ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    My Little Pony : Fluttershy x Big Macintosh

    ลำดับตอนที่ #13 : ตอนที่ 6 ค่ำคืนของสองโพนี่ (Rewrite)

    • อัปเดตล่าสุด 26 ส.ค. 60


    “.......”

    หลังที่ออกมาจากปราสารของทไวไลท์โพนี่ทั้งสองต่างเงียบไม่พูดกันเลยแม้แต่คำเดียว ฟลัตเตอร์ชายแอบเหล่มองบิ๊กแม็กที่เดินอยู่ข้างๆด้วยใบหน้าแดงอ่อนๆเธอรู้สึกดีใจเล็กๆที่ได้เดินคู่กับเขาถึงแม้เธอจะไม่เข้าใจก็เถอะว่าทำไมต้องดีใจด้วย ส่วนบิ๊กแม็กก็รู้ตัวว่าถูกมองอยู่แต่ก็ไม่พูดอะไรกลับกันเขาแอบดีใจเล็กๆซะด้วยซ้ำที่ถูกเธอมอง จริงๆเขาเองก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกับเธอเลย

    “เอ่อ....คือว่า....” ฟลัตเตอร์ชายหยุดเดินแล้วหันมามองบิ๊กแม็กด้วยสายตาที่จะสื่ออะไรบ้างอย่าง บิ๊กแม็กหยุดเดินแล้วหันมามองฟลัตเตอร์ชายด้วยสายตานิ่งๆ พอเขาหันมาเธอก็สะดุ้งเบาๆแล้วก้มหน้าซ่อนใบหน้าแดงๆของเธอจากสายตาเขา 

    'ระ เราเป็นอะไรไปเนี่ย?! พอเห็นเขาแล้วก็ใจเต็นแรงเฉยเลย >///<'

    "..." บิ๊กแม็กมองสักพักแล้วเห็นว่าฟลัตเตอร์ชายอายจนไม่กล้าพูดอะไร เขาก็ไม่เร่งให้เธอพูดหรือบังคับเธอกลับยืนรอให้ฟลัตเตอร์ชายถามเขานิ่งๆโดยไม่ทำอะไร...แต่เธอเอาแต่ก้มหน้าก้มตาไม่ยอมเงยหน้ามองเขาเลย นี่เขาหน้ากลัวขนาดนั้นเลยรึไง?

    “ขะ...ขะ...ขอบคุณนะ” ” ฟลัตเตอร์ชายก็เงยหน้ามองเขาด้วยสายตาขอบคุณจากใจจริงพร้อมใบหน้าที่กลายเป็นแดงแอปเปิ้ล บิ๊กแม็กกลับเอียงคอมองเธอด้วยสายตาสงสัยและไม่เข้าใจความหมายของคำขอบคุณของเธอ และอีกสิ่งหนึ่งที่ปรากฏในความคิดเขาคือ...เธอตอนนี้โคตรน่ารักเลย!!! อยากดึงเข้ามากอดเหลือเกิน!!!! 

    "บิ๊กแม็ก?"

    "!?" แต่ต้องรีบเก็บความคิดนั้นไว้ก่อนเมื่อร่างบางตรงหน้าเรียกชื่อเขาอย่างเป็นกังวล เพราะเธอเห็นว่าเขายืนนิ่งและไม่พูดอะไรมาสักพักแล้ว...หรือว่าเธอจะทำให้เขารำคาญกันนะ?

    “เรื่องอะไร?”

    “เรื่องที่เธอช่วยแก้ตัวให้ฉันกับทไวไลท์ไว้ไง...ขอบคุณนะ” พอได้คำตอบบิ๊กแม็กก็มองฟลัตเตอร์ชายด้วยสายตาแปลกใจ เขาไปพูดแก้ตัวเธอตอนไหนกัน? เขาหลับตาแล้วนึกย้อนกลับไปว่าเขาช่วยแก้ตัวให้เธอหรือทไวไลท์เมื่อไร แล้วบิ๊กแม็กก็นึกออกในตอนที่เขาช่วยพูดกับกรีนฮาร์ดเบลดให้เลิกสงสัยทไวไลท์ขณะที่เธอกำลังพาตัวฟลัตเตอร์ชายไปที่ห้อง

     “เธอรู้เรื่องนั้นได้ยังไง?”

    “คะ...คือว่า....บะ....แบทบอกฉันมาอีกทีนะ”

    “งั้นเหรอ” พูดจบโพนี่หนุ่มสาวทั้งสองก็เดินต่อไป คราวนี้ก็ยังพอมีพูดคุยกันบางไม่เงียบเหมือนก่อนหน้านี้แต่ส่วนมากฟลัตเตอร์ชายจะเป็นคนถามบิ๊กแม็กซะมากกว่า แต่เขาก็ตอบเธอบ้างไม่ตอบเธอบ้างด้วยท่าทางเย็นชาแต่ถึงแม้จะทำท่าทางเย็นชาใส่แต่เธอพอเข้าใจว่านั้นเป็นนิสัยส่วนตัวของเขาอยู่แล้วเธอจึงไม่ว่าอะไร

    “นี่ บิ๊กแม็ก? ขอถามอะไรหน่อยสิ?”

    “อะไร?” บิ๊กแม็กเหล่มองฟลัตเตอร์ชายด้วยสายตานิ่งๆ

    “คือ...ฉันอยากรู้ว่าอาทิตย์หน้าเธอพอจ-”

    “ถึงแล้ว” บิ๊กแม็กหยุดเดินอยู่ตรงหน้ารั้วหน้าบ้านของฟลัตเตอร์ชาย ฟลัตเตอร์ชายมองบ้านตัวเองด้วยสายตาเสียดายนิดๆก่อนจะเดินผ่านบิ๊กแม็กไปแต่เดินไปสองสามก้าวก็หยุดเดินแล้วหันกลับมามองเขาแล้วยิ้มบางๆให้บิ๊กแม๊ก

    “ขอบคุณที่มาส่งนะ ^-^

    “ไม่เป็นไร” บิ๊กแม็กพยักหน้ารับคำขอบคุณของฟลัตเตอร์ชายอย่างมีมารยาทแล้วหันหลังแล้วเดินกลับไป

    “อ๊ะ! เดี๋ยวก่อน! บิ๊ก- โอ๊ย!!” ฟลัตเตอร์ชายกำลังจะวิ่งไปหยุดบิ๊กแม็กเพื่อจะคุยเรื่องที่ยังพูดค้างไว้แต่ดันสะดุดเท้าตัวเองแล้วกำลังจะล้มลงกับพื้น บิ๊กแม็กได้ยินเสียงเขารีบหันกลับมาด้วยสีหน้าตกใจก่อนวิ่งมาหาเธอด้วยสีหน้าเป็นห่วง

    “ไม่เป็นไรนะ?” บิ๊กแม็กย่อตัวมาอยู่ระดับเดียวกับฟลัตเตอร์ชายด้วยสีหน้านิ่งๆตามนิสัยแต่แว่วตาเขากลับอ่อนโยนและห่วงใยตรงกันข้ามกับหน้านิ่งๆของเขา ฟลัตเตอร์ชายเงยหน้าแล้วเห็นแว่วของบิ๊กแม็กที่มองเธอก็ทำให้หน้าของเธอแดงขึ้นมาอีกครั้ง

     “อะ...อืม ไม่เป็นไร _/////_” ฟลัตเตอร์ชายก้มหน้าหลบสายตาของบิ๊กแม็กอย่างเขินอายเพราะพึ่งเคยเห็นสายตาของบิ๊กแม็กแบบนี้ครั้งแรกตั้งแต่รู้จักกันมา บิ๊กแม็กได้ยินคำตอบหันไปทางอื่นแล้วแอบก็ถอนหายอย่างโล่งอกจากนั้นก็หันกลับมาแล้วยืนกีบเท้าซ้ายให้ฟลัตเตอร์ชายที่เงยหน้าขึ้นมาหลังจากหายเขินอายแล้ว เธอมองกีบตรงหน้าแล้วจับกีบเขา ร่างสูงออกแรงดึงร่างบางตรงหน้าให้ลุกขึ้นแต่คงออกแรงมากไปหน่อยทำให้หน้าเธอชนกับหน้าอกเขาเบาๆ

    ตัวเบาจังแฮะ?’

    “ขะ..ขอโทษ...นะ” ฟลัตเตอร์ชายค่อยๆดันตัวเองออกจากหน้าอกของบิ๊กแม็กช้าๆก่อนเงยหน้าขึ้นพอดีกับที่บิ๊กแม็กก้มหน้าลงมามองพอดี จากนั้นสายตาของทั้งสองก็ประสาทกันเหมือนกับเมื่อสามวันก่อนหน้านี้แต่ครั้งนี้ทั้งสองสลับตำแหน่งกันเท่านั้นเอง

    ฟลัตเตอร์ชายมองเข้าไปในดวงสีเขียวของบิ๊กแม็กที่ยังคงอ่อนโยนไม่ต่างจากตอนนั้นที่เธอมองมันครั้งแรกแต่คราวนี้ไม่รู้ว่าองค์หญิงลูน่าบังเอิญหรือตั้งใจทำให้ดวงจันทร์ลอยมาอยู่เหนือหัวของเขาพอดีรึเปล่าเพราะแสงจากดวงจันทร์มาย่อมใบหน้าอันแสนเรียบนิ่งแต่แว่วตากลับอ่อนโยนให้เด่นชัดขึ้นทำให้ยิ่งเพิ่งความน่าหลงใหลและเสน่ห์ให้กับดวงตาและใบหน้านั้นมากขึ้นจนหัวใจเธอแทบจะหลุดออกมาจากอกอยู่แล้ว

    สะ....สวยจัง

    ส่วนบิ๊กแม็กเองก็มองเข้าดวงตาสีเขียวน้ำทะเลที่แสนอ่อนโยนไม่ต่างจากตอนนั้นที่มองมันครั้งแรกเช่นกันแถมบวกกับแสงจากดวงจันทร์ส่องลงมากระทบกับดวงตาคู่นั้นจนเกิดแสงประกายระยิบระยับอยู่ข้างในทำให้เพิ่งความน่ารักให้กับดวงตาคู่นั้นและใบหน้าแสนน่ารักนั้นจนทำให้หัวใจของเขาเองก็แทบจะหลุดออกมาเช่นกัน

    นะ...น่ารักชะมัด

    ทั้งสองตัวต่างมองตาของอีกฝ่ายอย่างไม่ละสายตาไปหลายนาทีแต่สักพักนึงบิ๊กแม็กก็เริ่มขยับตัวเขายกกีบขึ้นมาลูบแก้มของฟลัตเตอร์ชายเบาๆอย่างอ่อนโยนโดยไม่ละสายตาจากดวงตาของเธอ ยิ่งมองดวงตานั้นมากเท่าไร...ความปรารถนาบางอย่างก็ยิ่งมากขึ้น...มากจนเขาไม่อาจหยุดมันได้อีกแล้ว

    “ฟลัตเตอร์ชาย” บิ๊กแม็กมองฟลัตเตอร์ชายด้วยสายตาที่เปลี่ยนไปจากอ่อนโยนกลายเป็นสายตาที่อ่อนหวานก่อนจะบัดผมที่บังหน้าเธอออกเบาๆ ฟลัตเตอร์ชายมองการกระทำของโพนี่ร่างสูงอย่างตกใจนิดๆพร้อมกับหน้าแดงขึ้น แดงยิ่งกว่าลูกแอปเปิ้ลและหัวใจของเธอยิ่งเต้นรัวเข้าไปใหญ่จนเธอกลัวว่าร่างสูงตรงหน้าจะได้ บิ๊กแม็กเลื่อนมือลงมาจับคางของฟลัตเตอร์ชายอย่างเบามือแล้วเชยคางเธอขึ้นมานิดนึงก่อนจะหลับตาลงแล้วค่อยๆเลื่อนหน้าเข้าฟลัตเตอร์ชายช้าๆ

    “บิ๊ก.....แม็ก” ฟลัตเตอร์ชายเองก็หลับตาลงแล้วค่อยๆเลื่อนหน้าเข้าหาบิ๊กแม็กเช่นกันโดยที่เธอไม่ขัดขืนอะไรเลย หน้าของโพนี่ทั้งสองก็ค่อยๆเข้ากันทีละนิด.....ทีละนิด

    [ถ้าคุณคิดว่าผมจะยอมให้ทั้งสองตัวจูบกันง่ายๆละก็.....คุณผิด!!! // ดึงเชือกอุปกรณ์อย่างนึงแรงๆ by ไรเตอร์]

    ซ่า~ “ว้าย!! >o<!! / เฮ้ย!! 0-0!!” แต่ก่อนที่ริมฝีปากทั้งสองจะสัมผัสกัน ทั้งสองต้องสะดุ้งอย่างตกใจเมื่อจู่ๆก็มีฝนตกลงมาอย่างหนักแบบไม่บอกไม่กล่าว บิ๊กแม็กเงยหน้ามองท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยเมฆาฝนอย่างมึนงงที่ฝนก็ตกลงมาแบบไม่มีสาเหตุ ส่วนฟลัตเตอร์ชายเองก็มองท้องฟ้าด้วยสายตาไม่ต่างจากบิ๊กแม็กสักเท่าไร

    “ฉะ...ฉันว่าเราเข้าไปหลบในบ้านฉันกันกะ...ก่อนเถอะ”

    e….eeyup

    จากนั้นทั้งสองก็รีบวิ่งเข้าไปในบ้านโดยที่ต่างฝ่ายต่างไม่มองหน้ากันเพราะยังเขินกับสิ่งเกือบจะเกิดขึ้นเมื่อกี๊ไม่หาย ติ้งๆ ทั้งสองเข้ามาในบ้านแล้วก็เอาแต่ยืนนิ่งอยู่ตรงหน้าประตูไม่ยอมขยับไปไหน ฟลัตเตอร์ชายเหล่มองบิ๊กแม็กที่ตอนนี้เปียกโชคไปทั้งตัวแต่แล้วก็ปรากฏภาพที่เธอกับเขา...เกือบจะจูบกันขึ้นมาในหัว เธอหน้าแดงแปร๋ดก่อนจะส่ายหน้าไปมาไล่ภาพตอนนั้นให้ออกไปจากหัวโดยไม่ลืมไปเลยว่าเธอเองก็เปียกอยู่แล้วพอสะบัดผมไปมาน้ำที่ติดอยู่มันก็กระเด็นไปโดนตัวโพนี่ร่างสูงข้างๆโดยไม่ตั้งใจ บิ๊กแม็กหันไปมองฟลัตเตอร์ชายที่ส่ายหัวไปมาด้วยความสงสัย

    “ฟลัตเตอร์ชาย?”

    “ดะ...เดี๋ยวฉะ...ฉันไปเอาเช็ดตัวมาให้นะ _///_” ฟลัตเตอร์ชายหยุดส่ายหัวแล้วรีบวิ่งไปขึ้นไปชั้นสองโดยที่ไม่รอคำตอบจากบิ๊กแม็กที่กำลังมองเธออย่างมึนงงกับท่าทางของเธอเมื่อกี๊ ระหว่างรอให้ฟลัตเตอร์ชายไปเอาผ้าเช็ดตัวบิ๊กแม็กก็หันไปมองรอบๆบ้านด้วยความสนใจในหลายๆอย่างนี้

    “หืม?” แล้วสายตาของบิ๊กแม็กก็หันไปสะดุดกับกรอบรูปรูปหนึ่งบนเตาผิงไฟของฟลัตเตอร์ชายเข้าเขาเดินเข้าไปหยิบกรอบรูปนั้นขึ้นมาดู ภาพนั้นคือภาพของฟลัตเตอร์ชายตอนที่ยังเป็นลูกเพกาซัสโพนี่ตัวเล็กๆที่กำลังนั่งทำมงกุฎให้โพนี่สักตัว ผมของเธอถูกมัดเป็นหางม้าจนเห็นดวงตาสีเขียวน้ำทะเลสดใสราวกับผลึกแก้วใสบริสุทธิ์ บนหัวเธอส่วมมงกุฎดอกไม้สีสดใสและกำลังยิ้มอย่างสดใสราวกับนางฟ้ารอบๆตัวเธอนั้นคือทุ่งดอกไม้แสนสวยที่เขาไม่เคยเห็นที่ไหนในโพนี่วิลล์มาก่อน บิ๊กแม็กมองและยิ้มให้รูปภาพนั้นอย่างอ่อนโยนเขาเอามือลูบรูปนั้นอย่างทะนุถนอม

    “ใครเป็นคนถ่ายรูปนี้กันนะ?”

    “แม่ฉันเอง” บิ๊กแม็กหุบยิ้มลงทันทีแล้วหันหลังไปมองเจอฟลัตเตอร์ชายยืนถือผ้าเช็ดผืนนึงอยู่ข้างหลัง บิ๊กแม็กมองฟลัตเตอร์ชายตั้งแต่หัวจรดเท้าเขาเห็นว่าตัวของเธอแห้งแล้ว บิ๊กแม็กว่างกรอบรูปลงที่เดิมอย่างเบามือแล้วหันไปรับผ้าเช็ดจากฟลัตเตอร์ชายมาเช็ดตัว

    “ขอโทษนะ ที่ฉันไปหยิบภาพของเธอมาดูโดยไม่ได้ขอก่อนนะ”

    “อืมๆ ไม่เป็นไรหรอ ฉันไม่ถือ  ^-^” ฟลัตเตอร์ชายส่ายหน้าเบาๆก่อนจะเดินผ่านบิ๊กแม็กไปที่หน้าเตาผิงแล้วหยิบรูปเดียวกับบิ๊กแม็กขึ้นมามองมันด้วยสายตาอ่อนโยน อ่อนโยนกว่าตอนที่ฟลัตเตอร์ชายอยู่กับพวกทไวไลท์หรือตอนที่อยู่พวกสัตว์สักอีก...สร้างความแปลกใจให้บิ๊กแม็กได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียว

    “ของสำคัญเหรอ?” บิ๊กแม็กเดินไปนั่งบนโซฟาแล้วมองฟลัตเตอร์ชายที่ยังยืนมองรูปนั้นด้วยสายตาอยากรู้ ฟลัตเตอร์ชายหันมามองบิ๊กแม็กด้วยสายตาแปลกใจที่เขาก็สนใจเรื่องของเธอด้วย เธอพยักหน้าช้าๆก่อนจะหันกลับไปแล้วก็กอดกรอบรูปนั้นอย่างทะนุถนอม

    “ก็ทำนองนั้นแหละ ^-^” ฟลัตเตอร์ชายยิ้มบางๆก่อนจะกางปีกออกแล้วบินมานั่งบนโซฟาข้างๆบิ๊กแม็กแล้วเธอก็ก้มหน้ามองกรอบรูปที่วางไว้บนตักด้วยสายตาที่ยังอ่อนโยน จากนั้นเธอก็ลูบกรอบรูปใบนั้นไปมาอย่างทะนุถนอม

    “แม่ของเธอถ่ายรูปได้สวยมากเลยนะ”

    “อือ ท่านเล่าให้ฉันฟังว่า สมัยก่อนตอนที่ท่านยังไม่มีคิวตี้มาร์ค ท่านเคยไปเรียนถ่ายรูปมาก่อนนะ”

    “อืม” บิ๊กแม็กก้มมองรูปภาพบนตักฟลัตเตอร์ชายแล้วเขารู้สึกสงสัยภาพอยู่อย่างนึงคือสถานที่ที่ถ่ายรูปนี้คือที่ไหน

    “แล้ว...แม่เธอถ่ายรูปนี้ที่ไหนเหรอ?”

    “อือ ฉันก็ไม่ค่อยจะแน่ใจเหมือนกันนะ? แต่รู้สึกเหมือนจะอยู่ไม่ไกลจากโพนี่วิลล์เท่าไรนะ?”

    “งั้นเหรอ” บิ๊กแม็กพยักหน้าอย่างเข้าใจก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองเพดาแล้วหาวอย่างง่วงนอนเบาๆ ฟลัตเตอร์ชายมองท่าทางของบิ๊กแม็กแล้วก็ยกมือขึ้นมาปิดปากกลั้นขำเบาๆ บิ๊กแม็กหันมามองฟลัตเตอร์ชายที่กำลังกลั้นขำอย่างสงสัยว่าเธอหัวเราะเรื่องอะไร

    “คิกๆๆๆ” 

    “ขำอะไรของเธอนะ? =-=?

    “ก็แหม่~นานๆทีเธอจะแสดงสีหน้าอื่นออกมาให้เห็นนี่น้า ^-^” ฟลัตเตอร์ชายหันมายิ้มให้บิ๊กแม็กอย่างน่ารักซึ่งมันทำให้หัวใจของเขาเต้นเร็วขึ้นเล็กน้อย ฟลัตเตอร์ชายลุกขึ้นแล้วเดินเอากรอบรูปไปวางไว้ที่เดิมก่อนเธอจะหันหน้าไปมองหน้าต่างปรากฏว่าฝนยังคงตกหนักอยู่และดูเหมือนมันจะตกแรงกว่าเมื่อกี้อีก

    “สงสัยคืนนี้ฉันคงต้องค้างที่นี่สินะ” ฟลัตเตอร์ชายหันมามองบิ๊กแม็กที่ตอนนี้หันหน้ามองหน้าต่างด้วยสายตานิ่งๆเฉยๆไม่ทุกข์ร้อนใดๆ

    “อือ เดียวฉันไปเอาหมอนกับผ้าห่มมาใ-”

    โครก~~ ฟลัตเตอร์ชายพูดยังมาทันจบจู่ๆก็มีเสียงแปลกๆดันขึ้นมาขัดซะก่อน ฟลัตเตอร์ชายหันไปมองบิ๊กแม็กที่เป็นเจ้าของเสียงแปลกๆเมื่อกี้ ส่วนบิ๊กแม็กก็ก้มหน้าหลบสายตาฟลัตเตอร์ชายด้วยความอายไว้

    “คิก...คิกๆๆๆๆๆ” ฟลัตเตอร์ชายหลังให้บิ๊กแม็กแล้วยกมือปิดปากแล้วพยายามกลั้นขำอย่างสุดลิด บิ๊กแม็กเงยหน้าขึ้นมามองฟลัตเตอร์ชายที่กำลังพยายามกลั้นขำด้วยสายตาเคืองๆทั้งๆที่หน้าของเขายังแดงอยู่เลย

    “ยะ...อย่าขำจะได้มั้ย =////=

    “ขะ...ขอโทษนะ คิก ตะ...แต่มันอดขำไม่ได้จริงๆนะ ^-^” ฟลัตเตอร์ชายหันกลับมามองบิ๊กแม็กที่ยังมองเธอด้วยสายตาเคืองๆด้วยใบหน้าที่ยังแดงอยู่ซึ่งเธอไม่กลัวสายตาเขากลับกันเธอกับเห็นว่าเขาน่ารักขึ้นซะด้วยซ้ำ

    “งั้นเดียวฉันลองไปดูในครัวก่อนนะว่ามีอะไรพอจะทำกินได้บาง? ^-^” ฟลัตเตอร์ชายเดินไปทางครัวด้วยรอยยิ้มสดใสเธอหยุดเดินอยู่หน้าประตูครัวแล้วแอบเหล่มองบิ๊กแม็กด้วยสายตาขบขำเธอยังขำเรื่องเมื่อกี้อยู่ใจแล้วเธอก็เดินเข้าครัวไป ส่วนบิ๊กแม็กพอเห็นฟลัตเตอร์ชายเดินเข้าครัวไปแล้วหน้าเขาก็หายแดง

    บิ๊กแม็กมองประตูครัวสักพักให้แน่ใจว่าฟลัตเตอร์ชายจะยังไม่ออกมาพอเขามองจนแน่ใจแล้วเขาก็หันกลับไปมองรูปใบนั้นอีกครั้งด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม บิ๊กแม็กหันไปมองประตูครัวอีกครั้งด้วยความรู้สึกสนใจ

    “ฉันชักอยากจะรู้จักเธอให้มากกว่านี้ซะแล้วสิ......ฟลัตเตอร์ชาย” 

    หลังจากนั้นห้านาทีฟลัตเตอร์ชายก็บินออกมาจากห้องครัวพร้อมกับจานสลัดดอกไม้(ที่กินได้)กับถ้วยซุปเห็ดร้อนๆที่กลิ่นหอมมากๆอย่างละสองในมือทั้งสองข้าง ฟลัตเตอร์ชายบินเอาจานสลัดกับถ้วยซุปมาว่างไว้บนโต๊ะไม้ตรงหน้าบิ๊กแม็ก ฟลัตเตอร์ชายก็บินลงพื้นตรงฝั่งตรงข้ามแล้วเปิดลิ้นชักใต้โต๊ะเอาช้อนซ้อมออกมายื่นให้บิ๊กแม็กเขารับจากเธอแล้วเอามาถือไว้ในมือ บิ๊กแม็กก้มมองอาหารบนโต๊ะด้วยสายตาชื่นชมกับฝีมือการทำอาหราของฟลัตเตอร์ชาย

    “เชิญจ๊ะ” ฟลัตเตอร์ชายนั่งลงฝั่งตรงข้างโซฟาแล้วมองบิ๊กแม็กด้วยรอยยิ้มสดใส บิ๊กแม็กพยักหน้าแล้วตักสลัดเข้าปากเขาเคี้ยวสองสามครั้งแล้วกลื้นลงคอไป

    “เป็นไง ถูกปากไหม?”

    “ก็.....อร่อยดี” บิ๊กแม็กตอบด้วยท่าทางเย็นชาแล้วนั่งกินแบบเงียบๆไม่พูดอะไรอีก ส่วนฟลัตเตอร์ชายพอได้ยินอย่างนั้นเธอรู้สึกโล่งอกที่ทำอาหารได้ถูกปากเขาจากนั้นเธอก็เริ่มกินบางโดยไม่พูดอะไรเพราะเธอไม่อยากจะขัดเขาตอนกำลังกินอาหาร

    ทั้งสองตัวนั่งกินกันไปโดยไม่มีการพูดคุยอะไรกันจนกินอาหารในจานและชามจนหมด ฟลัตเตอร์ชายลุกขึ้นเก็บจานชามของเธอและบิ๊กแม็กมารวมกันเธอกางปีกออกแล้วกระพือปีกสองสามให้ตัวลอยพอประมาณแล้วบินเอาจานชามไปเก็บที่ห้องครัว

    ส่วนบิ๊กแม็กหลังจากกินอาหารเสร็จเขาก็หันหน้าไปมองฝนที่ยังคงตกหนักอยู่ผ่านทางหน้าต่างด้วยความรู้สึกเป็นห่วงครอบครัวที่ไร่มากๆ เขาอยากรู้ว่าตอนนี้พวกแอปเปิ้ลแจ็คกำลังทำอะไรอยู่? กินอาหารเย็นกันหรือยัง? แอปเปิ้ลบลูมเข้านอนหรือยัง? ส่วนคุณยายสมิธคงจะหลับไปแล้วเขาจึงไม่ห่วงมากนัก 

    ส่วนโพนี่ที่เขาเป็นห่วงที่สุดคงเป็นแอปเปิ้ลแจ็คแม่น้องสาวตัวแสบของเขาเอง เขาห่วงและกลัวว่าแม่น้องสาวตัวดีของเขาจะวิ่งออกมาตามหาเขาทามกลางสายฝนที่กำลังตกหนักอยู่ตอนนี้ เขาภาวนาขออย่าให้เป็นแบบนั้นเลย

    “....บิ๊กแม็ก” เสียงของฟลัตเตอร์ชายปลุกเขาจากมโนความคิด บิ๊กแม็กหันไปมองฟลัตเตอร์ชายที่ถือหมอนกับผ้าห่มอยู่ในมือทั้งสองข้าง

    “เป็นอะไรหรือเปล่า? เห็นเธอมองหน้าต่างมาสักพักนึงแล้ว?” ฟลัตเตอร์ชายมองบิ๊กแม็กด้วยสายตาเป็นห่วงเขาจากใจจริง พอบิ๊กแม็กสายตาของเธอแล้วหัวใจของเขาก็เต้นรั่วและใบหน้าเริ่มแดงแต่เขาก็ยังสามารถเก็บอาการได้แบบแนบเนียน เขาส่ายหน้าไปมาแล้วรับหมอนกับผ้าห่มมาว่างไว้บนโซฟา

    “ไม่เป็นไรหรอ.....เธอขึ้นไปนอนเถอะ”

    “แต่....”

    “ฉันไม่เป็นไรจริงๆ” บิ๊กแม็กหันมายิ้มให้เธอเผื่อว่าเธอเลิกเป็นห่วงเขาสักที แล้วมันก็ได้ผลตามทีบิ้กแม็กต้องการเมื่อฟลัตเตอร์ชายพยักรับแล้วยอมหันหลังเดินขึ้นบันได แต่ก่อนที่เธอจะก้าวขึ้นบันไดขั้นสุดท้ายเธอก้มมองเขาผ่านราวบันไดด้วยรอยยิ้มน่ารัก

    “ราตรีสวัสดิ์นะ”

    “อือ....ราตรีสวัสดิ์” 

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×