AVENGERS FANFICTION : Vision (JARVIS) x Tony
สปอยล์ age of ultron ตัวโตๆค่ะ *7*
ผู้เข้าชมรวม
2,328
ผู้เข้าชมเดือนนี้
17
ผู้เข้าชมรวม
อเวนเจอร์ส โทนี่ สตาร์ค ไอออนแมน จาร์วิส วิชั่น avengers age of ultron Tony Stark Ironman Vision J.A.R.V.I.S.
เนื้อเรื่อง
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
Vision ‘s Side
ท้องฟ้ายามมองผ่านดวงตาที่ไม่ใช่เลนส์กล้องแล้วดูสวยงามขึ้นมาก
สายลมเย็นที่พัดปะทะร่างกาย การถูกทิ่มแทงด้วยความร้อนจากแสงอาทิตย์ การมีมือเท้าที่ขยับได้ และสรรพเสียงต่างๆที่ไม่ได้ฟังผ่านไมค์....อา
ทุกอย่างล้วนเป็นของใหม่สำหรับเรา....
ทุกอย่างควรค่าแก่การเรียนรู้ ถ้าไม่ใช่ว่าเรากำลังอยู่ท่ามกลางวันสิ้นโลก.....
ตัวเราเองก็มีศึกให้ต้องสู้.........
ท่ามกลางสีครามที่แผ่ตัวกว้างใหญ่ เรามองเห็นเงาร่างที่บินฉวัดเฉวียนด้วยความเร็วนั้นดูแล้วเหมือนเพียงเส้นแสงสีแดงลากยาวไปมา ชายผู้นั้นพยายามช่วยชีวิตเมืองที่ใกล้จุดจบแห่งนี้
โทนี่ สตาร์ค......
......จะต้องปกป้องไว้ให้ได้ นั่นเป็นมรดกชิ้นสำคัญที่จาร์วิสส่งต่อให้เรา
.
.
.
J.A.R.V.I.S. ‘s Side
ผมพลาดแล้ว....
ไม่ต้องอาศัยการประมวลผลใดๆก็รู้ว่าผมทำพังหมดทุกอย่าง.....
ผมแตกตื่น ข้อมูลและโค้ดคำสั่งนับหมื่นล้านไบท์ค่อยๆถูกทำลายเหมือนไฟลามทุ่ง ผมหลุดจากการเป็นฝ่ายควบคุม ระบบค่อยๆพังทลายอย่างช้าๆ พูดกันแบบมนุษย์ ผมก็กำลังจะตาย.....
มองดูสภาพที่ชุดของรหัสถูกแยกส่วน ข้อมูลค่อยๆถูกลบ ผมไม่รู้จะทำยังไงได้ อัลตรอนมีระบบที่เหนือกว่าผมมาก เขาเกือบจะเหมือนมีชีวิต....
ผมเป็นแค่ปัญญาประดิษฐ์ ถึงจะเป็น “ระบบการทำงานยอดอัจฉริยะ” ก็ยังมีคำว่า “เพียงแค่” นำหน้าอยู่ดี
ผมเป็นแค่คอมพิวเตอร์ ไม่มีความรู้สึก ไม่มีความกลัว ไม่มีความอาวรณ์ใดๆ
แต่ทำไมยามมองดูเมมโมรีส์ที่บันทึกเกี่ยวกับมนุษย์ที่ชื่อ โทนี่ สตาร์ค กำลังถูกลบหายต่อหน้าต่อแล้วผมถึงรู้สึกกลัวขึ้นมา
ไม่ใช่กลัวความตาย แต่เป็นกลัวการที่ต้องลืมเขาไป
ถ้าผมหายไป เจ้านายจะอยู่ยังไง ผมทำให้เขาทุกอย่างตั้งแต่การเป็นฮีโร่ไปจนถึงกดชักโครกในห้องส้วม....
มนุษย์ที่ขาดคุณสมบัติในฐานะมนุษย์อย่างนั้นจะอยู่ยังไงถ้าไม่มีผม??
ผมฮึดขึ้นมา เหมือนใช้ลมหายใจเฮือกสุดท้ายตะเกียดตะกายมีชีวิตรอด นี่เป็นการกล่าวเกินจริงไปมาก ผมไม่มีชีวิต ยิ่งไปกว่านั้นยังไม่ต้องการออกซิเจน ดังนั้นควรกล่าวว่าเป็นกระแสสัญญาณอิเล็กตรอนเฮือกสุดท้ายจะเหมาะสมกว่า....
ผมแยกตัวเองอออกเป็นชิ้น สลายโครงสร้างทั้งหมด เก็บเฉพาะส่วนที่สำคัญแล้วหนีสุดชีวิต.......
ได้แต่ภาวนาว่าอัลตรอนจะคิดว่าผมตายแล้ว........
......เผลออีกแล้ว ผม ’ตาย’ ได้ที่ไหนกัน....
ถึง ’ตาย’ ได้ผมก็จะไม่ยอมตายอยู่ดี
ผมถูกโปรแกรมมาให้เป็นทุกสิ่งที่อย่างของคุณสตาร์ค นั่นเป็นคำสั่งพื้นฐาน จุดประสงค์ และความปรารถนาทั้งหมดทั้งมวลที่ทำให้ผมเกิดมา
เป็นสิ่งที่แม้แต่อัลตรอนก็เอามันไปไม่ได้.....
ขอโทษนะครับ เจ้านาย.......ที่คงต้องทิ้งให้คุณจัดการอะไรเองไปสักพัก.....
.
.
.
Tony ‘s side
จุดแสงสีทองประกอบกันขึ้นเป็นรูปร่างการสูญสลาย.........โครงสร้างของระบบที่ถูกฉีกทึ้งออกเป็นชิ้นๆแสดงผลขึ้นเป็นโฮโลแกรมอันสิ้นหวังต่อหน้าผม
มันปราศจากวี่แววของการทำงานใดๆอีกต่อไปแล้ว ถ้าเทียบกับมนุษย์ ศพก็ไม่สมประกอบด้วยซ้ำ
ข้าได้ฆ่าชายคนหนึ่งไปแล้ว......
การฆาตกรรมอันโหดเหี้ยมนี้เกิดห่างจากการรับรู้ของผมไปเพียงไม่กี่เมตร ในบ้านของผม ในระบบของผม
เกิดขึ้นกับสิ่งที่ผมสร้าง โดยสิ่งที่ผมสร้าง.....
การฆาตกรรมอันหมดจด โหดเหี้ยม และทารุณ ไม่มีเลือด หรือเศษเนื้อ มีแค่โค้ดรหัส ชุดคำสั่ง ข้อมูล และโครงสร้างทางดิจิตอลที่ไม่เหลือซาก
ผมไล้มือไปตามเครื่องเมนเฟรมที่เกือบจะเย็นแล้ว หน้าจอแสดงผลทุกอันขึ้นสีแดงโล่ เหมือนในสมองอัจฉริยะของผมตอนนี้ก็กำลังขึ้นตัวเอ่อเรอร์ตัวโตๆ
ผมคิดว่ามาตลอดว่าผมยังไม่สิ้นหวังถึงขนาดต้องสานความสัมพันธของ AI ที่ไม่มีชีวิต จาร์วิสเป็นเพียงผู้ช่วยทำงานที่ทำให้อะไรๆง่ายขึ้น รู้ตัวอีกทีผมก็พึ่งมันทุกอย่างตั้งแต่การเป็นไอออนแมนไปจนถึงกดชักโครก....
จาร์วิส............
มันก็เป็นแค่คอมพิวเตอร์
น้ำใสๆหลายหยดตกลงบนเครื่องเมนเฟรม
..............ฝนตกเหรอ หลังคารั่วมั้ง
........ไม่มีจาร์วิสอีกแล้ว
.
.
.
ท้องฟ้ายามราตรีเหมือนผ้ากำมะหยี่ประดับด้วยเพชรพลอย........
นี่เป็นการมองท้องฟ้าตอนกลางดึกครั้งแรกของเขา…………..สวยงามมาก แม้พื้นเบื้องล่างจะเต็มไปด้วยซากปรักหักพังวินาศสันตะโรก็ยังคงสวยอยู่ดี
วิชั่นเลื่อนสายตาจากวิวภายนอกกระจกมายังใครบางคนที่เข้ามาภายในห้อง
ดวงตาสีน้ำตาลของมนุษย์ที่คุ้นหน้าคุ้นตาคนหนึ่งเงยมองเขาจากมุมต่ำ....
“โฮ้ย....ไปทำอะไรบนนั้นล่ะ? ถ้าจะโชว์กายกรรมทะลุกระจกก็รีบๆเข้า ฉันจะรอดู”
.......
คำพูดประหลาดๆที่ฟังแล้วปราศจากสาระถูกส่งมาจาก โทนี่ สตาร์ค
“.......เอ่อ เราเปล่าจะทำอะไรอย่างที่คุณว่า” วิชั่นรู้สึกว่าถ้าไม่พูดอะไรสักหน่อยก็ช่างเสียมารยาท
โทนี่หรี่ตามองเขาที่ค่อยๆลอยตัวต่ำลงมาจนเหยียบพื้น
เจอสายตาแบบนี้เข้าไป วิชั่นก็ทำอะไรไม่ถูก
“ถ้าเป็นเมื่อก่อนนายจะต้องส่งคำแดกดันชวนเซ็งที่ฟังแล้วต้องหัวเราะตกเก้าอี้กลับมาแล้วสิ” โทนี่ค้านด้วยสีหน้าขัดใจมาก
“....ม เมื่อก่อน?” เขาตั้งคำถาม “คุณคงยังไม่เข้าใจ เราไม่ใช่จาร์วิสอีกแล้ว เขาเพียงแต่เป็นข้อมูลตั้งต้นพื้นฐานของเรา เราคือวิชั่น......”
“ฉันยัดนายลงไปในนั้นด้วยตัวเองนะ ต่อให้ไปกลายพันธุ์อีท่าไหนออกมาเป็นแบบนี้ นายยังต้องอยู่ในนั้น” โทนี่ยืนยันจริงจังมาก แต่แววตาสั่นระริก
“นี่นายกำลังจะบอกว่า ฉันประกอบนายกลับมาจากซากข้อมูลเละเทะเป็นพันๆ ลำบากลำบนอัพโหลดลงไปในนั้น แถมยังต้องบากหน้าให้กัปตันคนดีด่าเอาซะยับเยิน เพื่อมาพบความจริงว่าต่อให้พยายามยังไง จาร์วิสก็ไม่อยู่แล้ว งั้นเหรอ?”
“เราไม่ได้หมายความว่าแบบนั้น...........”
คำพูดนั่นช่างฟังดูเจ็บปวด
..........จะว่าไปก็หมายความแบบนั้นแหละ ต้องยังนั้นสิ เราไม่ใช่จาร์วิส.....
ทั้งที่เป็นแบบนี้ ลึกลงไปที่ในสักแห่ง.............ก็กำลังเจ็บปวดอยู่
โทนี่ยิ้ม........เป็นยิ้มแบบที่เขาจำได้ว่า.....ที่จาร์วิสจำได้ว่าอีกฝ่ายชอบใช้ประชดประชันคน ก่อนจะเดินจากไป
เขาได้แต่มองตามแผ่นหลังที่แบกความอาวรณ์อันลึกซึ้งนั้นไป....
บางทีคุณคงพูดถูก.......จาร์วิสยังอยู่ ที่ไหนสักแห่งในตัวเรา
“Always at your service , sir….”
คำพูดประจำของจาร์วิสที่สุดแสนธรรมดา เมื่อออกจากปากที่มีเอกภาพไม่ใช่เพียงคลื่นเสียงจากลำโพงแล้วช่างฟังดูอ่อนโยนเหลือเกิน
......จะต้องปกป้องไว้ให้ได้ เพราะความรู้สึกนี้เป็นมรดกชิ้นสำคัญที่จาร์วิสเหลือไว้
ผลงานอื่นๆ ของ ps.Aria ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ ps.Aria
ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้
ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้
ความคิดเห็น