็อตกับคริสตัลเอ็มไพร์
หลังจากที่ฟลัตเตอร์ชายมาถึงก็เดินตรงเข้าห้องผ่าตัดไปเมื่อชั่วโมงก่อนที่หน้านี้ ที่หน้าห้องผ่าตัดมียูนิคอร์โพนี่สาวตัวนึงที่นั่งรออยู่หน้าห้องแล้วค่อยมองที่ประตูด้วยสายตาเป็นห่วงโพนี่ที่อยู่ข้างในห้อง จากนั้นไม่นานฟลัตเตอร์ชายก็เดินออกมาจากห้องผ่าตัดพร้อมเหล่าโพนี่พยาบาลที่เป็นผู้ช่วย ยูนิคอร์โพนี่สาวเห็นฟลัตเตอร์ชายเธอรีบวิ่งเข้าไปหาแทบจะทันทีด้วยสีหน้ากังวล
“เขาเป็นไงบ้างคะ? คุณหมอ?” ยูนิคอร์โพนี่สาวมองฟลัตเตอร์ชายด้วยสีหน้ากังวลและคาดหวังว่าคนไข้ที่อยู่ในห้องผ่าตัดจะปลอดภัยไม่งั้น....เธอคงไม่อยากจะมีชีวิตอยู่ต่อไปอีกแล้วถ้าไม่มีเขา ฟลัตเตอร์ชายถอดผ้าปิดปากออกก่อนจะยิ้มให้ยูนิคอร์โพนี่สาวอย่างอ่อนโยนปนยินดี
“ไม่ต้องห่วงนะคะ เขาปลอดภัยแล้ว”
"จริงเหรอคะ!?" ยูนิคอร์โพนี่สาวได้ยินอย่างนั้นก็ยกมือขึ้นมากุมปากแล้วน้ำตาที่พยายามกันไว้ก็ค่อยๆไหลออกมาอย่างดีใจและโล่งใจ ฟลัตเตอร์ชายพยักหน้าช้าๆก่อนเดินผ่านยูนิคอร์โพนี่สาวที่กำลังร้องไห้ไปแบบเฉยๆแต่เธอก็ดีใจที่คนไข้ปลอดภัยเหมือนกันและเธอไม่อยากจะรบกวนตอนที่โพนี่ตัวนั้นกำลังร้องไห้เพื่อปลดปล่อยความรู้สึกยินดีและที่เก็บกดไว้ออกมา
“ผ่าตัดเรียบร้อยดีสินะ? ฟลัตเตอร์ชาย?” ฟลัตเตอร์ชายหันไปมองตามเสียงอย่างแปลกใจแล้วเจอเรนโบว์แดชที่กำลังยืนรอเธอด้วยยิ้มนิดๆอยู่ตรงมุมทางเลี้ยวห้องผ่าตัด
“เรนโบว์? เธอมาทำอะไรที่นี่?”
“ฉันว่าเธอรู้นะ....ว่าฉันมาทำไม?”
“อย่าบอกนะ......เธอใช้ยาหมดอีกแล้ว?”
“อืม.....ทำนองนั้น” เรนโบว์แดชยิ้มแห้งๆก่อนจะเดินมายืนข้างๆฟลัตเตอร์ชายแล้วทั้งสองสาวก็เดินตรงไปที่ห้องพักส่วนตัวของฟลัตเตอร์ชาย หมอที่เป็นค่อยมอบยาให้เรนโบว์แดชก็คือฟลัตเตอร์ชาย เธอเป็นหมอตัวเดียวที่เรนโบว์แดชไว้ใจและเป็นตัวเดียวจะเก็บความลับเรื่องอาการของเธอไว้ได้ดีที่สุด
“อาการหนักขึ้นอีกแล้วงั้นเหรอ?” ฟลัตเตอร์ชายเหล่มองเรนโบว์แดชด้วยสีหน้ากังวล นับวันอาการของเพื่อนสาวตัวข้างๆจะยิ่งหนักขึ้นทุกวันจนทำให้เธออดกังวลไม่ได้ ผิดกับเรนโบว์แดชที่ไม่ได้ทุกข์ร้อนอะไรกับอาการของเธอเองเลย
“ก็....ไม่หนักมากเท่าไร” เรนโบว์แดชหันหน้ามามองฟลัตเตอร์ชายด้วยสีหน้าไม่ทุกข์ร้อนใดๆ
“เรนโบว์......ฉันบอกเธอแล้วใช้ไหมว่าให้เลิกใช้ท่าอันตรายนั้นซะ มันอันตรายกับตัวเธอเองนะ”
“ฉันรู้น่า...แต่มันทำไม่ได้นะสิ”
“ทำไมเธอถึงทำไม่ได้ละ? มีเรื่องอะไรที่เธอต้องใช้ท่านั้นงั้นเหรอ?”
“เพราะว่า......” จู่ๆเรนโบว์แดชก็เงียบไปเฉยๆแล้วหันหน้าหนีไปทางอื่น เธอไม่อยากจะบอกเลยว่าที่ไม่เลิกใช้ท่านั้นก็เพราะอยากเอามันไปโชว์ให้น้องสาวได้เห็นว่าเธอเจ๋งแค่ไหนและที่สำคัญ...มันอาจจะเป็นสิ่งที่จะช่วยชีวิตของเพื่อนๆเธอในอนาคตก็ได้ ฟลัตเตอร์ชายเห็นท่าทางเรนโบว์แดชก่อนก็ถอนหายใจอย่างเหนื่อยใจกับนิสัยดื้อรั้นของอีกฝ่าย เธอไม่เข้าใจจริงๆว่าเพื่อนของเธอกำลังคิดอะไรอยู่กันแน่?
ไม่นานนักโพนี่สาวสองตัวก็เดินมาถึงห้องพัก ฟลัตเตอร์ชายเปิดประตูก่อนที่สองสาวเพกาซัสจะเดินเข้าไปในห้องสีขาวสะอาดมีโซฟาขนาดใหญ่วางอยู่กลางห้องสองตัว ข้างหลังโซฟาทางซ้ายมีโต๊ะทำงานตัวเล็กๆถัดมาหน่อยก็เป็นตู้เก็บเอกสารของคนไข้ทุกตัวเธอรักษาอยู่ ส่วนข้างหลังโซฟาด้านขวามีตู้เก็บยาชนิดต่างๆ เรนโบว์แดชเดินไปพิงกำแพงแล้วหันไปมองนอกหน้าต่างด้วยสายตานิ่งๆโดยไม่คิดอะไร ส่วนฟลัตเตอร์ชายก็เดินไปนั่งที่โต๊ะทำงานแล้วเปิดลิ้นชักหายาให้เรนโบว์แดช
“อ๊ะ นี้” ฟลัตเตอร์ชายยื่นขวดยาเล็กๆให้เรนโบว์แดช ข้างขวดมีตัวอักษรเขียนไว้ว่า “ยาบรรเทาอาการปวดแบบอันตรายถึงชีวิต” เรนโบว์แดชเดินมาหยิบแล้วมองด้วยสายตาสงสัยบางอย่าง
“ทำไมคราวนี้ถึงให้ยาน้อยจัง?”
“ก็อย่างที่เธออ่านข้างขวดนั้นแหละ....มันอันตรายถึงชีวิตก็เลยให้ได้แค่นั้นแหละ” ฟลัตเตอร์ชายพูดจบก็หันไปเขียนเอกสารผู้ป่วยที่เธอพึ่งผ่าตัดไป เรนโบว์แดชมองขวดในมือสักพักเธอก็เก็บเอาไว้ในหางแล้วเดินไปนั่งที่โซฟาด้วยท่าทางสบายๆในแบบของเธอก่อน
"..." ฟลัตเตอร์ชายหันมามองเรนโบว์แดชด้วยสายตาแปลกใจบางอย่างเล็กน้อย เรนโบว์แดชพอโดนฟลัตเตอร์ชายจ้องแบบนั้นก็เริ่มรู้สึกอึดอัดยังไงชอบกลจึงหันมามองด้วยสายตาสงสัย
“ทำไมเธอต้องมองฉันแบบนั้น? =-=?”
“ก็....ปกติพอเธอได้ยาแล้วก็จะรีบพุ่งออกจากห้องไปเลยนี่น่า...แต่หนคราวนี้เธอถึงยังนั่งอยู่ที่นี่ละ?” ฟลัตเตอร์ชายหมุนเก้าอี้หันมาทางเรนโบว์แดชด้วยแว่วตาสงสัย เรนโบว์ได้ยินแบบนั้นสีหน้าเธอก็เปลี่ยนไปเป็นจริงจังแทบจะทันที
“ที่จริงก่อนจะไป......ฉันมีเรื่องอยากจะขอร้องเธอหน่อย”
“ขอร้องฉัน?”
“.....เรื่องที่ฉันอยากจะขอร้องคือ......”
"!!!" ฟลัตเตอร์ชายถึงตกใจกับสิ่งที่เรนโบว์แดชขอร้องแต่สักพักสีหน้าเธอก็กลับมาเป็นปกติก่อนจะหลับตาลงแล้วถอนหายใจเบาๆ
“อืม....เดี๋ยวฉันจะจัดการให้”
“ขอบใจเธอมาก.....งั้นฉันไปก่อนละ” เรนโบว์แดชลุกขึ้นแล้วเดินออกจากห้องพักก่อนจะปิดประตูลง ฟลัตเตอร์ชายถอดแว่นออกช้าๆแล้วมองเรนโบว์แดชที่พึ่งออกไปจากห้องด้วยสายตากังวล
“หวังว่าสิ่งที่เธอขอมา.....มันไม่ได้ใช้นะ เรนโบว์”
ณ ร้าน Carousel Boutique
“แรรีตี้ๆ ตื่นเถอะ นี้เช้าแล้วนะ ตื่นสิ”
"อืม ขออีก 5 นาทีนะ สไปค์ _ _ ZZZ" แรรีตี้ผลิกตัวไปอีกด้านด้วยสีหน้ารำคาญนิดๆ สไปค์มองแรรีตี้ด้วยสายตาหนักใจ เขาก็รู้หรอกว่าเมื่อคืนเธอใช้พลังงานไปเยอะพอสมควรแต่จะให้นอนจนถึงบ่ายก็ไม่ได้เหมือนกัน...เขาจึงต้องงัดไม้เด็ดขึ้นมา! เขาเลื่อนหน้ามาใกล้หูแรรีตี้ช้าๆก่อนจะกระซิบด้วยเสียงเซ็กซี่ว่า
"ถ้าเธอยังไม่ตื่น...ฉันจะกดเธอเดี๋ยวนี้แหละ"
“!!!” แรรีตี้สะดุ้งแล้วเด้นขึ้นมานั่งอย่างตื่นตกใจพร้อมหน้าแดงแปร๋ดและหายงัวไปอย่างถาวร สไปค์ยิ้มอย่างพอใจที่ไม้เด็ดของเขาได้ผลก่อนจะลุกขึ้นเดินไปเอาถาดมาว่างไว้ตรงหน้าแรรีตี้ บนถาดมีน้ำเกลือแร่หนึ่งแก้วกับสลัดผลไม้
“ขะ ขอบใจนะ สไปค์” แรรีตี้รับถาดอาหารมาโดยพยายามไม่มองหน้าสไปค์ก่อนจะค่อยๆกินอาหารช้าๆ สไปค์มองท่าทางจองแรรีตี้สักพักก่อนจะเดินออกไปเก็บกวาดเศษซากกำแพงและเพดานจะเหตุการณ์เมื่อคืนก่อน
"ถ้ายังหิวอีกก็บอกนะ”
“อืม” แรรีตี้พยักหน้าช้าๆก่อนจะส่งยิ้มบางๆให้สไปค์ สไปค์มองรอยยิ้มของแรรีตี้ด้วยสายตาอ่อนโยนก่อนจะหันกลับไปทำความสะอาดต่อ
“สไปค์ อีกเดียวฉันจะออกไปข้างนอกนะ”
“จะไปที่ไหน? ให้ฉันไปเป็นเพื่อนมั้ย?”
“ไม่ต้องหรอก แค่นี้เอง ฉันไปคนเดียวได้น่า”
“แต่.....” สไปค์พูดไม่ทันจบก็ถูกแรรีตี้ที่ลุกขึ้นจากเตียงแล้วเดินมาหาเขาจากนั้นก็เอากีบเท้าแตะริมฝีปากเขาเบาๆไว้พร้อมส่ายหน้าช้าๆด้วยรอยยิ้มบางๆเพื่อแสดงให้สไปค์เห็นว่าเธอไม่เป็นอะไร สไปค์เห็นรอยยิ้มบางๆของแรรีตี้แล้วเขาก็ถอนหายใจอย่างช่วยไม่ได้ เขาพยักหน้ายอมให้เธอไปแต่ในใจเขาก็ยังอดเป็นห่วงเธอไม่ได้อยู่ดี แรรีตี้ยิ้มบางๆอย่างขอบคุณที่เขายอมให้เธอก่อนจะเอากีบเท้าออกจากริมฝีปากแล้วกลับมากินอาหารที่เหลืออีกแค่สองสามคำในจานด้วยท่าทางที่สดใสเหมือนทุกครั้ง
ณ ไร่สวีทแอปเปิ้ลเอเคอร์
“โอ๊ยๆๆๆๆ เจ็บๆๆๆๆ มันเจ็บนะคะ!! คุณยาย!!! Q-Q” แอปเปิ้ลแจ็คหันไปมองคุณยายสมิธที่กำลังเปลี่ยนผ้าพันแผลให้เธอใหม่ด้วยสีหน้าเหมือนกำลังจะร้องไห้เพราะดูเหมือนคุณยายสมิธจะพันให้เธอแน่นไปหน่อย
“แกช่วยหยุดร้องโวยวายซะทีจะได้มั้ย? มันทำฉันเสียสมาธิ” คุณยายสมิธมองแอปเปิ้ลแจ็คที่น้ำตาคลอบำด้วยสายตารำคาญนิดๆแล้วดึงผ้าพันแผลแรงๆหนึ่งที
"กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด!!!!!! หนูเจ็บน้าาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา T[]T" แอปเปิ้ลแจ็คส่งเสียงร้องลั่นบ้านด้วยความรู้สึกเจ็บที่แขนแบบสุดๆพร้อมน้ำตาไหลนิดๆ
“เฮ้อ~ แล้ววันนี้พี่จะทำงานได้ไหวมั้ยเนี่ย?” แอปเปิ้ลบลูมที่นั่งอยู่ใกล้ๆถอนหายใจเบาๆก่อนจะหันมามองพี่สาวของตัวเองด้วยสายตาเป็นห่วงปนกลุ่มใจที่พี่สาวของเธอมักจะมีแผลหรือไม่ก็กระดูกหักสองสามท่อนกลับมาแทบทุกครั้ง
“ไม่เป็นไร.....พี่ทำไหวอยู่แล้วน่า ^-^” แอปเปิ้ลแจ็คหันมายิ้มให้แอปเปิ้ลบลูมอย่างไม่รู้สึกกังวลอะไรกับแขนของตัวเองเลยสักนิด คุณยายสมิธพันผ้ารอบแขนเสร็จ เธอก็หันไปหยิบผ้าสามเหลี่ยมผืนหนึ่งแล้วหันกลับมาเริ่มการรักษาแบบ Arm sling (การคล้องแขน )
“เอาละ เสร็จแล้ว” คุณยายสมิธมองแขนของแอปเปิ้ลแจ็คอย่างพอใจเล็กน้อยแล้วเธอก็หันไปเก็บอุปกรณ์รักษาทั้งหมดใส่กล่อง
“ทำกี่ทีๆก็ยังรู้สึกไม่ชอบอยู่ดีแฮะ” แอปเปิ้ลแจ็คมองแขนของตัวเองด้วยความรู้สึกอึดอัดและไม่ค่อยชอบเท่าไรเพราะมันทำอะไรไม่สะดวกเลยสักนิด แอปเปิ้ลบลูมเห็นว่าแอปเปิ้ลแจ็คไม่เป็นอะไรแล้วเธอจึงหยิบกระเป๋าใบเล็กๆสีแดงรูปแอปเปิ้ลก่อนจะเดินไปที่ประตู
“จะไปหาสกูตาลูเหรอ?”
“ใช่ค่ะ ทำไมเหรอ?”
“เปล่า.....พี่จะไปข้างนอกพอดี เดี๋ยวพี่จะไปส่งนะ” แอปเปิ้ลแจ็คพูดจบก็ลุกขึ้นจากโซฟาแล้วเดินกะเผลกผ่านแอปเปิ้ลบลูมออกไปข้างนอกทันที แอปเปิ้ลบลูมมองด้วยสายตาสงสัยแต่สักพักก็เลิกสนใจแล้ววิ่งตามแอปเปิ้ลแจ็คที่กำลังเดินห่างออกไปติดๆ
ณ หน้าปราสารปราสารสปาร์เคิล
หลังจากกินอาหารเช้าเสร็จแรรีตี้ก็เดินออกมาจากร้านแล้วตรงมาที่ปราสารของทไวไลท์ทันที เธอมาที่ปราสารตั้งแต่เช้านี้ก็เพราะมาหาทไวไลท์เพื่อจะเอาผลึกแห่งความปรองดองอันใหม่มาแทนอันเก่าที่เเธอทำแตกไปตั้งแต่เมื่อคืน
[แตกเพราะอะไร ไปอ่านตอนเสริมดูครับ by ไรเตอร์]
“หืม? นั้นเรนโบว์นี่?” แรรีตี้เดินมาเกือบถึงหน้าปราสารเธอก็เห็นเรนโบว์แดชกำลังบินกอดอกอยู่หน้าประตูแถมยังเอาแต่เงยหน้ามองหน้าต่างห้องทไวไลท์ด้วยสีหน้าตึงเครียดแปลกๆ
‘ทำไมต้องทำหน้าเครียดแบบนั้นนะ?’ แรรีตี้แอบมองสีหน้าของเรนโบว์แดชจากด้านล่างด้วยความสงสัยว่าอะไรทำไมให้เพื่อนสาวทอมบอยตัวดีของเธอที่แทบไม่เคยเครียดเรื่องอะไรเลยแท้ๆกลับมาทำหน้าเครียดแบบนี้...แบบนี้มันต้องมีอะไรไม่ชอบมาพากลแน่ๆ
“เรนโบว์แดช!”
“หืม? อ้าว แรรีตี้? มาตั้งแต่เมื่อไรเนี่ย?” เรนโบว์แดชหันมามองแรรีตี้ด้วยสีหน้าตกใจเล็กน้อยก่อนจะบินลงมายืนตรงแรรีตี้ด้วยท่าทางสบายๆผิดกับที่เธอทำหน้าตึงเครียดเมื่อกี๊นี้
“เรนโบว์....เธอมาทำอะไรที่นี่เหรอ?”
“อ้อ ฉันแค่มาเอาผลึกอันใหม่จากทไวไลท์ก็เท่านั้นแหละ แล้วเธอละ....มาทำอะไรที่นี่?”
“ฉันก็เหมือนกับเธอนั้นแหละ” แรรีตี้มองหน้าเรนโบว์แดชด้วยสายตาจับผิดปนสงสัย เรนโบว์แดชพยักหน้าเข้าใจแล้วหันหลังเดินไปที่ประตูปราสารโดยที่เธอไม่ได้สังเกตเห็นสายตาของแรรีตี้เลยสักนิด
‘ที่เรนโบว์ทำหน้าตึงเครียดแบบนั้น......มันต้องมีอะไรแน่ๆ’ แรรีตี้มองแผ่นหลังของเรนโบว์แดชด้วยสายตาจับผิดปนสงสัยยิ่งกว่าเดิม แรรีตี้มองอยู่สักพักแล้วก็เดินตามหลังเรนโบว์แดชไปด้วยความสงสัยที่เริ่มจะมากขึ้นๆทุกที
“เรนโบว์....เมื่อกี๊นี้เธ-”
“อ้าว? เธอสองตัว? มาทำอะไรที่นี่กันละเนี่ย??” แรรีตี้พูดยังไม่ทันจบก็มีเสียงโพนี่โผล่มาขัดสักก่อน เธอกับเรนโบว์แดชก็หันไปมองข้างหลังก็เจอแอปเปิ้ลแจ็คกำลังเดินตรงมาทางพวกเธอด้วยสีหน้าแปลกใจ
“แอปเปิ้ลแจ็ค? เธอมาทำอะไรที่นี่?” เรนโบว์แดชมองแอปเปิ้ลแจ็คด้วยสายตาสงสัยแต่ก็พอเห็นขาหน้าของอีกฝ่ายก็พอจะเดาออกนิดหน่อยแล้วละ
“ฉันมาเอาผลึกอันใหม่นะ” แอปเปิ้ลแจ็คเดินกะเผลกเข้ามาหาทั้งสองคนอย่างยากลำบากเล็กน้อย แรรีตี้กับเรนโบว์แดชต่างมองแอปเปิ้ลแจ็คด้วยสายตาเห็นใจและสงสารนิดๆ
“พวกเธอเองก็มาเพราะเหตุผลนี้เหมือนกันใช่มั้ย?”
“อือ / ใช้”
“งั้นพวกเราก็เข้าไปข้างในกันเถอะ” แอปเปิ้ลแจ็คพูดจบเธอก็เดินกะเผลกผ่านแรรีตี้กับเรนโบว์แดชไปที่ประตูด้วยท่าทางสบายๆปนลำบากเล็กๆน้อยๆ เรนโบว์แดชเดินตามหลังแอปเปิ้ลแจ็คไปด้วยท่าทางขบขำของเพื่อนสาวตรงหน้า ส่วนแรรีตี้ยืนมองหลังของเรนโบว์แดชด้วยแว่วตาสงสัยสุดๆ เรนโบว์แดชหยุดเดินแล้วหันกลับมามองแรรีตี้ด้วยสายตาสงสัยเพราะถูกแรรีตี้เอาแต่จ้องเธอมาตั้งแต่เมื่อกี๊แล้ว ตอนแรกๆเธอก็ไม่รู้สึกอะไรหรอแต่พอถูกจ้องนานๆเข้าเธอก็รู้สึกอึดอัดยังไงไม่รู้
“มีอะไรเหรอ? แรรีตี้?”
“......เปล่า ไม่มีอะไรหรอก ^-^” แรรีตี้ส่ายหน้าช้าๆก่อนจะยิ้มสดใสให้เรนโบว์แดชแล้วเดินผ่านสาวทอมบอยไปเฉยๆเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ที่แรรีตี้ไม่ถามเรนโบว์แดชจต่อก็เพราะว่าคิดว่าถ้าเข้าในห้องของทไวไลท์ก็อาจจะรู้ก็ได้ว่าทำไมเรนโบว์แดชถึงทำหน้าเครียดอย่างนั้น แต่ถ้าไม่เจอ...เธอก็จะสืบหาความจริงเอง!!!
“อะไรของยัยนั้นนะ?...ช่างเถอะ” เรนโบว์แดชมองแรรีตี้อย่างงงๆแต่สักพักก็ไหล่แล้วบินตามแรรีตี้ที่เดินเข้าปราสารไปไกลแล้ว
หลังจากนั้นไม่นานโพนี่สาวทั้งสามก็เดินมาถึงหน้าห้องทำงานของทไวไลท์ แรรีตี้ยืนมองประตูบานใหญ่ตรงหน้าสักพักก็ยื่นกีบเท้าหน้าไปเพื่อจะเคาะประตูเพื่อขออนุณาติเจ้าของห้องตามมารยาท
ควับ
“เดี๋ยวก่อน แรรีตี้” จู่ๆเรนโบว์แดชพุ่งมาตคว้ากีบเท้าแรรีตี้ไว้ก่อนแล้วมองเธอด้วยสายตาเชิงห้าม
“อะไรเหรอ? เรนโบว์?” แรรีตี้มองเรนโบว์แดชด้วยสายตาสงสัยก่อนจะลดมือลง แอปเปิ้ลแจ็คก็มองเรนโบว์แดชด้วยสายตาแบบเดียวกัน
“ฉันเปิดเอง” เรนโบว์แดชดันแรรีตี้ถอยออกไปจากประตูตรงหน้าแล้วเธอมายืนแทนที แรรีตี้ที่ถูกดันตัวออกมายืนข้างๆแอปเปิ้ลแจ็คก็มองทั้ด้วยสงสัยและไม่เข้าใจว่ายัยทอมบอยเพื่อนเธอกำลังจะทำอะไร
ก๊อกๆ
“ใครนะ?”
“ฉันเอง.....เรนโบว์แดช”
“เรนโบว์เหรอ? เข้ามาสิ”
ปัง!! พอทไวไลท์เสียงเงียบลงประตูห้องก็เปิดออกอย่างแรง ฟุบ! จากนั้นก็มีบางอย่างพุ่งออกมาจากในห้องพุ่งตรงเข้ามาหาเรนโบว์แดชด้วยความเร็วสูงจนพวกแรรีตี้มองไม่ออกว่าสิ่งที่พุ่งมานั้นคืออะไรกัน
เปรี้ยง!!!! สิ่งนั้นพุ่งเข้าชนเรนโบว์แดชเข้าอย่างจังแบบไม่ให้เธอทันตัวจากนั้นก็เกิดฝุ่นควันไปทั่วบริเวณนั้น แรรีตี้และแอปเปิ้ลแจ็คต่างมองฝุ่นควันด้วยสีหน้าตกใจราวกับเห็นผี
“เรนโบว์!!!”
“อย่า!! AJ!!” แอปเปิ้ลแจ็คหยิบสนับมือออกมาส่วมแล้วทำท่าจะวิ่งเข้าไปในฝุ่นควันนั้นแต่ถูกแรรีตี้ใช้เวทย์มนต์หยุดไว้ก่อน
“ปล่อยฉัน!! แร!!” แอปเปิ้ลแจ็คพยายามขยับให้หลุดจากเวทย์ของแรรีตี้แล้วมองไปทางฝุ่นควันด้วยความรู้เป็นห่วงเรนโบว์แดช เธอค่อยๆก้าวไปทีละก้าว ทีละก้าว แรรีตี้ที่ถูกแอปเปิ้ลแจ็คลากไปด้วยก็พยายามใช้พลังเวทย์ทั้งหมดที่มีดึงตัวแอปเปิ้ลแจ็คให้นานที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ที่สุด
ระหว่างที่ทั้งสองสาวกำลังดึงกันไปดึงกันมาอยู่ฝุ่นควันก็จางลงจนสามารถมองเห็นสิ่งที่อยู่ข้างใน สองสาวหยุดกึกแล้วหันกลับไปมองทางนั้นแล้วต้องตกใจเมื่อพวกเธอเห็นเรนโบว์แดชยืนรับมัดของใครบางคน ไม่นานฝุ่นก็จางลงจนสองสาวก็มองเจ้าของหมัดได้อย่างชัดเจน
เจ้าของหมัดคือกริฟฟินสาวที่หน้าออกดูคล้ายๆทอมหน่อยๆ ตั้งแต่หัวถึงคอถูกปกคลุมไปด้วยขนนกสีขาวสะอาด ตั้งแต่ตัวถึงขาหลังและหางเป็นสีน้ำตาลอ่อน มีปีกสีน้ำตาลเข้ม ที่ขอบตาและปลายผมมีสีม่วงอ่อนจางๆปนอยู่เล็กน้อย พอสองสาวเห็นแล้วต้องตกใจยกกำลังสองเพราะเจ้าของมัดนั้นเป็นคนที่พวกเธอรู้จักดีโดยเฉพาะเรนโบว์แดชและพิงกี้พายด้วย
“สวัสดี ยัยขี้แพ้ =*=” กริฟฟินสาวมองเรนโบว์แดชด้วยแว่วตาหาเรื่องสุดๆ
กริฟฟินสาวตัวนี้คือสมัยเด็กของเพื่อนเรนโบว์แดชตั้งแต่อยู่ค่ายฝึกนักบินรุ่นเยาว์ ชื่อของเธอคือ กิลด้า
“สวัสดี ยัยหน้าเห่ย ^-^*” เรนโบว์แดชยิ้มให้กิลด้าอย่างกวนๆตามสไตล์ของเธอ กิลด้าก็ส่งยิ้มกวนๆให้เรนโบว์แดชเช่นกัน เธอดึงมือกลับแล้วหันหน้าไปมองแอปเปิ้ลแจ็คและแรรีตี้ด้วยสายตาที่เป็นมิตรกว่าเมื่อก่อนมาก
“สวัสดี แอปเปิ้ลแจ็ค แรรีตี้ ^-^”
“สวัสดีจ้า กิลด้า ^-^” แรรีตี้เดินเข้าไปจับมือกิลด้าแล้วส่งยิ้มให้เธออย่างเป็นมิตรจ แอปเปิ้ลแจ็คพยักหน้าเชิงทักทายจากนั้นเธอก็เดินกะเผลกไปหาเรนโบว์แดช
“เธอรู้อยู่แล้ว ใช้มั้ย?”
“ก็ทำนองนั้นแหละ ^-^”
ความคิดเห็น