ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    มหัศจรรย์เพื่อนผีต่างมิติ

    ลำดับตอนที่ #2 : ต้นพบคู่แข่ง

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 18
      0
      18 ก.พ. 47

    “นายจำวันนั้นได้ไหมดุ่ย”  อั่งเปาถามขึ้นเมื่อทั้งคู่นั่งลงบนระเบียงเรียบร้อยแล้ว

        “วันไหนล่ะ”  ดุ๊ยดุ่ยถามกลับ

        “ก็วันที่นายผู้ชายต้นของฉันเจอกับนายผู้หญิงของนายไง”  อั่งเปาอ้างอิงถึงต้นและดาริน

        “อ๋อ!  จำได้  ทำไมเหรอ  นายยังคาบรองเท้าของเขาไปซ่อนอีกหรือไง”  ดุ๊ยดุ่ยถามแบบล้อๆ

        “นี่ฉันบอกนายกี่ครั้งแล้วว่าฉันไม่เคยเอารองเท้าของเขาไปซ่อนในเครื่องซักผ้าเลย  วันนั้นเขาก็แต่งเรื่องขึ้นเอง  ฉันปีนเครื่องซักผ้าถึงซะที่ไหนเล่า  วันนั้นฉันเอาไปซ่อนหลังเครื่องซักผ้าต่างหากไม่ใช่ในเครื่องซักหน่อย  ขี้โม้แล้วยังมาใส่ความกันอีก  นายรู้ไหมว่าเขาไม่ชอบสุนัข”  อั่งเปาปฏิเสธข้อกล่าวหาแล้วเริ่มกลับมาเผานายของตนเองต่อ

        “แต่นายผู้หญิงของฉันชอบสุนัขนะ”

        “ฉันรู้  แต่หลังจากนั้นเขาก็เริ่มดีกับฉันมากขึ้นแล้วล่ะ  สงสัยคงเพราะฉันทำให้เขาเจอกับนายผู้หญิงของนาย  ฉันว่าเขาต้องพยายามอย่างหนักที่จะทำใจให้ชอบสุนัขเลยล่ะ”

        “ทำไมล่ะ”  ดุ๊ยดุ่ยถามทั้งๆที่พอจะรู้คำตอบอยู่แล้ว

        “ก็เพื่อให้นายผู้หญิงของนายชอบเขาไง  ถ้าเธอชอบสุนัขเขาก็ต้องชอบสุนัขตามด้วยจะได้เข้ากันได้ไงล่ะ”  อั่งเปาตอบแบบรู้ใจเจ้านายของตนเป็นอย่างดี

        “อ๋อ!  ฉันเข้าใจแล้ว  เจ้านายของนายนี่แผนสูงจริงๆนะ  แต่ว่าที่นายมาวันนี้คงไม่ได้มาพูดเรื่องเก่าๆอย่างเดียวหรอกใช่ไหม”

        “ใช่  ฉันมีข่าวไม่ค่อยดีมาบอกนาย  ครอบครัวเจ้านายของฉันนะจะย้ายบ้าน”  อั่งเปาตอบแล้วถอนใจอย่างเศร้าๆ

        “อะไรนะ!”   ดุ๊ยดุ่ยตะโกนด้วยความตกใจ  “นายจะย้ายบ้านงั้นเหรอ”

        “จุ๊  จุ๊  เงียบหน่อย  ไม่ใช่ฉันย้ายเจ้านายฉันต่างหาก”

        “เจ้านายของนายเหรอ  แต่เราเพิ่งเจอกันได้ไม่นานเลยนะ  เดือนเดียวเอง”  ดุ๊ยดุ่ยทักท้วงเพื่อน

        “ฉันรู้  แต่พวกเขาไม่รู้นี่  แล้วก็ไม่สนใจว่าเราจะรู้สึกอย่างไรด้วย”  อั่งเปาทำเสียงแบบไม่พอใจนิดๆ  มันยังไม่รู้ว่าบ้านยังสร้างไม่เสร็จและที่สำคัญพิเชฐก็ยังไม่ได้ทำสัญญาด้วย

        “แล้วนายผู้ชายต้นของนายล่ะ  เขาไม่พูดอะไรเลยเหรอ”  ดุ๊ยดุ่ยถามอย่างมีความหวัง

        “พูดสิ  แต่ไม่ได้ผล  นายผู้ชายบอกว่าบ้านใหม่นั่นนะกว้างกว่าแล้วก็ไปไหนมาไหนสะดวกกว่าที่นี่  แล้วราคาบ้านก็ไม่แพงมากนัก”  อั่งเปาเรียกพิเชฐว่านายผู้ชาย

        “นี่หมายความว่า  เขาจะกีดกันความรักของเราสองตัวเหรอ”  ดุ๊ยดุ่ยพูดแล้วทำเสียงสะอื้นพร้อมกับกระโดดเข้าไปกอดคออั่งเปา

        “จะบ้าเหรอ ดุ่ย! พูดอะไรเดี๋ยวฟ้าผ่าเปรี้ยงหรอก เป็นผู้ชายเหมือนกันแท้ๆ เอ๊ะ! หรือว่านายเกิดวิปริตผิดเพศขึ้นมา  เฮ้ย! อย่านะเว้ย ฉันสู้จริงๆนะ”  อั่งเปาพูดพร้อมกับขยับหนีออกมาตั้งท่าสู้

        ดุ๊ยดุ่ยหัวเราะก๊ากอยู่กับที่  จนอั่งเปาสงสัยจึงถาม

        “หัวเราะอะไร”

        “ก็หัวเราะที่นายกลัวเกินเหตุไง   เมื่อกี้นี้ฉันแค่ล้อเล่น  ฉันไม่ได้คิดอะไรกับนายอย่างนั้นซักหน่อย  ฉันยังเป็นผู้ชายอยู่ทั้งตัวทั้งจิตใจเลยล่ะ  ไม่ได้เป็นอย่างที่นายคิดหรอกน่า  โธ่!  อั่งเปานายนั่งลงได้แล้วน่า”  ดุ๊ยดุ่ยพูดกลั้วหัวเราะ

        อั่งเปาขยับตัวเดินมาอย่างไม่แน่ใจ  ดุ๊ยดุ่ยเห็นดังนั้นจึงรีบกระโจนไปดึงตัวเพื่อนลงมานั่ง

        “เฮ้ย!  นายจะทำอะไรน่ะ  ฉันสู้จริงๆนะ”  อั่งเปาโวยวายเมื่อถูกดุ๊ยดุ่ยดึงตัวลงมานั่งข้างๆ

        “ฉันบอกแล้วไงว่าฉันแค่แกล้งนายเล่น  คบกันมาตั้งเดือนนึงแล้วยังไม่เชื่อใจกันอีกหรือไง”

        “จริงๆนะ”  อั่งเปายังไม่วายขอความแน่ใจ

        “จริง”  ดุ๊ยดุ่ยตอบเสียงสูงแบบไม่รู้จะทำอย่างไรให้เพื่อนเชื่อดี

        “เมื่อกี้เอะอะอะไรกันจ๊ะเด็กๆ  กัดกันหรือเปล่า”  ดารินเดินเข้ามาถาม  เพราะได้ยินเสียงอั่ง-เปาโวยวายในภาษาสุนัขหรือก็คือเสียงเห่านั่นเอง

        ดารินมองสุนัขทั้งสองอย่างจับผิด  แต่อั่งเปากับดุ๊ยดุ่ยนั่งนิ่ง

        เวลาผ่านไปสักพักหนึ่งโดยที่สุนัขทั้งสองตัวไม่มีทีท่าอะไร  ดารินจึงพูดต่อกับอั่งเปา  “อั่งเปานี่มาคุยกับดุ๊ยดุ่ยนานแล้วนะ  ไม่กลับบ้านหรือไง  เดี๋ยวโดนคนที่บ้านดุไม่รู้ด้วยนะ”

        อั่งเปาหันไปมองหน้าดุ๊ยดุ่ย  ดารินเห็นดังนั้นจึงเดินออกไป  ปล่อยให้สุนัขทั้งสองร่ำลากันก่อน  เพราะถึงเธออยู่ด้วยก็คงฟังไม่รู้เรื่องหรอก

        “งั้นฉันกลับก่อนนะเพื่อน  ไว้วันหลังมาใหม่”  หยุดไปสักพักแล้วพูดต่อเหมือนตัดสินใจ  “ฉันคิดว่าตอนย้ายออกนายผู้ชายต้นของฉันจะต้องมาลานายผู้หญิงของนายแน่  เราอาจจะได้เจอกันครั้งสุดท้ายตอนนั้นก็ได้นะ”  ถอนหายใจแล้วพูดต่อ  “ถ้าต้องจากกันจริงๆ  ฉันจะเขียนจดหมายมาหานายก็แล้วกัน  แต่ต้องปิดเป็นความลับนะ  ห้ามบอกใครล่ะแม้แต่นายผู้หญิงของนายก็อย่าให้รู้  แล้วนายก็ต้องมาเอาจดหมายเองทุกวันนะ  เพราะฉันจะเขียนไว้หน้าซองจดหมายไว้ให้บุรุษ-ไปรษณีย์อ่านไว้ว่า  ‘กรุณาวางจดหมายฉบับนี้ไว้ใต้พุ่มไม้หนาๆ’  จากนั้นก็เป็นหน้าที่ของนายที่ต้องมาตรวจจดหมายเองทุกวัน  แต่นายอย่าลืมเขียนจดหมายมาหาฉันบ้างก็แล้วกัน  แค่นี้แหละ  ราตรีสวัสดิ์”

    “ราตรีสวัสดิ์”



    õõõ



    “ต้น  ต้น  ตื่นหรือยังลูกจะไปสมัครสอบหรือเปล่า  ถ้าไปก็รีบๆอาบน้ำ  แต่งตัว  แล้วลงมากินข้าวได้แล้ว”  พิเชฐเรียกลูกชายคนโตให้เตรียมตัวเพื่อไปสมัครสอบเข้ามหาวิทยาลัย

    “ตื่นตั้งนานแล้วฮะพ่อ  แต่งตัวเสร็จแล้วด้วย”  ต้นพูดขณะเดินลงบันไดมา

        “งั้นก็ดีลูก  ไปกินข้าวกัน  แม่เขาเตรียมไว้แล้ว”  พิเชฐเดินนำลูกชายมาที่โต๊ะอาหาร  “ต้าร์กับยายมนล่ะแม่”

        “ยายมนนอนอยู่  ส่วนต้าร์…”  พยักพเยิดไปทางหน้าบ้าน   “…ตื่นตั้งแต่ไก่โห่เลย  พอทำธุระเสร็จก็จูงอั่งเปาไปเล่นที่ม้านั่งหน้าบ้าน  บอกว่าจะขอติดรถพ่อไปด้วยค่ะ”

        “ไปทำไมฮะแม่”  ต้นถามขณะเคี้ยวข้าวตุ่ยๆ

        “ต้น!  แม่บอกกี่ครั้งแล้วว่าอย่าพูดตอนกินข้าว  ชอบว่าน้องขี้ลืมที่แท้ตัวเองนั่นแหละขี้ลืม  แม่ว่าต้นน่ะขี้ลืมกว่าคนอื่นซะอีก”  อ.เมยานีตำหนิลูกชายคนโตแล้วส่ายหัว

        “ถูกเผงเลยฮะแม่  พี่ต้นน่ะขี้ลืมจริงๆ  เมื่อวานก็ไม่รู้ว่าตัวเองเอาใบสมัครไปไว้ที่ไหน  มาวันนี้ก็ลืมไปว่าตอนเคี้ยวข้าวอยู่ไม่ควรพูดอะไร”  ต้าร์  น้องชายวัย 13 ปี  ซึ่งขณะนี้กำลังจะขึ้นชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 หรือ ม.2นั่นเองพูดล้อพี่ชายแล้วหัวเราะชอบใจ  โดยมีอั่งเปาพยักหน้าเห็นด้วยอยู่ข้างๆ  “แม่ว่าพรุ่งนี้พี่ต้นจะลืมอะไรอีกหรือเปล่าฮะ”

        “แม่ว่าถ้าขี้ลืมอย่างนี้อาจจะจำทางเข้าบ้านหรือจำบ้านตัวเองไม่ได้ก็ได้นะจ๊ะ”

        “โธ่!  แม่ฮะ  แม่ก็อย่าบ้าจี้ตามไอ้ต้าร์มันสิฮะ  แม่ก็รู้ว่ามันน่ะจอมทะเล้นเลย  ว่าแต่ต้าร์เถอะจะขอติดรถพ่อไปทำไมกัน  อย่าบอกนะว่าจะตามไปล้อพี่ที่นั่นอีก”  ต้นถามยิ้มๆ

        “เปล่าฮะ  ผมไม่ล้อพี่หรอก  แค่นี้คนเขาก็รู้กันทั่วแล้วฮะ  ผมแค่จะขอติดรถไปซื้ออุปกรณ์บ้างก็แค่นั้นเองฮะ  ได้ไหมฮะพ่อ”  ต้าร์หันไปถามบิดาโดยไม่สนใจพี่ชายที่กำลังทำท่าเหมือนจะกินเลือดกินเนื้อน้องชายตนเอง

        “ได้สิ  แต่จะไปซื้ออะไรล่ะ”  พิเชฐถามอย่างอารมณ์ดี

        “คิดไว้แล้วฮะ”  ต้าร์ตอบสั้นๆไม่ยอมบอกชื่ออุปกรณ์  “ความลับฮะ  ไว้ทำเสร็จแล้วจะเอามาให้ดูนะฮะ”

        ครึ่งชั่วโมงต่อมา  พิเชฐ  ต้นและต้าร์เตรียมตัวออกไปทำธุระนอกบ้าน  พิเชฐพาต้นไปสมัครสอบเข้ามหาวิทยาลัย  ส่วนต้าร์ขอติดรถไปด้วยเพื่อไปซื้ออุปกรณ์มาทำสิ่งประดิษฐ์  โดยไม่ยอมบอกใครว่าตนตั้งใจจะทำอะไร  

        อ.เมยานีพาหนูมนซึ่งเพิ่งตื่นนอนออกมาหน้าบ้าน  ตามด้วยอั่งเปามานั่งกระดิกหางอยู่ใกล้ๆ  เช้าวันนี้มันยังไม่ได้กินอะไรมาเลย  จึงเดินออกมาด้วยหมายจะอ้อนหนูมนขอกินอาหาร  เนื่องจากรู้ว่าหนูมนชอบให้อยู่ใกล้ๆ

        พิเชฐถอยรถออกมาจากโรงรถแล้วขับมาจอดที่บริเวณหน้าบ้านซึ่งต้นกับต้าร์คอยอยู่

        “ไปนะฮะแม่  สวัสดีฮะ”  ต้นกับต้าร์พูดขึ้นพร้อมกัน  ทั้งสองคนจะพูดอย่างพร้อมเพรียงกันแบบนี้ไม่ค่อยบ่อยนัก  และครั้งนี้ก็คือการพูดพร้อมกันแบบไม่บ่อยนัก

        ต้นกับต้าร์เดินไปขึ้นรถซึ่งพิเชฐได้ขับมาจอดรออยู่หน้าบ้านแล้ว

        “ซื้อของมาฝากยายมนบ้างนะคะ”  อ.เมยานีตะโกนตามหลังมาเมื่อเห็นสามีเปิดกระจกรถโบกมือทักทายหนูมน

        “ได้จ้า”  พิเชฐตะโกนตอบกลับมา

        “อยากได้หนูตัวใหญ่ไหมมน”

        “ต้าร์!  แม่บอกแล้วไงว่าอย่าแกล้งยายมน  ดูซิน้องกลัวใหญ่แล้ว”  อ.เมยานีเอ็ดต้าร์แล้วหันไปปลอบหนูมนซึ่งเบะปากเตรียมร้องไห้อยู่รอมร่อ

        พิเชฐขับรถพาลูกชายทั้งสองไปตามถนนในหมู่บ้าน  ต้าร์นั่งร้องเพลงอยู่ที่เบาะหลังอย่างสบายใจ  ส่วนต้นนั่งคู่กับบิดาที่เบาะหน้ากำลังก้มหน้าก้มตาอ่านหนังสือเหมือนไม่สนใจอะไร

        “พี่ฮะถึงบ้านพี่ดารินแล้วฮะ”  ต้าร์พูดขึ้นแล้วบอกต่อว่า  “ไม่ต้องทำไก๋หรอกฮะพี่ต้น  ถ้าอยากรับพี่ดารินไปด้วยกันก็บอกพ่อสิฮะ  ทำเป็นเหนียมอยู่ได้  ผมไม่รังเกียจหรอกฮะ  ถ้าพี่ดารินจะมานั่งข้างๆผม”  พูดจบก็ยักคิ้วแบบกวนๆให้พี่ชาย

        “มีแต่คนเขาจะรังเกียจแกน่ะสิไอ้ต้าร์”  ต้นหันมาแยกเขี้ยวใส่น้องชายที่พูดแทงใจดำตน

        “โธ่!  พี่ต้นยอมรับมาเถอะน่า  ไม่มีใครเขาว่าพี่หรอก  จริงไหมฮะพ่อ”  ต้าร์ยังไม่เลิกล้อพี่ชาย

        “จริงมังต้าร์  ว่าแต่ดารินที่พูดถึงน่ะใครกัน”  พิเชฐถามแบบไม่เจาะจงว่าถามใคร

        “ถามพี่ต้นดีกว่าฮะ  เดี๋ยวจะหาว่าผมยุ่ง”  ต้าร์โยนให้พี่ชายตอบ

        “คือ  เธอเป็นเพื่อนของผมฮะ  จะเข้าสอบที่เดียวกัน  คณะเดียวกันด้วยฮะ…ก็คนที่ย้ายมาใหม่เมื่อเดือนที่แล้วไงฮะ  ที่มีสุนัขพันธุ์บูล  เทอร์เรีย  ตัวผู้ชื่อดุ๊ยดุ่ยที่ผมเล่าให้พ่อฟังไงฮะ”  ต้นเสริมเมื่อเห็นผู้เป็นพ่อทำหน้างงๆ

        “อ๋อ!  จำได้แล้ว  จะรับเขาไปด้วยไหมล่ะ”  พิเชฐพูดแล้วขับรถไปจอดหน้าบ้านของดาริน

        “ดีฮะพ่อ”  ต้นกับต้าร์พูดพร้อมกันอีกแล้ว

        ต้นรีบเปิดประตูลงไปยืนหน้าบ้านของดาริน  ขณะที่กำลังกดออดนั้นประตูก็เปิดออก  มีชายคนหนึ่งเดินออกมา  ต้นยกมือไหว้แล้วถามว่า  “ขอโทษครับ  ผมจะมารับคุณดาไปสมัครสอบครับ”  ต้นชี้ไปในบ้าน

        ชายคนนั้นมองต้นอย่างไม่ไว้ใจ  แต่ยังถามด้วยเสียงเรียบๆว่า  “คุณเป็นใครถึงมาถามหาแฟนผม”

        “แฟนคุณเหรอครับ”  ต้นถามเสียงดังจนเกือบจะเป็นตะโกน

        “ใช่มีอะไร”

        “พี่  ใครมาหาเหรอคะ”  เสียงดารินถามออกมาจากในบ้าน

        “ใครก็ไม่รู้  ดามาดูเองแล้วกัน  เขาบอกว่ามารับดาไปสมัครสอบ”

        “อ๋อ!  คุณต้นนั่นเอง  ดานัดเขาไว้เองค่ะพี่เอก”  ดารินเดินออกมาพร้อมดุ๊ยดุ่ย

        “งั้นเหรอ  เข้าใจแล้ว  เขามารับดาหรอกหรือพี่นึกว่า…งั้นดาไปกับเขาก็ได้”  ชายที่ชื่อเอกตะโกนบอกดารินก่อนที่เธอจะเดินไปที่รถ

        “สวัสดีค่ะ”  ดารินกล่าวสวัสดีพิเชฐ  “ขอบพระคุณมากนะคะที่กรุณา  หวังว่าคงไม่รบเกินไปนะคะ”

        “ไม่เป็นไรหรอกหนู  รีบขึ้นรถเถอะเดี๋ยวจะสายนะ”  พิเชฐพูดอย่างใจดี

        “ขอบคุณค่ะ”  ดารินกล่าวขอบคุณอีกครั้งแล้วเดินไปขึ้นรถด้านหลัง  “สวัสดีจ้ะ  ต้าร์ใช่ไหมจ๊ะ  ต้นเคยพูดถึงด้วย”

        “ใช่ฮะ  ขอบคุณมากนะฮะพี่ต้นที่ยังไม่ลืมผม”  ต้าร์พูดแล้วหลิ่วตาให้พี่ชาย  แต่ต้นกลับทำเฉยไม่ตอบโต้อย่างเคย  ต้าร์ไม่ได้เฉลียวใจจึงถามต่อว่า  “พี่ดารินฮะ  ผู้ชายคนนั้นเป็นใครเหรอฮะ”

        “เอ่อ…เขาเป็น…”  ดารินอึกอัก  เพราะไม่รู้จะบอกว่าอะไรดี

        “เขาจะเป็นใครก็ช่างเถอะต้าร์  ไปสนใจทำไมกัน  เรื่องส่วนตัวของเขาเราอย่าไปยุ่งเลย  เดี๋ยวจะโดนหาว่าชอบยุ่งเรื่องของคนอื่น”  ต้นพูดแบบประชดกลายๆโดยไม่หันหลังมา

        ดารินมองต้นงงๆเหมือนไม่รู้เรื่อง  ส่วนต้าร์ยังไม่รู้สึกถึงความผิดปกติจึงพูดต่อไปว่า  “อย่าไปสนใจพี่ต้นเขาเลยฮะ  เขาก็อย่างนี้แหละ  เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย  ว่าแต่เขาเป็นใครเหรอฮะ”

        “ต้าร์พี่บอกแล้วไงว่าอย่าไปยุ่งเรื่องของเขา”  ต้นพูดเสียงดังขึ้นอีกพยายามไม่ให้ต้าร์ถามดาริน  แต่ในใจของเขาทั้งอยากรู้ว่าเธอจะตอบว่าอย่างไรและไม่อยากรู้คำตอบ  เพราะกลัวจะเป็นจริงอย่างที่ชายคนนั้นพูด

        “เอ๊!  พี่ต้นนี่  พี่เป็นอะไรไปตอนแรกยังดีๆอยู่เลย  พอตอนกลับทำท่าเหมือนกินยาพิษมาอย่างนั้นแหละ”  ต้าร์ยังไม่เข้าใจว่าพี่ชายของตนเป็นอะไรไป

        “ใช่  ตอนนี้พี่กินยาพิษมาทั้งขวดเลยล่ะ  พิษจากคนใกล้ๆนี่แหละ”  ต้นตอบน้องเสียงสะบัดและทำเสียงน่าหมั่นไส้ที่คำว่า  “คนใกล้”

        ดารินมองต้นอย่างไม่พอใจนิดๆ  อะไรของเขานะ  อยู่ก็มาทำอารมณ์เสียใส่เรา  คิดว่าเก่งนักเรอะ  เชอะ!  จ้างให้ฉันก็ไม่ง้อหรอก  ฉันไม่ผิดซักหน่อย  ดารินคิดในใจอย่างฉุนๆ

        “เอาล่ะ  เอาล่ะ  เด็กๆ  นั่งกันเงียบๆดีกว่านะ  พ่อปวดหัวจะแย่อยู่แล้ว  ไม่ต้องถามหรือตอบอะไรกันทั้งนั้นแหละ  สงสัยจะลืมกันซะแล้วนะว่าพอยังอยู่ที่นี่ด้วย  เฮ้อ!”  พิเชฐพูดขัดขึ้น  เพราะเกรงว่าอาจจะมีสงครามย่อยๆเกิดขึ้นบนรถคันนี้ก็ได้

        ทั้งสี่คนจึงนั่งเงียบไปตลอดทาง  ไม่มีการพูดคุยกัน  พิเชฐขับรถพร้อมกับฟังเพลงในวิทยุ  ต้าร์นั่งคิดอะไรเรื่อยเปื่อยไปตลอด  ส่วนต้นและดารินนั้นต่างนั่งเฉยๆไม่พูดจากัน

        ต้นโกรธที่ดารินไม่ยอมบอกว่าเธอมีคนรักอยู่ก่อนแล้ว  แล้วตอนนี้เธอยังทำเหมือนกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นและไม่เข้าใจอะไรเลย  เขาเองก็อยากรู้เหมือนกันว่าเธอจะบอกความจริงแก่เขาหรือเปล่าว่าตอนนี้เขายังเป็นแค่เพื่อนบ้านของเธอเท่านั้นหรือบางทีอาจจะเป็นแค่คนรู้จักก็ได้  อย่างน้อยแค่เธอทำท่าเหมือนกับว่ารู้สึกผิดซักหน่อย  เขาก็ยังพอจะรับได้  แค่นี่เธอไม่รู้สึกอะไรเลยเหมือนกับว่าเขาไม่มีความสำคัญอะไรกับเธอเลยสักนิดเดียว

        ส่วนดารินตอนแรกเธอก็งงเหมือนกันว่าทำไมต้นถึงได้ทำท่าเย็นชากับเธอ  เธอไม่รู้ว่าอะไรเป็นสาเหตุให้ต้นแสดงอาการอย่างนี้  จากอาการงงในตอนแรกก็เปลี่ยนเป็นน้อยใจและในที่สุดก็กลายเป็นหมั่นไส้  เธอคิดเอาไว้ว่าถ้ายังพูดกันไม่รู้เรื่องอย่างนี้ก็คงไม่มีอะไรที่ต้องพูดกันอีกต่อไป

        “ต้าร์ลูกจะลงไปซื้ออุปกรณ์อะไรของลูกที่ไหนล่ะ”  พิเชฐพูดออกมาเป็นครั้งแรกหลังจากที่เงียบไปนาน

        “ลงตรงนี้ก็ได้ครับพ่อ  เดี๋ยวผมเดินต่อไปเอง  พ่อจะได้ไม่ต้องวนรถอ้อมไปไกลไงฮะ  แล้วผมจะกลับเองนะฮะ  ผมไม่เถลไถลหรอกฮะ”  ต้าร์พูดประโยคสุดท้ายแบบรู้ใจผู้เป็นพ่อ

        พิเชฐกำลังอ้าปากบอกต้าร์ว่าอย่าเถลไถลจึงจำต้องหุบปากลง  เพราะต้าร์รู้ทัน  จึงพยักหน้าแล้วจอดรถที่ข้างทาง  เมื่อต้าร์ลงจากรถเขาก็รีบขับรถออกไปทันทีเพื่อไม่ให้กีดขวางทางจราจร

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×