คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #10 : ตอนเสริม เรนโบว์แดช (Rewrite)
ทางด้านเรนโบว์แดชหลังจากที่ออกมาจากงานเลี้ยงเธอก็เอาแต่บินไปมาอยู่บนฟ้ามาตั้งหลายชั่งโมงโดยไม่ยอมกลับบ้านเหมือนเธอกำลังรออะไรบางอย่างอยู่
‘ทำไมยังไม่มาอีกน่า นี้มันก็เลยเวลานัดมาตั้งนานแล้วนะเนี่ย=_=’ เรนโบว์แดชคิดในใจด้วยสีหน้าที่เริ่มบึ่งตึงอย่างไม่พอใจพร้อมกอดอก แต่สีหน้าของเธอก็ผ่อนคลายลงเมื่อเห็นเพกาซัสโพนี่หญิงผิวสีฟ้าเช่นเดียวกับเธอแต่อายุน้อยกว่านิดหน่อย หน้าตาคล้ายเรนโบว์แดชแต่ดูสวยกว่าและดูเป็นผู้หญิงกว่า (ไรเตอร์ : อั่ก อุ๊บ แอ๊ก!? // โดนแดชอัด) ผมและหางสีแดงทับทิม คิวตี้มาร์ครูปดอกไม้สีชมพู่กลายหมู่เมฆ กำลังบินมาหาเธอพร้อมแบกกระเป๋าสองถึงห้าใบ มาด้วยท่าทางอ่อนล้า
“ทำไมมาช้านั้นละ? “เรนฟลาวเวอร์” พี่รอเธอตั้งหลายชั่วโมงแล้วนะ”เรนโบว์แดชรีบบินเข้าไปช่วยหยิบกระเป๋าสองสามใบมาถือพร้อมมองด้วยสายตาไม่พอใจนิดๆ
“ขอโทษค่ะ พี่เรนโบว์ พอดีหนูเจอพายุระหว่างทางนะค่ะ” เรนฟลาวเวอร์ก้มหน้าลงด้วยสีหน้ารู้สึกผิดเล็กน้อยที่ทำให้เรนโบว์แดชต้องมารอเธอเป็นชั่วโมงกว่า เรนโบว์แดชมองหน้าเรนฟลาวเวอร์ด้วยสายตาอ่อนลงพร้อมถอนหายใจเบาๆก่อนจะบินถือกระเป๋านำไป เรนฟลาวเวอร์ที่เห็นเรนโบว์เงียบไปก็เงยหน้าขึ้นแล้วบินตามไปติดๆ
โพนี่สาวตัวนี้คือเรนฟลาวเวอร์เป็นน้องสาวบุญธรรมของเรนโบว์แดชและเป็นโพนี่ชาวญี่ปุ่นเหมือนโซระกับแฮมเมอร์ที่เธอมาเป็นน้องสาวของเรนโบว์แดชเพราะตอนที่เธอมาที่นี่ครั้งแรกพร้อมกับครอบครัวแล้วเกิดหลงกัน เธอพยายามหาครอบครัวทั้งบนท้องฟ้าและทั่วสนามบินเรือเหาะแต่ก็หาไม่เจอ
เธอเริ่มสิ้นหวังแล้วเดินร้องไห้ไปอย่างไร้จุดหมายในโพนี่วิลล์ เธอเดินไปเรื่อยๆจนบังเอิญมาพบกับเรนโบว์แดชที่กำลังฝึกท่าบินใหม่พอดี เรนโบว์แดชเห็นว่าเรนฟลาวเวอร์กำลังเดินร้องไห้ก็เกิดสงสัยจึงบินเข้ามาหา พอรู้ว่าเธอหลงกับครอบครัวและไม่มีที่จะไปก็เลยรับเธอมาดูแลในฐานะน้องสาวบุญธรรมนับแต่นั้นมา
“ช่างเถอะ พี่แค่เป็นห่วงเธอว่าจะไปเจอะไรน่ากลัวหรือเจอโพนี่นิสัยเสีย เธอเป็นน้องสาวคนสำคัญของพี่ด้วย ^^” เรนโบว์แดชหันมาพูดอย่างอ่อนโยนราวกับนางฟ้าก่อนจะยื่นมือมาวางบนหัวเรนฟลาวเวอร์แล้วลูบหัวเบาๆ ผิดกับปกติที่เธอมักจะใจร้อนหลงตัวเองและชอบท้าแข่งเขาไปทั่ว หลังจากที่เธอมีน้องสาวก็เริ่มใจดีและอ่อนโยนขึ้นมาก...ถ้าพวกทไวไลท์รู้คงจะตกใจไม่ก็ช็อคแน่ๆที่เรนโบว์แดชมีมุมอบอุ่นแบบนี้ด้วย (แดช : พูดแบบนี้หมายความว่าไงย่ะ!! =*= ไรเตอร์ : ปะ เปล่าจ้า ^^;;) เรนฟลาวเวอร์พยักหน้าพร้อมยิ้มสดใส
“แล้วตามหาพ่อแม่เจอมั้ย?”
“...ไม่เลยค่ะ” เรนฟลาวเวอร์สายหน้าช้าๆอย่างเศร้าสร้อยพร้อมก้มหน้าลง เรนโบว์แดชมองน้องสาวด้วยสีหน้ารู้สึกผิดที่เธอถามอะไรที่ไม่ควรถามไปซะแล้วเธอยกกีบเท้าขวาขึ้นมาตหน้าผากตัวเองแรงๆหนึ่งที ให้ตายสิ เราเผลอถามอะไรบ้าๆไปซะได้!!!
"ว่าแต่พี่เป็นยังไงบ้างคะ?" เรนฟลาวเวอร์เงยหน้าขึ้นแล้วหันมามองเรนโบวแดชด้วยสีหน้าสงสัย เธออยากรีบเปลี่ยนเรื่องไปซะจะได้ไม่ทำให้บรรยากาศอึดอัด
“อ้อ ก็เรื่อยๆนะ นี่ๆ พี่มีเรื่องจะเล่าให้ฟังเยอะแยะเลย คือว่านะ....”เรนโบว์แดชเห็นโอกาศเปลี่ยนเรื่องก็รีบเล่าเรื่องราวของเพื่อนๆและเหตุการณ์ทั้งหมดที่เธอเจอมาให้เรนฟลาวเวอร์ฟังทั้งหมด เรนฟลาวเวอร์เองก็เล่าเรื่องที่เธอไปเจอมาทั้งหมดให้เรนโบว์แดชฟังเช่นกันสองพี่น้องต่างเล่าเรื่องของตัวเองสลับกันไปมาจนทั้งสองบินมาถึงคลาวด์สเดล
“ที่นี่ยังดูเหมือนเดิมเลยนะค่ะ ^-^” เรนฟลาวเวอร์ยิ้มสดใสก่อนหันไปมองรอบๆด้วยสายตาตื่นเต้น ไม่ว่าเธอจะมาที่นี่กี่ครั้งก็ยังดูสวยและอลังการเหมือนเดิมเลย เรนโบว์แดชมองรอยยิ้มสดใสของเรนฟลาวเวอร์จากข้างหลังด้วยสายตาอบอุ่น
“เอาล่ะ เรารีบไปที่บ้านกันเถอะ”เรนโบว์แดชยิ้มสดใสแล้วบินนำไปทางบ้านเธอโดยไม่รอเรนฟลาวเวอร์
“พี่เรนโบว์? ระ รอด้วยค่ะ!!” เรนฟลาวเวอร์รีบบินตามหลังเรนโบว์แดชไปอย่างเร่งรีบเพราะกลัวจะตามไม่ทัน เธอมองหลังเรนโบว์แดชแล้วสังเกตเห็นบางอย่างที่เปลี่ยนไปของเรนโบว์แดช
'พี่เขาดู...ร่าเริงผิดปกติไปรึเปล่านะ?'
“หือ?” เรนโบว์แดชหยุดบินแล้วหันไปมองก้อนเมฆหนึ่งที่ลอยอยู่ไม่ไกลจากพวกเธอมากนักด้วยสายตาไม่วางใจแปลกๆ เรนฟลาวเวอร์หยุดตามพร้อมมองท่าทางของเรนโบว์แดชด้วยความสงสัยก่อนเธอจะหันไปมองเมฆก้อนเดียวกับเรนโบว์แดชมองอยู่
“เมฆก้อนนั้นมีอะไรงั้นเหรอคะ? พี่?"
“น้องจำทางไปทางบ้านพี่ได้ใช่มั้ย?” เรนโบว์แดชหันมามองเรนฟลาวเวอร์ด้วยสีหน้าจริงจัง เรนฟลาวเวอร์มองอย่างสงสัยก่อนจะพยักหน้าจากนั้นเรนโบว์แดชก็ส่งกระเป๋าทั้งหมดให้เธอ
“ดี...งั้นน้องรีบบินกลับไปที่บ้านไม่ต้องรอพี่ อ้อ!ช่วยทำมื้อเย็นให้ด้วยน่ะ ไปก่อนน้า!!” ฟิ้ว~ เรนโบว์แดชพูดด้วยความเร็วสูงแต่พอฟังออกก่อนจะพุ่งตัวไปด้วยความเร็วสูงโดยไม่รอให้เรนฟลาวเวอร์ได้ถามอะไรซักคำ
“ยังไม่ทันได้ตอบเลย? พี่เรนโบว์จะรีบไปไหนของเขาละเนี่ย? =_=?” เรนฟลาวเวอร์มองตามเส้นแสงสีรุ้งที่กำลังพุ่งไปด้วยสีหน้าความสงสัย แต่เธอสักพักเลิกสนใจแล้วบินขนกระเป๋าบินไปที่บ้านของเรนโบว์แดชอย่างทุลักทุเล
ตัดมาทางด้านเรนโบว์แดช
เธอบินด้วยความเร็วสูงเริ่มออกห่างจากคลาวด์สเดลมาไกลพอสมควร เธอเห็นว่าบินออกมาไกลพอแล้วจึงหยุดกลางอากาศจากนั้นหันไปมองรอบๆด้วยท่าทางระวังตัวสุดๆ ตอนนี้เธอลอยอยู่ไม่ไกลจากไร่สวีทแอปเปิ้ลเอเคอร์เท่าไร ขณะที่เธอมองรอบๆอยู่สายตาก็เหลือกไปเห็นแอปเปิ้ลแจ็คกำลังใช้เท้าเตะก้างคอโพนี่สวมผ้าคลุมตัวหนึ่งอยู่
“แอปเปิ้ลแจ็คเริ่มไปแล้วเหรอเนี่ย? ถ้างั้น.....ฉันขอเริ่มบ้างละกัน!!!” เรนโบว์แดชตะโกนแล้วพุ่งไปที่ก้องเมฆข้างหลังพร้อมตั้งท่าถีบโดยไม่ลดความเร็วลงแม้แต่นิดเดียว
"อั๊ก!!"เพกาซัสโพนี่ตัวหนึ่งกระเด็นออกมาจากเมฆแล้วร่วงลงไปข้างล่าง เรนโบว์แดชหดขาแล้วหันหลังไปมองก้อนเมฆที่อยู่ข้างๆเธอ
“ออกมาได้แล้ว!! ฉันรู้หมดแล้วว่าพวกแกมากันกี่ตัว” เรนโบว์แดชตะโกนเสียงดังแล้วหันไปพะเชิญหน้ากับสิ่งที่อยู่หลังเมฆ จากนั้นไม่นานก็มีดเพกาซัสโพนี่สี่ตัวบินออกมาจากเมฆทุกตัวล้วนสวมผ้าคลุมและอาวุธครอบกีบ
“รู้ได้ยังไงว่าพวกเราซ่อนอยู่ข้างในเมฆ?”
“คิดว่าฉันดูแลสภาพอากาศแถวนี้มานานเท่าไรแล้ว? แค่มีอะไรบางอย่างอยู่ในเมฆทำไมฉันจะไม่รู้” เรนโบว์แดชกอดอกมองพวกนักฆ่าด้วยสีหน้าภูมิใจในสิ่งที่ตัวเองพูด พวกนักฆ่าเห็นว่าแผนลอบฆ่าไม่สำเร็จจึงต่างตั้งอาวุธเตรียมจ่อสู้ เรนโบว์แดชเห็นอาวุธในมือของพวกนั้นแล้วก็ยิ้มออกมาอย่างนึกสนุกสนานเธอยื่นมือออกมาแล้วกระดิกมือสองเป็นการท้าทาย
“เข้ามาเลย!! แม่จะถีบให้ร่วงให้หมดเลย!!” จากนั้นทั้งเรนโบว์แดชก็พุ่งเข้าหาพวกนักฆ่าด้วยใบหน้าที่เปี่ยมไปด้วยรอยยิ้มของความสนุก
ตัดมาทางด้านเรนฟลาวเวอร์
หลังจากที่แยกกับเรนโบว์แดชเธอก็บินตรงมาที่บ้านอย่างปลอดภัย เธอจัดว่างข้าวของตัวเองอยู่บนชั้นสองของตัวบ้านอย่างอารมณ์
“เอาละ ชิ้นสุดท้ายแล้ว” เรนฟลาวเวอร์วางแจกันดอกไม้ไว้ตรงหัวเตียงเธอหันไปมองรอบๆอย่างพอใจ เธอจัดห้องของเธอด้วยเฟอร์นิเจอร์ธรรมดาอย่างเช่นตู้เสื้อผ้าที่ทำจากไม้,โต๊ะทำงานที่ทำจากคริสตัล,เตียงนอนที่ทำคริสตัลและโซฟาธรรมดา เป็นต้น นอกจากนั้นก็มีตุ๊กตาน่ารักน่ากอดหลายตัววางเรียงกับแบบมีระเบียบอยู่ข้างๆเตียงเธอมองรอบๆจนพอใจแล้วเธอก็เดินลงไปข้างล่างแล้วตรงไปที่ห้องครัว
“พี่ กินอาหารญี่ปุ่นเป็นหรือเปล่าน้า~?” เรนฟลาวเวอร์พึงพำกับตัวเองแล้วเธอเริ่มทำอาหารโดยไม่รู้เลยว่ามีเงาใครบ้างคนกำลังเดินหาเธอจากข้างหลังพร้อมกับถือมีดสั้นมาด้วยท่าทางปองร้าย มันยกมีดขึ้นเหนือหัวแล้วแท่งลงมาโดยเล็งที่ต้นคอของเรนฟลาวเวอร์ เก๊ง! แต่มันก็ต้องตกใจเมื่อเรนฟลาวเวอร์หันมาพร้อมใช้มีดทำครัวมารับมีดสั้นของมันอย่างง่ายดาย
“あなたは誰と何もしたくありません!?*อุ๊บ!(คุณเป็นใครและต้องการอะไร)” เรนฟลาวเวอร์ยกกีบเท้าข้างขวาขึ้นปิดปากหลังจากที่เธอเผลอพูดภาษาประจำชาติของตัวเองออกไปโดยไม่ได้ตั้งใจ โพนี่ปริศาเอียงคอมองเธอด้วยท่าทางสงสัยดูเหมือนว่ามันจะไม่เข้าใจที่เธอเผลอพูดไปเมื่อกี้นี้แต่มันก็เลิกสนใจแล้วเพิ่มแรงกดลงไปที่มีดสั้น เรนฟลาวเวอร์พยายามต้านแรงกดของอีกฝ่ายอย่างถึงที่สุด เธอพยายามเหล่ไปมองรอบๆหาอะไรที่พอจะช่วยเธอได้แล้วสายตาก็ไปสะดุ้ดกับมองต้มซุปที่กำลังเดือดได้ทีพอดี เธอยื่นมกีบไปจับหูหม้อแล้วสาดใส่มัน ซ่า~
[ผมไม่แน่ใจว่าเขียนถูกหรือเปล่าถ้าผมเขียนไม่ถูกละก็....ผมจะไปหามาแก้ไขให้ครับ by ไรเตอร์]
“อ้ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก!!!” โพนี่ปริศารีบทิ้งมีดลงพื้นแล้วยกมือขึ้นกุมหน้าส่ายไปส่ายมาด้วยท่าทางเจ็บปวด เรนฟลาวเวอร์ใช้โอกาสที่อีกฝ่ายยังแสบหน้าอยู่ถีบเข้าที่กลางอกของโพนี่ปริศา พลั๊ก! มันกระเด็นไปชนตู้เก็บจานจนจานทั้งเล็กและใหญ่ต่างตกใส่หัวของมัน เพ้งๆๆๆ พอโดนเข้ามากๆก็หมดสติไป เรนฟลาวเวอร์มองโพนี่ปริศาที่หมดสติไปด้วยสายตาไม่ไว้ว่าใจเธอหยิบมีดมาไว้ในมือแล้วค่อยๆเดินเข้าไปหาช้าๆ
“คงไม่ตายหรอมั้ง?” เรนฟลาวเวอร์ลองเอามือแตะหน้าของโพนี่ปริศาที่อยู่ใต้ผ้าคลุมดูแต่มันไม่ขยับตัวหรืออะไรเลย เธอเลื่อนมือลงมาแตะที่จมูกดูแล้วพบว่าอีกฝ่ายยังหายใจอยู่ เรนฟลาวเวอร์ถอนหายใจอย่างโล่งอกที่มันยังไม่ตาย เธอเกือบคิดว่าตัวเองจะกลายเป็นผู้ร้ายตั้งแต่กลับมาอยู่กับพี่สาวแล้วสิ เรนฟลาวเวอร์หันหลังเดินกลับไปที่ห้องครัวสักพักเธอก็เดินกลับมาพร้อมเชือกเส้นหนึ่ง
“เพื่อความปลอดภัยของชีวิต เราต้องกันไว้ก่อน =_=*” เรนฟลาวเวอร์จับผ้าคลุมบริเวณตรงคอของโพนี่ปริศาลากออกไปที่เสาหน้าบ้านแล้วแต่กว่าจะลากมาถึงก็เสียเวลาไปเยอะพอสมควร
"แบบนี้จะทำข้าวเย็นทันก่อนพี่เรนโบว์จะกลับมามั้ยเนี่ย? =-=;;" เรนฟลาวเวอร์พึมพำเบาๆก่อนจะเดินกลับเข้าไปในบ้านโดยไม่ทันได้สังเกตเห็นแสงสีแดงพุ่งออกมาจากหน้าต่างห้องเรนโบว์แดช แสงนั้นพุ่งไปทิศทางเดียวกับที่เรนโบว์แดชอยู่ ณ ตอนนี้
ตัดกลับมาทางเรนโบว์แดช
ตอนนี้เธอกำลังฟัดกับพวกโพนี่นักฆ่าอย่างเมามัน เธอพุ่งเข้าหาโพนี่นักฆ่าตัวหนึ่งแล้วถีบใส่ท้องของมัน พลั๊ก! มันลอยกระเด็นถอยหลังไปไกลแต่ยังไม่ล่วงโพนี่นักฆ่าตัวใกล้ๆมันพุ่งเข้าหาเธอแล้วฟันลงมา
วืบ เรนโบว์แดชเอียงตัวหลบไปทางซ้ายจากนั้นเธอใช้ขาหลังถีบใส่เจ้าตัวที่จะฟันเธอเมื่อกี้แต่ยังไม่ทันจะถีบก็โพนี่นักฆ่าอีกตัวโผล่มาข้างหลังมันง้างขว้างขึ้นเหนือหัวแล้วฟาดลงมาเต็มแรง
วืบ เรนโบว์แดชหุบปีกแล้วทิ้งตัวลงข้างล่างจากนั้นเธอก็กางปีกแล้วบินมาใต้ท้องของอีกฝ่ายแล้วใช้หัวกระแทกใส่ท้องของมัน อุ๊บ! มันจุกจนไม่สามารถประคองการบินได้สุดท้ายก็ร่วงลงไปอีกตัว
เรนโบว์แดชมองเพาซัสโพนี่ตัวนั้นที่ร่วงลงไปด้วยสายตาพอใจ เธอเงยหน้าขึ้นพอดีกับที่โพนี่นักฆ่าตัวก่อนหน้านี้กำลังจะฟันเธอจากข้างหน้า
แปะ! เรนโบว์แดชไม่หลบแต่ใช้มือสองข้างจับดาบของอีกฝ่ายไว้แน่นเธอยิ้มทะเล้นจากนั้นก็ออกแรงดึงดาบมาด้านข้างทำให้อีกฝ่ายเสียหลักในการทรงตัวจากนั้นเธอใช้เข่ากระแทกไปที่สีข้าง โพนี่นักฆ่าปล่อยมือจากดาบแล้วกุมสีข้างของตัวเองด้วยสีหน้าบิดเบี้ยว เรนโบว์แดชไม่ปล่อยให้อีกฝ่ายหายเจ็บ
พลั๊ก! เธอหมุนตัวเตะสีข้างอีกด้านหนึ่งของอีกฝ่ายแบบเต็มแรง โพนี่นักฆ่าเจ็บจนไม่มีสมาธิการบินแล้วก็ร่วงไปอีกตัว
“ร่วงไปสองเหลืออีกสอง” เรนโบว์แดชหันไปมองพวกอีกสองตัวที่บินมารวมกลุ่มกัน พวกมันต่างมองเธออย่างโกรธจัดแต่ดูเหมือนเธอจะไม่แคร์กับสายตาของพวกนั้นเลยสักนิด เธอเงยมองข้างบนฟ้าด้วยใบหน้าเปี่ยมมรอยยิ้ม
“กว่าจะมาได้นะ ให้รอตั้งนาน” พอเรนโบว์แดชพึมพำจบก็มีแสงสีแดงสว่างวาบอยู่เหนือหัวเธอ จากนั้นก็มีดาวหางสีแดงพุ่งลงมาหาเธอมันเคลื่อนไหวราวกับมีชีวิตจากนั้นมันก็พุ่งตรงเข้าหลังเรนโบว์แดช แต่เธอแทบจะไม่มีอาการเจ็บหรืออะไรเลย เฉ๊ง เฉ๊ง จากนั้นก็มีสียงเหล็กกระทบกับดังมาจากข้างหลังของเรนโบว์แดชจากนั้นปีกเธอก็มีเหล็กชิ้นเล็กๆค่อยๆไต่ขึ้นมาต่อติดปีกเธอจนกลายเป็นปีกเหล็กดูคลายกับว่าปีกของเธอกลายเป็นเนื้อเดียวกับเหล็กไปแล้ว
“ปะ..ปะ..ปีกของยัยนั้น!! กะ...ก...กลายเป็นเหล็กไปแล้ว!! 0o0!!!” พวกโพนี่นักฆ่าต่างตาโตเท่าไข่มังกรด้วยความตกใจปนทึ่งที่ปีกของเรนโบว์แดชกลายเป็นเหล็ก เรนโบว์แดชหันไปมองปีกของตัวเองแล้วเธอกระพือปีกเหล็กสองสามครั้งเพื่อขยับให้เหล็กที่ยังขัดๆกันอยู่เข้าที พอแน่ใจว่าเหล็กเข้าที่แล้วเธอก็หันกลับมามองพวกโพนี่นักฆ่าด้วยสีหน้าและท่าทางมั่นใจ
“โทษทีนะ พอดีฉันมีนัดกับน้องสาวผู้น่ารักอยู่นะ คงจะเล่นกับพวกแกได้แค่นี้แหละนะ ^-^” แว๊บ~ พอเรนโบว์แดชพูดจบผลึกที่อยู่กลางหลังของเกระก็ส่องแสงสีแดงออกมา พวกโพนี่นักฆ่าสะดุ้ดเมื่อเห็นแสงสีแดงที่ส่องสว่างมาจากข้างหลังของเธอ เรนโบว์แดชหันไปข้างหลังแล้วตั้งท่าเหมือนเตรียมกำลังพุ่งไปไหนซะที ส่วนพวกโพนี่นักฆ่าต่างยกมือขึ้นมาบังแสงจากปีกเธอแต่มีตัวหนึ่งจู่ๆก็ทำหน้าเหมือนเห็นผี
“ผะ ผะ ผลึกแห่งความภักดี!!!( Crystals of loyalty)” โพนี่นักฆ่าตะโกนออกมาด้วยท่าทางตกใจอีกสองตัวพอได้ยินสิ่งที่เพื่อนพูดก็สะดุ้ด ฟิ้ว!! เป็นในขณะเดียวกันที่เรนโบว์แดชพุ่งทะยานขึ้นไปฟ้าพอดีจากนั้นก็มีลมทีแรงพัดมาพวกโพนี่นักฆ่าต่างพยายามต้านแรงลมไว้ แต่มีตัวหนึ่งทนบินต้านแรงลมไม่ไหวก็ปลิวตามกระแสลมไปส่วนอีกสองตัวพยายามบินต้านแรงลมและพยายามเงยหน้ามองหาเรนโบว์แดชที่พุ่งขึ้นไปเมื่อกี้อย่างยากลำบาก
กึก ส่วนเรนโบว์แดชพอบินขึ้นมาได้ระดับหนึ่งเธอก็หยุดแล้วหันกลับไปมองทางที่เธอพึ่งพาขึ้นมา เรนโบว์แดชหลับตาสูดหายใจเข้าลึกๆแล้วค่อยๆปล่อยออกมาช้าจากนั้นเธอก็ลืมตาแล้วพุ่งลงไปทางเดิมด้วยความเร็วที่มากว่าตอนขึ้นมาหลายเท่าตัวจากนั้นรอบตัวเธอก็มีที่ลักษณ์เหมือนกรวยสีขาวมาคลุมตัวเธอไว้ยิ่งเธอพุ่งไปข้างหน้ามันก็ค่อยๆแคบลง แคบลง ตูม!! จนมันขาดออกจากนั้นก็เกิดเป็นระเบิดสายรุ้งขึ้นแล้วมีสายรุ้งเส้นหนึ่งพุ่งออกมาซึ่งนั้นก็คือเรนโบว์แดชที่พุ่งลงด้วยความเร็วที่กว่าเมื่อกี้ ท่าที่เธอใช้ไปนั้นมันคือท่าที่เป็นท่าในตำนานของเหล่าเพกาซัสโพนี่และในเอเควสเทียมีเพียงเธอเท่านั้นที่ใช้ได้ท่านี้ได้ ชื่อของท่านี้คือ “SonicRainBoom!!(โซนิคเรนบูม)”
“ท่าไม้ตายสุดเจ๋งของฉัน!!レインブームトルネード!!!(เรนบูมทอร์นาโด) ” แว๊บ~ผลึกแห่งความภักดีของเรนโบว์แดชส่องแสงออกมาคลุมตัวเธอไว้เหมือนเป็นเกราะป้องกันจากนั้นเธอก็เริ่มหมุนตัวด้วยความเร็วสูงเหมือนพายุจากนั้นสายรุ้งที่ตามหลังเธอมาก็หมุนตามเธอแล้วก็คลุมตัวเธอไว้จนหมด พวกโพนี่นักฆ่าต่างตะลึกกับความสวยและความใหญ่ของสายรุ้งที่กำลังพุ่งมาทางพวกนั้นโดยไม่มีท่าทางจะหลบหรืออย่างใดเหมือนถูกมนต์สะกดให้อยู่นิ่งไว้ไว้ จากนั้นพวกโพนี่นักฆ่าก็ถูกกลืนกินหายเข้าไปในสายรุ้ง
เรนโบว์แดชหยุดหมุนตัวพอเธอหยุเหมุนพายุสายรุ้งก็หายไปอย่างไรร่องรอยแล้วเธอก็หันไปมองข้างหลังพวกนักฆ่าถูกสายรุ้งของเรนโบว์แดชที่มีพลังของธาตุแห่งความภักดีอยู่บวกกับดูดเอาความเย็นบนอากาศเข้าไปจนทำให้พวกนั้นกลายเป็นน้ำแข็งสี่เหลี่ยมก้อนใหญ่ลอยอยู่บนกลางอากาศราวกับมันไร้น้ำหนัก เรนโบว์แดชบินเข้าใกล้ๆเธอดันมันไปว่างบนก้อนเมฆก้อนหนึ่ง
“เสร็จแล้ว กลับบ้านดีกว่าเรา อุ๊บ!!” เรนโบว์แดชกำลังจะบินกลับบ้านแต่เธอก็หยุดชะงักแล้วยกมือขึ้นมากุมหน้าอกตรงบริเวณหัวใจด้วยท่าทางเจ็บป่วดทรมาน
“บะ...บ้าเอ้ย!!” เรนโบว์แดชหยิบบางอย่างออกมาจากหาง มันคือขวดยาสีขาวที่ข้างขวดเขียนชื่อยาไว้ว่า “ยาบรรเทาอาการปวดแบบรุงแรง” เธอเปิดฝาขวดแล้วยกกระดกทั้งขวดจากนั้นอาการของเธอก็บรรเทาลงไปนิดหนึ่งแต่ก็ยังมีอาการปวดอยู่
เธอมักจะมีอาการอย่างนี้ทุกครั้งหลังใช้เรนบูมทอร์นาโดตอนแรกๆก็ไม่มีอาการอะไรหรอแต่พอยิ่งใช้มากๆมันยิ่งหนักขึ้นๆจนมันทนเจ็บแทบไม่ไหวไป เธอเลยลองไปโรงพยาบาลดู หมอที่เป็นเพื่อนของเธอช่วยตรวดเช็ดร่างกายเธอให้แล้วได้บอกกับเธอว่าหัวใจของเธอสูบชีดมาเกินไปและเต้นเร็วเกินไปจนหมอต่อเตือนเธอว่าขืนเธอยังฝืนใช้ท่านี้ต่อไปอีกเธอมีสิจะตายได้ด้วยอาการหัวใจหยุดเต้นฉับพลันหรือกล้ามเนื้อหัวใจฉีกขาด
พอเธอรู้ก็ตกใจมากเธอลองถามหมอดูว่ามีวิธีไหนที่จะสามารถช่วยเธอหมอได้บอกเธอว่าเขาพอมีเพื่อนโพนี่หญิงตัวหนึ่งที่สามารถสร้างยารักษาและบำรุงหัวใจได้เขาจะลองขอให้เพื่อนตัวช่วยอีกแรงหนึ่ง ตอนแรกหมอก็ได้ให้ยาสำหรับบรรเทาอาการเจ็บปวดแบบเบาๆให้เธอเขาบอกให้กินทุกครั้งที่มีอาการเจ็บ พอกินยาเข้าอาการของเธอก็ดีขึ้นแตใช้โอกาศที่ยังไม่มีอาการเจ็บฝึกใช้เรนบูมทอร์นาโดหลายๆครั้งเธอคิดว่าถ้าเธอยิ่งใช้มากร่างกายเธอก็จะสามารถทนต้องการเจ็บปวดได้แต่หลังๆอาการของเธอก็ไม่ดีขึ้นแถมยังแรงขึ้นจนเธอต้องเปลี่ยนยาบรรเทาแทบจะทุกครั้งแต่เธอก็ยังฝึกทนต่อไป
“ทะ.ทะ..ท่าทางเรายังต้องฝึกอีกเยอะเลยแฮะ อึก! กะ..กว่าจะคุ้นชินกับท่านี้นะ ^-^;; อึก!!”เรนโบว์แดชฝืนยิ้มและทนเจ็บพยายามประคองตัวให้บินตรงที่สุดแล้วตรงไปทิศทางที่บ้านของตัวเองด้วยท่าทางทุลักทุเล
‘หวังอาการเจ็บจะหายก่อนที่จะมีใครบินพามาเห็นฉันไม่อยากให้ใครเห็นโดยฉะเพราะเพื่อรักสองตัวของฉันฟลัตเตอร์ชายและทไวไลท์และรวมไปถึง.....เรนฟลาวเวอร์My little sisterของฉัน ^-^’
‘และฉันหวังว่า.....ฉันจะยังพอเหลือเวลาอยู่กับน้องสาวกับพวกเพื่อนๆได้นานพอนะ?’
ความคิดเห็น