AVENGERS FANFICTION : Vision (JARVIS) x Tony - AVENGERS FANFICTION : Vision (JARVIS) x Tony นิยาย AVENGERS FANFICTION : Vision (JARVIS) x Tony : Dek-D.com - Writer

    AVENGERS FANFICTION : Vision (JARVIS) x Tony

    โดย ps.Aria

    ผู้เข้าชมรวม

    2,328

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    17

    ผู้เข้าชมรวม


    2.32K

    ความคิดเห็น


    14

    คนติดตาม


    70
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  18 พ.ค. 58 / 19:51 น.


    ข้อมูลเบื้องต้นของเรื่องนี้
    ดูจบแล้ว.......มันจะอยู่ไม่ได้ค่ะ ลุกพลวดพลาดมาเขียนเลยทีเดียว

    อันที่จริง เราก็ชิปคู่จาร์วิสโทนี่มานานแล้วนะ พอวิชั่นโผล่มานี่แจ่ม

    แถมประเด็นดราม่ารัวๆให้เล่น *7*
    .

    .

    .


    ฟิคสั้น ไม่ยาวมาก เนื้อหาก็ไม่ค่อยมีอะไรเพราะไรท์คิดไม่ออกค่ะ Orz


    จะว่าวาย ก็ไม่เท่าไร  เน้นอารมร์มากกว่า  เออ ช่างมันเถอะเนอะ





    นอกจากนี้ไรท์ยังชิปอีกหลายคู่  ธอร์กิ สตักกี้ สโตนี่ บลาาๆๆ  เอาเป็นว่า คุยกันได้ค่ะ♥











     
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

      Vision ‘s Side  

      ท้องฟ้ายามมองผ่านดวงตาที่ไม่ใช่เลนส์กล้องแล้วดูสวยงามขึ้นมาก

                 

                  สายลมเย็นที่พัดปะทะร่างกาย  การถูกทิ่มแทงด้วยความร้อนจากแสงอาทิตย์ การมีมือเท้าที่ขยับได้ และสรรพเสียงต่างๆที่ไม่ได้ฟังผ่านไมค์....อา

                  ทุกอย่างล้วนเป็นของใหม่สำหรับเรา....

       

                  ทุกอย่างควรค่าแก่การเรียนรู้ ถ้าไม่ใช่ว่าเรากำลังอยู่ท่ามกลางวันสิ้นโลก.....

       

      ตัวเราเองก็มีศึกให้ต้องสู้.........

       

                  ท่ามกลางสีครามที่แผ่ตัวกว้างใหญ่  เรามองเห็นเงาร่างที่บินฉวัดเฉวียนด้วยความเร็วนั้นดูแล้วเหมือนเพียงเส้นแสงสีแดงลากยาวไปมา  ชายผู้นั้นพยายามช่วยชีวิตเมืองที่ใกล้จุดจบแห่งนี้

       

                  โทนี่  สตาร์ค......

                 

                ......จะต้องปกป้องไว้ให้ได้  นั่นเป็นมรดกชิ้นสำคัญที่จาร์วิสส่งต่อให้เรา

      .

      .

      .

      J.A.R.V.I.S. ‘s Side

                  ผมพลาดแล้ว....

                  ไม่ต้องอาศัยการประมวลผลใดๆก็รู้ว่าผมทำพังหมดทุกอย่าง.....

                  ผมแตกตื่น  ข้อมูลและโค้ดคำสั่งนับหมื่นล้านไบท์ค่อยๆถูกทำลายเหมือนไฟลามทุ่ง ผมหลุดจากการเป็นฝ่ายควบคุม  ระบบค่อยๆพังทลายอย่างช้าๆ  พูดกันแบบมนุษย์ ผมก็กำลังจะตาย.....

       

                  มองดูสภาพที่ชุดของรหัสถูกแยกส่วน  ข้อมูลค่อยๆถูกลบ  ผมไม่รู้จะทำยังไงได้  อัลตรอนมีระบบที่เหนือกว่าผมมาก เขาเกือบจะเหมือนมีชีวิต....

       

                  ผมเป็นแค่ปัญญาประดิษฐ์  ถึงจะเป็น “ระบบการทำงานยอดอัจฉริยะ”  ก็ยังมีคำว่า “เพียงแค่” นำหน้าอยู่ดี

                  ผมเป็นแค่คอมพิวเตอร์  ไม่มีความรู้สึก ไม่มีความกลัว ไม่มีความอาวรณ์ใดๆ

       

                  แต่ทำไมยามมองดูเมมโมรีส์ที่บันทึกเกี่ยวกับมนุษย์ที่ชื่อ โทนี่ สตาร์ค กำลังถูกลบหายต่อหน้าต่อแล้วผมถึงรู้สึกกลัวขึ้นมา

       

                  ไม่ใช่กลัวความตาย  แต่เป็นกลัวการที่ต้องลืมเขาไป

                  ถ้าผมหายไป เจ้านายจะอยู่ยังไง ผมทำให้เขาทุกอย่างตั้งแต่การเป็นฮีโร่ไปจนถึงกดชักโครกในห้องส้วม....

       

                  มนุษย์ที่ขาดคุณสมบัติในฐานะมนุษย์อย่างนั้นจะอยู่ยังไงถ้าไม่มีผม??

                  ผมฮึดขึ้นมา  เหมือนใช้ลมหายใจเฮือกสุดท้ายตะเกียดตะกายมีชีวิตรอด นี่เป็นการกล่าวเกินจริงไปมาก ผมไม่มีชีวิต ยิ่งไปกว่านั้นยังไม่ต้องการออกซิเจน ดังนั้นควรกล่าวว่าเป็นกระแสสัญญาณอิเล็กตรอนเฮือกสุดท้ายจะเหมาะสมกว่า....

       

                  ผมแยกตัวเองอออกเป็นชิ้น สลายโครงสร้างทั้งหมด เก็บเฉพาะส่วนที่สำคัญแล้วหนีสุดชีวิต.......

       

                  ได้แต่ภาวนาว่าอัลตรอนจะคิดว่าผมตายแล้ว........

       

                  ......เผลออีกแล้ว ผม ตายได้ที่ไหนกัน....

       

      ถึงตายได้ผมก็จะไม่ยอมตายอยู่ดี

       

                  ผมถูกโปรแกรมมาให้เป็นทุกสิ่งที่อย่างของคุณสตาร์ค  นั่นเป็นคำสั่งพื้นฐาน  จุดประสงค์  และความปรารถนาทั้งหมดทั้งมวลที่ทำให้ผมเกิดมา

       

                  เป็นสิ่งที่แม้แต่อัลตรอนก็เอามันไปไม่ได้.....

       

       

                ขอโทษนะครับ เจ้านาย.......ที่คงต้องทิ้งให้คุณจัดการอะไรเองไปสักพัก.....

      .

      .

      .

       

      Tony ‘s side

                  จุดแสงสีทองประกอบกันขึ้นเป็นรูปร่างการสูญสลาย.........โครงสร้างของระบบที่ถูกฉีกทึ้งออกเป็นชิ้นๆแสดงผลขึ้นเป็นโฮโลแกรมอันสิ้นหวังต่อหน้าผม

                  มันปราศจากวี่แววของการทำงานใดๆอีกต่อไปแล้ว  ถ้าเทียบกับมนุษย์ ศพก็ไม่สมประกอบด้วยซ้ำ

       

                ข้าได้ฆ่าชายคนหนึ่งไปแล้ว......

       

                  การฆาตกรรมอันโหดเหี้ยมนี้เกิดห่างจากการรับรู้ของผมไปเพียงไม่กี่เมตร  ในบ้านของผม  ในระบบของผม

       

                  เกิดขึ้นกับสิ่งที่ผมสร้าง โดยสิ่งที่ผมสร้าง.....

       

                  การฆาตกรรมอันหมดจด โหดเหี้ยม และทารุณ ไม่มีเลือด หรือเศษเนื้อ มีแค่โค้ดรหัส ชุดคำสั่ง ข้อมูล  และโครงสร้างทางดิจิตอลที่ไม่เหลือซาก 

                  ผมไล้มือไปตามเครื่องเมนเฟรมที่เกือบจะเย็นแล้ว  หน้าจอแสดงผลทุกอันขึ้นสีแดงโล่  เหมือนในสมองอัจฉริยะของผมตอนนี้ก็กำลังขึ้นตัวเอ่อเรอร์ตัวโตๆ

       

                  ผมคิดว่ามาตลอดว่าผมยังไม่สิ้นหวังถึงขนาดต้องสานความสัมพันธของ AI ที่ไม่มีชีวิต  จาร์วิสเป็นเพียงผู้ช่วยทำงานที่ทำให้อะไรๆง่ายขึ้น  รู้ตัวอีกทีผมก็พึ่งมันทุกอย่างตั้งแต่การเป็นไอออนแมนไปจนถึงกดชักโครก....

                  จาร์วิส............

                  มันก็เป็นแค่คอมพิวเตอร์

       

                  น้ำใสๆหลายหยดตกลงบนเครื่องเมนเฟรม

       

                  ..............ฝนตกเหรอ หลังคารั่วมั้ง 

       

                ........ไม่มีจาร์วิสอีกแล้ว

      .

      .

      .

                  ท้องฟ้ายามราตรีเหมือนผ้ากำมะหยี่ประดับด้วยเพชรพลอย........

       

                  นี่เป็นการมองท้องฟ้าตอนกลางดึกครั้งแรกของเขา…………..สวยงามมาก แม้พื้นเบื้องล่างจะเต็มไปด้วยซากปรักหักพังวินาศสันตะโรก็ยังคงสวยอยู่ดี

       

                  วิชั่นเลื่อนสายตาจากวิวภายนอกกระจกมายังใครบางคนที่เข้ามาภายในห้อง

                  ดวงตาสีน้ำตาลของมนุษย์ที่คุ้นหน้าคุ้นตาคนหนึ่งเงยมองเขาจากมุมต่ำ....

       

                  “โฮ้ย....ไปทำอะไรบนนั้นล่ะ? ถ้าจะโชว์กายกรรมทะลุกระจกก็รีบๆเข้า ฉันจะรอดู”

       

                  .......

       

                  คำพูดประหลาดๆที่ฟังแล้วปราศจากสาระถูกส่งมาจาก โทนี่ สตาร์ค

       

                  “.......เอ่อ เราเปล่าจะทำอะไรอย่างที่คุณว่า”  วิชั่นรู้สึกว่าถ้าไม่พูดอะไรสักหน่อยก็ช่างเสียมารยาท

                  โทนี่หรี่ตามองเขาที่ค่อยๆลอยตัวต่ำลงมาจนเหยียบพื้น 

                  เจอสายตาแบบนี้เข้าไป  วิชั่นก็ทำอะไรไม่ถูก

                  “ถ้าเป็นเมื่อก่อนนายจะต้องส่งคำแดกดันชวนเซ็งที่ฟังแล้วต้องหัวเราะตกเก้าอี้กลับมาแล้วสิ”  โทนี่ค้านด้วยสีหน้าขัดใจมาก

                  “....ม เมื่อก่อน?” เขาตั้งคำถาม   “คุณคงยังไม่เข้าใจ เราไม่ใช่จาร์วิสอีกแล้ว เขาเพียงแต่เป็นข้อมูลตั้งต้นพื้นฐานของเรา เราคือวิชั่น......”

                  “ฉันยัดนายลงไปในนั้นด้วยตัวเองนะ  ต่อให้ไปกลายพันธุ์อีท่าไหนออกมาเป็นแบบนี้ นายยังต้องอยู่ในนั้น”  โทนี่ยืนยันจริงจังมาก แต่แววตาสั่นระริก

                  “นี่นายกำลังจะบอกว่า ฉันประกอบนายกลับมาจากซากข้อมูลเละเทะเป็นพันๆ ลำบากลำบนอัพโหลดลงไปในนั้น แถมยังต้องบากหน้าให้กัปตันคนดีด่าเอาซะยับเยิน เพื่อมาพบความจริงว่าต่อให้พยายามยังไง จาร์วิสก็ไม่อยู่แล้ว งั้นเหรอ?”

       

                  “เราไม่ได้หมายความว่าแบบนั้น...........”

       

                  คำพูดนั่นช่างฟังดูเจ็บปวด

                 

                ..........จะว่าไปก็หมายความแบบนั้นแหละ ต้องยังนั้นสิ เราไม่ใช่จาร์วิส.....

       

                  ทั้งที่เป็นแบบนี้  ลึกลงไปที่ในสักแห่ง.............ก็กำลังเจ็บปวดอยู่

       

                  โทนี่ยิ้ม........เป็นยิ้มแบบที่เขาจำได้ว่า.....ที่จาร์วิสจำได้ว่าอีกฝ่ายชอบใช้ประชดประชันคน ก่อนจะเดินจากไป

       

                  เขาได้แต่มองตามแผ่นหลังที่แบกความอาวรณ์อันลึกซึ้งนั้นไป....

       

       

                บางทีคุณคงพูดถูก.......จาร์วิสยังอยู่ ที่ไหนสักแห่งในตัวเรา

                “Always at your service , sir….

       

                คำพูดประจำของจาร์วิสที่สุดแสนธรรมดา เมื่อออกจากปากที่มีเอกภาพไม่ใช่เพียงคลื่นเสียงจากลำโพงแล้วช่างฟังดูอ่อนโยนเหลือเกิน

       

       

       

       

                  ......จะต้องปกป้องไว้ให้ได้  เพราะความรู้สึกนี้เป็นมรดกชิ้นสำคัญที่จาร์วิสเหลือไว้

      นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      คำนิยม Top

      ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้

      คำนิยมล่าสุด

      ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้

      ความคิดเห็น

      ×